คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ความรู้สึกของคนผิด
ตอนสายของวันรุ่งขึ้น ร่างเปลือยเปล่าของรัตติกรและบุรินทร์นอนกอดกันอยู่บนเตียงนอนใหญ่ที่เมื่อคืนบุรินทร์ได้ใช้มันเป็นที่บรรเลงบทเพลงรักของเขาอย่างเต็มที่ สิ่งที่เขาทำไปก็เพราะว่ารักรัตติกร รัตติกรเองก็เริ่มจะรู้สึกตัวเหมือนมีอะไรหนักๆมาทับตัวไว้เมื่อลืมตาขึ้นก็เจอกับบุรินทร์ที่นอนทับเธออยู่ เมื่อคืนกว่าบุรินทร์จะเสร็จก็ปาไปเกือบสว่าง ทำเอาเธอเหนื่อยเหมือนกัน เมื่อรัตติกรได้สติเธอก็ผลักบุรินทร์ออกทันที แล้วน้ำตาแห่งความเสียใจก็ไหลออกมาอีกครั้ง บุรินทร์สะดุ้งตื่นขึ้นมาก็เห็นรัตติกรเอาผ้าห่มมาคลุมตัวพลางขยับหนี แต่บุรินทร์รั้งตัวรัตติกรเข้ามากอด “ผมขอโทษ เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนผมตั้งใจไม่ใช่แค่อารมณ์ชั่ววูบ” รัตติกรพยายามผลักบุรินทร์ออกแต่ก็ไม่เป็นผล “ปล่อยฉัน คุณทำกับฉันแบบนี้ได้ยังไง ในเมื่อฉันไม่ใช่ภรรยาคุณและคุณก็ไม่ได้รักฉัน ปล่อย” รัตติกรพยายามดิ้นขัดขืน แต่บุรินทร์ก็ยังกอดเธอไว้แน่น “ผมรักคุณรัตติกร” รัตติกรได้ยินคำนี้ถึงกับนิ่งอึ้งพูดอะไรไม่ออกเงยหน้าไปมองหน้าของบุรินทร์ด้วยแววตาเศร้า “คุณจะรักฉันได้ยังไง” รัตติกรถามเหมือนไม่เชื่อหูของตัวเอง “จริงๆนะผมรักคุณจริงๆรัตติกร รักในความเป็นคุณรักในนิสัยของคุณที่แพรพิไลไม่เคยเป็นเลย ผมรู้ว่ามันเป็นความรู้สึกที่ผิดมากเพราะผมก็มีแพรพิไลอยู่แล้ว แต่ผมก็ห้ามใจตัวเองให้รักคุณไม่ได้” “ไม่จริงหรอกคุณคิดไปเองมากกว่า คุณอาจจะแค่เหงาไม่มีใครและอีกอย่างฉันก็อยู่ในร่างของแพรพิไล คนที่คุณเห็นหน้าอยู่ทุกวันแล้วคุณจะมาบอกว่ารักฉันได้ยังไงกัน” รัตติกรพูดเพื่อไม่อยากให้หัวใจโอนเอนไปทางเขามากกว่านี้ “ก็จริงที่คุณอยู่ในร่างของแพร แต่สิ่งที่อยู่ในตัวแพรก็คือคุณทุกอย่างที่แสดงออกมาก็คือรัตติกรผมรักคุณที่หัวใจไม่ใช่ตัวตน” เพียงเท่านี้น้ำตาของรัตติกรก็ไหลรินอีกครั้งแต่เป็นน้ำตาของความดีใจ ที่คนที่เธอรักก็รักเธอเหมือนกัน “แต่เรากำลังทำผิดต่อคุณแพรพิไล” รัตติกรพูดเมื่ออยู่ในอ้อมกอดของคนที่เธอรัก “ผมรู้ว่าเราทำผิดแต่ความรักมันห้ามกันได้ด้วยหรือรัตติกร” รัตติกรส่ายหน้าแล้วก็กอดกระชับเข้าอีก เธอไม่รู้ว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไรแต่เธอรู้ว่าเธอจะรักบุรินทร์ให้ดีที่สุดตราบเท่าที่เธอยังมีเวลาอยู่ในร่างนี้ บุรินทร์เองก็คงคิดเช่นเดียวกับรัตติกร
เย็นวันนั้นบุรินทร์พารัตติกรมาเดินที่ริมชายหาด มาดูพระอาทิตย์ตกดิน วันนี้เธอมีความสุขที่สุดเมื่อได้ดูพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าพร้อมกับคนที่เธอรัก บุรินทร์โอบกอดรัตติกรจากด้านหลังขณะที่พระอาทิตย์กับลังจะตกดินแล้วก็จูบไปที่แก้มนวลของเธออีกครั้งหนึ่งก่อนที่จะยิ้มให้กันอย่างอ่อนโยน “เพราะคนเราใช้ชีวิตส่วนใหญ่บนแผ่นดินเวลามาทะเลทีไรทะเลจะสวยทุกครั้งที่ได้เห็น โดยเฉพาะทะเลจะสวยมากขึ้นเมื่อได้มากับคนที่เรารัก” รัตติกรพูด บุรินทร์ก็จูบรัตติกรอีกครั้ง “ผมก็คิดเช่นนั้นวันนี้ทะเลสวยมากตั้งแต่ผมเกิดมาเพิ่งเคยเห็นว่าทะเลสวยก็วันนี้เอง แต่หัวใจคนที่อยู่ในอ้อมกอดผมสวยกว่า” บุรินทร์พูดยิ้มๆทำเอารัตติกรเขินจนหน้าแดง “ปากหวานนะค่ะ แต่อย่าพูดแบบนี้กับใครนะ” รัตติกรพูดแล้วก็หัวเราะให้กับบุรินทร์ “สาบานครับ มีเมียโหดแบบนี้กลัวตายเลย” “ใครโหด โหดตรงไหนอ่ะ” รัตติกรพูดทำหน้ากวนๆ “ไม่โหดเลยครับแต่เมื่อคืนทำเอาผมจุกเลย” “น้อยไปด้วยซ้ำฉันว่า น่าจะอัดให้น่วมเลย” รัตติกรพูดหยอกเย้า “งั้นคืนนี้คุณก็อัดผมเลยนะแต่ผมจะเอาคืนให้สาสมเลย” บุรินทร์พูดแบบมีเลศนัย “บ้า” รัตติกรพูดแล้วเอามือตีไปที่ต้นแขนของบุรินทร์ ทั้งสองยืนดูพระอาทิตย์ตกแล้วจึงเดินจูงมือกันเข้ามาในบ้านชายทะเล ทั้งสองคนต่างรู้ดีแล้วว่าหัวใจของพวกเขาทั้งสองเฝ้ารอกันมานานแค่ไหน
“คุณขนของมาได้แล้ว” รัตติกรบอกกับบุรินทร์ขณะที่จะขนของกลับกรุงเทพฯ หลังจากที่มาใช้เวลาฮันนีมูลกันถึง 5 วันเป็นทุกวันที่รัตติกรมีความสุขมากบุรินทร์เองก็เช่นเดียวกัน “มาๆลุงช่วยขนครับคุณบุรินทร์” ลุงแนบและภรรยาเดินเข้ามาช่วย และมีหลานชายตัวน้อยๆเดินตามมาด้วย เด็กน้อยคนนี้รัตติกรเป็นคนดูแลตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่จึงติดรัตติกรแจ “ขอบคุณครับ” บุรินทร์พูดขอบคุณก่อนจะเดินเอาของไปที่รถ “อ้าวมะตูม มาด้วยหรอเนี่ย น้าแพรจะกลับกรุงเทพแล้วนะเป็นเด็กดีของตายายนะค่ะ ไว้โตขึ้นน้าแพรจะรับไปเที่ยวกรุงเทพนะ” รัตติกรนั่งลงจับเด็กน้อยมากอดก่อนที่จะพูดลา แต่เด็กน้อยยังไม่เข้าใจในคำว่าจากไปจึงได้แต่ยิ้มให้เช่นเคย รัตติกรจึงจูบไปที่แก้มเบาๆ “ไงมะตูม น้าแพรจะกลับแล้ว อย่าซนนะเราดูซิตั้งแต่น้าแพรมาอยู่นี่ได้จูบจากน้าแพรไปหลายฟอดเลย อิจฉาแล้วนะเนี่ย” บุรินทร์นั่งลงข้างๆรัตติกรแล้วก็พูดแหย่ให้รัตติกรอาย “บ้าคุณพูดอะไร ไปขนของต่อได้แล้ว” รัตติกรไล่ให้บุรินทร์ไปอย่างอายๆ “ครับๆ” บุรินทร์รับคำก่อนที่จะวิ่งไปช่วยลุงกับป้าขนของต่อ คนทั้งสองยิ้มให้หนุ่มสาวคู่นี้ด้วยความเอ็นดู ก่อนที่จะกลับรัตติกรและบุรินทร์ก็ยกมือไหว้ลาทั้งสองท่านก่อนที่รัตติกรจะอุ้มมะตูมเพื่อบอกลา “น้าไปก่อนนะ อย่าซนนะจ๊ะ โตไวๆ” รัตติกรพูดแล้วก็ลูบหัวมะตูมเบาๆเด็กน้อยก็ได้แต่ยิ้มเช่นเคยเพราะยังกินขนมอยู่เลย “ถ้าคุณแพรมีลูกเองคงเลี้ยงลูกเก่งนะค่ะ ขนาดเจ้ามะตูมคุณแพรยังเลี้ยงมันซะดีเลย ดูซิติดคุณแพรแจเลย” ภรรยาของลุงแนบพูด “ก็คงเป็นงั้นมั้งค่ะ”
ความคิดเห็น