ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ
บทนำ
ค่ำคืนที่ท้องฟ้ามืดมิด สายลมที่เคยพัดผ่านพอให้ชื่นหัวใจ กลับกลายเป็นพายุที่โหมกระหน่ำที่พัดพาให้หัวใจต้องตกหล่นแตกสลาย เมืองหลวงที่เคยมีแต่ความสงบกลับ มีแต่เสียงเอะอะโวยวาย เหล่าราชองครักษ์ รวมถึงขันทีและนางกำนัลต่างวิ่งวุ่นวายกันให้ขวักไขว่ เนื่องจากมีสัญญาณเตือนภัยขององครักษ์ ว่ามีผู้ที่คิดจะหลบหนี้ของไปจากแดนต้องห้าม
" มีอะไรเกิดขึ้นหรือ ถึงได้มีเสียงเอะอะกันดังขนาดนี้ " น้ำเสียงที่กล่าวชวนให้เคลิบเคลิ้มเป็นอย่างยิ่ง หากแต่ก็ปนอาการของคนที่ตกใจอยู่ไม่น้อย
" มีสัญญาณเตือนภัยว่ามีผู้ที่คิดจะหลบหนีออกจากวังหลวงในยามวิกาลเพคะ " เสียงของนางกำนัลตอบกลับ
" คงมิมีเรื่องอันใดร้ายแรงกระมัง " เสียงที่ชวนเคลิบเคลิ้มเอ่ยกลับ
" น่าจะเพคะ พระโอรสเพิ่งประสูติได้มินาน คงไม่มีเรื่องร้ายแรงอันใดหรอกเพคะ "
ผู้ที่ตรัสถามคือพระมเหสีของฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน พระนามว่า เหมยฮัว พระเกศายาวสลวยดำเงางาม พระพักตร์ เปล่งปลั่งอมชมพู พระโอษฐ์อวบอิ่ม ไม่เล็กไปและไม่ใหญ่ไป กล่าวได้ว่า เป็นหญิงงามล้มเมืองได้เลยทีเดียว พระนางทรงทอดพระเนตรดูพระโอรสองค์น้อย ที่กำลังหลับไหลอย่างมิรู้เรื่องรู้ราวอันใด
ณ หอตำรา
มีเงาร่างดำ แต่งกายรัดกุม และมีผ้าปิดหน้า เคลื่อนกายออกจาก หอตำรา อย่างรวดเร็ว ความเร็วนี้หากมียอดฝีมือมาพบเห็นต้องตกตะลึงเป็นอย่างยิ่งที่ในราชสำนัก มีผู้มีวิชาตัวเบาร้ายกาจเช่นนี้อยู่ กล่าวได้ว่าวิชานี้เป็นเอกในยุทธได้อย่างมิต้องสงสัย
ผู้ที่ถูกกล่าวถึงนี้ คือผู้ที่คิดจะหลบหนีออกไปจากแดนต้องห้ามนั่นเอง แต่เหตุใดจึงออกมาจาก หอตำรา นั้นคงมีแต่ตัวมันเองที่รู้
หลังออกจากวังหลวงได้ 1000 ลี้ ใช้ระยะเวลาเพียงไม่กี่ชั่วยาม ผ่านเมืองใหญ่น้อยมากมาย จนมาถึงเมืองที่ห่างไกลความเจริญ เงาดำนั้นได้มุ่งตรงไปยังป่าด้านนอกเมือง เพื่อหลบซ่อนตัวจากการไล่ล่าติดตาม แต่ระหว่างที่เคลื่อนตัวผ่านหมู่บ้านหนึ่งนั้น ก็ได้พบโศกนาฏกรรมอันโหดร้าย ผู้คนในหมู่บ้านถูกฆ่าตายไม่เหลือ บ้านเรือนถูกเผาไหม้จนมีแต่ควันไฟฟุ้งกระจายได้ทั่วบริเวณ เป็นภาพที่โหดร้ายถึงที่สุด
ตึงงงงงง
ทันใดนั้น ได้มีเสียงของท่อนไม้ที่ถูกเผาไหม้จนหมดสภาพ หล่นล้มลงมากระทบกับพื้น ดังสนั่นหวั่นไหว จนร่างดำนั้นแทบปล่อยฝ่ามือเพื่อที่จะทำลายที่มาของเสียงออกไป แต่ก็ยั้งไว้ได้ทัน เงาร่างดำผู้นี้ เป็นผู้ใดกัน ถึงกับมีวรยุทธที่สามารถดึงเข้ารั้งออกได้ดั่งใจเช่นนี้ เป็นที่น่าตกใจจริงๆ
" แ . . งง ง้ แง้ แง้ แง้ แ .. .ง้ แง้ " หลังจากเสียงดังของท่อนไม้ที่หล่นลงมา ไม่นานนักได้มีเสียงร้องไห้ ของเด็กทารก ดังไปทั่วบริเวณ เงาร่างนั้นจึงวิ่งเข้าไปดู พบเด็กทารกน้อย อยู่ในโอ่งน้ำลายมังกร ที่บริเวณโดยรอบเหลือเพียงแต่ขี้เถ้าที่ถูกเผาไหม้ จนไม่เหลือสิ่งใดที่จะอธิบายว่าเป็นส่วนใดในบ้านหรือนอกบ้าน จึงอุ้มทารกน้อยขึ้นมาดู ทารกน้อยนั้น หน้าตาหมองคล้ำจากควันไฟ แต่ก็ยังแฝงความน่ารักน่าชังเอาไว้ ประกายตาถึงแม้จะมีคราบน้ำตาแต่ก็ดูสดใส และแฝงไว้ด้วยความฉลาดปราดเปรื่อง เงาร่างดำนั้นเกิดความรู้สึกถูกชะตากับทารกน้อยขึ้นมาจึงคิดที่จะเลี้ยงดู
" คงเป็นชะตาฟ้ากำหนด ให้ข้านั้นได้มาพบเจอกับเจ้า เจ้าเด็กน้อย " เสียงของเงาร่างดำนั้นเอ่ยออกมา แต่เสียงที่เปล่งออกมานั้นกลับเป็นเสียงของชายชรา อายุไม่กว่า 70 ปี แต่ที่ไม่น่าตกใจนั่นคือ ร่างชายชราผู้นี้ กลับเคลื่อนไหวร่างกายได้ราวกับว่า เป็น วัยฉกรรจ์ และยังเดินทางเป็นระยะทางกว่า 1000 ลี้ โดยไม่มีอาการเหน็ดเหนื่อยให้ได้เห็นเลย
" ดี ในเมื่อสวรรค์ ได้กำหนดให้ข้านั้นได้มาพบเจอกับเจ้า ข้าจะเลี้ยงดู และถ่ายทอดวิชาความรู้ที่มีทั้งหมดกว่า 70 ปี ให้กับเจ้า เมื่อเจ้าเติบใหญ่จะได้มีความรู้ติดตัว พอที่จะอยู่รอดต่อไปได้หากมิมีข้าอยู่ข้างกายเจ้า " ชายชรา กล่าวให้ทารกน้อยได้ฟัง ทารกน้อยจากที่ร่ำไห้อยู่ กลับเงียบสนิท ราวกลับรับรู้ว่าชายชรานั้นห่วงใยตน
" ฮ่า ฮ่า ฮ่า เด็กน้อย เจ้าฟังข้ารู้เรื่องหรือ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ดี ดี ต่อไปนี้ข้าเฒ่าชราผู้นี้ จะเป็นปู่ของเจ้าเอง เด็กน้อยเอ๋ย นามของเจ้า ข้าจะตั้งให้เจ้าว่า เทียนหลง ต่อไปนี้ นามของเจ้าคือ หยางเทียนหลง มังกรสวรรค์แซ่หยาง ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า " ชายชราผู้นี้แซ่หยางนั้นเอง ตัวมันเองมีนามว่าหยางฟง ฟงซึ่งแปลว่า สายลม หรือ ลม
ค่ำคืนที่ท้องฟ้ามืดมิด สายลมที่เคยพัดผ่านพอให้ชื่นหัวใจ กลับกลายเป็นพายุที่โหมกระหน่ำที่พัดพาให้หัวใจต้องตกหล่นแตกสลาย เมืองหลวงที่เคยมีแต่ความสงบกลับ มีแต่เสียงเอะอะโวยวาย เหล่าราชองครักษ์ รวมถึงขันทีและนางกำนัลต่างวิ่งวุ่นวายกันให้ขวักไขว่ เนื่องจากมีสัญญาณเตือนภัยขององครักษ์ ว่ามีผู้ที่คิดจะหลบหนี้ของไปจากแดนต้องห้าม
" มีอะไรเกิดขึ้นหรือ ถึงได้มีเสียงเอะอะกันดังขนาดนี้ " น้ำเสียงที่กล่าวชวนให้เคลิบเคลิ้มเป็นอย่างยิ่ง หากแต่ก็ปนอาการของคนที่ตกใจอยู่ไม่น้อย
" มีสัญญาณเตือนภัยว่ามีผู้ที่คิดจะหลบหนีออกจากวังหลวงในยามวิกาลเพคะ " เสียงของนางกำนัลตอบกลับ
" คงมิมีเรื่องอันใดร้ายแรงกระมัง " เสียงที่ชวนเคลิบเคลิ้มเอ่ยกลับ
" น่าจะเพคะ พระโอรสเพิ่งประสูติได้มินาน คงไม่มีเรื่องร้ายแรงอันใดหรอกเพคะ "
ผู้ที่ตรัสถามคือพระมเหสีของฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน พระนามว่า เหมยฮัว พระเกศายาวสลวยดำเงางาม พระพักตร์ เปล่งปลั่งอมชมพู พระโอษฐ์อวบอิ่ม ไม่เล็กไปและไม่ใหญ่ไป กล่าวได้ว่า เป็นหญิงงามล้มเมืองได้เลยทีเดียว พระนางทรงทอดพระเนตรดูพระโอรสองค์น้อย ที่กำลังหลับไหลอย่างมิรู้เรื่องรู้ราวอันใด
ณ หอตำรา
มีเงาร่างดำ แต่งกายรัดกุม และมีผ้าปิดหน้า เคลื่อนกายออกจาก หอตำรา อย่างรวดเร็ว ความเร็วนี้หากมียอดฝีมือมาพบเห็นต้องตกตะลึงเป็นอย่างยิ่งที่ในราชสำนัก มีผู้มีวิชาตัวเบาร้ายกาจเช่นนี้อยู่ กล่าวได้ว่าวิชานี้เป็นเอกในยุทธได้อย่างมิต้องสงสัย
ผู้ที่ถูกกล่าวถึงนี้ คือผู้ที่คิดจะหลบหนีออกไปจากแดนต้องห้ามนั่นเอง แต่เหตุใดจึงออกมาจาก หอตำรา นั้นคงมีแต่ตัวมันเองที่รู้
หลังออกจากวังหลวงได้ 1000 ลี้ ใช้ระยะเวลาเพียงไม่กี่ชั่วยาม ผ่านเมืองใหญ่น้อยมากมาย จนมาถึงเมืองที่ห่างไกลความเจริญ เงาดำนั้นได้มุ่งตรงไปยังป่าด้านนอกเมือง เพื่อหลบซ่อนตัวจากการไล่ล่าติดตาม แต่ระหว่างที่เคลื่อนตัวผ่านหมู่บ้านหนึ่งนั้น ก็ได้พบโศกนาฏกรรมอันโหดร้าย ผู้คนในหมู่บ้านถูกฆ่าตายไม่เหลือ บ้านเรือนถูกเผาไหม้จนมีแต่ควันไฟฟุ้งกระจายได้ทั่วบริเวณ เป็นภาพที่โหดร้ายถึงที่สุด
ตึงงงงงง
ทันใดนั้น ได้มีเสียงของท่อนไม้ที่ถูกเผาไหม้จนหมดสภาพ หล่นล้มลงมากระทบกับพื้น ดังสนั่นหวั่นไหว จนร่างดำนั้นแทบปล่อยฝ่ามือเพื่อที่จะทำลายที่มาของเสียงออกไป แต่ก็ยั้งไว้ได้ทัน เงาร่างดำผู้นี้ เป็นผู้ใดกัน ถึงกับมีวรยุทธที่สามารถดึงเข้ารั้งออกได้ดั่งใจเช่นนี้ เป็นที่น่าตกใจจริงๆ
" แ . . งง ง้ แง้ แง้ แง้ แ .. .ง้ แง้ " หลังจากเสียงดังของท่อนไม้ที่หล่นลงมา ไม่นานนักได้มีเสียงร้องไห้ ของเด็กทารก ดังไปทั่วบริเวณ เงาร่างนั้นจึงวิ่งเข้าไปดู พบเด็กทารกน้อย อยู่ในโอ่งน้ำลายมังกร ที่บริเวณโดยรอบเหลือเพียงแต่ขี้เถ้าที่ถูกเผาไหม้ จนไม่เหลือสิ่งใดที่จะอธิบายว่าเป็นส่วนใดในบ้านหรือนอกบ้าน จึงอุ้มทารกน้อยขึ้นมาดู ทารกน้อยนั้น หน้าตาหมองคล้ำจากควันไฟ แต่ก็ยังแฝงความน่ารักน่าชังเอาไว้ ประกายตาถึงแม้จะมีคราบน้ำตาแต่ก็ดูสดใส และแฝงไว้ด้วยความฉลาดปราดเปรื่อง เงาร่างดำนั้นเกิดความรู้สึกถูกชะตากับทารกน้อยขึ้นมาจึงคิดที่จะเลี้ยงดู
" คงเป็นชะตาฟ้ากำหนด ให้ข้านั้นได้มาพบเจอกับเจ้า เจ้าเด็กน้อย " เสียงของเงาร่างดำนั้นเอ่ยออกมา แต่เสียงที่เปล่งออกมานั้นกลับเป็นเสียงของชายชรา อายุไม่กว่า 70 ปี แต่ที่ไม่น่าตกใจนั่นคือ ร่างชายชราผู้นี้ กลับเคลื่อนไหวร่างกายได้ราวกับว่า เป็น วัยฉกรรจ์ และยังเดินทางเป็นระยะทางกว่า 1000 ลี้ โดยไม่มีอาการเหน็ดเหนื่อยให้ได้เห็นเลย
" ดี ในเมื่อสวรรค์ ได้กำหนดให้ข้านั้นได้มาพบเจอกับเจ้า ข้าจะเลี้ยงดู และถ่ายทอดวิชาความรู้ที่มีทั้งหมดกว่า 70 ปี ให้กับเจ้า เมื่อเจ้าเติบใหญ่จะได้มีความรู้ติดตัว พอที่จะอยู่รอดต่อไปได้หากมิมีข้าอยู่ข้างกายเจ้า " ชายชรา กล่าวให้ทารกน้อยได้ฟัง ทารกน้อยจากที่ร่ำไห้อยู่ กลับเงียบสนิท ราวกลับรับรู้ว่าชายชรานั้นห่วงใยตน
" ฮ่า ฮ่า ฮ่า เด็กน้อย เจ้าฟังข้ารู้เรื่องหรือ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ดี ดี ต่อไปนี้ข้าเฒ่าชราผู้นี้ จะเป็นปู่ของเจ้าเอง เด็กน้อยเอ๋ย นามของเจ้า ข้าจะตั้งให้เจ้าว่า เทียนหลง ต่อไปนี้ นามของเจ้าคือ หยางเทียนหลง มังกรสวรรค์แซ่หยาง ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า " ชายชราผู้นี้แซ่หยางนั้นเอง ตัวมันเองมีนามว่าหยางฟง ฟงซึ่งแปลว่า สายลม หรือ ลม
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น