คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : เฮิร์ต๒ [100%]
เฮิร์ต...
เจ็บ...
คยูฮยอนแตะข้อมือตัวเองที่เป็นรอบช้ำดูน่ากลัว ขณะที่หัวเข่าถูกทาด้วยยาอย่างแผ่วเบาจากซีวอน ชายหนุ่มไล้วนจนทั่วแผลก่อนจะเป่าเพี้ยงให้เหมือนเด็กๆ
คยูชักขากลับมาอย่างเขินๆเล็กน้อย เอ่ยขอบคุณซีวอน
“ฉันเต็มใจช่วยนาย ไม่ต้องขอบคุณหรอก...”เขาว่าพร้อมลูบผมเส้นนิ่ม มองคยูฮยอนอย่างเอ็นดูปนสงสาร ร่างกายผอมจัดเหมือนอดข้าวอดปลา เนื้อตัวบางที่ก็ฟกช้ำ
ชเวซีวอนยกถาดอาหารที่วางอยู่โต๊ะข้างๆมาวางตรงหน้าคนตัวเล็ก “กินซะ นายผอมมากเลยนะ” คยูพยักหน้า ตักน้ำแกงขึ้นซดแต่ก็รู้สึกว่ามันเฝื่อนคอจนเกินกว่าจะกลืนลงไป เม็ดข้าวสวยนิ่มๆก็ดูหยาบกระด้างเสียเหลือเกิน จนทนไม่ไหวต้องวางช้อนลงทั้งที่กินไปได้เพียงนิดเดียว
“อิ่มเหรอ?”เขาพยักหน้ารับ ซีวอนจึงยกถาดอาหารไปเก็บที่ครัว
คราวนี้คยูฮยอนก็เหลือตัวคนเดียวกับความเงียบสนิทภายในห้องที่โรยตัวลงมา เขาไม่เห็นพี่ยองอุนเลย สงสัยว่าคงออกไปข้างนอกเสียแล้ว แต่นั่นก็ทำให้เขาสบายใจขึ้น ไม่ต้องระแวงว่าพี่ชายร่างใหญ่จะลุกขึ้นมาบีบคอหรือกระชากผมเขาอีกตอนไหน ยิ่งมีชเวซีวอนอยู่ด้วยคยูฮยอนก็ยิ่งสบายใจ เพราะซีวอนจะคอยกันเขาไม่ให้พี่ยองอุนทำร้ายเขาได้
สายตาเหลือบเห็นกระเป๋าเป้ใบหนึ่งวางอยู่ที่มุมห้องใกล้กับประตู เป้ใบนั้นเป็นของเขา เขาใช้มันครั้งสุดท้ายเมื่อวานตอนที่กลับจากโรงเรียน และถูกยองอุนพามาที่นี่ จากนั้นเป้ใบนี้ก็อยู่ที่มุมห้องตลอดเวลา
ขาเล็กก้าวลงจากเตียงที่นั่งอยู่แล้วค่อยๆเคลื่อนเข้าหาเป้ใบนั้น ข้างในมีหนังสือเรียนและโทรศัพท์มือถือที่คาดว่าแบตเตอร์รี่คงจะหมดแล้ว มือขาวพยายามกดเปิดเครื่องแต่ก็ไม่มีวี่แววจะติด สายชาร์จก็ไม่มีคงจะหมดหนทางเปิดมันแล้วกระมัง
“อยากใช้โทรศัพท์เหรอ”เสียงทุ้มที่ดังอยู่ด้านหลังทำให้คยูฮยอนสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อรู้ว่าเป็นซีวอนจึงพยักหน้ารับ
“ผมอยากโทรหาแม่”ซีวอนร้องหืมในลำคอ ลืมไปเหมือนกันว่าคยูฮยอนหายตัวไปเข้าวันที่2แล้ว ทางบ้านเขาจะคิดว่าอย่างไรบ้าง
ไอ้คังอินคงไม่ไปตอแหลสร้างเรื่องเท็จให้เขาเข้าใจว่าลูกอยู่บ้านเพื่อนอย่างนั้นหรอกนะ...
“จำเบอร์ได้ใช่ไหม เอาของฉันไปใช้”เขาบอกพร้อมยื่นโทรศัพท์เครื่องหรูไปให้ คยูฮยอนสัมผัสที่หน้าจอเพื่อปลดล็อกแล้วก็ต้องแปลกใจที่ภาพหน้าจอเป็นคนสามคน คือชเวซีวอน คิมยองอุน และ คิมรยออุก...
ทำไมซีวอนต้องตั้งภาพหน้าจอไว้แบบนี้ หรือว่าสนิทกันมาก...
ความสงสัยถูกปัดทิ้งเมื่อนิ้วเรียวกดตัวเลขลงไปก่อนยกขึ้นทาบหู เสียงรอสายดังไม่กี่ครั้งทางปลายสายก็รับ
“สวัสดีค่ะ บ้านโจค่ะ”
“แม่...ผมเอง คยูฮยอน”คุณนายโจร้องเอ๋ ก่อนจะถามย้ำว่าคยูฮยอนเหรอ? คยูฮยอนตอบรับ ก่อนจะถามว่าที่บ้านเป็นอย่างไรบ้าง คุณนายโจเลยบอกว่าสบายดี แล้วให้คยูฮยอนกลับมาบ้านด้วยอย่าอยู่บ้านของรยออุกนาย จะเป็นการรบกวนเขา
พอคยูฮยอนวางสายไปแล้ว ซีวอนก็แทบจะตบหน้าผากตัวเองสักป๊าบที่ความคิดตัวเองมันตรงเผงเลย
.
.
“ผมอยากกลับบ้าน บอกตรงๆนะ ตอนผมกลัวพี่ยองอุนมากเลย”
“...”
“ผมไม่รู้ว่าเขาจะลุกขึ้นมาฆ่าผม บีบคอผมให้ตายตอนไหน”
“...”
“แต่สิ่งที่ผมต้องการตอนนี้มากที่สุด คือ...พบกับรยออุก”
ชเวซีวอนพาคนตัวเล็กออกจากห้อง513 มาหยุดอยู่ที่หน้าห้อง 411...
...ห้องที่รยออุกอยู่
ซีวอนชั่งใจอยู่นานว่าจะพาคยูฮยอนมาเจอรยออุกดีไหม ถ้าไอ้คังอินรู้เขาต้องโดนมันฉีกเนื้อแน่ๆ แต่เมื่อเห็นแววตาขอร้องของคยูฮยอนก็อดใจอ่อนไม่ได้
...พระเจ้าอภัยบาปให้ชเวซีวอนด้วยเถอะ...
“ถ้ารยออุกเกิดอาละวาดขึ้นมานายสัญญานะว่าจะกลับโดยไม่มีข้อแม้”เขาเอ่ยถามเพื่อความั่นใจ คยูฮยอนพยักหน้าตกลง ก่อนจะเดินเข้าห้องไปตามแรงผลักบานประตูของซีวอน
ข้าวของกระจายเกลื่อนอยู่เต็มห้อง ทั้งแจกันที่หล่นแตก เก้าอีกที่ล้มคว่ำ และเศษขยะมากมายเหมือนถูกรื้อทิ้ง...
ฉับพลันที่จะก้าวเท้าเดินแขนขาวก็ถูกรั้งด้วยมือของซีวอน ก้มดูที่เท้าจึงเห็นว่าเป็นเศษแก้วแหลมของตู้ปลา เขาจึงเลี่ยงมันไป
สายตามองเห็นร่างเล็กร่างหนึ่งนอนหลับสนิทบนเตียงที่ยับยู่ยี่ รอบเตียงฟุ้งไปด้วยขนนกจากหมอนใบนิ่มที่เหลือเป็นซากอยู่ที่พื้น...คยูฮยอนยกมืออุดปากกับสภาพของรยออุก เนื้อตัวซูบซีด แม้จะนอนหลับอยู่แต่คราบน้ำตาก็ยังเปรอะเปื้อนอยู่เต็มไปหมด ข้อมือเล็กมีรอยแดงนิดๆที่เกิดจากการมัดด้วยผ้าตอนที่อาละวาดจนหนักจริงๆ
...ที่รยออุกเป็นอย่างนี้เพราะเขาเหรอ?...
“โชคดีที่ตัวเล็กหลับอยู่”อีกครั้งที่คยูฮยอนรู้สึกแปลกใจ เพราะน้ำเสียงที่ชเวซีวอนพูดมันช่างนุ่มนวลมาก สายตาที่มองไปยังรยออุกก็ช่างอ่อนโยน...แล้วยังจะ”ตัวเล็ก”ที่ใช้เรียกอีก
...ความรู้สึกของคยูฮยอนมันบอกว่า ซีวอนรักรยออุก...!
20 percent---♥
...
“หน้าฉันมีอะไรหรือเปล่า”คยูฮยอนได้สติเมื่อซีวอนเอ่ยถามคนที่จ้องหน้าของเขา ชายหนุ่มเอียงคอเล็กน้อยเมื่อเห็นสีหน้าเจื่อนๆเหมือนถูกจับได้ของคยูฮยอน
“เปล่า...ผมเหม่อไปนิดนึง”
“...ฉันจะพานายไปส่งที่บ้านนะ จากนี้ก็ระวังตัวให้มาก อย่าให้ไอ้คังอินมันจับตัวมาได้อีกล่ะ...แล้วทางนี้ฉันจะเคลียร์กับไอ้คังอินมันเอง”เขาบอกพร้อมลูบผมคยูฮยอน รอยยิ้มของชเวซวีอนตอนนี้ราวกับเทพบุตรก็ไม่ปาน ถึงแม้มันจะอาบยาพิษมาเขาก็คงดูไม่ออก
พอกลับมาบ้านคุณนายโจก็มาต้อนรับ เมื่อเห็นซีวอนก็ถามเอายกใหญ่ว่าเป็นใคร แฟนของคยูฮยอนหรือ? ทำให้เจ้าตัวต้องปฏิเสธพัลวัน ก่อนจะตีซี้คุณแม่ยังสาวเจ๊าะแจ๊ะแล้วปะเหลาะขอกินข้าวเย็นฟรีไปหนึ่งมื้อ คุณนายโจซังมีก็ดูเหมือนว่าจะเข้ากันได้ดีกับร่างสูง เอ่ยชมไม่ขาดปากว่าทั้งหน้าตาดี นิสัยก็ดี
ถ้ามีลูกสาวคงจะยกให้เขาไปแล้ว...
คยูฮยอนพลิกโทรศัพท์เครื่องเล็กที่ต่อสายชาร์จอยู่มาดู เมื่อเห็นว่าแบตเตอร์รี่เข้าบ้างแล้วจึงเปิดเครื่อง มิสคอลหลายสิบสายเป็นเบอรืที่เมมไว้ว่า”คิมจองอุน” คยูฮยอนถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนที่จะกดปุ่มโทรกลับไปยังเบอร์ดังกล่าว เขาฟังเสียงเพลงรอสายอยู่นานแต่ก็ไม่มีคนรับ จนกระทั่งเรียกซ้ำอัตโนมัติทำงาน...เสียงรอสายดังอีกสักครู่ก็หายไปแทนที่ด้วยเสียงรับโทรศัพท์ด้วยความตกใจและกระวนกระวาย
“คยู...คยูฮยอน นายใช่ไหม”น้ำเสียงของเยซองนั้นฟังดูแหบแห้งมาก เขาเดาว่าร่างกายชายหนุ่มคงยังไม่ฟื้นสมบูรณ์ดี
“อืม...ฉันเอง”เขาตอบรับ อีกฝ่ายยิงคำถามรัวใส่ไม่ยั้งว่าเป็นอย่างไรบ้าง “มัน”ทำอะไรหรือเปล่า ตอนนี้อยู่ที่ไหน แล้วจบลงด้วยคำว่า “ขอโทษ”
“ฉันดีแล้ว กลับมาที่บ้านแล้ว นายไม่ต้องเป็นห่วง...แต่ฉันอยากถามนายสักข้อนะเยซอง”
“...”
“เพราะฉันใช่ไหมนายถึงต้องทำร้ายรยออุก?”ปลายสายเงียบไป เสียงสะอื้นแผ่วเบาตามมา
...เยซองกำลังร้องไห้
“ฉันไม่ได้ต้องการให้มันเป็นอย่างนี้เลยคยู...ฉันรักนาย รักมาก...”
“...”
“ฉันทนไม่ไหวที่มองนายสนิทกับมัน ฉัน....ฉันใช้ความคิดชั่ววูบของตัวเองทำร้ายมัน...”
“...”
“ฉันไม่คิด...ว่ามันจะบานปลาย...ฉันขอโทษ”คำขอโทษช่างดูจริงใจ เสียงสะอื้นของเยซองยังดังอยู่ข้างหูของคยูฮยอน
“ไม่เป็นไร...มันผ่านไปแล้วเยซอง...หน้าที่นายคือทำทุกอย่างให้ดีที่สุดตอนนี้”
...โทรศัพท์ถูกวางลงข้างกายเมื่อเขาตัดสายของเยซอง...ใช่ ตอนนี้คือต้องทำทุกอย่างให้ดีที่สุดเท่านั้นเอง
เราไม่สามารถแก้ไขอดีตได้อีกแล้ว...ไม่สามารถกลับไปเป็นเหมือนเดิม
ภาพความทรงจำที่สวยงามระหว่างเขากับยองอุนก็คงต้องให้มันเป็นความหลังที่สวยงาม
ตอนนี้คือต้องทนรับกับความจริงที่ว่า
...พี่ยองอุนเกลียดเขา...จนอยากจะฆ่าให้ตายๆไปซะ
“มึงทำอย่างนี้ได้ยังไงไอ้ซีวอน!”ร่างหนาตะโกนถามเพื่อนที่นั่งนิ่งอยู่ที่โซฟารับแขกในห้อง513 คิมยองอุนแทบจะฆ่าเพื่อนรักให้ตายเมื่อกลับมาแล้วพบว่าร่างบางที่ชื่อโจคยูฮยอนไม่อยู่อีกแล้ว เพราะไอ้เพื่อนเฮงซวยนี่มันพาไปส่งที่บ้านแล้ว
“มึงอย่าใจดำเกินไปเลยคังอิน...เขาเป็นคน..มีพ่อมีแม่ มีจิตใจ มึงทำเหมือนเขาเป็นสัตว์ไม่ได้”
“แล้วที่พวกมันทำกับน้องกูล่ะ !!!!” แทบจะทันทีที่ยองอุนตวาดสวนกลับมา
ยังเลย...ยังไม่ได้แก้แค้นให้รยออุกเลยสักนิด ยังไม่ได้เริ่ม คนสารเลวนั้นก็หลุดลอยไปแล้ว
บัดซบ!!
“มึงคิดว่ากูไม่เสียใจเหรอคังอิน ที่ตัวเล็กเป็นอย่างนั้น...มึงก็รู้...ว่ากูรักน้องมึงขนาดไหน”
คังอินนิ่ง เพราะเขารู้ รู้ว่าชเวซีวอนรักคิมรยออุก สายตาที่มันมองน้องชายของเขาช่างอ่อนโยน หลายครั้งที่เขาไม่มีเวลาให้รยออุกก็จะเป็นชเวซีวอนเสมอที่มาอยู่กับน้อง
“...แต่มึงมีคู่หมั้นอยู่แล้ว มึงตัดใจจากน้องกูดีกว่า แล้วก็ไม่ต้องไปยุ่งกับโจคยูฮยอนด้วย”คู่หมั้นที่ว่าหมายถึงอีฮยอกแจ ลูกชายคนเดียวของตระกูลอีที่ป่วยกระเสาะกระแสะ ถูกจับให้หมั้นกับลูกชายคนโตของตระกูลชเวอย่างชเวซีวอน
“กูไม่ได้รักมัน...ก็แค่ไอ้ขี้โรคลูกคนที่มาเกาะธุรกิจพ่อกูพยุงธุรกิจตัวเองเท่านั้นล่ะ”ชายหนุ่มพูดอย่างไม่สนใจ แต่แววตาแวบหนึ่งเขากลับแข็งกร้าวขึ้นเมื่อได้ยินเกี่ยวกับอีฮยอกแจ...
...คนป่วยขี้โรคอย่างนั้นใครจะอยากหมั้นด้วยกัน
“นี่พี่ซีวอน เขาจะมาเป็นคู่หมั้นของลูก”อีวอนยองบอกกับลูกชาย ฮยอกแจก้มหัวทักทายกับร่างสูงสง่าที่อยู่ตรงข้ามกัน ขณะที่ซีวอนทำเพียงส่งสายตาหยามเหยียดไปให้
ร่างตรงหน้าหน้าตาไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่ ถ้าเนื้อตัวไม่ได้ซูบซีด ขาวราวกับกระดาษขนาดนี้ก็คงน่ามองนิดหน่อย ใบหน้าเรียบนิ่งเหมือนไม่เห็นสายตาหยามเหยียดของเขาของฮยอกแจทำให้ซีวอนนึกหมั่นไส้เล็กๆ
“น้องไม่ค่อยสบาย แกต้องดูแลน้องดีๆล่ะซีวอน”ชเวชองซูบอกลูกชาย โดยส่วนตัวเขาเอ็นดูฮยอกแจเป็นพิเศษเพราะเป็นเด็กนอบน้อม เรียบร้อย สมกับที่จะแต่งเข้าบ้านชเว แล้วยังพ่วงด้วยผลประโยชน์ทางธุรกิจที่จะมีร่วมกับบริษัทตระกูลอีอีกด้วย
“ผมจะดูให้ดีแล้วกัน...น้องฮยอกแจ”ถึงจะพูดว่าน้องฮยอกแจแต่น้ำเสียงก็ไปในทางประชดประชันอย่างชัดเจน ฮยอกแจมองคนที่อยู่ตรงข้ามกับเขานิ่ง
“ความจริง...ผมก็ดูแลตัวเองได้ ถ้าพี่ไม่เต็มใจ ก็ไม่ต้องหรอกครับ”
เขาจำได้ว่าจากนั้นอีฮยอกแจก็ไม่พูดอะไรอีก นั่งนิ่งๆและกลับไปพร้อมกับอีวอนยอง แล้วไม่กี่วันต่อมาเขาก็ถูกบังคับให้ไปรับ-ส่งอีฮยอกแจที่โรงเรียน
“มึงอาจจะไม่รู้ตัวก็ได้นะซีวอน...”รู้ตัวเสมอ...เขารู้เสมอว่าเขาไม่เคยรักอีฮยอกแจ ซ้ำยังไม่ชอบมันด้วยซ้ำ...
ก็เพราะมันเขาจึงไร้อิสระ เขาจึงไม่สามารถรักรยออุกได้อย่างเปิดเผย
...ทั้งที่ข้างกายเขาควรจะเป็นตัวเล็กของเขา แต่กลับเป็นไอ้ขี้โรคอีฮยอกแจ...!!
“พอเถอะ...กูต้องไปก่อน ส่วนมึง...กูขอร้องล่ะ อย่าทำอะไรคยูฮยอนเลยว่ะ กูสงสารเด็ก”ร่างสูงพูดจบก็เดินออกจากห้องไป ทิ้งยองอุนให้จมกับความคิดตัวเอง
แล้วจะให้เลิกล้มไปเหรอ...ความเจ็บปวดของคิมรยออุกมันยังไม่ได้รับการปลดปล่อย น้องของเขายังคงทุรนทุรายกับฝันร้ายที่หลอกหลอน...แล้วจะให้เขา...เลิกไปง่ายๆได้อย่างไร!
หลังจากที่พักอยู่บ้านสองวันโดยอ้างกับแม่ว่ารู้สึกไม่สบาย คยูฮยอนก็ไปโรงเรียนตามปรกติ...ข้อมือที่ยังไม่หายจากรอยช้ำนั้นถูกสวมทับด้วยผ้ารัดข้อมือสีขาวเพื่อปกปิดมันทั้งสองข้าง
“เฮ้!คยูฮยอน นายมาโรงเรียนสักที หายไปเกือบจะทั้งอาทิตย์แหน่ะ”อีทงเฮเอ่ยทักเขา คยูฮยอนยิ้มให้ก่อนจะอธิบายว่ารู้สึกไม่สบายเลยหยุดหลายวัน เจ้าเพื่อนช่างพูดก็ไม่ได้ติดใจอะไรดึงเขาไปถาม
“แล้วนายได้ข่าวรยออุกบ้างหรือเปล่า เห็นหายไปก่อนนายวันนึงใช่มะ หมอนั่นอ่ะโดนลือว่าถูกข่มขืนล่ะ “
“...”คยูฮยอนเงียบ...
“เฮ้ คยู~”ทงเฮเรียก โบกมือตรงหน้าเมื่อเห็นว่าเพื่อนดูเหม่อ
“อ่า...ไม่รู้สิ ฉันไม่ได้ติดต่อกับรยออุกเลยน่ะ ขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”คยูฮยอนผละจากมา ทงเฮเกาหัวตัวเองงงๆ เพราะคยูฮยอนกับรยออุกสนิทกันมาก ทำไมจึงไม่ได้ติดต่อกัน...
มือเรียวเท้ากับขอบอ่างล้างมือ หายใจเข้าลึกๆอย่างต้องการสงบสติอารมมณ์ ขอบตามันร้อนผ่าวจนรู้สึกเปียกชื้นที่แก้ม...เขากำลังร้องไห้
ยกมือขึ้นปิดปากกลั้นเสียงสะอื้นของตัวเองเอาไว้ ก่อนจะทรุดลงนั่งกับพื้นห้องน้ำอย่างหมดแรง
ทำไม...ทำไมถึงต้องเป็นอย่างนี้กัน
เขาไม่สามารถตอบคำถามของทงเฮได้เลย...รยออุกอยู่ที่ไหน ได้ข่าวรยออุกไหม คำถามพวกนี้เขาจะต้องเจอต่อไปแน่นอน แล้วเขาจะตอบมันอย่างไร
...จะตอบอย่างไรดี...
เสียงฮือฮาดังที่หน้าห้อง คยูฮยอนเงยหน้าจากโต๊ะที่มองมานานดูแล้วต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
คิมจองอุนในชุดนักเรียน ที่ศีรษะมีผ้าพันไว้ แขนซ้ายถูกใส่เฝือกและขาขวาที่เดินไม่ปรกติ!!
ร่างหนาที่หน้าห้องยิ้มมาให้เขาพลางตอบคำถามเพื่อนว่าไปโดนอะไรมา ทำไมเป็นอย่างนี้ หายไปหลายวันเชียว
“เฮ้~ฉันยังไม่ตายง่ายๆหรอกน่า แค่รถคว่ำเอง ชิลด์ชิลด์จะตาย”ว่าแล้วก็ยักคิ้วให้เพื่อนๆด้วย ทำเอาเพื่อนทั้งหลายหัวเราะร่วน บางคนเอามือตีที่เฝือกเบาๆทำให้เยซองต้องร้องจ๊าก
คยูฮยอนยิ้มน้อยๆ พร้อมเสียงหัวเราะแผ่วเบาที่ดังลอดจากริมฝีปากบาง...
สักพักคนป่วยเข้าเฝือกก็มานั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆเขา...
“ฉันดีใจที่นายปลอดภัยดี”เขาพูดพร้อมยิ้ม “ฉันก็ดีใจที่นายยังมาโรงเรียนได้ ฮะฮะ” คยูฮยอนยิ้มกลับ มือเล็กลูบที่เฝือกสีขาวเบาๆ
“ฉันอยากเขียนจะได้ไหม?”
“อืม ได้สิ ให้นายเขียนก่อนใครเลย”คยูฮยอนหยิบปากกาเปอร์มาเนนต์ออกมาจรดตัวอักษรลงไป
...หายไวๆนะ เพื่อนของฉัน...
“ทำไมถึงเขียนแบบนี้ล่ะ”เยซองถามเมื่อคยูฮยอนเขียนเสร็จ เพราะคำว่าเพื่อนของคยูฮยอนมันถูกขีดเส้นใต้เอาไว้
“...ก็เพราะว่าเราเป็นเพื่อนกันไง...ฉันไม่สามารถคิดกับนายเกินนั้นได้จริง”
“...”
“เพราะฉะนั้น เป็นเพื่อนกันน่ะดีแล้ว ใช่ไหม?”เยซองหัวเราะหึหึในลำคอ เขาคิดแล้วว่าสักวันต้องได้ยินคำนี้จากคยูฮยอน ‘เป็นเพื่อนกันดีแล้ว’
เขาก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน...ถ้าเขาคิดได้แบบนี้ตั้งแต่แรก...เรื่องราวเลวร้ายแบบนี้ก็คงไม่เกิดขึ้นกับทั้งเขา คยูฮยอน และรยออุก
“อืม...เพื่อน!”
2เดือนผ่านไป...
“คยูฮยอน ไปกินข้าวกลางวันกันเถอะ”ร่างหนาของเยซองมาชวนคนที่ตอนนี้กลายเป็นเพื่อนรักกันไปแล้วอย่างคยูฮยอนไปกินข้าวกลางวัน ร่างบางปิดหนังสือที่อ่านอยู่ลงก่อนจะเก็บมันเข้าใต้โต๊ะ ยิ้มให้เยซองแล้วลุกขึ้นเดินไปที่โรงอาหารพร้อมกัน
แผลต่างๆของเยซองตอนนี้เกือบจะปรกติหมดแล้ว เหลือเพียงแขนซ้ายที่ยังคงต้องตรวจเช็คอย่างละเอียดอีกหลายๆรอบ
“กินอะไรดีล่ะ”เสียงทุ้มถาม คยูฮยอนเลือกแถวที่สั้นๆอย่างร้านจำพวกอเมริกันมีล เยซองตีสีหน้าเลี่ยนๆแล้วบอกขอไปต่อแถวอาหารเกาหลีดีกว่า
“นายกินแต่แฮมเบอร์เกอร์ ไม่ก็สเต็ก เฟรนส์ฟราย ของพวกนี้แล้วนายจะมีเนื้อมีหนังบ้างไหมเนี่ย คยูฮยอน”เยซองถามคนที่กัดแฮมเบอร์เกอร์เข้าปาก
“มันแถวสั้นดีนี่”ฟังคยูฮยอนตอบแล้วเยซองก็ส่ายหัว เพราะเขาไม่มีวันจะเลือกอาหารแบบนั้นมาหิน นอกจากจะไม่อยู่ท้องแล้วยังเป็นอาหารจั๊งฟู๊ด ไม่มีคุณค่าต่อร่างกายเลย
“ได้ข่าวรยออุกบ้างหรือเปล่า?”เยซองถาม..คยูฮยอนส่ายหัว
ทั้งรยออุก ทั้งพี่ยองอุน...ไม่ได้ข่าวใครเลย
ความจริงคือคยูฮยอนก็ไม่กล้าจะเผชิญหน้ากับคิมยองอุนเหมือนกัน..เขาไม่กล้าไปเหยียบที่โรงแรมนั้นอีกเลยตั้งแต่เกิดเรื่อง
ใช่...เขากลัว
แต่ข่าวล่าสุดที่รู้คือที่คนมาทำเรื่องขอลาออกให้กับรยออุกโดยให้เหตุผลว่าจะไปอยู่ที่ต่างประเทศ
คยูฮยอนกับเยซองก็ใช้ชีวิตตามปรกติ เหมือนว่าจะลืมเรื่องคราวนั้น แต่สองเดือนที่ผ่านมาเขากับเยซองไม่อาจจะลืมมันได้เลย
ภายใต้ใบหน้ายิ้มแย้มและเรียบเฉย มันซ่อนด้วยความปวดร้าวเสมอเมื่อนึกถึงรยออุก..แล้วพี่ชายแสนดีของเขา
...คิมยองอุน...
คยูฮยอนแยกกับเยซองที่หน้าโรงเรียนเหมือนทุกวัน เยซองนั้นเดินกลับบ้านไปอีกทางส่วนเขาต้องขึ้นรถประจำทาง มือเรียวหยิบไอพอดสีเขียวอ่อนมาเสียบหู กดเล่นเพลงที่ฟังเท่าไรก็ไม่เบื่อย่าง Kiss the rain ของ Yiruma จังหวะเศร้าๆของเพลงทำให้นึกถึงเรื่องเศร้าๆที่ผ่านมา ..
เอี๊ยดดด..
เสียงรถเบรกดังตรงหน้าของชายหนุ่ม คยูฮยอนเงยหน้ามองก็พบกับรถสปอร์ตคันหรูสีดำสนิท กระจกที่เป็นฟิล์มดำทำให้ทองไม่เห็นว่าคนขับเป็นใคร แต่แล้วกระจกบานที่อยู่ตรงหน้าก็ค่อยๆเลื่อยลง เผยให้เห็นใบหน้าขาวราวกับกระดาษที่นิ่งเฉย
คยูฮยอนขมวดคิ้วก่อนจะเบิกตาโตอย่างตกใจ
“ชเวซีวอน...”
100 percent --♥
ตามจริง100เปอร์จะเท่ากับ10หน้าเอสี่ ตัวอักษรขนาด14 ซึ่งไรต์เตอร์คิดว่ามันเยอะมาก (จริง :_:) เลยขอลดลงมาเหลือแค่6-7หน้าเท่านั้น เพราะถ้าเป็น10หน้า กว่าจะครบ100เปอร์ เราคงต้องพิมพ์จนมือหัก (มันเยอะจริงๆนะ)
โฮฮฮฮ รีดเดอร์อย่าทิ้งเราไปเลย เราขอโทษที่หายหัวไป1ปีเต็ม เราสัญญาว่าเราจะอัพ แงงงงง
เรื่องอาจจะไม่สนุก เราอาจจะเขียนไม่ดี แต่อย่าทิ้งเราไปเลย ช่วยอยู่เป็นเพื่อนเราด้วยค่ะ
อยากให้ ทุกคนอ่านคังโจ ยอมรับในคู่นี้ คู่นี้ก็มีโมเม้นต์น่ารักน่ารักไม่แพ้คู่อื่นเลย ^^
☺
ความคิดเห็น