ตอนที่ 25 : เริ่มเคลื่อนไหว
*ลงครั้งแรก 20 มิ.ย. 60
“อ่า... พี่จ๋ายจะไม่เป็นไรแน่เหรอ”
อัศวินสามสีพูดออกมาอย่างลังเลเมื่อย้อนนึกไปถึงการพูดคุยกับพี่ชายในครั้งล่าสุด โดยเฉพาะเสียงตื่นตกใจที่ดังแว่วเข้ามาในสาย กับใบหน้าคู่สนทนาที่ซีดเผือดลงอย่างผิดปกติ คิ้วเรียว ๆ เหนือดวงตาสีฟ้าคู่สวยขมวดเข้าหากัน หางฟูนุ่มตกลู่ลงแล้วแกว่งไปมาอย่างเป็นกังวล
“ไม่ต้องห่วงหรอกน่า ถ้านายไม่รู้ พี่นายได้ชื่อว่าเป็นตัวแท้งค์[1]มือหนึ่งของกิลด์ เลือด[2]เฉียด 5 หมื่น สารพัดสกิลป้องกันอย่างกับรถถังหุ้มเกราะ ไหนจะชุดเซตของอาชีพสายแท้งค์ บวกออพชั่นเพิ่มความถึกเต็มไปหมด นี่ยังไม่รวมว่าตีบวก[3]ขั้นสูงทั้งตัวกับพวกไอเทมป้องกันเฉพาะทางอีก ตัวประหลาดอย่างนั้น ถ้าไม่ทะเล่อทะล่าไปยืนล่อเป้ากลางดงเวทใหญ่นาน ๆ หรือโดนท่าเจาะเกราะก็ไม่ตายง่าย ๆ หรอก ฉันว่า... พวกเราน่าจะห่วงตัวเองมากกว่า”
เงาอัคคีผู้คลุกคลีกับคนที่ถูกเอ่ยถึงมานานเล่าออกมาตามที่ตนเองรู้ ทำให้ชายหนุ่มตัวเล็กเริ่มคลายใจแล้วหันหน้ากลับมามอง หูที่เต็มไปด้วยขนฟูกระดิกน้อย ๆ รอฟังสิ่งที่อีกฝ่ายจะพูดด้วยความสนใจ
“เท่าที่ฉันลองถามสายข่าวที่รู้จัก ดูเหมือนพวกกิลด์อินทรีดำนั่นจะเอาจริง พวกมันเล่นส่งทีมสำรวจออกไปทุกทิศรอบเมืองเริ่มต้น ถ้าขืนเรายังช้าอยู่อย่างนี้ พวกมันต้องทำเควสท์เสร็จก่อนแน่ แถมยังมีข่าวแบบยังไม่ได้ยืนยันว่าพวกมันส่งทีมออกตามหาพวกเราอีก ถึงฉันจะใช้สกิลตรวจดูแล้วว่าแถวนี้ปลอดภัย แต่เดินทางไป ยังไง ๆ ก็น่าจะได้เจอ”
เงาอัคคีพูดพลางกวาดสายตามองไปรอบซากปรักหักพังของอาคารศิลาโบราณที่พวกตนอาศัยกางเต็นท์หลบสัตว์ร้ายอยู่ ก่อนจะมองเลยออกไปยังป่าโปร่งด้านนอก ที่ดูเงียบสงบลึกลับในยามค่ำคืน
“พวกนั้นจะหาพวกเราไปทำไมน่ะ จะลักพาตัว ก่อกวน หรือ เอ่อ... ลอบฆ่างั้นเหรอ”
พูดเองคนตัวเล็กก็หน้าซีดลงเอง จนผู้มีประสบการณ์ต้องแก้ความกังวลใจให้
“ไม่น่าจะนะ ถ้าดูจากที่ผ่านมา ถึงพวกปีกดำจะชอบแข่งขัน ใช้เล่ห์กล เอาชนะด้วยช่องว่างของกฎ หรือบางทีก็ใช้ทุนกับคนที่มากกว่าเข้ากดดันบ้าง แต่ก็ไม่เคยมีประวัติเล่นสกปรกจริงจัง ถ้าเป็นพวกอาชาทมิฬค่อยว่าไปอย่าง”
“แต่ว่า...”
ร่างเล็กกำลังจะพูดถึงเรื่องที่ตนเคยโดนหัวหน้ากิลด์หน้าสวยลักพาตัวไป แต่เมื่อนึกขึ้นมาได้ว่านั่นคือตอนที่ยังเป็นแมวบ้องแบ๊วขนฟู ก็เปลี่ยนใจ
“ถ้าเดาไม่ผิด พวกมันน่าจะอยากรู้ที่ตั้งของอักขระปริศนาที่พวกเราเจอมากกว่า ฉันก็กำลังสงสัยอยู่ ว่าที่ที่พวกมันเจอเควสท์ปริศนาอาจจะไม่ใช่ทะเลสาบที่เราเจอก็ได้ ถ้าดูจากเวลาแล้ว คืนที่พวกเราเจอเควสท์นั่นเป็นคืนเดือนมืด ‘ปริศนาจากดวงดาวที่ปรากฏขึ้นยามไร้ซึ่งแสง’ น่าจะตีความได้ว่าคืนที่ไม่มีแสงอะไรเลยแม้แต่แสงจันทร์ คืนเดือนมืดครั้งล่าสุดก็คือคืนที่พวกเราไปเจอเควสท์นั่นแหละ แถมคืนนั้น นอกจากเราก็ไม่มีคนอื่นอีก ไม่มีเสียงประกาศต่อ เป็นไปไม่ได้ที่พวกนั้นจะเจอเควสท์ที่เดียวกับเรา”
“อืม... ถ้างั้น นายหมายความว่าพวกนั้นจะสะกดรอยพวกเราไปเอาแสงจากอักขระที่ทะเลสาบ แล้วก็ส่งคนอื่นไปเก็บแสงจากที่ของตัวเองสินะ อ๊า! งั้น ๆๆๆ ง่า...”
ดวงตาสีฟ้าใสเบิกกว้าง หันไปหันมาอย่างตื่นเต้น ก่อนจะกลับมาห่อเหี่ยวเอนตัวราบไปกับก้อนหินใหญ่ด้านหน้า เมื่อมองไม่เห็นใครอื่นนอกจากพวกตน
“แล้วพวกเรามีกันแค่ 2 คน จะไปสู้ได้ยังไงละเนี่ย พวกพี่จ๋ายก็กำลังยุ่งกันด้วยอะ”
“อะไร ๆ มันก็ไม่แน่หรอก ถ้าอักขระของปริศนาเควสท์นรกมันหาได้ง่ายขนาดนั้น มันคงไม่เหลือรอดไม่เคยมีคนเจอมานานขนาดนี้ ของบางอย่าง ถ้าไม่มากับดวง มี NPC อุปถัมภ์ ก็ไม่ได้มาหรอกนะ แล้วคนที่มีดวงอย่างนั้น ฉันก็เห็นอย่างน้อยคนหนึ่งล่ะที่นั่งอยู่ตรงนี้”
เงาอัคคีหันมองมา แล้วยิ้มให้อย่างมีเลศนัย
“อีกอย่าง เราก็ไม่ได้มีกันแค่ 2 คน จริงไหม ‘ปราบแมว’”
“แอ๊บ ๆ อี้”
-ใช่ครับ เจ้านาย!-
“อ่า...”
“ตอนนี้ฉันสงสัยมากกว่า ว่าถ้าแสงอักขระปรากฏแค่ในเวลาที่ไม่มีแสงอะไรเลยจริง ๆ แล้วพวกนั้นไปได้เควสท์วันอื่น หลังจากคืนเดือนมืดที่ผ่านมาได้ยังไง”
“อาจจะเป็นที่ประหลาด ๆ มืด ๆ อย่างตามถ้ำก็ได้นี่”
“หืม... เป็นไปได้”
ชายหนุ่มผมดำสะบัดข้อมือให้กำไลพลิกขึ้น แล้วตวัดมือใหญ่อีกข้างวาดไปมาในอากาศอย่างรวดเร็ว
“ผาอันไร้ยอด มายาแห่งทุ่งหญ้ากว้าง ทางลึกลับแห่งผืนป่า ผืนน้ำกว้างใหญ่... ผืนน้ำนั่นคือทะเลสาบมรกตแน่ ๆ ผาไร้ยอดกับทุ่งหญ้า ก็ไม่น่าจะมืดสนิทในคืนอื่นได้ ถ้าอย่างนั้น ที่ที่พวกปีกดำเจอก็น่าจะเป็นทางลึกลับแห่งป่า”
“งืม ๆๆ”
“อีก 6 วันข้างหน้าก็จะคืนเดือนมืดครั้งต่อไปแล้ว ในฐานะตัวนำโชค นายว่าพวกเราควรขึ้นเหนือไปสำรวจแถบภูเขา สำรวจเขตทุ่งหญ้าทางตะวันตก หรือสำรวจเขตป่ารอบ ๆ แล้วรอเก็บอักขระที่ทะเลสาบก่อนดีครับ นายท่าน”
“มีฝูงอินทรีนำทางอย่างงี้ก็ต้องตามไปเขตป่าสิ ว่าแต่ ผมไม่ใช่ตัวนำโชคนะเว้ยเฮ้ย!”
“อี้ ๆๆ แอ๊บ อี้”
-ฮะ ๆๆ รุ่นพี่ตลกจังครับ-
*****-----*****-----*****
“รายงานมา”
ร่างระหงในชุดคลุมนักเวทสีม่วงกำมะหยี่หรูหราค่อย ๆ ยกถ้วยชาหอมกรุ่นขึ้นจิบ มืออีกข้างวางพาดบนขอบหน้าต่างแกะสลักงดงามบนชั้น 5 ของอาคารศิลาสูง ดวงตาทรงอำนาจทอดมองออกไปไกล ในขณะที่สั่งให้หน่วยข่าวของกิลด์รายงานความก้าวหน้า
"ทางด้านแท่นอักขระแห่งดงเสือผ่าน ท่านรองสะบั้นเมฆาอาสาจะนำปาร์ตี้ของท่านบุกเข้าไปเองครับ ตอนนี้ท่านรองกำลังจัดไอเทมเตรียมออกเดินทางอยู่ คาดการณ์ว่าเราน่าจะฝ่าฝูง ‘พยัคฆ์มนตรา’ เข้าไปเก็บแสงอักขระได้ไม่ยากเท่าไหร่ นั่นหมายถึงถ้าไม่เจอ ‘พยัคฆ์ขาวเทพารักษ์’ บอสเจ้าถิ่นที่ชอบเดินทางไปมาระหว่างเมืองเริ่มต้นกับป่าสีเงิน แต่ถ้าโชคร้ายต้องปะทะกับพยัคฆ์ขาวเทพารักษ์ ทางท่านรองประเมินออกมาว่า ทางเราอาจจะได้รับความเสียหายหนักจนต้องล่าถอยครับ"
“พยัคฆ์ขาวเทพารักษ์... มีรายละเอียดไหม”
“เท่าที่เราทราบ พยัคฆ์ขาวเทพารักษ์ เป็นบอสระดับ 150 ที่ไม่มีคนรู้จุดเกิดแน่นอน จากรายงาน มีผู้เล่นพบเห็นในเขตพื้นที่ที่ค่อนข้างกว้าง พบตั้งแต่ป่าเมืองเริ่มต้นไปจนถึงป่าสีเงินเลยครับท่าน แต่ในช่วงหลายเดือนในเกมมานี่ มีคนเจอมันในเขตเมืองเริ่มต้นบ่อยขึ้นมาก ทางกิลด์เรายังไม่เคยปะทะบอสตัวนี้จริงจัง แต่จากสายข่าวอื่นรายงานว่า บอสตัวนี้เป็นธาตุศักดิ์สิทธิ์ เคลื่อนที่ได้เร็วมาก ค่าพลังป้องกันระดับกลางแต่พลังป้องกันเวทมนตร์สูง โจมตีระยะประชิดได้รวดเร็ว และร่ายเวทใหญ่เป็นธาตุศักดิ์สิทธิ์ได้รุนแรงมากครับ”
"อืม... กลับไปแจ้งท่านเสนานครให้ลองคิดหาทางรับมือให้ด้วย"
"ได้ครับท่าน"
"แล้วแผนตามหาอักขระอื่นตามวิธีของท่านเสนา ลงมือไปถึงไหนแล้ว"
"กำลังคนที่เหลือ เราได้จัดปาร์ตี้ค้นหา กระจายกำลังออกไปทั้ง 3 ทิศ เขตภูเขาทางเหนือ เขตทุ่งหญ้าทางตะวันตก และเขตป่าทางใต้เมืองเริ่มต้น ตามที่ท่านเสนาแนะนำแล้วครับท่านราชันย์"
รายงานไป ชายหนุ่มชุดดำก็ได้ใจชื้น ที่ตนยังไม่เจอไอยะเยือกปริศนาตามคำร่ำลือจากหน่วยข่าวรุ่นพี่เลยสักครั้ง
“แล้วทางเงาอัคคี...”
“เอ่อ... จากรายงาน จุดที่พบเห็นจุดสุดท้าย คือในขณะที่เงาอัคคีอุ้มบุคคลปริศนาออกนอกประตูเมืองเริ่มต้นเข้าไปยังป่าทางทิศใต้ หลังจากนั้นก็ไม่มีใครพบเงาอัคคีอีกเลยครับ”
นัยน์ตาคมกริบสีทองตวัดกลับมามองผู้รายงานอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้ถูกจ้องมองรู้สึกถึงไอเย็นยะเยือกที่พัดผ่านไปวูบหนึ่ง จนต้องห่อตัวเข้าหากันน้อย ๆ
“รู้ไหม ว่าคนคนนั้นคือใคร”
“อะ..เอ่อ... สายของแจ้งว่า ตอนที่รออยู่หน้าประตูป้อม ทันเห็นว่าชายปริศนาชื่ออัศวินสามสีครับ แต่พอจะใช้ทักษะตรวจสอบ กะ..กลับโดนเงาอัคคีเอาผ้าคลุมขึ้นปกปิดสถานะก่อน เลยไม่สามารถให้รายละเอียดเพิ่มเติมได้ครับท่าน”
นัยน์ตาทรงอำนาจสีทองหรี่ลงเล็กน้อยอย่างครุ่นคิด ปล่อยให้ความเงียบปกคลุมไปชั่วครู่ ให้อีกฝ่ายได้แอบลุ้นกับคำถามต่อไปอยู่ในใจ
“แล้วแมวน้อย... อัศวินสามสีที่หายไปล่ะ”
โดยไม่ทันตั้งตัว อยู่ ๆ หน่วยข่าวมือใหม่ก็สัมผัสได้ถึงไอเย็นยะเยือกแปลกประหลาดที่แทรกซึมในบรรยากาศรอบตัว
“เอ่อ... จากที่มีการพบเห็นล่าสุดคือ ท่านผู้เฒ่าไม้เท้าแดงอุ้มเจ้าเหมียวอัศวินสามสีเข้าไปในป้อมศิลาเมื่อวานตอนบ่าย หลังจากดับไฟที่หอสังเกตการณ์เรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นก็ยังไม่มีใครพบเห็นเจ้าแมวน้อยอีกเลยครับท่าน”
“ที่เดียวกันสินะ...”
รอยยิ้มเย้ยหยันปรากฏบนมุมปากของใบหน้าหวานก่อนที่จะหมุนร่างไป ทำให้หน่วยข่าวมือใหม่ที่ทันได้เห็นเกิดขนลุกซู่ขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ พร้อมกันก็รู้สึกได้ถึงไอเย็นยะเยือกที่แผ่ซ่านกำจาย โดยสันนิษฐานว่ามีต้นเหตุมาจากร่างระหงเบื้องหน้า จนต้องยกมือขึ้นกอดแขนตนเองแล้วลูบเบา ๆ
“ถ่ายทอดคำสั่งออกไป พยายามจับตัวอัศวินสามสีมาให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นคนหรือแมว ส่วนเงาอัคคี...”
ร่างสูงเพรียวหันกลับมาจ้องตาหน่วยข่าวผู้น่าสงสารที่เริ่มจะหน้าซีดตัวสั่น
“ส่งมือดีสะกดรอยตามไปเพิ่ม ทำตามที่ท่านเสนาเคยแนะนำ สืบข่าวและขัดขวางการทำเควสท์ให้ถึงที่สุด ถ้าจะมีการปะทะ ก็ไม่ต้องออมมือ!”
“คะ..คะ... ครับ ทะ..ท่านราชันย์”
*****-----*****-----*****
“จำที่บอกได้ใช่ไหม”
“จำได้น่า! นายย้ำมาเป็นรอบที่ 10 แล้วนะ ถ้าเจอพวกปีกดำ นายจะล่อพวกมันไป ให้ฉันแปลงเป็นแมวแล้วใช้สกิลพรางจิตซ่อนตัวอยู่นิ่ง ๆ มาร์คตำแหน่งของตัวเองบนแผนที่ รอให้นายมารับ”
“ถ้าเจอสัตว์อสูร...”
“ถ้าเจอสัตว์อสูรเข้ามาใกล้ ๆ ก็ให้หนีขึ้นต้นไม้ไว้ก่อน แล้วใช้สกิลพรางจิตซ่อนตัวอยู่เงียบ ๆ เรื่องแค่นี้ผมจำได้น่า!”
“อืม... นี่ก็สายแล้ว งั้นพวกเราเดินทางเลยละกัน”
“มันก็น่าจะเป็นอย่างนั้นตั้งนานแล้ว!”
“แอ๊บ อี้ ๆ! แอ๊บ อี้ ๆ!”
-เดินทาง! เดินทาง!-
และแล้วในวันนั้น ท่ามกลางเหล่าพฤกษาและนกน้อยในพงไพร ชายหนุ่มสองคนต่างเผ่าพันธุ์ เดินเคียงคู่กันเข้าไปในเขตป่าลึกทางตะวันออกของเมืองเริ่มต้น เสียงใส ๆ ของคนตัวเล็กบ่นออกมาเป็นระยะ สลับกับเสียงร้องครื้นเครงของนากดนตรีตัวใหญ่ที่วิ่งวนไปมาอยู่รอบ ๆ โดยมีเสียงนุ่มทุ้มของชายหนุ่มอีกคนตอบรับอย่างระอาเป็นครั้งคราว
*****-----*****-----*****
หมายเหตุ
[1] แท้งค์ (Tank) ผู้เล่นที่มีพลังชีวิตและพลังป้องกันสูง มันเป็นด่านหน้าในการรับมือกับศัตรู เพื่อให้คนอื่นที่มีพลังชีวิตน้อยแต่พลังโจมตีสูงกว่าเป็นฝ่ายสร้างความเสียหาย
[2] เลือด ค่าพลังชีวิตของตัวละครในเกม
[3] ตีบวก การอัพเกรดอาวุธหรือชุดเกราะด้วยวัสดุหายากเช่น แร่ หรือ อัญมณี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับของสวมใส่ชิ้นนั้น ๆ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

759 ความคิดเห็น
-
#677 milk-m.g.m (จากตอนที่ 25)วันที่ 24 มิถุนายน 2561 / 18:22อยากหยิกแก้มน้องแมววว#6770
-
#263 Whatever it is (จากตอนที่ 25)วันที่ 21 มิถุนายน 2560 / 13:34น่ารักมากกก#2630
-
#262 แมวดำ มุ้งมิ้ง (จากตอนที่ 25)วันที่ 20 มิถุนายน 2560 / 18:29ถถถถถ ตามหาน้องจาสุดขอบโลกสินะ 55+#2620
-
#261 Tari (จากตอนที่ 25)วันที่ 20 มิถุนายน 2560 / 14:29สงสารคนสวย ตามหาน้องจาหนักมาก คนสวยจะคู่ใครป่ะเนี่ย -..-?#2610
-
#260 เต่าน้ำ (จากตอนที่ 25)วันที่ 20 มิถุนายน 2560 / 09:13ชอบบรรนากาสเรื่องนี้มากเลยค่ะ น่ารักดี น้องจาาาา 55#2600
-
#259 KARENA (จากตอนที่ 25)วันที่ 20 มิถุนายน 2560 / 08:31อ่าาาาาาา น่าร้ากกกกก อยากอ่านต่อแล้วววว 555 ขอบคุณค่ะไรท์ รอๆค่ะ#2590
-
#258 Morte'de angelo (จากตอนที่ 25)วันที่ 20 มิถุนายน 2560 / 08:14อยากเห็นช็อตพี่หลงน้องจะแย่แล้ววว เมื่อไหร่พี่จ๋ายจะได้เจอน้องจา ฮืออออออ นั่ลร้ากกกก#2580