คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Cahpter...5 SEME ONLY
Chapter 5 SEME ONLY
“ทำไมชั้นไม่รู้เรื่อง”ถึงกระนั้น คิม ฮีชอลก็ยังคงสงสัยอยู่ดี ตัวเองเป็นเจ้าบ้านแท้ๆทำไมถึงไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย...
“มันกระทันหันน่ะครับ ผมก็เพิ่งทราบเรื่องเหมือนกัน”คุณหมอคนใหม่ยิ้มน้อยๆ ก่อนจะที่ค่อยๆสอดส่องสายตามองหาอะไรบางอย่าง ทำเอาฮีชอลเกาหัวด้วยความงุนงง
“นะ...นาย เอ้ย...คุณมองหาอะไรน่ะ?”
“ไหนล่ะครับ คนไข้ ผมจะได้ลงมือรักษา”
ใช่สิ!!! ลืมไปทันทีเลยว่าตอนนี้เยซองกำลังสลบไม่ได้สติอยู่ พอนึกขึ้นได้ ฮีชอลถึงกับโมโหตัวเองทันที มัวแต่ซักไซร้าถามนู่นถามนี่ ป่านนี้...เจ้าซาลาเปาบ้านั่นจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้
“อ้อ..!!! ใช่ๆ มานี่ๆ เร็วๆเลย”ฮีชอลฉวยข้อมือของยุนโฮมาจับไว้ แล้งรีบลากไปยังห้องนอนของเยซอง แล้วจึงขอตัวออกไปคอยข้างนอก
“นี่ไง...รบกวนด้วยก็แล้วกัน”เมื่อถึงแล้ว ยุนโฮรีบเดินเข้าไปดูอาการทันที สายตาสอดส่องไปทั่วร่างกาย พลางสะดุดตากับรอยเลือดตรงช่วงล่างที่แห้งเกรอะกรัง
‘อย่าบอกนะว่า เค้าโดน...’เมื่อคิดได้ก็เข้าใจทันทีว่า คนไข้ที่เค้าต้องรักษา เพิ่งไปพบเจอกับอะไรมายุนโฮถึงกับกุมขมับเลยทีเดียว
“เฮ้อ~~~!”ว่าแล้วก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ร่างสูงค่อยๆลุกขึ้นอย่างเร่งรีบ ตรงไปยังประตู เปิดออกช้าๆ ส่งเสียงเรียกร่างบางของฮีชอลที่ยืนหันหลังอยู่
“คุณฮีชอลครับ”
แค่เรียกครั้งเดียว ฮีชอลที่ยืนกังวลอยู่นั้นถึงกับรุดมาเขย่าตัวของยุนโฮทันที
“เป็นไงบ้าง? จงอุนเป็นไงบ้าง ว่าไง...เค้าปลอดภัยใช่ไหม”พูดด้วยน้ำเสียงที่รีบร้อน เขย่าตัวร่างสูงจนหัวสั่นคลอน
“ใจเย็นๆครับ...ผมยังไม่ได้รักษาเค้า”ยุนโฮแตะที่ไหล่ของฮีชอล บอกให้ใจเย็นลงเข้าไว้
“อะไรนะ!!!! มัวแต่ทำอะไรอยู่ ถ้าเพื่อนชั้นเป็นอะไรขึ้นมา จะทำยังไง!!”อารมณ์เดือดขึ้นทันที ลงมือกระชากคอเสื้อร่างสูง ตวาดดังเสียจนลูกน้องที่คอยยืนรักษาการณ์อยู่ใกล้ๆ ต้องกรูกันเข้ามาดู
“คือ...ผมคิดว่า มีอะไรบางอย่างที่คุณต้องรู้ ผมแค่มอง...ก็ทราบแล้วล่ะครับว่า คุณเยซอง... โดนอะไรมา”เมื่อได้ยินทำเอาฮีชอลตาโต รีบเดินเข้าไปในห้องกับยุนโฮทันที แต่ก่อนที่ประตูจะปิด นางพญาก็ออกฤทธิ์
“มองหาพระแสงอะไรกัน ไปทำงานได้แล้ว อยากโดนเป่าสมองใช่ไหม!!!!”
แค่เสียงตวาดดังไม่ทันไร ลูกน้องทั้งหลายต่างยกโขยงวิ่งหนีกันอย่างจ้าละหวั่นเลยทีเดียว ร่างบางส่ายหัวน้อยๆ หันหลังเดินเข้าห้อง ค่อยๆปิดประตูลง
“จงอุนไปโดนอะไรมา?”ฮีชอลนั่งลงข้างๆเตียง สายตาสอดส่องไปทั่วร่างกายของร่างหนา ตาคู่สวยไปสะดุดกับรอยสีแดงระเรื่อที่ประดับอยู่บริเวณช่วงอกแล้วลำคอ
ตอนแรกไม่เห็น เพราะเสื้อปิดเอาไว้ แต่เมื่อกี๊...รู้สึกว่า เซมีจะเอาน้ำอุ่นมาเช็ดหน้าตาของเยซอง แต่ ปลดกระดุมเสื้อออก
อย่าบอกนะว่า...
“ขะ....ข่มขืนเหรอ?”ไม่อยากจะเชื่อ ฮีชอลถึงกับลุกไปกระชากเสื้ออกจนขาดวิ่น เผยให้เห็นร่างกายที่แต่งแต้มไปด้วยรอยสีเข้มและอ่อนคละกันไป เห็นอย่างนั้น...น้ำตาถึงกับคลอเบ้าเลยทีเดียว
“และให้ผมเดา ไม่ใช่แค่คนเดียวแน่ครับ”ฮีชอลเงยหน้าขึ้นมองร่างสูงของยุนโฮ สีหน้าแสดงถึงความไม่เข้าใจ ถึงกระนั้น คุณหมอคนใหม่ กลับไม่ได้มองจ้องตอบ สายเหลือไปมองที่ช่วงร่างของเยซองแทน
“เอาล่ะ ผมจะขอทำแผลเค้า ถ้ายังไงก็ ชะ....”
“ไม่!...ชั้นจะอยู่ดู”
“โอเคครับ”
ตอนแรกกะว่าจะทำแผลแล้วเชิญให้ร่างบางออกไปข้างนอก แต่ยังไม่ทันจะพูดจบประโยค เสียงโวยวายของฮีชอลก็ตามมาในทันที ตัวเค้าไม่กล้าขัดใจ เพราะได้ยินกิตติศัพท์อันลือเลื่องของParadiseแล้ว ยอมๆไปดีกว่า
คุณหมอคนใหม่เริ่มลงมือปลดกางเกงของเยซองออกช้าๆ วางไว้ข้างๆตัว ลงมือถอดชั้นในตัวจิ๋วที่ตอนนี้แต่งแต้มไปด้วยรอยเลือดเกรอะกรัง
ด้านคิม ฮีชอล มองจ้องไม่กระพริบตา ระหว่างนั้นนึกขึ้นได้ จึงหันไปสะกิดร่างสูง
“นี่...ชั้นขอดูเองได้ไหม?...เอ่อ...แผลตรงนั้นน่ะ”
“เชิญครับ”ยุนโฮเมื่อได้ยินดังนั้น จึงละออกมา
ฮีชอลค่อยๆจับขาของร่างหนาแหวกออก สายตาสอดส่องไปทั่ว จนไปสะดุดกับช่องทางรักที่ฉีดขาดและบวมจนน่ากลัว ดูก็รู้ว่า..ถูกกระทำมาจน...หนักหนาสาหัสขนาดไหน คิดได้ดังนั้น ขอบตาก็ร้อนทันที ไม่มีคำพูด ไม่มีอะไรทั้งนั้น มีแต่...หยดน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม2ข้าง
“ชั้น..ชะ...ชั้น ทนดูไม่ได้ ขอตัวก่อนนะ”ว่าแล้วก็รีบวิ่งออกไปจากห้องทันที ทิ้งให้ยุนโฮลงมือทำแผลและใส่ยาต่อไป
“ฮึก...คะ...ใคร...มันช่าง...ฮึก...โธ่เว้ย!!!!”ฮีชอลทรุดตัวนั่งตรงบันได ปิดหน้าปิดตาร้องไห้อย่างแค้นเคือง
“พี่ฮีชอล พี่เป็นอะไร เกิดอะไรขึ้น”รยออุกกับทงเฮที่กำลังเดินตามหาฮีชอลทั่วบ้าน รุดเข้าไปดูอาการพี่ชายหน้าสวยทันที
“ฮึก...ทงเฮ...ระ....รยออุก”โผเข้ากอดน้องทั้ง2คน ร้องไห้ฟูมฟาย ทำเอาทงเฮและรยออุกถึงกับเกาหัวด้วยความงุนงงทันที
“ปะ...เป็นอะไรพี่...กะ..เกิดอะไรขึ้น?”รยออุกเอยถามอย่างไม่เข้าใจ พลางเอามือเล็กลูบไปมาที่หลังของฮีชอล
“ใช่พี่ เกิดอะไรขึ้น?”ทงเฮเชยหน้าของฮีชอลขึ้นมา สายตามองอย่างเป็นกังวล
“จงอุน...จะ...จงอุน โดน ฮึก....”ฝืนกลืนก้อนที่จุกอยู่ตรงคอ พูดด้วยน้ำเสียงสั่น
“โดนอะไร พี่จงอุนเป็นอะไร?”
“จงอุน...โดน...ข่มขืน”
“หา!!!! ขะ...ข่มขืน”รยออุกกับทงเฮได้ยินดังนั้นถึงกับทรุดทันที
“ใคร....มันช่าง..เลวทราม ต่ำช้า”ฮีชอลปาดน้ำตาออก ลุกขึ้นยืน สายตาอาบไปด้วยความอาฆาตแค้น
“Negativeไงล่ะ”ฮีชอลหันไปมองต้นตอของเสียงทันที ไม่ใช่ใครที่ไหน ชินดงนั่นเอง
“นะ...นายว่าไงนะชินดง Negativeงั้นเหรอ?”
“อืม Negative มาเฟีย3แผ่นดินไงล่ะ”
สิ่งมีชีวิตทุกชนิดหยุดเคลื่อนไหว ชินดงไม่รอช้า ชี้แจงต่อทันที ไม่สนใจร่างบางของฮยอกแจ อีทึกและร่างหนาของซองมินที่เพิ่งเดินเข้ามารวมกลุ่ม
“3แผ่นดินที่ชั้นว่าเนี่ย คือ เกาหลี อเมริกา จีน สมาชิกแก๊งค์นี้ หลักๆจริงก็มี 5 คน”พูดไปก็หยิบแฟ้มเอกสารส่งให้ ฮีชอลรับมา เปิดดูรายละเอียดช้าๆ”
“คนแรกน่ะ ‘ฮันกยอง’ หมอนี่เป็นคนจีน มีแก๊งค์อยู่ที่จีนแล้วนะ มันเพิ่งสละตำแหน่งหัวหน้าไป เพราะแก๊งค์ที่บ้านเกิดมันมีปัญหา กำลังจะบินกลับไปสะสาง เลยต้องทิ้งตำแหน่งเพื่อจะได้ไม่ยุ่งยาก”
“ต่อมาก็ ‘ชเว ซีวอน’ เพล์ยบอยประจำกลุ่ม เห็นหล่อๆอย่างนั้นน่ะ ร้ายใช่ย่อย ธุรกิจอุตสาหกรรมเกือบค่อนโลกน่ะ... มรดกประจำตระกูลมันทั้งนั้น หลังจากที่ฮันกยองสละตำแหน่ง มันก็เลยรับช่วงต่อแทน”
“คนที่สาม คิม ยองอุน เรียกสั้นๆ ‘คังอิน’นักเลงโตประจำกลุ่ม เห็นผับที่กำลังสร้างตรงข้ามร้านเราไหมล่ะ นั่นล่ะ...ร้านของมัน หมอนี่อารมณ์ร้อน ใครทำให้มันเดือดทีไร ได้ลงไปนอนในโลงไม่ก็อัพาตอยู่ในICUทุกที”
“คนต่อมา คิม คิบอม มาจากอเมริกา หมอนี่ทำหน้าที่โต้โผใหญ่ คุมผับในLA วันๆไม่ทำอะไรหรอก นั่งทำงานศิลปะ ไม่ก็...นับเงินในบ่อนเล่น เกลียดคำว่ารักขั้นเทพ ได้ยินมาว่า มันเคยผิดหวังมาน่ะ เลยเข็ดขยาด”
“คนสุดท้าย น้องเล็กสุดท้อง โจ คยูฮยอน หล่อๆนิ่งๆแบบเนี้ย ซาตานมาเกิดชัดๆ เพิ่งเรียนอยู่ปี1 เอง มันได้สิทธิพิเศษ ขนาดที่ว่าตอนไปรับน้อง มันไม่ยอมไป เลยมีเรื่องกับรุ่นพี่ ผลปรากฏ2วันต่อมา ไอ้รุ่นพี่ที่ว่าน่ะ พิการ เสียขากับแขนไปอย่างละข้างเลยล่ะ เจ้านี่สนิทกับคิม คิบอม เพราะแม่มันเปิดโรงเรียนสอนศิลปะ เลยชอบอะไรคล้ายๆกัน”
ฮีชอลกำแฟ้มในมือแน่น ใบหน้าแสยะยิ้มอย่างผู้มีชัย
“รู้สักที ว่าใครมันบังอาจมาล้อลเนกับกลุ่มเรา ว่าแต่...ชินดง นายรู้ได้ไงว่าเป็นฝีมือของอะ..ไอ้กลุ่มNegativeบ้านี่”
“ชั้นรู้ว่ามา...หลายวันที่ผ่านมาเนี่ย จงอุนมันโดนไอ้ฮันกยองหาเรื่องอยู่ แล้วมีคนเห็นมา จงอุนน่ะ ถูกไอ้ฮันกยองลากขึ้นรถไปเมื่อวานตอนที่พวกเรานัดประชุมสมาชิกในกลุ่มกัน ชั้นเลยมั่นใจว่า ยังไงก็ต้องเป็นฝีมือของไอ้พวกนี้แน่ๆ”
“หึ..ดี งั้นนายช่วยไปสืบที่อยู่ของพวกมัน ทั้งที่จีน เกาหลี อเมริกา แล้วก็ สืบด้วยว่ามันชอบไปขลุกอยู่ตรงไหน ฝากด้วยนะ”ฮีชอลเดินเขาไปตบไหล่ชินดง ชายตุ้ยนุ้ยยิ้มน้อยๆ พลางเดินจากไป
“เอาล่ะ..ชั้นคิดว่า หลังจากที่เราสงบศึกพักผ่อนกันมานาน ได้เวลาที่เราจะต้องเริ่มงานชิ้นใหม่แล้วล่ะ”ฮีชอลประกาศก้อง ใบหน้ายิ้มน้อยๆแต่ในดวงตานั้นกลับดูร้อนรุ่มจนลุกเป็นไฟ
คนที่เหลือ ทั้งทงเฮ อีทึก ซองมิน ฮยอกแจ และรยออุก ต่างยืนมองหน้ากันแล้วยิ้มน้อยๆ
“พี่ฮีชอล ผมขอจัดการ ชเว ซีวอนเองครับ”ฮยอกแจก้าวเข้ามาหา เอ่ยด้วยน้ำเสียงกังวาล ใบหน้าอาบไปด้วยความเย็นชา ฮีชอลเห็นดังนั้น จึงพยักหน้าตกลง
“อืม หน้าที่นี้ ไอ้หทอนี่ นายรับผิดชอบก็แล้วกันนะ”
“เอ....ว่าแต่ ทำไมนายถึงอยากจัดการไอ้ซีวอนอะไรนี่นักล่ะ”ซองมินถามด้วยความสงสัย
“ปัญหาเก่าๆน่ะ เอาเป้นว่าเดี๋ยวค่อยเล่าละกัน”พูดจบก็เดินไปรับเอกสารจากฮีชอล มุ่งตรง้ข้าห้องทันที
“อีทึก ชั้นให้นายจัดการ คังอิน ได้ไหม”ฮีชอลยื่นแผ่นกระดาษที่ดึงออกจากแฟ้มส่งให้ร่างบางของอีทึกที่ยืนอยู่ข้างๆ
“อืม แล้วแต่”ว่าแล้วก็รับไปพลางเดินกลับห้องของตัวเอง”
“รยออุก นายสนิทกับจงอุนนี่ งั้นชั้นว่า นายอยู่ดูแลจงอุนดีกว่า เพราะอีกอย่าง นายไม่ชอบเรื่อง
รบราฆ่าฟันกันไม่ใช่เหรอ?”
“ครับฮยอง”รยออุกถอยมายืนอยู่ข้างๆฮีชอล จ้องมองพี่ชาย2คนที่เหลือ
“ทงเฮ จัดการ คิม คิบอมซะ”
“ครับ^^”อมยิ้มน้อยๆ ถือแผ่นกระดาษเดินกลับเข้าห้อง
“ส่วนนาย ซองมิน พี่ให้นายจัดการคยูฮยอน เพราะว่า เท่าที่อ่านดู นายเรียนอยู่ที่เดียวกับหมอนี่นี่นา”
“ครับ ผมเคยเห็นเค้า แต่ไม่ได้ใส่ใจอะไร”รับเอกสาร กำลังจะเดินกลับเข้าห้อง แต่...เพิ่งนึกขึ้นได้ หันกลัมาถามฮีชอลที่ยืนจ้องเอกสารอีกใบที่อยู่ในมือ
“แล้วพี่ล่ะ จัดการไอ้คนจีนนั่นใช่ไหม?”
“อืม นี่ซองมิน เรียกเซมีให้พี่หน่อยสิ”
“ทำไมล่ะฮะ?”
“บอกให้จัดกระเป๋าให้พี่หน่อย สงสัยคงต้องไปเยือนแดนมังกรซะแล้วล่ะ”พูดจบก็เดินลงไปข้างล่างทันที มือบางกำแผ่นกระดาษในมือไว้แน่น
........คิดว่ามันจะจบง่ายๆเหรอ เพิ่งเริ่มเกมส์ต่างหาก หึ...เดี๋ยวจะได้รู้ว่าใครกันแน่... ที่เป็นผู้ชนะ
..............................................................
อัพแล้วค่า เอาล่ะ ใกล้จะพบเจอกันแล้ว ยังไงก็ ขอให้ติดตามด้วยนะคะ^^
ความคิดเห็น