ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    GOT7 :: SING ALONG WITH JackMark ! *JARK*

    ลำดับตอนที่ #1 : - Love U Like U -

    • อัปเดตล่าสุด 16 พ.ค. 57


    SQWEEZ

































    (love U like U - L.kim & Yerim )



    Love U Like U
     

     

    Note : 1.ฟังเพลงด้วยนะตัวเอง ><
           2.เราเคยลงเป็นเวอร์ชั่นเจเร็นในบ้านนิวอีสเมื่อนานมาแล้ว

           3.ติดแท๊ค #ฟิคเลิฟมาร์ค ให้เค้าด้วยน้า :]








     



     

    I love you 너를 사랑해                        
    I love you นอรึล ซารางแฮ 

    I love you ฉันรักเธอ

    차마 하지못한
    ชามา ฮาจีมจฮันมัล

    คำที่เอ่ยออกมาไม่ได้

    떨리는 가슴이 맘이
    ตอลรีนึน คาซึมมี เนมามี

    หัวใจฉันที่สั่นไหว

    숨겨왔던 그런말
    นึล ซุมคยอวัทตอน คือรอนมัล 

    ต้องคอยซ่อนคำนั้นไว้เสมอ

     
     

     
     

     

    แจ๊คสัน !! ….”

     







     

     ร่างของคนที่นอนอยู่บนเตียงพลิกตัวไปมาก่อนจะบิดขี้เกียจสองสามที แล้วลุกพาร่างสูงสมส่วนไปยืนอยู่ตรงหน้าต่าง รอยยิ้มน้อยๆที่หาดูได้ยากผุดขึ้นมุมปากเมื่อมองลงไปเห็นเจ้าของเสียงที่ตะโกนเรียกชื่อของตัวเอง

     









     

    아침이면 눈부시게 나를 비춰주는
    อาจีมีมยอน นุนบูชีเค นารึลพี ชวอชูนึน

    ในตอนเช้า เธอผู้ส่องประกายมาที่ฉัน

     

    햇살같은 너는 나에게는 너는
    นึล แฮจชัลคัททึน นอนึน นาเอเคนึน นอนึน

    เธอเป็นเหมือนดั่งแสงอาทิตย์สำหรับฉันเสมอ

     







     

    “อาบน้ำนานจังเลยนะ ฉันหิวจะแย่แล้ว” เจ้าของเสียงที่ปลุกเขาเมื่อเช้าบ่นเบาๆเมื่อเจ้าของบ้านที่พึ่งอาบน้ำเสร็จเดินลงบันไดบ้านมา

     



     

    คนโดนบ่นได้ทำหน้านิ่งเหมือนที่ทำเป็นประจำแล้วเดินเข้าครัวไปทำอาหารเช้าง่ายๆสำหรับตัวเองและอีกคน อาหารเช้าก็ไม่ได้มีอะไรมากนอกจากขนมปังปิ้งเบคอนและไข่ดาวไม่สุกมากแบบที่เจ้าตัวชอบกิน เมื่อทำเสร็จก็ยกมาวางไว้บนโต๊ะอาหารสำหรับสองคนที่มีคนสวยนั่งรออยู่ก่อนหน้านี้แล้ว

     



     

    “เฮ้...ตื่นรึยังเนี้ย จะไม่ทักฉันซักคำเลยหรอ”

     



     

    “สวัสดี” ตอบกลับอีกคนด้วยหน้าตาที่นิ่งสนิทแต่ดูเหมือนว่าอีกคนจะชินเสียแล้วกับหน้าตาไร้ความรู้สึกแบบนี้ เพราะอีกฝ่ายก็ฉีกยิ้มหวานละลายใจกลับมาให้



     

     

    "อรุณสวัสดิ์นะ แจ๊คสัน ^^

















     

     

    อ่า....ยิ้มแบบนี้อีกแล้ว ผมหวั่นไหวนะ




     

     

    000

     

     

     

    I like you 너를 좋아해
    I like you นอรึลโชอาแฮ 

    I like you ฉันชอบเธอ

     

    멋진 나무처럼
    มอชจินคึน นามูชอรอม

    เธอเป็นเหมือนดั่งต้นไม้ต้นใหญ่

     


    언제나 편안히 내곁에
    ออนเจนา พยอนันฮี เนคยอทเท

    อยู่เคียงข้างไม่ว่าเมื่อไหร่อย่างมั่นคง

     


    지켜주는 그런
    นัล ชีคยอจูนึน คือรอน นัล

    เธอผู้คอยปกป้องฉันเสมอ

     

     




     

           เหมือนเป็นกิจวัตประจำวันไปซะแล้วที่มาร์คต้วนจะต้องมาปลุกแจ๊คสันหวังที่บ้านเพื่อให้อีกฝ่ายทำอาหารเช้าให้กินและไปโรงเรียนพร้อมกัน เพราะพ่อแม่ของทั้งคู่มักจะต้องไปทำงานที่ต่างจังหวัดอยู่เสมอ ด้วยความที่บ้านอยู่ใกล้กัน แถมยังเรียนโรงเรียนเดียวกันมาตั้งแต่เด็กๆเลยทำให้ทั้งสองคนไปโรงเรียนและกลับบ้านด้วยกันแทบทุกวัน

     





     

            วันนี้ก็คล้ายกับทุกๆวันรถเมล์ที่แน่นขนัดไปด้วยคนทำงานและเด็กนักเรียนมากมาย ถึงแม้ว่าบ้านจะอยู่ห่างจากโรงเรียนแค่ป้ายรถเมล์เดียวแต่เนื่องจากออกจากบ้านสาย ก็คงจะต้องพึ่งบริการรถสาธารณะเพราะถ้าเดินไปคงสายแน่ๆ

     




     

                   “เอากระเป๋าฉันมาเถอะ ฉันถือเองได้น่า”

     




     

         ถึงมาร์คจะพูดแบบนั้นแต่แจ๊คสันก็ยังแย่งมันไปถืออยู่ดี มาร์คได้แต่ทำหน้าบึ้งใส่อย่างขัดใจ แต่ก็ไม่เคยทำอะไรได้ซักที พวกเขาทะเลาะกันเรื่องกระเป๋าทุกเช้าอย่างไม่รู้จักเบื่อ

     




     

                      “มีคนถือให้ไม่ดีตรงไหน ?”

     




     

                     “มันก็ดีแต่ว่า.. ฉันก็เอาเปรียบแจ๊คสันน่ะสิ มันไม่ดีตรงนี้แหละ”





     

     

         พูดจบมาร์คก็ทำหน้าตาสลดเบาๆจนแจ๊คสันอดยิ้มออกมาไม่ได้ด้วยความเอ็นดู

     





     

          แต่เขาก็ไม่ใจอ่อนหรอกนะ J

     






     

    สรุปแล้วแจ๊คสันก็ได้เป็นคนหิ้วกระเป๋านักเรียนทั้งของตัวเองและของอีกคนเหมือนทุกวัน ทั้งๆที่มันไม่ใช่หน้าที่และมาร์คเองก็เป็นผู้ชายเหมือนกันแต่เขาก็ยังอยากจะทำอยู่ดี






     

     

     ก็แค่....อยากดูแล

     




     

     

            เพราะการจราจรที่วุ่นวายทำให้รถเมล์ต้องเบรกอยู่บ่อยๆ แถมรถยังแน่นมากๆจนแทบไม่มีที่เกาะ ส่งผลให้คนที่ผอมบางอย่างมาร์คเซถลาจะล้มอยู่หลายรอบแถมยังถูกผู้คนรอบข้างกระแทกจนทรงตัวแทบไม่อยู่

     





     

              “อ๊ะ ! ...”

     




     

     มาร์คที่เกือบล้มถลาอุทานออกมาเบาๆเมื่อถูกรั้งไว้ไม่ให้ล้มด้วยแขนยาวของคนที่มาด้วยกัน แจ๊คสันโอบเอวของมาร์คไว้หลวมๆและใช้ตัวของเขาเองเป็นเกราะกันไม่ให้มาร์คกระแทกกับคนอื่น จนตอนนี้ดูเหมือนว่ามาร์คถูกเขากอดจากข้างหลังอยู่กลายๆ

     



     

       ใบหน้าหวานใสร้อนและขึ้นสีแดงจางๆอย่างไม่รู้ตัว ใจดวงน้อยเต้นแรงเสียจนกลัวว่าใครอีกคนจะได้ยิน มือเล็กพยายามที่จะแกะแขนของอีกคนออก แต่แจ๊คสันก็ไม่ยอมยิ่งรั้งให้เข้ามาชิดตัวและรัดแน่นขึ้นจนมาร์คที่ตัวบางกว่าแทบจะจมอยู่กับแผ่นอกกว้างนั้น

     




     

    “ ฉันกอดอี้เอินไว้อย่างนี้หละดีแล้ว อี้เอินจะได้ไม่ต้องถูกคนอื่นชนไง”

     






     

                คนที่ถูกเรียกว่าอี้เอิน นิ่วหน้าน้อยๆเขาแพ้น้ำเสียงของแจ๊คสันเวลาที่เรียกชื่อจีนของเขาเสมอ  ไม่รู้ทำไมเหมือนกันแต่ว่าเวลาที่แจ๊คสันเรียกเขาว่าอี้เอิน เขาจะไม่สามารถปฏิเสธอะไรได้เลย

     





     

          อี้เอินเป็นชื่อจีนของมาร์คแต่ว่าก็ไม่ค่อยมีคนเรียกเท่าไหร่ แม้แต่พ่อแม่ก็เรียกเขาว่ามาร์ค ตอนแรกที่แจ๊คสันเรียกก็รู้สึกแปลกๆแต่พอนานๆไปก็เริ่มชิน 

     















     

    ก็ ..มีแต่แจ๊คสันเท่านั้นแหละที่เรียกเขาว่าอี้เอิน

     

     



     

    000

     












     

            เสียงกริ่งดังบอกเวลาเข้าเรียนที่ดังมาแต่ไกลทำให้นักเรียนทั้งหลายที่ยังลงจากรถเมล์ไม่หมดพากันแตกตื่น ต่างพากันวิ่งสุดชีวิตเพื่อเข้าโรงเรียนให้ทัน ไม่งั้นคงต้องถูกลงโทษต่างๆนาๆแล้วแต่ครูเวรผู้โหดร้ายจะมอบหมายงานประหลาดๆให้ทำ มีตั้งแต่ล้างห้องน้ำไปจนถึงตัดหญ้าที่สวนรกร้าง(?)ด้านหลังอาคารเรียน

     





     

              วิ่งเร็วมาร์ค !!

     





     

     เจ้าของเสียงทุ้มน่าฟังที่มักจะประหยัดคำพูดอยู่เสมอเอื่อมมือมากอบกุ้มมือเรียวของมาร์คแล้วลากให้วิ่งไปด้วยกัน ขายาวก้าวอย่างรวดเร็วเพื่อที่จะให้ถึงที่หมายโดยเร็ว รั้วสูงสีดำที่ส่วนยอดประดับไปด้วยตราสุดหรูของโรงเรียนเอกชนชื่อดังค่อยๆปิดเข้าหากัน ซึ่งหมายความว่าใครที่อยู่ด้านนอกรั้วจะต้องโดนลงโทษอย่างไม่มีข้อโตแย้งใดๆ








     

               

              แจ๊คสันตัดสินใจดันคนที่วิ่งตามกันอยู่ด้านหลังให้ไปอยู่ด้านหน้าของเขาแล้วผลักมาร์คให้ผ่านช่องแคบๆของประตูได้ทันเวลาพอดีก่อนที่มันจะปิดสนิท

     






     

             “..... !!!”


     

     



     

               รั้วเหล็กสีดำสนิทยิ่งดูสูงใหญ่ขึ้นไปอีกหลายเท่าเมื่อมันคั่นกลางระหว่างคนสองคน รอยยิ้มจางๆของคนที่อยู่นอกรั้วโรงเรียนถูกส่งไปให้คนอีกฝั่ง แต่สิ่งที่เขาได้รับกลับมาคือสีหน้าตื่นตระหนกและดูเหมือนกึ่งจะไม่พอใจเล็กๆของมาร์ค

     





     

             “ แจ๊คสันอา.. ทำไมทำแบบนี้หละ”





     

     

             “มาร์คจะได้ไม่โดนทำโทษไง”

            






     

             “ทำแบบนี้อีกแล้วนะ.. ทำให้ฉันเอาเปรียบนายอีกแล้ว ” :’(

     

     


     

               

     

               สุดท้ายแล้วถึงมาร์คจะไม่ถูกทำโทษแต่ว่ามาร์คก็ยังมาช่วยแจ๊คสันอยู่ดี และบทลงโทษของแจ๊คสันวันนี้ก็คือ.. ทำความสะอาดโรงยิม !!




     

     

                    ทั้งๆที่ช่วยกันทำสองคนน่าจะทำให้งานเสร็จแล้ว แต่กลับกลายเป็นว่าทั้งมาร์คและแจ๊คสันก็เอาแต่ทะเลาะกัน แจ๊คสันเองก็ไม่อยากให้มาร์คต้องมาเหนื่อยแต่มาร์คก็ไม่ยอม พยายามจะแย่งไม้ถูพื้นอันใหญ่ไปจากมือแจ๊คสันให้ได้

     




     

       “เอาไม้ถูพื้นมาเถอะน่า !!

     



     

       “ฉันโดนทำโทษ ฉันก็ต้องเป็นคนถูดิ มาร์คไปนั่งดีกว่านะ”





     

     

        “ก็เพราะฉันนั้นแหละ แจ๊คสันถึงโดนทำโทษ ช่วยๆกันทำจะได้เสร็จเร็วๆ”






     

       

          “แต่ว่า..”

     







     

        “ไม่มีแต่ !  ถ้าแจ๊คสันไม่ให้ฉันช่วยก็ไม่ต้องมาคุยกันอีกเลย !!!








     

     

            มาร์คทำแบบนี้อีกแล้วสินะ ไม้ตายไม้สุดท้ายที่ไม่ว่าใช้เมื่อไรแจ๊คสันก็ต้องยอมมาร์คทุกที เพราะมีแค่ครั้งเดียวที่มาร์คใช้คำขู่แบบนี้แล้วเขาไม่ยอม ผลสุดท้ายคือแจ๊คสันต้องตากฝนอยู่หน้าบ้านมาร์คหลายชั่วโมงกว่าคนสวยจะยอมยกโทษให้

     










     

     

     

    000

     








     

     

    가끔은 나도 모르게
    คากึมมึน นาโด โมรือเก

    ในบางครั้ง ฉันพบว่า

     


    내맘 들킬것 같아
    แนมัม ดึลกิลกอทกัททา

    หัวใจตัวเองเผยออกมาโดยไม่รู้ตัว


     

     





     

             เป็นเวลาเกือบสามทุ่มกว่าที่ทั้งสองคนจะช่วยกันถูพื้นโรงยิมเสร็จ มาร์คตอนนี้หลับไปแล้วบนแผ่นหลังกว้างของแจ๊คสัน อากาศกำลังเย็นสบายกับลมที่พัดมาเอื่อยๆ ทำให้แจ๊คสันที่กำลังแบกมาร์คอยู่ก้าวเดินอย่างไม่รีบร้อน

     





     

    ราวกับว่าเขาอยากจะเดินต่อไปอย่างนี้เรื่อยๆ

     





     

                แจ๊คสันได้แต่คิดทบทวนความสัมพันธ์ของเขาและมาร์คอยู่เงียบๆในใจ ถึงแม้ว่าจะคอยดูแลกันอยู่ตลอดจนมันเป็นเหมือนเรื่องปกติที่ต้องทำ แต่ก็รู้ดีอยู่แก่ใจว่าสิ่งที่ทำหลายๆเรื่องมันก็เกินกว่าที่คนเป็นเพื่อนจะทำให้กัน แต่ว่าก็ไม่เคยมีความสัมพันธ์ทางกายอะไรเกินเลยมากไปกว่าแค่กอดคอเหมือนเพื่อนธรรมดา

     




     

     

           บางครั้งก็ดูเหมือนมาร์คเองก็จะมีใจให้เขา แต่บางครั้งก็ดูเหมือนว่ามาร์คคิดกับเขาแค่เพื่อนกันธรรมดา ตัวเขาเองก็ยังไม่แน่ใจว่าคิดกับมาร์คยังไง ก็มีหลายครั้งที่มีคนมายุ่งกับมาร์คแล้วเขารู้สึกหงุดหงิด แต่ก็คิดว่ามันอาจจะเป็นอาการหวงเพื่อนแค่นั้น

     

     


     

              RRRrr r~~~~





     

     

       เสียงโทรศัพท์ที่ดังมาจากกระเป๋ากางเกงดังขึ้นขัดจังหวะความคิดที่เจ้าตัวลงความเห็นว่ามันฟุ้งซ่าน มือเรียวหยิบมันขึ้นมาดู ก่อนจะขมวดคิ้วจางๆ แม่ของมาร์คโทรหาเขาทำไมกัน ?

     





     

        “สวัสดีครับคุณน้า”





     

     

       “แจ๊คสัน วันนี้น้าฝากมาร์คไปนอนที่บ้านหน่อยได้มั้ย ? พอดีมีงานด่วนน่ะ น้าไม่อยากให้มาร์คอยู่บ้านคนเดียว”

     




     

    “ได้ครับ”



     

     

     

    “รบกวนด้วยนะจ๊ะ สวัสดีจ๊ะ”

     





     

    “ไม่รบกวนหรอกครับ สวัสดีครับ”

     






     

               หลังจากวางสายไปแล้วเส้นทางการเดินก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย เพราะบ้านของมาร์คต้องไปทางซ้ายแต่บ้านของแจ๊คสันไปทางขวา เลี้ยวขวาได้ไม่นานก็เดินมาถึงบ้านหลังสีขาวขนาดกระทัดรัด แจ๊คสันต้องใช้ความพยายามเล็กน้อยในการหยิบกุญแจบ้านเพราะไม่อยากจะรบกวนการนอนของมาร์ค


     

     

     

               เมื่อเปิดประตูบ้านได้แล้วแจ๊คสันก็เดินตรงขึ้นบันไดไปห้องนอนของตนทันที เขาค่อยๆบรรจงวางมาร์คลงบนเตียงอย่างทะนุทะนอม เส้นผมสีแดงสว่างที่ตกลงมาปรกใบหน้าหวานทำให้แจ๊คสันอดรำคานแทนไม่ได้ มือเรียวค่อยๆเกลี่ยเส้นผมออกไปจากใบหน้า

     




     

                   ผิวใสๆที่ทำให้เห็นเส้นเลือดฝาดจางๆ ขนตายาวเป็นแพที่ตอนนี้ปิดบังแก้วตาสีน้ำตาลสวยที่อิทธิพลกับแจ๊คสันเหลือเกิน เรียวปากได้รูปสวยสีกุหลาบที่ค่อยแต่จะส่งเสียงอ้อนๆกับคำพูดที่ทำให้เขาใจอ่อน





     

               ราวกับตกอยู่ในมนต์สะกด ใบหน้าหล่อเหลาค่อยๆโน้มลงไปช้าๆ เหมือนมีแรงดึงดูดให้ยิ่งใกล้กัน และในที่สุดริมฝีปากบางของแจ๊คสันก็ทาบทับกับเรียวปากสีสวยของมาร์คอย่างไม่รู้ตัว ความหอมหวานที่เคยเฝ้าฝันมานาน วันนี้ได้พิสูจน์แล้วว่ามันหวานกว่าที่คิดไว้มาก ความอ่อนนุ่มยิ่งทำให้หลงในรสสัมผัสที่หวานเกินห้ามใจ





     

     

                แต่ก่อนที่จะมีอะไรเกินเลยไปมากกว่านี้ เสียงเห่าหอนของหมาบ้านข้างๆก็ดังขึ้นขัดจังหวะและฉุดดึงแจ๊คสันขึ้นมาจากภวัง หัวใจเต้นแรงราวกับจะหลุดออกมาจากอก เขารีบผุดลุกขึ้นจากเตียงและเดินออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว

     






















     

            ....ทิ้งเอาไว้ก็แต่คนโดนขโมยจูบแรกที่นอนหัวใจเต้นรัวไม่แพ้กันอยู่บนเตียง...

                










     

     



     

    000







     

     

    니앞에 멋쩍은 웃음만
    นี อัพเพ มอทจอคึน มุซึมมัน

    มีเพียงรอยยิ้มเขินอายเมื่ออยู่ต่อหน้าเธอ



    그저 바보같이 웃음만
    คือชอ พาโบกัทชี อุซึมมัน

    มีเพียงรอยยิ้มราวกับคนไม่รู้เรื่องรู้ราวอยู่เพียงแค่นั้น

     

    혹시나 우리둘사이 어색해질까봐
    โฮคชีนา อูรีทุลซาอี ออเซเคชิลกาบวา

    ระหว่างเราจะยิ่งเคอะเขินกันไปกว่านี้รึเปล่า


    조심스레 너를 오늘도 너를
    โจชิมซือเร นัน นอรึล โอนึลโด นันนอรึล

    ฉันจะระวังเอาไว้ จะระวังเธอไว้ ในวันนี้ จะระวังเอาไว้

     

     

     

     

     

         ถึงเวลาจะผ่านเรื่องวันนั้นมาได้เกือบอาทิตย์กว่าแล้ว แต่ว่าคนทั้งสองที่แกล้งทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งคู่ก็ทำตัวปกติกันได้ผิดปกติสุดๆไปเลย







     

      

     มาร์คเองจากที่ปกติมักจะเล่าเรื่องต่างๆให้แจ๊คสันฟังเสมอก็กลับกลายเป็นพูดจาติดๆขัดๆมีอาการรีบพูดผิดปกติและอาการหนักจนถึงขั้นพูดไม่รู้เรื่อง ยิ่งเวลาที่แจ็คสันยืนอยู่ใกล้ๆ ภาษาเกาหลีที่มาร์คเคยมั่นใจว่าคล่องนั้นไม่ต่างกับเด็กน้อยที่พูดไม่เป็นเลย

     







     

    ใช่แล้ว.. มาร์คต้วนกำลังเขิน

     







     

    แค่คิดถึงสัมผัสนุ่มๆที่เรียวปากเมื่ออาทิตย์ก่อน ก็รู้สึกหัวใจตัวเองเต้นแรงขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ทั้งๆที่ตั้งใจจะแกล้งหลับเพื่อให้แจ๊คสันแบกเฉยๆพอถึงห้องก็จะทำงัวเงียๆตื่นมากินข้าวเนียนๆตามสไตล์ กลายเป็นว่าคืนนั้นก็ไม่กล้าออกไปสู้หน้าแจ๊คสันต้องทนนอนหิวข้าวไปทั้งคืน แถมแจ๊คสันยังไม่ได้กลับเข้ามานอนในห้องอีกตะหาก

     

     












     

     

    มาร์คต้วนรู้สึกว่ามันไม่ค่อยยุติธรรมเท่าไหร่ เพราะดูเหมือนว่าจะมีเขาที่เขินอยู่คนเดียว














    000











     

    한참을 함께한 우리 한참 지난후에
    ฮันชัมมึล ฮัมเกฮัน อูรี โต ฮันชัม ชีนันฮุเอ

    ชั่วขณะนึงที่เราได้อยู่ด้วยกัน และหลังจากชั่วขณะนึงที่ผ่านพ้น


    이렇게 편안히 함께
    อีรอคเค พยอนอันฮี ฮัมเก

    เราคงได้อยู่ด้วยกันเรื่อยไป
     






     

     

         พฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของมาร์คทำให้แจ๊คสันเริ่มสงสัยว่าในคืนนั้นมาร์คไม่ได้หลับ  รอยยิ้มและหน้าแดงๆของมาร์คทำให้เขาเผลอยิ้มตามออกมาทุกครั้ง หลังจากที่คิดทบทวนตัวเองดูหลายต่อหลายครั้ง แจ๊คสันก็เริ่มแน่ใจในความรู้สึกตัวเองมากขึ้น

     







     

                  อยากจะลองคิดเข้าข้างตัวเองดูซักครั้งว่าที่มาร์คมีท่าทางเขินๆนั้นแปลว่าว่ามาร์คเองก็แอบมีใจให้เขาอยู่บ้าง ไม่รู้เหมือนกันว่ามาร์คจะรู้สึกมั้ยว่าเขาทำตัวต่างออกไป..

     



















     

    ตอนนี้แจ๊คสันหวังกำลังจีบมาร์คต้วนอยู่นะ J  

     

     

     

     









     

     

     

    너는 내곁에 너의 곁에
    นึล นอนึน เนกยอทเท นึล นัน นอเอคยอทเท

    เธอจะอยู่ข้างฉันเสมอ ฉันจะอยู่ข้างเธอเสมอ


















    영원히 우리 함께해
    ยองวอนฮี อูรี ฮัมเกเฮ
    เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป



























     

    เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป.. <3            





     

    FIN.





    มีแท๊คด้วยนะ #ฟิคเลิฟมาร์ค <3




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×