ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Spy High School ปฏิบัติการลับฉบับเด็กแสบ

    ลำดับตอนที่ #2 : นายหัวแดง

    • อัปเดตล่าสุด 12 พ.ย. 50


    Spy High School ปฏิบัติการลับฉบับเด็กแสบ

     

            ท่ามกลางความเงียบสงัดของหมู่ตึกร้างแห่งหนึ่ง ชายหนุ่มคนหนึ่งถืออาวุธไว้ในมือเดินย่องไปยังประตูของตึกร้าง ทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็เกิดเสียงระเบิดจากลูกปืนสวนออกมา เขารีบหลบโดยเร็วและวกกลับมายิงสวนออกไปถูกคนร้าย2คน..4คน8..คน พวกมันร้องด้วยความเจ็บปวดก่อนสิ้นลมรีโหลดกระสูน  เขารีบวิ่งถลันเขาไปช่วยตัวประกันสาวที่ถูกมัดไว้ได้และช่วยเธอออกมา คนร้ายอีก3คนพุ่งออกมาจากประตูหลัง เขายิงสวนไปทันมีอย่างแม่นยำ ถูกพวกมันนัดละคน  

            ทันใดนั้นก็มีตัวประกันผู้หญิงอีกคนโผล่ออกมาจากประตูหลังเขาเกือบจะยิงหล่อนแล้ว ถ้าไม่เพราะเห็นหล่อนถูกมัดไว้แล้ว เขาก็นึกอะไรออก เขาทราบว่าตัวประกันมีเพียงผู้หญิงที่ถูกจับมาเพียงคนเดียวเท่านั้น แปลว่าใครคนใดคนหนึ่งจะต้องเป็นโจรกับตัวประกัน เขาหันหน้าไปหาผู้หญิงคนแรกที่เขาช่วยจู่ๆเสียงปืนก็แผดดังขึ้นโดยที่เขาไม้สามารถยิงตอบโต้ได้เลย คนที่ยิงเขาคือผู้หญิงที่เขาช่วยเอาไว้ตอนแรกนั้นเองบนอกเสื้อของหล่นมีสัญลักษณ์ของกลุ่มโจรติดไว้ ทำไมเขาไม่สังเกตแต่แรกนะ เขาน่าจะยิงหล่อนแล้วช่วยตัวประกันตัวจริงได้แต่สายไปเสียแล้วเขาต้องตาย แต่เขาจะกลับมาอีกครั้ง!?

            " GAMES  OVER "

            บนหน้าจอตู้เกมส์แบบใช้ปืนยิงแทนจอยสติกปรากฏคำนี้ขึ้น

            " ปัดโธ่โว้ย "เด็กหนุ่มพูดอย่างหัวเสียเมื่อเล่นเกมส์แพ้

             ขอแนะนำตัวก่อนละกันนะครับ ผมชื่อว่า นายเดชา อนุวงศาหรือจะเรียกว่าเดชเฉยๆก็ได้ ผมหน้าตาก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่ หน้าตาผมจัดว่าหล่อด้วยซ้ำ ผมไม่ได้ชมตัวเองแต่มันเป็นความจริง เส้นผมสีแดงไว้ผมทรงเดียวกันดาราวัยรุ่นเกาหลีที่ตอนนี้กำลังอินเทรนอยู่สวมเสื้อผ้าสไตล์เด็กแนวกางกางยีนขาดๆอย่างมีสไตล์เสื้อกีฬายี่ห้อ ที่ไม่ใช่ของไทยแน่ๆไม่งั้นมันไม่แนวสวมทับด้วยเสื้อแจ็กเก็ตสีเข้ากันกับสีผม

            ถามว่าผมมาทำอะไรที่ร้านเกมส์ตู้นี้นะเหรอ ผมกำลังรอคนอยู่ซึ่งนัดไว้ยังไม่มา เลยมาฆ่าเวลาที่ร้านเกมส์นี่ก่อนนะสิ มาช้าชะมัดเลยนี่ถ้าไม่เห็นว่ามันมีผลกระทบต่อเงินค่าขนมเดือนนี้ของผมละก็ผมเผ่นไปนานแล้ว นั่นไงพูดถึงก็มาเลยตายยากจริงๆ

            "มานานแล้วเหรอ ขอโทษที่มาช้าพอดีน้ามีธุระ"

            หญิงสาววัยกลางคนแต่ใบหน้ายังกับเด็กมหาวิทยาลัยเอ่ยขึ้นพร้อมกับโบกมือพัดตัวเองให้คลายร้อน

            "ผมเกือบจะกลับแล้วเชียว ปล่อยให้รอตั้งนานหิวจะแย่" ผมเอ่ยอย่างตัดพ้อ

            "น่าเดี๋ยวน้าเลี้ยงพิชซ่านะ"

            "ไม่เอา ผมจะกินไก่ทอด KFG ไม่งั้นไม่ต้องคุยกันเลย"

            "ตกลงไก่ทอดก็ได้"

            น้าสาวเอือมนิสัยเอาแต่ใจของเขาลองรายนี้พูดเอาแต่ใจยังไงก็ต้องยอมเพราะตามใจมาตั้งแต่เด็ก

            ๐๐ในร้าน ไก่ทอด KFG ที่วัยรุ่นชอบมานั่งกิน๐๐

            "เอาชุด A พิเศษที่หนึ่งเพิ่มโคล่าขนาดจัมโบ้นะ น้าจะเอาอะไรไหม หรือว่ากลัวไข้หวัดนก"

            "ไม่เป็นไรน้าไม่หิว ไปหาที่นั่งกันเถอะ"

            เราเข้าไปนั่งที่โต๊ะด้านในสำหรับนั่งสองคน ห่างจากจุดที่คนจะมองเข้ามาได้และเป็นส่วนตัว

            "ฉันอยากอยากพูดคุยเรื่องธุระกับเธอระหว่างรอได้ไหม" น้าเริ่มใช่ภาษาเป็นทางการ

            "ก็ได้ มีอะไรก็ว่ามาเลย ผมรอฟังอยู่" ผมตอบรับนึกถึงเหตุผลที่น้าให้ผมมารอพบ

            ๐๐น้าสาวเริ่มแจกแจงรายละเอียด๐๐

            อ้อ เกือบลืมผมยังไม่ได้แนะนำตัวให้น้าผมเลย น้าของผมชื่อ โฉมฉวี วลีวิลัย หรือน้าโฉมที่ผมมักเรียกติดปาก อย่าสงสัยว่าทำไม ผมและน้าใช้คนละนามสกุล น้าโฉมเป็นน้องสาวของแม่ แล้วแม่ก็แต่งงานกับพ่อ ผมใช้นามสกุลของพ่อเข้าใจรึยัง เล่าต่อละนะ

            น้าสาวของผมเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งในเชียงใหม่และอีกหลายแห่งในจังหวัดอื่นๆ ซึ่งโรงเรียนนี้เป็นมรดกตกทอดมาจากคุณตา ส่วนแม่ผมได้รับโรงแรมและมีสาขาย่อยอีกหลายแห่ง เป็นกิจการที่คุณตา ยกให้เพราะเห็นว่าเหมาะที่จะให้แม่เป็นผู้บริหาร ที่เน้นว่าในเชียงใหม่เพราะตอนนี้ผมอยู่ที่เชียงใหม่นะ ๐อ้อไก่ทอดมาพอดี๐ นอกเรื่องอีกแล้วเข้าเรื่องกันดีกว่า

            น้าสาวเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในโรงเรียนซึ่งเป็นโรงเรียนในความดูแลของเธอ เนื่องจากว่านักเรียนในโรงเรียนของเธอซึ่งเป็นนักเรียนหญิงที่เรียนดีคนหนึ่งเป็นนักเรียนทุน อยู่ดีก็ฆ่าตัวตาย สาเหตุการตายคือ รับประทานยานอนหลับเกินขนาด ซึ่งอาจะเป็นการตายโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่สรุปว่าเป็นการฆ่าตัวตายเพราะพบจดหมายฉบับหนึ่ง ตกอยู่ข้างๆศพ ใจความเหมือนกับจะลาตายแต่ไม่ได้บอกถึงสาเหตุที่ต้องฆ่าตัวตายเอาไว้ หลังจากชันนะสูตรศพอย่างละเอียดจึงพบว่า นักเรียนหญิงคนนี้เธอกำลังตั้งท้องอ่อนๆ ซึ่งน้าสาวยังว่าไม่เคยเกิดเหตุการณ์เสื่อมเสยเช่นนี้กับนักเรียนในโรงเรียนของเธอมาก่อนเลย

            ๐๐ผมกินไปฟังไป๐๐

            "น้าโฉมอยากจะให้ผมทำอะไรบอกมาเลยดีกว่าอย่าอ้อมค้อม"

            "บอกตรงๆฉันต้องการให้เธอเข้ามาเรียนในโรงเรียนของฉันแล้วสืบหาสาเหตุเรื่องที่นักเรียนหญิงฆ่าตัวตาย"

            "ขอปฏิเสธผมเรียนที่กรุงเทพฯดีอยู่แล้วเรื่องอะไรจะมาเรียนที่นี่ผมแค่กะว่าจะมาเที่ยวปิดเทอมเท่านั้น ทำไมน้าไม่จ้างนักสืบสักคนแทนละทำไมต้องเป็นผม"

            "คิดว่าฉันไม่เคยจ้างนักสืบมาเลยรึไง ถ้ามันง่ายอย่างนั้นฉันไม่ต้องมาขอร้องเธอหรอก เพราะว่าเด็กนักเรียนจะยอมเปิดปากกับเด็กนักเรียนด้วยกันเท่านั้น เขาเลยต้องการนักเรียนสักคนมาช่วยสืบ และต้องเป็นคนที่ฉันไว้ใจได้ และเธอเป็นคนที่ฉันไว้ใจที่สุด"

            "เขา?นี่นักสืบคนนั้นหรือ" ผมถาม

            "ใช่"

            "แล้วผมจะได้อะไรถ้ามาเข้าเรียนที่โรงเรียนน้าแล้วช่วยสืบเรื่องฆ่าตัวตายอะไรนั่น และอาจเกิดอันตรายกับตัวผมก็ได้เรื่องอะไรผมจะยอมเสี่ยงถ้ามันไม่มีสิ่งตอบแทนที่เหมาะสม และผมเห็นว่ามันคุ้ม"

            "ห้าพัน ถ้าเธอยอมช่วยฉันมีเงินเดือนให้เดือนละห้าพันตกลงไหม ฉันไม่ห่วงเธอเท่ากับห่วงนักเรียนคนอื่นหรอกฉันได้ยินกิติศัพท์และได้รู้วีรกรรมที่เธอทำตอนเรียนที่กรุงเทพฯมาเยอะ ฉันว่าเธอต่างหากจะเป็นอันตรายต่อคนอื่นมากกว่า"

            "แปดพัน ไม่งั้นไม่ตกลง"

            "หกพัน ฉันจะเพิ่มเงินให้ถ้าเธอทำงานดี คิดว่าฉันไม่รู้เหรอเรื่องที่เธอถูกตัดเงินค่าขนมเนื่องจากวีรกรรมที่ฉันได้ยินมาแล้วที่นี่ค่าครองชีพก็ไม่สูงเหมือนในกรุงเทพฯด้วย"

            "ตกลงก็ได้แต่ถ้าเงินไม่พอใช้ผมขอเพิ่มนะ"

            "มันเรื่องของเธอ ถ้าเงินไม่พอก็เพราะตัวเธอเอง ที่ไม่รู้จักใช้เงินอย่างประหยัด"

            "แล้วผมต้องทำยังไง ไหนจะต้องหาที่อยู่ ไหนจะเอกสาร"

            "เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง เรื่องเอกสารน้าเตรียมเสร็จแล้ว ส่วนที่อยู่ก็หอพักใกล้โรงเรียนของน้าเอง เรื่องเสื้อผ้าแบบฟอร์มน้าเตรียมไว้แล้ว ส่วนตอนนี้เธอก็พักอยู่กับน้าไปก่อนอยู่เที่ยวช่วงปิดเทอมที่นี่ พอเปิดเทอมเธอก็เข้าเรียนได้เลยแล้วก็ย้ายไปอยู่หอพัก แล้วเธอต้องย้อมผมให้เป็นสีดำก่อนเปิดเทอมด้วย"

            "จะจำกัดสิทธิเสรีภาพเกินไปหน่อยรึเปล่าเรื่องอะไรที่ผมต้องย้อมผมดำแล้วเข้าไปอยู่ในหอพักในเมื่อผมพักอยู่กับน้าก็ได้"

            "เรื่องย้อมผมมันเป็นกฎของโรงเรียน มันเป็นการดีกว่าที่ฉันให้เธอจะอยู่หอพักเพราะต้องการให้เธอเข้ากับนักเรียนคนอื่นได้เร็วขึ้น และจะดีที่สุดถ้าเราทำเป็นไม่รู้จักกันเพราะนักเรียนคนอื่นรวมทั้งอาจารย์ในปกครองของฉันจะเกรงใจเธอเกินไป เพราะเข้าใจว่าเธอเป็นหลานฉันและมันจะทำให้การสืบสวนยากขึ้น"

            "มันไม่ดีตรงไหนถ้าจะมีคนรู้ว่าน้ามีผมเป็นหลาน"

            "มันก็จะเป็นแบบเดียวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโรงเรียนในกรุงเทพฯของเธอนะสิ"

            "เอางั้นก็ได้"

            ๐๐ผมจบการสนทนาและเริ่มกินไก่ทอดจนอิ่มแล้วตามน้าโฉมไปพักที่บ้าน๐๐

            เขานึกถึงโรงเรียนในกรุงเทพฯที่เขาเรียนที่นั่นเขาไม่มีเพื่อนแท้เลยทุกคนเข้ามาตีสนิทกับเขาเพราะเห็นว่าเขาเป็นลูกเศรษฐีเพราะมีแม่เป็นเจ้าของโรงแรมใหญ่ อาจารย์คนอื่นๆก็ไม่กล้าตอแยเขาเพราะแม่ให้เงินสนับสนุนกับโรงเรียนนี้ไว้เยอะเลยทำให้เขาเสียคนพอเขารู้ความจริงว่าเพื่อนพวกนั้นคบกับเขาเพราะเห็นแก่เงิน เขาเลยลงไม้ลงมือกับพวกนั้นจนเข้าโรงพยาบาลแม่ต้องประกันตัวเขาออกมาและจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้พวกนั้นเป็นเหตุให้เขาถูกตัดเงินเดือนค่าขนม แม้แต่ผู้หญิงที่ เป็นแฟนกับเขาก็เพราะเห็นว่าเขารวยไม่ได้จริงใจเลย เขาเลยเลิกกับแฟน แล้วมาหลบรักษาแผลใจที่เชียงใหม่นี่กะว่าถ้ายังไม่หายก็จะไม่กลับพอดีว่าน้าต้องการให้เขาย้ายโรงเรียนก็ตรงกับความต้องการของเขาพอดี

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×