ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    จิตปรารถนา

    ลำดับตอนที่ #1 : พรหมลิขิต

    • อัปเดตล่าสุด 9 ส.ค. 54


                         ท่ามกลางสายฝนที่พรำลงมาปรอยๆ ทำให้บรรยากาศ ในกรุงเทพเริ่มจะแออัดมากขึ้น ผู้คนบนทางเท้าเริ่มจะบางตาเพราะคงหนีฝนกันไปเกือบจะหมดแล้ว ฝนตกตั้งแต่ตอนหัวค่ำจนตอนนี้เวลาสองทุ่มกว่าๆแล้วฝนก็ยังไม่หยุดตกอีก การจราจรที่ถนนก็ติดกันยาวเหยียด เป็นบรรยากาศที่น่าเบื่อที่สุดสำหรับรัตติกร รัตติกรได้เข้ามากรุงเทพ เพื่อมาอบรมสัมมนาเป็นเวลา 3 วัน วันนี้ก็เป็นวันสุดท้ายแล้วกับการอดทนในสิ่งที่เธอไม่อยากมาเพราะทางสำนักงานของกรมป่าไม้ได้ส่งเธอเข้ามาอบรมอาจจะเป็นเพราะเธอเป็นน้องใหม่เธอจึงขัดขืนอะไรไม่ได้ รัตติกรเป็นผู้หญิงที่ดูเรียบๆไม่ได้สวยไปต่างสาวๆทั่วไปแต่เป็นคนที่ไม่ค่อยดูแลตัวเอง เนื่องจากเธอทำงานด้านป่าไม้จึงค่อนข้างที่จะลุยๆ แค่เสื้อยืด แจ็คเก็ต และกางเกงยีนส์ ก็พอ ผมที่ยาวถึงกลางหลังของเธอก็ถูกมัดไว้อย่างลวกๆ ไม่เคยปล่อยออกมาอวดสายตาใคร ใบหน้าเรียวดูสะอาดสะอ้านไร้เครื่องสำอางแต่งแต้ม แต่ก็ทำให้เธอดูน่ารักและอ่อนกว่าวัย แม้เธอจะอายุปาเข้าไป 25 ปีแล้วก็ตาม  ขณะเธอเดินออกมาจากโรงแรมที่ใช้ สัมณาเพื่อที่จะเดินทางกลับไปยังลำปาง เธอตั้งใจว่าจะกลับภายในคืนนั้นเลยเพราะเธอเบื่อกรุงเทพเต็มทน ขณะเธอกำลังจะวิ่งข้ามถนนก็มีรถเก่งคันหนึ่งวิ่งมาอย่างเร็วรัตติกรทำอะไรไม่ถูกได้แต่ยืนอึ้งเวลาผ่านไปเพียงเสี้ยวนาที ร่างของรัตติกรก็กระเด็นลอยไปอยู่ที่ข้างทางทันที ส่วนรถเก่งคันนั้นก็หักหลบเข้าชนกับเกาะกลางถนน ท่ามกลางความชุลมุนวุ่นวาย พร้อมกับสายฝนที่หยาดรินลงมาอย่างไม่ขาดสาย ต่างมีเสียงวิพากษ์ วิจารณ์เหี่ยวกับเหตุการณ์นี้อย่างเซ็งแซ จะรอดมั๊ยเนี่ย อี่หนูเอ๊ย โดนชนขนาดนั้น เวรกรรมแท้ๆลูกเต้าเหล่าใครก็ไม่รู้เนาะ เสียงของบรรดาไทยมุงพากันพูดขึ้นไปต่างๆนาๆ แต่ก็เป็นภาพที่สะเทือนใจของคนที่พบเห็นเป็นอย่างยิ่ง เพราะร่างของรัตติกรที่นอนจมกองเลือดและ รถเก่งที่ชนอยู่กับเกาะกลางถนนข้างหน้าพังยับคนที่อยู่ในนั้นจะรอดหรือไม่ก็มีเสียงพูดคุยกันไม่ขาดสาย

                                 ร่างบางๆที่นอนอยู่บนเตียงรอบตัวมีเครื่องช่วยหายใจรายรอบตัวเต็มไปหมด เหตุการณ์รถชนกันก็ได้ผ่านมา 3 วันแล้ว มีเพียงบุรินทร์ เท่านั้นที่ฟื้นตั้งแต่วันแรกมีบาดแผลเล็กน้อยเพราะถุงลมนิรภัยได้ช่วยเขาไว้ แต่ของภรรยาเขาที่นั่งมาข้างๆถุงลมเกิดไม่ทำงานเลยทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส และคู่กรณีอย่างรัตติกรเขาก็ไปเยี่ยมมาแล้วก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะฟื้นเลย ทางสำนักงานที่รัตติกรทำงานอยู่ก็เป็นญาติเพียงคนเดียวที่มาติดต่อเข้าเยี่ยมเพราะรัตติกรไม่มีญาติที่ไหนอีกเธออยู่กับพี่สาวมาตั้งแต่เด็กเพราะพ่อแม่เสียไปหมดแล้วและตอนนี้พี่สาวเธอก็แต่งงานไปกับชาวแคนาดาและไปอยู่กินที่เมือง นอก รัตติกรเองก็ตัดสินใจว่าจะอยู่ที่เมืองไทยไม่ตามพี่สาวไป หัวหน้าของรัตติกรบอกว่าจะย้ายตัวรัตติกรกลับลำปางเมื่ออาการดีขึ้น แต่แพทย์ยังไม่ยังให้อยากย้ายไปเพราะเธออาจจะเป็นเจ้าหญิงนิทรา และบุรินทร์เองก็ยินดีที่จะรับผิดชอบเรื่องค่ารักษาทั้งหมดให้ รัตติกรจึงจำเป็นต้องอยู่ที่กรุงเทพต่อไป โพล่งขึ้นด้วยความดีใจ จริงด้วยคุณหญิง ตามหมอเร็วเข้าชายกลางคนที่ยืนอยู่ข้างๆกล่าวด้วยอาการดีใจแต่รัตติกรกลับแปลกใจทำไมต้องเรียกเธอว่าลูกทั้งที่พ่อแม่ของเธอก็เสียไปหมดแล้ว พวกคุณเป็นใครรัตติกรถามด้วยความมึนงง ทั้งสองท่านรวมถึงคุณหมอต่างก็แปลกใจคุณแพรพิไลเธออาจจะความจำเสื่อมก็ได้ขอผมเช็คอาการดูอีกทีนะครับคุณหมอกล่าวแล้วก็ให้บุรุษพยาบาลเคลื่อนย้ายร่างของแพรพิไลไปที่ห้องเอ็กซเรย์ทันที ระหว่างที่รอทำการตรวจอยู่นั้น คุณหมอและพยาบาลเผลอเธอจึงเดินไปที่โต๊ะที่มีกระจกบานหนึ่งวางอยู่หยิบขึ้นมาส่องทำให้รัตติกรต้องตกใจสุดขีดเพราะใบหน้านั้นมันไม่ใช่เธอแต่เป็นใบหน้าของสาวสวยคนหนึ่งดวงหน้ากลมมน ตาโต ผิวขาวอมชมพู เป็นผู้หญิงที่สวยมากตั้งแต่รัตติกรเคยพบ คุณคงเป็นแพรพิไลสินะ แต่ว่าคุณเป็นอะไรกับฉัน ฉันจึงต้องมาอยู่ในร่างของคุณแบบนี้แพรพิไลรัตติกรพึมพรำกับตัวเองอยู่พักหนึ่งก่อนที่หมอจะเข้ามา คุณแพรพิไลมายืนทำอะไรอยู่ตรงนี้ครับเชิญที่เตียงดีกว่าครับเมื่อหมอพูดจบรัตติกรในร่างของแพรพิไลก็เดินไปที่เตียงทันที เมื่อทำการตรวจเสร็จแล้วผลก็ปรากฏว่าสมองไม่มีความผิดปกติใดๆ แล้วทำไมภรรยาของผมถึงจำอะไรไม่ได้เลยครับหมอบุรินทร์ที่เป็นสามีของแพรพิไลถามขึ้น ผมก็ไม่ทราบครับแต่ต้องดูอาการไปสักพักเธออาจจะแค่ความจำเสื่อมสักพักเดี๋ยวก็จำได้แล้วครับ” “โถ่ลูกแพรของแม่ คุณหญิงแม่ของแพรพิไลกล่าวแล้วเดินไปลูกที่ผมของแพรพิไล ทำให้รัตติกรถึงกับเศร้าสลดแต่ก็เหมือนอบอุ่นในหัวใจเธอจะทำยังไงต่อไปดี ในเมื่อทุกคนก็ต่างไม่รู้ว่าเธอคือรัตติกรที่มาอยู่ในร่างของแพรพิไล เธอควรจะบอกความจริงกับทุกคนดีมั๊ยแล้วเธอจะเริ่มพูดยังไงดี เมื่อคุณพ่อคุณแม่ของแพรพิไลกลับไปแล้ว เพราะบุรินทร์บอกว่าจะอยู่เฝ้าแพรพิไลเอง รัตติกรจึงถือโอกาสนี้บอกกับบุรินทร์ทันที เอ่อคุณบุรินทร์คะ ฉันมีเรื่องจะพูดด้วยคะ รัตติกรพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าสมควรแล้วที่จะบอกความจริงเพราะเธอไม่สามารถที่จะหลอกทุกคนไปได้และในฐานะที่บุรินทร์เป็นสามีของแพรพิไลก็ควรจะรับรู้ไว้ แพรมีเรื่องอะไรจะคุยกับพี่หรอคะ” “คือว่าฉันไม่ใช่แพรพิไล ฉันชื่อรัตติกร ฟังดูคุณอาจจะงงนะแต่ฉันมาอยู่ในร่างของภรรยาของคุณได้ยังไงไม่รู้” “เดี๋ยวก่อนนะแพรพูดอะไรมันจะเป็นไปได้ยังไงกัน” “มันเป็นเรื่องจริงค่ะคุณบุรินทร์ ฉันจำได้ว่าฉันถูกรถชนแล้วหลังจากนั้นฉันก็ฟื้นมาอยู่ในร่างนี้บุรินทร์พอจะจำได้แล้วว่าคือคนเดียวกันที่เขาขับรถชนวันนั้นนี่เองคุณไม่ได้หลอกผมนะ” “ฉันไม่ได้โกหกค่ะ จะให้ฉันพิสูจน์ยังไงก็ได้ว่าฉันคือรัตติกรไม่ใช่แพรพิไล” “แล้วคุณรู้มั๊ยว่าตอนนี้ภรรยาของผมไปอยู่ที่ไหน


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×