ตอนที่ 33 : สงครามข่าวสาร
*ลงครั้งแรก 26 ก.ค. 60
*แก้ไขคำผิด 4 ก.พ. 61
“ว่ามา”
“ทีมค้นหารายงานว่า เราพบแท่นอักขระเพิ่มอีกแห่งแล้วครับท่าน แท่นหินที่เราพบซ่อนอยู่ในดงเถาไม้เลื้อยกลางทุ่งดอกไม้ทางทิศตะวันตกของเมืองเริ่มต้น ช่วงก่อนข้ามแม่น้ำเข้าเขตนครทุ่งหญ้า พอถางไม้เลื้อยออก เราก็เจอแท่นที่ทำจากหินแบบเดียวกับป้อมหินกลางเมืองเริ่มต้นวางเรียงเป็นรูปวงกลม ด้านบนสลักอักขระโบราณ ลักษณะน่าจะเป็นแท่นอักขระตามเควสท์ครับ เราจัดทีมรอเก็บแสงอักขระในคืนเดือนมืดคืนพรุ่งนี้แล้ว มีปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ จากการกระทบกระทั่งกับกองสอดแนมของกิลด์พันธมิตรที่เตรียมจะเปิดสงครามกับกิลด์อาชาทมิฬที่ป้อมอาชาบ้าง แต่ไม่มีอะไรร้ายแรงครับท่านราชันย์”
“อืม...”
ดวงตาทรงอำนาจสีทองหรี่ลงพร้อมกับนิ้วเรียวยาวที่แตะไล้ปลายคางช้า ๆ ทำให้ผู้กล่าวรายงานเว้นจังหวะเงียบรอคำสั่ง ผ่านไปครู่หนึ่ง เสียงนุ่มจึงเอ่ยขึ้นเนิบ ๆ
“เตือนให้ทีมค้นหาสื่อสารให้ชัดเจน อย่าให้สองกิลด์นั่นระแวงเรา แล้วทางทิศอื่นล่ะ”
“ทีมค้นหาทางทิศเหนือกระจายกันค้นหาตามยอดเขาไปได้ถึง 1 ใน 4 ของยอดเขาทั้งหมดแล้วครับ แต่ยังไม่พบร่องรอยของแท่นอักขระ ส่วนทางด้านใต้ เรากระจายทีมค้นหา แยกกันไปสำรวจรอบ ๆ แต่พื้นที่เป็นเขตป่าโปร่งที่กว้างมาก แหล่งน้ำก็กระจายซ่อนอยู่ทั่วทั้งป่า ทีมค้นหาเลยยังไม่มีความคืบหน้าเหมือนกันครับ”
“อืม...”
ชายหนุ่มในชุดคลุมสีดำยาวกล่าวรายงานขึ้นตามข้อมูลที่ตนได้รับมา ก่อนจะเหลือบตามองอากัปกิริยาของหัวหน้ากิลด์หน้าสวย คำตอบรับเนิบ ๆ ไร้ไอเย็นสะกดวิญญาณ ทำให้ดูเหมือนว่าการรายงานผ่านไปด้วยดีจนต้องลอบผ่อนลมหายใจ ทว่า ก่อนที่จะอ้าปากรายงานปัญหาใหญ่ เสียงอุทานแทรกขึ้นมาจากท่านเสนาธิการประจำกิลด์ ก็ทำให้ชายชุดดำต้องสะดุ้ง
“อ้า! จริงสิ... ท่านราชันย์ กระผมมีข้อเสนอครับ”
“เชิญท่านเสนา”
“ที่จริงกิลด์เราก็มีนักประดิษฐ์เยอะแยะ ถ้าหากว่า... ถ้าหากว่าพวกเขาสามารถสร้างโดมหรือเต็นท์อันใหญ่ที่ครอบตัดแสงรอบแท่นอักขระได้หมด กระผมวิเคราะห์จากเนื้อความของเควสท์แล้ว เราน่าจะเก็บแสงอักขระได้โดยไม่ต้องรอคืนเดือนมืดนะท่าน”
“อืม... เป็นไปได้ ถ่ายทอดคำสั่งออกไป ให้นักประดิษฐ์ลองสร้างตามที่ท่านเสนาว่า แล้วเอาไปทดสอบกับแท่นอักขระที่เขตทุ่งหญ้า ถ้าได้ผล สร้างเพิ่มแล้วส่งกระจายไปให้ทีมค้นหาทุกทีม!”
“ครับท่านราชันย์”
หลังรับคำ ชายชุดดำก็นิ่งรวบรวมสมาธิ สูดหายใจเข้าลึก ก่อนจะเอ่ยรายงานต่อ
“ส่วน...”
“อ้อ! อีกอย่าง”
เฮือก!
เสียงที่ดังขัดขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยของเสนาธิการเจ้าเก่า ทำให้ผู้รายงานที่กำลังจะเข้าสู่เรื่องเครียดถึงกับสะดุ้งโหยง
“ทุกครั้งหลังเก็บแสงอักขระ หรือหลังทดสอบสิ่งประดิษฐ์ กำชับทางทีมให้ซ่อนแท่นอักขระให้มิดชิด อย่าให้เจ้าเงาอัคคีมันหาเจอได้ง่าย ๆ วางกับดักเอาไว้ได้ยิ่งดี!”
“สั่งไปตามที่ท่านเสนาว่า”
“คะ..ครับท่าน”
ชายหนุ่มชุดดำที่โดนขัดจนขวัญกระเจิงยกมือขึ้นลูบอก หลับตารวบรวมสมาธิอีกครั้ง ผู้น้อยเงยหน้าเหลือบขึ้นมองผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสองจนมั่นใจว่าจะไม่โดนขัดอีก แล้วจึงกล่าวรายงานต่อ
“ส่วนทางปาร์ตี้ท่านรองสะบั้นเมฆา... ท่านแจ้งมาว่าพยายามบุกเข้าไปเก็บแสงอักขระในดงเสือผ่านแต่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เสือชุกชุมดุร้ายผิดปกติ จนทางปาร์ตี้เสียหายหนัก เอ่อ... ตายกลับมาทั้งหมด แต่ทางปาร์ตี้กำลังปรับกำลังคนตามความสถานการณ์ เตรียมจะบุกกลับเข้าไปใหม่ครับ”
“อ้อ! เจ้าหนูนั่นพาคนไปตายยกตี้สินะ พวกมีแต่กล้ามไร้สมองก็เงี้ย บอกให้เอาตัวฝ่ายวางแผนไปสักคนก็ไม่เชื่อ”
“อะ..เอ่อ... และที่สำคัญ ทะ..ทางปาร์ตี้พบเงาอัคคี กับแมวตัวเล็กชื่ออัศวินสามสีอยู่ด้วยกันตอนที่กำลังต่อสู้กับฝูงเสือในป่าด้วยครับ”
“หืม... เงาอัคคีงั้นเหรอ น่าสนใจ ๆ เฮือก!”
บรื๋ออออ... ความเย็นนี่มัน!!
ไอเย็นยะเยือกปริศนาก็ค่อย ๆ ก่อตัว ก่อนจะหนาแน่นขึ้นเรื่อย ๆ จน ‘เสนานคร’ ที่เสนาธิการประจำกิลด์ที่อยู่ใกล้แหล่งกำเนิดเริ่มสัมผัสได้
“อ่า.. อะแฮ่ม ท่านราชันย์ กระผมลืมไปว่านัดประชุมครั้งสำคัญกับฝ่ายวางแผนไว้ คงต้องขอตัวก่อน ส่วนเรื่องดงเสือผ่าน กระผมจะลองปรึกษาหารือกับทางฝ่ายแผนอีกที ขอท่านไม่ต้องกังวล กระผมลาล่ะครับ”
ตึก ๆๆ ปึง!
ผู้ปราดเปรื่องแห่งกิลด์อินทรีดำกล่าวขอตัวอย่างฉับไว แล้วหายออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว เหลือเอาไว้เพียงชายในชุดคลุม ที่ได้แต่ยืนรอรับคำสั่งหน้านิ่ง ทั้ง ๆ ที่ภายในใจนั้น น้ำตากำลังไหลรินจนแทบจะกลายเป็นสายน้ำใหญ่
ฮึ ฮือ... ท่านเสนา... อย่าทิ้งผมไว้อย่างนี้สิ.... กลับมาก๊อนนนน........
*****-----*****-----*****
ณ ป่าโปร่งแห่งหนึ่ง ความวุ่นวายในยามเช้าทำให้เหล่านกกาต้องแตกตื่นไปทั้งป่า เมื่อเกิดการไล่ล่าครั้งใหญ่ โดยผู้ล่านั้นเป็นฝูงหมาป่าขนเทาสูงใหญ่กว่า 2 เมตรนับสิบตัว ทั้งยังมีทีท่าว่าจำนวนจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนผู้ถูกตามล่านั้น มีเพียงแมวน้อยขนฟูสีขาวเพียงตัวเดียวเท่านั้น!?
ตึก ๆๆๆ หงับ! วืดดด…..
“แม้ววววว มี้ ๆ แม้ว ๆๆ ม้าวววว”
-แว้กกกก เฉียดหาง พี่หมาคร้าบบบ วิ่งช้า ๆ หน่อยเถอะคร้าบพี่คร้าบบบบบ-
“กรรรรรรรรรรรรร โฮ่งงงงง”
-ฮึ่ย! พลาดรึ หยุดนะเจ้าเหมียวต่างถิ่น มาเป็นอาหารพวกข้าซะดี ๆ-
แมวตัวน้อยวิ่งวนไปมาจนขนนุ่มฟูยุ่งเหยิง หากแต่ยังไม่มีท่าทีว่าเจ้าตัวเล็กจะพลาดกลายเป็นมื้อเช้าของผู้ล่าฝูงใหญ่
ฉัวะ!! เอ๋ง!
“น้องจา! วิ่งลากเป็นตัวเอสอย่างที่สอนสิ วิ่งตรง ๆ อย่างนั้น หมาป่าตัวหลัง ๆ มันหลุดมากัดคนข้างหลังหมดแล้วเห็นไหม นี่ถ้าคนร่วมตี้ตัวบางก็โดนหมากัดตายวุ่นวายแล้ว วิ่งเป็นตัวเอสค่อย ๆ ล่อให้พวกมันวิ่งซ้อนเป็นก้อนเดียว อย่าไปกลัว หมาพวกนั้นมันวิ่งช้ากว่านาย ไม่โดนกัดหรอก ถึงโดนก็แค่นิดหน่อย เลือดนายเยอะขนาดนั้น ไม่ตายแน่”
“มี้… แม้ว ๆๆ ม้าวววว”
-งึ… ไม่ตายแต่มันเจ็บนะเฟร้ยยยย-
“แฮ่! โฮกกกกก ฮึ่ม!”
-ฮึ! ใจเสาะไปได้เจ้าเปี๊ยก เจ้าพวกนั้นน่ะ กระจอกจะตาย กระจอกจนข้ามิอยากเสียเวลาแม้แต่จะชายตามองเลยด้วยซ้ำ!-
เสียงหยิ่ง ๆ ของเสือขาวลอยมาจากกิ่งไม้ใหญ่ที่ห่างออกไปทางด้านหลัง ชวนให้แมวน้อยชอกช้ำก้มหน้าวิ่งรับกรรมต่อไป ส่วนพวกหมาป่าแม้จะไม่พอใจ แต่เมื่อเหลือบมาเห็นรัศมีเจ้าป่าของใบหน้าเชิด ๆ ก็ทำเป็นไม่ได้ยิน มองไม่เห็น ไม่แสดงอาการให้ผู้พูดเพ่งเล็งมายังตน
“มี้ ๆ เมี้ยวววววว”
-มาแล้ว มาแล้วววววว-
ในที่สุดแมวสีขาวตัวเล็กก็วิ่งวนจนสัตว์อสูรที่ตามมาด้านหลังวิ่งรวมกันเป็นกลุ่มก้อนสวยงาม แล้ววิ่งหันนำฝูงหมาป่าเข้าหาชายหนุ่มผมดำที่กำลังเดินลอยชายตามมาด้านหลัง โดยมีเสือตัวน้อยสีขาวเดินชมนกชมไม้อยู่ด้านข้าง
“มันน้อยไป! วิ่งไปลากข้างหน้ามาเพิ่มเลย เก็บทีละฝูงเล็ก ๆ มันเสียเวลา อย่างนี้เมื่อไหร่จะไปถึงทะเลสาบ ถ้ามากับพวกจอมเวท ลากนิด ๆ หน่อย ๆ ก็ให้ลงเวทใหญ่ มานาไม่พอใช้กันพอดี ไป ไปลากมาเพิ่ม ฝึกลากเยอะ ๆ จะได้เก่ง ๆ เห็นเมื่อวานบอกอยากเก่งเร็ว ๆ ไม่ใช่เหรอ”
“มะ..มี้…”
-งะ..งืออออ…-
แมวตัวน้อยได้แต่น้ำตาตกในที่ใคร ๆ ก็ไม่รัก ได้แต่หันกลับไปปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่ง รวบรวมฝูงหมาป่าเพิ่มขึ้นแล้วกลับมาอีกครั้ง
“ตอนนี้ล่ะ!
“โฮกกกกกก!!”
-ลำแสงศักดิ์สิทธิ์!!-
ตู้ม! เอ๋ง!!
ลำแสงสีขาวร้อนแรงพุ่งเข้าหาฝูงหมาป่าเป้าหมายอย่างแม่นยำ แผดเผาเหล่าร่างขนเทาให้ร้องโหยหวน พลังชีวิตลดลงเรื่อย ๆ ก่อนที่จะพากันตายไปในที่สุด ทิ้งไว้เพียงกองร่างไหม้เกรียมบนพื้น
“เยี่ยมมากเสือน้อย ยิงได้จังหวะ มุมองศาก็พอดี น้องจา! ฝึกต่อไป ลากฝูงใหม่มาได้เลย รอบนี้เอาเยอะกว่าเดิมนะ แล้วก็อย่าให้มีหลุดมาข้างหลังอีก!”
“ฮึ่ม! โฮกกก”
-ฮึ! ของมันแน่อยู่แล้ว-
“มี้… มิว...”
-งือ… กระซิก ๆ ...-
จนแมวตัวน้อยวิ่งห่างออกไป เสียงเรียกเข้าที่รอคอยก็ดังขึ้นให้ชายหนุ่มรีบกดรับ
ติ๊ด
-พี่คิม มีความเคลื่อนไหวเพิ่มเติมเรื่องที่พี่ฝากสืบ สะดวกคุยไหมพี่-
“กำลังรออยู่พอดี พูดมาเลย”
-สายของเราในกิลด์ปีกดำรายงานว่า พวกมันเจอแท่นเควสท์ที่พี่ตามหาที่นึงแล้วครับ-
“ชิ! เร็วชะมัด พอรู้พิกัดไหม”
-สายรู้มาแค่ว่าแท่นนั่นอยู่แถวทุ่งรก ๆ ใกล้แม่น้ำ ห่างจากป้อมอาชาไม่เท่าไหร่ แต่มันไม่ได้อยู่หน่วยนั้นเลยบอกพิกัดละเอียดไม่ได้ครับพี่ แต่ถ้าพี่จะไปก็คงต้องระวังหน่อย พวกปีกดำมันสั่งคนเฝ้าไว้ บุกเดี่ยวตอนนี้ไม่น่ารอด แต่ผมจะบอกอะไรให้ ข่าววงในกิลด์พันธมิตรบอกว่า พวกมันจะเปิดศึกชิงป้อมอาชาในอีกประมาณครึ่งเดือนในเกม ถ้าพี่แอบเนียนแฝงเข้าไปช่วงสงครามนั่น ก็น่าจะได้อยู่นา-
“หืม... เร็วขนาดนั้นเลยเหรอ ฉันนึกว่าพวกมันจะเตรียมตัวกันนานกว่านี้ซะอีก”
-พวกพันธมิตรมันได้กิลด์คาราวานมาเป็นพันเพิ่มครับ เห็นว่าในงานประมูลคราวที่แล้ว แผงขายของกิลด์คาราวานในตลาดมืดโดนลูกหลงจากพวกอาชาทมิฬตอนมันตีกับพวกพันธมิตรนอกรอบ แผงงี้เละเสียหายหนัก แล้วพวกม้าดำมันดันไม่ยอมรับผิดชอบ หัวหน้ากิลด์คาราวานบังเอิญอยู่ในงานนั้นพอดี พอกลับมาเลยทุ่มทั้งเงินทั้งไอเทมซัพพอทพวกพันธมิตรไม่อั้น งานนี้พวกม้าดำเละแน่! มวะ ฮ่ะ ๆๆๆ-
ชายในสายเงยหน้าแล้วหัวเราะออกมาอย่างสะใจ ให้เงาอัคคีส่ายหน้ายิ้มขำ ๆ ก่อนกวาดสายตามองตามแมวตัวเล็กที่วิ่งลากสัตว์อสูรเป็นรูปตัวเอสตามสั่งอยู่อีกด้านของป่า
“ไม่รู้พวกนั้นคิดอะไร ถึงไปท้าทายอำนาจกิลด์พ่อค้าอันดับหนึ่งอย่างนั้น ก็ไม่ใช่มือใหม่กันสักหน่อย แล้วนอกจากแท่นที่พวกปีกดำเจอ พอจะได้ข่าวแท่นอื่นอีกรึเปล่า”
-เท่าที่สืบ ๆ มา ก็เจอแต่ซากหินโบราณรอบเมืองเริ่มต้น ไม่ได้มาเป็นแท่นแบบที่พี่บอก ไม่น่าใช่ ผมว่ามันต้องอยู่ที่เข้าถึงยาก ๆ ละครับ ถึงได้รอดหูรอดตาพวกเรามาเป็นปีขนาดนี้ จะมีก็แค่ข่าวแว่ว ๆ อันนึง เอ่อ... แต่ผมไม่คอนเฟิร์มนะ-
“พูดมาเถอะ นาทีนี้ จะข่าวลือกระแสไหนฉันก็เอาทั้งนั้น”
เงาอัคคีตอบพร้อมกับหันกลับมามองคู่สายด้วยสีหน้าจริงจัง จนอีกฝ่ายรับรู้ได้ แล้วตอบกลับมาอย่างจริงจังไม่แพ้กัน
-น้องคนนึงเล่าว่าเคยเห็นแสงเรืองเขียว ๆ เหมือนแสงออโรร่าเหนือยอดเขา ตอนมันเดินทางไปทำเควสท์แถบชายป่ามายา มันบอกว่าเห็นแค่แสงเรือง ๆ ตอนนั้นมันเพิ่งเล่นได้ไม่นาน คิดว่าเป็นเวทมนตร์ของป่าเลยไม่ได้เอะใจ เห็นอยู่แค่คืนเดียวแล้วก็ไม่เห็นอีก แต่มันก็ดันจำไม่ได้ว่าเคยเห็นแสงนั่นที่ไหน รู้แค่เทือกเขาทางผ่านไปป่ามายา ยืนยันไม่ได้เลยครับว่าแสงนั่นจะเป็นแสงแบบเดียวกับเควสท์ของพี่รึเปล่า หรือว่าอยู่ที่ไหนกันแน่ พี่อาจจะต้องไปตามหาเอาเอง ถ้าพวกพี่โต้ทำเควสท์เสร็จก็คงไปช่วยหาได้อยู่หรอก-
“อย่าไปกวนพวกมันเลย ฉันออกจากกิลด์แล้ว ยังไงเควสท์นี้ก็ไม่ใช่ของกิลด์อีก ไหนพวกนั้นจะต้องวางแผนดูแลเมืองใหม่ แค่ให้สายข่าวอย่างนายมาช่วยนี่ก็เกรงใจมากแล้ว”
-โอ๊ย! อย่าเกรงใจไปเลยพี่ คนกันเอง ยังไงตอนนี้พวกผมก็ว่างงานหลังหาข้อมูลเควสท์ปริศนาขั้นสุดท้ายเสร็จ เหงากันจะตาย ไว้ว่าง ๆ พี่ทำของอร่อย ๆ มาเซ่นพวกผมก็พอ เอ่อ... ว่าแต่...-
คู่สนทนาลดเสียงลงต่ำจนแทบจะเป็นกระซิบ ใบหน้าที่ชะโงกเข้ามาใกล้หน้าจอกับดวงตาหลุกหลิกที่กวาดมองรอบข้าง ก็ยิ่งทำให้เงาอัคคีสงสัย
-พี่ได้ยินข่าวพี่โต้กับพี่จ๋ายยังอะครับ-
“หืม!? มีเรื่องอะไรรึเปล่า พวกมันทะเลาะกันหนักเหรอ”
-ไม่ใช่พี่ คือ เอ่อ... สำหรับเพื่อนสนิทที่เป็นชายแท้อย่างพี่มันอาจยากจะเชื่อหน่อย แต่นะ... พยานหลักฐานมันแน่นหนามาก! ถึงตอนนี้พวกผมยังไม่ได้เห็นกันกับตา แต่พวกที่ยังทำเควสท์อยู่ในนั้นน่ะ ยืนยันกันมาเป็นเสียงเดียว! ตอนนี้ ขนาดพี่ปิงที่เป็นเพื่อนสนิทของทั้งคู่และอยู่ในทีมทำเควสท์ก็เห็นด้วยกับพวกผมแล้วนะพี่!-
แล้วหน่วยข่าวกรองประจำกิลด์หงส์เพลิงผู้แสนว่างงาน ก็บอกเล่าประเด็นร้อนประจำกิลด์ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ท่ามกลางวิกฤติการณ์ของท่านหัวหน้าและรองหัวหน้ากิลด์ที่เคารพ ให้อดีตสมาชิกฟังอย่างละเอียดยิบ พร้อมทั้งแนบภาพหลักฐานและคำพูดอ้างอิงจากหลายฝ่าย จนเงาอัคคีที่ได้เห็นรูปแนบชิดแปลกประหลาดของสองเพื่อนสนิทต้องนิ่วหน้า คิ้วหนาขมวดเข้าหากัน
หลังจากตัดสายไปแล้ว ชายหนุ่มผมดำก็ยังคงเดินช้า ๆ ครุ่นคิดกับตัวเองไปอีกพักใหญ่ ก่อนที่นัยน์ตาสีเพลิงจะเบนไปจ้องมองร่างขนปุยที่วิ่งลากสัตว์อสูรอยู่ไกล ๆ นิ่งเนิ่นนานด้วยสายตาแปลกประหลาด
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

759 ความคิดเห็น
-
#360 phonphimon0123 (จากตอนที่ 33)วันที่ 26 กรกฎาคม 2560 / 19:57ต่ออออ#3600
-
#359 KARENA (จากตอนที่ 33)วันที่ 26 กรกฎาคม 2560 / 13:06สงสารน้องจาอะ#3590
-
#358 เต่าหมุน^0^ (จากตอนที่ 33)วันที่ 26 กรกฎาคม 2560 / 08:41นึกสภาพลูกแมวไม่ออกว่าจะวิ่งหนีฝูงหมายังไงให้พ้น#3581
-
#357 Whatever it is (จากตอนที่ 33)วันที่ 26 กรกฎาคม 2560 / 08:26ใช้แรงงานแมว ผิดกฤฎหมายห้ามทารุณสัตว์นะ 5555#3571
-
#356 C-Chinemon (จากตอนที่ 33)วันที่ 26 กรกฎาคม 2560 / 07:16น้องจาน่าสงสารจริงน้า~#3560
-
#355 ..miran.. (จากตอนที่ 33)วันที่ 26 กรกฎาคม 2560 / 07:01สายตาตอนสุดท้ายนั้นหมายความว่าไง 5555#3550
-
#354 Nm'mi (จากตอนที่ 33)วันที่ 26 กรกฎาคม 2560 / 06:58ได้ทั้งข่าวสารและข่าวสานของท่านเฮดและท่านรอง เงิบเลยสิท่าน#3540
-
#353 Demon of Death (จากตอนที่ 33)วันที่ 26 กรกฎาคม 2560 / 04:48แนะนำให้พิมเต็มๆไปเลยอ่านง่ายกว่านะ ^^#3531