24 October
วันนี้คงจะเป็นวันสุดท้าย ที่ผมจะได้เขียนบันทึกเล่มนี้ บันทึกที่ผมเขียนความรู้สึกทุกสิ่งลงไป ที่คาโนวาล คงจะไม่มีเวลาว่าง ที่จะได้เขียนบันทึกเล่มนี้อีกแล้ว
วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ผมจะเป็นนักเรียนโรงเรียนพระราชาแห่งนี้ เพราะตอนนี้ผมเป็นนักเรียนปีเจ็ดแล้ว ปีเจ็ดและวันสุดท้าย...
ผมเขียนบันทึกของคืนนี้ในงานเลี้ยงฉลองการจบปีเจ็ด ที่พวกเราจัดขึ้นมาเองในป้อมอัศวิน ดูท่าการห้ามปรามของผมจะไม่ได้ผลที่จะห้ามเจค ครี้ด นำเหล้าเข้ามา ด้วยเหตุนี้ ทุกคนจึงนอนหลับอย่างหมดคราบ บนเก้าอี้ของแต่ละคนอย่างเหนื่อยอ่อน
ดีนะที่เจคพยายามเท่าไรก็มอมเล่าผมไม่ได้
พรุ่งนี้คงจะไม่มีอีกแล้วสำหรับเวลาที่จะได้อยุ่ที่โรงเรียนพระราชา
คงจะไม่มีอีกแล้วสำหรับหมากกระดานเกียรติยศ และตำแหน่งคิงที่ทุกคนยัดเยียดให้ และตำแหน่งคนเดินหมาก ที่เจ้าตัวยุ่งไม่เคยทำให้ทุกคนผิดหวัง กับฝีมือเดินหมาก และฝีปากที่น่าจับสั่งสอนเป็นเลิศ
หมากกระดานเกียรติยศ ที่ตื่นเต้น เร้าใจ สำหรับคนดู แต่สำหรับ ป้อมอัศวิน ปราสาทขุนนาง ปราการปราชญ์ และแผ่นดินประชาชนแล้ว ทุกคนคงจะคิดเหมือนกันว่า มันคือศักดิ์ศรี
โดยเฉพาะป้อมอัศวินกับปราสาทขุนนาง ที่ต้องขับเคี่ยว และไม่ไว้หน้ากันมาหลายปีแล้ว
แต่สำหรับทุกคน แม้ว่าจะสนิทหรือไม่สนิท เคยดูถูกกันขนาดไหน แต่ทุกคน ก็มีสายใยบางๆของคำว่ามิตรภาพ เชื่อมกันไว้อยู่ แม้ว่ามันจะบางเบาแค่ไหน แต่มันก็รู้สึกได้ และยิ่งเด่นชัดขึ้น เมื่อมาถึงวันนี้ วันสุดท้าย...
คงจะไม่มีอีกแล้ว กับการบ้านของอาจารย์ แต่ละคน และการสอบ ที่การสอบครั้งสุดท้าย เฟรินผ่านมาได้อย่างเฉียดฉิวและร่อแร่เต็มที คงจะเป็นเพราะเลโมธี ที่ทำให้เฟรินสอบผ่านมาได้ หรือว่าเป็นความสามารถในการคาบเส้นของเจ้าตัวยุ่ง ก็สุดจะรู้
คิดแล้วก็น่าห่วงพวกมัน เพื่อนๆของผมทุกคน เพื่อนที่ผมไม่เคยคิดว่าจะมี ไม่เคยคิดว่าจะมีคนเข้าใจ แต่วันนี้ก็มีพวกมัน มีมิตรภาพ ที่หาได้ยากจากหมู่กษัตริย์ แต่กลับมีมากมาย ในโรงเรียนพระราชา ที่เปรียบเหมือนบ้านหลังที่สองของผม
ไม่รู้ว่า เจ้าตัวยุ่งที่นอนหนุนตักผมอยุ่นี้ จะเป็นอย่างไรต่อไป ถึงแม้มันจะทำแต่ความวุ่นวาย กับเจ้าเพื่อนซี้ของมัน คิลมัส ฟีลมัน นักฆ่าแห่งซาเรส แต่มันก็เป็นคนที่ทำให้ผมยิ้มได้ เป็นคนที่ทำให้ทั้งป้อมหัวเราะ
และมีแต่ความสุข
คิล นักฆ่าแห่งซาเรส เพื่อนคู่ซี้ของเฟริน ที่ฝีมือเป็นเลิศ(ในการแกล้งคน) แต่ไม่เคยจะทำให้ทุกคนผิดหวัง
มาทิลด้า แองจี้ และ เรนอน สามสาวแห่งป้อมอัศวิน ที่เฟรินเคยขนานนามไว้ว่า เป็นสามสาวโหดประจำป้อม ก็นนอนสลบไสลอยู่บนโซฟาใกล้ๆกันนี้
งานเลี้ยงนี้เริ่มตอนใกล้ค่ำ แต่ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว แต่น่าแปลกที่ผมไม่รุ้สึกง่วงเลยสักนิด อยากจะนั่งเขียนบันทึกต่อไปเรื่อยๆ
ทุกคนมีทางเดินชีวิตของตัวเอง ที่แตกต่างกันออกไป ยากที่จะมาบรรจบกัน ทางเดินที่ทอดยาวออกไปเบื้องหน้า อีกนานแสนนาน กว่าจะสิ้นสุด ถึงแม้ว่าจะอยากกลับไปเริ่มต้นใหม่เท่าใด แต่ปัจจุบันก็คือปัจจุบัน ทางเบื้องหน้าอีกนานแสนนานกว่าจะจบลง
พร้อมกับลมหายใจที่ดับไป
แต่นั่นคือเรื่องของอนาคต วันนี้ทำให้ดีที่สุดคงจะดีกว่า
จะไม่มีวันลืม
โรงเรียนพระราชาแห่งนี้ โรงเรียนพระราชาเอดินเบิร์ก ที่ทำให้ผมได้มาเจอกับทุกคน มาเจอกับมิตรภาพ ที่สวยงาม แม้จะดูเล็กน้อย แต่มันก็ยิ่งใหญ่สำหรับผม
จะจดจำ
เรื่องราวทุกอย่าง ที่เกิดขึ้น กับพวกเราทุกคน
จะจดจำ
มิตรภาพ และเพื่อนๆทุกคน ที่ผมได้มาเจอ ที่โรงเรียนพระราชาเอดินเบิร์ก โรงเรียนที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้
ผมจะไม่ลืม
ผมสัญญา
สุดท้ายเจ้าชายอย่างผม ที่ไม่เคยแม้แต่จะคิดขอบคุณใคร กลับอยากจะขอบคุณบุรุษหนึ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ในใจผมเสมอมา
บาโร วาเนบลี
ที่ทำให้ เจ้าชายอย่างผม ได้เข้ามาเรียนที่โรงเรียนพระราชา ได้มาเจอกับทุกคน
ขอบคุณจริงๆ...
จบศักราชการเป็นนักเรียนโรงเรียนพระราชาเอดินเบิร์ก
Kalo Wanebli
...THE END DIARY...
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น