ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [OS/SF] Don't Touch Him!! -All HOSEOK-

    ลำดับตอนที่ #4 : You're Valentine -Sope- (70%)

    • อัปเดตล่าสุด 9 มี.ค. 62




    คนที่เพื่อนรัก กับ คนที่รักเพื่อน ต่างกันยังไง?

     

                ร่างบางในชุดนอนสีน้ำเงินเข้มขายาวกำลังเดินไปเดินมาในห้องนอนจนดูน่าเวียนหัว ให้ตายเถอะ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน เรียนด้วยกันมาตั้งแต่เด็กๆแท้ๆ ชอบเขางั้นเหรอ เฮ้ยยยย ที่จริงเพื่อนคนนั้นก็ยังไม่สารภาพอะไรหรอก เพียงแต่มีเพื่อนตาตี่อีกคนที่มาบอกเขาว่าเพื่อนสนิทที่คบกันมานานแสนนานแอบชอบเขาอยู่ งั้นเหรอ! อ่าาาาาา! โฮซอกคนนี้อยากจะบ้าตาย แต่จีมินก็บอกโฮซอกว่าเพื่อนคนนั้นเขาขี้อาย แต่ที่เพื่อนตาตี่รู้ก็เพราะได้ยินเขาคุยกันในกลุ่มนักกีฬา  แถมยังกำชับนักหนาให้คนในกลุ่มห้ามหลุดปากให้ใครรู้เองเด็ดขาด จีมินเลยต้องเตือนโฮซอกให้ระวังด้วยห้ามบอกใคร ห้ามมีพิรุธ เฮ้ออออออออ คิดแล้วกลุ้มใจจริงๆโว้ย

                คนหน้าตาอ่อนหวาน ใจดี ยิ้มสวย น่ารัก อ่อนน้อม ร่าเริง สดใส อยู่ด้วยแล้วมีความสุข เป็นคนที่สายตาเฉียบคมมองอยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่ที่ร่างบางนั้นเดินเข้ามาให้ห้องเรียนตอนเช้า จนเดินออกไปหลังจากที่ออดเลิกเรียนดัง มันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่สมัยอนุบาลแล้ว จนตอนนี้พวกเขากำลังเรียนมหาลัยปีหนึ่ง อ่าาาาา ให้ตายเถอะ นี่เขาแอบมองคนน่ารักมาเป็นสิบปีแล้วเหรอเนี่ย เหมือนโรคจิตเลยแฮะ แต่ทุกทีที่ได้มองได้คุยด้วยมันทำให้ใจของเขามีชีวิตชีวาขึ้นเสมอ ยิ่งนานวันเข้าก็ยิ่งห้ามใจไม่อยู่ อยากให้โฮซอกเป็นของเขา ไม่อยากให้ใครหน้าไหนทั้งนั้นมาแย่งโฮซอกจากเขาไป แต่มิน ยุนกิคนนี้นี่สิที่ขี้ขลาด กลัวว่าถ้าเขาพูดออกไปทุกอย่างที่ผ่านมานั้นจะพังทลายลงในชั่วพริบตา ความเป็นเพื่อนที่โฮซอกมีให้กับเขามันคงจะขาดสะบั้นไม่เหลือชิ้นดีให้ชื่นชมอีกแล้ว คิดไปก็เท่านั้น ขอแค่ได้อยู่ข้างๆโฮซอกในวันนี้ก็เห็นจะเป็นทางที่ดีที่สุดแล้ว

                วันนี้ก็เหมือนเดิม ยุนกิเพื่อนที่แสนดียังคงขับบิ๊กไบท์คู่ใจมารับโฮซอกที่หน้าบ้านเหมือนเดิมร่างเพรียวบางในชุดนักศึกษาชายเดินออกมาพร้อมกระบอกกระดาษเขียนแบบที่เจ้าตัวตั้งใจทำมาเกือบเดือนหนีบใส่แขนมาด้วย ขาวเรียวก้าวขึ้นคร่อมมอไซค์ที่นั่งทุกวันอย่างคล่องแคล่ว มือขาวที่จับแฮนด์อยู่รีบหยิบหมวกกันน็อกส่งให้คนซ้อนท้ายใส่ทันทีด้วยความเคยชิน เมื่อร่างบางที่นั่งอยู่ข้างหลังใส่หมวกเสร็จ ร่างขาวก็ไม่รอช้ารีบบิดแฮนด์ออกตัวทันที

    ไอ้ม้า วันนี้เราเลิกเร็ว ไปดูหนังกันไหม”  ปากบางสีซีดพูดออกมาขณะที่กำลังขับรถอยู่

    ... 

    ไอ้ม้า! มึงได้ยินที่กูพูดไหมเนี่ยยยยย!”  เสียงแหบห้าวที่ตระเบ็งออกทำให้คนที่อยู่ด้านหลังตกใจนิดหน่อย ก่อนที่เจ้าตัวจะตอบกลับไป

    ใครจะไปได้ยินวะ! มึงขับเร็วขนาดนี้ หูกูเนี่ยได้ยินแต่เสียงลมห้ะ!”  ไม่วายส่งมือเรียวข้างที่ว่างอยู่ไปตบหัวไอ้โง่ใต้หมวกกันน็อกด้วยหนึ่งที

    เจ็บนะเว้ยยย!”  ยุนกิแห้วออกมาเสียงไม่เบานัก เชี่ย! มือหนักชิบหาย

    สรุป เมื่อกี้มึงพูดไร เอาดังๆนะมึง 

    ไป! ดู! หนัง! กัน!”

    เออออ แค่นี้ก็จบ  ริมฝีปากสีสดตอบกลับทันทีอย่างไม่ต้องคิด  ไม่กี่นาทีต่อมาบิ๊กไบท์คันงามก็จอดที่โรงจอดรถของมหาลัยคนซ้อนท้ายวาดขาก้าวลงจากรถอย่างสวยงามพร้อมกับถอดหมวกกันน็อกออกแล้วสะบัดผมหนึ่งทีก่อนจะใช้มือข้างขวายกขึ้นมาจัดทรงอีกรอบ

    ....  คนตัวขาวที่ยังไม่ได้ลงจากรถมองการกระทำอย่างขำๆ นี่คุณมึงคิดว่ามึงเป็นพระเอกเอ็มวีเพลง DNA เหรอครัช? ถึงต้องทำหล่อขนาดนี้

    มองกูแบบนี้หมายควายว่าไงวะ  ดวงตาอัลมอนด์เหล่มองมาที่ยุนกิอย่างจับผิด

    ก็ ....มึง หล่อไงง.. โหหห  เรื่องแถขอให้บอก ยุนกิคนนี้ช่างถนัดเหลือเกิน

    เอออ กูรู้ตัวอยู่แล้วเรื่องนี้อ่ะ 555555”  หัวเราะเข้าไปเถอะนั่น ฟันออกปากแล้วน่ะ

    ไปมึง ไปห้องได้ล่ะ อยู่ตรงนี้กูร้อนโว้ยยย  หลังจากที่ถอดหมวกออกแล้วยุนกิก็ชวนโฮซอกให้ขึ้นห้องเสียที

                ยุนกิกับโฮซอกเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่อนุบาล ขึ้นประถมเขาก็ได้อยู่ห้องเดียวกัน แต่พอม.ต้นโฮซอกได้อยู่ห้องสาม ส่วนยุนกิอยู่ห้องสี่ ทำให้ห่างกันระยะนึง แต่ยุนกิไม่เคยละสายตาจากโฮซอกเลย พอมาม.ปลาย ยุนกิก็เลยขยันเพื่อที่จะได้อยู่ห้องเดียวกับโฮซอก และมันก็สำเร็จ เราสองคนได้อยู่ห้องสองเหมือนกัน จนเราต้องเอ็นท์เข้ามหาลัย คณะที่ลงก็คือสถาปัตย์ ยุนกิเลยลงตามโฮซอกไป ยังดีหน่อยที่เขาเองก็ชอบแนวนี้อยู่เหมือนกัน มันเลยไม่ฝืนใจอะไร ทั้งยังดีด้วยซ้ำ ได้เรียนคณะที่ชอบ แล้วยังได้อยู่กับคนที่รักอีกต่างหาก

    คุณมึงครับ มึงจะเดินไปไหน ถึงห้องแล้ว  เสียงสดใสที่พูดอยู่ข้างหลังทำให้ยุนกิได้สติ นี่กูเหม่อเหรอเนี่ย

    อ๋อเอ่ออออ  ยุนกิหันหลังกลับมาแล้วเดินเข้าห้องไป

    มาแล้วเหรอออออ~~ โฮซอกของแทแท ไม่เจอกันตั้งสิบสี่ชั่วโมง แทแทคิดถึงโฮซอกจังเลย  ทันทีที่ขาเรียวก้าวเข้ามาในห้องสี่เหลี่ยมเสียงทุ้มต่ำที่พยายามดัดให้เล็กที่สุดเท่าที่จะทำได้ก็ดังขึ้น พร้อมกับร่างสูงเจ้าของผิวแทนสุดเซ็กซี่ที่เดินเข้ามาแย่งกระบอกงานไปจากมือเรียวหน้าตาเฉย แล้วส่งสายตาที่ดูเจ้าเล่ห์มากๆมาให้โฮซอกก่อนจะขยิบตาด้วยหนึ่งทีเป็นการส่งท้าย

    มึงคิดว่ามึงหล่อเหรอ?”  เสียงแหบหวานถาม พร้อมกับคิ้วบางๆที่เลิกขึ้น

    ก็หล่อที่สุดในสายตาของโฮซอกไง โฮซอกว่าแทแทขี้เหร่เหรอ  หลังจากวางงานของคนตัวเล็กเสร็จ ร่างสูงก็เดินเข้ามาเกาะแขนเรียวของโฮซอกทันที พร้อมกับใบหน้าหล่อๆที่ถูกับต้นแขนเนียนนั่น

    มึงหล่อ แต่กูไม่ชอบ  โฮซอกตอบกลับทันควัน แทฮยองเป็นคนน่าตาดี นิสัยก็.... ดีมั้ง นั่นแหละ แต่เขาไม่ได้ชอบแทฮยองแบบที่แทฮยองชอบเขาหรอกนะ อ่าาาา  พูดออกมาแบบนี้แล้วเหมือนเข้าข้างตัวเองเลยเนอะ

    โฮซอก โฮซอกเกลียดแทแทแล้วเหรอ ฮืออออ แทแทเสียใจ  ริมฝีปากสีชมพูอ่อนพยายามคว่ำลงจนเหมือนคนร้องไห้ แล้วกำมือทั้งสองข้างขึ้นมาหมุนๆตรงดวงตา

    เปล่ามึง มันไม่ใช่แบบนั้นเว้ย เฮ้อออออ  หลังจากถอนหายใจออกมายาวๆ โฮซอกก็เอามือมาดึงแทฮยองเข้ามากอด ให้ตายเถอะ ทำไมเขาต้องเป็นคนใจอ่อนทุกทีเลยนะ

    มึงระวังไว้เลยนะ  เสียงทุ้มที่ต่ำอยู่แล้วกดให้ต่ำลงกว่าเดิม แทฮยองมองหน้ายุนกิแล้วยิ้มเย้ย ส่วนโฮซอกก็ยังกอดแทฮยองพร้อมกับตบหลังเบาๆเพื่อให้อีกคนหยุดร้องไห้เสียที

    ไรวะโฮซอก มึงคิดจะกอดไอ้ดำคนเดียวเลยหรือไง แล้วกูล่ะ  เสียงที่ฟังดูแล้วกวนส้นตีนเดินเข้ามาพร้อมกับกระเป๋าสะพายเน่าๆที่พาดบ่ามาด้วย

    มาๆ มานี่เลยไอ้ม่อน มึงอยากกอดก็เข้ามาเลย  โฮซอกเรียกให้เพื่อนคนใหม่ที่เพิ่งเดินเข้ามาร่วมวงด้วย

    แล้วกูล่ะ 

    แล้วกูล่ะ 

    แล้วกูล่ะ 

    แล้วกูล่ะ  และอีกหลายเสียงที่ตามมา เอาเป็นว่าตอนนี้ทั้งห้องลุกขึ้นมาสวมกอดร่างบางกันหมด ก็บอกแล้วว่าโฮซอกเป็นคนที่เพื่อนรัก และคนที่รักเพื่อนอย่างเขาต้องทำใจสินะ

    พอๆเลย แยกกันได้แล้ว อีกห้านาที จารย์ก็จะมาแล้ว ไปเตรียมตัวเรียนกันเถอะพวกมึงน่ะ  และก็เป็นยุนกิเองที่ประกาศให้เพื่อนทั้งคลาสปล่อยออกจากร่างบางที่ถูกกลืนหายไปในวงล้อมจนมองไม่เห็น

    เอออ จริง กูหายใจไม่ออกแล้วเนี่ย  เสียงหวานที่ฟังดูอู้อี้เนื่องจากอยู่ในอ้อมกอดของเพื่อนซักคนหนึ่งเอ่ยออกมา ทำให้คนอื่นๆที่เหลือคลายกอดออกจากคนสวยเสียที

    ทำไมมึงถึงยอมให้เพื่อนกอดแบบนี้วะ  ถามขึ้นหลังจากที่คนหน้าหวานออกมาจากเพื่อนๆแล้ว

    แล้วทำไมจะกอดกันไม่ได้วะ เพื่อนกันทั้งนั้นนะมึง  ด้วยความถามไม่ได้คิด เลยได้รับคำตอบกลับมาแบบนี้ มันก็จริงนี่หว่า เพื่อนกอดกันจะผิดอะไร

    ...

    ไหนมากอดดิ เมื่อกี้ยังไม่ได้กอดมึงเลย  ยังไม่ทันที่คนตัวขาวจะได้พูดอะไร วงแขนเรียวก็คว้าร่างของเขาเข้าไปกอดซะแล้ว กลิ่นตัวของคนสวยนี่ลอยเข้าจมูกเต็ม คนบ้าอะไรจะตัวหอมได้ขนาดนี้ ถ้าไม่ติดว่ามีดุ้นนะ โฮซอกคงกลายเป็นผู้หญิงเต็มตัวไปแล้ว

    มึง ปล่อยเลย กูหายใจไม่ออก  ปากโคตรจะไม่ตรงกับใจ ปากพูดอย่างแต่ใจคิดอย่าง ถ้าอยู่กันในห้องสองคนนะ ยุนกิคงจะไม่ยอมปล่อยโฮซอกไปเลย

    โห ไรวะ กอดกันแค่นี้มึงหายใจไม่ออกจนหน้าแดงเลยเหรอวะ  หลังจากที่คลายกอดแล้ว โฮซอกก็เพิ่งจะสังเกตเห็นหน้าของเพื่อนสนิท ความจริงยุนกิเป็นคนหน้าขาว ขาวออร่ามากๆ แต่ดูตอนนี้สิ หน้าแดงเป็นมะเขือเทศเลย ยังไม่เคยเห็นยุนกิเป็นแบบนี้เลยซักครั้ง

    มาๆ เดี๋ยวกูช่วยพัดให้  ร่างบางค้นในกระเป๋าก่อนจะหยิบพัดลายเจ้าหญิงที่ขโมยมาจากไอ้ซอกจินมาพัดให้ยุนกิ

    มึงไปเอามาได้ไงวะ กูเห็นมันหวงจะตาย  ยุนกิถามขณะมองโฮซอกที่นั่งพัดให้เขาอยู่

    วันก่อนกูร้อนอ่ะ ก็เลยไปค้นกระเป๋ามัน เลยจิ๊กมา เนี่ยว่าจะเอามาคืนมันล่ะ  โฮซอกว่าพร้อมกับพัดให้ยุนกิเร็วขึ้น

    อ่า เอ่อย่าลืมคืนมันล่ะ เดี๋ยวมันก็พิโรธหรอก

    รู้แล้วจ้าพ่อ  โฮซอกใช้สรรพนามที่ดูกวนๆตอบยุนกิกลับไป ก็มันจริงนี่น่า เพื่อนคนนี้มักจะทำตัวเหมือนพ่อเขาเข้าไปทุกวัน ห้ามโน่นห้ามนี่ สั่งนั่นสั่งนี่ จนโฮซอกแทบจะเป็นลูกของยุนกิไปแล้วมั้งเนี่ย

    อย่ามากวนตีน  ยุนกิโบกเข้าไปที่หัวทุยๆของโฮซอกหนึ่งทีเต็มๆ ที่ทำไม่ใช่เพราะว่าเขาอยากแกล้งมันนะ แต่เพราะความเอ็นดูต่างหาก เอ็นดูในแบบของมิน ยุนกิไงล่ะ

    โอ้ยมึง! มันเจ็บนะเว้ย  โฮซอกหันมาแห้วใส่ยุนกิคำใหญ่ ก่อนจะเอามือยกขึ้นไปลูบหัวตัวเองป้อยๆ เห็นตัวเล็กๆแบบนั้น มือมันหนักใช่ย้อยเลยนะ

    โอเวอร์  ยุนกิตอบกลับคนตัวบางเบาๆ และอาจารย์ก็เดินเข้ามาพร้อมหนังสือสองเล่มในมือ

    เอาล่ะ วันนี้เรามาเรียน......

                แล้ววันนี้ก็เป็นเหมือนวันเดิมๆ แทบจะไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลย มีแค่ว่าวันนี้ โฮซอกและยุนกิจะไปดูหนังด้วยกัน

    มึง จะดูเรื่อง  เสียงใสถามขึ้นขณะที่กำลังม้วนกระดาษเขียนงานเข้ากระบอก

    มาย ลิตเติ้ลโพนี่  เสียงทุ้มตอบกลับมา แล้วก็ได้สายตางงๆจากคนบนเก้าอี้ได้เป็นอย่างดี

    มึงคิดอะไรอยู่ ถึงอยากดูเรื่องนี้วะ  ถามปนขำ นึกคึกอะไรของมันวะ เป็นร้อยชาติแล้วมั้งที่ยุนกิแทบจะไม่ดูหนังอะไรที่มันไร้สาระ เช่นพวกการ์ตูน หรือว่าหนังตลก.... แต่วันนี้มันมาชวนเขาดูโพนี่เนี่ยนะ อ่า บ้าไปแล้วแน่ๆ

    เบื่อ ดูอะไรที่มันใหม่ๆบ้าง บางทีมันอาจจะดีก็ได้นะมึง  ยุนกิตอบโฮซอกก่อนจะช่วยถือกระบอกงานให้แล้วเดินออกจากห้องไป

    รอด้วยดิวะ รีบจังมึงนี่  โฮซอกรีบสะพายกระเป๋าเป้แล้ววิ่งตามยุนกิจนไปถึงรถ

                โรงหนังมีผู้คนมากพอสมควร มีทั้งคู่รักที่มาเดทกัน มีครอบครัวที่พาลูกๆมาดูหนัง และก็มีกลุ่มเพื่อนๆที่ยกโขยงกันมา ทุกอย่างดูวุ่นวายมากในสายตาของมิน ยุนกิ ตอนนี้คนตัวบางกำลังซื้อตั๋วที่เคาน์เตอร์ ปล่อยให้เขาเลือกตามอัธยาศัยเถอะ เพราะไม่ว่าจะนั่งตรงไหน แค่มีโฮซอกอยู่ข้างๆ มิน ยุนกิก็พอใจแล้วล่ะ

    มึง มาชวนกูถือดิ  เสียงใสมาพร้อมกับร่างเพรียวบางที่ในมือมีน้ำและป๊อปคอร์นชุดใหญ่ จะหอบอะไรไปกินเยอะแยะนะ

    นี่มึงกินหรือมึงแดกเนี่ย เยอะสัส  ถึงปากจะบ่นไปอย่างนั้น แต่มือขาวๆก็ช่วยรับของมาจากโฮซอกอยู่ดี

    กูเชื่อว่ามึงก็จะกินกับกู  โฮซอกพูดไปพรางล้วงเอาตั๋วหนังในกระเป๋ากางเกงส่งให้ยุนกิหนี่งใบ

    หึ  เสียงในลำคอเปล่งออกมาอย่างนึกขำ เห็นเขาเป็นคนเห็นแก่ของกินหรือไง เขาไม่ได้เหมือนโฮซอกซะหน่อย

    ไม่ต้องมาขำเลย เดี๋ยวกูไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ  โฮซอกวางของทั้งหมดในมือลงที่เก้าอี้ข้างๆเพื่อนสนิท แล้วเดินลิ่วๆเข้าห้องน้ำไป

    มึงคิดว่ามันโอเคเปล่าวะ ชุดนี้  ชายคนหนึ่งเดินผ่านมาพร้อมเพื่อนอีกสองคน เสียงทุ้มๆที่ฟังดูคุ้นๆดังขึ้นใกล้ๆ ทำให้ยุนกิต้องหันไปมองก่อนจะพบว่า เป็นคนที่เขาคิดไว้ไม่มีผิด

    จองกุก  คนตัวขาวพรึมพรำออกมาเบาๆ ก่อนจะหันหน้าหนี เพราะไม่อยากจะมอง ไม่อยากจะเสวนาด้วย

    กูว่ามันก็โอเคนะมึง โอ้ยย ไอ้เหี้ย มึงจะคิดมากไปเพื่อ? ยังไงน้องยูราของมึงก็ต้องมองมึงว่าหล่อมากอยู่แล้วล่ะ   เสียงติดแหลมเอ่ยบอกเพื่อนรัก ไอ้นี่ ทำเป็นคิดมาก หน้าตามึงดีเบอร์นี้ ยังจะมากลัวขี้เหร่อีก

    เออเนาะ กูลืมไปว่ากูหน้าตาดีมาก  จองกุกหันไปยิ้มฟันกระต่ายใส่เพื่อนตัวเล็ก ไม่มีหรอกความถ่อมตนในจองกุกน่ะ

    ดูซิว่าเราเจอใคร  ร่างสูงหน่อที่สามเอ่ยขึ้น ก่อนจะเอามือมาตบเบาๆที่ไหล่ของมิน ยุนกิ ที่นั่งรอโฮซอกอยู่

    อ้าวววววววว นึกว่าใคร มานั่งหน้าดำอะไรตรงนี้ครับเนี่ย  จองกุกถามยุนกิด้วยประโยคที่กวนโอ้ย โอ้โห กูขาวขนาดนี้ มึงว่ากูดำได้ยังไงครับเนี่ย

    ....  เงียบ คือสัญญาณที่ยุนกิตอบกลับไป พร้อมกับสายตาสุดเหวี่ยงที่ส่งไปให้รุ่นน้องหน้ากวนทั้งสามคน

    แล้วนี่ พี่โฮซอกไม่มาเหรอครับ แล้วมาดูหนังกับใครเนี่ยยยย  ร่างเล็กถามขึ้นพร้อมกับมองหาบุคคลที่สามที่ถูกกล่าวถึง แล้วกวาดสายตามองที่ข้างๆยุนกิ ก็พบขนมกับน้ำวางอยู่

    เสือก นี่เป็นประโยคแรกที่ยุนกิหลุดปากโพลงออกมาทำให้สามหน่อมองหน้ากันเลิกลัก

    จุ๊ๆ ไม่เอานะครับ พูดจาแบบนี้กับรุ่นน้องได้ยังไง ใช้ไม่ได้ๆ  ร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างขวาของจองกุกพูดขึ้นพร้อมกับเอานิ้วชี้ทาบที่ริมฝีปากของตัวเอง แล้วโบกมือให้รุ่นพี่ที่นั่งอยู่ ก่อนจะส่งหน้าตาที่เริ่มจะทำให้เบื้องล่างของยุนกิกระตุกมาให้อีกที่เป็นการส่งท้าย

    ไปไกลๆไป รำคาญ  เมื่อไหร่โฮซอกจะออกมาซะทีนะ ถ้าช้าก่อนนี้อีกนิดนึง เขาพร้อมที่จะตะบันหน้าคนใดคนหนึ่งในนี้ได้เลย รีบมาซะทีสิ

    คุยกับพวกผมมันจะอะไรนักหน.......  เสียงทุ้มเรียบๆของจองกุกหายไปเมื่อตาคมเหลือบไปเห็นคนสวยที่เดินออกมาจากห้องน้ำ

    พี่โฮซอก  ร่างเล็กเอ่ยเรียกรุ่นพี่คนสวยออกมาเสียงสดใส

    อ้าวว ว่าไงยองแจ จองกุก เซฮุน มาดูหนังกันเหรอ  โฮซอกก็ยังเป็นโฮซอก อะไรมันจะเฟรนลี่ขนาดนั้นนนนน

    ครับ พอดีว่าช่วงนี้มันเบื่อ เพิ่งโดนคนบ้ากวนตีนมา เลยจะมาทำอะไรแก้เซ็ง  จองกุกตอบก่อนจะหันหน้ามาทางยุนกิในประโยคสุดท้าย

    อ๋อเหรอ เออๆ กูไปก่อนล่ะ เดี๋ยวหนังจะเข้าแล้ว พวกมึงดูเรื่องอะไรกันล่ะ  โฮซอกยกข้อมือมาตรวจดูเวลา และถามอีกฝ่ายไป เผื่อว่าจะดูเรื่องเดียวกัน ....แต่ว่ามันคงไม่มีทาง

    โพนี่ครับ  ก็บ้าแล้ว เฮ้ย!

    เรื่องเดียวกันเลย โฮซอกยิ้มแหยๆให้ เขาแก่กว่าเด็กพวกนี้ตั้งสองปีด้วยซ้ำแต่กลับเป็นว่ามาดูหนังการ์ตูนเหมือนกัน แถมเป็นการ์ตูนม้าสีรุ้งด้วยนะ เด็กผู้หญิงชะมัด

    นั่งแถวไหนครับเนี่ย ผมนั่งแถว A”  จองกุกชูตั๋วหนังในมือให้โฮซอกดูแล้วฉีกยิ้มกว้าง

    กูนั่งแถว B อ่ะ  โฮซอกตอบกลับรุ่นน้องไป ก่อนจะหันไปมองยุนกิที่ตอนนี้ทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่

    กูเข้าไปในโรงก่อนนะ แล้วเจอกัน  แต่กูไม่อยากเจอพวกมึง นี่เป็นประโยคในใจที่ยุนกิได้พูดคนเดียวในนั้น ทำไมโฮซอกต้องดูสนิทสนมกับไอ้สามหน่อกวนตีนนั้นนะ รู้ทั้งรู้ว่าเขาเกลียด แต่คุยกับพวกมันเหมือนไม่มีเขานั่งหัวโด่อยู่ตรงนี้ซะงั้น เพราะไอ้เด็กจองกุนี่มันตามจีบคนหน้าหวานตั้งแต่ที่รู้ว่าโฮซอกเป็นลุงรหัสมันก็ติดร่างบางหนึบอย่างกับปลิง และก็เป็นเขานี่แหละที่ทำตัวเป็นก้างขวางคอไม่ให้มันได้โฮซอกไป ใครจะไปยอมวะ แอบเล็งมาตั้งแต่สมัยเด็กๆจะยอมปล่อยให้หมาที่ไหนมาคาบไปรับประทานล่ะครับ จนตอนนี้กลายเป็นว่ายุนกิกับจองกุกเกลียดขี้หน้ากันได้เลย เจอกันทีไรมีเรื่องให้ชวนทะเลาะทุกที และก็หนีไม่พ้นเรื่อเดิมๆ ก็เรื่องโฮซอกคนบื้อนั่นแหละ

    โอเคครับ  จองกุกโบกมือให้โฮซอกก่อนจะเดินเลี่ยงไปทางเคาน์เตอร์เพื่อซื้อขนมนมเนยเข้าไปในโรงบ้าง

    ยืนบื้ออยู่ทำไมครับคุณเพื่อน ไปเดิน!”  หลังจากละสายตาจากรุ่นน้องทั้งสามคนได้แล้ว ร่างบางก็หันมาหอบเอาขนมที่กองไว้บนเก้าอี้ขึ้นมาถือไว้ในอ้อมแขน ก่อนที่เสียงใสๆจะเอ่ยดังๆเพื่อเรียกให้เพื่อนตัวขาวหลุดจากภวังค์ในหัวเสียที

    เอออ  ยุนกิสะดุ้งนิดหน่อยเมื่อถูกโฮซอกใช้เสียงดังเข้าใส่ ร่างขาวเดินตามร่างบอบบางต้อยเข้าโรงหนังเหมือนลูกตามแม่ไม่มีผิด


    (50%)


              ตอนนี้ภายในโรงหนังแอร์เย็นฉ่ำก็มีผู้เข้ามาชมมากพอสมควร เพียงไม่กี่อึดใจหนังก็เริ่มฉายขึ้น เด็กๆที่มาดูกับพ่อแม่พากันตื่นตาตื่นใจเมื่อได้เห็นม้าสายรุ้งที่พวกเขาชอบกัน ตาดำสนิทเพ็งมองจอขนาดยักษ์อย่างไม่วางตา เกิดมายี่สิบกว่าปีเขาไม่เคยเลยสักครั้งที่จะมาดูหนังอะไรก๊องแก๊งเด็กน้อยขนาดนี้ แต่กลับผ่อนคลายและสนุกไปกับเนื้อเรื่องอย่างบอกไม่ถูก จนเหมือนกับว่าเขาถูกสูบให้เข้าไปอยู่ในหนังอย่างงั้นแหละ

    มึง ชอบล่ะสิ  เสียงหวานใสที่เอ่ยขึ้นข้างหูทำให้ยุนกิได้สติ เขาละสายตาจากหนังแล้วหันมาสนใจคนที่นั่งอยู่ด้านข้างแทน

    ใครบอก  คนปากแข็ง โฮซอกคิดในใจ

    ปึก!

                แรงบางอย่างที่กระแทกผ่านเก้าอี้ส่งมาถึงตัวของยุนกิทำให้ป๊อปคอร์นที่อยู่ในมือกระจายลงไปข้างล่างจนเกือบหมดถัง

    อะไรวะ!”  เสียงทุ้มสบถออกมาไม่ดังนักก่อนจะหันไปมองข้างบนซึ่งเป็นที่มาของการกระทำที่เขาโดน

    ไอ้จองกุก  ยุนกิมองหน้ารุ่นน้องนิ่ง อีกฝ่ายก็ใช่ว่าจะเกรงกลัวอะไรยังมองกลับอย่างกวนตีนไม่กัน พนันได้เลยว่าถ้าตอนนี้เขาสองคนไม่ได้อยู่ในโรงหนัง พวกเขาคงจะอัดกันให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย

    มีไรมึง  โฮซอกเอ่ยถามเพื่อนสนิทเมื่อเห็นว่าเพื่อนของเขาทำขนมหกเลอะเทอะเหมือนเด็ก แต่สายตาที่คนตัวขาวส่งไปให้บุคคลที่อยู่ด้านบนทำให้โฮซอกต้องมองตามร่างขาวขึ้นไปด้วย

    อ้าว จองกุก  โฮซอกเอ่ยทักรุ่นน้องที่นั่งเรียงกันอยู่ด้านบนหัวของพวกเขา แต่ร่างบางคงจะไม่ทันได้สังเกตสายตาของจองกุกก่อนที่เขาจะเอ่ยทักว่ามัน ....โคตรกวนตีนเลย

    ครับพี่ เจอกันอีกแล้วเนอะ  เป็นยองแจที่เอ่ยออกมาทักทายรุ่นพี่หน้าหวาน แล้วก็เป็นเซฮุนที่ยิ้มออกมาบางๆให้กับโฮซอก

    แล้วเมื่อกี้มึงเป็นไรวะ อยู่ๆก็มือไม้อ่อนแรงไง๊?”  โฮซอกยิ้มตอบกลับรุ่นน้องทั้งสามคนก่อนจะหันมาสนใจเพื่อนของเขาที่นั่งตาเขียวอย่างไม่สบอารมณ์

    มึงไม่เห็นหรือแกล้งโง่วะ  เหมือนเส้นความอดทนของยุนกิได้ขาดลงไปแล้ว ก็เห็นๆอยู่ว่าไอ้เด็กเวรนั่นมันแกล้งเขา ยังจะมีหน้ามาถามอีกว่าเป็นอะไร

    ไรวะ กูไม่รู้ดิถึงไอ้ถาม ไอ้ควาย  โฮซอกเองก็ตอบกลับใช่ย่อยเหมือนกัน เรื่องอะไรเขายอมโดนด่าคนเดียว ไม่รู้ก็ต้องถามดิ ไม่เห็นจะมีไรผิดสักหน่อย

    หลานรหัสมึงน่ะแหละ แม่งกวนตีนกูอยู่ได้ หน้าโรงก็ทีนึงแล้วนะ ในโรงยังจะตามมารังควาญอีก มึงมองไม่ออกจริงๆเหรอวะว่าน้องมันเกลียดกูอ่ะ  ยุนกิเอ่ยอย่างอ่อนใจให้กับพฤติกรรมที่แสนน่ารำคาญของจองกุกให้โฮซอกฟัง แต่เดาเถอะว่าโฮซอกไม่เชื่อเขาหรอก

    มึงพูดไรของมึงวะ จองกุกมันเด็กดีจะตาย กูก็ไม่เห็นว่ามันจะทำอะไรให้มึงเดือดร้อนเลยนี่หว่า  โฮซอกเถียงยุนกิเสียงแข็ง นั่นไง ยังไม่ทันได้พูดอะไรมากไปกว่านี้โฮซอกก็ออกตัวปกป้องไอ้เด็กนั่นแล้ว แล้วเขาจะทำไงได้ในเมื่อเพื่อนสนิทของเขาไม่เคยเชื่อในสิ่งที่เขาพูดสักคำ

    กูคงเปลี่ยนความคิดของมึงไม่ได้เลยจริงๆสินะ  ใบหน้าขาวละจากคู่สนทนาไปที่จอภาพยนตร์ต่อ แต่สายตาคมกลับไม่ได้สนใจในสิ่งที่อยู่ในจอ ในสมองของเขาแทบจะประมวลเนื้อหาของการ์ตูนไม่รู้เรื่อง สายตาพล่าเบลอเพราะน้ำตาที่หยดออกมาจากเบ้า อ่าาาา ให้ตายเถอะ อย่าบอกนะว่าเขากำลังร้องไห้น่ะ

                หลังจากกออกมาจากโรงหนังยุนกิก็เอาแต่เงียบ ไม่ยอมพูดจากับร่างบางซักคำ อยากจะถามออกไปว่าเป็นอะไรรึเปล่า แต่ปากก็ไม่ยอมอ้า ไม่กล้าแม้แต่สบตา โถเอ้ย ทำไมเขาต้องแคร์ยุนกิขนาดนี้ด้วยวะ

    .....  ร่างขาวที่เดินนำหน้าร่างบางหยุดลงกะทันหัน ทำให้โฮซอกที่เดินตามมาชนเข้ากับหลังกว้างทันที ยุนกิจึงหันกลับมามองโฮซอกที่ยืนก้มหน้าอยู่

    คือกู....  โฮซอกเอ่ยปากออกมาเพียงเท่านี้ก่อนที่ยุนกิจะเดินจากเขาไปโดยที่เพื่อนสนิทคนนี้ยังไม่ทันได้พูดจบประโยคเลย

    ไรวะ  โฮซอกสบถออกมาเบาๆก่อนจะรีบวิ่งตามเพื่อนตัวขาวไป

    มึงเป็นไร  โฮซอกกระชากไหล่หนาๆที่กำลังจะสวมหนวกกันน็อคให้หันมาคุยกับเขาให้รู้เรื่อง

    เปล่า  เสียงทุ้มที่เปล่งออกมาจากริมฝีปากซีดเอ่ยพูดกับคนตรงหน้าหน้านิ่ง สายตาที่ไม่แสดงความรู้สึกใดๆถูกใช้มองมาที่ร่างบาง

    กูไม่เชื่อ”  ริมฝีปากสีเรื่อเอ่ยตอบเพื่อนรักทันควัน เด็กน้อยยังดูรู้เลยว่ายุนกิต้องไม่พอใจอะไรแน่ๆ

    แล้วมึงคิดว่ากูเป็นอะไรล่ะ  ยุนกิถามโฮซอกกลับแต่สีหน้าก็ยังคงนิ่งเฉยเช่นเดิม

    มึงโกรธ

    กูโกรธอะไร

    กู....  โฮซอกหยุดพูดแล้วคิด ยุนกิต้องโกรธจองกุกแน่ๆที่กวนเขา หรือว่าโกรธเรากันนะ แล้วจะโกรธเขาเรื่องอะไรกันล่ะ

    อะไร  ยุนกิพูดกับโฮซอกเบาๆ ให้ตายเถอะ เหมือนจะสนใจกันแท้ๆ แต่กลับไม่รู้เนี่ยนะว่าเขาโกรธอะไร

    กูก็ไม่รู้  โฮซอกตอบเสียงแผ่วพร้อมทั้งหลบสายตาคมจนคางชิดอก บ้าจริง ทำไมต้องกลัวสายตาไอ้บ้านี่ด้วย

    เหอะ”  ยุนกิถอนหายใจออกมาเบาๆ แต่มันก็ดังจนโฮซอกได้ยิน ใบหน้าหวานเงยขึ้นมาสบตากับร่างขาว สายตาซุกซนที่เปล่งประกายราวกับเพชรกำลังสำรวจเพื่อค้นหาคำตอบที่ซ่อนอยู่ในตาคม ริมฝีปากบางเรื่อเม้มเข้าหากันจนเป็นเส้นตรง ความประหม่ามีมากขึ้นจนทำให้เหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นมาตามกรอบหน้าและไรผม

                เหงื่อที่ผุดขึ้นมาจนเต็มใบหน้าหวานทำให้ร่างขาวต้องใช้มือยกขึ้นมาเกลี่ยให้ ฝ่ามือที่ลากผ่านกรอบหน้าค่อยๆไล่จากหน้าผากลงมาที่แก้มใส นิ้วโป้งค่อยๆลูบที่ริมฝีปากบางเพื่อให้คลายออก ดวงตาคมจ้องมองร่างกายตรงหน้าราวกับจะกลืนกิน

    มึง  เหมือนโฮซอกจะได้สติหลุดจากภวังค์ก่อนจึงเอ่ยปากส่งเสียงให้เพื่อนรักได้ยิน

    “!”  ยุนกิรีบปล่อยมือออกจากหน้าหวาน ใบหน้าขาวๆที่ซีดเหมือนกระดาษตอนนี้กลับมีสีแดงเรื่อๆมาแต่งแต้ม ยุนกิเอ้ย ทำไรลงไปวะเนี่ย

    สรุปว่ามึงเป็นไร  เมื่อสติสตังกลับมาครบแล้ว ปากเรียวก็เอ่ยถามเพื่อนอีกรอบในคำถามเดิมๆ

    กูไม่เป็นไรแล้ว กลับกันเถอะ  ยุนกิเฉไฉไม่ยอมตอบคำถามของเพื่อนสนิท มือขาวส่งหมวกกันน็อกให้กับร่างบาง ก่อนที่ทั้งคู่จะพากันออกไปจากที่จอดรถ

                ท้องถนนในเวลานี้มันช่างเงียบสงบ ก็เป็นเวลากว่าสี่ทุ่มแล้ว รถราให้เมืองก็ทยอยออกมาจากที่ทำงานจนหมด ถนนสายยาวจึงโล่งสบาย อากาศที่โอบรอบกายก็ไม่ได้หนาวเย็นมากอะไรนัก

    เอ่อ แต้งกิ้วเว้ยย  หลังจากที่มอไซค์จอดลงและดับสนิท  ร่างบางก็ส่งคืนหมวกให้กับร่างขาว

    กูไปนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้มารับ ห้ามสายนะมึง

    เออ รู้แล้วหน่า ขับรถกลับบ้านดีๆล่ะ   โฮซอกโบกมือลายุนกิทันทีที่รถขับเคลื่อนออกไป

                ถ้าถามว่าอยากจะเลื่อนฐานะจากเพื่อนเป็นคนรักมั๊ย ตอบได้คำเดียวว่าอยากมาก แต่ก็เพราะคำว่าเพื่อนมันค้ำคออยู่นี่แหละทำให้อะไรๆมันยากขึ้น ถ้าอีกคนไม่ได้เป็นเพื่อนเขาคงจะเข้าใจในทุกๆการกระทำที่เขาทำให้ไปแล้ว แต่ก็อย่างว่าโฮซอกเป็นคนโง่คงจะไม่รู้อะไรเลย ว่าเขาคิดเกินกว่าเพื่อนเกินไปไกลจนมันดึงกลับมาไม่ได้แล้ว

    เลิกคิดซักทีสิวะ   เสียงทุ้มต่ำสบถออกมาอย่างหัวเสีย มือขาววางรูปถ่ายของเพื่อนสนิทลงบนโต๊ะอย่างคนต้องการจะหนีอะไรบางอย่าง ก่อนจะเดินมาทิ้งตัวลงนอนบนเตียงหลังใหญ่ ตาตี่มองเพดานอย่างล่องลอย ความคิดและความรู้สึกของเขามันกำลังสวนทาง สมองและหัวใจกำลังโต้เถียงกันว่าจะทำอย่างไรดีกับปัญหาที่เขาเป็นคนก่อมันเอง

    บอกไปเลยตรงๆจะได้จบเรื่อง?

    หรือปล่อยให้มันเป็นอย่างนี้ต่อไปดี

     

                ไม่อยากจะคิดถึงเรื่องต่างๆที่ผ่านมาในวันนี้เลย แต่ทุกครั้งที่หลับตากลับเห็นใบหน้าขาวของเพื่อนสนิทลอยมาในความคิดอย่างช่วยไม่ได้ ความกลัวเริ่มก่อสูงขึ้นเรื่อยๆเมื่อคิดถึงคำพูดของเพื่อนตัวเล็กอีกคน

    มันชอบมึงเว้ย

                อยากจะสะบัดให้ความคิดบ้าบอนี้ออกไปจากหัวสมองซะที แต่ก็ทำไม่ได้ยิ่งคิดถึงเรื่องวันนี้ก็ยิ่งทำให้เขามั่นใจมากขึ้นว่าเพื่อนสนิทแอบชอบเขาจริงๆ

    จริงเหรอวะ

     


    มึง งานอาจารย์คังส่งวันไหนวะ”   คิม นัมจุนเดินเข้ามาในห้องก่อนจะนั่งลงในกลุ่มของเพื่อนๆ คำถามที่ส่งไปทำให้ยุนกิเงยหน้าขึ้นมองอย่างสงสัย

    งานไรวะ สั่งตอนไหน”   เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถามเพื่อนๆที่นั่งในกลุ่มจนแทฮยองต้องเงยหน้าจากโทรศัพท์ขึ้นมาตอบคำถามโง่ๆนี่เสียที

    ออกแบบแปลนบ้าน ส่งศุกร์นี้”   ร่างสูงว่าก่อนจะสนใจเจ้าเครื่องสื่อสารในมือต่อ ยุนกิมองหน้าโฮซอกงงๆ

    เหรอวะ”  

    เออดิ”  

     ...

    อย่าบอกนะว่ามึง...

    เออดิ กูยังไม่ทำ”   ยุนกิหน้าหงอยลงทันทีเมื่อรู้ว่าตัวเองกำลังประสบปัญหาใหญ่

    ชิบ”   เสียงแหบอุทานออกมาเบาๆเพราะไม่คิดว่าเพื่อนสนิทของเขาจะดินพอกหางหมูได้ขนาดนี้

    มึงเสร็จแล้ว?”   ร่างขาวสว่างเอ่ยถามเพื่อนหน้าหวานที่นั่งมองหน้าเขาด้วยแววตาเห็นอกเห็นใจ

    ใช่ ทำไม”   ตอบคำถามพร้อมกับเหล่ตามองอย่างสงสัย

    ช่วยกูหน่อยดิ
    (70%)


    ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ valentine day



    Happy Valentine Day ค่าาาาาาาาาาาา เป็นยังไงกันบ้างเอ่ย ลืมไรท์กันรึยัง วันนี้ไรท์มาอัพ OS ต้อนรับวาเลนไทน์กันค่ะ และคู่ที่ไรท์เลือกมาวันนี้ก็คือ Sope นั่นเองค่าาาาา //ปรบมือเปาะแปะ
    เรื่องนี้ไรท์จะมาแนวใสๆ แบบว่าความรักของเพื่อนอ่ะค่ะ ใครชอบแนวนี้อ่านกันฟินเลยยยยย ขอพูดถึงชีวิตตัวเองหน่อยได้ไหม ....คือช่วงนี้ไรท์ใกล้สอบแล้วค่ะ อาทิตย์หน้าไรท์ก็สอบ final แล้ว ไรท์กราบขอโทษจริงๆเลยนะคะที่ไรท์หายไปนาน คืองี้เว้ย คอมไรท์พัง55555 เนี่ยหลังจากซ่อมเสร็จก็เพิ่งได้จับคอมเอง รู้สึกว่าตัวเองไม่ไได้จับคอมมานานมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก อิอิอิ ไรท์คิดว่าหลังสอบเสร็จไรท์น่าจะมาอัพให้ลีดทุกคนได้อ่านน้าาาาาา ไรท์คิดไว้ว่าจะอัพเรื่องหลักก่อนแล้วค่อยมาทยอยอัพเรื่องสั้นที่ยังไม่จบ //ซึ่งน้อยมากกกกก5555 ค่ะ แล้วไรท์ก็คิดว่าน่าจะลงเรื่องใหม่เพิ่ม นั่นคืนแพลนที่ไรท์ตั้งไว้น้าาาา แต่ไม่รู้จะทำสำเร็จรึเปล่า
    โอเค ไรท์ก็บ่นมาเยอะะะะะะะะะะแล้ว วันวาเลนไทน์นี้ก็ขอให้ทุกคนมีความสุขมากๆนะคะ ใช้เวลากับคนที่เรารักให้เต็มที่ ให้คุ้มค่าค่ะ แล้วเราก็จะมีความสุขเอง นั่นคือสิ่งที่ไรท์เชื่อน้าาาา ใครที่แอบรักอยู่ไม่กล้าไปคุยไม่กล้าไปทัก ก็อย่าเพิ่งท้อนะคะ ไรท์เชื่อว่าสักวันเขาจะมองเห็นความใส่ใจที่เรามีให้เขานั่แหละค่ะ เอาจริงๆ ถ้ามันไม่หันมาสนใจเราสักที่ เราเดินเข้าไปอ่อยเลยยยย //เห้ย! ไม่ใช่ล่ะ55555
    ก่อนไปก็มีความสุขกันมากๆน้าาาาค้าาาาาา ไปล้าาาา จุ๊ฟฟๆ แฮร่!
    ปล. เม้นเป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยน้าาาาาา //กราบงามๆ



    Related image

    B
    E
    R
    L
    I
    N
    >
     สุขสันต์วันเกิดนะคะพี่กิ 
    โปรดติดตามรออีก 30% ด้วยนะคะ เพราะเราจะกลับมาพร้อมกับเอ็นซี! เย้ๆๆ
    ฝากอ่านและคอมเม้นให้ไรท์ด้วยค้าาาา
    คิดดถึงทุกคนน้าาาาา จุ๊ฟฟๆ แฮร่!!


    Cute Spinning Flower Pink
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×