อลวนวุ่นรักแม่สื่อ
นี้เป็นตัวอย่างความอลวนจะเป็นยังไงถ้าเค้าหลงรักแม่สื่อของตัวเองแล้วจะเป็นยังไงต่อถ้าเธอเองก็หลงรักเค้าเหมือนกันแล้วยังจะเพื่อนเค้าอีกที่หลงรักเธอแถมเธอยังจะอาสาเป็นแม่สื่อให้กับเพื่อนเค้าอีก
ผู้เข้าชมรวม
221
ผู้เข้าชมเดือนนี้
0
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ฉันรักมัน แกได้ยินไหม? ทำไมมันถึงไม่รักฉัน ทำไมต้องบอกว่าเป็นได้แค่เพื่อน ทั้งๆที่ผ่านมามันทำทุกอย่างให้ฉันดูแลฉันมากกว่าเพื่อนคนไหนๆ มันหาว่าฉันคิดไปเอง มันไม่เคยคิดอะไรกับฉันเลยไม่คิดเลยได้ยินไหม? ฮือๆ แกเข้าใจไหมเอม แกก็คิดเหมือนฉันใช่ไหมว่ามันดูแลฉันเหมือนแฟนไม่ใช่เพื่อน ฮือๆ มันทำเหมือนฉันเป็นแฟน มันทำแบบนี้ได้ยังไงหา ทำได้ยังไง?
เอมอรนักศึกษาคณะพยาบาลศาสตร์มหาวิทยาลัยชื่อดังนั่งฟังเพื่อนต่างคณะซึ่งเรียนจบชั้นมัธยมมาด้วยกันร้องไห้คร่ำครวญหลังจากอกหักเพราะหลงรักเพื่อนที่เรียนจบมัธยมมาด้วยกัน
ฉันเข้าใจว่าแกรักมันแต่แกจะไปบังคับให้มันคิดกับแกเหมือนที่แกคิดกับมันไม่ได้หรอก แกต้องเลิกคิดเลิกรักมันซะ แกจะไปกลัวอะไรหน้าตาแกก็สวย เอมอรจับหน้าเพื่อนหันซ้ายขวาไปมา
หุ่นก็ดี ผิวก็ขาวเรียนก็เก่งมีตรงไหนไม่น่าสนใจ หัดมองคนอื่นๆ ที่มาจีบแกบ้างสิ ยังไงศาลก็ไม่มีวันเปลี่ยนใจมาคิดกับแกมากกว่าเพื่อนอยู่แล้ว เราเป็นเพื่อนกันนะนิสัยชอบดูแลคนอื่นของศาลแกก็น่าจะรู้ ฉันเคยเตือนแกแล้วว่าอย่าปล่อยใจไปหลงรักมัน เอมอรโพล่งออกมาบ้างอย่างเหลืออดหลังจากจากนั่งฟังเปิ้ลหรือวิไลลักษณ์คร่ำครวญมานาน
เธอและเพื่อนประมาณสิบคนสอบผ่านเข้ามาเรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งนี่ เพราะมาจากโรงเรียนประจำ เพื่อนๆในกลุ่มจึงรักและสนิทสนมเป็นพิเศษ ทั้งเพื่อนหญิงและชาย พิศาลเป็นหนุ่มหล่อนิสัยดี คอยดูและเอาใจใส่เพื่อนทุกคน โดยเฉพาะเพื่อนผู้หญิงและเพราะนิสัยดูแลเพื่อนไม่ต่างจากดูแลคนพิเศษ ทำให้วิไลลักษณ์เข้าใจผิดคิดว่าพิศาลมีใจให้กับตัวเอง เธอมองออกมาตลอดว่าวิไลลักษณ์หลงรักพิศาลมาตั้งแต่เรียนจบมัธยม แต่ไม่คิดว่าวันนี้จะต้องมานั่งฟังเพื่อนร้องไห้คร่ำครวญเพราะรักไม่สมหวังเร็วกว่าที่คิดเอาไว้เพราะบางครั้งก็อดคิดไม่ได้ว่า พิศาลเองอาจจะมีใจให้วิไลลักษณ์อยู่บ้าง
เครียดเลยเธอพึมพำเบาๆ สีหน้ายุ่งยากใจก่อนจะบอกเพื่อนว่า แกทำใจนะ คร่ำครวญไปก็เท่านั้น นอนได้แล้ว พรุ่งนี้จะสอบแล้ว ฉันก็จะนอนเหมือนกัน ปากบอกให้เพื่อนนอน แต่ตัวเธอเองคิดไม่ออกว่าคืนนี้จะนอนหลับลงได้ยังไง พรุ่งนี้เป็นวันสอบวันสุดท้ายของชั้นปีที่ 2 ความรู้ที่จะสอบน่ะพอมี แต่จะเอาสมาธิที่ไหนไปสอบล่ะ เพราะนายคนเดียวนาย
โชคดีที่วันนี้เหลือสอบแค่วิชาเดียว และข้อสอบไม่ได้ยากอะไรนักเอมอรทำข้อสอบได้สบายๆเธอตั้งใจว่าพรุ่งนี้จะกลับบ้านแต่เช้าไม่อยู่เจอเพื่อนๆในกลุ่มอีก ปิดเทอม 1 เดือนเต็มๆ คงทำให้อะไรๆ ดีขึ้นเธอคิดว่าคงจะดีกว่า ถ้าเลือกที่จะปิดเรื่องที่พิศาลบอกว่า เขารักเธอไว้เป็นความลับ เธอยังไม่อยากเสียเพื่อนไปไม่ว่าจะเป็นพิศาลหรือวิไลลักษณ์แต่ยังคิดไม่ออกว่าจะจัดการยังไงกับความรักครั้งนี้ดี มาเกิดเรื่องนี้หนึ่งวันก่อนปิดเทอมถือว่าเป็นเรื่องที่โชคดีแล้วอย่างน้อยก็ยังมีเวลาให้ได้คิดได้ตัดสินใจบางทีเวลาก็อาจจะทำให้อะไรๆดีขึ้น ปัญหาบางปัญหาคลี่คลายได้ด้วยเวลา เวลาหนึ่งเดือนอาจทำให้วิไลลักษณ์ลืมความเจ็บปวดได้มากขึ้นมีเหตุผลมากขึ้นเข้าใจพิศาลมากขึ้น พิศาลเองก็อาจจะเลิกคิดกับเธอแบบนั้น หรือบางทีเธอเองอาจเปลี่ยนใจหันมาพิจารณาพิศาลดูใหม่ก็ได้ใครจะไปรู้
เอม เอม เสียงเรียกของเพื่อนชายคนสนิทที่วิ่งตามเธอมา ทำให้เธอต้องหันกลับไปมองชายหรือศักดิ์ชาย เพื่อนสนิทในกลุ่มอีกคน เป็นหนุ่มหล่อสูงยาวเข่าดีเรียนคณะวิศวะเช่นเดียวกันกับพิศาลเอมอรสนิทกับศักดิ์ชายเป็นพิเศษ เพราะเค้าชอบพอกับเพื่อนสนิทของเธอตั้งแต่เรียนมัธยม
ฮือ! มีอะไรจะรีบไปเก็บของกลับบ้าน ไม่กลับบ้านเหรอ สอบเสร็จหรือยัง เธอถามแบบไม่ได้สนใจฟังคำตอบมากนัก
เรียกตั้งนานสติลอยไปไหนแล้วละกว่าจะได้ยินเล่นเอาสะหอบเลย ศักดิ์ชายต่อว่าเธอไม่จริงจังนัก
ว่าไง?เอมอรถาม
ว่าไงเรื่องอะไร เค้าถามงงๆ
อ้าวก็ที่ถามไปเมื่อตะกี้ไง
อ้อ! เดี๋ยวนะขอหอบให้เสร็จก่อน แฮก! แฮก! เค้าทำท่าลิ้นห้อยประกอบไปด้วยเพื่อให้กันจริงๆว่าหอบของจริง ทำให้เอมอรอดยิ้มและหัวเราะออกมาไม่ได้
ในสายตาของเธอชายหรือศักดิ์ชายเป็นคนน่ารักเสมอ น่ารักโรแมนติกเสมอต้นเสมอปลายจนบางครั้งเธอยังรู้สึกว่าแอ้มหรืออกนิชเพื่อนสนิทอีกคนของเธอน่าอิจฉาที่สุด สี่ปีแล้วที่ทั้งคู่คบหากันเค้าก็ยังรักและเอาใจใส่เพื่อนเธอเป็นอย่างดีทั้งๆที่ไม่ได้เรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยเดียวกัน
ชายนี้เพี้ยนจริง อายคนอื่นเค้าบางสิ พูดเสร็จเธออดหันไปมองรอบไม่ได้ หลายๆคนหันมามองยิ้มๆ
สอบเสร็จแล้วแต่ยังไม่อยากกลับบ้านนัดกับพวกนั้นไว้จะไปเที่ยวคืนนี้ ไม่ไปด้วยกันเหรอ?
พวกนั้นที่ว่าก็คงมีวิไลลักษณ์และพิศาลอยู่ด้วยเอมอรส่ายหน้า ไม่ดีกว่าอยากกลับบ้านเร็วๆคิดถึงแม่แล้ว
เออน่า แม่ไม่หนีไปไหนหรอกเอมไม่ได้เจอกันเดือนนึงเชียวนะไปสนุกกันก่อน จะได้คลายเครียดด้วย เทอมหน้าเอมต้องขึ้นฝึกในโรงพยาบาลแล้วไม่ใช่เหรอ ผมก็เรียนหนัก เจอกันยากนะ
เจอกันยากอยู่แล้วถ้าไม่ตั้งใจจะเจอเธอคิดในใจ
มันก็จริงนะ แต่ว่า เอมอรเริ่มลังเล
นะเอมไปเหอะไม่ต้องมีแต่นานๆเที่ยวทีไปกันให้ครบๆนะ
ตายละหว่า! ถ้าไปแล้วคืนนี้เกิดสองคนนั้นเธอนึกไปถึงพิศาลและวิไลลักษณ์ไปเจอกันแล้วเมาทั้งคู่แล้วเกิดเรื่องที่พิศาลแอบรักเธอแดงขึ้นมาวิไลลักษณ์จะเป็นยังไงมีหวังงานเข้าแน่ๆถึงเวลานั้นเธอจะทำยังไงจะเลือกอยู่ฝ่ายไหนเลือกอยู่ข้างวิไลลักษณ์คิดแล้ววิไลลักษณ์ก็คงไม่เต็มใจตอนรับเธอเท่าไหร่ถ้าเลือกอยู่ข้างพิศาลก็เหมือนทำร้ายเพื่อนและอาจทำให้พิศาลคิดเข้าข้างตัวเองว่าเธอก็โอเคไปกับเค้าด้วยโอ้ย!เครียดว่าแต่เธอไม่ได้ไปเชียร์มวยสะหน่อยทำไมต้องเลือกฝ่ายเลือกข้างด้วยยังไงเธอก็ไม่เกี่ยวกะสองคนนั้นอยู่แล้วใครจะรักใครก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเธอสักหน่อยเธอไม่ได้ไปบังคับใจใคร คิดอย่างเอาตัวรอดไว้ก่อน
ไปก็ได้ เธอรับปากแบบไม่ค่อยเต็มใจนัก
พรุ่งนี้กลับบ้านพร้อมกันนะผมไปส่งเอมเอง ศักดิ์ชายอาสาอย่างใจดี
ศักดิ์ชายใจดีกับเธอเสมอ จะไม่ให้ใจดีได้ไงละก็เธอเคยเป็นแม่สื่อที่แสนดีให้เค้าได้คบกับเพื่อนสนิทของเธอตั้งแต่สมัยมัธยม แถมเป็นแม่สื่อไปเจ็บใจตัวเองไปทำไมเค้าไม่สนใจฉันทำไมต้องมาขอให้ฉันเป็นแม่สื่อด้วย ฉันก็ออกจะสวยไม่น้อยไปกว่ายัยแอ้ม ออกจะผอมบางตาโตจมูกโด่งผิวเนียนสีน้ำผึ้ง ยัยแอ้มแค่ขาวกว่าหน่อยเดียวเอง ถ้าเพียงแค่เค้าสนใจเธอบางในตอนนั้นเธอยินดีจะไปกัดสีผิวเปลี่ยนสีขนให้ขาวขึ้นเพื่อให้ตรงสเป็กเค้าให้มากที่สุด อิจฉา ว้อย! แต่ด้วยความดีงามของเธอในตอนนั้นเธอเลือกที่จะเห็นแก่ความรักของเพื่อนสองคนอดทนเป็นแม่สื่อที่ดีให้ต่อไป เอ๋! คิดเข้าข้างตัวเองไปรึปล่าวหว่า? แต่ไม่หรอกเธอเป็นแบบนั้นจริงๆไม่งั้นเธอคงจีบเค้าไปนานแล้วเอมอรคิดในใจ
เฮย! กลับมาคิดอะไรอยู่ ศักดิ์ชายถามเมื่อเห็นเอมอรเงียบไปพร้อมกับทำหน้าแปลกๆ
อะไร?
ก็เห็นเงียบไปแค่บอกว่าจะแวะไปส่งที่บ้านไม่ต้องตื้นตันจนพูดไม่ออกก็ได้
อือ ขอบใจว่าแต่เห็นศาลบ้างไหมวันนี้เอมอรอดถามถึงพิศาลไม่ได้ ไม่ว่ายังไงเธอก็ยังเป็นห่วงความรู้สึกของเพื่อนคนนี้เสมอ
เจอสิ เจอกันในห้องสอบเมื่อกี้นี้เอง ผมเก่งทำข้อสอบเสร็จก่อนเลยออกมาก่อน เค้าพูดพร้อมทำท่าทางภูมิใจในตัวเองเต็มที่
เหรอ..เก่งนักละเรื่องเข้าข้างตัวเอง เอมอรมองเค้าอย่างหมั่นไส้ก่อนจะถามถึงพิศาลต่อ
ศาลเป็น? ไงบ้าง
จะให้เป็นไงละก็คงต้องอกหักถ้าเอมไม่ตอบตกลง เห็นว่าคืนนี้จะขอเมาให้หายบ้าศักดิ์ชายพูดติดตลกเพราะต้องการแหย่เธอมากกว่าจริงจัง
อ้าว! แล้วยังจะชวนฉันไปทำไมหา? เอมอรเสียงเขียวหันมาถามเค้าอย่างเอาเรื่อง
ไม่ตลกด้วยไม่ต้องมายิ้ม
ก็เผื่อเอมจะเห็นใจมันบ้าง มันหลงรักเอมมานานแล้วนะแต่เอมมีแฟนอยู่แล้วมันเลยไม่กล้าจีบ
มีแฟนอยู่แล้ว?เอมอรพูดเบาๆไม่กล้าบอกว่าอันที่จริงเธอยังไม่เคยมีฟงแฟนอะไรกะใครเค้าหรอกแต่เห็นคนอื่นๆมีแฟนกันหมดจะให้เธอไม่มีอยู่คนเดียวก็กะไรอยู่ลืมไปแล้วนะเนี่ยว่าเคยบอกคนอื่นๆว่าตัวเองมีแฟนแล้วไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามีคนหลงเชื่อเธอแบบจริงจัง
ใช่เพราะเอมมีแฟนอยู่แล้วมันเลยไม่กล้าจีบเค้ามองสีหน้ายุ่งยากใจของเอมอรอย่างแปลกใจ
ก็เอมบอกเองนี้ว่ามีแฟนอยู่แล้วรักกันมากเรียนจบจะแต่งทันทีไม่ใช่เหรอ แต่ว่าไปผมยังไม่เคยเจอแฟนเอมเลยนะ ยังคบกันอยู่ไหมหรือว่าเลิกกันแล้วเค้าถามจริงจังเพราะตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมาเค้าไม่เคยเห็นแฟนเอมอรเลยสักครั้งเท่าที่จำได้เอมอรไม่ได้พูดถึงแฟนตัวเองมานานแล้ว
ตายละโดนจับได้แน่เลยเธอคิดก่อนหันไปยิ้มแหยๆให้เพื่อนท่าทางต้องบอกความจริงกับเค้าเป็นคนแรก
คือ...อันที่จริงเอมยังไม่เคยมีแฟนเลยเกือบลืมไปแล้วด้วยว่าเคยกุเรื่องนี้ไว้ อายจังเอมอรสารภาพอายๆ
คิดไว้แล้วเชียว เค้าพูดเหมือนเจ็บใจที่โดนเธอหลอกก่อนจะหัวเราะขำ
สงสารศาลมันเนอะแอบชอบมานานไม่กล้าจีบเพราะคิดว่าเค้ามีแฟนอยู่แล้ว ตลกอ่ะคิดได้ไงโกหกคนอื่นว่ามีแฟนอยู่แล้ว
ตลกพอรึยังเธอถามเค้าเคืองๆ
คิดไงถึงได้บอกคนอื่นว่ามีแฟนอยู่แล้ว? เค้าถามจริงจัง
ก็คนอื่นเค้ามีแฟนกันหมด เธอตอบอายๆ
เลยอาย เค้าเสริมให้
เธอพยักหน้า
ก็เลยอดมีแฟนจริงๆเพราะไม่มีใครจีบน่าสงสารตอนมัธยมมีคนชอบเอมตั้งหลายคนหนึ่งในนั้นก็คือศาล
เมื่อกี้ว่าไงนะ ศาลแอบชอบเอมตั้งแต่มัธยมแล้วงั้นเหรอ ทำไมเอมไม่รู้เลยละเอมอรงง ก็ไม่เคยเห็นพิศาลจะแสดงอะไรออกมาให้เธอเห็นเป็นพิเศษ
ไม่งั้นเค้าจะเรียกว่าแอบชอบเหรอ
เออจริง ถ้าไม่แอบเธอคงรู้ไปแล้ว
เอมอรลังเลเล็กน้อยก่อนจะถามเรื่องวิไลลักษณ์ออกไป ชายรู้เรื่องเปิ้ลหรือยัง?
รู้แล้ว ศาลเล่าให้ฟังเมื่อคืนนี้ มันก็สงสารเปิ้ลเหมือนกันแต่ว่าใจมันไม่ได้คิดจะให้ลองคบดูก็กลัวจะเสียใจมากกว่าเดิมถ้ามันเกิดเปลี่ยนใจให้รักเปิ้ลไม่ได้
นั้นนะสิถ้าไม่เคยคิดอะไรด้วยเลยฝืนคบกันไปก็อาจเปลี่ยนใจให้เกินกว่าเพื่อนไม่ได้ก็จะยิ่งเสียใจ เสียความรู้สึก เสียเวลา เสียเพื่อน เสียอะไรต่อมิอะไรหลายอย่าง บางทีพิศาลอาจตัดสินใจได้ถูกต้องแล้วที่ไม่ฝืนคบกับวิไลลักษณ์
เอมอรอดกังวลเรื่องตัวเองไม่ได้ถ้าเกิดว่าวิไลลักษณ์รู้ว่าเหตุผลสำคัญที่พิศาลไม่ได้คิดอะไรกับตัวเองและไม่คิดจะลองคบหาดูใจเป็นเพราะพิศาลชอบเธออยู่จะเกิดอะไรขึ้นกับเธอ
ถ้าเปิ้ลรู้ว่าศาลชอบเอมนะมีหวัง...ไม่อยากคิดเลยหวาดเสียว เอมอรและศักดิ์ชายทำหน้าหวาดเสียวด้วยกันทั้งคู่เพราะเป็นเพื่อกันสนิทกันมานานทำให้ทั้งสองคนรู้ดีว่าวิไลลักษณ์อารมณ์ร้อนและร้ายขนาดไหน ผู้หญิงคนไหนเข้าใกล้พิศาลเป็นอันต้องกระเจิงเพราะเธอประกาศความเป็นเจ้าของสุดฤทธิ์ พิศาลอย่าได้ให้ความสำคัญกับผู้หญิงคนไหนเป็นมีเรื่องทุกรายไป บางครั้งเพื่อนๆในกลุ่มยังโดนหางเลขไปด้วยเลย เวลาพิศาลอยู่ใกล้ใครหรือดูแลใครเป็นพิเศษต่อหน้าต่อตาเธอ
ยุวดีเพื่อนสนิทอีกคนในกลุ่มมักจะพูดเล่นกับพิศาลเสมอว่า ให้ช่วยไปอยู่ไกลๆเลยกลัวยัยเปิ้ลจะกินตับ เอมอรเองก็เกรงใจบวกกับไม่อยากรำคาญ ไม่ว่าจะไปไหนด้วยกันเธอมักจะขออยู่ห่างๆพิศาลเข้าไว้ มันคงถึงเวลาที่พิศาลทนอึดอัดต่อไปไม่ไหวถึงได้ตัดสินใจบอกกับวิไลลักษณ์ไปตรงๆแบบนั้น
เปิ้ลสอบเสร็จหรือยังเอมรู้ไหม?
น่าจะเสร็จแล้วละเหลือสอบวิชาเดียวเหมือนกัน เอมอรก้มดูนาฬิกาข้อมือตัวเอง สิบเอ็ดโมงแล้วน่าจะสอบเสร็จพร้อมๆกันตอนนี้วิไลลักษณ์อาจกลับไปนั่งร้องไห้อยู่ที่หอพักแล้วก็ได้
ไปหาเปิ้ลกันไหม?
ไปสิยากเจออยู่เหมือนกันจะได้ช่วยกันซ้ำเติม เอ้ย! ช่วยกันปลอบ ศักดิ์ชายเห็นใจเพื่อนทั้งสองคนไม่น้อย เค้ารู้ว่าทั้งสองต่างก็เสียใจด้วยกันทั้งคู่ แต่บางครั้งเค้าก็อดรู้สึกรำคาญและหงุดหงิดกับท่าทางแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของแบบเกินเหตุของวิไลลักษณ์ที่แสดงออกมาไม่ได้ไม่รู้พิศาลทนอยู่ได้ยังไงตั้งนานสองนาน ส่วนพิศาลเองก็ทำไม่ถูกที่ไม่เคยแสดงออกว่ารำคาญหรือไม่พอใจให้วิไลลักษณ์ได้รู้ทำให้เธอเข้าใจผิดกันไปใหญ่
หลังสอบเสร็จวิไลลักษณ์ นั่งรอเพื่อนๆกลุ่มเดิมอยู่ที่โต๊ะประจำ ตาสองข้างยังบวมช้ำร่องรอยความเสียใจยังปรากฏชัดเจนบนใบหน้า เธอร้องๆและร้องจนแทบจะไม่มีน้ำตาให้ไหล เธอไม่เข้าใจและไม่อยากเข้าใจที่พิศาลพูด ผมคิดกับเปิ้ลแค่เพื่อน ผมอึดอัดที่ทุกวันนี้เปิ้ลทำเหมือนเป็นเจ้าของผม รู้ไหมไม่มีผู้หญิงคนไหนเค้ากล้าคุยกับผมอยู่แล้ว เราเป็นแค่เพื่อนกันผมไม่เคยคิดอะไรกับเปิ้ลเลย เลิกยุ่งกับผม เลิกทำตัวเป็นแฟนผมได้แล้วเข้าใจไหม?
เธอสะบัดศีรษะแรงๆ เพื่อไล่ความรู้สึกแย่ๆ และไล่เสียงของพิศาลที่ยังก้องอยู่ในหัวเธอออกไป ไม่รู้ว่าวันนี้เธอจะเริ่มต้นพูดคุยกับเพื่อนๆ ว่ายังไง จะมองหน้าคนอื่นๆ ยังไง มันทั้งอาย ทั้งโกรธ ทั้งเสียใจ ไม่เข้าใจ หลากหลายอารมณ์ปนกันไปหมด
เปิ้ล เสียงศักดิ์ชายเรียกเมื่อเห็นเพื่อนนั่งซึมอยู่คนเดียว
ชาย ทันทีที่วิไลลักษณ์ได้เจอเค้า เธอโผเข้าไปกอดเค้าไว้ ร้องไห้สะอึกสะอื้นเธออยากให้เพื่อนๆทุกคนเข้าใจเธอเข้าข้างเธอ
ศักดิ์ชายปล่อยให้เพื่อนกอดและร้องไห้จนพอใจ ก่อนจะดันตัววิไลลักษณ์ออกเมื่อเห็นว่าเธอเริ่มสงบลง แล้วเลือกนั่งฝั่งตรงข้ามใกล้เอมอร เค้าสงสารและเห็นใจวิไลลักษณ์ไม่น้อยแต่ก็เข้าใจพิศาลดี ว่าเค้าลำบากใจแค่ไหนที่เรื่องทุกอย่างลงเอยแบบนี้
เอมอรมองเพื่อนนั่งร้องไห้อย่างเห็นใจ
ผ่านไปครึ่งชั่วโมง เพื่อนๆ มารวมกลุ่มกันเกือบครบ ขาดพิศาลอยู่คนเดียว เทวัญนักศึกษาคณะแพทยศาสตร์นั่งมองวิไลลักษณ์ไปส่ายหน้าไป ในขณะที่น้ำหรือรพีภัทร หนุ่มหล่อประจำกลุ่มนั่งลูบหัวเพื่อนอย่างเห็นอกเห็นใจ
เติมศักดิ์หนุ่มอยากจะหล่อ และเก็กหล่อได้ตลอดเวลานั่งมองเพื่อนด้วยความเห็นใจ รพีภัทรและเติมศักดิ์เรียนคณะวิทยาศาสตร์เช่นเดียวกับวิไลลักษณ์ ทั้ง 2 คนเคยเตือนพิศาลอยู่หลายๆ ครั้งว่าถ้าไม่ชอบให้เลิกปล่อยตามใจวิไลลักษณ์ตั้งแต่ช่วงแรกๆ ที่เธอแสดงท่าทีชอบพิศาลอย่างจริงจัง ทั้ง 2 หนุ่มจึงออกอาการเซ็งๆ เล็กน้อยที่พิศาลปล่อยเวลาให้ล่วงเลยมาถึง 2 ปี ทั้งๆ ที่ดูแล้วไม่เห็นมีเหตุผลอะไรที่จะปล่อยไว้นานขนาดนั้น
พิศาลมาเป็นคนสุดท้ายของกลุ่ม เค้ายิ้มแห้งๆหน้าตาไม่สดชื่นนั่งลงใกล้ๆ เอมอร แล้วกระซิบถามเป็นไง
เอมอรหันมาทำตาเขียวใส่ เป็นไงเรื่องอะไร ถ้าเรื่องเปิ้ล ก็ดูผลงานตัวเองได้เลย นั่งอยู่ตรงหน้า ส่วนเรื่องอื่นยังไม่อยากคิดไม่อยากพูดตอนนี้ เธอกระซิบตอบเสียงแข็ง
โอเค พิศาลยกมือเหมือนยอมแพ้
ออกไปเลยนะ เปิ้ลไม่อยากเห็นหน้าศาล เกลียดที่สุดเลย คนใจร้ายใจดำ ฮือๆ ไม่พูดเปล่า วิไลลักษณ์ชี้ไม้ชี้มือให้พิศาลออกไปนอกกลุ่ม
ทำไมต้องทำกับเปิ้ลแบบนี้ ทำไมไม่บอกตั้งแต่แรก ศาลล้อเปิ้ลเล่นใช่ไหม ไม่จริงใช่ไหมเปิ้ลรักศาลนะรักมากด้วยศาลใจร้าย คนใจร้ายคอยดูนะศาลจะต้องเสียใจที่ทำกับเปิ้ลแบบนี้ เธอร้องไห้ไปพูดไป
เอมอรได้แต่คิดในใจว่า ท่าทางตัวเองจะเดือดร้อนไม่น้อย ถ้าวิไลลักษณ์รู้เรื่องที่พิศาลมีใจให้กับเธอเพราะท่าทาง วิไลลักษณ์จะทั้งรักทั้งแค้นยังไงไม่รู้เดี๋ยวบอกรักเดี๋ยวบอกเกลียดสงสัยโปรแกรมเที่ยวคืนนี้คงต้องยกเลิกกะทันหันแน่ๆ ดูอารมณ์แล้ววิไลลักษณ์ยังโกรธแค้นพิศาลไม่หายแถมดูเหมือนรักนี้กลายเป็นรักในรอยแค้นสะแล้ว
ใจเย็นๆเทวัญหนุ่มมาดขรึมที่สุดในกลุ่มพูดขึ้น เทวัญเป็นนักศึกษาคณะแพทย์คนเดียวของกลุ่ม
ปกติทุกคนในกลุ่มมักจะฟังและเกรงใจเทวัญเสมอเพราะ เป็นหนุ่มมาดขรึม เรียนเก่ง เอาจริงเอาจังกับทุกเรื่อง แถมยังเป็นที่พึ่งพาของเพื่อนในเรื่องเรียนตั้งแต่มัธยม จึงไม่แปลกที่วิไลลักษณ์จะหยุดร้องโวยวาย หันมามองทุกคนด้วยสายตาตัดพ้อแทน
มีสติหน่อยได้ไหม โวยวายเป็นเด็กๆ ไปได้ โตแล้วนะ จะให้ไปบังคับบีบคอให้คนอื่นมารักมาชอบมันได้ที่ไหน ถอยออกมาตั้งหลัก ออกมารักตัวเอง ออกมามองคนอื่น หรือมองศาลมันอย่างเป็นธรรมบ้าง มันก็ไม่อยากเห็นใครเสียใจหรอก ไม่งั้นมันคงไม่ปล่อยให้คุณแสดงความเป็นเจ้าของได้จนเกือบ 2 ปีหรอกนะ ถามมันสิว่ามันอึดอัดแค่ไหน จะบอกจะพูดอะไรก็กลัวว่าเพื่อนจะเสียใจ
วิไลลักษณ์นิ่งฟังเทวัญ เธอหันไปมองพิศาลเห็นเค้ามองเธออยู่แล้ว ถึงคราวที่พิศาลต้องพูดบ้าง
เปิ้ลไม่เคยเปิดโอกาสให้ผมได้พูด คิดเองเออองฝ่ายเดียวตลอด ผมรู้ว่าผมผิด ผิดที่ปล่อยให้เวลาล่วงเลยมานาน ผิดที่ไม่กล้าพูดตรงๆ กับเปิ้ลตั้งแต่แรก ผมเคยคิดว่าสักวันผมอาจเปลี่ยนมาชอบเปิ้ลบ้าง แต่ผมทำไม่ได้ เพราะผม...
พิศาลหยุดคำพูดไว้แค่นั้น เค้าหันมามองเอมอรเหมือนจะอยากพูดอะไรบางอย่าง ทำเอาเธอหัวใจแทบจะหยุดเต้น ภาวนาให้พิศาลหยุดไว้แค่นั้น อย่าได้พูดอะไรออกมาอีกเลย เธอไม่อยากให้ทุกอย่างมันแย่ไปกว่านี้ ดูเหมือนพิศาลจะเข้าใจความคิดของเธอดี เค้าถึงหยุดไว้แค่นั้น
เธอยิ้มให้พิศาลอย่างขอบคุณที่ไม่บอกรักเธอท่ามกลางบรรยากาศที่แสนอึดอัดแบบนี้ เอมอรได้แต้คิดว่า ไม่ว่ายังไงเทวัญก็มักจะพูดอะไรได้ตรงใจหลายๆ คนเสมอ เธอแอบยกนิ้วโป้งให้เพื่อนที่พูดได้ตรงใจ
ไงละคราวนี้ถึงเวลาเงียบ เงียบซะหน้ากลัว น่าเบื่อ แม้แต่วิไลลักษณ์เองยังร้องไห้แบบเก็บเสียงก็เป็น ผ่านไปกี่นาที กี่ชั่วโมง ไม่รู้ รู้แต่ว่ามันเหมือนนานมากๆที่ไม่ใครอยากจะพูดอะไร
เอาล่ะ ศักดิ์หรือเติมศักดิ์หนุ่มขี้เก็กของเราพูดขึ้น เมื่อเห็นว่าไม่ควรเสียเวลาไปกับความเงียบที่น่าอึดอัดอีกแล้ว ตกลงคืนนี้จะไปเที่ยวกันหรือเปล่า ไม่งั้นผมจะขอตัวไปจีบสาวต่อ
ทุกคนแทบจะถอนหายใจออกมาพร้อมกัน ต้องขอบคุณเติมศักดิ์ที่ช่วยพูดอะไรออกมาบ้าง จะได้หายอึดอัดซะที
อย่างนายใครเค้าหลงผิดยอมให้จีบย๊ะ ไอ้ขี้เหร่ ยุวดีพูดก่อนหันมามองค้อนเพื่อนอย่างหมั่นไส้
นั่นแหละจึงมีเสียงหัวเราะออกมาบ้าง แม้จะไม่สดใสนัก ยุวดีกับเติมศักดิ์เป็นไม้เบื่อไม้เมาขัดกันตลอดมาแต่ไหนแต่ไร สองคนนี้เจอกันก็ชวนทะเลาะกันได้ทุกเมื่อ ไม่รู้ไปโกรธแค้นอะไรกันมา
ตัวเองสวยตายล่ะ แม่นางงาม นางสาวไทย เติมศักดิ์หันมากัดยุวดี
พอๆ เอมอรรีบห้ามทับก่อนที่ทั้งสองคนจะเริ่มเปิดศึกน้ำลาย
เอมว่าถามเปิ้ลดีกว่าไหม อยากไปรึเปล่า ไปนั่งฟังเพลงสบายๆ ก็ได้นะ ถ้าเปิ้ลไป เอมก็ไป ยุวดีพยักหน้าเห็นด้วย
แต่ต้องไม่เมานะไม่อยากช่วยแบกใครกลับมา เอมอรตั้งข้อแม้
โอเค พวกผู้ชายพูดเกือบจะพร้อมกัน ทุกคนหันไปลุ้นวิไลลักษณ์
โอเค วิไลลักษณ์บอก ทำให้ทุกคนยิ้มออกมาได้
...ผ่านไป 1 เดือนสำหรับการพักผ่อน ถึงเวลาเปิดเทอมใหม่ เวลาในการพบปะเพื่อนๆ ก็น้อยลง เอมอรต้องขึ้นฝึกงานบนหอผู้ป่วยตามที่ภาควิชากำหนด หลังกลับจากการฝึกงาน ต้องทำงานที่เรียกว่า care plan ไว้สำหรับวางแผนการพยาบาลในวันต่อไป ในวันปกติ แทบจะไม่ได้เจอใคร ยกเว้นเพื่อนในกลุ่มที่ฝึกด้วยกันประมาณกลุ่มละหกถึงเจ็ดคน
เอมอรไม่มีเวลาได้คิดถึงใครมากนัก ลืมไปด้วยซ้ำว่าพิศาลรอคำตอบอะไรจากเธออยู่ เพราะตอนนั้น เธอขอเวลาตัดสินใจ พิศาลจึงไม่กล้าที่จะทำอะไรมากไปกว่ารอ และไม่กล้าเร่งรัดอะไรเธออีก
หลังจากกลับไปเที่ยวคืนนั้นก่อนปิดเทอม หลังแยกย้ายกันกลับหอพัก พิศาลและศักดิ์ชายไปส่งเธอ ยุวดี และวิไลลักษณ์ ที่หอพักหญิง คืนนั้นพิศาลรอให้คนอื่นๆ กลับห้องพักไปก่อน เค้าขอคุยกับเธออีกครั้ง เพราะอยากรู้ว่าเธอจะคบกับเค้าได้ไหม เอมอรในตอนนั้นค่อนข้างลังเล เธออาจชอบพิศาลได้ ไม่ยาก ถ้ารู้ว่าเค้าก็ชอบเธออยู่ แต่มีเรื่องวิไลลักษณ์เข้ามาเกี่ยว ทำให้เธอรู้สึกเกรงใจเพื่อน บวกกับความรู้สึกไม่แน่ใจของตัวเอง เธอจำได้ว่าเธอบอกพิศาลไปว่า
เอมไม่รู้สิ มันยังงงๆ อยู่เลย ไม่ค่อยแน่ใจว่า เราจะคบกันได้จริงๆ หรือเปล่า ขอเวลาเอมไปตัดสินใจสักพักนะ ศาลอย่างเพิ่งเร่งรัดอะไรมาก เพราะตอนนี้มีเรื่องเปิ้ลด้วย ถ้าอยากได้คำตอบตอนนี้เลย เอมคงตอบว่าไม่ดีกว่า
อย่างน้อยถ้าเค้ารอ คำตอบที่ได้ก็อาจทำให้เค้าได้มีความหวังอยู่บ้าง เพราะเหตุผลนี้พิศาลถึงได้รอเธออย่างไม่มีข้อแม้
เอมอรทราบข่าววิไลลักษณ์จากยุวดีมาบ้างว่า ทำใจเรื่องพิศาลได้มากขึ้น และเริ่มจะเปิดใจคบหากับรุ่นพี่คณะเดียวกันที่ขายขนมจีบเธอมานานตั้งแต่ปีหนึ่งแต่เธอไม่เคยสนใจเพราะคิดว่าตัวเองมีพิศาลอยู่แล้วอกหักครั้งนี้รุ่นพี่คนนี้ได้โอกาสเต็มๆ
สำหรับเพื่อนคนอื่นๆ เธอแทบจะไม่ได้ติดต่อใครอีกเลย
วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการฝึกในหอผู้ป่วยในเด็ก เธอผ่านการประเมินด้วยคะแนนที่ดี เป็นที่น่าพอใจ โดนติแค่เรื่องการสื่อสารกับแม่ลูกคู่หนึ่งที่พาลูกมารับการรักษาด้วยฟันผุอย่างรุนแรง ต้องนอนโรงพยาบาลให้ยาแก้อักเสบแบบฉีด ก่อนกลับบ้านเธออธิบายเรื่องยา เรื่องการปฏิบัติตัวเรียบร้อย โดยเน้นว่า คุณแม่ต้องแปรงฟันตามที่สอนไปนะคะ ไม่อย่างนั้นน้องจะฟันผุกลับมาอีก แม่รับปากดิบดี แต่ผ่านไปอาทิตย์เดียวเท่านั้น ก็กลับมาพบแพทย์ ด้วยปัญหาเดิมอีก หลังซักประวัติ พบว่าแม่ป้อนยาถูกต้อง แต่เด็กไม่ได้รับการแปรงฟันเลย เพราะพยาบาลสั่งแม่ว่า แม่ต้องแปรงฟันนะคะ ไม่ได้บอกให้แม่แปรงฟันให้ลูก แม่ของเด็กเลยคิดไปเองว่า ลูกกินยาก็พอแล้ว ไม่ต้องแปรงฟันก็ได้ ตามประสาคนที่ไม่ค่อยมีความรู้มากนัก เธอเลยกลายเป็นโจ๊กไปเลย
วันนี้เอมอรตั้งใจจะไปยืมนิยายจากหอสมุดมาอ่านคลายเครียด แต่ต้องหลังจากจัดการกับบะหมี่เกี๊ยวปู่ของโปรดตรงหน้าซะก่อน เสียงเพลงจากโทรศัพท์ดังขึ้นพร้อมๆ กับที่เธอกำลังจะคีบบะหมี่เข้าปาก
มารคอหอยจริงๆ ถ้าไม่มีธุระอะไรสำคัญละน่าดู
หน้าจอโทรศัพท์โชว์รูปศักดิ์ชายแปลกแฮะ! ไม่โทรมาตั้งนานสองนาน สงสัยอยากจะโม้เรื่องที่พายอดดวงใจไปเที่ยวช่วงปิดเทอม ใครเค้าอยากฟังกันนะ คนยิ่งขี้อิจฉาอยู่ เอมอรคิดหมั่นไส้เค้าอยู่คนเดียวก่อนรับโทรศัพท์
ฮัลโหล 2 โหล 24 ตั้งใจจะโทรมาเล่าให้ฉันฟังล่ะซิ ว่านายแฮปปี้ขนาดไหนที่ได้ไปสวีทกับหวานใจ กำลังจะกินบะหมี่ ไม่ต้องมาเซ้าซี้ เข้าใจ๋?
เงียบ...ไม่มีเสียงด่ากลับมา ทั้งที่เธอเตรียมเอาโทรศัพท์ออกห่างจากหูไว้แล้ว
แปลกแฮะ นึกว่าจะโดนด่ากลับมาเหมือนครั้งก่อนๆ พ่อยอดชายของฉัน เอ๊ย! ของเพื่อนฉัน เป็นอะไรปเอมอรรู้สึกงงๆ ที่อีกฝ่ายดูเงียบๆไป ถ้าเป็นช่วงเวลาปกติต้องมีเสียงด่าหรือต่อว่าตามมาตลอด เธอชินกับการได้ยินเสียงต่อว่าแบบไม่จริงจังของเค้ามากกว่าอาการเงียบๆแบบนี้
ชายเป็นอะไร ทำไมเงียบล่ะ? เอมอรถามเพื่อนอย่างแปลกใจ
รออยู่หน้าหอลงมาหาหน่อยสิเอม
สิบนาทีได้ไหม ขอกินบะหมี่ก่อน
ครับ เสียงศักดิ์ชายขานรับเงียบๆ
ได้ยินเสียงเค้าเศร้าแปลกๆ ทำให้อารมณ์อยากจะกินบะหมี่ของเธอหมดลงดื้อๆ หรือว่าเค้าจะโดนยัยแอ้มเพื่อนคนงามของเธอหักอกมา ก็เพิ่งไปสวีทหวานกันมานี่นา ไม่น่าจะใช่ อีกอย่างเธอก็ไม่เคยจะได้ยินแอ้มหรืออกนิชจะพูดถึงผู้ชายคนไหนให้ได้ยิน เพื่อนคนสวยของเธอออกจะปลื้มศักดิ์ชายทั้งหล่อทั้งรวยแถมโรแมนติกสุดๆ
จริงๆแล้วอกนิชและศักดิ์ชาย เป็นคู่ที่เหมาะสมกันที่สุด ทั้งคู่เป็นดาวและเดือนของโรงเรียน สวยหล่อด้วยกันทั้งคู่ ตอนที่ทั้งสองคนตกลงเป็นแฟนกัน ศักดิ์ชายทำให้ผู้ชายเกือบครึ่งโรงเรียนอกหัก
แอ้มหรืออกนิชก็เหมือนกัน สาวๆ ค่อนโรงเรียนต้องพากันเสียน้ำตาและอิจฉาที่เธอได้ใจหนุ่มฮอตของโรงเรียนไปครอบครองอย่าง่ายได้ รวมทั้งฉันด้วย เอมอรคิดในใจ
เอมอรใช้เวลาแต่งตัวให้เรียบร้อยไม่ถึงสิบนาที เธอเลือกเสื้อยืดสีส้มอ่อนพอดีตัว เข้ากันกับกระโปรงยีนส์สีซีดสั้นแค่เข่าแต่งระบายตรงริมด้วยผ้ายืดสีเดียวกับเสื้อ รองเท้ารัดส้นสีน้ำตาลเข้ากันกับชุด แต่งให้ดูดีไว้ก่อน เผื่อจะชวนไปไหนจะได้ไม่เสียเวลาขึ้นมาแต่งตัวใหม่อีก
ว่าไง ไม่เจอกันนาน มาหาเอมมีธุระอะไรหรือเปล่า เอมอรถามเมื่อลงมาเจอศักดิ์ชายนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ด้วยสีหน้าเรียบเฉย
อิ่มแล้วเหรอ ทำไมเร็วจัง?
ยังไม่ได้กิน แค่รู้ว่าชายมาหาเอมก็อิ่มแล้วล่ะ
ไม่พูดเปล่า เธอยังถือโอกาสนั่งลงใกล้ๆซบหน้าลงกับไหล่เค้า แล้วมองตาปริบๆ ยังกับคู่รักหวานแหวว ใครไม่รู้ว่าศักดิ์ชายมีแฟนอยู่แล้วเป็นต้องคิดว่าเค้าเป็นแฟนเธอทุกคนไป แม้แต่เพื่อนในกลุ่มบางคนยังสับสนคิดว่าเธอคิดจะแย่งแฟนเพื่อนก็มี
อันที่จริงก็อยากจะแย่งอยู่เหมือนกัน แต่เธอออกจะเป็นคนดีมีศีลธรรม แถมเป็นแม่สื่อมาให้เค้ามาซะนาน ทั้งคอยเคลียร์ คอยจัดฉาก วางแผนสารพัดเพื่อให้เค้าได้สมหวังทำให้เธอยังยืนอยู่ข้างๆเค้าด้วยตำแหน่งเพื่อนสนิทและแม่สื่อที่แสนดีต่อไป
ศักดิ์ชายเคาะหัวเธอเบาๆ
ไปกินข้าวกัน
เอมอรทำให้เค้าสบายใจได้เสมอ ตั้งแต่มัธยมปลายแล้ว เค้าได้เธอเป็นแม่สื่อจนได้เป็นแฟนกับดาวโรงเรียน เอมอรเป็นที่ปรึกษาให้เค้าได้ทุกเรื่อง ทุกครั้งที่มีปัญหา เธอมักจะเป็นคนแรกที่เค้าคิดถึงเสมอ จนบางครั้งเค้ายังรู้สึกขัดใจที่ตัวเองนึกถึงเอมอรมากกว่าคนรักของตัวเองซะอีก แต่เพราะคิดว่าเธอคือเพื่อนสนิททั้งของตัวเองแล้วก็แฟน แถมยังเป็นแม่สื่อให้เค้าอีก เค้าจึงคิดไปเองว่าไม่แปลกอะไรที่เค้าจะนึกถึงเอมอรก่อนนึกถึงคนอื่นๆ เสมอ
บางครั้งเค้าออกจะหวงและห่วง เวลามีเพื่อนๆ บางคนแสดงความสนใจเธอจนออกนอกหน้า ข้ออ้างที่จะกันเธอไว้ คือ เฮ้ย! คนนั้นไม่ได้ พิศาลมันจองแล้ว หรือไม่ก็ คิดดีๆ นะมันต๊องจะตาย หรือหนักสุด คือ มีแฟนอยู่แล้ว ได้ข่าวว่ารักกันมาก คบกันตั้งแต่เด็กๆ
หรือแม้แต่เวลาเอมอรแสดงออกนอกหน้าว่าปลื้มใครสักคน เค้าเป็นอันต้องไปหาสารพัดข้อเสียของคนนั้นมาเล่าให้ฟัง จนเธอต้องเลิกปลื้มทุกรายไป เพื่อนๆ บางคนในคณะแซวเค้าว่า เค้าหวงเธอไว้เอาเองหรือหวงให้เพื่อนอย่างพิศาลกันแน่
เค้าจะหวงไว้ให้ตัวเองได้
ผลงานอื่นๆ ของ ปากกากับตะวัน ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ปากกากับตะวัน
ความคิดเห็น