ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    FIC :: LO x JAE :: B.A.P :: BLACK PARADISE

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 1

    • อัปเดตล่าสุด 30 มี.ค. 57


    ตอนที่1

     

     

    เท้าเล็กๆกระทืบพื้นที่ยืนเบาๆ มือเล็กซุกเข้าในเสื้อโค้ดตัวหนา อากาศที่หนาวจัดทำให้ต้องห่อตัวเข้าหากัน มองนาฬิกาเมื่อครู่คือตีหนึ่งครึ่ง อีกไม่นาน...จะได้เวลาที่ผับจะปิดแล้ว

    สูดหายใจเข้าลึกๆก่อนจะหมุนตัวออกจากมุมที่ยืนอยู่นานแล้วเข้าในผับ ผู้คนด้านในเบียดเสียดกัน บางคนก็โอ้โลมกันได้อย่างไม่อายสายตาใคร ยองแจดึงหน้าให้เรียบ เห็นอยู่ไกลๆว่าใครประจำตำแหน่งดีเจในวันนี้ รอยยิ้มละมุนของเด็กชายวัย20ปีถูกจ่ายแจกให้ลูกค้าของผับนี้ทุกคน

    ...รู้สึกหวงขึ้นมา...

    สาวแก่แม่หม้ายต่างรุมทึ้งดีเจหนุ่มน้อยกันใหญ่ ส่งแก้วเหล้าให้บ้างเป็นบางระยะ แต่ไม่มีสักแก้วที่เด็กหนุ่มจะรับ

     

    ขาเรียวก้าวเบียดผู้คนไปอยู่ตรงหน้าเด็กหนุ่มแต่ดูเหมือนคนที่ทำหน้าที่ของตัวเองไม่ได้รู้เลย มือเรียวขาวยื่นไปสัมผัสมือของอีกคน นั่นเองทำให้อีกคนสนใจในตัวเขาขึ้นมาบ้างก่อนที่มือใหญ่จะสะบัดออกอยางรวดเร็ว ใบหน้าแสดงออกอย่างชัดเจนว่ารังเกียจ

    ...พี่เจ็บจังจุนฮง...

     

    “วันนี้แต่งตัวเข้มแห๊ะ”เอ่ยพร้อมรอยยิ้มเสแสร้ง ยิ้ม แม้อีกคนจะรังเกียจกันมากขนาดไหนก็ตามที

    “แถวนี้ไม่มีผู้ชายกระเป๋าหนาให้ออฟตัวพี่หรอก ไปหาแถวอื่นเถอะ”วาจาแสนร้ายกาจแทบทำให้ใจสลาย รอยยิ้มที่อุตส่าห์ปั้นแต่งเจื่อนไปครู่ แต่ก็กลับมาได้อีกครั้ง

    “สำหรับนายไม่ต้องออฟพี่ก็ไปนะ...ไม่คิดจะลองบ้างเหรอ?”ยอมกันเสียที่ไหน เมื่ออีกคนแรงมาก็แรงกลับได้เช่นกัน รอยยิ้มของเขากำลังยั่วโมโหชเวจุนฮงอย่างถึงที่สุดเขารู้ดี

    .

    .

    “ผมไม่สนใจจะใช้บริการโสเภณี...ขอโทษทีนะพี่ยองแจ”

     

    ถึงเหมือนจะชิน แต่ใจก็เจ็บอยู่ดี รอยยิ้มหุบลงทันควัน ยองแจหัวเราะขื่นๆในลำคอก่อนจะแสร้งยกยิ้มอีกครั้งให้เด็กหนุ่มตรงหน้า

    “โอเค...งั้นพี่ขอไปหาคนกระเป๋าหนาอย่างที่นายว่าดีกว่าเนาะ อา...พี่อาจกลับเช้าเลยนะ...กลับบ้านดีๆล่ะ”พูดจบก็ยิ้มหวานหยดทิ้งท้ายก่อนจะหมุนตัวเดินออกมา ไม่หันกลับไปมองสักนิดว่าอีกคนเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันแทบจะระเบิด

    ...ที่ไม่หันไปมอง เพราะกลัวน้ำตาอาจจะไหลลงมา...

     

     

     

    B L A C K P A R A D I S E

     

     

    1ปีก่อนหน้า

     

    ชเวจุนฮงสอดส่ายสายตามองนู่นมองนี่ไปทั่ว ยิ้มน้อยๆให้กับสาวรับใช้ที่เอาน้ำเย็นมาเสิร์ฟให้ นั่งรอเจ้าของบ้านมาหลายนาทีแล้วแต่ไม่เห็นว่าจะออกมาเจอจุนฮงเสียที

    ที่มาวันนี้ก็เพราะคำเชิญแกมบังคับเล็กน้อย จุนฮงค่อนข้างตกใจเมื่อเปิดประตูบ้านจะไปทำงานตามปรกติแต่กลับมีผู้ชายในชุดภูมิฐาน เสื้อสูทมีราคาบอกว่าเขาคงมีฐานะพอตัว

    “ช่วยมากับเราด้วยครับ”

    นั่นคือประโยคเริ่มแรกที่จุนฮงได้ยิน เด็กหนุ่มไม่คิดจะตามผู้ชายแปลกหน้าคนนี้มาอยู่แล้ว แต่การขอร้องด้วยการก้มหัวลงซ้ำๆนั่นทำให้เด็กหนุ่มอ่อนใจ สุดท้ายก้มานั่งรอในห้องรับแขกนี้

    ...ตระกูลยู...

    ป้ายหน้าบ้านเขียนไว้ว่าแบบนั้น จุนฮงไม่รู้ว่าทำไมเขาต้องมาที่นี่ แต่จากการเล่าให้ฟังคร่าวๆของทนายจองฮวาที่ไปรับเขามาคือเกี่ยวกับพินัยกรรมอะไรสักอย่าง

    จุนฮงคิดว่าตนเองไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับตระกูลยูนะ แต่ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงถูกไปเชิญตัวมาได้

     

    “รอนานไหมลูก?”เสียงทุ้มๆของชายวัยกลางคนเอ่ยข้นเรียกสติของจุนฮงกลับมา เด็กหนุ่มร่างสูงรีบลุกขึ้นโค้งทักทายผู้ชายตรงหน้ากับผู้หญิงวัยกลางคนอีกคน ใบหน้าของเธอประดับด้วยรอยยิ้มเอ็นดูเช่นเดียวกับชายวัยกลางคนนี้ ทำให้จุนฮงคิดถึงพ่อกับแม่...

    ...พ่อกับแม่ที่จากจุนฮงไปแล้ว...

    “ขอโทษทีนะจ๊ะ พอดีคุณแทฮันเกิดติดสายด่วนจากนิวยอร์ค เลยมาพบจุนฮงช้าไปนิด”หญิงวัยกลางคนว่า เธอคงหมายถึงผู้ชายที่นั่งข้างๆกัน แต่ที่ติดในใจคือเธอรู้จักชื่อของจุนฮง

    “แล้วนี่ทานอะไรหรือยัง ใกล้เวลาทำงานแล้วหรือเปล่า พ่อกับแม่รบกวนเวลาหนูหรือเปล่า”คำพูดจาเป็นกันเองจนเกินไปทำให้จุนฮงเกิดความระแวงขึ้นในใจ ทำไมชายหญิงสองคนนี้เรียกคนที่เคยพบกันครั้งเดียวว่าลูกได้อย่างเต็มปากเต็มคำแบบนี้กัน? แต่จุนฮงได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ เด็กหนุ่มปฏิเสธด้วยการส่ายหน้า บอกว่าจัดการตัวเองมาเรียบร้อย แล้วก็อีกหลายชั่วโมงกว่าจะถึงเวลาเข้างาน

    “พวกคุณมีธุระอะไรกับผมเหรอครับ? เอาจริงๆ...ผมไม่รู้จักพวกคุณ ผมไม่เข้าใจ ทำไมพวกคุณเรียกผมว่าลูก เรียกแทนตัวเองว่าพ่อแม่”เด็กหนุ่มเอ่ยถามนั่นเรียกรอยยิ้มจากสามีภรรยาตระกูลยูได้ดี ยูแทฮันหยิบเอกสารบางอย่างก่อนจะส่งให้จุนฮง เด็กหนุ่มรับมันมา ตัวหนังสือยาวเหยียดดูน่าปวดหัว แต่เนื้อหาใจความสำคัญมันอยู่เพียงบรรทัดรองสุดท้าย

     

    ...ให้ยูยองแจแต่งงานกับชเวจุนฮง...

     

    นี่มันคืออะไรกัน!? จุนฮงละสายตาจากเอกสารตรงหน้าแล้วมองหน้าสามีภรรยาด้วยความสับสน

    “...ค..พวกคุณหมายความว่ายังไง”ถามไปแบบไม่เข้าใจตนเอง ลองมองอีกครั้งก็ยังเป็นแบบเดิม เอกสารเขียนไว้อย่างชัดเจนว่าให้จุนฮง...แต่งงานกับใครสักคนหนึ่ง

    “นี่เป็นพินัยกรรมที่คุณพ่อของแทฮันเขียนไว้น่ะจ่ะ คุณปู่เคยเป็นเพื่อนกับคุณปู่ของหนู ท่านสัญญากันไว้ ว่าหากมีหลานจะให้ดองกันเพราะพื้นเพบ้านของหนูค่อนข้างยากจน...คุณปู่เลยอยากช่วยเหลือ”

    “...”

    “ท่านกลัวว่าลูกหลานจะไม่ทำตามข้อตกลงของท่านกับเพื่อนเลยเขียนไว้ในพินัยกรรม ว่าหากหนู...ไม่แต่งงานกับหลานของท่าน ทรัพย์สินทุกอย่างจะถูกโอนเข้าสู่การกุศลทันที”

    “...”

    “พินัยกรรมนี่ก็เพิ่งถูกเปิดเมื่อวานนี่เอง เพราะคุณปู่เพิ่งเสียไปเมื่อเดือนที่แล้วน่ะจ่ะ”

    ...

    ..

    .

    จุนฮงพูดอะไรไม่ออก...นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน มันไม่ใช่นิยายแต่มันคือเรื่องจริงงั้นเหรอ? การถูกบังคับให้แต่งงานเพราะพินัยกรรมเนี่ยนะ...บ้าเกินไปกันล่ะมั้ง?

    “ผมเสียใจเรื่องคุณปู่...แต่จะให้ผมมาแต่งงานกับใครก็ไม่รู้...ผมทำไม่ได้ อีกอย่าง ผมเพิ่งอายุ20เองนะ”ไม่มีทางที่จำเป็นต้องเอาชีวิตไปผูกติดกับใครตอนนี้ สีหน้าของสามีภรรยาตรงหน้าเริ่มเจื่อนลง จุนฮงเห็นว่าแววตาของหญิงวัยกลางคนเริ่มแวววาวด้วยหยดน้ำ มือของเธอบีบเข้าหากันแน่น

    “แม่...แม่กับพ่อไม่มีสิทธิ์จะบังคับหนู...แต่...ช่วยเห็นแก่พวกเราที”เธอก้มศรีษะให้พร้อมเอ่ยขอร้องด้วยเสียงสั่นเครือ เมื่อเห็นว่าจุนฮงยังนิ่งเฉย ร่างบอบบางจึงลูกขึ้นแล้วคุกเข่าลงตรงหน้าพาเอาจุนฮงเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ที่ตกใจเหมือนกันคงไม่พ้นสามียูแทฮัน เขารีบคว้าตัวภรรยาเอาไว้ตะคอกถามเสียงดังว่าทำไมทำอย่างนี้

    หญิงวัยกลางคนๆนั้นสะบัดออกจากการจับกุม ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยหยาดน้ำตา เสียงสะอื้นนั้นล่ะล่ำล่ะลั่กขอร้องจุนฮงไม่มีหยุด

    “ขอร้องล่ะลูก...เราเสียบริษัทยูคอปไปไม่ได้...เราจะไม่เหลืออะไรเลย แม่ขอร้อง...แต่งานกับพี่ยองแจเถอะนะลูก”หน้าผากขอเธอแนบชิดติดกับพื้นอย่างน่าสงสาร แม่สามีจะเหนี่ยวรั้งเธอขึ้นมาแต่เธอก็ไม่ลุก จุนฮงมองเห็นใบหน้าที่กลัดกลุ้มของยูแทฮา เด็กหนุ่มรู้ว่าผู้ชายคนนี้กำลังเสียใจไม่แพ้กัน เพราะหากเขาไม่แต่งงาน...ทั้งบ้านก็จะไม่เหลืออะไรเลย

     

    ...เวทนา...

     

    จุนฮงเจ็บปวดในใจเมื่อมองที่หญิงวัยกลางคนที่ร้องไห้ลั่น ก้มหัวชิดพื้นแบบนี้ ฟันขาวขบกับริมฝีปากสีสดอย่างใช้ความคิด แล้วเสียงถอนหายใจก็ดังออกมาจากริมฝีปากคู่นั้น จุนฮงกำมือแน่นก่อนจะลุกขึ้นยืนช้าๆ ไหล่บอบบางของเธอสั่นไหว จุนฮงแตะเบาๆทับกับมือหนาของยูแทฮาที่ประคองภรรยาอยู่ ดึงให้คนที่ร้องไห้ลุกขึ้นจากพื้น เด็กหนุ่มคว้ามือของสามีภรรยามากุมเอาไว้ กัดฟันพูดออกไป...

     

    “ผมจะแต่งงานกับลูกของพวกคุณ...หยุดร้องไห้เถอะครับ”

     

     

     

    B L A C K P A R A D I S E

     

     

     

    จุนฮงใส่แผ่นเข้าเครื่องด้วยใจเหม่อลอยจนบังยงกุกพี่ชายตัวโตต้องตบที่หัวเพื่อเรียกสติ ก็ตั้งแต่ออกจากบ้านตระกูลยูมาด้วยรถคันเดิมที่ไปรับเขาถึงหน้าบ้าน จุนฮงก็คิดไม่ตกเลยว่าจะทำอย่างไรกับชีวิตต่อไปดี ชีวิตเด็กอายุ20ที่มีอิสระต้องถูกริดรอนมันไปเพราะคำว่าแต่งงานงั้นเหรอ?

    “เฮีย...เฮียคิดจะแต่งงานกับพี่คนสวยนั่นไหม?”จุนฮงถามถึงพี่คนหน้าสวยๆที่พี่ยงกุกพามาเปิดตัวไม่นาน เห็นว่าคนนี้เองที่ทำให้พี่ชายของจุนฮงเป้นบ้าเป็นบอ ซึมกะทือไปตั้งนาน สุดท้ายก็ใจอ่อนยอมให้พี่ชายคนนี้แก้ตัว

    “ไม่ว่ะ...ฮิมชานคงไม่ยอม นี่ยอมกลับมาคืนดีก็บุญหัวเท่าไหร่แล้ว”ชายหนุ่มว่าขำๆ ต้องทนรอตั้ง3ปีกว่าที่ฮิมชานจะยอมให้โอกาส แล้วตั้ง1ปีกว่าฮิมชานจะยอมกลับมาอยู่ที่เกาหลี ถ้าขอแต่งงานนี่ต้องรออีกกี่ปีก็ไม่รู้

    ก็อยู่แบบนี้ก็ดีแล้ว ถึงไม่ได้ผูกมัดกันด้วยทะเบียนสมรส แต่เราก็รักกันดี

    “แล้ว...เฮียคิดว่าไงถ้าผมจะแต่งงาน”ยงกุกหัวเราะพรืดทันทีที่น้องพูดจบ มือหนาโบกไปมา

    “เอ็งเพิ่ง20เองนะเจลโล่ คิดอะไรตอนนี้วะ ทำงานไปนู่น อย่าใจลอย”ว่าแล้วก็ตบหัวน้องสองสามทีก่อนจะเดินออกไปหน้าผับเพื่อโทรหาคนรัก จุนฮงถอนหายใจพรืด นั่นสินะ อายุแค่นี้ไม่ควรจะคิดเรื่องแต่งงานเลยด้วยซ้ำ

    แต่ยังไงก็ตอบตกลงสามีภรรยาคู่นั้นไปแล้ว จุนฮงไม่อยากกลับกลอกตลบตะแลง อีกอย่าง...น้ำตาของยูฮยอนอานั้นทำให้จุนฮงรู้สึกแย่ รู้สึกแย่ที่ดันนึกถึงแม่...แม่ที่ยังอยู่ในความทรงจำของจุนฮงเสมอ แม่...ที่ร้องไห้และก้มลงกราบอ้อนวอนเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวให้ปันเส้นบะหมี่ให้เธอ เพื่อที่เธอ จะได้ให้ลูกกิน

    ...จำได้ว่าจุนฮงร้องไห้จ้าเมื่อตอนเห็นภาพแม่ทำแบบนั้น...

    เพราะฐานะครอบครัวที่จนอย่างที่คุณปู่ยูบอก เราอยู่กันอย่างอัตคัด พ่อกับแม่ทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมสีสเปรย์ และจากจุนฮงไปเมื่อหลายปีก่อนในเวลาไล่เลี่ยกันด้วยโรคมะเร็งปอด...

     

    เด็กหนุ่มตัดสินใจเดินเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าล้างตาเสียหน่อย ให้ร่างกายได้กระปรี้กระเปร่าเสียบ้าง ทว่าหน้าห้องน้ำ เด็กหนุ่มกลับมองเห็นคนสองคนกำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอย่างเมามัน ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ซุกไซร้ริมฝีปากไปที่ลำคอขาวนวลของผู้ชายอีกคน

    ...หน้าไม่อายจริงๆ...

    ผู้ชายตัวเล็กนั่นคงเป็นพวกขาย... จุนฮงบอกยงกุกหลายรอบแล้วว่าให้พยายามตรวจให้ถ้วนถี่ไม่ให้พวกขายเข้ามาในผับ เดี๋ยวจะเกิดเรื่องเกิดราว ยิ่งตำรวจเดี๋ยวนี้ยิ่งเงินขาดมืออยู่ด้วย ถ้าอยู่ดีๆมาหาลำไผ่แล้วเจอพวกขายพวกนี้คงจะเรียกเงินเพิ่ม

    ใบหน้าของคนตัวเล็กที่ผินมา ดวงตาที่หลับพริ้มนั่นทำให้จุนฮงนึกชมอยู่ในใจ

     

    “หน้าตาก็ดี...ไม่น่าทำงานแบบนี้เลยนะ”

     

     

     

     

     

     

    ทีบีซี

     

     

     

     

     

     

    รีไรต์ใหม่ ก็คล้ายๆเดิมอยู่ แต่เราเปลี่ยนอะไรบางอย่างในตัวละคร

    ขอน้อมรับคำด่าที่หายไป ชีวิตปีสุดท้ายในมหาวิทยาลัยมันหนักหน่วงจริงๆค่ะ แม้แต่ทวิตเรายังไม่ได้เข้าเลยช่วงปิดโปรเจ็ค ฮืออออออออ

     

     

    ใครอยากสกรีมเชิญที่ #ficblackparadise นะคะ เปลี่ยนแท็กเล็กน้อยเพราะเกิดความสับสน แท็กเดิมมีคนใช้

     

    รักรีดเดอร์นะ จุ๊บๆ

     

    ปล. มีบังชานเข้ามาเล็กน้อยเท่านั้น ต่อจากนี้ก็จะมีบทน้อยถึงไม่มีบทแล้วค่ะ

     

     

     

     

     

     

    มาแก้อายุน้องโล่  =_=

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×