คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Go To School
Go To School
กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง! เสียงนาฬิกาปลุกของหญิงสาวคนหนึ่งดังขึ้น แต่ไม่มีวี่แววที่เธอคนนั้นจะขยับสักนิด(ขี้เซามากๆ)
ตึก ตึก ตึก ครืด~~ ซ่า
“โอ้ย! แม่สาดน้ำใส่หนูทำไม” หญิงสาวคนหนึ่งเถียงขึ้น
“ไม่สาดน้ำแล้วแกจะตื่นหรอ(ซาดิสน่าดู)ปานนี้แล้วยังไม่รีบไปอาบน้ำอีก เดี๋ยวก็ไปโรงเรียนสายหรอก ต้องให้คนอื่นคอยมาปลุก อายุ18แล้วนะทำตัวเป็นเด็กอยู่ได้”(ขี้บ่นน่าดู) ผู้เป็นแม่บ่น
“ เชอะ แม่สาดน้ำใส่หนูแม่ก็เดือดร้อนเอง” เสียงเด็กสาวเถียง
“ เดือดร้อนยังไงของแก”
“ก็แม่ต้องเอาผ้าห่มไปตากไงละ” พูดยังไม่ทันจบหญิงสาวรีบวิ่งจะไปเข้าห้องน้ำ แต่ไม่ทัน มือของผู้เป็นแม่จับได้ที่คอเสื้อของหญิงสาว ไม่ทันที่จะเถียงอะไรตัวของหญิงสาวก็ลอยขึ้นอยู่กลางอากาศ ฟุบ! ตึง! ร่างของหญิงสาวโดนทุ่มไปกองอยู่บนเตียง
“โอ๊ย~~” หญิงสาวร้องด้วยความเจ็บปวด
“แม่อะไม่เห็นต้องทำรุนแรงเลย”
“เชอะ ไม่ต้องพูดมากรีบเอาผ้าห่มของแกไปตากที่ระเบียงแล้วไปอาบน้ำซะ โนริจังเขามารอแกตั้งนานแล้ว”
“หา! ทำไมแม่ไม่รีบบอกหนู” ตึงๆ โครม! ซ่าๆๆๆ เด็กสาวรีบทำภารกิจของตัวเอง
“รีบๆอาบเข้าละเดี๋ยวแม่จะลงไปทำแซนวิชให้กิน”
“ ค่า~~”ฉันส่งเสียงตอบรับ
(อ้อลืมแนะนำตัวไป ฉัน ฮานาดะ ซายะ เพศหญิง อายุ 18 เรียนเก่ง หน้าตาไม่คอยเท่าไรก็แค่ผู้ชายติดกันตรึม*-* แม่ฉันชื่อ ฮานาดะ ซาโยย เป็นคนที่มีแต่คนชอบเพราะความที่มีมนุษย์สัมพันธ์ดีเป็น ที่รู้จักของคนละแวกนั้นอย่างดี และฉันยังมีน้องชายอีกคนชื่อ ฮานาดะ ชิบะ เป็นเด็กที่ส่อแววน่าตาดีมาตั้งแต่เด็ก ตอนนี้เขาอายุ 12 เรียนอยู่โรงเรียนเดียวกัน เล่นกีฬาก็เก่ง เรียนก็ดี แต่นิสัยไม่ได้เรื่องชอบแกล้งคนอื่น แต่ก็เป็นคนรักเพื่อน ทุกคนคงสงสัยว่าพ่อของฉันไปไหน แม่บอกว่าพ่อกับแม่แยกทางกันตั้งแต่ฉันอายุยังน้อย แต่ฉันก็ไม่ได้ถามอะไรมากเพราะไม่อยากยุ่งเรื่องของผู้ใหญ่ ส่วนเรื่องฐานะที่บ้านของฉัน ฉันขอบอกว่าบ้านของพวกเรามีฐานะดี แม่มีโรงอาบน้ำแร่ถึง 6 แห่งในเมืองแห่งนี้ และบ้านที่ฉันอยู่ก็ยังเปิดเป็นร้านขายหนังสืออีกด้วย จบเรื่องส่วนตัวแค่นี้พอ)
ตึงๆๆ
“แม่เอาแซนวิชมา!” ควับ!
“ไอ้ลูกคนนี้หัดทำตัวให้มันเป็นแบบอย่างกับน้องบางซิ”
“ค่า~~โนริจังไปเร็ว!” ฉันรีบจูงมือเพื่อนสาวของฉันแล้วรีบวิ่งไปตามทางเดิน
“เดี๋ยวซิ ซายะ ฉันยังไม่ได้หยิบกระเป๋าเลย” โนริจังพูดขึ้น
“กำแล้วทำไมไม่รู้จักเตรียมให้พร้อม” ฉันรีบวิ่งไปหยิบกระเป๋าให้โนริจังทันที
“ป่ะ! รีบวิ่งเดี๋ยวไม่ทันโรงเรียนขึ้น”
“คิก คิก คิก~” เสียงหัวเราะของโนริดังขึ้น
“เธอนี่เซ่อจิงๆ”
“ง่า~ เซ่อยังไงหรอ” ฉันถามโนริจังทันที
“ก็เมื่อวานเย็นฉันมาหาเธอที่บ้านแต่เธอไม่อยู่ ฉันเลยบอกคุณน้าไปว่าพรุ้งนี้เช้าจะเดินไปโรงเรียนกับเธอ ตอนนั้นนะฉันสันหลังแวบเลยละ”
“ทำไมละ” ฉันถามโนริจัง
“ก็คุณน้าซาโยยทำหน้ายิ้มสยองให้ฉัน ตอนนั้นฉันนึกแล้วละว่าคุณน้าคงคิดอะไรดีๆออกและมันก็เป็นอย่างที่ฉันคิด เธอตื่นเช้ากว่าปกติตั้งเยอะรู้ไหม”
“หา~ฉันอาปากค้าง (แล้วรีบถามต่อ)โนริจังนี่กี่โมงแล้ว”
“เพิ่ง 7 โมงเองจ๊ะ” เสียงของโนริพูดออกมาพลางหัวเราะชอบใจ
“หนอย! แม่นะแม่ทำกันได้ลงคอ” ฉันบ่นพึมพำกับตัวเอง
ขณะที่ฉันกับโนริกำลังคุยกันอยู่เพลินๆพวกเราก็เดินมาถึงหน้าโรงเรียนพอดี
“ว้าว!คนเต็มเลย” ฉันพูดขึ้น
“เปิดใหม่ก็เงี้ยนักเรียนส่วนมากจะมากันแต่เช้าไม่เหมือนเธอหลอก ซายะ”
“ จ้า~” ฉันพูดพลางเดินจูงมือกับกับโนริเข้าไปในโรงเรียนทันที แต่ยังไม่ทันที่จะก้าวขาเข้าโรงเรียนร่างชายหนุ่มก็วิ่งเข้ามาชนฉันเข้าอย่างจัง โครม!
“โอ๊ย! ฉันหน้าทิ่มไปกับพื้นปู
“ไอ้บ้า! พ่อแม่ไม่สั่งสอน! แกใส่แว่นกันแดดมาโรงเรียนหรือไง ถึงไม่สนใจคนอื่นเขา หรือว่าบ้านแกไฟไหม้ถึงได้รีบอย่างนี้ ไอ้โง่!”
ร่างของชายหนุ่มหยุดนิ่งแล้วหันมามองด้วยแววตาอาฆาตและคิดในใจว่า
“หนอยใยนี่เห็นว่าเราไม่เถืองกลับเล่นด่ามาชุดใหญ่เลยนะ”
“ อย่ามาทำหน้าโหดใส่ฉันนะ”ซายะเถียง
“ เชอะ! ขอโทษ!”เสียงเด็กหนุ่มตอบกลับ
“ยังจะมาตะคอกใส่ฉันอีกนายเป็นฝ่ายผิดนะ” เด็กหนุ่มไม่สนใจอีกแล้วเขารีบวิ่งเขาไปในโรงเรียนพลางพูดออกมาว่า “หนอยยัยตัวดีระวังเถอะฉันต้องเอาคืนแน่!”
“ชิ!หน้าหมั่นไส้ ผู้ชายอะไรตัวเองเป็นฝ่ายผิดแท้ๆ ยังมาตะคอกใส่ฉันอีก ไปกันเถอะโนริ โอ๊ย! ซีด จะ..เจ็บ”
“ไหนซายะฉันขอดูหน่อย หวาเลือดออกเลย คงจะขูดกับพื้นตอนล้มเมื่อกี้สินะ ปะ! เดี๋ยวฉันจะพาไปห้องพยาบาล” โนริจังพูดด้วยความเป็นห่วง
ณ.ห้องพยาบาล
“โอ๊ยๆๆ”
“เสร็จแล้วละจ่ะ ที่หลังก็เดินให้มันดูทางหน่อยนะจ๊ะ” คุณครูประจำห้องพยาบาลพูดด้วยความเป็นห่วง”
“ค่า~~ หนอยเพราะไอ้บ้านั่นคนเดียวฉันเลยต้องเป็นแบบนี้ถ้าเจอคราวหน้าละก็ ฮึ่ม! หน้าดู”
“บ่นอะไรอยู่เหรอจ๊ะ” คุณครูประจำห้องพยาบาลถามด้วยความสงสัย
“อ๋อ! เปล่าคะไม่มีอะไรหลอกคะเสร็จแล้วใช่ไหมคะ งั้นหนูไปก่อนนะคะ ขอบคุณนะคะ” ฉันพูดพลางยิ้มแล้วเดินออกจากห้องพยาบาล
โนริจังรีบวิ่งเข้ามาถามอาการของฉัน ฉันก็ตอบไปว่าไม่มีอะไรมากหลอกแค่ถลอกนิดหน่อย(แต่จริงๆแล้วเยอะนะ) ขณะนั้นครูประจำห้องพยาบาลก็เดินออกมาพอดี
ฉันจึงเดินเข้าไปถาม “เออไม่ทราบว่าคุณครูชื่ออะไรคะ”
“ หืม? ครูชื่อ มิยะ คาโต้ จ๊ะ” เสียงครูคาโต้ตอบ
“หรอคะ ขอบคุณคะ งั้นหนูไปนะคะ”
จ้า~
“ปะ! เดี๋ยวจะเข้าห้องเรียนสาย” ฉันเดินจูงมือกับโนริจังและพูดคุยกันจนมาถึงหน้าห้องเรียน
ครืด~~
“ซายะ! หลบเร็ว!”
“ฮืม” พูดยังไม่ทันขาดคำสิ่งที่โนริจังต้องการให้ฉันหลบก็เข้ามาประทับเข้าที่แก้มของฉันอย่างจังๆ
ปึก! “โอ๊ย! ใคร!” ฉันเก็บความรู้สึกเจ็บเอาไว้ แล้วรีบถามหาตัวการ
ทุกคนในห้องเห็นฉันทำหน้าโหดใส่ก็เงียบกริบกันทุกคน” แต่ก็มีเสียงหัวเราะของคนหนึ่งดังขึ้น “ฮ่ะ ฮะ ฮะ ฮะ” หัวเราะอะไรมิทราบ ฉันถาม
“ก็ฉันแค่เอาคืนเธอที่เธอด่าฉันเมื่อเช้าก็แค่นั้น” ตอนแรกฉันยังเห็นหน้าเขายังไม่ชัด เมื่อฉันเดินเข้าไปใกล้
“เอ๋? นะ
นาย นายอีกแล้ว”
“ก็ฉันนะสิจะให้เป็นใครที่ไหนละ หืม?” เขาพูดพลางจับมือฉันทำท่าจะจูบ
“อย่าคิดมาลวนลามฉันนะ” ฉันรีบจับมือข้างขวาของเด็กผู้ชายและสกัดขาเขา(แกจงรับความเจ็บปวดที่แม่ทำให้ฉันเมื่อเช้าดูบ้าง>_<) ตึง! ฉันกระทืบเท้าดังลั่น เพื่อที่จะตั้งท่าทุ่ม
“ซายะระวัง!” โนริจังเตือนออกมาอย่างรีบร้อน
“เอ๋? โอ๊ย!” อาการของบาดแผลกำเริบขึ้นอีกโดยการกระทืบเท้าของฉันเอง ฉันรีบปล่อยมือจากเขาและมาจับแผลที่หัวเข่าแทน
“อูย แซบเป็นบ้าเลย” ฉันบ่นอุบอิบ
“หวา คราวนี้เลือดออกเยอะกว่าเดิมอีกแผลคงจะฉีก” ใครก็ได้ช่วยพาซายะไปส่งที่ห้องพยาบาลที โนริจังขอร้องด้วยความเป็นห่วงเพื่อน
พวกผู้ชายในห้องต่างอาสาที่จะไปส่งซายะที่ห้องพยาบาล แต่ก็มีเสียงหนึ่งพูดขึ้นมา
“ทุกคนไม่ต้อง เดี๋ยวฉันไปเอง” ไม่ใช่เสียงใครที่ไหนเป็นเสียงของเด็กผู้ชายที่เป็นต้นเหตุ
“ได้ยังไงนายมีสิทธิในตัวเธอคนเดียวหรือไง”เสียงผู้ชายในห้องต่างพากันเถียง
แต่มีผู้ชายอยู่กลุ่มหนึ่ง ที่ไม่ลุกขึ้นมาเถียงเลยสักเอะ และเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น
ตึง!เด็กผู้ชายในกลุ่มคนหนึ่งใช้มือทุบเข้าโต๊ะ
“ใครกล้าขวางไอ้หมอนั้น ตาย!”เป็นแค่เสียงพูดของผู้ชาย1คนในกลุ่มเท่านั้น แต่ทำให้ผู้ชายทั้งห้องนั่งเงียบกริบโดยไม่พูดไม่จาเลย
“โชจิ นายรีบพายัยนั้นไปห้องพยาบาลเถอะ เดี๋ยวก็ตายกันพอดี”
“ อืม โชจิเอี้ยมมือพยายามที่จะอุ้มฉันไว้ในอ้อมแขน” มีเสียงผู้หญิงต่างนินทากัน
“เชอะ! ยัยนั้นเป็นใครมาถึงก็ทำท่าสำออย ให้ท่าเลยนะ”
“ ใช่ๆ ระวังเถอะต้องเจอดีแน่!”
ฉันเห็นท่าไม่ดีจึงพยายามดิ้นออกจากอ้อมแขนของนายโชจิ
“ไม่ต้อง! ฉันเดินไปเองได้”
“จะทำให้เสียชื่อนินจาไม่ได้” ฉันคิดในใจ
“แน่ใจนะ” เสียงเด็กหนุ่มที่ชื่อ โชจิถาม
“แน่สิ!” ฉันตอบทันที และก็เป็นเวลาเดียวกับที่อาจารย์ประจำชั้นเข้ามา
“เอ๋? เธอ ซายะจังนิ”
“อ่าวคุณครูคาโต้ (ที่แท้ครูคาโต้ก็เป็นครูประจำฉันห้องเรานี่เอง) แล้วเธอเป็นอะไรอีกหรอ?”
ครูคาโต้ถามด้วยความเป็นห่วง
“คือว่าหนูเล่นกับเพื่อนนิดหน่อยเลยทำให้เผลมันฉีกนะคะ”
“ งั้นหรอลำบากหน่อยนะ เอางี้เดี๋ยวซายะจังเดินไปพร้อมครูเลยนะ เดี๋ยวครูช่วยพยุง”
“ขอบคุณคะ”(หิที่นี้เราก็ไม่ต้องง้ออีตาโชจิ)
“อ่าว! พวกเธออยู่กันเงียบๆละ เดี๋ยวครูมาแปปนึง” ครูคาโต้สั่ง
“ครับ/คะ” เสียงของนักเรียนทั้งห้องขานรับ
“ซายะต้องให้ฉันไปเป็นเพื่อนไหม”โนริจังถามขึ้น
“ไม่ต้องหรอกเธออยู่นี่ละ ขอบคุณนะ”
ครืด~~เสียงเลื่อนประตูขึ้นและปิดลงอีกครั้ง
“ ตอนนี้ซายะก็ไม่อยู่แล้วเท่ากับเราอยู่คนเดียวโดยที่ไม่รู้จักใครเลย เห้อ”ฉันบ่นพึมพำ
“ฉันซาโกะ ซากุระ ยินดีที่ได้รู้จัก” เด็กผู้หญิงพูดพลางส่งยิ้มให้
“ เอ๋? อืม ฉัน ไคเซน โนริ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน”
ครืด~เสียงเปิดประตูของครูคาโต้ดังขึ้น ทุกคนรีบนั่งในที่ของตนทันที
“เออทุกคนครูมีเรื่องจะมาบอก คือว่าครูให้ ซายะจังนอนพักอยู่ที่ห้องพยาบาลก่อนนะจ๊ะ”
ไม่มีเสียงตอบรับของนักเรียนคนใดเพราะคงยังไม่ได้เป็นที่รู้จักของทุกคน
ส่วนที่นั่งของฉันและซายะได้นั่งอยู่ระหว่างกลางพอดี ข้างหลังเป็นที่นั่งของ ซากุระจัง แต่ที่นั่งข้างซากุระจังหว่างเปล่า
พอจังหวะที่ครูซาโต้หันหลังไปเขียนกระดาน ผู้หญิงคนหนึ่งชื่อ ซันจิ มิกิ (ดูจากป้ายชื่อ)ก็กระซิบกับเพื่อน
“คอยดูให้ดีนะ ทำเป็นตีสนิทกับเด็กใหม่ ไม่เจียมตัวซะแล้ว”
เพื่อนของมิกิส่งหนังสือให้มิกิ 1 เล่ม ฟ้าว~ ปึก! หนังสือโดนเข้าที่หน้าของซากุระจังแบบเต็มๆ และยัยมิกิก็ไม่มีท่าทีที่จะหยุดขว้าง คนทั้งห้องเห็นเหตุการณ์นี้ แต่ก็ไม่มีใครลุกขึ้นมาห้าม
หยดน้ำเล็กๆลืมไหลออกมาจากตาทั้งสองข้าง
ครืด~~ ฉันทนต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว ฉันลุกขึ้นเพื่อที่จะไปนั่งข้างๆที่ของซากุระจัง *-* ทุกคนทั้งห้องตะลึงกับการกระทำของฉันเพราะไม่เคยมีใครกล้ายุ่งเรื่องของยัยมิกิ ด้วยความที่พ่อของยัยนี่เป็นคนมีอิทธิพลในเขตนี้
“หืม? โนริจังทำไมเปลี่ยนที่ละ” เสียงครูคาโต้ถาม
“อ๋อ คือว่าหนูเห็นซากุระจังนั่งคนเดียวกลัวเขาจะเหงา หนูเลยขอมานั่งด้วยคน”
“หรองั้นคงไม่เป็นไรนะแต่ครูให้แค่วันนี้วันเดียวนะ”
“ค่า~~” พอครูคาโต้พูดจบเธอก็หันหลังไปเขียนกระดานต่อ
“หนอย อยู่ดีไม่ว่าดีอยากหาเรื่องใส่ตัวนักใช่ไหม ได้” มิกิไม่รอช้ารีบหยิบหนังสือขึ้นมาอีก
คราวนี้เล่มใหญ่กว่าเล่มก่อนๆเยอะ
“หิ เตรียมรับให้ดีก็แล้วกันนะ” เฟี้ยว ----- หนังสือเล่มนั้นพุ่งตรงไปยังใบหน้าของโนริจังด้วยความเร็วสูง
ตุบ! มิกิยิ้มด้วยความสะใจ แต่เธอก็ต้องตาค้าง เพราะหนังสือที่เธอปาไปนั้นตอนนี้หยุดอยู่กับที่
โดยมีมือของคนๆหนึ่งจับไว้
ผมมาแก้ตามที่พี่ๆเตือนแล้วนะคับ ขอบคุณสำหรับคำเตือนนะคับ และขอให้พี่ช่วยอ่านเนื้อเรื่องแล้วติชมด้วยนะคับ “ขอบคุณคับ”
ความคิดเห็น