ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The End of Searching (After School Yuri / JungHi)

    ลำดับตอนที่ #3 : Trapped

    • อัปเดตล่าสุด 19 พ.ค. 53


    ท่าทีเยือกเย็น...ทว่าในแววตากลับร้อนแรงจัดจ้าราวเปลวเพลิง
    ถึงแม้เวลาจะผ่านมานานเท่าใด พี่กาฮีก็ยังคงงดงามอย่างยากจะหาใครเสมอเหมือน


    จบลงแล้ว การเดินทางของฉัน...ไม่เคยคิดเลยว่ามันจะรวดเร็วเพียงนี้ รวดเร็วจนตั้งตัวไม่ติด
    ฉันเหมือนเป็นกระต่ายป่าโชคร้ายที่หลงมาติดแร้วที่นายพรานวางดักไว้
    ความเจ็บปวดและสิ้นหวังจู่โจมเข้ามาอย่างไม่ระย่อ ฉันไม่เคยรู้สึกจนมุมขนาดนี้มาก่อนในชีวิต


    สำนึกแรกของฉันสั่งให้ดิ้นรนเอาตัวรอด แต่ขาทั้งสองข้างไม่ฟังคำสั่ง
    มันหนักอึ้งแน่นิ่งราวถูกหลอมไว้ด้วยคอนกรีต

    ฉันกำลังถูกตรึงไว้กับที่ด้วยดวงตาเพียงคู่เดียว  


    “ทำไม?”


    เสียงของเธอสั่นระริก กับคำสั้นๆ ที่ฉันเดาได้ว่านั่นคงเป็นคำถามที่เธอเฝ้าถามตัวเองมาตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา
    นับตั้งแต่ฉันหนีออกมาจากบ้านหลังนั้น


    คำถามที่ฉันหวาดกลัวที่สุด


    ฉันกลัว...ไม่ใช่เพราะไม่มีคำตอบ หากแต่กลัวเพราะมีคำตอบแน่นอนต่างหาก
    คำตอบที่ชัดเจนและหนักแน่นหนักอึ้งเสียจนฉันแทบขาดใจตายกับการต้องแบกรับมันเอาไว้เพียงลำพัง


    แต่ฉันไม่คิดว่ามันจะเป็นคำตอบที่ทำให้เธอพอใจนักหรอก


    “ตอบพี่มาสิ จองอา” เธอสั่งเสียงเฉียบขาด “รู้ตัวรึเปล่าว่าทำอะไรลงไป?”


    “ฉัน......” ฉันพูดอะไรไม่ออก


    “เธอไม่แม้แต่จะบอกลา... รู้บ้างไหมว่าที่ผ่านมาฉันเฝ้าตามหาเธอด้วยความรู้สึกแบบไหน
    ทุกๆ คืน ต้องคอยพะวงเป็นห่วงว่าจะเกิดเรื่องอันตรายอะไรขึ้นกับเธอบ้าง”


    เสียงปร่าของพี่กาฮีหายไปราวกับมีอะไรมาจุกอยู่ที่คอ
    ฉันไม่เห็นสีหน้าของเธอเพราะไม่กล้าสบตา หากสายตาที่ทอดต่ำลงมองเห็นมือของพี่กาฮี...สั่น


    “ทำไมหรือ จองอา? ทำไมเธอถึงทำกับฉันแบบนี้? ฉันดูแลเธอไม่ดีพอหรือยังไง
    ทั้งๆ ที่ฉันก็ไม่เคยรู้สึกว่าทำอะไรที่เป็นการฝืนใจเธอเลยแท้ๆ”


    คำพูดของเธอล่องลอยมากับอากาศ กลายสภาพเป็นของแข็งถ่วงหนักในใจฉัน
    ก่อนจะค่อยๆ กลั่นออกมาเป็นหยาดน้ำคลอหน่วยในเบ้าตา


    มันจะเป็นแบบนั้นไปได้อย่างไรกัน
    ในเมื่อตลอดเวลาที่เราอยู่ด้วยกันคนคนนี้ให้ความรักและดูแลฉันอย่างดีที่สุดเสมอมา


    แต่ถึงอย่างนั้น...เธอก็ไม่ใช่พี่แท้ๆ ของฉัน


    “เป็นเพราะผู้ชายคนนั้นใช่ไหม?
    เธอรักเขาถึงขนาดยอมหนีตามมาทั้งที่รู้ว่ามันไม่มีอนาคตใดๆ รอพวกเธอสองคนอยู่ข้างหน้าเลย
    กับคนไม่เป็นโล้ไม่เป็นพายแบบนั้นน่ะ...”


    น้ำตาใสๆ ไหลผ่านร่องแก้มของเธอให้ฉันรู้สึกปวดใจเป็นที่สุด


    “ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเธอถึงได้เกลียดฉันมากถึงขนาดนี้ ถึงขนาดที่จะหนีไปจากฉันแม้ว่าฉันจะพยายามชดเชยทุกอย่างให้เธอ
    แล้วก็รักเธอมากเหมือนเป็นน้องสาวแท้ๆ มา...”


    “พอเสียที!”


    ฉันกรีดร้อง เอามืออุดหูอย่างสุดทนกับคำพูดทิ่มแทงหัวใจนั้น


    “ฉันไม่อยากได้ความรักของพี่ ความรักที่สวยงามแบบนั้นน่ะพอกันที”


    เข่าทั้งสองข้างอ่อนยวบ พอรู้ตัวอีกทีร่างกายตัวเองก็ลงมานั่งกองอยู่ที่พื้นแล้ว


    “อย่าพูดอีกเลย...ได้โปรดเถอะ.......ฮือ”


    ฉันสะอื้นอย่างหนักจนตัวสั่นเทิ้ม ม่านน้ำตาปิดบังจนมองไม่เห็นสิ่งรอบข้างใดๆ
    ทว่าฉันกลับรู้สึกได้ถึงอ้อมแขนอ่อนโยนที่เข้ามาโอบกอด ปลอบโยนฉันเบาๆ....

    ทั้งๆ  ที่ฉันเพิ่งพูดจาร้ายกาจกับเธอไปแบบนั้นแท้ๆ


    เพราะเป็นห่วง...อย่างนั้นหรือ?


    ฉันนิ่วหน้า อยากจะดันร่างอบอุ่นของเธอออกไปห่างๆ แต่มือทรยศของฉันกลับรั้งตัวเธอลงมาแทน


    แล้วฉันก็จูบเธอที่ริมฝีปาก


    ราวกับหัวใจจะหยุดเต้น ลมหายใจของเธอหอมละไมอย่างที่จำได้

    แต่ริมฝีปากนี้...ฉันไม่เคยได้สัมผัส


    ริมฝีปากที่ฉันได้แต่เฝ้าแอบมองมาตลอด ไม่เคยคิดเลยว่าจะให้ความรู้สึกหอมหวานถึงเพียงนี้


    ฉันกำลังเปิดกล่องแพนดอรา...เปิดด้วยความเต็มอกเต็มใจ ทั้งที่รู้ดีว่าไม่มีทางใดที่จะปิดมันลงได้ก็ตาม
    หลังจากนี้บาปที่แสนสาหัสก็จะนำหายนะมาสู่ผู้ก่ออย่างฉันเป็นแน่แท้


    เมื่อฉันถอนจุมพิตออก สีหน้าของเธอเป็นสิ่งที่ฉันไม่มีวันลืมเลย


    พี่กาฮีที่แสนเยือกเย็นอยู่เสมอ...มาบัดนี้ตาเรียวทั้งคู่เบิกโพลงอย่างตกตะลึง


    เธอคงรู้แล้วสินะ ว่าน้องสาวที่เธอรักและเอ็นดูหนักหนา สุดท้ายก็มองเธอด้วยความคิดไม่ซื่อนี้มาตลอด


    เพราะความรักของเรามันสวนทางกันแบบนี้นี่เล่า ทุกครั้งที่เธอแสดงความรักกับฉัน มันจึงเจ็บปวดเหลือจะทน


    “เรื่องมันก็เป็นแบบนี้แหละค่ะ”

    ฉันกระซิบเสียงแหบแห้ง

    “ฉันทนอยู่ใกล้พี่ด้วยความรู้สึกแบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว...
    เพราะฉะนั้นถ้าพี่ไม่สามารถโอบกอดฉันอย่างคนรักได้ ก็ได้โปรดกลับไปเสียเถอะค่ะ”


    พูดออกไปแล้ว... ในที่สุดฉันก็ได้บอกความในใจหลังจากที่ได้แต่เก็บมันไว้เงียบๆ เป็นเวลาหลายปี


    ความเงียบแผ่ปกคลุมหนาแน่นในอากาศ


    วงแขนของพี่กาฮีคลายตัวออก ร่างสูงนั้นผุดลุกขึ้นยืนแล้วถอยห่างออกไป
    ความหนาวเย็นเยือกในยามค่ำคืนหวนกลับมาเยี่ยมเยียนร่างกายและจิตใจฉันอีกครั้ง


    จบสิ้นกันแล้ว ความรักของฉัน


    ความรู้สึกสิ้นหวังที่ฉันพรั่นพรึงมาตลอดจู่โจมฉันจนไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงที่จะเงยหน้าขึ้นสบตาเธอเป็นครั้งสุดท้าย
    ทุกอย่างดูพร่ามัวด้วยน้ำตา ปิดกั้นให้ฉันอยู่ในห้วงแห่งความเศร้าโศกเพียงลำพัง
    ฉันเหลือเพียงหูที่ใช้การได้ แต่ก็เพื่อรอคอยฟังเสียงประตูเท่านั้น....เสียงที่หมายถึงการลาจากตลอดกาล


    แว่วเสียงผ้าขยับเสียดสีกันก่อนที่บางสิ่งจะร่วงหล่นสู่พื้น ฉันปาดน้ำตา


    ผ้าพันคอ?


    มองของสิ่งนั้นงงๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้น......ไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง


    พี่กาฮีกำลังปลดกระดุมด้านหน้าของชุดกระโปรงอย่างใจเย็น
    จนเมื่อเม็ดสุดท้ายหลุดออกจากรังดุม มือเรียวสวยเลื่อนขึ้นไปกระชับสาบเสื้อ ถอดชุดผ้าขนสัตว์นั้นออก
    เผยผิวขาวเนียน และร่องรอยของกล้ามเนื้อแข็งแรงจากกีฬาที่เธอโปรดปราน


    ตลอดเวลาที่ทำเช่นนั้น สายตาของเธอมองไปทางอื่น
    บนใบหน้าสวยคมที่ล้อมกรอบด้วยเรือนผมสีเข้มมีสีชมพูระเรื่อประดับที่พวงแก้ม ทำให้เธอดูอ่อนหวานอย่างไม่น่าเชื่อ


    “ทั้งๆ ที่ฉันไม่เคยตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้เลยแท้ๆ” เธอรำพึง


    เมื่อชุดราคาแพงถูกทิ้งลงไปกองกับพื้น พี่กาฮีก้าวเข้ามาหาฉัน


    “ที่จริง...ฉันไม่ได้มองเธอในฐานะน้องสาวมาตั้งแต่แรก”


    เสียงเย็นๆ ของเธอกระซิบสารภาพข้างหู


    “แต่เพราะเธอเป็นน้องของเพื่อนรัก สาวน้อยตัวคนเดียวที่กำลังเศร้าโศกเสียใจที่ต้องสูญเสียครอบครัวไปในอุบัติเหตุ
    ฉันได้แต่คิดว่าจะสามารถทำอะไรเพื่อเธอได้บ้าง และตัดสินใจจะเป็นครอบครัวที่ดีของเธอให้ได้......
    เพราะฉันไม่อยากเห็นใบหน้าที่สวยงามนี้ต้องเศร้าหมองเลยแม้แต่น้อย”


    เธอค่อยๆ เกลี่ยผมยุ่งของฉันให้พ้นจากกรอบหน้า ปลายนิ้วที่ไล้ไปตามไรผมให้ความรู้สึกอ่อนโยน


    “พอเวลาผ่านไป เธอเติบโตขึ้นและงดงามขึ้นเรื่อยๆ แต่เธอกลับติดฉันมาก คอยพาตัวเองมาอยู่ข้างๆ กายฉันตลอดเวลา
    แล้วยังแสดงความรักต่อฉันอย่างเปิดเผย จนฉันเริ่มกลัวใจตัวเอง ต้องคอยย้ำเตือนตัวเองอยู่เสมอว่าฉันรักเธอแบบน้องสาว
    รักเหมือนน้องแท้ๆ เพื่อไม่ให้ความตั้งใจที่มีมาแต่เดิมต้องสั่นคลอน.....


    แต่มันกลับยิ่งทำให้เธอหนีห่างฉันออกไปเรื่อยๆ...ฉันไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี”


    นิ่งฟังถ้อยคำแสนไพเราะ หัวใจของฉันเหมือนจะพองโตจนแทบระเบิดออก
    ต้องกำมือจิกเล็บเข้ากับฝ่ามือตัวเองให้แน่ใจว่าไม่ได้ฝันไป


    อา....มันเจ็บจริงเสียด้วย


    พี่กาฮีดึงมือฉันขึ้นแล้วพาไปนั่งที่เตียง ก่อนจะผลักฉันเบาๆ ให้นอนลง


    “ฉันจะกอดเธอในฐานะคนรัก...ตามที่เธอต้องการ”


    เธอกระซิบเสียงแหบเครือ ใบหน้าเรียวอยู่เหนือฉันไปไม่ถึงฟุต


    “มันอาจทำให้เรื่องต่างๆ ยุ่งยากกว่าเดิม แต่ฉันไม่อาจปล่อยเธอไปได้อีก ฉันทนใช้ชีวิตว่างเปล่าที่ไม่มีเธอไม่ได้อีกแล้ว....”


    น้ำตาใสๆ ไหลหยดลงมาบนแก้มฉัน แววตาคู่สวยตรงหน้าดูเจ็บปวดเหลือเกิน


    เธอก้มลงจูบฉัน แผ่วเบาดุจขนนกในทีแรก... และอีกครั้ง และอีกครั้ง


    ฉันเริ่มสั่น


    มือเรียวอ่อนนุ่มกำลังลูบไล้ไปทั่วร่าง ให้อารมณ์ของฉันตื่นเพริดขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละตำแหน่งที่เธอทิ้งรอยสัมผัสเอาไว้
    ทุกๆ การกระทำเป็นไปด้วยความใส่ใจ อ่อนโยน นุ่มนวล


    แต่ก็ชวนให้รู้สึกวาบหวิวอย่างเกินระงับ


    ท่ามกลางแรงปรารถนาที่โหมกระพือขึ้น จนแผดเผาให้ร่างของเราทั้งสองเปิดเปลือย และไม่รู้สึกเหน็บหนาวอีกต่อไป
    ฉันบิดเร่าอยู่ใต้ร่างงดงามของหญิงผู้เป็นดั่งความฝัน ให้เธอพาฉันโบยบินไปยังดินแดนอันแสนไกล
    เพื่อสิ่งล้ำค่าที่ฉันยอมแลกด้วยทุกอย่างที่มีและหวงแหน....


    ร่างกาย...หัวใจ...ความฝัน...ความหวัง...และชะตากรรมของฉันทั้งหมด ขึ้นอยู่กับความกรุณาของเธอเพียงผู้เดียว


    “ฉันรักเธอ...จองอา”


    ถ้อยคำบอกอันแสนหวานดังสะท้อนซ้ำไปมาในหัว ขณะที่เธอกำลังครอบครองฉันอย่างสมบูรณ์


    น้ำตาไหลพราก ความรู้สึกของฉันเต็มตื้น มือทั้งสองไขว่คว้าที่จะได้สัมผัสคนรัก กอดเธอไว้แน่นแนบอก


    ท่ามกลางห้วงเวลาแห่งความฝันที่เป็นนิรันดร์ ด้วยหัวใจสองคู่ที่เต้นถี่ระรัวปานกัน
    นัยน์ตาพวกเรามองสอดประสาน พลอดพร่ำคำสัญญาที่ไร้เสียง


    ‘เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป’

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×