คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : ตอนที่ 8 เจ็บทั้งกาย เจ็บทั้งใจ
ตอนที่ 8
ศิวัชนั่งมองเหม่อผ่านกระจกใสไปยังทิวทัศน์เบื้องหน้าด้วยท่าทางที่ครุ่นคิด คำพูดของน้องสาวต่างบิดามารดาทำให้เขาเกิดความสับสนสังเล
ภาพที่พิมพิศาดูแลห่วงใย ใส่ใจพ่อของเขานั้นมันทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะเอนเอียงไปตามคำพูดของรัญญา ความโกรธเกลียดที่เริ่มจะจางหายกลับมาในห้วงความรู้สึกอีกครั้ง แต่ดูเหมือนในครั้งนี้ความเจ็บใจและความเจ็บปวดมันจะเพิ่มตามมาด้วย
ยัยตัวร้าย...!!
มือหนาเรียวกำเข้าหากันแน่นเมื่อคิดถึงใบหน้าหวานที่ทำให้เขาสั่นไหวและโอนอ่อนไป เขาเจ็บใจตัวเองอย่างบอกไม่ถูกที่หลงไปเคลิ้มกับท่าทีของพิมพิศา
“กรกฏ...วันนี้ฉันมีธุระนะ!! ถ้ามีอะไรจัดการแทนฉันด้วย”
ชายหนุ่มขับรถมายังสถานบันเทิงที่เขาคุ้นเคยเป็นอย่างดี บริกรต่างออกมาต้อนรับและเชื้อเชิญให้เขาไปข้างในร้าน เขาเลือกนั่งที่โต๊ะที่อยู่มุมในไม่ต้องเห็นผู้คนผ่านไปมามากนัก
“วันนี้ไม่ต้องพาสาวๆมานั่งนะ ฉันอยากนั่งเงียบๆ” เขาบอกกับบริกรหนุ่มสั้นๆ ก่อนจะกระดกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม
ภาพของพิมพิศายังเข้ามาวนเวียนในความรู้สึกของเขา รอยยิ้มและเสียงหัวเราะที่เคยทำให้เขาหวั่นไหวบัดนี้มันกลายเป็นทำร้ายเขาไปเรียบร้อยแล้ว
ยัยแม่มด...
เขาต่อว่าพยาบาลสาวในใจ และใจหนึ่งนั้นก็โมโหตัวเองไม่น้อยเลยที่ปล่อยให้ความรู้สึกดีดีเพียงวันเดียวมาทำให้ไขว้เขวอ่อนไหวไปได้อย่างง่ายดาย
เหล้าหลายต่อหลายแก้วที่ถูกรินและไหลงสู่ร่างกายของเขาราวกับมันเป็นเหมือนน้ำเปล่า และมันก็ดื่มมากมายพอที่จะทำให้เขาเกิดอาการมึนเมาได้
นานนับชั่วโมงกว่าที่เขาจะก้าวออกมาจากร้านเหล้า ซึ่งในเวลานี้สติสัมปชัญญะของเขานั้นถูกแอลกอฮอล์กลืนเข้าไปแล้วจนหมดสิ้น
ทำไมถึงเป็นคนแบบนี้นะ...พิมพิศา!!
คุณมันเป็นคนเห็นแก่เงิน...เพียงนี้เลยหรือไง...!!
คำถามซ้ำไปซ้ำมาวนเวียนในหัวของเขาอย่างไม่จบสิ้น ยิ่งคิดถึงเรื่องนี้มากเท่าไร ศิวัชยิ่งเคียดแค้นมากขึ้นเท่านั้น และส่งผลให้หัวใจของเขามันเกิดการบีบรัดมากยิ่งขึ้นเช่นกัน
พิมพิศา...คุณร้ายกาจมาก!!
พิมพิศาพลิกตัวไปมาด้วยความกระสับกระส่ายบนที่นอนนุ่ม จิตใจของเธอกระวนกระวายและไม่เป็นสุขเอาเสียเลยเมื่อศิวัชบึ้งตึงกับเธอตั้งแต่เมื่อวาน
ดวงตาคมคายที่มองมาอย่างมุ่งร้ายและเย็นชายังคงติดตราในความรู้สึกเธออยู่ตลอดเวลา ส่งผลให้เธอไม่สามารถข่มตาให้หลับลงได้เลย
ไปสนใจเขาทำไมกันนะ...
ใบหน้านวลสลัดศรีษะไปมาและปิดเปลือกตาลง พิมพิศานับแกะในใจเพื่อให้ตัวเองหลับลง แต่เมื่อผ่านไปเกือบร้อยตัวเธอยังไม่สามารถที่จะหลับลงได้แม้แต่นิดเดียว
แอ๊ด!!
เสียงประตูห้องนอนถูกเปิดขึ้นมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ไม่มีเสียงเคาะประตูแม้แต่นิดเดียว ทำเอาคนที่นอนไม่เป็นสุขสะดุ้งขึ้นด้วยความกลัวทันที
ใครนะ!!
โคมไฟที่เตียงถูกเปิดขึ้นมาและมันทำให้พิมพิศาตกใจมากยิ่งขึ้น หัวใจเธอกระตุกเต้นไม่เป็นจังหวะและควบคุมไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียวพร้อมกับมือบางเรียวที่เย็นเยียบ
“คุณศิวัช!!” หญิงสาวอุทานด้วยความตกใจ เธอสามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นเหล้าที่ลอยคละคลุ้งเข้ามายังจมูก และมันทำให้รับรู้ได้ถึงสัญญาณอันตรายทันที
ร่างบางคว้าเสื้อคลุมแล้วรีบสวมใส่อย่างรวดเร็ว ท่าทางของเธอยังคงงุนงงและหวาดกลัว แม้ว่าศิวัชจะเป็นชายหนุ่มรูปงามแต่ในเวลานี้ท่าทางเขาเหมือนซาตานมากกว่า
“ช่าย... ผมเองงงง ” เสียงอ้อแอ้และระรัวดังขึ้น เขายืนพิงกำแพงด้วยท่าทีที่ไม่มั่นคงพร้อมกับแววตาหวานเยิ้มเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์
“คุณเข้าผิดห้องน่ะ... นี่มันห้องนอนฉันนะคะ!!”
“ไม่ผิดหรอกน่า!!” เขาตอบกลับด้วยเสียงแข็ง และยังคงจ้องมองเหยื่อด้วยแววตาน่ากลัว
พิมพิศาหัวใจเต้นระรัวด้วยความหวาดกลัว ยิ่งได้เห็นแววตาและท่าทางที่คุกคามของเขามันทำให้เธอรับรู้ถึงอันตรายที่มีเพิ่มมากขึ้น
ศิวัชไม่ได้สนใจน้ำเสียงแหวที่เอ่ยขึ้นหรือเห็นใจท่าทางเสียขวัญของพิมพิศาแม้แต่นิด เขายังคงคิดเพียงแค่ว่าเธอเป็นผู้หญิงเห็นแก่เงินและหลอกลวง
“คุณคิดจะจับพ่อผมใช่ไหม!!” ชายหนุ่มกล่าวหาด้วยน้ำเสียงเครียด
“ฉันไม่ได้คิดจะจับพ่อคุณนะคะ... ฉันแค่ทำหน้าที่ฉันเท่านั้นเอง” หญิงสาวเถียงกลับไปด้วยน้ำเสียงสั่นไหวไปพร้อมกับใช้มือกระชับเสื้อคลุมให้แน่นหนาที่สุด
ร่างสูงก้าวเดินเข้ามาอย่างช้าช้าและใช้ดวงตาคมคายจ้องมองมาที่ใบหน้านวลเหมือนกับราชสีห์ที่จ้องตะครุบเหยื่อ ทำให้ลูกกวางน้อยถึงกับชะงักและรนรานหาทางออกอย่างยากเย็น
พิมพิศาก้าวเท้าถอยหลังอย่างช้าช้าและหันมองซ้ายมองขวาด้วยความระแวง แต่ดูเหมือนว่าการกระทำของเธอจะช้ากว่าเขาหลายเท่านัก เพราะในเวลานี้ศิวัชได้ก้าวมาประชิดเรียบร้อยแล้ว
“พ่อผมหลงคุณ... เอ็นดูคุณ... ผมอยากรู้จังว่าคุณมีอะไรดี!!” เขาพึมพำด้วยน้ำเสียงอ้อแอ้ มันไม่ได้มีแต่ความแค้นในน้ำเสียงเท่านั้น แต่ยังคงเจือไปด้วยความเครียดและความเจ็บปวดอย่างไม่ทราบสาเหตุ
“อย่ามาดูถูกฉันนะ!!” พิมพิศาแหวกลับไปด้วยความโกรธปะปนกับความเสียใจ
ดวงตาคมคายกวาดมองไปทั่วทั้งเรืองร่าง สายตานั้นเหมือนไฟลามเลียแผดเผาให้เธอละลาย เสื้อผ้าที่บางเบาและพริ้วไหวทำให้จินตนาการของเขาเตลิด
“อย่ามาทำท่าทางน่าเกลียดแบบนี้นะและต่อให้ฉันจะทำอะไรมันก็เรื่องของฉัน... ฉันกับคุณไม่ได้เป็นอะไรกัน!!”
“งั้นถ้าผมกับคุณเป็นอะไรกัน... ผมก็สิทธิ์พูดใช่ไหม... พิมพิศา!!” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นพร้อมกับคว้าร่างบางมาไว้แนบอก
พิมพิศาหน้าแดงขึ้นเมื่อสัมผัสได้ถึงความใกล้ชิดที่ระหว่างเขาและเธอ ลมหายใจที่คละคลุ้งไปด้วยกลิ่นเหล้ากระทบจมูกเธออย่างชัดเจนรวมไปถึงอกอวบอิ่มที่เบียดกับร่างสูง
“ปล่อยฉันนะ!!...คุณมันบ้าไปแล้ว” พิมพิศาแหวและพยายามดิ้นให้หลุดพ้นจากพันธนาการการเกาะกุมของศิวัช
ริมฝีปากหนาฉกเข้ามาที่ใบหน้านวลอย่างรวดเร็ว จนพิมพิศานั้นนิ่งงันไปกับสัมผัสที่ได้รับ หัวใจเธอเต้นระรัวเป็นสองเท่าเมื่อถูกจู่โจม
ศิวัชไม่ได้รุนแรงและโหดร้ายแม้แต่นิด เขาเพียงแค่จาบจ้วงและรุกเร้ากับเป้าหมายตรงหน้า มือหนาเรียวบังคับให้เธอเปิดปากเพื่อที่จะได้สัมผัสถึงความหอมหวานที่ซ่อนอยู่ภายใน
พิมพิศาอู้อี้ในลำคอและพยายามประท้วงให้เขาหยุดการกระทำ แต่ดูเหมือนจะเป็นการปลุกเร้าให้ชายหนุ่มอยากจะครอบครองเรือนร่างบางมากยิ่งขึ้น
ศิวัชไล้ริมฝีปากมายังที่ซอกคอขาวเนียนพร้อมกับลูบไล้ทรวงอกอวบอิ่มอย่างถือวิสาสะ ความงดงามของเรือนร่างที่เขาสัมผัสนั้นมันทำให้เขาอยากจะลิ้มลองถึงเนื้อแท้ที่ถูกปกปิดด้วยชุดนอนบางเบา
“อย่านะคะ... ปล่อย... ปล่อยฉัน...ปล่อยฉันนะคะ” หญิงสาวร้องห้ามด้วยความยากเย็นเพราะความวาบหวามที่เขามอบให้ทำให้เธอไร้เรี่ยวแรงที่จะประท้วง
ศิวัชกระตุกผ้าคลุมและไล้สายชุดนอนลงไปกองที่พื้นโดยไม่สนใจอาการต่อต้านของพิมพิศาแม้แต่นิดเดียว เขาเองอยากจะเห็นถึงเนื้อแท้ภายในของหญิงสาวจนไม่สนใจสิ่งอื่นใด
เมื่อความหนาวเย็นมากระทบที่ผิวกาย พิมพิศาก็สามารถเรียกสติที่กระเจิดกระเจิดให้กลับเข้ามาได้ แต่ดูเหมือนมันจะช้าเกินไปเสียแล้วเมื่อศิวัชนั้นไม่สามารถควบคุมตัวเองได้แล้ว
“ปล่อยฉันนะคะ... ปล่อย...คุณศิวัชคะ...คุณ...คุณพอเถอะค่ะ” หญิงสาวห้ามเสียงสั่น และใช้เรี่ยวแรงที่เหลือผลักให้เขาออกห่างอยากสุดกำลัง
ชายหนุ่มไม่ได้สนใจท่าทางหรือการกระทำของพิมพิศาแม้แต่นิดเดียว เขายังคงเฝ้าตักตวงและลิ้มรสเนื้อแท้ที่เปล่าเปลือยตรงหน้า
“เฉยๆเถอะน่า... ผมไม่ปล่อยคุณไปหรอกนะ...” เขาดุด้วยน้ำเสียงไม่ใส่ใจ เพราะเป้าหมายหลักนั้นคือร่างเปล่าเปลือยที่แสนเย้ายวนใจ
พิมพิศาสัมผัสได้ถึงความเย็นของผ้าปูที่นอน และเห็นว่าศิวัชกำลังปลดเปลื้องเสื้อผ้าที่สวมใส่ด้วยความรวดเร็ว ทำให้ความกลัวที่ก่อเกิดนั้นเพิ่มเป็นเท่าทวีคูณ เธอรู้ดีว่าคงจะไมมี่ประโยขน์แล้วที่จะห้ามเขา
“ปล่อยฉันไปเถอะนะ...” หญิงสาวเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเศร้า แม้ทราบว่ามันไม่มีประโยชน์กับการร้องขอ แต่เธอก็ยังอยากทำเผื่อเขาจะเห็นใจเธอบ้าง
ศิวัชไม่ได้สนใจฟังสิ่งที่พิมพิศาขอแต่อย่างใด ในเวลานี้เขาคิดเพียงครอบครองเรือนร่างบางเท่านั้น และเขาไม่มีทางที่จะปล่อยให้เธอหลุดมือไปอย่างเด็ดขาด
ร่างบางขยับตัวเพื่อจะลุกขึ้นหนีไปให้พ้น เธออาศัยช่วงเวลาที่เขาปลดเปลื้องเสื้อผ้า แต่ชายหนุ่มดูจะว่องไวและรวดเร็วกว่าหญิงสาวมากนัก เขาจัดการคว้าร่างบางมาแนบอกพร้อมกับพันธนาการไว้อย่างแน่นหนา
“คุณ...ปล่อยฉันไปเถอะนะ...ปล่อย...!!” พิมพิศาประท้วงอย่างไร้เรี่ยวแรง เมื่อรับรู้ถึงเนื้อแท้ของตัวเขาที่ยามนี้กอดรัดอย่างแน่นหนา
ศิวัชก้มหน้าลงมาจุมพิตอย่างหนักหน่วงและเรียกร้อง พร้อมกับใช้มือข้างหนึ่งสัมผัสกับเรือนร่างบางทุกซอกมุม ก่อนที่จะผลักเธอล้มลงไปยังที่นอนนุ่ม
อกอวบอิ่มถูกศิวัชเชยชมด้วยริมฝีปากและมือหนาเรียวอย่างชำนาญ โดยที่เขาไม่ได้สนใจฟังเสียงห้ามที่ออกมาอย่างต่อเนื่องแม้แต่นิดเดียว
“อย่าเลยนะ... ปล่อยฉันเถอะ...”
“เงียบเถอะน่า... อย่างไงผมก็ไม่ปล่อยคุณไปหรอก” เขาเอ่ยอย่างเสียอารมณ์ไป แต่กระนั้นก็ไม่ได้ทำให้เขาหยุดรุกรานเรือนร่างที่อยู่ใต้เขาแต่อย่างใด
พิมพิศากรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดเมื่อศิวัชแทรกเข้ามาในตัวเธออย่างรวดเร็ว และนับเป็นครั้งแรกที่เขาหยุดการกระทำไปชั่วขณะหนึ่ง
“คุณ... คุณยังไม่...” ศิวัชพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่แปลกใจและรู้สึกผิด ใบหน้าคมคายฉายแววอ่อนโยนและฉายแววตาอบอุ่นขึ้นมาบ้าง
“ปล่อยฉันเถอะนะ... ฉันเจ็บ” พิมพิศาพูดด้วยน้ำเสียงเจ็บปวดก่อนจะมองชายหนุ่มอย่างอ้อนวอน
“ผมมาไกลเกินกว่าจะหยุดมันแล้ว... ผมขอโทษนะ” ชายหนุ่มกล่าวเสียงนุ่ม และก้มลงจุมพิตพิมพิศาอย่างแผ่วเบาและอ่อนหวานพร้อมลูบไล้ร่างบางอย่างถนอมและพยายามจะรุนแรงกับเธอให้น้อยที่สุด
เมื่อพิมพิศาเริ่มคุ้นเคยกับร่างกายของศิวัชขึ้นมา ศิวัชก็จัดการสอนให้เธอรู้จักและรับรู้ถึงความสุขที่เขาไฝ่หาและไม่ได้เห็นแก่ตัวและเอาเปรียบพิมพิศาแม้แต่นิดเดียว เขาพาเธอไปยังความสุขที่เธอไม่เคยรู้จักและไม่เคยพานพบมาก่อน
เมื่อความพิศวาสวาบหวามจบลง พิมพิศาก็หันหน้าหนีไปยังอีกฝากฝั่งของที่นอนนุ่มทันที เธอไม่กล้าสบสายตาคมคายแม้แต่นิดเดียว แม้ว่าสิ่งที่เขามอบให้มันจะไม่รุนแรง แต่เธอกลับเจ็บปวดและเสียใจอย่างบอกไม่ถูก
“พิมพิศา...” ศิวัชเรียกด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาและหันมองแผ่นหลังเปล่าเปลือยด้วยความรู้สึกผิด แม้ว่าลึกลงไปข้างในจะดีใจที่ได้ครอบครองหญิงสาวเป็นคนแรก
“คุณกลับห้องคุณไปได้แล้วค่ะ” หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงเรียบสนิทพร้อมกับเก็บซ่อนความเสียใจไว้ภายในหัวใจ เมื่อรับรู้ว่าสิ่งที่เขาทำมันเป็นเพราะเพียงร่างกายเรียกร้องไม่ได้เกิดจากหัวใจ
“ผมเสียใจนะ...”
“ไม่เป็นไรค่ะ... ฉันถือว่ามันเป็นการทำทาน!!” หญิงสาวอดไม่ได้ที่จะแขวะร่างสูงที่สำนึกผิด เพราะเธอไม่ต้องการความสำนึกผิดจากเขา
“ทำทานงั้นหรอ...!!” น้ำเสียงศิวัชเริ่มเข้มขึ้นมาบ้าง เมื่อได้ยินหญิงสาวกล่าวออกมาเช่นนั้น
“ค่ะ... ฉันถือว่าทำทาน... จะได้หมดเวรหมดกรรมเสียที!!” พิมพิศาตอกย้ำด้วยน้ำเสียงที่เย็นเยียบเหมือนกับความรู้สึกในหัวใจที่ในเวลานี้มันเจ็บจนชาไปหมดแล้ว
ศิวัชคว้าที่แขนเรียวเพื่อให้หันมาเผชิญหน้า คราวนี้ดวงตาคมไม่ได้มีแววตาของความอ่อนโยนแม้แต่นิดเดียวกลับฉายไปด้วยแววตาแข็งกร้าวและเย็นชา
“ในเมื่อคุณคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นการทำทาน ผมก็จะไม่ขัดศรัทธาแล้วกัน... ถ้าอีกสักครั้งสองครั้ง...คนใจบุญอย่างคุณคงไม่ว่าหรอก...จริงไหม!!”
พิมพิศากัดฟันด้วยความเจ็บใจ วาจาของเขามันช่างทำร้ายเธอได้อย่างเลือดเย็น มันทำให้ตัวเธอดูไร้ค่าและเป็นเพียงเครื่องระบายอารมณ์เท่านั้น
ไม่ทันที่หญิงสาวจะตอบโต้สิ่งใดออกมา ศิวัชก็จัดการตักตวงและกอบโกยความหอมหวานจากเรือนร่างนั้นอีกครั้ง โดยที่คราวนี้แทบจะไม่เหลือความอ่อนโยนไว้เลยแม้แต่นิดเดียว
“คุณกลับห้องคุณไปได้แล้ว...” พิมพิศาเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบแห้งเมื่อทุกอย่างที่เขาทำเสร็จสิ้นลงแล้ว
“ผมอยากนอนที่นี่!!” ศิวัชยังคงมองใบหน้านวลอย่างท้าทาย ก่อนที่จะทิ้งร่างเปล่าเปลือยลงนอนที่ข้างกายพิมพิศา
“คุณ!!” หญิงสาวจ้องมองชายหนุ่มที่ลอยหน้าลอยตาด้วยความโมโห และตัดสินใจที่จะก้าวออกไปจากที่นี่เอง
“จะไปไหน...”
“ฉันจะไปนอนที่อื่น... คุณอยากนอน...คุณก็นอนไป...”
“นอนด้วยกันสิ!! อยากทำทานไม่ใช่หรือไง ทำไมไม่ทำให้ถึงที่สุดล่ะ” เขายังคงกระแนะกระแหนเธอด้วยความสนุกและพอใจที่เห็นใบหน้านวลมีปฏิกิริยาตอบสนอง
“บ้า!! โรคจิต!!” หญิงสาวแหวใส่ที่ใบหน้าคมคายอย่างเหลืออด
ศิวัชไม่สนใจดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอดและหลับลงด้วยรอยยิ้ม เขายังคงมีความสุขกับการได้ครอบครองเธอเป็นคนแรก แต่อดรู้สึกหงุดหงิดไม่ได้ที่เธอเห็นว่าการอยู่กับเขาเป็นเพียงแค่การทำทาน!!
พิมพิศาปิดเปลือกตาลงอย่างช้าช้า แต่เธอไม่สามารถข่มตาให้หลับลงได้สนิทเลยแม้แต่นิดเดียวจนกระทั่งเกือบรุ่งสางเธอจึงสามารถหลับลงได้เนื่องจากความอ่อนล้าของร่างกายและจิตใจ
เจ็บ...ทำไมถึงเจ็บขนาดนี้นะ
ความคิดเห็น