คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : รักต้องห้าม
หลังจากที่รัตติกรหายเกือบเป็นปกติแล้วก็ออกจากโรงพยาบาล บุรินทร์บอกให้เธอโกหกทุกคนว่าความจำเสื่อมจนกว่าจะหาทางออกจากร่างนี้ได้ บุรินทร์ขับรถพารัตติกรมาที่บ้านของเขากับแพรพิไล บุรินทร์เป็นวิศวกร จึงสามารถทำบ้านหลังนี้ได้ดูน่ารักและแปลกแบบที่รัตติกรไม่เคยเจอมาก่อน พ่อแม่ของแพรพิไลก็มารออยู่ที่นี่แล้ว “กลับมาแล้วลูกแพร บุญรักษานะลูกนะ หายไวไวนะลูก” คุณหญิงแม่ของแพรพิไลพูดแล้วก็มาโอบกอดร่างของแพรพิไล “ขอบคุณค่ะคุณ..แม่” รัตติกรพูดด้วยความไม่ชินเพราะเธอไม่เคยเรียกแม่มาก่อนนี่นา หลังจากที่พ่อแม่ของแพรพิไลกลับไปแล้ว ก็เหลือเพียงแค่รัตติกรกับบุรินทร์เพราะบ้านนี้ไม่มีแม่บ้าน แพรพิไลบอกว่าอยากทำงานเป็นแม่บ้านเอง
“คุณจะให้ฉันนอนที่ไหน” รัตติกรพูดขึ้นเมื่อทานข้าวเย็นเสร็จแล้ว “นอนที่ห้องผมก่อนก็ได้วันนี้คงเตรียมห้องให้คุณไม่ทัน” “ได้ไงกัน” “ผมไม่ได้นอนกับคุณหรอกน่า ผมจะนอนข้างล่างเตียง” บุรินทร์พูดแล้วก็ช่วยรัตติกรเก็บถ้วยจานไปล้าง แต่หน้าที่ล้างคือรัตติกรเพราะบุรินทร์บอกว่าทำไม่เป็น สร้างความหมั่นไส้ให้รัตติกรยิ่งนัก รัตติกรขึ้นไปที่ห้องก็เห็นบุรินทร์นอนอ่านหนังสือสบายใจอยู่ที่เตียงด้วยความสบายใจ “คุณลงมานอนข้างล่างสิ” “ขอนอนอ่านหนังสือแป๊ปนึง คุณก็ไปอาบน้ำก่อนสิ” บุรินทร์พูด “ก็ได้แต่คุณห้ามแอบดูฉันนะ” รัตติกรพูดด้วยความไม่ไว้ใจบุรินทร์ “คุณรัตติกรครับผมจะดูอะไรในเมื่อนั่นมันเป็นร่างของภรรยาผม ผมเห็นมาหมดแล้ว” บุรินทร์พูดแล้วหัวเราะ “บ้าบอที่สุด” รัตติกรพูดแล้วก็เดินเข้าห้องน้ำไป รัตติกนตื่นขึ้นเมื่อเห็นว่าเช้าแล้ว เธอขยับตัวลงจากเตียงก็เหยียบเช้าที่ท่อนแขนของบุรินทร์ “โอ๊ยย เหยียบลงมาได้ยังไงกันเจ็บนะคุณไม่เห็นคนรึไงกัน” บุรินทร์พูดแล้วก็ลุกขึ้นจับที่ท่องแขนตัวเอง “ฉันขอโทษ ฉันลืมว่าคุณนอนอยู่นี่” รัตติกรกล่าวขอโทษด้วยความรู้สึกผิด “ทีหลังก็ดูก่อนนะถ้าเหยียบมาที่ตัวผมจะไม่ปอดแตกเลยหรอ” “ก็ฉันไม่รู้ ไม่ได้ตั้งใจ เข้าใจรึยังคะ” รัตติกรพูดแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป หลังจากที่ทานข้าวเช้าเสร็จ รัตติกรล้างถ้วยชามแล้วบุรินทร์ก็บอกให้รัตติกรไปพบที่สวนหน้าบ้านตรงริมระเบียง “คุณมีอะไรจะพูกับฉันหรือคะ” รัตติกรพูดขึ้นเมื่อเดินมาถึงก็เห็นบุรินทร์นั่งอ่านหนังสืออยู่แล้ว “ผมอยากทำข้อตกลงกับคุณ” “ข้อตกลง อะไรหรอ” รัตติกรถามด้วยความสงสัย “เรื่องทำงานบ้าน ถ้าคุณทำไม่ได้ผมก็จะหาแม่บ้านมาให้” “ทำไมฉันจะทำไม่ได้ ไม่ต้องลำบากหรอกแค่นี้เอง” รัตติกรพูดเพราะตอนเธออยู่กับพี่สาวเธอก็ทำเองอยู่แล้วไม่ได้ลำบากอะไรเลย “งั้นก็ดี อีกเรื่องคือคุณก็ขนของที่จำเป็นของคุณที่จะต้องใช้ไปอยู่ห้องข้างๆที่เป็นห้องพักแขก” “ทำไมคุณไม่ย้ายออกไปเองเล่า” รัตติกรพูดเพราะไม่อยากขนของ “ได้ไงกันคุณนั่นมันห้องนอนผมกับแพรพิไลนะ” “งั้นก็ได้ ตอนบ่ายๆฉันจะไปทีโรงพยาบาลแล้วก็ห้างหน่อยนะของใช้มันหมดแล้วของกินด้วย” “อืมๆเดี๋ยวผมพาไป” บุรินทร์พูดแล้วก็หยิบหนังสือมาอ่านต่อ รัตติกรเก็บของอยู่ก็เห็นไดอารี่อยู่เล่มหนึ่ง เธอจึงแอบเปิดดู เป็นไดอารี่ของแพรพิไลที่เขียนถึงบุรินทร์ แพรพิไลกับบุรินทร์คบกันมา 3 ปีก่อนจะแต่งงานเจอกันที่อเมริกาเพราะทั้งสองไปเรียนต่อแล้วเจอกันที่โน่น จากที่อ่านดูแพรพิไลดูจะรักบุรินทร์มาก บุรินทร์เองก็คงเช่นกันจากที่อ่านดูบุรินทร์ในสายตาของแพรพิไลก็ดูเป็นคนดีมากๆ จนรัตติกรหมั่นไส้ เพราะถ้าเป็นคนดีจริงๆทำไมไม่มาช่วยเธอย้ายของอีกทั้งทำไมต้องให้เธอทำงานบ้านคนเดียวบ้านก็ออกจะใหญ่โต รัตติกรอ่านแล้วก็เก็บไดอารี่เข้าที่เดิมก่อนจะขนของออกไป แล้วทำความสะอาดห้องอยู่พักใหญ่ บ่ายๆก็เสร็จ รัตติกรก็ต้องมาทำกับข้าวอีก “คุณมัวทำอะไรอยู่ ผมหิวจะแย่อยู่แล้ว” “ก็จัดห้องไง คุณหิวทำไมไม่มาหากินเอง” “นี่คุณมันเป็นหน้าที่ของคุณนะ” “ฉันก็ไม่ใช่ขี้ข้าคุณนะ ก็ช่วยกันก็ได้นิ” เมื่อเห็นว่าถ้าต่างเถียงกันต่อไปคงไม่จบง่ายๆแน่เพราะดูท่ารัตติกรดูเหมือนจะไม่ยอมคนด้วยบุรินทร์จึงหยุดพูดแล้วเดินไปนั่งที่โต๊ะอาหารเพราะไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นัก บ่ายๆบุรินทร์จึงขับรถพารัตติกรมาที่โรงพยาบาลก่อน รัตติกรเดินไปที่ห้องที่ตัวเองนอนอยู่ ใบหน้าก็ดูซีดเซียวเหมือนเดิมแต่แผลภายนอกดูจะหายแล้ว “มีวิธีไหนที่จะทำให้ฉันออกจากร่างนี้ได้เร็วๆฉันก็พร้อมที่จะทำ” รัตติกรพูดโดยที่ไม่มองหน้าบุรินทร์ “ถ้ามีผมคงทำไปแล้ว” บุรินทร์ก็ตอบกลับมาทันที แต่ดูเหมือนรัตติกรจะเสียใจกับคำพูดนี้มาก ตั้งแต่เธอรู้จักกับบุรินทร์ถึงแม้เขาจะพูดกวนๆหรือเป็นคนเฉยๆกับเธอแต่บุรินทร์ก็ดูเป็นผู้ชายที่อบอุ่นสาวไหนอยู่ใกล้ก็ต้องหลงรักเพราะเรื่องหน้าตาบุรินทร์ก็ถือว่าหล่อมาก เพราะตัวสูง187 ซม.ใบหน้าคมเข้มผิวสีแทนแต่งตัวดูดี เหมือนมีเสน่ห์บางอย่างดึงดูดให้รัตติกรชอบแอบมองหน้าเขาบ่อยๆ บางทีเธอก็เหมือนจะหลงรักบุรินทร์แต่ก็ห้ามใจตัวเองไว้เพราะมันคงเป็นไปไม่ได้ในเมื่อบุรินทร์เองก็มีภรรยาอยู่แล้วคือแพรพิไล “คุณจะต้องอยู่ในร่างนี้อีกนานแค่ไหน ถ้าคุณอยู่ตลอดไปหล่ะ” บุรินทร์พูดขึ้นทำให้รัตติกรต้องคิดทันที “นั่นสิฉันก็ไม่รู้ว่าจะต้องอยู่นานแค่ไหนเมื่อไหร่ฉันจะออกจากร่างนี้ฉันก็ไม่รู้แต่ฉันว่าคงไม่ตลอดไปหรอก” รัตติกรให้คำยืนยันแก่บุรินทร์ ห้องนั้นก็กลับมาเงียบลงอีกครั้ง บุรินทร์พารัตติกรไปซื้อของที่ห้างแล้วก็หาข้าวกินข้างนอก “คุณอยากกินอะไรก็สั่งเลยนะร้านนี้อร่อยทุกอย่างผมกับแพรมาทานกันเป็นประจำ” บุรินทร์พูดขณะที่เปิดเมนูอาหาร ก่อนที่จะสั่งกับข้าวสองสามอย่าง “ค่ะ” รัตติกรรับคำสั้นๆแล้วก็สั่งกับข้าวที่ตัวเองชอบ เมื่อทานข้าวเสร็จก็มืดพอดีบุรินทร์พารัตติกรขับรถมาถึงบ้านก่อนจะช่วยขนของเข้าบ้านแล้วก็ขึ้นข้างบนไปทิ้งให้รัตติกรจัดของอยู่คนเดียว หลังจากวันนั้นรัตติกรกับบุรินทร์ก็ไม่ค่อยได้เจอหน้ากันเท่าไหร่นักเพราะบุรินทร์บอกว่างานยุ่ง แต่เธอรู้สึกว่าบุรินทร์พยายามหลบหน้าเธอมากกว่า นี่ก็เป็นเวลาสามเดือนแล้วที่เธอมาอยู่ที่นี่ เธอก็ได้แต่อยู่บ้านเฉยๆไม่ได้ไปทำอะไรอยู่บ้านเป็นแม่บ้าน บุรินเองก็ไม่ได้เข้ามายุ่งกับเธอมากนักตื่นเช้ามาเขาก็ไปทำงานแล้วจะกลับมาก็ตีหนึ่งตีสอง รัตติกรจะรอมันก็กระรัยอยู่ เธอจึงได้แต่นอนรอฟังเสียงรถว่าเขากลับมารึยังเธอยังเป็นห่วงว่าเขาจะกินอะไรมารึยังแต่มีอยู่วันหนึ่งขณะที่รัตติกรกำลังจะเอาผ้าจากเขาเพื่อเอาไปซักเจอเสื้อทำงานเขามีรอยลิปสติกติดอยู่ “คงไม่ไปเที่ยวผู้หญิงหรอกนะ” รัตติกรคิดอยู่ในใจเพราะถ้าเป็นอย่างนั้นเธอก็อดที่จะสงสารแพรพิไลไม่ได้แต่ต้นเหตุทั้งหมดมันเกิดจากเธอนี่นา วันนี้เป็นวันอาทิตย์แต่แปลกที่เห็นบุรินทร์อยู่บ้านเพราะทุกครั้งเธอจะเห็นบุรินทร์ออกจากบ้านไม่ว่าหยุดหรือไม่ก็ตาม “วันนี้ไม่ไปไหนหรอค่ะ” รัตติกรถามขึ้นเมื่อตั้งโต๊ะจะทานข้าวเช้า “ไม่มีธุระที่ไหน วันนี้ฉันจะพาเธอไปเยี่ยมพ่อแม่ของแพรนะ” บุรินทร์พูดเมื่อรัตติกรกำลังตักข้าว “ค่ะ” รัตติกรรับคำสั้นๆเพราะเธอเข้าใจว่าท่านทั้งสองคงจะเป็นห่วงแพรพิไลอยู่มากคุณแม่ของแพรพิไลชอบโทรมาหาเธอและพยายามเล่าเรื่องราวต่างๆเมื่อครั้งอดีตเพื่อที่จะให้เธอจำได้แต่เธอจะจำได้ยังไงกันล่ะในเมื่อเธอไม่ใช่แพรพิไลนี่นา เมื่อทานข้าวเช้าแล้วรัตติกรก็ล้างถ้วยชามตามปกติ ก่อนที่จะขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เธอพยายามหาชุดกระโปรงของแพรพิไลมาใส่เพราะตั้งแต่เธอมาอยู่ในร่างของแพรพิไลเธอก็ไม่เคยใส่กระโปรงเลยใส่แต่กางเกงยีนส์ จนบางครั้งบุรินทร์ก็บอกให้เธอทำตัวให้เหมือนแพรพิไลไม่ใช่รัตติกรเพราะเธออยู่ในร่างของแพรพิไล แต่เธอก็ไม่เคยทำตามสักทีจนบุรินทร์ขี้เกียจพูดแล้วก็เลิกไป พอรัตติกรเดินมากำลังจะขึ้นรถบุรินทร์ก็มองรัตติกรอย่างยิ้มๆแต่รัตติกรคิดในใจว่าคงคิดถึงแพรพิไลแน่ เมื่อคิดได้อย่างนี้เธอก็ถึงกับเศร้าในหัวใจทันที แล้วก็เปิดประตูรถเข้าไปนั่งในรถเงียบๆ บุรินทร์ขับรถมาถึงบ้านของพ่อแม่แพรพิไล เธอก็เดินเข้าไปกราบท่านทั้งสองดูท่านจะดีใจมาก
ความคิดเห็น