คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่4 หนี...คิมฮิมชาน
บังฮโยซองไม่แน่ใจว่าน้องชายไปกินอาหารผิดสำแดงมาหรือเปล่า พอกลับมาถึงบ้าน ยงกุกก็ขังตัวเองในห้องน้ำแล้วอ้วกตลอดเวลา เธอเรียกน้องชายออกมากินข้าวก็ไม่ออก ถามว่าเป็นไรไหมก็ตอบว่าโอเค
จนเมื่อผ่านไปสักสองชั่วโมง ร่างสูงของน้องชายก็เดินออกจากห้องน้ำในสภาพอิดโรยพอตัว คนพี่ก็อยากจะเข้าไปถามอยู่หรอกว่าเป็นอะไร แต่ยงกุกกลับเลี่ยงเข้าห้องตัวเองไปเฉยเลย แถมยังมาบอกว่าวันนี้จะไม่กินข้าวทั้งที่อาหารก็ตั้งรออยู่เต็มโต๊ะ
พี่สาวคนสวยออกจะหงุดหงิดเล็กๆ แต่เป็นห่วงเสียมากกว่า ตั้งแต่เล็กจนโต บังยงกุกเป็นพวกอาศัยลำแข้งของตัวเองดำเนินชีวิต มีปัญหาก็ไม่ค่อยปรึกษา ไม่เล่าอะไรให้เธอฟัง ทั้งๆที่เธอก็เป็นญาติเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ ตั้งแต่ที่พ่อกับแม่เสียชีวิตเพราะเครื่องบินตกเมื่อเธออายุได้เพียง15ปี
มือเรียวจัดแจงเก็บอาหารเข้าตู้เย็นก่อนจะเข้าห้องตัวเองไปบ้าง หากว่าหิว น้องชายคงออกมาอุ่นกินเองนั่นแหล่ะ
ร่างสูงของบังยงกุกเอนตัวนอนราบกับเตียง พลางนึกถึงภาพที่วันนี้เจอมาที่บ้านของคิมฮิมชาน
...ผู้ชายคนนั้น ...จองแดฮยอน
ทำไมถึงไปอยู่ที่บ้านของฮิมชานได้ แล้วเลือดที่เปื้อนเปอรอะอยู่เต็มเตียง ร่างกายที่เปลือเปล่า มือเท้าที่ถูกมัด และน้ำตาที่รินไหล...หมายความว่าอะไรกัน
คิมฮิมชานจับจองแดฮยอนไปข่มขืนงั้นเหรอ กักขังเขาไว้งั้นเหรอ
เขาสลัดความคิดออกจากหัว...จองแดฮยอนไม่ได้ถูกข่มขืน แต่หมอนั่นถูกฮิมชานบังคับร่วมรักด้วยต่างหาก ดูจากเหตุการณ์แล้ว เหมือนกับว่าตัวคิมฮิมชานเอง ...ที่เป็นเจ้าของเลือดบนเตียงนั้น คงเกิดจากความรุนแรงในการร่วมเพศทางทวาร
ใบหน้าคมบิดเบ้ นึกถึงตรงนี้แล้วอยากจะอ้วกออกมาอีกสักรอบ...ไม่ใช่ว่ารังเกียจพวกรักร่วมเพศ แต่พอมาเจอของจริงแบบนี้...ความรู้สึกมันบอกว่า”รับไม่ได้”
ยิ่งรอยยิ้มนั้นของฮิมชาน รอยยิ้มโรคจิตของผู้ชายคนนั้น...รวมกับแววตาด้านชา เฉยเมยเหมือนไม่รู้สึกอะไร มันทำให้เขานึกกลัว
แต่ที่แย่กว่านั้น คือเขารู้ความลับของคิมฮิมชานแล้ว...เขารู้ว่าจองแดฮยอน คนที่ไม่เคยมีใครพบเจอนั้นอยู่ที่ไหน...
คิมฮิมชานคงไม่ปล่อยเขาไว้แน่...
G O I N G C R A Z Y
ชเวฮงจุนไม่เข้าใจว่าทำไมบังยงกุกถึงมาทำงาน ก็ไหนเมื่อวันก่อนบอกว่าจะติวหนังสือไงวะครับ...ไอ้ครั้งจะเนียนเข้าไปถามก็ไม่กล้า เห็นหน้าพี่ชายดูเครียดๆยังไงไม่รู้สิ มองคนตัวโตเปิดเพลงแนวหลอนประสาทคนฟังจำพวกเพลงหวีดเสียงสูงๆแล้วต้องถอนหายใจ
จากความฉลาดที่มีในตัวของเด็กหนุ่มมากเกินไปทำให้รู้ได้ทันทีว่าพี่ชายคนนี้คงกำลังมีเรื่องกลุ้มใจ..
จนเมื่อผับปิดตอนตีสองพี่ยงกุกก็กลับบ้านไม่ร่ำไม่ลา คว้าเป้ได้ก็เดินฉับๆออกไปเลย ทิ้งเพื่อนเดินกลับบ้านอย่างเขาเหี่ยวอยู่หน้าผับคนเดียว
....ก็คงต้องเดินกลับอย่างโดดเดี่ยวอีกแล้ว
เดินออกมาจากผับทีเอสที่ทำงานอยู่ไม่เท่าไหร่ บังยงกุกก็ต้องรู้สึกเสียวสันหลังแปลกๆเมื่อผ่านสนามเด็กเล่นที่บัดนี้ไร้ผู้คน ดวงตากรอกไปรอบกายอย่างระแวง...ความรู้สึกเขาตอนนี้เหมือนถูกใครจ้องมองอยู่ในที่ที่หนึ่ง ซึ่งเขาเองก็ไม่รู้ว่ามันคือที่ไหน เพียงแค่รู้สึก...ว่าสายนั้นกำลังมองมาที่เขา
ขายาวสาวเท้าให้ไวมากขึ้นเมื่อรู้สึกไม่ปลอดภัยเอาเสียเลย ยิ่งมีเรื่องของคิมฮิมชานที่ยังติดค้างอยู่ในใจด้วยแล้ว
หากก้าวต่อไปได้ไม่เท่าไร คนตัวสูงก็ต้องชะงักค้าง มองภาพตรงหน้าอย่างตะลึงงัน
ร่างบางในชุดนักศึกษายืนอยู่ตรงหน้าเขา ห่างไปเพียงประมาณ5เมตรเท่านั้น แววตาที่เขากลัวกำลังมองตรงมาด้วยความเฉยชาเหมอนเคย มือสองข้างล้วงอยู่ในกระเป๋า
“จ๊ะเอ๋...เจอกันอีกแล้ว”ขยับปากพูดไม่มีเสียง แต่ยงกุกอ่านจากรูปปากสวยนั้นได้...ฮิมชานยกยิ้มที่ดูยังไงก็โรคจิตสำหรับยงกุกทำเอาร่างสูงแทบควบคุมตัวเองไม่ได้ สองขามันนิ่งสนิททั้งที่ใจกำลังบอกว่าให้วิ่งหนี วิ่งหนีไป
เขากลัวผู้ชายคนนี้มากกว่าเดิมเป็นล้านเท่า...
ในตอนนี้น่ะ เขากลัวผู้ชายคนนี้ที่สุด!!
ทันทีที่ตั้งสติสตังค์ได้ บังยงกุกก็วิ่งหนีกลับมาทางเดิมอย่างไม่คิดชีวิต ผู้ชายคนนั้นมาดักรอเขา...
คิมฮิมชานกำลังต้องการอะไรกัน! เพราะเขาไปรู้ความลับหมอนั่นเหรอ?...
เขาอุตส่าห์หลบหน้าหมอนั่นโดยการไม่ไปเรียนถึงสองวัน...แต่คิมฮิมชาน...กลับตามมาหาเขาถึงที่
ขาที่อ่อนล้าเพราะการวิ่งและใจที่หอบโยนเพราะความกลัวแทบจะหยุดไปพร้อมกันเมื่อวิ่งมาแสนไกล...แต่เมื่อมองทางข้างหน้า
คิมฮิมชานกำลังยืนอยู่ตรงนั้น!
ทีบีซี.
เอ่อะ อิฮิมนี่โรคจิต..หรือผี~ LOL~ ทำไมมันมาโผล่ดักหน้าบังได้กัน =[]= ฮ่าๆๆ
ความคิดเห็น