ความจริงของเจ้าหญิงนิทรา ภาคเจ้าหญิงกับมังกร

ข้อมูลเบื้องต้น

นิทานเรื่องนี้มิได้จงใจเขียนให้เรื่องราวต้นฉบับจริงๆเสียหายแต่อย่างใดเพียงต้องการให้อ่านกันอย่างสนุกสนานเท่านั้น


เจ้าหญิงนิทราในเรื่องนี้มิได้เป็นเจ้าหญิงที่ขี้ขลาดหรือโง่เขลา 

มิได้นอนรอความตายเฉยๆ

แต่เจ้าหญิงมีความกล้าหาญอย่างยิ่ง 

เจ้าหญิงมีความกตัญญูรู้คุณ

กล้าที่จะเผชิญกับคำสาป

เจ้าหญิงยอมเจ็บเพื่อที่จะให้ความรักของเธอสมหวัง

เนื้อเรื่อง

ความจริงของเจ้าหญิงนิทรา ภาคเจ้าหญิงกับมังกร

        กาลครึ่งหนึ่งเอ๊ย! กาลครั้งหนึ่งมีอาณาจักรแห่งหนึ่งมีพระราชา ผู้ชราองค์หนึ่งมีพระราชินี ผู้ชื่นชอบทุเรียนชะนีอีกองค์หนึ่งทั้งสองพระองค์ทรงวิตกกังวลมากเพราะยังไม่มีพระราชบุตรหรือราชธิดาเพื่อที่จะสืบทอดราชบัลลังเลย วันหนึ่งทั้งสองพระองค์จึงขอร้องต่อพระเจ้าให้ประทานราชบุตรหรือราชธิดาให้ก็ยังดี

        เวลาผ่านไปไม่นาน ก็มีข่าวว่าพระราชินีทรงเสวยทุเรียนชะนีแล้วแพ้ท้องสร้างความ ยินดีให้แก่พระราชา และประชาชนชาวเมืองในอาณาจักรแห่งนี้เป็นอย่างยิ่ง 

        ผ่านไป 9 เดือนพระราชินีก็ให้กำเนิดราชธิดาองค์หนึ่ง พระราชาและพระราชินีได้ตั้งชื่อให้ว่า "ออโรร่า"  จึงมีการเฉลิมฉลองเป็นเวลา เจ็ดวัน เจ็ดคืน เจ็ดชั่วโมง กับอีกเจ็ดนาที ชาวเมืองสนุกสนานกันมากพระราชาทรงตั้งให้เจ็ดวันนี้เป็นวันสำคัญของปี คือวันแห่งความสุขและความดี ในเจ็ดวันนี้ห้ามทุกคนโมโห หรือดุด่า หยาบคาย ในกรณีที่มีการทำผิดพียงเล็กน้อยห้ามถือสาหาความ กรณีที่เป็นความผิดร้ายแรงจะถูกนำไปขังไว้ก่อน รอให้พ้นเจ็ดวันนี้ค่อยตัดสิน

        ใกล้จะถึงเวลารับขวัญเดือนขององค์หญิงออโรร่า พระราชาได้สั่งให้ ราชเลขาส่งอีเมล์ ถึงนางฟ้าใจดีทั้ง 12 องค์ให้มาร่วมประสาทพรให้องค์หญิง แต่ไม่ได้ส่งEmailให้นางฟ้าองค์ที่ 13 ซึ่งเป็นนางฟ้าที่มีอำนาจมากที่สุด นางฟ้า 12 องค์ได้รับอีเมล์แล้วก็รีบเดินทางมาทันที ส่วนนางฟ้าองค์ที่ 13 ไม่ได้รับอีเมล์ แต่ก็รู้ข่าวว่าจะมีการฉลองครบเดือนขององค์หญิง และมีการเชิญนางฟ้าไปร่วมประสาทพร เพราะมีข่าวขึ้นที่เว็บบอด กระทู้ข่าว เว็บนางฟ้าดอทคอม นางฟ้าองค์ที่ 13 รู้สึกโกรธมากที่พระราชาไม่ได้เชิญตนเองไปด้วย

        "ดีล่ะ ถ้าพระราชาไม่เชิญข้า ข้าก็จะเชิญตัวเอง" นางฟ้าองค์ที่ 13 กล่าว

        และแล้วก็ถึงวันรับขวัญเดือนขององศ์หญิง ออโรร่า พระราชาได้จัดที่นั่งให้กับนางฟ้า 12 องค์และเชิญให้นางฟ้าประสาทพรให้กับองค์หญิงออโรร่า นางฟ้า 11 องค์ต่างได้ประสาทพรให้องค์หญิงองค์ละข้อ ต่างให้พรที่ดีงาม เช่น ขอให้องค์หญิงมีเกศาสีทอง ริมฝีปากแดงดุดกุหลาบ ร้องเพลงเพราะฯลฯ จนมาถึง นางฟ้าองค์ที่ 12 ที่กำลังจะประสาทพรให้องค์หญิง จู่ๆนางฟ้าองค์ที่ 13 ก็ปรากฏตัวขึ้น และร่ายคำสาปใส่องค์หญิง

        "ในวันที่องค์หญิงมีอายุครบ 16 ชันษา องค์หญิงจะถูกเข็มปั่นด้ายตำนิ้วจนถึงแก่ชีวิต" นางฟ้าองค์ที่ 13 ร่ายคำสาปเสร็จก็จากไป

        สร้างความตกใจให้กับพระราชาและพระราชินี ทั้งสองพระองค์ทรงโศกเศร้าเสียใจเป็นอันมากที่องค์หญิงน้อยจะต้องตายในวันเกิดอายุ ครบ 16 ชันษา แต่นางฟ้าองค์ที่ 12 ได้บอกทั้งสองพระองค์ ว่าตนนั้นยังมิได้ประสาทพรให้กับองค์หญิง จึงสามารถช่วยองค์หญิงได้ แม้ว่าไม่สามารถแก้คำสาปได้ แต่ทำให้คำสาปของนางฟ้าองค์ที่ 13 ทุเลาลงบ้าง

        "เมื่อองค์หญิงอายุครบ 16 ชันษา องค์หญิงจะถูกเข็มปั่นด้ายตำนิ้ว แต่จะไม่ถึงแก่ชีวิตเพียงแต่องค์หญิงจะหลับไปเป็นเวลา 100 ปี หรือจนกว่าจะมีบุรุษที่คู่ควรกับองค์หญิงมาจุมพิตคำสาปจึงจะคลายและองค์หญิงจะฟื้นตื่นจากการหลับใหล"

        แม้ว่าคำสาปจะทุเลาลงแต่พระราชายังไม่ทรงวางพระหทัยจึงสั่งให้รวบรวบเครื่องปั่นด้ายทั่วทั้งอาณาจักรมาเผาทิ้งเสีย และ เพื่อป้องกันนางฟ้าองค์ที่ 13 จะตามมาทำร้ายองค์หญิง พระราชาและพระราชินี จึงฝากองค์หญิงออโรร่าให้นางฟ้าองค์ที่ 12 นำไปเลี้ยงดูในที่เร้นลับและขอให้นางฟ้าองค์ที่ 12 เป็นแม่ทูนหัวขององค์หญิง

เวลาผ่านไป..................................15 ปี      

        นางฟ้าแม่ทูนหัวได้เลี้ยงดูองค์หญิงออโรร่าในป่าแห่งหนึ่งในอาณาจักรแห่งนี้อย่างเป็นความลับ ในกระท่อมร้างของนายพราน ที่แห่งนี้องค์หญิงน้อยได้เติบโตขึ้นจนเป็นสาวงามที่มีผมสีทองสว่างสดใสดังดวงตะวัน มีริมฝีปากสีแดงดุจกุหลาบแดง และมีเสียงร้องอันไพเราะ นางฟ้าแม่ทูนหัวตั้งชื่อให้องค์หญิงออโรร่าใหม่ว่า โรส เพื่อที่ว่าหากนางฟ้าองค์ที่ 13 มาเจอจะได้จำองค์หญิงไม่ได้

        วันหนึ่งขณะที่โรสเข้าไปเก็บมะละกอป่า เพื่อจะนำกลับมาทำส้มตำทานคู่กับปลาร้าที่ป้าแอนชอบ(โรส เรียกนางฟ้าแม่ทูนหัวว่าป้าแอน) เธอก็พบกับสัตว์เล็กๆหลายตัว ร้องเรียกเธอให้ตามมันไป ด้วยพรของนางฟ้าองค์หนึ่งที่เคยประสาทพรให้องค์หญิงว่าขอให้เธอเข้าใจสัตว์และพูดกับสัตว์ได้ทำให้เธอเข้าใจว่ามันต้องการอะไร และเธอก็เห็นมังกรตัวหนึ่งนอนบาดเจ็บอยู่เธอจึงช่วยปฐมพยาบาลให้กับมังกรก่อน แล้วจึงนำมะละกอป่ากลับไปไว้ที่กระท่อม และขออนุญาตป้าแอน ออกไปรักษามังกรที่นอนบาดเจ็บเธอนำอาหารและน้ำไปให้มังกรด้วย

        มังกรหนุ่มเห็นว่าถ้าให้โรสรักษา ด้วยร่างกายที่ใหญ่โตจะทำให้พันแผลไม่สะดวก จึงย่อขนาดตัวให้เล็กลง ด้วยความดูแลของโรส ทำให้มังกรหนุ่มหายจากอาการบาดเจ็บอย่างรวดเร็ว และทั้งสองก็กลายเป็นเพื่อนที่รู้ใจกัน เวลามังกรมาเยี่ยมโรส จะฝากให้สัตว์ตัวหนึ่งไปตามโรส มาหาเพราะ โรส กลัวว่าป้าแอนจะตกใจที่เห็นมังกร โรสนำส้มตำปูปลาร้ามาแบ่งกันกินกันมังกร และขนมปังสำหรับสัตว์ตัวอื่นๆ โรสจึงเป็นที่รักของสัตว์ทุกตัว และมังกรก็ตอบแทนโรสด้วยการให้ขี่หลังและพาเธอบินไปในท้องฟ้ากว้าง

        มีครั้งหนึ่งโรส พยายามจะปีนหน้าผาเพื่อเก็บดอกไม้ไปให้ป้าแอน ในวันที่ป้าไม่สบาย แม้เธอรู้ว่ามันอันตราย แต่ก็ยังพยายามจนเก็บดอกไม้ได้ แต่เธอก็เกือบหล่นลงหน้าผา พอดีที่ว่ามังกรหนุ่มบินผ่านมาเห็นเข้าจึงช่วยไว้ได้ทัน โรสได้ขอบคุณมังกรหนุ่มที่ได้ช่วยชีวิตเธอเอาไว้โดยการจุมพิตที่แก้มของมังกร(ถ้ามันมีแก้มนะ) 1 ครั้ง คล้ายกับการสัญญากันว่าจะแต่งงานด้วย

        เวลาผ่านไปไม่นาน ด้วยความใกล้ชิดสนิทสนม และความดี ที่โรสทำให้มังกร และ มังกรทำให้โรส มันทำให้ทั้งคู่เกิดความรักให้แก่กัน แต่ อนิจจา ที่มังกรและมนุษย์ไม่อาจแต่งงานกันได้ นอกเสียจากว่า โรสจะกลายเป็นมังกร หรือมังกรกลายเป็นมนุษย์ เท่านั้น มันเป็นความรักอันเจ็บปวดของทั้งคู่ เหตุนี้จึงทำให้สีหน้าอันแจ่มใส ร่าเริง ของ โรส หายไป นางฟ้าแม่ทูนหัว สังเกตเห็นเธอจึงได้ถามโรส ว่า

        "เหตุใดหลานของป้าจึงดูไม่สดใสร่าเริงเหมือนแต่ก่อน เศร้าใจเรื่องอะไรหรือ?" แล้วโรสจึงเล่าเรื่องราวตั้งแต่ที่เธอได้พบกับมังกรหนุ่มที่บาดเจ็บเธอได้รักษามังกร และมังกรก็ช่วยชีวิตเธอไว้ จนเกิดเป็นความรัก เธอได้เล่าถึงความทุกใจของเธอที่มนุษย์ไม่สามารถรักกับมังกรได้

        นางฟ้าแม่ทูนหัวรับฟังความทุกของ โรส ด้วยความเข้าใจ และปลอบใจเธอ ก่อนจะปล่อยให้โรสอยู่คนเดียวสักพัก นางฟ้าแม่ทูนหัวกลับห้องของตักเอง และเปิดโปรมแกรม MSN เพื่อติดต่อกับเพื่อนนางฟ้าองค์อื่นๆ เพื่อปรึกษาหารือเรื่องของ เจ้าหญิงออโรร่า มันเป็นที่เดียวที่นางฟ้าองค์ที่ร่ายคำสาปใส่เจ้าหญิงไม่สามารถเข้ามาได้เพราะไม่มีรหัสผ่านเข้าห้องสนทนาของนางฟ้าแม่ทูนหัว และแล้วนางฟ้าแม่ทูนหัวก็ได้พบทางแก้ให้กับ โรส แต่นางฟ้าแม่ทูนหัวต้องพบและพูดคุยกับมังกร ของ โรส ก่อนถึงจะทำได้

        ตอนเช้าวันต่อมานางฟ้าแม่ทูนหัวได้ขอให้ โรส พามังกรตัวนั้นมาพบกับเธอ และนางฟ้าแม่ทูนหัวได้บอกความจริงกับโรสว่าแท้จริงแล้วนางเป็นนางฟ้า และเป็นแม่ทูนหัวของ โรส แล้ว โรส เองก็คือองค์หญิงออโรร่า เจ้าหญิงของอาณาจักรแห่งนี้ นางต้องนำโรส มาเลี้ยงในป่าเพื่อหนีจากคำสาปแสนชั่วร้ายที่ว่าเมื่อ โรส อายุครบ 16 ปี จะต้องถูกเข้มปั่นด้ายแทงนิ้วและต้องนอนหลับไปเป็นเวลา 100 ปี หรือจนกว่าจะมี บุรุษที่คู่ควรมาจุมพิตจึงจะคลายคำสาปได้ โรส ได้ฟังแล้วก็ตกใจมาก เธอรู้สึกหวาดกลัวแต่ก็ยังตั้งใจฟัง

        เนื่องจากว่ามังกรไม่ใช่มนุษย์ นางฟ้าแม่ทูนหัวจึงจะช่วยให้มังกรกลายเป็นมนุษย์ได้ แต่เพียงชั่วคราวเท่านั้น และถ้าหากมังกรอยากจะกลายเป็นมนุษย์จริงๆตลอดไปโดยไม่จำกัดเวลา มังกรหนุ่มจะต้องให้ร่างกายของตัวเองอาบพลังของดวงจันทร์ และดวงอาทิตย์ไว้เป็นเวลานานถึง 100 ปีจึงจะกลายเป็นมนุษย์ได้โดยสมบูรณ์

        โรส ได้ฟังว่า ต้องรอให้มังกรอาบแสงของดวงจันทร์ และดวงอาทิตย์นานถึง 100 ปี จึงจะกลายเป็นมนุษย์โดยสมบูรณ์ได้ ก็กลุ้มใจว่าเธอจะรอ นานขนาดนั้นได้อย่างไร แต่โรสก็คิดขึ้นมาได้ว่า เธอเองก็ถูกคำสาปให้โดนเข็มปั่นด้ายแทงนิ้ว แล้วต้องหลับไป 100 ปีเช่นกัน ดังนั้นโรส จึงตัดสินใจแล้วว่าเธอจะเผชิญหน้ากับคำสาปร้ายนี้ และ โรส ก็รู้สึกดีใจในความเมตตาของนางฟ้าแม่ทูนหัวที่พยายามช่วยเหลือเธอ โรส รู้สึกขอบคุณนางฟ้าแม่ทูนหัวเป็นอันมาก ที่ช่วยเลี้ยงเธอมาตั้งแต่เล็ก และยังช่วยให้เธอสมหวังในความรักที่เป็นไปได้ยาก โรสรู้สึกขอบคุณแม้กระทั่ง นางฟ้าที่ร่ายคำสาปใส่เธอ โรสทั้งกอด ทั้งจูบ ทั้งขอบคุณนางฟ้าแม่ทูนหัว ไม่หยุด จนนางฟ้าแม่ทูนหัวต้องร้องห้าม

        มังกรหนุ่มได้กลายร่างตัวเองให้เป็นมนุษย์หนุ่มรูปงามจน โรส ยังตกตลึงในความหล่อเหลาคมคาย ร่างอันผอมสูงแต่กำยำ และดวงตาของมังกรดวงนี้เองที่ทำให้ โรส หลงรักเธอจำดวงตาดวงนี้ได้ตอนนี้มังกรกลายเป็นชายหนุ่มแล้ว แต่ดีใจได้ไม่นาน ก็กลายเป็นมังกรไปอีก มังกรหนุ่มพยายามที่จะกลายเป็นมนุษย์แต่ก็ทำไม่ได้ 

        "ทำไมข้าถึงกลายเป็นมนุษย์ไม่ได้ล่ะ" มังกรถามนางฟ้าแม่ทูนหัว

        "การจะกลายเป็นมนุษย์ได้ ต้องสะสมพลังโดยการอาบแสงจากดวงจันทร์ และดวงอาทิตย์อย่างที่เคยบอกไว้ ครั้งแรกก็เลยไม่นาน แต่ ต่อไปจะดีขึ้นถ้าฝึกฝน และ อาบพลังแสงจากดวงจันทร์และดวงอาทิตย์บ่อยๆ" นางฟ้าแม่ทูนหัวก็ตอบ

        มังกรหนุ่มขยันฝึกกลายร่างเป็นมนุษย์จนคล่องขึ้น และอาบพลังแสงจากดวงจันทร์และดวงอาทิตย์มิได้ขาด ทำให้กลายร่างเป็นมนุษย์ได้นานขึ้นแต่ตัวก็ดำขึ้นด้วย นางฟ้าเลยเสกครีมกันแดดรุ่น SPF 15 เปอร์เซ็นต์ ให้มังกรไว้ใช้ทาตอนอาบแดดตัวจะได้ไม่ดำอีก

        เวลาแห่งความสุขผ่านไปอย่างรวดเร็ว ก็ถึงวันที่เจ้าหญิงออโรร่าอายุครบ 16 ปี นางฟ้าแม่ทูนหัวได้พา โรส กลับไปยังปราสาทที่จากมานานเพื่อไปพบกับ พระราชาและพระราชินี ที่เป็นพระบิดา และพระมารดาของ โรส

        ในวันนี้ทั่วทั้งอาณาจักรได้เฉลิมฉลองกันอย่างเอิกเกริก และสนุกสนาน เพราะคำสาปของนางฟ้าใจร้ายยังไม่เกิดขึ้น เจ้าหญิงออโรร่ายังปลอดภัย แต่เจ้าหญิงออโรร่า มิได้สนุกด้วยเธอพยายาม มองหาเข็มปั่นด้ายสักอันที่จะเอามาแทงนิ้วตัวเองเจ้าหญิงหาจนทั่ว แต่กลับไม่พบหรืออาจพบเพราะ เจ้าหญิงออโรร่าไม่เคยเห็นเครื่องปั่นด้าย เธอจึงไม่รู้ว่าเข็มปั่นด้ายหน้าตาเป็นอย่างไร เพราะพระราชาสั่งให้เผาเครื่องปั่นได้ในอาณาจักรทั้งหมด และแล้วเธอก็เห็นแสงหิ่งห้อยมันนำเธอไปยังยอดปราสาทที่เดียวที่เธอยังไม่ได้ไปหา

        เจ้าหญิงโรร่าเห็นหญิงชราคนหนึ่ง นั่งพันอะไรบางอย่างอยู่ เธอจึงเข้าไปถามว่า

        "ยายกำลังทำอะไรอยู่หรือ?"

        "ยายกำลังปั่นด้ายอยู่เพคะองค์หญิง องค์หญิงจะลองทำดูมั่งไหมเพคะ" หญิงชราตอบ

        เจ้าหญิงออโรร่าดีใจมากเธอรีบขอลองใช้เครื่องปั่นด้ายของหญิงชราคนนั้นทันที แล้วทันใดนั้นเข็มปั่นด้ายก็ตำนิ้วของเจ้าหญิงออโรร่า หรือจะเรียกได้ว่าเจ้าหญิงออโรร่า จงใจให้เข็มตำนิ้วเธอเพราะหญิงชราหันทางด้านแหลมของเข็มยื่นมาให้ เธอเลยเอานิ้วจิ้มไปที่เข็มพอดี ร่างของเจ้าหญิงค่อยๆทรุดลงและเจ้าหญิงก็หลับไป ดังพรข้อสุดท้ายของนางฟ้าองค์ที่ 12 และแล้วร่างของหญิงชราก็หายไป แท้ที่จริงแล้วหญิงชราคนนั้นก็คือ นางฟ้าใจร้ายที่ร่ายสำสาปใส่เจ้าหญิงออโรร่าตอนวันฉลองครบเดือนนั่นเอง

        นางฟ้าแม่ทูนหัวได้ตามหาเจ้าหญิงออโรร่าจนพบ ร่างของเจ้าหญิงนอนเหยียดยาวอยู่ที่ยอดปราสาท นางฟ้าจึงนำร่างของเจ้าหญิงไปนอนบนเตียง ที่นอนซาติน ที่เตรียมไว้ นางฟ้าแม่ทูนหัวแจ้งข่าวเรื่องเจ้าหญิงออโรร่า แก่พระราชาผู้ชรา ในขณะที่พระราชินี กำลังเสวยทุเรียนชะนีอยู่ใกล้ๆ พลางปิดจมูกเอาไว้กันกลิ่นทุเรียน

        พระราชา และพระราชินีพอทราบข่าวก็รู้สึกเศร้าโศก โทรมมนัส เป็นอย่างยิ่ง แต่นางฟ้าแม่ทูนหัวบอกให้ทั้งสองพระองค์ทรงวางพระทัย เพราะเธอจะทำให้ทุกคนในปราสาทนี้หลับไปเหมือนเจ้าหญิงจนกว่าเจ้าหญิงจะฟื้นขึ้นมา และเสกให้มีหญ้าเถาวัลย์ที่มีหนามแหลมขึ้นรอบปราสาท กันการรบกวนจากคนภายนอก

        มังกรหนุ่มได้เฝ้ารอ เจ้าหญิงออโรร่าที่ปราสาทแห่งนี้ ไม่ไปไหนห่างไกล และพยายามทำตามคำแนะนำของนางฟ้าแม่ทูนหัวเพื่อที่จะกลายเป็นมนุษย์โดยสมบูรณ์ มังกรใช้เวลาที่ต้องรอนี้เรียนรู้ภาษาของมนุษย์ด้วย

        มังกรเฝ้าดูแล ปกปักรักษาปราสาทเป็นอย่างดี บางครั้งก็มี เจ้าชาย หรืออัศวินที่คิดจะมาช่วยเจ้าหญิงจากคำสาป แต่พอได้พบเจอกับมังกรก็เผ่นหนีไปทิ้งข้าวของมีค่าเอาไว้ด้วย มังกรก็เก็บเอาไว้จนรวบรวบได้มากมาย ของมีค่ามากมายพอค่อยๆสะสมมันก็เพิ่มพูนขึ้น มากขึ้น มากขึ้น

        กาลเวลาได้ผ่านไปจนเกือบครบ 100 ปี มังกรหนุ่มได้อาบพลังแสงจากดวงจันทร์ และดวงอาทิตย์ จนกายเป็นมนุษย์ได้และนำทรัพย์สมบัติมากมายนั้นไปซื้อปราสาทและที่ดิน มังกรหนุ่มกลายเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดไปแล้ว

        พอถึงวันที่ครบ 100 ปีแห่งกายหลับใหลของเจ้าหญิง มังกรหนุ่มจึงกลายเป็นมนุษย์และเข้าไปในปราสาท ยังห้องที่เจ้าหญิงบรรทมอยู่และจุมพิตบนริมฝีปากสีแดงดุดกุหลาบนั้น พอเจ้าหญิงฟื้นตื่นขึ้นมาจากการหลับใหลก็เห็นมังกรหนุ่ม ที่ตอนนี้กลายเป็นมนุษย์แล้วเป็นคนแรก ในที่สุดความรักของทั้งคู่ก็สมหวัง คนในปราสาทก็ตื่นขึ้นมาเหมือนกัน และเห็นเจ้าหญิงเดินเคียงคู่กับชายหนุ่มรูปงาม

        ชาวเมืองที่ตื่นจากการหลับใหลได้ฟังเรื่องราวที่ เจ้าหญิงเล่าว่าชายผู้นี้คือคนที่ช่วยเธอจากคำสาป และได้เล่าต่อๆกัน คนภายนอกที่ได้ฟังเรื่องราวนี้ก็ได้เล่าเสริมว่า ชายผู้นี้คือเจ้าชายผู้ร่ำรวยได้ปราบมังกรและช่วยเจ้าหญิงจากคำสาป จนกลายเห็นตำนานอย่างที่เราได้ฟังอย่างทุกวันนี้

        และนี่คือความลับของเจ้าหญิงนิทราและมังกรหนุ่มทั้งคู่อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข บางครั้งก็ชวนกันไปปิกนิก กินส้มตำปูปลาร้ากัน พร้อมกับลูกๆและนางฟ้าแม่ทูนหัว

The end