ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    นินจาสาวแสบซ่า

    ลำดับตอนที่ #1 : Go To School

    • อัปเดตล่าสุด 29 ส.ค. 49


      

      Go To School

     

     

    กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง! เสียงนาฬิกาปลุกของหญิงสาวคนหนึ่งดังขึ้น แต่ไม่มีวี่แววที่เธอคนนั้นจะขยับสักนิด(ขี้เซามากๆ)

     

    ตึก ตึก ตึก ครืด~~ ซ่า

     

    โอ้ย! แม่สาดน้ำใส่หนูทำไม หญิงสาวคนหนึ่งเถียงขึ้น

     

    ไม่สาดน้ำแล้วแกจะตื่นหรอ(ซาดิสน่าดู)ปานนี้แล้วยังไม่รีบไปอาบน้ำอีก เดี๋ยวก็ไปโรงเรียนสายหรอก ต้องให้คนอื่นคอยมาปลุก อายุ18แล้วนะทำตัวเป็นเด็กอยู่ได้(ขี้บ่นน่าดู) ผู้เป็นแม่บ่น

     

    เชอะ แม่สาดน้ำใส่หนูแม่ก็เดือดร้อนเอง เสียงเด็กสาวเถียง

     

    เดือดร้อนยังไงของแก

     

    ก็แม่ต้องเอาผ้าห่มไปตากไงละ พูดยังไม่ทันจบหญิงสาวรีบวิ่งจะไปเข้าห้องน้ำ แต่ไม่ทัน มือของผู้เป็นแม่จับได้ที่คอเสื้อของหญิงสาว ไม่ทันที่จะเถียงอะไรตัวของหญิงสาวก็ลอยขึ้นอยู่กลางอากาศ ฟุบ! ตึง! ร่างของหญิงสาวโดนทุ่มไปกองอยู่บนเตียง

     

    โอ๊ย~~” หญิงสาวร้องด้วยความเจ็บปวด

     

    แม่อะไม่เห็นต้องทำรุนแรงเลย

     

    เชอะ ไม่ต้องพูดมากรีบเอาผ้าห่มของแกไปตากที่ระเบียงแล้วไปอาบน้ำซะ โนริจังเขามารอแกตั้งนานแล้ว

     

    หา! ทำไมแม่ไม่รีบบอกหนู ตึงๆ โครม! ซ่าๆๆๆ  เด็กสาวรีบทำภารกิจของตัวเอง

     

    รีบๆอาบเข้าละเดี๋ยวแม่จะลงไปทำแซนวิชให้กิน

     

    ค่า~~”ฉันส่งเสียงตอบรับ

     

     (อ้อลืมแนะนำตัวไป ฉัน ฮานาดะ ซายะ เพศหญิง อายุ 18 เรียนเก่ง หน้าตาไม่คอยเท่าไรก็แค่ผู้ชายติดกันตรึม*-* แม่ฉันชื่อ ฮานาดะ ซาโยย เป็นคนที่มีแต่คนชอบเพราะความที่มีมนุษย์สัมพันธ์ดีเป็น ที่รู้จักของคนละแวกนั้นอย่างดี และฉันยังมีน้องชายอีกคนชื่อ ฮานาดะ ชิบะ เป็นเด็กที่ส่อแววน่าตาดีมาตั้งแต่เด็ก ตอนนี้เขาอายุ 12 เรียนอยู่โรงเรียนเดียวกัน เล่นกีฬาก็เก่ง เรียนก็ดี แต่นิสัยไม่ได้เรื่องชอบแกล้งคนอื่น แต่ก็เป็นคนรักเพื่อน ทุกคนคงสงสัยว่าพ่อของฉันไปไหน แม่บอกว่าพ่อกับแม่แยกทางกันตั้งแต่ฉันอายุยังน้อย แต่ฉันก็ไม่ได้ถามอะไรมากเพราะไม่อยากยุ่งเรื่องของผู้ใหญ่ ส่วนเรื่องฐานะที่บ้านของฉัน ฉันขอบอกว่าบ้านของพวกเรามีฐานะดี แม่มีโรงอาบน้ำแร่ถึง 6 แห่งในเมืองแห่งนี้ และบ้านที่ฉันอยู่ก็ยังเปิดเป็นร้านขายหนังสืออีกด้วย จบเรื่องส่วนตัวแค่นี้พอ)

     

    ตึงๆๆ

     

    แม่เอาแซนวิชมา!” ควับ!

     

    ไอ้ลูกคนนี้หัดทำตัวให้มันเป็นแบบอย่างกับน้องบางซิ      

     

    ค่า~~โนริจังไปเร็ว!” ฉันรีบจูงมือเพื่อนสาวของฉันแล้วรีบวิ่งไปตามทางเดิน

     

    เดี๋ยวซิ ซายะ ฉันยังไม่ได้หยิบกระเป๋าเลย โนริจังพูดขึ้น

     

    กำแล้วทำไมไม่รู้จักเตรียมให้พร้อม ฉันรีบวิ่งไปหยิบกระเป๋าให้โนริจังทันที

     

    ป่ะ! รีบวิ่งเดี๋ยวไม่ทันโรงเรียนขึ้น   

     

    คิก คิก คิก~” เสียงหัวเราะของโนริดังขึ้น

     

    เธอนี่เซ่อจิงๆ 

     

    ง่า~ เซ่อยังไงหรอฉันถามโนริจังทันที 

     

    ก็เมื่อวานเย็นฉันมาหาเธอที่บ้านแต่เธอไม่อยู่ ฉันเลยบอกคุณน้าไปว่าพรุ้งนี้เช้าจะเดินไปโรงเรียนกับเธอ ตอนนั้นนะฉันสันหลังแวบเลยละ

     

    ทำไมละ ฉันถามโนริจัง

     

    ก็คุณน้าซาโยยทำหน้ายิ้มสยองให้ฉัน ตอนนั้นฉันนึกแล้วละว่าคุณน้าคงคิดอะไรดีๆออกและมันก็เป็นอย่างที่ฉันคิด เธอตื่นเช้ากว่าปกติตั้งเยอะรู้ไหม

     

    หา~ฉันอาปากค้าง (แล้วรีบถามต่อ)โนริจังนี่กี่โมงแล้ว

     

    เพิ่ง 7 โมงเองจ๊ะ เสียงของโนริพูดออกมาพลางหัวเราะชอบใจ 

     

    หนอย! แม่นะแม่ทำกันได้ลงคอ ฉันบ่นพึมพำกับตัวเอง

    ขณะที่ฉันกับโนริกำลังคุยกันอยู่เพลินๆพวกเราก็เดินมาถึงหน้าโรงเรียนพอดี

     

    ว้าว!คนเต็มเลยฉันพูดขึ้น

     

    เปิดใหม่ก็เงี้ยนักเรียนส่วนมากจะมากันแต่เช้าไม่เหมือนเธอหลอก  ซายะ

     

    จ้า~”  ฉันพูดพลางเดินจูงมือกับกับโนริเข้าไปในโรงเรียนทันที  แต่ยังไม่ทันที่จะก้าวขาเข้าโรงเรียนร่างชายหนุ่มก็วิ่งเข้ามาชนฉันเข้าอย่างจัง  โครม!

     

    โอ๊ย! ฉันหน้าทิ่มไปกับพื้นปู

     

    ไอ้บ้า! พ่อแม่ไม่สั่งสอน!  แกใส่แว่นกันแดดมาโรงเรียนหรือไง ถึงไม่สนใจคนอื่นเขา หรือว่าบ้านแกไฟไหม้ถึงได้รีบอย่างนี้  ไอ้โง่!”

     

    ร่างของชายหนุ่มหยุดนิ่งแล้วหันมามองด้วยแววตาอาฆาตและคิดในใจว่า

     

    หนอยใยนี่เห็นว่าเราไม่เถืองกลับเล่นด่ามาชุดใหญ่เลยนะ

     

    อย่ามาทำหน้าโหดใส่ฉันนะซายะเถียง

     

    เชอะ! ขอโทษ!เสียงเด็กหนุ่มตอบกลับ

     

    ยังจะมาตะคอกใส่ฉันอีกนายเป็นฝ่ายผิดนะ  เด็กหนุ่มไม่สนใจอีกแล้วเขารีบวิ่งเขาไปในโรงเรียนพลางพูดออกมาว่า หนอยยัยตัวดีระวังเถอะฉันต้องเอาคืนแน่!”

     

    ชิ!หน้าหมั่นไส้ ผู้ชายอะไรตัวเองเป็นฝ่ายผิดแท้ๆ ยังมาตะคอกใส่ฉันอีก ไปกันเถอะโนริ โอ๊ย! ซีด จะ..เจ็บ

     

    ไหนซายะฉันขอดูหน่อย หวาเลือดออกเลย คงจะขูดกับพื้นตอนล้มเมื่อกี้สินะ ปะ! เดี๋ยวฉันจะพาไปห้องพยาบาล โนริจังพูดด้วยความเป็นห่วง

    ณ.ห้องพยาบาล

     

    โอ๊ยๆๆ      

     

    เสร็จแล้วละจ่ะ ที่หลังก็เดินให้มันดูทางหน่อยนะจ๊ะ คุณครูประจำห้องพยาบาลพูดด้วยความเป็นห่วง

     

    ค่า~~  หนอยเพราะไอ้บ้านั่นคนเดียวฉันเลยต้องเป็นแบบนี้ถ้าเจอคราวหน้าละก็ ฮึ่ม! หน้าดู

     

    บ่นอะไรอยู่เหรอจ๊ะ คุณครูประจำห้องพยาบาลถามด้วยความสงสัย

     

    อ๋อ! เปล่าคะไม่มีอะไรหลอกคะเสร็จแล้วใช่ไหมคะ งั้นหนูไปก่อนนะคะ ขอบคุณนะคะ ฉันพูดพลางยิ้มแล้วเดินออกจากห้องพยาบาล

     

    โนริจังรีบวิ่งเข้ามาถามอาการของฉัน ฉันก็ตอบไปว่าไม่มีอะไรมากหลอกแค่ถลอกนิดหน่อย(แต่จริงๆแล้วเยอะนะ)  ขณะนั้นครูประจำห้องพยาบาลก็เดินออกมาพอดี

    ฉันจึงเดินเข้าไปถาม เออไม่ทราบว่าคุณครูชื่ออะไรคะ

     

    หืม? ครูชื่อ มิยะ คาโต้ จ๊ะ เสียงครูคาโต้ตอบ

     

    หรอคะ ขอบคุณคะ งั้นหนูไปนะคะ

     

     จ้า~

     

    ปะ! เดี๋ยวจะเข้าห้องเรียนสาย ฉันเดินจูงมือกับโนริจังและพูดคุยกันจนมาถึงหน้าห้องเรียน

     

    ครืด~~

     

    ซายะ! หลบเร็ว!”

     

    ฮืม  พูดยังไม่ทันขาดคำสิ่งที่โนริจังต้องการให้ฉันหลบก็เข้ามาประทับเข้าที่แก้มของฉันอย่างจังๆ     

     

    ปึก! “โอ๊ย! ใคร!” ฉันเก็บความรู้สึกเจ็บเอาไว้ แล้วรีบถามหาตัวการ

     

    ทุกคนในห้องเห็นฉันทำหน้าโหดใส่ก็เงียบกริบกันทุกคน แต่ก็มีเสียงหัวเราะของคนหนึ่งดังขึ้น ฮ่ะ ฮะ ฮะ ฮะ  หัวเราะอะไรมิทราบ ฉันถาม

    ก็ฉันแค่เอาคืนเธอที่เธอด่าฉันเมื่อเช้าก็แค่นั้นตอนแรกฉันยังเห็นหน้าเขายังไม่ชัด เมื่อฉันเดินเข้าไปใกล้

     

    เอ๋? นะนาย นายอีกแล้ว

     

    ก็ฉันนะสิจะให้เป็นใครที่ไหนละ หืม?” เขาพูดพลางจับมือฉันทำท่าจะจูบ

     

    อย่าคิดมาลวนลามฉันนะ ฉันรีบจับมือข้างขวาของเด็กผู้ชายและสกัดขาเขา(แกจงรับความเจ็บปวดที่แม่ทำให้ฉันเมื่อเช้าดูบ้าง>_<) ตึง! ฉันกระทืบเท้าดังลั่น เพื่อที่จะตั้งท่าทุ่ม

     

    ซายะระวัง!” โนริจังเตือนออกมาอย่างรีบร้อน

     

    เอ๋? โอ๊ย!” อาการของบาดแผลกำเริบขึ้นอีกโดยการกระทืบเท้าของฉันเอง  ฉันรีบปล่อยมือจากเขาและมาจับแผลที่หัวเข่าแทน

     

    อูย แซบเป็นบ้าเลย ฉันบ่นอุบอิบ

     

    หวา คราวนี้เลือดออกเยอะกว่าเดิมอีกแผลคงจะฉีก ใครก็ได้ช่วยพาซายะไปส่งที่ห้องพยาบาลที โนริจังขอร้องด้วยความเป็นห่วงเพื่อน

     

    พวกผู้ชายในห้องต่างอาสาที่จะไปส่งซายะที่ห้องพยาบาล แต่ก็มีเสียงหนึ่งพูดขึ้นมา

     

    ทุกคนไม่ต้อง เดี๋ยวฉันไปเอง ไม่ใช่เสียงใครที่ไหนเป็นเสียงของเด็กผู้ชายที่เป็นต้นเหตุ

     

    ได้ยังไงนายมีสิทธิในตัวเธอคนเดียวหรือไงเสียงผู้ชายในห้องต่างพากันเถียง

     

    แต่มีผู้ชายอยู่กลุ่มหนึ่ง ที่ไม่ลุกขึ้นมาเถียงเลยสักเอะ และเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น

     ตึง!เด็กผู้ชายในกลุ่มคนหนึ่งใช้มือทุบเข้าโต๊ะ 

    ใครกล้าขวางไอ้หมอนั้น ตาย!เป็นแค่เสียงพูดของผู้ชาย1คนในกลุ่มเท่านั้น แต่ทำให้ผู้ชายทั้งห้องนั่งเงียบกริบโดยไม่พูดไม่จาเลย 

     

    โชจิ นายรีบพายัยนั้นไปห้องพยาบาลเถอะ เดี๋ยวก็ตายกันพอดี

     

    อืม โชจิเอี้ยมมือพยายามที่จะอุ้มฉันไว้ในอ้อมแขน มีเสียงผู้หญิงต่างนินทากัน

     

    เชอะ! ยัยนั้นเป็นใครมาถึงก็ทำท่าสำออย ให้ท่าเลยนะ

     

    ใช่ๆ ระวังเถอะต้องเจอดีแน่!”

     

    ฉันเห็นท่าไม่ดีจึงพยายามดิ้นออกจากอ้อมแขนของนายโชจิ

    ไม่ต้อง! ฉันเดินไปเองได้

     

    จะทำให้เสียชื่อนินจาไม่ได้ ฉันคิดในใจ

     

    แน่ใจนะ เสียงเด็กหนุ่มที่ชื่อ โชจิถาม

     

    แน่สิ!” ฉันตอบทันที และก็เป็นเวลาเดียวกับที่อาจารย์ประจำชั้นเข้ามา

     

    เอ๋? เธอ ซายะจังนิ 

     

    อ่าวคุณครูคาโต้ (ที่แท้ครูคาโต้ก็เป็นครูประจำฉันห้องเรานี่เอง) แล้วเธอเป็นอะไรอีกหรอ?

     ครูคาโต้ถามด้วยความเป็นห่วง

     

    คือว่าหนูเล่นกับเพื่อนนิดหน่อยเลยทำให้เผลมันฉีกนะคะ

     

    งั้นหรอลำบากหน่อยนะ เอางี้เดี๋ยวซายะจังเดินไปพร้อมครูเลยนะ เดี๋ยวครูช่วยพยุง

     

    ขอบคุณคะ(หิที่นี้เราก็ไม่ต้องง้ออีตาโชจิ)

     

    อ่าว! พวกเธออยู่กันเงียบๆละ เดี๋ยวครูมาแปปนึง ครูคาโต้สั่ง

     

    ครับ/คะ เสียงของนักเรียนทั้งห้องขานรับ

     

    ซายะต้องให้ฉันไปเป็นเพื่อนไหมโนริจังถามขึ้น

     

    ไม่ต้องหรอกเธออยู่นี่ละ ขอบคุณนะ

     

    ครืด~~เสียงเลื่อนประตูขึ้นและปิดลงอีกครั้ง

     

    ตอนนี้ซายะก็ไม่อยู่แล้วเท่ากับเราอยู่คนเดียวโดยที่ไม่รู้จักใครเลย เห้อฉันบ่นพึมพำ

     

    ฉันซาโกะ ซากุระ ยินดีที่ได้รู้จัก เด็กผู้หญิงพูดพลางส่งยิ้มให้

     

    เอ๋? อืม ฉัน ไคเซน โนริ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน

     

    ครืด~เสียงเปิดประตูของครูคาโต้ดังขึ้น ทุกคนรีบนั่งในที่ของตนทันที

     

    เออทุกคนครูมีเรื่องจะมาบอก คือว่าครูให้ ซายะจังนอนพักอยู่ที่ห้องพยาบาลก่อนนะจ๊ะ

     

    ไม่มีเสียงตอบรับของนักเรียนคนใดเพราะคงยังไม่ได้เป็นที่รู้จักของทุกคน

    ส่วนที่นั่งของฉันและซายะได้นั่งอยู่ระหว่างกลางพอดี ข้างหลังเป็นที่นั่งของ ซากุระจัง แต่ที่นั่งข้างซากุระจังหว่างเปล่า

     

    พอจังหวะที่ครูซาโต้หันหลังไปเขียนกระดาน ผู้หญิงคนหนึ่งชื่อ ซันจิ มิกิ (ดูจากป้ายชื่อ)ก็กระซิบกับเพื่อน

     

    คอยดูให้ดีนะ ทำเป็นตีสนิทกับเด็กใหม่ ไม่เจียมตัวซะแล้ว

     เพื่อนของมิกิส่งหนังสือให้มิกิ 1 เล่ม ฟ้าว~ ปึก! หนังสือโดนเข้าที่หน้าของซากุระจังแบบเต็มๆ และยัยมิกิก็ไม่มีท่าทีที่จะหยุดขว้าง คนทั้งห้องเห็นเหตุการณ์นี้ แต่ก็ไม่มีใครลุกขึ้นมาห้าม

    หยดน้ำเล็กๆลืมไหลออกมาจากตาทั้งสองข้าง

     

    ครืด~~ ฉันทนต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว ฉันลุกขึ้นเพื่อที่จะไปนั่งข้างๆที่ของซากุระจัง *-* ทุกคนทั้งห้องตะลึงกับการกระทำของฉันเพราะไม่เคยมีใครกล้ายุ่งเรื่องของยัยมิกิ ด้วยความที่พ่อของยัยนี่เป็นคนมีอิทธิพลในเขตนี้ 

     

    หืม? โนริจังทำไมเปลี่ยนที่ละ เสียงครูคาโต้ถาม

     

    อ๋อ คือว่าหนูเห็นซากุระจังนั่งคนเดียวกลัวเขาจะเหงา หนูเลยขอมานั่งด้วยคน

     

    หรองั้นคงไม่เป็นไรนะแต่ครูให้แค่วันนี้วันเดียวนะ

     

    ค่า~~” พอครูคาโต้พูดจบเธอก็หันหลังไปเขียนกระดานต่อ

     

    หนอย อยู่ดีไม่ว่าดีอยากหาเรื่องใส่ตัวนักใช่ไหม ได้ มิกิไม่รอช้ารีบหยิบหนังสือขึ้นมาอีก

    คราวนี้เล่มใหญ่กว่าเล่มก่อนๆเยอะ

    หิ เตรียมรับให้ดีก็แล้วกันนะ เฟี้ยว ----- หนังสือเล่มนั้นพุ่งตรงไปยังใบหน้าของโนริจังด้วยความเร็วสูง

     

    ตุบ! มิกิยิ้มด้วยความสะใจ แต่เธอก็ต้องตาค้าง เพราะหนังสือที่เธอปาไปนั้นตอนนี้หยุดอยู่กับที่

    โดยมีมือของคนๆหนึ่งจับไว้

     

     

    ผมมาแก้ตามที่พี่ๆเตือนแล้วนะคับ ขอบคุณสำหรับคำเตือนนะคับ และขอให้พี่ช่วยอ่านเนื้อเรื่องแล้วติชมด้วยนะคับ ขอบคุณคับ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×