ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รัก...พยศ

    ลำดับตอนที่ #4 : เรียนรู้งาน... 100%

    • อัปเดตล่าสุด 28 ก.ย. 62


    พิภพนำงานที่คั่งค้างกลับมาทำที่บ้านหลังใหญ่ เพราะเขาต้องการใช้เวลาอยู่กับลูกสาวที่ห่างกันไปนาน

                    พ่อทำอะไรอยู่คะ เพลงพิณเดินเข้ามาในห้องทำงานพร้อมกับแก้วนมในมือ

                    พ่อดูงานอยู่น่ะ ใกล้จะเสร็จแล้ว พิภพตอบด้วยน้ำเสียงร่าเริง แม้จะเหน็ดเหนื่อยกับการทำงาน แต่แค่เพียงได้เห็นรอยยิ้มที่แสนจะน่ารักของลูกสาว ความเครียดนานาก็มลายหายไปสิ้น

                    เพลงเอานมมาให้น่ะค่ะ พ่อมีอะไรให้เพลงช่วยไหมคะ

                    ไม่มีหรอก ว่าแต่เพลงชอบงานโรงแรมไหมล่ะ เรียนรู้งานกับพี่นนท์สนุกไหมลูก

                    ก็ดีค่ะ พี่นนท์ใจดี แต่ชอบให้เพลงอ่านอะไรไม่รู้ เยอะแยะไปหมดเลย เพลงยังไม่เข้าใจเท่าไหร่น่ะค่ะ แต่จะพยายามเรียนรู้ให้เร็วขึ้นนะคะพ่อ หญิงสาวตอบด้วยน้ำเสียงสดใส

                    นี่แค่อาทิตย์เดียวเอง มันต้องใช้เวลานานกว่านี้ลูก พี่นนท์ทำงานมาก่อน ต้องรู้อะไรมากกว่าอยู่แล้ว แล้วเพลงกับพี่นนท์มีปัญหาอะไรกันบ้างไหม

                    ไม่มีหรอกค่ะ จะมีก็...บางครั้งพี่นนท์ชอบดุน่ะค่ะ...เวลาที่เพลงแอบอู้บ้าง หญิงสาวทำหน้าล้อเลียนชานนท์ให้บิดาดู

                    เพลงชอบพี่นนท์ไหม พิภพถามด้วยน้ำเสียงจริงจังขึ้นเล็กน้อย แววตาคมจับจ้องริมฝีปากบางอย่างรอคอยคำตอบ
                   
    เอ่อ...ก็ดีนะคะ เพลงไม่ได้เกลียดหรือว่ารังเกียจอะไรพี่นนท์ หญิงสาวตอบด้วยน้ำเสียงปกติ ไม่ได้เอะใจในคำถามของพิภพเลยสักนิด

                    พ่อเลือกคนไม่ผิดเลย พี่นนท์สามารถดูแลลูกพ่อได้ และพ่อก็ฝากเพลงไว้กับพี่นนท์ได้อย่างไม่ต้องห่วงเลย

                    เพลงพิณมองใบหน้าชายวัยกลางคนอย่างสงสัยเล็กน้อย คำพูดที่เหมือนจะแฝงไว้ด้วยความนัยของบิดาทำให้หญิงสาวอดไม่ได้ที่จะหวาดหวั่นใจ

                    พ่อหมายความว่ายังไงคะ

                    พิภพยิ้มให้ลูกสาวแทนคำตอบ พร้อมยกแก้วนมขึ้นดื่มด้วยสีหน้าที่แสดงว่าอร่อยใจชื่นใจ จนเพลงพิณต้องนิ่วหน้าเหมือนเตือนถึงการสนทนาที่คั่งค้างอยู่เมื่อครู่นี้

                    ไม่มีอะไรหรอก พ่อว่าเราไปพักผ่อนกันดีกว่า พิภพตัดบทสนทนาอย่างอารมณ์ดี แล้วก็หัวเราะขึ้นมาราวกับขบขันอะไรบางอย่างเสียเต็มประดา

                   

                    หนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา เพลงพิณพยายามอยู่ใกล้ชิดกับบิดาและชานนท์ หญิงสาวมักจะมีรอยยิ้มที่ทำให้แม่เลี้ยงกับน้องสาวต่างมารดาต้องหัวเสีย

                    เมื่อใดที่พิภพเอ็นดูและให้ความสำคัญกับเพลงพิณ รตีก็มักจะชักสีหน้าและมีท่าทีไม่พอใจ แต่มันก็เกิดขึ้นเพียงชั่วครู่เดียวเท่านั้น จนทำให้เพลงพิณอดหัวเราะออกมาไม่ได้

                    เช้านี้ เพลงพิณเดินลงมาด้วยท่าทางงัวเงียเหมือนเคย แต่เรือนร่างและใบหน้านวลนั้นยังคงสวยงามน่ามอง เครื่องแต่งกายที่สวมใส่มักจะเป็นชุดเสื้อกระโปรงติดกัน วันนี้ก็เช่นกัน หญิงสาวเลือกชุดสีเหลืองนวล ชายกระโปรงจับจีบรอบ พร้อมกับสวมเสื้อกั๊กสีน้ำตาลเข้มทับอีกชั้น

                    วันนี้มีอะไรทานบ้างจ๊ะป้า หญิงสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงงัวเงียเหมือนสมองยังสั่งการไม่เต็มที่ และหย่อนตัวลงด้านขวาของหัวโต๊ะ

                    ข้าวต้มกุ้งค่ะ แล้วเดี๋ยวป้าจะเตรียมโอวัลตินร้อนๆ ให้ด้วยนะคะ จะได้สดชื่น

                    ได้ค่ะ แต่ไม่ต้องร้อนมากนะคะ เดี๋ยวมันจะลวกปากเพลงน่ะค่ะ

                    เพลงพิณก้มหน้ากินอาหารไปได้เพียงครู่เดียว พิภพก็เดินลงมาพร้อมกับภรรยา สีหน้าของรตียามที่มองมายังร่างบางนั้นดูจะไม่พอใจเท่าไรนัก

                    ตื่นเช้าจังเลยนะ เพลง

                    ค่ะ ว่าแต่น้ารตีจะทานด้วยกันไหมคะ เพลงจะได้สั่งเพิ่มให้ เพราะเพลงสั่งไว้ให้พ่อคนเดียวค่ะ หญิงสาวเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสุภาพ แต่ดวงตากลมโตที่มองแม่เลี้ยงนั้นดูจะเต็มไปด้วยความอวดดี

                    ก็ดีค่ะ ต่อจากนี้น้าจะลงมาทานอาหารเช้าด้วยทุกวันนะคะ จะได้อบอุ่นไงคะ และดูเป็นครอบครัวมากขึ้น

                    เพลงพิณไม่ได้ตอบอะไร เธอหันไปบอกแม่บ้านที่ยืนรอรับคำสั่งอยู่ แล้วก็กินอาหารตรงหน้าต่อ

                    แล้วไพลินไปไหนเหรอคะ ทำไมไม่ลงมาทานข้าวด้วยกันล่ะคะ หรือว่าเมื่อคืนจะอ่านหนังสือจนดึก เพราะเพลงเห็นไฟในห้องเปิดอยู่น่ะค่ะ เพลงพิณถามขึ้นด้วยความที่เกรงว่าพิภพจะล่วงรู้ว่าแท้จริงแล้วเธอไม่อยากจะเสวนากับแม่เลี้ยงคนนี้

                    จ้ะ ไพลินอ่านหนังสือดึกทุกคืนเลยน่ะ เห็นบอกว่าอยากจะเรียนเก่งๆ อยากจะเอาเกียรตินิยมมาฝากพ่อน่ะ เมื่อก่อนไพลินเขาคุยกับพ่อทุกคืนแหละจ้ะ รตีพูดด้วยน้ำเสียงชื่นชมและเหมือนจะเย้ยหยันอยู่ในที เพราะเพลงพิณไม่ได้เกียรตินิยม

                    ค่ะ ก็ดีค่ะ แต่ก็อย่าเครียดมากนะคะ เพราะเวลาผิดหวังแล้วมันจะเสียใจน่ะค่ะ เพลงเป็นห่วงว่าพอไพลินไม่ได้ดังหวังแล้วจะคิดสั้นน่ะค่ะ เพราะได้ข่าวมาว่าเทอมที่แล้วไพลินเรียนได้เกรดเฉลี่ยแค่สองกว่าเองนี่คะ เพลงพิณพูดพลางสบตารตีอย่างท้าทาย

                    พ่อไม่ต้องการให้ลูกพ่อเรียนเก่งขนาดนั้นหรอก แค่เป็นคนดีก็พอแล้วละ พิภพพูดด้วยน้ำเสียงปกติ เพราะไม่ต้องการให้คนทั้งสองทำสงครามน้ำลายกันไปมากกว่านี้

                    พ่อคะ เพลงอิ่มแล้วค่ะ อยากไปทำงานแล้ว เพลงอยากเรียนงานกับพี่นนท์น่ะค่ะ

                    พิภพยิ้มเมื่อได้ยินลูกสาวพูดถึงชานนท์ แล้วก็รีบลุกขึ้นยืน หมดความสนใจในอาหารเช้าตรงหน้าทันที

                    รตีจ้องมองลูกเลี้ยงด้วยท่าทีริษยา ผิดกับเพลงพิณที่ยิ้มให้อย่างลอยหน้าลอยตา เพราะหญิงสาวรู้ดีว่ารตีต้องการให้ลูกสาวของเธอหมั้นหมายกับชานนท์

                    เด็กบ้า!’

     

                    ชานนท์จ้องมองคนที่นั่งทำงานอยู่ด้วยกันในห้องด้วยสีหน้าประหลาดใจ เพราะใบหน้านวลที่กำลังจ้องรายรับรายจ่ายของโรงแรมเขม็งนั้นดูเคร่งเครียด ทว่าริมฝีปากบางนั้นกลับพึมพำเป็นเพลงอย่างเพลิดเพลินเสียอย่างนั้น

                    เพลงพิณมองรายรับของโรงแรมที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยสีหน้าพอใจ แม้การเติบโตของโรงแรมจะไม่ได้เป็นไปอย่างรวดเร็ว แต่ผลประกอบการก็เป็นที่น่าพอใจไม่น้อยเลย

                    เพลงจะดูรู้เรื่องเหรอ ร้องเพลงไปด้วยน่ะ วันนี้ท่าทางจะอารมณ์ดีเหลือเกินนะ ชานนท์เอ่ยปากแซว

                    ก็คนมันมีความสุขนี่คะ

                    เอ่อ...เพลง คุณอาบอกพี่ว่าเย็นนี้ให้ไปกินข้าวข้างนอกด้วยกัน เดี๋ยวคุณอาจะบอกคุณพ่อของพี่ด้วย

                    ได้ค่ะ ไปกันสี่คนเหรอคะ

                    ใช่จ้ะ

                    เพลงพิณเออออกับคำบอกกล่าวของชานนท์ แม้จะแปลกใจในการกระทำของผู้เป็นบิดา แต่ร่างบางก็เก็บความสงสัยไว้ไม่ได้เอ่ยถามออกไปอย่างที่ใจต้องการ

                    ชานนท์มองเพลงพิณเงียบๆ เขารู้สึกพอใจที่เพลงพิณขยันขันแข็งและเอางานเอาการ แม้จะเป็นเวลาเพียงแค่อาทิตย์เดียว แต่ชายหนุ่มก็เห็นถึงความมุ่งมั่นและตั้งใจ เธอไม่ได้เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อหรือทำตัวเป็นคุณหนูเลยสักนิด และนี่ก็ทำให้อคติที่เคยมีมาก่อนจะพบเธอหายไปจนหมดสิ้น

                    เพลงพิณไม่ได้พยายามที่จะเจ๊าะแจ๊ะหรือหาเรื่องทำตัวใกล้ชิดชานนท์ เธอจะเข้าใกล้เขาก็ต่อเมื่อต้องถามเรื่องการทำงานเท่านั้น

                    ก๊อกๆๆ!

                    คุณนนท์คะ คุณธานินทร์ให้มาเรียนว่าเย็นนี้ให้คุณนนท์พาคุณเพลงไปที่ร้านอาหารก่อนค่ะ เพราะคุณธานินทร์กับคุณพิภพจะไปธุระกันก่อนน่ะค่ะ

                    เลขานุการสาวเข้ามารายงานและเดินกลับออกไป ทำให้คนที่อยู่ในห้องมองตากันด้วยความสงสัย แต่ก็เพียงครู่เดียวเพราะหลังจากนั้นคนทั้งสองก็ก้มหน้าทำงานตามเดิม

                    มีอะไรกันนะ


    ต่ออออออออออออออออออออออออออออออค่าาาาาาาาาาาาาาาาาาา


    ชานนท์ขับรถเก๋งคันหรูด้วยท่าทีเรียบเฉย แต่คนที่นั่งมาด้วยกลับดูจะตรงข้ามกันเสียเหลือเกิน ใบหน้านวลขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างสงสัย ในขณะที่ริมฝีปากบางก็พึมพำอยู่ตลอดเวลา

                    ทิวทัศน์สองข้างทางกับรถยนต์ที่หนาแน่นบนท้องถนนไม่ได้ทำให้เธอสนใจหรือหงุดหงิดแต่อย่างใด เพราะความคิดของเธอมุ่งไปที่เรื่องเรื่องเดียวเท่านั้น

                    เป็นอะไรไป เพลง บ่นอะไรอยู่คนเดียวน่ะ ชายหนุ่มถามพลางยิ้ม ตั้งแต่นั่งรถมาด้วยกัน ดูร่างบางจะมีคำถามอยู่บนใบหน้าตลอดเวลา

                    พี่นนท์ไม่สงสัยบ้างหรือคะ ว่าทำไมพ่อต้องนัดเรามาทานข้าวข้างนอก แล้วยังให้เรามากันก่อนด้วย หญิงสาวพูดด้วยสีหน้าครุ่นคิด

                    วันนี้เพลงพิณจดจ่อกับงานตรงหน้าจนไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องอื่นๆ ที่เข้ามาเท่าไรนัก แต่ทันทีที่หยุดเรื่องงาน เรื่องนี้ก็กลับเข้ามาในความคิดทันที

                    พี่ก็สงสัยอยู่เหมือนกัน แต่ไม่เห็นต้องคิดอะไรให้มันยุ่งยากเลย เพราะอีกไม่นานเราก็รู้แล้ว และพี่ก็เชื่อว่าคุณพ่อของพี่กับคุณพ่อของเพลงต้องไม่ทำอะไรที่ทำให้เราต้องเดือดร้อนหรือยุ่งยากใจหรอก ชานนท์เปรยด้วยน้ำเสียงที่ดูจะไม่ใส่ใจเท่าไรนัก

                    ก็จริงนะคะ แต่เพลงว่ามันต้องมีอะไรแน่ๆ เลย หญิงสาวยังคงคิดต่ออย่างสงสัย

                    อย่าคิดมากเลย เอาเวลาไปคิดเรื่องงานดีกว่านะ ชานนท์ตัดบทสนทนาด้วยเสียงปนหัวเราะ พลางยกมือข้างซ้ายขึ้นลูบศีรษะและหยิกแก้มนวลคนที่นั่งข้างๆ ด้วยความเอ็นดู

                    เพลงพิณเกิดอาการหัวใจเต้นแรงขึ้นมาเสียอย่างนั้นเมื่อถูกมือของชายหนุ่มสัมผัส การกระทำที่แสนจะธรรมดาในยามนี้ กลับเรียกความหวั่นไหวในใจเธอได้อย่างไม่น่าเชื่อ

                    นับตั้งแต่วันที่จุมพิตริมฝีปากเธอ เขาก็ไม่เคยได้สัมผัสหรือทำอะไรเกินเลยอีกเลย วันนี้ชายหนุ่มจึงเกิดความรู้สึกแปลกๆ

                    เฮ้ย! นี่เราเป็นอะไรไปนะ

                    “บ้า! เพลงโตแล้วนะ หญิงสาวแก้อาการเขินอายด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างห้วน แล้วรีบสะบัดหน้าหนี

                    ชายหนุ่มหลุดหัวเราะทันทีเมื่อเห็นท่าทางของเพลงพิณ มันชวนให้เขาเอ็นดูและอยากจะอยู่ใกล้เธอตลอดเวลา

                    พี่รู้หรอกน่ะว่าเพลงโตแล้ว

                    คำพูดที่ดูจะแฝงไว้ด้วยความนัยทำให้หญิงสาวหันมามองชายหนุ่มด้วยความขุ่นเคือง ภาพที่ถูกชายหนุ่มจุมพิตกลับเข้ามาในความคิดอีกครั้ง

                    พี่นนท์ลามก!”

                    ชานนท์ยิ้มให้อย่างยียวนกวนประสาท เขาไม่ได้พูดจาอย่างนี้กับเธอบ่อยนัก แต่ที่เอ่ยออกไปก็เพราะไม่อยากให้เธอคิดเรื่องนัดวันนี้ให้ปวดหัวต่างหาก

                    พี่ลามกตรงไหน ชานนท์ถามหน้าตาย และหันมาเลิกคิ้วให้กับใบหน้านวล

                    เพลงพิณค้อนชายหนุ่มและหยิกมือหนาที่กำลังจับพวงมาลัยพร้อมกับยิ้มอย่างพอใจเมื่อได้ยินเสียงชายหนุ่มร้องออกมาเบาๆ

                    สมน้ำหน้า! คนบ้า!’

                     

                    เมื่อเข้ามาในร้าน เพลงพิณก็ต้องแปลกใจมากขึ้นกว่าเดิมเมื่อเห็นว่าบริกรของร้านดูจะรู้จักและสนิทสนมกับชานนท์เป็นอย่างดี

                    ชายหนุ่มเดินนำมายังเรือนไม้หลังหนึ่งที่ล้อมรอบด้วยลำธารสายเล็กๆ ภายในมีโต๊ะไม้ตัวใหญ่และเบาะรองนั่งแทนเก้าอี้ดูหรูหรา เขาดันให้เธอเข้าไปนั่งข้างในแล้วหันไปพูดกับบริกรสองสามคำ ก่อนจะนั่งลงเคียงข้างร่างบาง

                    พี่นนท์ต้องรู้แน่เลยว่าคุณอากับพ่อมีเรื่องอะไรถึงได้นัดให้เรามาวันนี้ หญิงสาวเอ่ยพลางมองใบหน้าคมคายด้วยสายตาจับผิด

                    เปล่า ช่างสงสัยจังเลยนะ พ่อแค่โทร.มาจองไว้แล้วเท่านั้นเอง แล้วพี่เองก็เคยมากินร้านนี้บ่อยน่ะ บรรยากาศมันดี ไม่วุ่นวาย

                    หญิงสาวจำใจพยักหน้ายอมรับสิ่งที่เขาพูด เพราะภายในร้านแห่งนี้ก็เงียบสงบและร่มรื่นจริงอย่างที่ชานนท์บอก

                    ที่นี่ดีจังเลยนะคะ ที่ออสเตรเลียก็มีร้านอาหารแบบนี้เหมือนกันค่ะ แต่ดูไม่เป็นธรรมชาติขนาดนี้ หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ ทั้งที่เธอพยายามไม่หวนคิดถึงอดีต แต่มันก็ยากเหลือเกินที่จะลบเลือนไปได้

                    ถ้าเพลงชอบเดี๋ยวพี่พามาทานบ่อยๆ ก็ได้นะ

                    หญิงสาวหันมามองชายหนุ่มด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม และรอยยิ้มนั้นก็ยิ่งกว้างขึ้นเมื่อเห็นผู้อาวุโสทั้งสองคนเดินตรงมาหา

                    มากันแล้วค่ะ คุณอากับพ่อ เพลงจะได้รู้เสียทีว่าท่านทั้งสองชวนเรามาทานข้าวทำไม

                    ยังไม่ลืมอีกเหรอเนี่ย ชานนท์พูดกลั้วหัวเราะเมื่อเห็นสีหน้าอยากรู้อยากเห็นของหญิงสาวข้างกาย

                    หญิงสาวนั่งรออย่างใจจดใจจ่อ โดยหารู้ไม่ว่าการกินอาหารในมื้อนี้จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของเธอครั้งยิ่งใหญ่ และนำมาซึ่งความรัก ความแค้น และความสูญเสียอย่างที่เธอเองก็คาดไม่ถึง


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×