คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : Pigeon -2Seok-
- Pigeon -
ไม่เคยรู้ว่าชีวิตของนักข่าวมันจะวุ่นวายได้มากขนาดนี้
จองโฮซอก ผู้สื่อข่าวของสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่งในเกาหลีอยากจะขว้างโทรศัพท์สำนักงานบนโต๊ะทิ้งซะ นอกจากจะคุยกับแหล่งข่าวไม่รู้เรื่องแล้วยังมีเสียงบก.ที่โต๊ะด้านหลังคอยส่งเสียงน่ารำคาญอยู่ตลอดเวลา
ถ้าให้บอกกันโต้ง ๆ ว่าเสียงเบาหน่อยได้ไหมก็มีแต่จะกลายเป็นทะเลาะกันเสียอย่างนั้น เพราะพี่บก.ก็อารมณ์ซะเหลือเกิน โฮซอกที่เป็นนักข่าวตัวน้อย ๆ เลยทำได้แค่บอกให้ตัวเองสงบจิตใจไปเสีย
“โฮซอก รันดาวน์วันนี้ได้ยัง”
ยังไม่ทันได้หายใจหายคอได้เต็มที่ พี่กายองที่เพิ่งพักรบกับพี่นารึมก็หันมาถามโฮซอกเสียงดัง จะดังให้ได้ตลอดเลยสินะ
“กำลังครับ อีกแปบเดียว”
เสียงทุ้มตอบกลับไปก่อนจะรีบพิมพ์ข้อความลงในคอมพิวเตอร์
“วันนี้ซอกจินอ่านข่าวคนเดียวนะ โซวอนลา”
รุ่นพี่อีกคนเดินเข้ามาในห้องแล้วบอกกับพี่กายองรวมไปถึงเอาเอกสารของข่าวในสัปดาห์หน้ามาให้ด้วย
“ไม่เป็นไร วันนี้ไม่มีแขก”
กายองเดินเอาเอกสารมาวางไว้บนโต๊ะก่อนจะรีบจ้ำเดินออกจากห้องไป เหลือเพิ่งผู้สื่อข่าวคนอื่น ๆ ในห้องรวมถึงโฮซอกที่ยังปั่นรันดาวน์ยังไม่เสร็จ
พอนึกถึงผู้ประกาศข่าวหน้าหล่อประจำช่องของเราก็คงจะพ้นคิมซอกจินไปไม่ได้ ทั้งหล่อ ทั้งเก่ง แถมอ่านข่าวคล่อง ไหวพริบไม่ต้องพูดถึง คิมซอกจินเลยกลายเป็นผู้ประกาศข่าวที่โด่งดังในดลกออนไลน์เพราะหน้าตาดีอีกทั้งอายุยังน้อย
บอกตามตรงว่าจองโฮซอกหวง
มีไม่กี่คนที่รู้ว่าซฮกจินกับโฮซอกเป็นแฟนกัน เพราะทั้งคู่ก็ไม่อยากจะทำตัวเด่นจนต้องกลายเป็นเป้าสายตาของคนทั้งช่องหรอก นอกจากเพื่อนสนิทของโฮซอกและเพื่อนสนิทของซอกจิน นอกจากนั้นก็ไม่มีใครรู้ เลยทำให้มีผุ้ประกาศข่าวหรือพนักงานในช่วงทั้งสาวน้อยสาวใหญ่คอยส่งสายตาหวานเยิ้มให้ซอกจินไม่หยุด แต่โฮซอกก็ทำอะไรไม่ได้มากเกินไป ทั้งที่ซอกจินก็ไม่ได้ห้ามหากโฮซอกจะทำตัวหวงออกนอกหน้าบ้าง
ไม่อย่าทำตัวงี่เง่าใส่ซอกจินหรอก
สุดท้ายเลยกลายเป็นเขาเองที่เอาแต่หงุดหงิด
.
.
.
.
.
“รันดาวน์กับบทข่าวครับ”
ร่างบอบบางเปิดประตูห้องของซอกจินเข้าไปเพื่อเอางานให้กับอีกคน คนอายุมากกว่าละหน้าออกจากหน้าจอคอมพิวเตอร์มองผุ้เข้ามาใหม่
“เข้ามาเลยสิ ไม่มีใครอยู่”
เพราะห้องทำงานของพวกเราอยู่คนละห้อง แต่ทั้งคู่ก็ต้องแชร์ห้องร่วมกับคนอื่น ๆ แต่ตอนนี้ซอกอยู่ในห้องเพียงคนเดียว เพราะนักข่าวคนอื่นออกไปกินข้าวกัน เสียงนุ่มจึงเอ่ยชวนให้คนที่ยืนอยู่ที่ประตูเดินเข้ามาหาเขาที่นั่งอยู่ในห้อง
“เดี๋ยวคนมาเห็นนะ”
หลังจากเดินเข้ามาวางบทบนโต๊ะของแฟนหนุ่มก็ถูกอีกคนรวบตัวไปนั่งบนตักเสียแล้ว อีกทั้งจมูกโด่งยังฝังลงที่ซอกคอของโฮซอกจนรู้สึกจั๊กจี้
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ไม่มีใครเห็น”
ไม่ว่าเปล่า ปากอื่มก็ยังคงวนเวียนอยู่กับซอกคอหอมกรุ่นของคนตัวเล็กบนตักไม่เลิก โฮซอกย่นคอนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้ขัดขืนอะไรมาก เพียงแค่ยังไม่ชินแม้จะโดนอีกคนทำแบบนี้อยู่บ่อย ๆ
เขาก็ยังตื่นเต้นอยู่ดี
“วันนี้อ่านข่าวคนเดียว คอแห้งแน่เลย”
คนตัวสูงเอ่ยก่อนจะเอาคางวางไว้บนไหล่เล็ก มือบางยกขึ้นมาลูบใบหน้าหล่อของแฟนหนุ่มก่อนจะเอ่ยตอบ
“ทำอย่างกับไม่เคยอ่านคนเดียวงั้นแหละ”
“...”
“ถ้าคอแห้งก็ต้องกินน้ำเยอะ ๆ สิครับ”
“นั่นสินะ ขอกินน้ำหน่อยได้ไหม”
“ได้ครับ เดี๋ยวไปเอา…..”
กำลังจะลุกออกจากตักหนาไปเอาน้ำให้ตามที่อีกคนร้องขอ แต่เราคงจะเข้าใจไม่ตรงกัน เพราะซอกจินใช้มือหนารั้งคอให้โฮซอกโน้มลงกดจูบที่ริมฝีปากอิ่มของตัวเอง คนตัวเล็กบนตักที่เคยชินกับการจูบเผลอตัวเผยอปากให้อีกคนสอดลิ้นเข้ามาอย่างลืมตัว ริมฝีปากทั้งคู่ต่างดูดดึงซึ่งกันและกันราวกับคนโหยหาความรักทั้งที่เลิกงานทั้งคู่ก็กลับไปจูบกันทุกวันอยู่แล้ว
มือหนาลูบไล้กลุ่มผมนุ่มนิ่มของคนน้องอย่างสบายมือ ปากก็ทำหน้าที่อย่างดี ทั้งดูดดึง ขบเม้มจนคนบนตักเริ่มอยู่ไม่สุข ยกแขนดันไหล่กว้างของผุ้ประกาศข่าวหน้าหล่อให้ออกห่างจากตนเสียก่อนที่จะหายใจไม่ทัน
“อื้อออ ขี้โกงเกินไปแล้วคิมซอกจิน”
เอ่ยเสียงแหวพร้อมกับออกอาการหน้าแดงจนลามไปถึงใบหูเล็ก
“ก็บอกแล้วว่าจะกินน้ำ”
เผลอยู่ปากใส่คนตัวโตด้านล่างจนซอกจินต้องยื่นมือมาบีบปากเล็กนั่นอย่างมันเขี้ยว
“เมื่อกี้ได้กินน้ำหวานซะด้วยสิ”
“พี่จิน!”
เอ็ดแฟนเสียงดุ แต่ซอกจินมองว่ามันน่ารักน่าแกล้งดีเลยหลุดยิ้มและหัวเราะออกมาเสียใหญ่
“ออกไปแล้วดีกว่า เข้ามานานแล้ว”
โฮซอกลุกขึ้นจากตักและซอกจินก็ยอมปล่อยมือที่โอบเอวเล็กแต่โดยดี
“ครับผม พี่ก็จะออกไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว”
ซอกจินยืนขึ้นเต้มความสูงข้างคนตัวเล็กก่อนจะเดินนำเปิดประตูรอให้อีกคนที่ยังดึงเสื้อให้เรียบเดินตามเขาออกมา
“อ่าว ซอกจิน กำลังจะมาตามพอดีเลย”
กายองเดินมาพอดีในจังหวะที่โฮซอกเดินออกมาจากห้อง ซอกจินยิ้มให้รุ่นพี่นิดหน่อยก่อนจะเดินตามอีกคนไปที่ห้องแต่งตัวเพราะบก.น่าจะมีการเตรียมอะไรบางอย่างก่อนเข้ารายการ ทิ้งไว้เพียงโฮซอกที่ยังยืนอยู่หน้าประตูเช่นเดิม ก่อนจะเข้าห้องแต่งตัวไปซอกจินยังมีการหันมายิ้มให้โฮซอกน้อย ๆ ด้วย
คนเจ้าเล่ห์
.
.
.
.
.
เลิกรายการสดของวันนี้แล้ว โฮซอกที่นั่งอยู่โต๊ะทำงานบิดขี้เกียจเล็กน้อยหลังจากวางโทรศัพท์ที่เขาเพิ่งโทรไปซักเรื่องราวเพิ่มจากแหล่งข่าวที่เขากำลังตามเรื่อง เป็นนักข่าวนี่มันปวดหัวชะมัด เรื่องชาวบ้านชาวช่องเราก็ต้องเสือกให้ถึงที่สุดเพื่อจะได้เอาประเด็นที่เล่นข่าวได้มาทำต่อ แต่พอทำไปเรื่อย ๆ มันก็ชินแล้วอ่ะนะ ทั้งยังตอนนี้เงินเดือนก็ขึ้นมาสุงมากแล้ว อีกแฟนหนุ่มก็ยังอยู่ในรายการเดียวกัน เหมือนกับว่าโฮซอกได้ทั้งขึ้นทั้งร่อง
งานก็ทำ แฟนก็อยู่ในสายตา
ไม่นานนักก็ได้ยินเสียงฝีเท้าหนัก ๆ เดินผ่านมาที่ด้านหน้าห้อง ซอกจินเอาบทของที่ถ่ายเสร็จแล้ววางไว้บนโต๊ะหน้าเครื่องถ่ายเอกสาร แล้วเดินผ่านโฮซอกเพื่อเข้าห้องของตัวเอง แอบเห็นนะว่าซอกจินมองเขาและยิ้มให้ด้วย
ตาบ้านี่ เดี๋ยวคนอื่นเขาก็รู้กันหมดหรอก
“วันนี้กลับบ้านเร็วได้เลยนะ ไม่มีถ่ายออนไลน์”
“ว้าววว ใจดีจังเลยครับ”
เสียงแหลม ๆ ของจีมินที่นั่งอยู่ข้างโฮซอกเอ่ยแซวพี่กายองที่เพิ่งประกาศให้ทั้งห้องได้ยินไป ทุกคนหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะกลับมาทำงานต่อให้เสร็จเตรียมตัวกลับบ้านเร็ว รวมถึงโฮซอกด้วย
“ผมกลับก่อนนะครับ”
ผ่านไปได้แค่ไม่กี่สิบนาทีซอกจินก็เดินออกเข้ามาลาทุกคนหลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ พวกเขาสองคนอยู่บ้านเดียวกันนะ แต่ว่าเอารถมาคนละคัน ไม่ใช่เพราะว่าจะปิดเรื่องที่คบกันขนาดนั้นนะ แต่แค่เวลาในการเข้างานและภาระงานของทั้งคู่มันต่างกัน ซอกจินเข้างานเช้าเลิกเร็ว ส่วนโฮซอกเข้างานสายกว่าและไม่รู้เวลาเลิกงานที่แน่นอน อีกทั้งบางทีเขาอาจจะต้องไปหาแหล่งข่าวข้างนอกอีก มันเลยสะดวกกว่าหากจะใช้รถของใครของมัน
“กลับบ้านดี ๆ ค่ะพี่”
เสียงใสของนารารุ่นน้องอายุน้อยของโต๊ะข่าวเอ่ยให้ซอกจินพร้อมกับโบกมือให้อย่างคนสนิท ทำให้โฮซอกเผลอเบะปากใส่การกระทำนั้นอย่างไม่รู้ตัว
แต่ซอกจินมองเห็นมันอ่ะนะ
“ครับผม”
ซฮกจินเดินออกไปแล้ว จีมินเลยเลื่อนเก้าอี้มาแนบสนิทเคียงข้างโฮซอกที่กำลังพิมพ์ข้อมูลลงในฐานข้อมูลอยู่
“เห็นนะว่าเบะปากอ่ะ”
จีมินคือหนึ่งในคนสนิทที่รู้ว่าโฮซอกกับซอกจินเป็นแฟนกัน
“อือ เหรอ ลืมตัวมั้ง”
“หวงก็เปิดตัวไปดิ ไม่มีใครว่าอะไรซะหน่อย”
ก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ว่าจะปิดเรื่องคบหากันไปทำไม หรือว่าเพื่อความสบายใจอะไรเทือกนั้นจีมินก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ทุกครั้งที่ซอกจินมีคนอื่น ๆ เข้าหาโฮซอกก็จะมีการแสดงออกทางสีหน้าเสมอ แต่เพื่อนก็ไม่เคยงี่เง่าใส่แฟนหนุ่มเลยสักครั้ง
“ไม่อ่ะ ไม่จำเป็น”
“จ้าาา”
เบื่อแล้วที่จะซักไซ้เลยเลื่อนเก้าอี้กลับไปที่โต๊ะของตัวเอง
บางทีก็อยากให้เจอใครบางคนทีเข้าหาซอกจินแบบเว่อร์ ๆ เพื่อนเขาจะได้สติแตกบ้าง
.
.
.
.
.
รถยนต์สีขาวคันเล็กเข้าจอดที่ว่างข้างรถเก๋งสีดำคันหรูก่อนเจ้าของจะลงจากรถพร้อมกระเป๋าเอกสารใบใหญ่ ซอกจินที่ได้ยินเสียงรถจอดสนิทก็เดินออกมาที่หน้าบ้านพร้อมกับเข้าไปช่วยแฟนเด็กขนของ เพราะนอกจากกระเป๋าเอกสารแล้วยังมีถุงอาหารอีกจำนวนหนึ่งด้วย
“ถึงว่า กลับดึกจัง”
เอ่ยหลังจากที่วางถุงอาหารลงบนโต๊ะในห้องครัว ก็เอ่ยแซวคนตัวเล็กที่กำลังเปิดตู้บนหัวหยิบจานออกมาเพื่อใส่อาหารทั้งหมด เป็นเอ็นดูกับส่วนสูงจนซอกจินต้องยื่นมือไปช่วยหยิบจานให้อีกที
“หิวมาก มาก ๆ ๆ ๆ ”
“หิวแล้วไม่กินก่อนกลับล่ะ”
เทอาหารใส่จานไปด้วย วันนี้คุณแฟนซื้อไก่ทอดกับบิบิมบับมาชุดใหญ่ สงสัยจะหิวอย่างที่ว่าจริง ๆ
“ก็อยากกลับมากินกับแฟน”
แฟนใครวะ น่ารักจัง
ถึงกับเก็บทรงไม่อยู่กันเลยทีเดียวหลังจากที่โฮซอกพูดออกมาแบบนั้น ซอกจินเขินจนต้องพาตัวเองไปเปิดตู้เย็นหยิบเอาน้ำเปล่ามาดื่มอึกใหญ่
มื้ออาหารค่ำผ่านไปได้ด้วยดี เศษซากอารยธรรมกระดูกไก่ทั้งหมดถูกเก็บลงถังขยะโดยฝีมือของซอกจิน เพราะเขาไล่ให้คนตัวเล็กขึ้นไปอาบน้ำอาบท่าก่อนลงมาดูรายการเกมโชว์ที่พวกเขาชอบดูด้วยกัน
ซอกจินอายุห่างจากโฮซอกห้าปี ตอนนี้เข้าเลขสามแล้ว ในขณะที่โฮซอกเพิ่งจบมาได้ไม่กี่ปี เด็กใหม่ไฟยังแรงอย่างโฮซอกค่อยข้างจะฉายแววตั้งแต่เข้ามาทำงานใหม่ ๆ ที่รู้ก็เพราะพวกทีมข่าวชอบเล่าให้ฟัง ครั้งหนึ่งโฮซอกก็เกือบจะได้มาเป็นผู้ประกาศนั่งโต๊ะออกกล้องเหมือนกัน แต่อีกคนก็ปฏิเสธ จนชักชวนให้เขาย้ายมาทำงานที่ช่องด้วยกันนั่นแหละ ตำแหน่งผู้ประกาศหน้าหล่อเลยตกเป็นของซอกจิน
“มาหรือยัง”
เสียงวิ่งตึงตังดังมาก่อนที่ร่างบอบบางจะปรากฏให้ซอกจินเห็นเสียอีก โฮซอกรีบวิ่งลงบันไดมานั่งข้างซอกจินที่หน้าทีวีพร้อมกับผ้าผืนเล็กที่ยังแปะไว้อยู่บนหัว
“วิ่งลงเดี๋ยวก็ล้มหรอก บอกกี่ทีแล้วเนี่ย”
ดุไปก็เท่านั้นในเมื่ออีกคนไม่เคยฟังที่เขาเตือนเลย ถึงอย่างนั้นมือหนาก็เอื้อมไปดึงผ้าขนหนูมาไว้ในมือแล้วลากคนตัวเล็กข้าง ๆ ให้ลงมานั่งตรงหว่างขาเพื่อเช็ดผมให้
“ก็เค้ากลัวมาไม่ทัน”
“เถียงเก่งไอ่เด็กดื้อ”
ตบเข้าที่น่องขาของแฟนหนุ่มไปหลังจากโดนอีกคนว่าดื้อแถมยังขยี้ผมซะจนเวียนหัวไปหมด
“ก็เป็นเด็กดื้อของพี่คนเดียวไปเล่า”
เอาอีกละ แค่นี้คนแก่ก็หลงเด็กจนโงหัวไม่ขึ้นแล้วนะ
“พูดแบบนี้เดียวจะโดนดี”
“แก่แล้วข่มขู่ได้คนเดียวมั้ง”
“เดี๋ยวนี้เถียงคำไม่ตก…”
“ชู่วว รายการมาแล้ว”
ยังไม่ทันได้พูดจบประโยคก็ถึงคนน้องบอกให้เงียบเสียแล้ว ซฮกจินเลือกอะไรได้เยอะไหม คำตอบคือก็ไม่ เลยทำได้แต่เงียบตามคำสั่งของแฟนเด็ก
ไม่ได้กลัวหรอกนะ เด็กตัวแค่นี้น่ะ
หลังจากดูรายการจนจบก็เป็นเวลาเกือบเที่ยงคืน ตอนนี้โฮซอกนั่งอยู่ข้าง ๆ ซอกจินทั้งยังซบหัวไว้ที่ไหล่ขวา ไม่ต้องก้มไปมองก็รู้ว่าอีกคนเผลอหลับไปแน่ แฟนคนดีเลยค่อย ๆ ขยับตัวเอามือรองหัวทุยไว้กันอีกคนตื่น แล้วรวบเอาตัวมาไว้ในอ้อมแขนก่อนจะยกอีกคนไปส่งที่ห้องนอนของเรา
“อื้ออ”
ครางเสียงต่ำหลังจากซอกจินวางคนตัวเล็กไว้บนเตียงนุ่ม มือใหญ่ลูบกลุ่มผมสีดำอย่างทะนุถนอมก่อนจะกดจมูกและริมฝีปากลงบนหน้าผากมน
“ฝันดีครับคนเก่งของพี่”
มือใหญ่ดึงเอาผ้าห่มมาคลุมร่างของเราทั้งสองก่อนจะเหนี่ยวรั้งเอวบางของแฟนเด็กมาใกล้ให้อีกคนอยู่ในอ้อมกอดของเขา
ไม่รู้ว่ามันสำคัญไหมกับการให้คนที่ช่องรู้ว่าเราสองคนคบกัน ไม่ได้ปิดแต่ก็ไม่ได้ต้องประกาศรึเปล่า อีกอย่างซอกจินก็รักโฮซอกจนถอดตัวไม่ขึ้นขนาดนี้ ไม่ต้องกังวลเรื่องมือที่สามเลย แค่ได้มีอีกคนอยู่ใกล้สายตาก็มีความสุขมากพอแล้ว แค่ได้อยู่ด้วยกันอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ ก็ดีมาก ๆ แล้ว
เพราะโฮซอกเป็นทั้งคนรัก
เป็นทั้งบ้าน
เป็นทั้งครอบครัว
เป็นเด็กดื้อ
เป็นทุกอย่างของซอกจินจริง ๆ
-FIN-
-พื้นที่นักเขียน-
เราเขียนเรื่องนี้ประมาณหนึ่งชั่วโมงเพราะว่าอยากลงในวันเกิดพี่จิน แต่เราเขียนไม่ทันเมื่อวานค่ะ5555 ยังไงก็สุขสันต์วันเกิดนะคับคนเก่งของมี่ พี่จินจะได้ออกมาเจอพวกเราทุกคนแล้ว รักษาร่างกายให้แข็งแรงถึงวันที่พวกเราได้กลับมาเจอกันนะคะ ทั้งบังทันและอาร์มี่เลย
อันนี้เราเอามาจากประสบการณ์การฝึกงานของเราที่เพิ่งผ่านมาได้แค่สองวีค บอกตามตรงค่ะว่าเราทำงานเยอะจนไม่มีเวลาทำอย่างอื่นเลย แหะ
คือเราไม่ได้เรียนการทำสื่อมาเราเลยต้องเรียนรู้อะไรอีกเยอะเลย แต่โชคดีค่ะที่เพื่อนฝึกด้วยกันช่วยเหลือกันสุด ๆ เลยพอถูไถมาได้
เรื่องพี่ฮักกับน้องจอมเราก็กำลังเร่งเขียนอยู่เหมือนกัน พยายามจะให้จบในสามตอน ไม่รู้จะทำได้ไหม ฮือออ เป็นกำลังใจให้เราด้วยนะคะ
เห็นมีคนเม้นในเด็กดีแล้วใจชื้นขึ้นมามาก ๆ เลยล่ะค่ะ ขอบคุณที่ยังตามอ่านงานของเรานะคะ^^
ความคิดเห็น