คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Trapped
ท่าทีเยือกเย็น...ทว่าในแววตากลับร้อนแรงจัดจ้าราวเปลวเพลิง
ถึงแม้เวลาจะผ่านมานานเท่าใด พี่กาฮีก็ยังคงงดงามอย่างยากจะหาใครเสมอเหมือน
จบลงแล้ว การเดินทางของฉัน...ไม่เคยคิดเลยว่ามันจะรวดเร็วเพียงนี้ รวดเร็วจนตั้งตัวไม่ติด
ฉันเหมือนเป็นกระต่ายป่าโชคร้ายที่หลงมาติดแร้วที่นายพรานวางดักไว้
ความเจ็บปวดและสิ้นหวังจู่โจมเข้ามาอย่างไม่ระย่อ ฉันไม่เคยรู้สึกจนมุมขนาดนี้มาก่อนในชีวิต
สำนึกแรกของฉันสั่งให้ดิ้นรนเอาตัวรอด แต่ขาทั้งสองข้างไม่ฟังคำสั่ง
มันหนักอึ้งแน่นิ่งราวถูกหลอมไว้ด้วยคอนกรีต
ฉันกำลังถูกตรึงไว้กับที่ด้วยดวงตาเพียงคู่เดียว
“ทำไม?”
เสียงของเธอสั่นระริก กับคำสั้นๆ ที่ฉันเดาได้ว่านั่นคงเป็นคำถามที่เธอเฝ้าถามตัวเองมาตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา
นับตั้งแต่ฉันหนีออกมาจากบ้านหลังนั้น
คำถามที่ฉันหวาดกลัวที่สุด
ฉันกลัว...ไม่ใช่เพราะไม่มีคำตอบ หากแต่กลัวเพราะมีคำตอบแน่นอนต่างหาก
คำตอบที่ชัดเจนและหนักแน่นหนักอึ้งเสียจนฉันแทบขาดใจตายกับการต้องแบกรับมันเอาไว้เพียงลำพัง
แต่ฉันไม่คิดว่ามันจะเป็นคำตอบที่ทำให้เธอพอใจนักหรอก
“ตอบพี่มาสิ จองอา” เธอสั่งเสียงเฉียบขาด “รู้ตัวรึเปล่าว่าทำอะไรลงไป?”
“ฉัน......” ฉันพูดอะไรไม่ออก
“เธอไม่แม้แต่จะบอกลา... รู้บ้างไหมว่าที่ผ่านมาฉันเฝ้าตามหาเธอด้วยความรู้สึกแบบไหน
ทุกๆ คืน ต้องคอยพะวงเป็นห่วงว่าจะเกิดเรื่องอันตรายอะไรขึ้นกับเธอบ้าง”
เสียงปร่าของพี่กาฮีหายไปราวกับมีอะไรมาจุกอยู่ที่คอ
ฉันไม่เห็นสีหน้าของเธอเพราะไม่กล้าสบตา หากสายตาที่ทอดต่ำลงมองเห็นมือของพี่กาฮี...สั่น
“ทำไมหรือ จองอา? ทำไมเธอถึงทำกับฉันแบบนี้? ฉันดูแลเธอไม่ดีพอหรือยังไง
ทั้งๆ ที่ฉันก็ไม่เคยรู้สึกว่าทำอะไรที่เป็นการฝืนใจเธอเลยแท้ๆ”
คำพูดของเธอล่องลอยมากับอากาศ กลายสภาพเป็นของแข็งถ่วงหนักในใจฉัน
ก่อนจะค่อยๆ กลั่นออกมาเป็นหยาดน้ำคลอหน่วยในเบ้าตา
มันจะเป็นแบบนั้นไปได้อย่างไรกัน
ในเมื่อตลอดเวลาที่เราอยู่ด้วยกันคนคนนี้ให้ความรักและดูแลฉันอย่างดีที่สุดเสมอมา
แต่ถึงอย่างนั้น...เธอก็ไม่ใช่พี่แท้ๆ ของฉัน
“เป็นเพราะผู้ชายคนนั้นใช่ไหม?
เธอรักเขาถึงขนาดยอมหนีตามมาทั้งที่รู้ว่ามันไม่มีอนาคตใดๆ รอพวกเธอสองคนอยู่ข้างหน้าเลย
กับคนไม่เป็นโล้ไม่เป็นพายแบบนั้นน่ะ...”
น้ำตาใสๆ ไหลผ่านร่องแก้มของเธอให้ฉันรู้สึกปวดใจเป็นที่สุด
“ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเธอถึงได้เกลียดฉันมากถึงขนาดนี้ ถึงขนาดที่จะหนีไปจากฉันแม้ว่าฉันจะพยายามชดเชยทุกอย่างให้เธอ
แล้วก็รักเธอมากเหมือนเป็นน้องสาวแท้ๆ มา...”
“พอเสียที!”
ฉันกรีดร้อง เอามืออุดหูอย่างสุดทนกับคำพูดทิ่มแทงหัวใจนั้น
“ฉันไม่อยากได้ความรักของพี่ ความรักที่สวยงามแบบนั้นน่ะพอกันที”
เข่าทั้งสองข้างอ่อนยวบ พอรู้ตัวอีกทีร่างกายตัวเองก็ลงมานั่งกองอยู่ที่พื้นแล้ว
“อย่าพูดอีกเลย...ได้โปรดเถอะ.......ฮือ”
ฉันสะอื้นอย่างหนักจนตัวสั่นเทิ้ม ม่านน้ำตาปิดบังจนมองไม่เห็นสิ่งรอบข้างใดๆ
ทว่าฉันกลับรู้สึกได้ถึงอ้อมแขนอ่อนโยนที่เข้ามาโอบกอด ปลอบโยนฉันเบาๆ....
ทั้งๆ ที่ฉันเพิ่งพูดจาร้ายกาจกับเธอไปแบบนั้นแท้ๆ
เพราะเป็นห่วง...อย่างนั้นหรือ?
ฉันนิ่วหน้า อยากจะดันร่างอบอุ่นของเธอออกไปห่างๆ แต่มือทรยศของฉันกลับรั้งตัวเธอลงมาแทน
แล้วฉันก็จูบเธอที่ริมฝีปาก
ราวกับหัวใจจะหยุดเต้น ลมหายใจของเธอหอมละไมอย่างที่จำได้
แต่ริมฝีปากนี้...ฉันไม่เคยได้สัมผัส
ริมฝีปากที่ฉันได้แต่เฝ้าแอบมองมาตลอด ไม่เคยคิดเลยว่าจะให้ความรู้สึกหอมหวานถึงเพียงนี้
ฉันกำลังเปิดกล่องแพนดอรา...เปิดด้วยความเต็มอกเต็มใจ ทั้งที่รู้ดีว่าไม่มีทางใดที่จะปิดมันลงได้ก็ตาม
หลังจากนี้บาปที่แสนสาหัสก็จะนำหายนะมาสู่ผู้ก่ออย่างฉันเป็นแน่แท้
เมื่อฉันถอนจุมพิตออก สีหน้าของเธอเป็นสิ่งที่ฉันไม่มีวันลืมเลย
พี่กาฮีที่แสนเยือกเย็นอยู่เสมอ...มาบัดนี้ตาเรียวทั้งคู่เบิกโพลงอย่างตกตะลึง
เธอคงรู้แล้วสินะ ว่าน้องสาวที่เธอรักและเอ็นดูหนักหนา สุดท้ายก็มองเธอด้วยความคิดไม่ซื่อนี้มาตลอด
เพราะความรักของเรามันสวนทางกันแบบนี้นี่เล่า ทุกครั้งที่เธอแสดงความรักกับฉัน มันจึงเจ็บปวดเหลือจะทน
“เรื่องมันก็เป็นแบบนี้แหละค่ะ”
ฉันกระซิบเสียงแหบแห้ง
“ฉันทนอยู่ใกล้พี่ด้วยความรู้สึกแบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว...
เพราะฉะนั้นถ้าพี่ไม่สามารถโอบกอดฉันอย่างคนรักได้ ก็ได้โปรดกลับไปเสียเถอะค่ะ”
พูดออกไปแล้ว... ในที่สุดฉันก็ได้บอกความในใจหลังจากที่ได้แต่เก็บมันไว้เงียบๆ เป็นเวลาหลายปี
ความเงียบแผ่ปกคลุมหนาแน่นในอากาศ
วงแขนของพี่กาฮีคลายตัวออก ร่างสูงนั้นผุดลุกขึ้นยืนแล้วถอยห่างออกไป
ความหนาวเย็นเยือกในยามค่ำคืนหวนกลับมาเยี่ยมเยียนร่างกายและจิตใจฉันอีกครั้ง
จบสิ้นกันแล้ว ความรักของฉัน
ความรู้สึกสิ้นหวังที่ฉันพรั่นพรึงมาตลอดจู่โจมฉันจนไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงที่จะเงยหน้าขึ้นสบตาเธอเป็นครั้งสุดท้าย
ทุกอย่างดูพร่ามัวด้วยน้ำตา ปิดกั้นให้ฉันอยู่ในห้วงแห่งความเศร้าโศกเพียงลำพัง
ฉันเหลือเพียงหูที่ใช้การได้ แต่ก็เพื่อรอคอยฟังเสียงประตูเท่านั้น....เสียงที่หมายถึงการลาจากตลอดกาล
แว่วเสียงผ้าขยับเสียดสีกันก่อนที่บางสิ่งจะร่วงหล่นสู่พื้น ฉันปาดน้ำตา
ผ้าพันคอ?
มองของสิ่งนั้นงงๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้น......ไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง
พี่กาฮีกำลังปลดกระดุมด้านหน้าของชุดกระโปรงอย่างใจเย็น
จนเมื่อเม็ดสุดท้ายหลุดออกจากรังดุม มือเรียวสวยเลื่อนขึ้นไปกระชับสาบเสื้อ ถอดชุดผ้าขนสัตว์นั้นออก
เผยผิวขาวเนียน และร่องรอยของกล้ามเนื้อแข็งแรงจากกีฬาที่เธอโปรดปราน
ตลอดเวลาที่ทำเช่นนั้น สายตาของเธอมองไปทางอื่น
บนใบหน้าสวยคมที่ล้อมกรอบด้วยเรือนผมสีเข้มมีสีชมพูระเรื่อประดับที่พวงแก้ม ทำให้เธอดูอ่อนหวานอย่างไม่น่าเชื่อ
“ทั้งๆ ที่ฉันไม่เคยตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้เลยแท้ๆ” เธอรำพึง
เมื่อชุดราคาแพงถูกทิ้งลงไปกองกับพื้น พี่กาฮีก้าวเข้ามาหาฉัน
“ที่จริง...ฉันไม่ได้มองเธอในฐานะน้องสาวมาตั้งแต่แรก”
เสียงเย็นๆ ของเธอกระซิบสารภาพข้างหู
“แต่เพราะเธอเป็นน้องของเพื่อนรัก สาวน้อยตัวคนเดียวที่กำลังเศร้าโศกเสียใจที่ต้องสูญเสียครอบครัวไปในอุบัติเหตุ
ฉันได้แต่คิดว่าจะสามารถทำอะไรเพื่อเธอได้บ้าง และตัดสินใจจะเป็นครอบครัวที่ดีของเธอให้ได้......
เพราะฉันไม่อยากเห็นใบหน้าที่สวยงามนี้ต้องเศร้าหมองเลยแม้แต่น้อย”
เธอค่อยๆ เกลี่ยผมยุ่งของฉันให้พ้นจากกรอบหน้า ปลายนิ้วที่ไล้ไปตามไรผมให้ความรู้สึกอ่อนโยน
“พอเวลาผ่านไป เธอเติบโตขึ้นและงดงามขึ้นเรื่อยๆ แต่เธอกลับติดฉันมาก คอยพาตัวเองมาอยู่ข้างๆ กายฉันตลอดเวลา
แล้วยังแสดงความรักต่อฉันอย่างเปิดเผย จนฉันเริ่มกลัวใจตัวเอง ต้องคอยย้ำเตือนตัวเองอยู่เสมอว่าฉันรักเธอแบบน้องสาว
รักเหมือนน้องแท้ๆ เพื่อไม่ให้ความตั้งใจที่มีมาแต่เดิมต้องสั่นคลอน.....
แต่มันกลับยิ่งทำให้เธอหนีห่างฉันออกไปเรื่อยๆ...ฉันไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี”
นิ่งฟังถ้อยคำแสนไพเราะ หัวใจของฉันเหมือนจะพองโตจนแทบระเบิดออก
ต้องกำมือจิกเล็บเข้ากับฝ่ามือตัวเองให้แน่ใจว่าไม่ได้ฝันไป
อา....มันเจ็บจริงเสียด้วย
พี่กาฮีดึงมือฉันขึ้นแล้วพาไปนั่งที่เตียง ก่อนจะผลักฉันเบาๆ ให้นอนลง
“ฉันจะกอดเธอในฐานะคนรัก...ตามที่เธอต้องการ”
เธอกระซิบเสียงแหบเครือ ใบหน้าเรียวอยู่เหนือฉันไปไม่ถึงฟุต
“มันอาจทำให้เรื่องต่างๆ ยุ่งยากกว่าเดิม แต่ฉันไม่อาจปล่อยเธอไปได้อีก ฉันทนใช้ชีวิตว่างเปล่าที่ไม่มีเธอไม่ได้อีกแล้ว....”
น้ำตาใสๆ ไหลหยดลงมาบนแก้มฉัน แววตาคู่สวยตรงหน้าดูเจ็บปวดเหลือเกิน
เธอก้มลงจูบฉัน แผ่วเบาดุจขนนกในทีแรก... และอีกครั้ง และอีกครั้ง
ฉันเริ่มสั่น
มือเรียวอ่อนนุ่มกำลังลูบไล้ไปทั่วร่าง ให้อารมณ์ของฉันตื่นเพริดขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละตำแหน่งที่เธอทิ้งรอยสัมผัสเอาไว้
ทุกๆ การกระทำเป็นไปด้วยความใส่ใจ อ่อนโยน นุ่มนวล
แต่ก็ชวนให้รู้สึกวาบหวิวอย่างเกินระงับ
ท่ามกลางแรงปรารถนาที่โหมกระพือขึ้น จนแผดเผาให้ร่างของเราทั้งสองเปิดเปลือย และไม่รู้สึกเหน็บหนาวอีกต่อไป
ฉันบิดเร่าอยู่ใต้ร่างงดงามของหญิงผู้เป็นดั่งความฝัน ให้เธอพาฉันโบยบินไปยังดินแดนอันแสนไกล
เพื่อสิ่งล้ำค่าที่ฉันยอมแลกด้วยทุกอย่างที่มีและหวงแหน....
ร่างกาย...หัวใจ...ความฝัน...ความหวัง...และชะตากรรมของฉันทั้งหมด ขึ้นอยู่กับความกรุณาของเธอเพียงผู้เดียว
“ฉันรักเธอ...จองอา”
ถ้อยคำบอกอันแสนหวานดังสะท้อนซ้ำไปมาในหัว ขณะที่เธอกำลังครอบครองฉันอย่างสมบูรณ์
น้ำตาไหลพราก ความรู้สึกของฉันเต็มตื้น มือทั้งสองไขว่คว้าที่จะได้สัมผัสคนรัก กอดเธอไว้แน่นแนบอก
ท่ามกลางห้วงเวลาแห่งความฝันที่เป็นนิรันดร์ ด้วยหัวใจสองคู่ที่เต้นถี่ระรัวปานกัน
นัยน์ตาพวกเรามองสอดประสาน พลอดพร่ำคำสัญญาที่ไร้เสียง
‘เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป’
ความคิดเห็น