ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สาระดี มีเงินใช้...

    ลำดับตอนที่ #3 : เลี้ยงไก่ชน

    • อัปเดตล่าสุด 27 มิ.ย. 54


     
    การที่เราจะเลี้ยงไก่ออกชนนั้นก่อนอื่นเราต้องรู้ก่อนว่าไก่ตัวไหนที่มีความฉลาดมีความสามารถในเชิงชนมาก
    น้อยแค่ไหนชั้นเชิงดีไหม ตีเจ็บไหมตีถูกไก่ดีไหม จิตใจดีไหม ส่วนประกอบต่างๆเหล่านี้ต้องพิจารณาให้ดี
    การที่จะคัดไก่เพื่อเอาไว้เลี้ยงชน เราต้องเลือกไก่ที่มีอายุหน่อย และต้องรู้ฤดูนั้นเป็นฤดูไก่หนุ่มหรือไก่แซม ไก่ถ่าย
    ถ้ารู้ก็จะได้เตรียมไก่ไว้ให้ถูกต้องตามฤดูกาล การที่เราจะเล่นไก่หนุ่มเราควรจะหาไก่ที่มีอายุสักหน่อยคือ ให้มีอายุชน 12 เดือน
    เสียก่อนค่อยนำมาเลี้ยงออกชน การที่เราต้องรอให้ครบ 1 ปีนั้น เพื่อต้องการให้ไก่มีความแข็งแกร่งในด้านกระดูก
    ในด้านกล้ามเนื้อ และด้านจิตใจ ถ้าเรานำไก่อายุน้อยเกินไป เช่นอายุ 10-11 เดือนนำมาซ้อมหรือฝึกบ่อยๆเกินไป
    ส่วนมากจะชนได้ไม่นาน เพราะบางทีหรือบางตัวพอวางมากๆเข้าจะทำให้ไก่เกิดการท้อใจได้พาลไม่สู้ไก่เอาเฉยๆเลยก็มี
    แต่ถ้าเราเอาไก่ที่มีอายุมากหน่อย ตั้งแต่ 12 เดือนไปแล้วนำไปวางฝึกซ้อมส่วนมากจะดีกว่าไก่ที่มีอายุน้อยๆ
    เพราะไก่ที่เป็นหนุ่มเต็มตัวแล้วจะมีอาการหึงหวงตัวเมียเป็นธรรมชาติของสัตว์ และก็เกิดการแย่งชิงความเป็นใหญ่ในฝูง
    หรือในบ้านนั้นๆ เพราะฉะนั้นไก่หนุ่มที่มีอายุมากๆจึงไม่ค่อยท้อใจในเวลาซ้อมการซ้อมก็ควรหาคู่ซ้อมที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกัน
    เลี้ยงไก่เราต้องใจเย็นๆอย่าใจร้อนต้องพิจารณาให้ดี การเลี้ยงไก่ออกชนนั้นไก่หนุ่มจะไม่ค่อยยากเหมือนไก่แซม ไก่ถ่าย
    เพราะไก่หนุ่มถ้าเลี้ยงมากเกินไปจะทำให้ไก่ไม่ค่อยตีไก่ ถ้าเลี้ยงน้อยเกินไปก็จะทำให้ไก่ไม่ค่อยมีกำลัง เราต้อง
    เลี้ยงให้พอดีๆการเลี้ยงไก่ออกชนนั้นเราต้องซ้อมให้ได้หน้าคือเราต้องซ้อมจนกว่าหน้าของไก่จะไม่ฟูบวมพอแผลที่หน้าหายดี
    แล้วก็ถ่ายยาลุ ถ่ายลุภายในที่ถูกตีเมื่อเวลาซ้อม หลังจากถ่ายยาสัก 3 วันก็เริ่มลงมือเลี้ยงได้เต็มที่
    การเลี้ยงไก่แซมไก่ถ่ายต่างกับไก่หนุ่มมาก คือ เราต้องวางให้มากเข้าไว้อย่างน้อยต้อง 10-12 ยกขึ้นไป
    วางให้จนเข้าที่เหมือนเดิมให้ได้อย่าไปสงสารเพราะไก่แซมไก่ถ่ายนั้นหนังจะหนากระดูกก็จะแข็งมากไม่ต้องกลัวจะออกไก่
    แต่ถ้าวางออกไก่แสดงว่าใจไม่สู้หรือใจไม่ดี ไม่พร้อมที่จะชน บางตัวตอนอายุหนุ่มๆ ชนดี ชนชนะหลายเที่ยว
    ชนจนขนเริ่มหลุด เริ่มแซม พอหลังจากแซมสุดหมดแล้ว ไม่สู้ไก่ก็มี บางตัวตอนหนุ่มๆไม่สู้ไก่
    แต่พอแซมสุดหมดแล้วสู้ไม่เลือกหน้าก็มี

    ยาบำรุง

    การเลี้ยงไก่ออกชนนั้น จำเป็นต้องให้กินยาบำรุงกำลังตลอดระยะเวลาการเลี้ยงพร้อมจะออกชนในสนาม
    ยาบำรุงของไก่ที่ขาดไม่ได้เลยนั้น ควรเน้นยาสมุนไพรโบราณให้มากที่สุดตัวยามีดังนี้


    บอระเพ็ดผง
    หัวแห้วหมูผง
    กระเทียมครึ่งกิโล บดให้ละเอียดตากแห้งแล้วบดให้เป็นผง
    กระชาย 2 กำ ตากแดดให้แห้งบดให้เป็นผง
    พริกไทยเม็ด บดให้เป็นผง
    ยาดำ บดให้เป็นผง
    นกกระจอก 7 ตัว ย่างไฟให้สุกตากแดดให้แห้ง แล้วบดให้เป็นผง
    ปลาช่อนครึ่งกิโล ย่างไฟให้สุกตากแดดให้แห้ง แล้วบดให้เป็นผง
    ดีปรี 3 เม็ด บดให้เป็นผง

    เอาทั้ง 9 อย่างนี้มาผสมกันกับน้ำผึ้ง ปั้นเป็นลูกกลอนให้กิน กินวันละ 1 เม็ดก่อนนอนทุกวันในระหว่างเลี้ยงอยู่นั้น
    ยังมียาอีกหลายอย่าง เช่น หญ้าแพรกบดให้ป่น ตากลมพอหมาดๆนำไปผสมนมข้นหวานใส่ตู้เย็นไว้ให้กินทุกวัน
    ก่อนนอนจะทำให้ไก่มีกำลังบินที่ดีมากและก็ในคราวเดียวกันในระหว่างกำลังเลี้ยงอยู่ควรให้กินยาวิตามินไปด้วย คือ แบรน
    เนอร์โปรตีน เพราะยาตัวนี้จะมีวิตามินที่ร่างกายต้องการไม่ว่าคนหรือสัตว์จะขาดเสียไม่ได้เลย คือ วิตามินเอ วิตามินอี
    วิตามินซี วิตามินดี วิตามินทั้ง 4 ตัวนี้ถ้าขาดตัวใดตัวหนึ่งจะทำให้ร่างกายไม่สมบูรณ์ แข็งแรง เหมือนธรรมชาติ
    ระหว่างกำลังเลี้ยงอยู่ควรให้กินประมาณ 5 เม็ด ให้กินวันเว้นวัน หรือให้กินวันเว้นสองวัน และวันออกให้กินอีก 1 เม็ด
    ข้อ สำคัญอย่าให้กินมากเกินไป เพราะจะทำให้ไก่บินมากจนตีไม่ถูก เพราะไก่คึกเกินไปนั้นเอง เพราะฉะนั้นการเลี้ยงไก่
    ออกชนทุกครั้ง จึงจำเป็นต้องให้กินทุกครั้งเพื่อไม่ให้ไก่ขาดวิตามินตัวใดตัวหนึ่งและก็จะทำให้ไก่ได้มีกำลังเพิ่มขึ้นกว่าปกติ
    ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงดี ก่อนกินยาบำรุงทุกขนาดควรให้กินข้าวก่อน แล้วค่อยให้กินยาตอนเย็นก่อนนอน

    การลงกระเบื้อง

    กระเบื้องประคบไก่ ประคบเพื่อเสริมธาตุในการรักษาอาการบาดเจ็บของไก่ชน สมัยโบราณคนโบราณไม่ว่า
    จะทำกิจกรรม หรือวิธีกรรมใดๆ จะขาดธาตุหลักทั้ง 4 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟไม่ได้ ดูจากคาถาโบราณ ยังมีคาถาปลุกธาตุ 4
    คือ นะ มะ พะ ทะ การเลี้ยงไก่ชนซึ่งมีควบคู่กับคนไทยโบราณมานาน ก็ย่อมต้องอิงธาตุ 4 ด้วยเช่นกัน สิ่งมีชีวิตทุกชนิด
    ประกอบด้วยดินน้ำลมไฟ เมื่อขาดธาตุใดธาตุหนึ่ง หรือเกิดความไม่สมดุลย์ของธาตุใดธาตุหนึ่ง
    ร่างกายของสิ่งมีชีวิตนั้นก็จะเกิดเจ็บป่วยขึ้นดังนั้นจึงต้องมีการเสริมธาตุที่ขาดไปให้สมบูรณ์ดัง
    เดิม ก็จะหายจากการเจ็บป่วยไดการกราดน้ำไก่ชน คือการเสริมธาตุน้ำ ธาตุลมมาจากอากาศรอบๆตัว
    ธาตุไฟที่ติดไวและมารวมเป็นความร้อนอยู่บนกระเบื้องซึ่งเป็นธาตุดิน เมื่อพูดว่าเลี้ยงทำตัวกราดน้ำ ติดกระเบื้องก็จะ้
    มองเห็นภาพการรวมธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ มาสู่ตัวไก่โดยใช้ผ้าชุบน้ำมาเช็ดบนแผ่นกระเบื้องที่มีความร้อนแล้วนำมาประคบตัวไก่
    ในปัจจุบันนี้มีการเปลี่ยนแปลงจาก เตาถ่านและกระเบื้องดินเผาที่ต้องรอกว่าจะร้อนมาเป็นเตารีดที่เพียงเสียบปลั๊กปุ๊บก็ร้อนปั๊บ
    ใช้งานได้ทันที เหมาะแก่การเลี้ยงไก่ชนในสมัยนี้ ซึ่งดัดแปลงจากเตารีดธรรมดาที่ใช้ตามบ้าน
    โดยแกะด้านที่จับออก หงายเตารีดและขัน น๊อตยึดกับแผ่นไม้ เพื่อความมั่นคงและสะดวกในการใช้งาน

    การลงขมิ้น

    ในการเลี้ยงไก่ชนขมิ้นถือว่ามีคุณค่าและจำเป็นอย่างยิ่งมือน้ำจะใช้ขมิ้นผสมกับปูนกินหมากให้ข้น
    แล้วนำมาทาตามเนื้อตัวไก่เพื่อรักษาบาดแผลในการต่อสู้ และเพื่อทำให้ผิวพรรณของไก่ดีและยังช่วยไล่
    ไรและแมลงต่างๆที่จะมาสร้างความลำคาญให้แก่ไก่ การลงขมิ้นที่ถูกต้องก็มีเทคนิคและวิธีการที่ค่อน
    ข้างจะซับซ้อนอยู่ไม่น้อยหากผู้เลี้ยงทำไม่ถูกต้อง แทนที่การลงขมิ้นจะได้ประโยชน์
    อาจกลับกลายเป็นโทษต่อไก่ไปโดยไม่รู้ตัว

    การกราดแดด

    ถือเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่จะต้องทำควบคู่กับการกราดน้ำการกราดแดดจะช่วยควบคุมน้ำหนักได้ดี
    ทำให้ไก่คุ้นเคยกับความร้อนความเหนื่อยทำให้กระดูกมีความแข็งแรง ดังนั้นการ
    กราดแดดจึงถือ เป็นหัวใจสำคัญสำหรับไก่ทุกตัวที่จะต้องกราดแดดให้ถึงและปล้ำให้แข็งพอที่จะรับมือคู่ต่อสู้ได้
    การกราดแดดทำได้โดยนำไก่ที่ผ่านการกราดน้ำแล้วครอบสุ่มไว้กลางแจ้งที่มีแดดส่องถึง ส่วน ระยะเวลาขึ้นอยู่กับสภาพ
    ของแสงแดดเป็นสำคัญ ต้องคอยสังเกตดูอาการของไก่ว่ามีอาการเป็น อย่างไร หากพบว่าไก่เริ่มหอบ
    อ้าปาก หรือปีกยกก็ให้นำเข้าร่มได้ ในไก่แต่ละตัวระยะเวลาจะมี ความแตกต่างกันเช่น ไก่หนุ่มไม่ควรให้หอบมากเกินไป
    เพราะจะมีผลทำให้เสียไก่ได้ง่าย เพราะ ร่างกายยังไม่เคยชินให้ทำการกราดแดดแค่ขน
    แห้งก็พอส่วนในไก่ที่เจนสนามแล้วจะต้องกราด นานๆ เนื่องจากไก่พวกนี้มีความแข็งแรงทนทานกว่า
    การกราดแดดจำเป็นจะต้องทำอย่าง ต่อเนื่องจนกระทั่งก่อนถึงวันลงสังเวียนประมาณ 3 วันจึงหยุดเพื่อให้ไก่ได้พักผ่อน
    อย่างเต็มที่ สำหรับไก่ชนที่ผ่านการชนมาแล้ว จะต้องนำมารักษาแผล ใส่ยา เย็บแผลแตก ให้ยาแก้อักเสบ
    แล้วปล่อยให้ไก่ได้พักสักระยะหนึ่งก่อนจะนำมาถ่ายยาเพื่อขับเอาความช้ำและรอยเลือดตกค้าง
    ต่างๆออกมา หลังจากนั้นปล่อยให้เป็นอิสระ เพื่อให้ไก่ได้คลุกฝุ่นให้ผิวหนังตึงเมื่อเห็นว่าแข็งแรง
    ปกติดีหมดแล้ว จึงนำกลับมาทำการบำรุงถ่ายยากราดน้ำกราดแดด แล้วปล้ำกันใหม่เพื่อเตรียมตัวสำหรับลงสนามครั้งต่อไป
    ก่อนที่จะออกสังเวียนครั้งต่อไปจะต้องมีการถอนแข้ง หรือฉะกันเสียใหม่จำนวนมากน้อยแล้วแต่ความเหมาะสม
    โดยดูจากความบอบช้ำของตัวไก่ที่ เกิดขึ้นจากการตีครั้งก่อนหากผ่านการตีมาหลายครั้งและบอบช้ำมากอาจจะต้องพักนาน
    และ เริ่มต้นปล้ำใหม่เพื่อให้ร่างกายเข้าที่และสมบูรณ์จริงๆ แต่หากนำออกตีในขณะที่ร่างกายไม่สมบูรณ์ดี
    แบบที่เรียกว่า เน่าใน หรือในขาด ไก่จะตีได้ไม่ดี โอกาสที่จะแพ้มีมากหรืออาจจะเสีย ไก่ได้ง่ายในกรณีที่ชนะในอัน
    สองอันไม่ช้ำมาก สามารถที่จะฉะเพียงอันสองอันก็นำออกสังเวียน ใหม่ได้เลย ส่วนในตัวที่ดื้อสังเวียนมานาน
    จากการถ่ายขนหรือพักรักษาตัวจะต้องปล้ำให้หนัก เหมือนไก่หนุ่มเลยทีเดียวหลังจากนั้นดูแลรักษาสุขภาพ
    ให้ดีจัดให้ไก่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่และอยู่อย่างสบายทั้งกายและใจ ซึ่งศัตรูทางใจของไก่ชนที่สำคัญก็คือ ไก่ตัวเมียและไก่
    คู่ต่อสู้ ดังนั้นไก่ที่จะออกสนามจะต้องนำออกให้ห่างสิ่งเหล่านี้มากที่่สุด สำหรับอายุการใช้งานของไก่ในการออกชน
    ไม่ควรให้เกิน 2ปีครึ่งหรือ 3 ปี เพราะไก่ที่อายุ มากกว่านี้ร่างกายเรี่ยวแรงจะถดถอย ถึงแม้ว่าจะมีลีลาฝีมือมากก็ตาม
    แต่กำลังจะสู้ไก่หนุ่มๆไม่ไหวไก่ระดับนี้ควรนำมาทำพ่อพันธุ์ดีกว่า เพื่อให้การขยายหรือคงลักษณะไก่ที่ดีๆให้คงอยู่ต่อไป

    การวิ่งสุ่ม

    การวิ่งสุ่มนั้นเป็นวิธีการที่ทำให้ไก่มีกำลังขามาก การวิ่งสุ่มที่จะทำให้ไก่มีกำลังมากๆจริง ให้คน ล่อไก่นำไก่ล่อไปนั่งในสุ่มใหญ่ๆ กว้างประมาณ 1.80 ซ.มสูงประมาณ 1.50 ซ.มนำไปล่อไก่ที่เรา จะเลี้ยง ให้มันโมโหเสียก่อนแล้วไก่จะวิ่งดี พอเข้าไปนั่งในสุ่มพร้อมกับไก่ล่อแล้ว ให้ยกไก่ล่อวน ข้างในสุ่มเพื่อเป็นการล่อไก่ตัวนอกให้วิ่งไปข้างซ้าย-ขวา ข้างละ 20 รอบ วันแรกอาจจะวิ่งได้ ประมาณ 50-60 รอบ แต่ว่าวันต่อมาให้วิ่งวันละ 100 รอบ วิ่งทุกวัน วิ่งจนกว่านับรวมกันแล้วให้ได้ 1,500 รอบ แล้วจากนั้นวิ่งประจำวัน วันละ 100 รอบ วิ่งเสร็จให้เอาขนไก่แหย่คอ แล้วก็เริ่มล่อต่อ การล่อต่อจากการวิ่งสุ่ม คือ ล่อให้ไก่ย้ายจับไก่ล่อคุมปากเสียแล้วล่อวนไปทางซ้าย 10 รอบ ทางขวา 10 รอบ การล่อวนซ้าย-ขวานี้ใหม่ๆไก่จะล้ม วนได้สัก

    2-3 รอบจะล้ม ให้ล่อจนกว่าไก่จะ ไม่ล้มเป็นใช้ได้ ถ้าวนซ้าย 10 รอบ ขวา 10 รอบยังล้มอยู่ยังใช้ไม่ได้ล่อให้มันกระโดดบ้างก็ได้ ให้กระโดดสัก 30 ครั้งก็พอ พื้นรองให้ไก่กระโดดต้องใช้พรมรองพื้น หรือบริเวณที่ดินอ่อนๆ มิเช่นนั้น อุ้งเท้าไก่จะเจ็บหรือบวมได้ อาจจะกลายเป็นหน่อก็ได้ การล่อไก่ก็เหมือนกันควรล่อบน พรม หรือพื้นดินที่นุ่มๆ เวลาไก่วิ่ง หรือไก่ย้ายตีนและนิ้วจะได้ไม่พอง

    ข้อสำคัญ ในสังเวียนไก่ตามบ่อนต่างๆ นิยมใช้พรมปูพื้น การเลี้ยง การล่อไก่จึงต้องปูพื้นพรม เหมือนในบ่อน จะทำให้ไก่เคยชินกับพื้น ถ้าเลี้ยงหรือล่อตามพื้นดิน พอไปชนในสังเวียนที่มีพื้น พรมไก่ก็จะตีไม่เหมือนเดิม จะลื่น จะล้มไปเลย

    การล่อไก่

    วิธีการอีกอย่างหนึ่งซึ่งเป็นวิธีใช้เพื่อเสริมสร้างพละกำลังของไก่ที่ใช้กันมานานและได้ผลดีมากคือ การล่อไก่ ด้วยสาเหตุที่ว่าเพื่อให้ไก่ได้ออกกำลังและเสริมสร้างความแข็งแกร่งของไก่ให้ พร้อมเพื่อจะนำไปชน การล่อไก่จะล่อเหมือนกันทุกตัวไม่ได้เพราะพื้นฐานของร่างกายไก่ไม่เท่ากันและในการล่อก็ต้องมี

    การวางแผนกำหนดการล่อด้วย หากไม่มีความรู้ ความเข้าใจในการ ล่อไก่ เมื่อถึงวันที่นำไก่ไปชนไก่ที่เลี้ยงอาจจะไม่แข็งแรงพออย่างที่หวังไว้ซึ่งหากว่าล่อหนัก เกินไปกลัวว่าไก่จะแรงไม่ดี เมื่อถึงวันชนไก่ที่เลี้ยงอาจบินล้ม ตีลังกา แข้งขาอ่อนไปเลย เพราะการที่ล่อหนักเกินไปอาจทำให้กล้ามเนื้อของไก่ฉีกขาดหรืออักเสบได้ แต่ถ้าล่อไก่น้อยเกินไปกลัวไก่เหนื่อย หากถึงวันชนจะไม่มีแรง อาจจะแรงดีในช่วงแรกเพียง 1-2 ยกเท่านั้น พอเบียดกันเลย 3 อันก็หมดแรง หรือบางตัวอาจบินไม่โปร่งเพราะอ้วนเนื่องจากออกกำลังน้อยเกินไปทำให้ไขมันเยอะ วึ่งรายละเอียด ความพอดีและวิธีการล่อไก่นั้นสำคัญมาก

    ลงนวมไก่

    การเลี้ยงไก่ชนเป็นศาสตร์ที่ต้องใช้ความละเอียดอ่อน ความชำนาญและประสบการณ์อย่างมากการให้ไก่ได้ออกกำลังอย่างเช่น วิ่งสุ่ม ล่อ เป็นขั้นตอนหนึ่งที่จะทำให้ไก่แข็งแรง พละกำลังดีและอีกวิธีหนึ่งก็คือ การลงนวมไก่ เป็นวิธีการซึ่งใช้ในการสร้างเสริมกำลังวังชาและความแข็งแกร่งของไก่โดยตรง ซึ่งสามารถทำได้ตั้งแต่เริ่มนำไก่มาเลี้ยงใหม่จนถึงเลี้ยงออกชน การลงนวมไก่แยกย่อยออกเป็นรายละเอียดและเคล็ดลับต่างๆได้ดังนี้
    การหาไก่คู่นวม ไก่ที่นำมาเป็นคู่ลงนวมไก่นั้นควรเป็นไก่ที่อายุใกล้เคียงกัน หากว่าไก่ที่เลี้ยงเป็นไก่หนุ่มแล้วนำไก่ที่มีอายุดีมาทำการลงนวม ไก่ที่เลี้ยงอาจโดนตีระบมภายในได้ แต่ถ้าไก่เลี้ยงเป็นไก่ที่มีอายุดีแล้ว สามารถนำไก่ที่มีอายุดีเช่นกันมาลงนวมได้ ไก่ที่นำมาใช้เป็นคู่นวมนั้นต้องมีน้ำหนัก รูปร่างใกล้เคียงกัน อย่าให้ได้เปรียบเสียเปรียบกันมาก และที่สำคัญไม่ควรนำไก่เชิงมาเป็นคู่นวม เพราะหากไก่เลี้ยงเชิงไม่ดีจะทำให้เสียเชิงได้ เมื่อได้คู่นวมที่ต้องการแล้วควรตัดเดือยออกให้ราบติดแข้ง เพื่อป้องกันไก่เลี้ยงโดนสาดอาจทำให้เจ็บระบมภายในได้

    อุปกรณ์ที่ใช้ในการลงนวม
    นวมพันแข้ง
    พลาสเตอร์
    นวมปาก

    วิธีเตรียมไก่ก่อนลงนวม นำไก่คู่นวมที่เตรียมไว้มาพันแข้งให้เรียบร้อย ควรพันพลาสเตอร์ที่เล็บของไก่คู่นวมด้วยทุกนิ้ว เช็ดน้ำธรรมดาให้ทั่วตัวป้อนน้ำให้กิน นำนวมปากสวมคลุมทั้งปากบนและปากล่าง แล้วนำไก่ที่เลี้ยงมาพันนวมให้เรียบร้อยด้วย หากว่าไก่ที่เลี้ยงตอเดือยเล็กควรคาดเดือยกันเดือยโค่นก่อนทำการพันแข้ง ควรพันพลาสเตอร์รองก้อยด้วยเพื่อป้องกันก้อยถลอกหรือหัก เช็ดน้ำไก่ให้ทั่วด้วยน้ำสะอาด ยอนคอแล้วป้อนน้ำให้กิน นำนวมปากมาสวมทั้งปากบนและปากล่าง แล้วจึงทำการลงนวมได้

    เทคนิคและวิธีการลงนวมก่อนปล้ำในการลงนวมไก่นั้นสามารถลงนวมได้ตั้งแต่เริ่มนำไก่มาเลี้ยงไปจนถึงการลงนวมไก่ออกชน ซึ่งถ้าทำอย่างถูกต้องและถูกวิธีจะทำให้ไก่แข็งแรง พละกำลังดีและแข็งแกร่ง นอกเสียจากไก่บางประเ3ทอย่างไก่พม่าที่ไม่นิยมลงนวม ในการลงนวมนั้นจะต้องมีการวางกำหนดการในการลงนวมเสียก่อน เพื่อเป็นการกำหนดวันที่จะลงนวมว่าจะลงนวมทั้งหมดกี่ครั้งและพักไก่กี่วัน ในช่วงเวลาที่เลี้ยงไก่ก่อนนำไปปล้ำ ตัวอย่าง เช่น ไก่ที่เราเลี้ยงปล้ำในวันอาทิตย์มา 2 อัน แล้วอีกสองสัปดาห์ถัดไปในวันอาทิตย์ จะทำการปล้ำอีกครั้ง แสดงว่าเรามีเวลาในการเลี้ยงทั้งหมด 13 วัน ผู้เลี้ยงต้องทำการวางกำหนดการภายใน 13 วันว่าจะพักไก่กี่วัน ลงนวมกี่วัน แล้วพักไก่ก่อนนำไปปล้ำกี่วัน ในการพักไก่หลังจากการปล้ำนั้น ควรพักไก่อย่างน้อย 5-6 วัน เพื่อให้บาดแผลตกสะเก็ดและร่วงเสียก่อน ให้สังเกตว่าบาดแผลไก่เริ่มบางใกล้หายจึงเริ่มลงนวม และในการพักไก่หลังจากที่ลงนวมมาไม่ว่าจะลงนวมไปกี่ครั้ง ก็ควรจะมีการพักไก่เสียก่อนจะนำไปปล้ำ

    ควรจะพักอย่างน้อย 2 วัน เพื่อเป็นการคลายความเมื่อยล้า คลายเนื้อคลายตัว ตัวอย่างการวางกำหนดการลงนวมไก่ก่อนปล้ำในกำหนดเวลาเลี้ยง 13 วันก่อนนำไปปล้ำ
    วันที่ 1 - 2 ปล่อยให้ไก่พัก เช็ดน้ำและประคบกระเบื้องหรือนวดยา ไม่ต้องให้ไก่วิ่งสุ่ม ปล่อย
    ให้ไก่อยู่ในตาข่ายกว้างๆก็พอ
    วันที่ 3 - 6 ปล่อยให้ไก่พัก เช็ดน้ำและประคบกระเบื้อง ให้ไก่วิ่งสุ่มในช่วงเช้าและบ่าย
    วันที่ 7 ลงนวมช่วงเช้าตรู่ อันเดียว 25 นาที เช็ดน้ำหรือประคบกระเบื้องนวดยาตามปกติ
    วิ่งสุ่มช่วงบ่ายก่อนเช็ดน้ำอีกครั้ง
    วันที่ 8 ให้วิ่งสุ่มในช่วงเช้าก่อนเช็ดน้ำ และประคบกระเบื้องนวดยาตามปกติ วิ่งสุ่มในช่วงบ่าย
    ก่อนเช็ดน้ำอีกครั้ง
    วันที่ 9 ทำเช่นเดียวกับวันที่ 7
    วันที่ 10 ทำเช่นเดียวกับวันที่ 8

    วันที่ 11 ลงนวมช่วงเช้าตรู่ อันเดียว 30 นาที เช็ดน้ำและประคบกระเบื้องนวดยาตามปกติ
    วิ่งสุ่มช่วงบ่ายก่อนเช็ดน้ำอีกครั้ง
    วันที่ 12 - 13 พักไก่ ไม่ต้องวิ่งสุ่ม เช็ดน้ำธรรมดา ไม่ต้องประคบกระเบื้อง ปล่อยให้ไก่เดิน

    ที่กว้างๆ เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
    ทุกครั้งก่อนที่จะทำการลงนวมต้องเตรียมตัวไก่ตามที่กล่าวไว้ข้างต้นเสียก่อน และควรทำการลงนวมในช่วงเช้าตรู่ของวันที่จะทำการลงนวม

    การโดดหลุม
    การโดดหลุม การบินหรือการโดดบ่อก็คือการให้ไก่ได้มีกำลังขามากๆ กำลังปีกมากๆ แต่ความแข็งจะไม่ค่อยมีมากเท่าไหร่ การบินหลุมนี้ส่วนมากจะผ่านการวิ่งมาก่อน ผ่านการเลี้ยง เอากำลังมาก่อนทั้งนั้น การบินหลุมเป็นส่วนประกอบในการเลี้ยงไก่เหมือนกัน ไม่ใช่วิธีการเลี้ยงแบบหลักๆที่สำคัญ ถ้าบินหลุมอย่างเดียวไม่ให้ไก่ออกกำลังขาวิ่งบ้างความแข็งก็จะไม่มากพอ ต้องวิ่งสุ่มเสียก่อนแล้วค่อยบินหลุม ต่อไปก็ทำการล่อความแข็งก็จะแข็งมาก
    หลุมที่ใช้บินในอดีตจะใช้เป็นหลุมดินที่ขุดลึก 1 - 1.5 เมตร กว้าง 1 เมตร ส่วนพื้นจะใช้วัสดุที่นุ่มๆรอง เช่นฟางข้าว สำหรับจำนวนครั้งที่ให้ไก่กระโดด ถ้าเป็นไก่หนุ่มโดดใหม่ๆก็ควรให้โดดสัก 10 ครั้งก่อนแต่ต้องสังเกตด้วยว่าไก่หอบหรือไม่ ถ้าไก่หอบมากก็ควรให้หยุดก่อนแล้วค่อยเพิ่มจำนวนให้มากขึ้นในต่อไป ปัจจุบันหลุมโดดไก่มีการใช้ถังส้วมแทนการขุดหลุม และใช้กระสอบหรือฟองน้ำรอง เพื่อลดแรงกระแทก
    การว่ายน้ำ
    การว่ายน้ำนั้นก็เพื่อต้องการให้ไก่ได้กำลังปีก กำลังอกทำให้กล้ามบริเวณหน้าอกแข็งกำลังปีกจะแข็งแกร่งและได้กำลังได้ดีมาก แต่กำลังขาไม่ค่อยได้มากเท่าที่ควร เพราะขาทำหน้าที่ว่ายน้ำเบาๆไม่ได้ ไม่ได้รับน้ำหนักอะไรมากนัก การว่ายน้ำไก่ส่วนมากจะว่ายกันในช่วงบ่ายหลังจากที่มีการออกกำลังไก่ไปแล้ว สถานที่ควรเป็นสระที่มีความกว้าง 2 - 3 เมตร มีน้ำไม่เต็มนัก การว่ายน้ำถ้าไก่ยังไม่เคยควรจะประคองหัดให้ว่ายก่อน โดยใช้มือข้างหนึ่งประคองที่อก ส่วนอีกข้างให้ประคองที่หลัง แรกๆก็ให้ว่ายน้อยๆก่อน หลังจากนั้นค่อยเพิ่มเวลาขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่ว่ายน้ำเสร็จถ้ามีแดดก็ให้ไก่ตากแดดก่อนสักพักถ้าฝนตกควรใช้ไดร์เป่าผมเป่าให้ขนแห้ง

    credit by ฐานข้อมูลไก่ชน

    อ่านเพิ่มเติม เข้า www.google.com พิม เลี้ยงไก่ชน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×