ตอนที่ 30 : การปะทะเล็ก ๆ ในป่าใหญ่
*ลงครั้งแรก 8 ก.ค. 60
กึก! ฟุดฟิด ๆๆ
ออกเดินมาได้ครู่ใหญ่ อยู่ ๆ เสือนำทางเจ้าของนาม ‘สมิงดำ’ ก็หยุดชะงักก่อนถึงสามแยกแห่งหนึ่ง เสือดำรูปร่างปราดเปรียวหันซ้ายหันขวา แล้วทำจมูกฟุดฟิดสูดดมกลิ่นไปรอบ ๆ
“โฮกกกกก!”
-ทำไมไม่กระจายกันไปทำตามสั่ง มารวมหัวกันทำอะไรที่นี่!-
เสียงคำรามถามกับความว่างเปล่า ทำเอาเสือขาวตัวน้อยที่หยุดยืนเยื้องไปเบื้องหลังกวาดสายตามองตามอย่างสงสัย แมวตัวเล็กที่เคยนอนซังกะตายบนหลังลายทางก็ค่อย ๆ ปรือตาลืมขึ้น ส่วนมนุษย์คนเดียวในกลุ่ม เอามือแตะดาบ เตรียมรับมืออะไรก็ตามที่จะโผล่มาไปแล้ว
ไม่นานเกินรอ ใบหน้าขนของสัตว์ตระกูลเสือหลากสายพันธุ์ต่างขนาดหลายสิบตัวก็โผล่หัวผุดออกมาจากที่ซ่อน บ้างก็ชะโงกหัวออกมาจากดงหนามหนาทึบข้างทาง บ้างส่งสายตาวาว ๆ มาจากซอกหลืบระหว่างต้นไม้ บางส่วนก็ห้อยหัวโผล่ลงมาจากกิ่งเบื้องบน บางตัวแค่ขยับไหวให้พอรู้ว่าลายบนกายไม่ใช่ส่วนหนึ่งของกองไม้ใกล้ ๆ พื้น ที่น่าหวาดหวั่นที่สุดคือพวกล่องหน ที่อยู่ ๆ ก็ผุดขึ้นมาเป็นกองทัพขนาดย่อมจากเวิ้งความว่างเปล่ากลางสามแยกเบื้องหน้า ให้แมวขนฟูที่กำลังสะลึมสะลือตื่นเต็มตา หางชี้ขึ้นด้วยความตกใจ มนุษย์สองขาเพียงคนเดียวทำหน้าเครียด ที่ศัตรูมีมากกว่าที่พวกตนจะรับมือไหว จึงทำได้เพียงนิ่งดูสถานการณ์
“โฮกกกกก แฮ่ ฮึ่ม กรรรรรรรรรรรรร”
-เรียนท่านผู้ส่งสาร พวกเขี้ยวดาบกำลังต้อนเหยื่อสองขาฝูงใหญ่มาทางด้านนี้ขอรับ พวกเหยื่อมันจัดฝูงเดินแบบกาสรลูกอ่อน กำแพงตัวเต็มวัยช่างแข็งแกร่งนัก พวกเราเลยถือโอกาสจัดงานประชันความแข็งแกร่งของหน่วยล่าสังหารประจำปี เล่นแข่งฉกลูกกาสร กับต้อนรับให้ประทับใจตามที่ท่านเทพารักษ์สั่งเอาไว้ไปพร้อม ๆ กันขอรับ-
หลังจากค่อย ๆ แสดงตัวออกมากันครบ เสือสีสวาดตัวใหญ่ที่ผุดออกมาจากอากาศกลางสามแยกเบื้องหน้าก็ยอบตัวลงทำความเคารพเล็กน้อย แล้วตอบกลับผู้นำทางให้ฝั่งแมวขนฟูได้คลายใจ
“แฮ่ ฮึ่มมมมม โฮกกกกกกกกกกกกกกกกกก”
-ท่านผู้ส่งสารจะร่วมด้วยไหมขอรับ กำลังฝูงข้ายังเป็นรองฝูงเจ้าลายดาวกับฝูงเจ้าเล็บทมิฬอยู่ช่วงใหญ่ หากท่านเข้าร่วมด้วย งานประชันฉกลูกกาสรครั้งนี้จะได้ยุติธรรมยิ่งขึ้น-
“โฮกกกก กรรรรรรรรร”
-อย่าพูดดีไปหน่อยเลยเจ้าพรางมายา ฝูงเจ้ามีพวกล่องหนตั้งกี่ตัว แค่นี้ก็ได้เปรียบพวกข้าเรื่องการเข้าหาเหยื่อไปหลายช่วงหางแล้ว-
“ฮึ่มมม”
-ช่าย ๆๆ-
เสียงคำรามโต้ตอบไปมาจากรอบด้านทำเอาแมวน้อยหัวหมุน ในขณะที่ดวงตาของเสือขาวตัวเล็กเปล่งประกายวาววับ หากไม่ติดสัมภาระขนฟูอ่อนแอที่ขยุกขยิกอยู่บนหลังแล้ว ก็ร่างลายทางก็อยากอาสาไปร่วมล่าด้วย
“ฮึ่มมม! โฮกกกกก”
-หยุดดด! ข้าไม่ได้ว่างขนาดนั้น ติดภารกิจต้องนำทางแขกของท่านเทพารักษ์ไปส่งที่ชายป่าตามบัญชา เจ้าพวกนั้นจะต้อนฝูงมนุษย์มาจากทิศไหน-
“แฮ่ กรรรร”
-จากฝั่งดงหนามแดงครับท่าน-
สมิงดำผินใบหน้าไปมองแนวเถาวัลย์หนามหนาสีแดงเลือดหมู ที่ขึ้นขนานกับทางเดินที่แยกออกไปทางขวา ใบหูสีดำสนิทแผ่ออกกว้างแล้วเบนหันไปมาเล็กน้อย ก่อนเจ้าตัวจะหันมองไปยังทางแยกอีกทาง นัยน์ตาสีเงินจับจ้องมองไปยังเส้นทางลาดลงต่ำสู่อุโมงค์เถาวัลย์ระโยงระยางเบื้องล่างอย่างครุ่นคิด
“กรรรรรร แฮ่ ฮึ่มมมม”
-ถ้าเช่นนั้น พวกข้าจะอ้อมไปทางม่านเถาขจี พวกเจ้าจงต้อนรับเหยื่อให้ดี อย่าให้เสียทีที่ท่านเทพารักษ์ไว้วางใจ-
“โฮกกกกกกกกกก!!”
-ครับท่าน!!-
*****-----*****-----*****
โฮกกกกกกกกกก...
เสียงประสานตอบรับคำของเสือกว่าสามสิบชีวิตดังกึกก้องไปทั่วทั้งป่า จนแว่วมาให้ปาร์ตี้ของกิลด์อินทรีดำ นำโดย ‘สะบั้นเมฆา’ ที่เดินทางอยู่ห่างออกมาไม่ไกลได้ขนลุกเกรียว
“เชี่ย! เสียงอะไรฟะ หลอนชะมัด”
“อย่าพูดดิวะ เขาว่ากันว่า ถ้าเข้าป่าแล้วได้เห็นหรือได้ยินอะไรแล้วอย่าทัก เดี๋ยวจะเจอดี”
ฮึ่ม...
พูดยังไม่ทันขาดคำ เสียงคำรามในลำคอเบา ๆ จากระยะใกล้ก็ทำให้คนทั้งกลุ่มตื่นตัวหันไปมองรอบ ๆ
“ทุกคนระวังตัว ข้างหน้าทางแคบไม่เหมาะกับการปะทะ สายประชิดลดระยะสำรวจเข้ามาใกล้ ๆ ทุกคนเตรียมเดินผ่านไปให้ไว เราจะไม่ตั้งป้อมสู้จนกว่าจะถึงลานกว้าง ถ้าโดนเสือบุก ส่งเวท ธนูหรืออะไรก็ได้ออกขวางขัดไปก่อน!”
“รับทราบ!!”
*****-----*****-----*****
อ้ากกกกกกกกกกกกก.....
“ฮึ่ม! โฮกกกกกกก”
-ฮึ่ย! จะรีบออกมาทำไม นาน ๆ จะมีของดีให้ดูแท้ ๆ ซุ่มอยู่ก่อนก็ได้นี่-
เสียงการต่อสู้ที่แว่วมาตามลม ทำให้เสือขาวตัวเล็กบ่นกระปอดกระแปดเป็นรอบที่สิบ ในขณะที่เท้าปุยก็ก้าวตามเสือนำทางต่อไปในอุโมงค์เถาวัลย์หนาทึบ จนแมวน้อยที่นั่งอยู่บนหลังได้แต่กลอกตาขึ้นบนด้วยความระอา ส่วนชายหนุ่มคนเดียวที่ฟังเสียงโฮกฮากไม่รู้เรื่องด้านข้าง ได้แค่เหลือบตามองเดาเอาจากท่าทางอย่างปลง ๆ
“โฮกกกก กรรรรรรรร”
-มิได้ดอกครับท่านอธิราช การต่อสู้น่าจะยืดเยื้อ หากพวกเรารอชมก็จะเสียเวลาเกินไป อาจไปถึงจุดหมายคลาดจากคืนเดือนดับตามที่พวกท่านตั้งใจไว้ก็ได้-
“ฮึ่ม! แฮ่”
-ชิ! แล้วนี่อีกไกลไหม-
เหวอออ อ้ากกกกกกกกก...
“ฮึ่ม! กรรรรรรรรรรร!!”
-ฮึ่ย! เจ้าพวกนั้นก็มัวแต่เล่นสนุกอยู่ได้ อิจฉาโว้ยยยย!!-
“โฮกกกกกก แฮ่ ฮึ่ม โฮกกกกกกก”
-เลยโค้งหน้าไปก็ออกจากม่านเถาขจีแล้วขอรับท่านอธิราช ทางต่อจากนี้จะเป็นทางเดินราบเรียบในเขตป่าค่อนข้างโปร่ง หากออกวิ่งเต็มฝีเท้าไปตามทางแนวไม้ใหญ่ ไม่เลี้ยวอ้อมออกทางแยกเล็กไปไหน ไม่เกินชั่วชำแหละร่างกาสรเต็มวัย ก็จะแลเห็นชายป่าแล้วขอรับ-
อ้ากกกกกกก.......
เสียงแว่วแห่งความเจ็บปวดลอยมาตามสายลมในขณะที่ทั้งหมดกำลังเดินออกจากซุ้มอุโมงค์เถาวัลย์หนา ทำให้ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาอย่างอึดอัด ในขณะที่แมวขนฟูตัวน้อยที่กังวลไม่แพ้กันหันไปเอ่ยปากถามผู้นำทางด้วยความสงสัย
“มี้... แม้ว ม้าว ๆๆ มี้ ม้าว”
-อ่า... ผมว่า เสียงมันใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ รึเปล่าอ่าครับคุณสมิงดำ-
“ฮึ่ม แฮ่ โฮกกกกกกกกกกก”
-ก็อาจเป็นไปได้ ภายในม่านเถาขจี เสียงต่าง ๆ ล้วนก้องสะท้อนจนมิอาจบ่งบอกระยะทางที่แท้จริง ท่านอธิราช รบกวนท่านช่วยนำทางไปก่อน เดินนำไปตามทางที่มีแนวไม้ใหญ่ เดี๋ยวข้าจะคอยระวังหลังให้ขอรับ-
“ฮึ่ม โฮกกก กรรรรรรร”
-จงไว้ใจข้า แต่ให้พวกนั้นหลุดมาบ้างก็ดีนะ จะได้สนุกหน่อย หึ ๆ-
*****-----*****-----*****
“แฮก ๆๆ รอดแล้วใช่ไหม”
“เฮ่ย! ข้างหน้ามีอีกตัว ศรวารี!!”
ซูมมมมมมมมมมมม ตุ้บ ขลุก ๆๆ
ฮึ่ม! โฮกกกกก
หลังจากได้รับคำสั่งจากหัวหน้าปาร์ตี้ให้หลบหนีวิกฤตการณ์กองทัพเสือซุ่มออกมาก่อน โดยส่วนที่เหลือถ่วงเวลาเอาไว้ให้ กองพลเคลื่อนที่ช้าของกิลด์อินทรีดำ 5 นายก็พากันวิ่งกระเซอะกระเซิงหนีตายผ่านมาทางอุโมงค์เถาวัลย์รกทึบ ซึ่งน่ากลัวน้อยกว่าคมเขี้ยวของกองทัพสี่ขาเป็นไหน ๆ
เมื่อเห็นแสงสว่างจากปลายทางโล่งด้านหน้า สมาชิกคนหนึ่งก็รำพึงออกมาด้วยความโล่งใจ หากนักเวทอีกคนกลับแลเห็นสิ่งมีชีวิตสี่ขาที่เดินขวางอยู่ไกลลิบ ๆ ด้วยอารามตกใจจึงปลดปล่อยเวทที่หน่วงไว้เข้าใส่เสือในลานโล่งทันที เวทมนตร์ขั้นสูงไร้เสียงพุ่งออกจากเงามืดในอุโมงค์อย่างรวดเร็ว ปะทะร่างเสือโชคร้ายผู้ไม่ทันตั้งตัวจนกระเด็นกลิ้งออกไปนอนบาดเจ็บอยู่ด้านข้าง
“มันยังไม่ตาย ทุกคนระวัง”
สมิงดำที่นอนบาดเจ็บอยู่กวาดสายตามองสถานการณ์โดยรอบอย่างรวดเร็ว นัยน์ตาสีเงินหรี่ลงอย่างประเมิน ก่อนจะกู่ร้องคำรามแล้วล่องหนหายตัวไป หลงเหลือเอาไว้เพียงรอยเลือดหยดเป็นทางเข้าสู่พุ่มไม้รกทึบ
โฮกกก.........
“เห้ย! มันหายตัวไปแล้ว นั่น... มันหนีเข้าพุ่มไม้ไปทางนั้น”
“อย่าตาม! รวมตัวกันไว้ รอคำสั่งจากท่านรอง”
“เฮ้ย! ตรงโน้นยังมีอีกตัว อ๊ะ! มีคนด้วยว่ะ”
“หน้าสิ่วหน้าขวานอย่างนี้ยิงก่อนถามทีหลังโว้ย ศรวารี!!”
*****-----*****-----*****
“โฮกกก.........”
-สมิงเสมา.........-
เสียงคำรามทางด้านหลังทำให้คณะเดินทางต่างเผ่าพันธุ์หันหลังกลับมามอง ทว่ายังไม่ทันเข้าใจในสถานการณ์ดี เวทศรวารีจำนวนหนึ่งก็พุ่งตรงเข้าหาทั้งสามด้วยความเร็วสูง
“แย่ละ หลบ!”
“กรรรร!”
-เกราะอักขระ!-
ชายหนุ่มผมดำกระโดดหลบฉากออกไปทางด้านข้าง ส่วนพาหนะขนลายที่ไม่ยอมขยับหนี กลับร่ายเวทปล่อยอักขระเรืองแสงสีเขียวมรกตมาวนเวียนเป็นโดมทรงกลมปกคลุมรอบกายรวมไปถึงร่างเล็กด้านบน ดูดซับศรเวทที่พุ่งเข้าหาได้ทันท่วงที
“โฮกกกกกกก ฮึ่ม”
-กำลังคันไม้คันมืออยู่พอดี เข้ามาเลยเจ้าเหยื่อทั้งหลาย-
“มี้... แม้ววว ม้าวววว”
-ง่า... เอาจริงเหรอ นั่นมัน 5 คนเลยนะ-
“ฮึ่ม โฮกกกกกกกกก!!”
-พวกเราก็มีตั้ง 4 กลัวอะไร ลำแสงศักดิ์สิทธิ์!!-
ตู้ม! แว้กกกกกกกกกก......
แมวสีขาวตัวเล็กเหลือบมองตนเองกับนากดนตรีซึ่งยังคงนอนตัวแข็งอยู่ในอ้อมแขนร่างสูงแล้วถอนหายใจเบา
เอ่อ... แต่ 2 ใน 4 นั่นมันตัวแถมชัด ๆ เลยนะลูกพี่
บ่นในใจ แต่ร่างเล็กก็หมอบตัวขยุ้มขนเกาะบนหลังอีกฝ่ายแน่น ส่วนด้านเงาอัคคี เมื่อเห็นเสือตัวน้อยเริ่มลงมือก็เก็บนากสีชมพูเข้าแหวนสัตว์เลี้ยง แล้วเริ่มยิงโต้ตอบบ้าง หากจอมเวทน้ำของฝ่ายตรงข้ามก็ทำให้ต้องหงุดหงิด
“คลื่นดาบไฟ!! ชิ! จอมเวทวารีฝั่งนั้นฝีมือใช่ย่อย”
ยิงโต้ตอบกันไปมา ระยะห่างระหว่างสองฝ่ายจากสุดสายตา ก็ถอยร่นเข้ามาใกล้กันเรื่อย ๆ จนในที่สุดก็มองเห็นกันและกันได้ชัด
“อะฮ่า... นั่นมันเงาอัคคีที่แอบสอดแนมเรานี่”
“ส่วนนั่นก็เจ้าเหมียว 1 เอ็มจอมหลอกลวง น้องกลับมาให้พี่จับแล้วใช่ม้ายยย”
“ชิ! อย่างที่คิด เจ้าพวกหมาหมู่ปีกดำ ท่าจะไม่ดี พวกมันมีมากกว่า ถ้ายังโดนกินพื้นที่มาเรื่อย ๆ อย่างนี้ต้องโดนล้อมแน่ น้องจา! ถอยไปตั้งรับตรงทางแคบ คลื่นดาบเพลิง!!”
ซูมมมม...
คลื่นเพลิงสว่างจ้าลอยละล่องจากปลายดาบ ก่อนจะตกกระทบทำมุมกับพื้น ก่อตัวเป็นกำแพงเพลิงสูงขวางระหว่างสองฝ่าย
“คิดหนีงั้นเรอะ รากพฤกษา!! ปิดวาจา!!”
จอมเวทคำสาปฝ่ายตรงข้ามแก้เกมออกมาโดยการร่ายเวทกับดักถ่วงเวลา อัญเชิญรากของพฤกษาให้เลื้อยพันไปทั่วกายเสือขาวและหนุ่มผมดำ จนขยับไม่ได้แม้แต่จะออกดาบ และต่อด้วยคำสาปปิดวาจาซึ่งระงับการร่ายทักษะใด ๆ ไปชั่วครู่ เหลือไว้เพียงแมวตัวน้อยซึ่งกระโดดหนีรากไม้จากบนหลังเสือขาวลงสู่พื้น จึงหลบคำสาปทั้งสองได้ทันอย่างเฉียดฉิว
“อู้อี้ (เสร็จกัน)”
ซูมมมม ฉ่า...
เสียงเวทวารีจากฝ่ายตรงข้ามพุ่งเข้าดับกำแพงไฟ เกิดเป็นไอน้ำลอยคละคลุ้ง จนเห็นเงาลาง ๆ 5 ร่างหลังม่านไอน้ำค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ ให้แมวน้อยตัวเดียวในกลุ่มที่ยังเป็นอิสระหันมองกลับไปกลับมาอย่างกังวล ในใจคิดว่าตนต้องทำอะไรสักอย่าง
ทะ..ทำไงดี พวกนั้นจะมาถึงแล้ว สกิล..ใช้สกิลสิ ต้องใช้สกิลไล่พวกนั้นไป อ่า... สกิลแต่ละอย่าง ทำไมเหมือนจะทำอะไรไม่ได้เลยละเนี่ย อ๊ะ! จริงสิ
“เมี้ยว ม้าววววววว!”
-ท่านพยัคฆ์ขาวเทพารักษ์คร้าบบบบ!-
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ไหงผมแปลออกเป็นเงี้ย ถถถถถถถถถ
ว่าแต่สมิงดำอ่อนจังนิ จะออกไปให้เค้ายิงทำมายยย