ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 2 : ก้าวแรกของการเป็นอัจฉริยะ
บทที่ 2 : ก้าวแรกของการเป็นอัจฉริยะ
ตลอดค่ำคืนนั้นทั้งคืน กลับมีแต่เสียงของทารกน้อยร้ำไห้อยู่ตลอดเวลา จนใกล้รุุ่ง ทารกน้อยจึงเผลอหลับไป เนื่องจากความเพลีย ทั้งจากการทรมานและการร้ำไห้อยู่ตลอดเวลานั้นเอง ท่านผู้เฒ่าจึงได้อุ้มทารกน้อยลงมาหาที่นอนบนพื้นดินด้านล่าง แต่เมื่อจะวางลง ก็สัมผัสได้ถึงความเย็นของพื้นดิน จึงตัดสินใจ นำหีบสมบัติมาหนึ่งหีบ แล้วเทข้าวของที่อยู่ภายในออก จึงได้นำทารกน้อยหลงเอ๋อ ไปนอนในหีบอย่างน้อยก็ช่วยบรรเทาไอเย็นจากพื้นดินได้บ้าง เพราะเป็นหีบไม้ขนาดใหญ่และมีความหนาเป็นอย่างมาก คาดว่าน่าจะเป็นไม้ที่มีอายุไม้ต่ำกว่า 1000 ปี อีกทั้งยังไม่มีวี้แววว่าสึกกร่อนอีกด้วย
หลังจากที่วางทารกน้อยเสร็จสิ้น ท่านผู้เฒ่าก็ได้มองดูทารกน้อยด้วยความเอ็นดูและสงสารในชะตากรรมของตัวมันเองที่อนาคตจะต้องเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ที่เลวร้ายต่างต่างนานา
" ข้าจะเลี้ยงดู สั่งสอนเจ้า ให้สามารถผ่านพ้นชะตากรรมอันเลวร้ายเหล่านั้นไปให้จงได้ ก่อนอื่น ตอนนี้คงต้องไปหาไม้นำมาทำเป็นข้าวของเครื่องใช้ก่อน มิเช่นนั้น คงจะอยู่กันอย่างลำบากแน่ๆ " หลังจากตัดสินใจได้แล้ว ก็หันตัวเดินออกจากถ้ำไป
เมื่อเดินมาถึงหน้าถ้ำกลับพบพยัคฆ์ขาว และ วานรเผือก รออยู่ด้านหน้าถ้ำ จึงเกิดความสงสัยใคร่รู้ว่าเหตุใด เจ้าสัตว์ทั้งสองนี้จึงมารออยู่ที่หน้าถ้ำ แต่ก็ฉุดคคิดได้ว่า พวกมันคงจะได้ยินเสียงร้องไห้ของหลงเอ๋อนั้นเอง จึงคิดอยากจะมาดูที่มาของเสียงเลยมาอยู่ที่ด้านหน้าถ้ำ
ทั้งพยัคฆ์ขาวและวานรเผือก เมื่อได้เห็นท่านผู้เฒ่าก็ได้ถอยกายไปด้านหลังของตนเองอย่างรู้สึกหวั่นเกรงในชายชราตรงหน้า เนื่องจากเป็นสัวต์ที่มีบตะสูงจึงสามารถ รับรู้ได้ว่าชายชราตรงหน้าสามารถทำร้ายตนเองได้อย่างง่ายดาย จึงเกิดเข้ารู้สึกระแวงขึ้นมา
ท่านผู้เฒ่าหยางเมื่อได้เห็นทั้งสองถอยกายไปด้านหลังก็ได้กล่าวว่า
" เจ้าทั้งสองอย่าได้เกรงกลัวเราไป เราไม่ทำร้ายพวกเจ้า หากพวกเจ้าไม่มาทำร้ายตัวเราก่อน " หวังว่าคงจะเข้าใจ ท่านผู้เฒ่าคิด ทั้งสองคล้ายจะเข้าใจในวาจาของท่านผู้เฒ่า จึงก้าวเดินมาหาท่านผู้เฒ่าอย่างช้าๆ
เมื่อก้าวเดินมาถึงตัวท่านผู้เฒ่าก็ได้ใช้มือลูบได้ทั้วบริเวณลำตัวของทั้งสอง ทั้งสองเคลิบเคลิ้มอย่างมีความสุข นานแล้วที่ไม่มีผู้ใดมากระทำกับตนเองอย่างนี้ เมื่อท่านผู้เฒ่าได้เห็นดังนั้นก็หัวเราะขึ้นมา " ฮ่า ฮ่า ฮ่า ดีเลย งั้นข้าก็ขอรับพวกเจ้าเป็นสัตว์เลี้ยงของเราแล้วกัน หลงเอ๋อก็จะได้มีคนช่วยดูแลปกป้อง หวังว่าพวกเจ้าคงจะชมชอบหลานชายของข้านะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า "
เมื่อทั้งสองได้ยินก็ผงกหัวของมันขึ้นลงคล้ายตอบรับ และส่งเสียงครางของมันออกมา คล้ายรับปากตามคำที่ท่านผู้เฒ่าได้กล่าวมา
ท่านผู้เฒ่าเมื่อเห็นดังนั้นก็เดินนำทั้งสองเข้าไปดูทารกน้อยหลงเอ๋อ หลานชายของตัวเอง เมื่อทั้งของได้เห็นหลงเอ๋อก็เกิดความรู้สึกถูกชะตาอย่างมิคาดมาก่อน ตอนแรกแค่รับคำตามคำของผู้เป็นนาย แต่นี้เมื่อได้เห็นเกิดความรู้สึกอยากที่จะดูแล และปกป้องชีวิตน้อยๆนี้
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไม ทั้งสองจึงมีความนึกคิดและเข้าใจในคำพูดของมนุษย์ เพราะทั้งสองนั้นมีชีวิตที่ยืนยาว มีอายุเกินกว่า 1000 ปีแล้ว จึงมีตบะที่สูงล้ำตามไปด้วย นั้นจึงเป็นเหตุให้ทั้งสองคล้ายเป็นมนุษย์ผู้หนึ่งเลยทีเดียว เพียงแต่พูดไม่ได้เท่านั้น
ท่านผู้เฒ่าก็คล้ายจะรับรู้ได้เช่นกัน ว่าทั้งสองคิดอย่างไร จึงกล่าวกับทั้งสองว่า
" งั้นที่เหลือตอนนี้ ก็ฝากพวกเจ้าช่วยอยู่ดูแลเจ้าตัวน้อยไปก่อนละกัน ระหว่างรอข้าไปหาไม้มาทำข้าวของเครื่องใช้ " ทั้งสองก็ส่งเสียงครางตอบรับเบาๆ เพราะกลัวเจ้าทารกน้อยนี้ตื่น
เมื่อเห็นดังนั้นท่านผู้เฒ่าก็ได้ใช้วิชาตัวเบาของท่านออกไปหาไม้มาทำเป็นข้าวของเครื่องใช้ ตามที่ได้กล่าวมา
ตึง ตึง ตึง ตึง !!
เสียงดังของต้นไม้ที่โค้นหล่นลงมากระแทกกับพื้น ดังขึ้นเป็นระยะๆ พวกสัตว์ที่ออกมาหากินในตอนเช้าหลังจากที่เมื่อคืนก็ไม่ได้มีอะไรตกถึงท้องเลย ก็พากันวิ่งหนี้หาย และหลบเข้าไปในที่พับอีกเช่นเดิม เพราะตกใจกับเสียงที่ดังสนั่นนี้ ที่เสียงต้นไม้ดังจนทำให้พวกสัตว์เกรงกลัวเพราะต้นไม้นป่าแห่งนี้ สูงใหญ่เป็นอย่างมาก หากนับเป็นเมตร คงวัดได้ราวๆ 100 เป็นอย่างต่ำทุกต้นเลยทีเดียว
การโค้นต้นไม้นั้น มิได้เป็นอุปสรรคอันใดกับท่านผู้เฒ่าเลย ถึงแม้จะเป็นแค่ชายชรา แต่ก็มิได้เป็นชายชราธรรมดาๆเลย การตัดต้นไม้จึงไม่ใช่เรื่องที่เกินความสามารถของท่านผู้เฒ่าเลย ต้นไม้ที่ตัดได้ท่านผู้เฒ่าก็นำมาทำเป็นเตียงบ้าง โต๊ะบ้าง เก้าอี้บ้าง ไว้ใช้สำหรับทารกน้อยในอนาคต
ระยะเวลาในการทำข้าวของเครื่องใช้รวมถึงการโค้นต้นไม้นั้น ท่านผู้เฒ่าใช้เวลาเพียงไม่นานก็ทำเสร็จ เมื่อเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าก็พบว่า น่าจะเป็นเวลาเที่ยงวันพอดี เพราะดวงตะวันได้ส่องลงมากลางศีรษะพอดิบพอดี จึงได้ไปเก็บเห็ดศิลามาป้อนให้ทารกน้อยได้กินเป็นอาหาร และทิ้งของที่ทำเสร็จไว้ก่อนอย่างไม่กลัวว่าจะหายไปไหน เพราะไม่มีผู้มาอาศัยอยู่ที่นี่เลย มีเพียงสองปู่หลานเท่านั้น ครานี้ไม่ต้องกลัวว่าทารกเมื่อได้ทานเห็นศิลาเข้าไปแล้วจะทุกข์ทรมานอีกหรือไม่ เพราะเมื่อคืนนั้น ท่านผู้เฒ่าได้ชักนำฤทธิ์ยาให้มาบำรุงรักษาและเสริมสร้างอวัยวะภายในให้มีความแข็งแกร่งขึ้นมาอย่างมากมายมหาศาลเลยทีเดียว จึงไม่ต้องเกรงกลัวมาทารกน้องจะทุกข์ทรมานอีกต่อไปจากการดื่มกินเห็ดศิลา
การกระทำเมื่อคืนที่ผ่านมาของท่านผู้เฒ่านั้น คือการทำให้ทารกน้อยเป็นร่างกายที่สทบูรณ์พร้อมในการฝึกวรยุทธ หรือที่เรียกกันว่าเป็นสัดส่วนที่เหมาะแก่การฝึกยุทธนั้นเอง ผลลัพธ์ที่ได้นั้นเหนือความคาดหมายของท่านผู้เฒ่าเป็นอย่างมาก เพราะกลับกายเป็นว่า ผิวหนังของทารกน้อยได้หลุดลอกออกจากตัว ( แต่ที่ไม่ได้ให้ได้เห็นเพราะมันระเหยจากความร้อนสุดขั้วนั้นเอง ) ปรับเปลี่ยนโครงสร้างภายในกายของทารกน้อยให้เข้าที่เข้าทางที่สมควร ชำระร่างไขกระดูกให้มีความแข็งแกร่งทนทาน หรือที่เป็นกันว่าการชะล้างไขกระดูกและผลัดเปลี่ยนเส้นเอ็นในวิชาเปลี่ยนเส้นเอ็นของวัดเส้าหลิน ซึ่งมาผลให้สร้างผลปราณหนุนเนื่องไม่ขาดสาย มีสมองที่เป็นเลิศ สามารถใช้งานมันสมองได้อย่างเต็มที่ทั้งสิบส่วน ( ปกติคนธรรมดาจะใช้งานได้เป็นสองถึงสามส่วนเท่านั้น ถ้าเป็นอัจฉริยะก็จะได้อย่างมากเพียงสี่ถึงห้าส่วนเท่านั้น )
ทำให้ผิวกายภายนอกดูเปลี่ยนไปเล็กน้อย เพราะผิวของทารกน้อยเองก็ขาวอยู่แล้วแต่พอผ่านพ้นเหตูการณ์เมื่อคืนมาได้กลับมีผิวกายขาวละเอียดดั่งหยกที่ผ่านการเจียรไนแล้วนั้นเอง ท่านผู้เฒ่าน้ั้นรู้ตัวเองว่าตนเองนั้นได้สร้างอัจฉริยะในรอบพันปีหรืออาจจะหมื่นปีให้กำเนิดขึ้นมาแล้ว ฉะนั้นตนจึงต้องเลี้ยงดูอบรมสั่งสอนความรู้ให้ทารกน้องหลงเอ๋อ เป็นผู้ประพฤติปฏิบัติตนที่ดี อยู่ในศิลในธรรม
หลังจากนำเห็ดศิลามาป้อนให้หลงเอ๋อได้ทานแล้ว ก็ได้ไปนำสิ่งของที่ตนเตรียมไว้
ขนมาเก็บไว้ในถ้ำ โดยให้วานรเผือกที่มีร่างกายคล้ายมนุษย์มากกว่าพยัคย์ขาวช่วยขนไปด้วย
ใช้เวลาเพียงครั้งชั่วยามก็เสร็จสิ้น รวมทั้งจัดข้าวของให้ได้สัดส่วนด้วยเช่นกัน
ตลอดค่ำคืนนั้นทั้งคืน กลับมีแต่เสียงของทารกน้อยร้ำไห้อยู่ตลอดเวลา จนใกล้รุุ่ง ทารกน้อยจึงเผลอหลับไป เนื่องจากความเพลีย ทั้งจากการทรมานและการร้ำไห้อยู่ตลอดเวลานั้นเอง ท่านผู้เฒ่าจึงได้อุ้มทารกน้อยลงมาหาที่นอนบนพื้นดินด้านล่าง แต่เมื่อจะวางลง ก็สัมผัสได้ถึงความเย็นของพื้นดิน จึงตัดสินใจ นำหีบสมบัติมาหนึ่งหีบ แล้วเทข้าวของที่อยู่ภายในออก จึงได้นำทารกน้อยหลงเอ๋อ ไปนอนในหีบอย่างน้อยก็ช่วยบรรเทาไอเย็นจากพื้นดินได้บ้าง เพราะเป็นหีบไม้ขนาดใหญ่และมีความหนาเป็นอย่างมาก คาดว่าน่าจะเป็นไม้ที่มีอายุไม้ต่ำกว่า 1000 ปี อีกทั้งยังไม่มีวี้แววว่าสึกกร่อนอีกด้วย
หลังจากที่วางทารกน้อยเสร็จสิ้น ท่านผู้เฒ่าก็ได้มองดูทารกน้อยด้วยความเอ็นดูและสงสารในชะตากรรมของตัวมันเองที่อนาคตจะต้องเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ที่เลวร้ายต่างต่างนานา
" ข้าจะเลี้ยงดู สั่งสอนเจ้า ให้สามารถผ่านพ้นชะตากรรมอันเลวร้ายเหล่านั้นไปให้จงได้ ก่อนอื่น ตอนนี้คงต้องไปหาไม้นำมาทำเป็นข้าวของเครื่องใช้ก่อน มิเช่นนั้น คงจะอยู่กันอย่างลำบากแน่ๆ " หลังจากตัดสินใจได้แล้ว ก็หันตัวเดินออกจากถ้ำไป
เมื่อเดินมาถึงหน้าถ้ำกลับพบพยัคฆ์ขาว และ วานรเผือก รออยู่ด้านหน้าถ้ำ จึงเกิดความสงสัยใคร่รู้ว่าเหตุใด เจ้าสัตว์ทั้งสองนี้จึงมารออยู่ที่หน้าถ้ำ แต่ก็ฉุดคคิดได้ว่า พวกมันคงจะได้ยินเสียงร้องไห้ของหลงเอ๋อนั้นเอง จึงคิดอยากจะมาดูที่มาของเสียงเลยมาอยู่ที่ด้านหน้าถ้ำ
ทั้งพยัคฆ์ขาวและวานรเผือก เมื่อได้เห็นท่านผู้เฒ่าก็ได้ถอยกายไปด้านหลังของตนเองอย่างรู้สึกหวั่นเกรงในชายชราตรงหน้า เนื่องจากเป็นสัวต์ที่มีบตะสูงจึงสามารถ รับรู้ได้ว่าชายชราตรงหน้าสามารถทำร้ายตนเองได้อย่างง่ายดาย จึงเกิดเข้ารู้สึกระแวงขึ้นมา
ท่านผู้เฒ่าหยางเมื่อได้เห็นทั้งสองถอยกายไปด้านหลังก็ได้กล่าวว่า
" เจ้าทั้งสองอย่าได้เกรงกลัวเราไป เราไม่ทำร้ายพวกเจ้า หากพวกเจ้าไม่มาทำร้ายตัวเราก่อน " หวังว่าคงจะเข้าใจ ท่านผู้เฒ่าคิด ทั้งสองคล้ายจะเข้าใจในวาจาของท่านผู้เฒ่า จึงก้าวเดินมาหาท่านผู้เฒ่าอย่างช้าๆ
เมื่อก้าวเดินมาถึงตัวท่านผู้เฒ่าก็ได้ใช้มือลูบได้ทั้วบริเวณลำตัวของทั้งสอง ทั้งสองเคลิบเคลิ้มอย่างมีความสุข นานแล้วที่ไม่มีผู้ใดมากระทำกับตนเองอย่างนี้ เมื่อท่านผู้เฒ่าได้เห็นดังนั้นก็หัวเราะขึ้นมา " ฮ่า ฮ่า ฮ่า ดีเลย งั้นข้าก็ขอรับพวกเจ้าเป็นสัตว์เลี้ยงของเราแล้วกัน หลงเอ๋อก็จะได้มีคนช่วยดูแลปกป้อง หวังว่าพวกเจ้าคงจะชมชอบหลานชายของข้านะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า "
เมื่อทั้งสองได้ยินก็ผงกหัวของมันขึ้นลงคล้ายตอบรับ และส่งเสียงครางของมันออกมา คล้ายรับปากตามคำที่ท่านผู้เฒ่าได้กล่าวมา
ท่านผู้เฒ่าเมื่อเห็นดังนั้นก็เดินนำทั้งสองเข้าไปดูทารกน้อยหลงเอ๋อ หลานชายของตัวเอง เมื่อทั้งของได้เห็นหลงเอ๋อก็เกิดความรู้สึกถูกชะตาอย่างมิคาดมาก่อน ตอนแรกแค่รับคำตามคำของผู้เป็นนาย แต่นี้เมื่อได้เห็นเกิดความรู้สึกอยากที่จะดูแล และปกป้องชีวิตน้อยๆนี้
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไม ทั้งสองจึงมีความนึกคิดและเข้าใจในคำพูดของมนุษย์ เพราะทั้งสองนั้นมีชีวิตที่ยืนยาว มีอายุเกินกว่า 1000 ปีแล้ว จึงมีตบะที่สูงล้ำตามไปด้วย นั้นจึงเป็นเหตุให้ทั้งสองคล้ายเป็นมนุษย์ผู้หนึ่งเลยทีเดียว เพียงแต่พูดไม่ได้เท่านั้น
ท่านผู้เฒ่าก็คล้ายจะรับรู้ได้เช่นกัน ว่าทั้งสองคิดอย่างไร จึงกล่าวกับทั้งสองว่า
" งั้นที่เหลือตอนนี้ ก็ฝากพวกเจ้าช่วยอยู่ดูแลเจ้าตัวน้อยไปก่อนละกัน ระหว่างรอข้าไปหาไม้มาทำข้าวของเครื่องใช้ " ทั้งสองก็ส่งเสียงครางตอบรับเบาๆ เพราะกลัวเจ้าทารกน้อยนี้ตื่น
เมื่อเห็นดังนั้นท่านผู้เฒ่าก็ได้ใช้วิชาตัวเบาของท่านออกไปหาไม้มาทำเป็นข้าวของเครื่องใช้ ตามที่ได้กล่าวมา
ตึง ตึง ตึง ตึง !!
เสียงดังของต้นไม้ที่โค้นหล่นลงมากระแทกกับพื้น ดังขึ้นเป็นระยะๆ พวกสัตว์ที่ออกมาหากินในตอนเช้าหลังจากที่เมื่อคืนก็ไม่ได้มีอะไรตกถึงท้องเลย ก็พากันวิ่งหนี้หาย และหลบเข้าไปในที่พับอีกเช่นเดิม เพราะตกใจกับเสียงที่ดังสนั่นนี้ ที่เสียงต้นไม้ดังจนทำให้พวกสัตว์เกรงกลัวเพราะต้นไม้นป่าแห่งนี้ สูงใหญ่เป็นอย่างมาก หากนับเป็นเมตร คงวัดได้ราวๆ 100 เป็นอย่างต่ำทุกต้นเลยทีเดียว
การโค้นต้นไม้นั้น มิได้เป็นอุปสรรคอันใดกับท่านผู้เฒ่าเลย ถึงแม้จะเป็นแค่ชายชรา แต่ก็มิได้เป็นชายชราธรรมดาๆเลย การตัดต้นไม้จึงไม่ใช่เรื่องที่เกินความสามารถของท่านผู้เฒ่าเลย ต้นไม้ที่ตัดได้ท่านผู้เฒ่าก็นำมาทำเป็นเตียงบ้าง โต๊ะบ้าง เก้าอี้บ้าง ไว้ใช้สำหรับทารกน้อยในอนาคต
ระยะเวลาในการทำข้าวของเครื่องใช้รวมถึงการโค้นต้นไม้นั้น ท่านผู้เฒ่าใช้เวลาเพียงไม่นานก็ทำเสร็จ เมื่อเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าก็พบว่า น่าจะเป็นเวลาเที่ยงวันพอดี เพราะดวงตะวันได้ส่องลงมากลางศีรษะพอดิบพอดี จึงได้ไปเก็บเห็ดศิลามาป้อนให้ทารกน้อยได้กินเป็นอาหาร และทิ้งของที่ทำเสร็จไว้ก่อนอย่างไม่กลัวว่าจะหายไปไหน เพราะไม่มีผู้มาอาศัยอยู่ที่นี่เลย มีเพียงสองปู่หลานเท่านั้น ครานี้ไม่ต้องกลัวว่าทารกเมื่อได้ทานเห็นศิลาเข้าไปแล้วจะทุกข์ทรมานอีกหรือไม่ เพราะเมื่อคืนนั้น ท่านผู้เฒ่าได้ชักนำฤทธิ์ยาให้มาบำรุงรักษาและเสริมสร้างอวัยวะภายในให้มีความแข็งแกร่งขึ้นมาอย่างมากมายมหาศาลเลยทีเดียว จึงไม่ต้องเกรงกลัวมาทารกน้องจะทุกข์ทรมานอีกต่อไปจากการดื่มกินเห็ดศิลา
การกระทำเมื่อคืนที่ผ่านมาของท่านผู้เฒ่านั้น คือการทำให้ทารกน้อยเป็นร่างกายที่สทบูรณ์พร้อมในการฝึกวรยุทธ หรือที่เรียกกันว่าเป็นสัดส่วนที่เหมาะแก่การฝึกยุทธนั้นเอง ผลลัพธ์ที่ได้นั้นเหนือความคาดหมายของท่านผู้เฒ่าเป็นอย่างมาก เพราะกลับกายเป็นว่า ผิวหนังของทารกน้อยได้หลุดลอกออกจากตัว ( แต่ที่ไม่ได้ให้ได้เห็นเพราะมันระเหยจากความร้อนสุดขั้วนั้นเอง ) ปรับเปลี่ยนโครงสร้างภายในกายของทารกน้อยให้เข้าที่เข้าทางที่สมควร ชำระร่างไขกระดูกให้มีความแข็งแกร่งทนทาน หรือที่เป็นกันว่าการชะล้างไขกระดูกและผลัดเปลี่ยนเส้นเอ็นในวิชาเปลี่ยนเส้นเอ็นของวัดเส้าหลิน ซึ่งมาผลให้สร้างผลปราณหนุนเนื่องไม่ขาดสาย มีสมองที่เป็นเลิศ สามารถใช้งานมันสมองได้อย่างเต็มที่ทั้งสิบส่วน ( ปกติคนธรรมดาจะใช้งานได้เป็นสองถึงสามส่วนเท่านั้น ถ้าเป็นอัจฉริยะก็จะได้อย่างมากเพียงสี่ถึงห้าส่วนเท่านั้น )
ทำให้ผิวกายภายนอกดูเปลี่ยนไปเล็กน้อย เพราะผิวของทารกน้อยเองก็ขาวอยู่แล้วแต่พอผ่านพ้นเหตูการณ์เมื่อคืนมาได้กลับมีผิวกายขาวละเอียดดั่งหยกที่ผ่านการเจียรไนแล้วนั้นเอง ท่านผู้เฒ่าน้ั้นรู้ตัวเองว่าตนเองนั้นได้สร้างอัจฉริยะในรอบพันปีหรืออาจจะหมื่นปีให้กำเนิดขึ้นมาแล้ว ฉะนั้นตนจึงต้องเลี้ยงดูอบรมสั่งสอนความรู้ให้ทารกน้องหลงเอ๋อ เป็นผู้ประพฤติปฏิบัติตนที่ดี อยู่ในศิลในธรรม
หลังจากนำเห็ดศิลามาป้อนให้หลงเอ๋อได้ทานแล้ว ก็ได้ไปนำสิ่งของที่ตนเตรียมไว้
ขนมาเก็บไว้ในถ้ำ โดยให้วานรเผือกที่มีร่างกายคล้ายมนุษย์มากกว่าพยัคย์ขาวช่วยขนไปด้วย
ใช้เวลาเพียงครั้งชั่วยามก็เสร็จสิ้น รวมทั้งจัดข้าวของให้ได้สัดส่วนด้วยเช่นกัน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น