ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ราชันย์สายลม

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 2 ก.ย. 56


    บทนำ          


             
              ค่ำคืนที่ท้องฟ้ามืดมิด สายลมที่เคยพัดผ่านพอให้ชื่นหัวใจ  กลับกลายเป็นพายุที่โหมกระหน่ำที่พัดพาให้หัวใจต้องตกหล่นแตกสลาย  เมืองหลวงที่เคยมีแต่ความสงบกลับ มีแต่เสียงเอะอะโวยวาย  เหล่าราชองครักษ์  รวมถึงขันทีและนางกำนัลต่างวิ่งวุ่นวายกันให้ขวักไขว่  เนื่องจากมีสัญญาณเตือนภัยขององครักษ์ ว่ามีผู้ที่คิดจะหลบหนี้ของไปจากแดนต้องห้าม 


    " มีอะไรเกิดขึ้นหรือ ถึงได้มีเสียงเอะอะกันดังขนาดนี้ " น้ำเสียงที่กล่าวชวนให้เคลิบเคลิ้มเป็นอย่างยิ่ง  หากแต่ก็ปนอาการของคนที่ตกใจอยู่ไม่น้อย 


    " มีสัญญาณเตือนภัยว่ามีผู้ที่คิดจะหลบหนีออกจากวังหลวงในยามวิกาลเพคะ " เสียงของนางกำนัลตอบกลับ


    " คงมิมีเรื่องอันใดร้ายแรงกระมัง " เสียงที่ชวนเคลิบเคลิ้มเอ่ยกลับ


    " น่าจะเพคะ  พระโอรสเพิ่งประสูติได้มินาน  คงไม่มีเรื่องร้ายแรงอันใดหรอกเพคะ " 


    ผู้ที่ตรัสถามคือพระมเหสีของฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน พระนามว่า เหมยฮัว พระเกศายาวสลวยดำเงางาม พระพักตร์ เปล่งปลั่งอมชมพู พระโอษฐ์อวบอิ่ม ไม่เล็กไปและไม่ใหญ่ไป  กล่าวได้ว่า เป็นหญิงงามล้มเมืองได้เลยทีเดียว  พระนางทรงทอดพระเนตรดูพระโอรสองค์น้อย  ที่กำลังหลับไหลอย่างมิรู้เรื่องรู้ราวอันใด 


    ณ หอตำรา


              มีเงาร่างดำ แต่งกายรัดกุม และมีผ้าปิดหน้า เคลื่อนกายออกจาก หอตำรา อย่างรวดเร็ว  ความเร็วนี้หากมียอดฝีมือมาพบเห็นต้องตกตะลึงเป็นอย่างยิ่งที่ในราชสำนัก มีผู้มีวิชาตัวเบาร้ายกาจเช่นนี้อยู่ กล่าวได้ว่าวิชานี้เป็นเอกในยุทธได้อย่างมิต้องสงสัย  


    ผู้ที่ถูกกล่าวถึงนี้  คือผู้ที่คิดจะหลบหนีออกไปจากแดนต้องห้ามนั่นเอง  แต่เหตุใดจึงออกมาจาก หอตำรา นั้นคงมีแต่ตัวมันเองที่รู้  


    หลังออกจากวังหลวงได้ 1000 ลี้ ใช้ระยะเวลาเพียงไม่กี่ชั่วยาม ผ่านเมืองใหญ่น้อยมากมาย จนมาถึงเมืองที่ห่างไกลความเจริญ  เงาดำนั้นได้มุ่งตรงไปยังป่าด้านนอกเมือง  เพื่อหลบซ่อนตัวจากการไล่ล่าติดตาม  แต่ระหว่างที่เคลื่อนตัวผ่านหมู่บ้านหนึ่งนั้น  ก็ได้พบโศกนาฏกรรมอันโหดร้าย  ผู้คนในหมู่บ้านถูกฆ่าตายไม่เหลือ  บ้านเรือนถูกเผาไหม้จนมีแต่ควันไฟฟุ้งกระจายได้ทั่วบริเวณ  เป็นภาพที่โหดร้ายถึงที่สุด  


    ตึงงงงงง  


    ทันใดนั้น ได้มีเสียงของท่อนไม้ที่ถูกเผาไหม้จนหมดสภาพ  หล่นล้มลงมากระทบกับพื้น  ดังสนั่นหวั่นไหว   จนร่างดำนั้นแทบปล่อยฝ่ามือเพื่อที่จะทำลายที่มาของเสียงออกไป  แต่ก็ยั้งไว้ได้ทัน  เงาร่างดำผู้นี้  เป็นผู้ใดกัน  ถึงกับมีวรยุทธที่สามารถดึงเข้ารั้งออกได้ดั่งใจเช่นนี้  เป็นที่น่าตกใจจริงๆ  


    "  แ . . งง ง้ แง้ แง้ แง้  แ .. .ง้  แง้ " หลังจากเสียงดังของท่อนไม้ที่หล่นลงมา  ไม่นานนักได้มีเสียงร้องไห้ ของเด็กทารก   ดังไปทั่วบริเวณ  เงาร่างนั้นจึงวิ่งเข้าไปดู  พบเด็กทารกน้อย  อยู่ในโอ่งน้ำลายมังกร  ที่บริเวณโดยรอบเหลือเพียงแต่ขี้เถ้าที่ถูกเผาไหม้  จนไม่เหลือสิ่งใดที่จะอธิบายว่าเป็นส่วนใดในบ้านหรือนอกบ้าน  จึงอุ้มทารกน้อยขึ้นมาดู  ทารกน้อยนั้น หน้าตาหมองคล้ำจากควันไฟ  แต่ก็ยังแฝงความน่ารักน่าชังเอาไว้   ประกายตาถึงแม้จะมีคราบน้ำตาแต่ก็ดูสดใส  และแฝงไว้ด้วยความฉลาดปราดเปรื่อง  เงาร่างดำนั้นเกิดความรู้สึกถูกชะตากับทารกน้อยขึ้นมาจึงคิดที่จะเลี้ยงดู  


    " คงเป็นชะตาฟ้ากำหนด  ให้ข้านั้นได้มาพบเจอกับเจ้า  เจ้าเด็กน้อย " เสียงของเงาร่างดำนั้นเอ่ยออกมา   แต่เสียงที่เปล่งออกมานั้นกลับเป็นเสียงของชายชรา  อายุไม่กว่า 70 ปี  แต่ที่ไม่น่าตกใจนั่นคือ   ร่างชายชราผู้นี้  กลับเคลื่อนไหวร่างกายได้ราวกับว่า เป็น วัยฉกรรจ์  และยังเดินทางเป็นระยะทางกว่า  1000  ลี้   โดยไม่มีอาการเหน็ดเหนื่อยให้ได้เห็นเลย


    " ดี ในเมื่อสวรรค์ ได้กำหนดให้ข้านั้นได้มาพบเจอกับเจ้า  ข้าจะเลี้ยงดู   และถ่ายทอดวิชาความรู้ที่มีทั้งหมดกว่า 70 ปี ให้กับเจ้า  เมื่อเจ้าเติบใหญ่จะได้มีความรู้ติดตัว พอที่จะอยู่รอดต่อไปได้หากมิมีข้าอยู่ข้างกายเจ้า " ชายชรา กล่าวให้ทารกน้อยได้ฟัง   ทารกน้อยจากที่ร่ำไห้อยู่  กลับเงียบสนิท  ราวกลับรับรู้ว่าชายชรานั้นห่วงใยตน  


    "  ฮ่า ฮ่า ฮ่า  เด็กน้อย  เจ้าฟังข้ารู้เรื่องหรือ   ฮ่า ฮ่า ฮ่า  ดี ดี  ต่อไปนี้ข้าเฒ่าชราผู้นี้ จะเป็นปู่ของเจ้าเอง  เด็กน้อยเอ๋ย   นามของเจ้า  ข้าจะตั้งให้เจ้าว่า เทียนหลง
     ต่อไปนี้ นามของเจ้าคือ หยางเทียนหลง  มังกรสวรรค์แซ่หยาง ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า "  ชายชราผู้นี้แซ่หยางนั้นเอง  ตัวมันเองมีนามว่าหยางฟง  ฟงซึ่งแปลว่า สายลม หรือ ลม  


     



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×