ตอนที่ 15 : โจรลักพาตัว...อีกครั้ง
*ลงครั้งแรก 20 พ.ค. 60
ผมคิดว่าผมกำลังถูกลักพาตัว... อีกครั้ง
อัศวินสามสีที่กำลังนั่งอยู่บนเตียงนุ่มหลังใหญ่หันไปมองรอบตัว ก่อนจะถอนหายใจอย่างปลง ๆ ให้กับตัวเอง
เฮ้อ~
เล่นเกมมายังไม่ถึงวันก็โดนลักพาตัวมาตั้ง 2 รอบ ทำไมร่างนี่ถึงพาให้ดวงซวยได้ขนาดนี้เนี่ย แถมเท่าที่เทียบดู ครั้งที่แล้วเหมือนเป็นฝีมือโจรกระจอกที่แค่ปิดปากแล้วอุ้ม ส่วนครั้งนี้... น่าจะเรียกว่าเป็นกระบวนการลักพาตัวเรียกค่าไถ่ อืม...อย่างเต็มรูปแบบซะด้วย
เจ้าตัวเล็กขนฟูหวนนึกไปถึงเสียงสุดท้ายที่ได้ยินก่อนที่ตนจะสลบไป สลับกับจ้องมองกลุ่มคนแปลกหน้าในห้อง
ตอนนั้น เจ้าคนที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าตาสีทองนี่ท่องอะไรงึมงำก็ไม่รู้ แต่มันลงท้ายด้วย ‘จงนิทรา’ แน่ ๆ อ่า... การโปะยาสลบเวอร์ชันเกมสินะ
แมวน้อยคิดพลางจ้องมองไปที่เจ้าตัวหัวหน้าก่อนจะพยักหน้ากับตัวเอง
บนโซฟาเดี่ยวกำมะหยี่หรูหราด้านหน้าร่างเล็กเป็นชายหนุ่มสูงสง่าในชุดคลุมสีม่วงเข้มขลิบทองของนักเวทระดับสูงที่ดูคุ้นเคย หากตอนนี้หมวกฮู้ดคลุมได้ถูกดึงไปไว้ด้านหลังแล้ว เผยให้เห็นใบหน้าสวยติดจะหวานแต่เย็นชากับนัยน์ตาสีทองทรงอำนาจ เรือนผมสีเงินเปล่งประกายถูกทอเป็นเปียหลวม ๆ เปียเส้นใหญ่ยาวตวัดพาดวางไว้บนไหล่ซ้าย ยามที่ชายหนุ่มนั่งไขว่ห้างเอนหลังพิงโซฟาเช่นนี้ ปลายเปียเส้นยาวห้อยพาดลงมาถึงบนหน้าตัก ชื่อที่ปรากฏขึ้นบนหัวของชายหนุ่มคือ ‘ราชันย์ปีกนิล’
อ่า... เหมือนจะฟังดูคุ้นๆแต่ก็ไม่รู้จักแฮะ แต่ชื่อไฮโซ ของใช้ก็หรูอย่างงี้ คิดยังไงมาเป็นโจรละเนี่ย
แม้จะโดนนั่งจ้องอยู่เนิ่นนาน เจ้าของร่างสูงก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะรำคาญหรือรู้สึกตัว เจ้าตัวมัวแต่ยุ่งวุ่นวายกับการแตะจิ้มนิ้ววาดไปมาบนอากาศเหมือนกำลังจัดการหน้าต่างที่แมวน้อยมองไม่เห็น แถมยังต่อด้วยบทสนทนายืดยาวไร้เสียงกับหน้าต่างล่องหน ดั่งกำลังคุยกับใครสักคนสองคนอย่างเคร่งเครียดยังไงอย่างงั้น
กำลังเจรจาเรียกค่าไถ่อยู่สินะ เรียกไปตอนนี้ก็ไม่มีใครอยู่หรอก ก็พี่จ๋ายกับเพื่อน ๆ ไปเรียนกันหมดแล้วนี่ เลือกเวลาผิดไปหน่อยนะ..คุณโจร
แมวน้อยคิดในใจก่อนจะมองเลยออกไปทางด้านหลังชายหนุ่ม เยื้องไปทางซ้ายหลัง ‘ราชันย์ปีกนิล’ ชายแก่ในชุดพ่อบ้านกำลังลำเลียงชุดน้ำชาและจานขนมจากถาดเงินในมือข้างหนึ่งลงบนโต๊ะตัวเล็กด้านข้างอย่างแผ่วเบา ถัดออกไปด้านริมผนัง มีชายหนุ่ม 5 คนต่างความสูงในชุดคลุมสีดำคลุมหน้าคลุมตายืนเรียงแถวนิ่ง
ส่วนเจ้าพวกนี้ก็คงจะเป็นสมุนโจรเรียกค่าไถ่ มายืนกันเต็มอย่างนี้กลัวผมชิ่งหนีล่ะสิ ใส่กันดำ ๆ คลุมหน้าคลุมตา ดูท่าทางจะโหดกันใช่ย่อย อ่า... ยกเว้นคุณลุงคนนั้นไว้คนนึงละกัน มีขนมเยอะอย่างงั้นต้องใจดีมากแน่ ๆ
แมวน้อยมองตามจานขนมท่าทางน่ากินดวงตาเป็นประกาย กลิ่นขนมอบหอม ๆ ที่ลอยตามลมทำเอาท้องเล็ก ๆ ร้องสนับสนุนความคิดของเจ้าของ
ฮึ! คุณลุงอุตส่าห์ยกมาทั้งที ส่วนเจ้าโจรก็ยังไม่ว่างจะเริ่มเจรจา ถ้าทิ้งไว้ขนมอุ่น ๆ ไว้จนเย็นละก็น่าสงสารแย่ เพื่อไม่ให้น้องขนมอุ่น ๆ เสียใจงั้นผมของาบก่อนละกันเน้อ~
“เมี้ยววว”
-ขนมจ๋า-
กระโดดขึ้นโต๊ะไปยังไม่ทันได้เฉียดเข้าใกล้จาน เจ้าตัวขนฟูก็ถูกหิ้วคอขึ้นห้อยต่องแต่งโดยชายแก่ที่แอบชมในใจว่าใจดีนักหนา
“จุ๊ ๆๆ ไม่ได้นะเจ้าเหมียวไร้มารยาท นี่ของคุณชายท่าน ถ้าจะทานก็ต้องให้ท่านอนุญาตซะก่อน”
“เมี้ยว ๆๆๆ มี้ ง้าวว มี้ ม้าวววว”
-ไม่นะคุณตา คุณขนมอุ่น ๆ รอผมอยู่อ่า ไม่นะ ม่ายยย-
*****-----*****-----*****
ในขณะเดียวกัน
เจ้าของนัยน์ตาสีทองเอ่ยปากถามบุคคลในสายอย่างคร่ำเคร่ง
“ได้ความว่ายังไง”
“สายของเราแจ้งมาว่า แมวน้อยชื่ออัศวินสามสีเป็นของผู้เล่น ‘เงาอัคคี’ อดีตมือโจมตีอันดับหนึ่งของกิลด์หงส์เพลิงครับ มีคนพบผู้เล่นเงาอัคคีเดินทางกับแมวตัวเล็กแถบ ๆ เมืองเริ่มต้นเมื่อหลายวันก่อน แล้วเมื่อสี่วันก่อนหน้านี้ คนของเราเคยพบว่าผู้เล่นเงาอัคคีพยายามฝึกการต่อสู้ให้มันอยู่นอกเมืองวารินทร์ด้วยครับ”
“อืม... เวลาที่พบนั่นคือหลังจากเงาอัคคีค้นพบปริศนาเมืองดาราพิทักษ์ใช่ไหม”
“ใช่ครับ”
“แล้วมีอะไรยืนยันว่าแมวตัวนั้นเป็นสัตว์เลี้ยงของเงาอัคคีรึเปล่า”
“เท่าที่ทราบมา แมวตัวนั้นสามารถเปิดกระเป๋ามิติของผู้เล่นเงาอัคคีได้อย่างอิสระเหมือนสัตว์เลี้ยงบางประเภท แต่ก็ไม่พบว่าผู้เล่นเงาอัคคีเคยเก็บแมวเข้าไอเทมเก็บสัตว์เลี้ยงมาก่อน แต่อาจจะเป็นเพราะไม่มีไอเทมเก็บสัตว์เลี้ยงติดตัวอยู่ก็ได้ สายของเราจึงไม่กล้ายืนยันครับ”
“อืม... แล้วเท่าที่รู้ มีวิธีอะไรทดสอบการเป็นสัตว์เลี้ยงหรือสัตว์อสูรไหม”
ชายหนุ่มหน้าหวานเอ่ยถาม พร้อมกับเหลือบนัยน์ตาคู่สีทองสวยไปมองแมวขนฟูตัวน้อยที่กำลังถูกหิ้วหลังคอ ดิ้นไปมาอยู่กลางอากาศ
“เท่าที่ทราบ หากเป็นสัตว์อสูรไร้นายจะสามารถเอ่ยปากขอให้ยอมรับเป็นสัตว์เลี้ยงหรือใช้ปลอกคอจับสัตว์ระดับสูงบังคับให้เป็นสัตว์เลี้ยงได้ครับ จะมีเสียงจากระบบแจ้งเป็นการยืนยันว่าสำเร็จหรือไม่ หากสัตว์อสูรนั้นมีเจ้านายอยู่แล้ว ระบบก็จะแจ้งบอกอย่างชัดเจนครับท่าน”
“แล้วถ้าสิ่งที่เราพยายามจับเป็นสัตว์เลี้ยง..เป็นผู้เล่นล่ะ”
นัยน์ตาทรงอำนาจยังคงจับจ้องอยู่ที่ร่างแมวขนฟูตัวเล็ก ที่แกว่งตัวมาข่วนมือพ่อบ้านของตนให้ตกใจจนปล่อยมือ ก่อนที่จะพลิกตัวลงสู่พื้นห้องได้ในที่สุด
“เอ่อ... เรื่องนั้น... ทางเราไม่เคยมีรายงานมาก่อนครับท่าน”
“อืม ไม่เป็นไร ขอบใจมาก ให้คนของเราสะกดรอยเงาอัคคีต่อไป และคอยรายงานมา... ทุกเรื่อง”
“ได้ครับ...ท่านราชันย์”
ติ๊ด
*****-----*****-----*****
เงาดำที่พาดผ่านร่างทางด้านหลังทำให้อัศวินสามสีต้องหันมามอง ก่อนที่จะขนพองหางชี้ขึ้นด้วยความตกใจ แต่พอสบกับสายตาทรงอำนาจสีทองที่จ้องมองมาคู่นั้น หางก็อดตกลู่หูก็อดลาดลงด้วยความเกรงกลัวไปไม่ได้
“อยากทานขนมจานนั้นเหรอ... เจ้าเหมียว”
บุรุษในชุดคลุมสีม่วงถามด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้มอย่างเนิบ ๆ
เสียงก็ดูน่าจะใจดีนะ แต่ทำไมถึงขนลุกแปลก ๆ ละเนี่ย
แมวตัวน้อยเหลือบมองอีกฝ่ายอย่างหวาดระแวงสลับกับขนมอุ่น ๆ จานนั้น ก่อนจะพยักหน้าลงช้า ๆ
หงึก ๆ
“ฟังฉันรู้เรื่องสินะ”
ชายหนุ่มหันหลังเดินกลับไปยังโซฟาตัวใหญ่ เผยให้เห็นผมเปียสีเงินยาวจรดบั้นเอว ที่แกว่งไปมาน้อย ๆ ตามจังหวะก้าวเดิน
อา... น่าตะครุบเล่นชะมัด เอ๊ย... ไม่ใช่
ชายหนุ่มทรุดร่างสง่านั่งลงบนโซฟากำมะหยี่นุ่มตัวเดิมอย่างเชื่องช้าด้วยท่าทางเหมือนราชนิกุลชั้นสูง ก่อนจะเอื้อมมือซ้ายไปหยิบจากขนมอบอุ่น ๆ บนโต๊ะด้านข้างอย่างแผ่วเบา แล้วยื่นมาตรงหน้า
“ถ้าอยากทานนัก... ก็มาสิ”
ท่าทางดูเป็นมิตรพร้อมกับรอยยิ้มเล็ก ๆ บนใบหน้าสวย หากดวงตาทรงอำนาจที่จ้องตรงมาก็ทำให้ร่างฟูลังเลไปเล็กน้อย
โครกกก....
ท่ามกลางความลังเล อยู่ ๆ ท้องของแมวน้อยก็ร้องประท้วงขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ ทำเอาอีกฝ่ายหลุดหัวเราะออกมาเบา ๆ ให้ดวงตาสีฟ้าใสได้แต่เสหลบ หางเป็นพวงแกว่งไปมาด้วยความเขินอาย
“นอนหลับไปสองวันสองคืน นายคงหิวแย่แล้ว... มาเถอะ”
เสียงนุ่มทุ้มฟังดูใจดี ล่อลวงให้เจ้าเหมียวตัดสินใจเดินเข้าไปใกล้ จานที่วางลงบนตักทำให้อัศวินสามสีตัดสินใจกระโดดขึ้นไปอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ แต่พอไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นก็ก้มลงทานขนมน่ากินในจานอย่างเอร็ดอร่อย
ผมมาช่วยแล้วครับ คุณขนม!
ทานไปสักพักก็รู้สึกถึงมือนุ่มที่ลูบไล้อย่างแผ่วเบาจากหัวมายังต้นคอ การกระทำนุ่มนวลทำให้เจ้าเหมียวชะงักไปเล็กน้อย แต่ก็กินต่อไปเมื่อไม่เห็นว่ามีอะไรผิดปกติ สัมผัสนุ่มนวลยังคงมีต่อไปอีกสักพัก จนความอึดอัดรอบลำคอเข้ามาแทนที่พร้อมกับเสียงเล็ก ๆ ของโลหะ
กริ๊ก...
เสียงประหลาดแผ่วเบากับความอึดอัด ทำเอาแมวน้อยตกใจดีดตัวออกห่างพร้อมกับพยายามตะกุยสิ่งแปลกปลอมรอบลำคอตน
“อืม... มีเจ้านายแล้วจริง ๆ ด้วยสินะ กำลังคิดว่าบ่วงมังกรนั่นเหมาะกับนายมากแท้ ๆ น่าเสียดาย ๆ”
“แม้ว ๆๆ มี้ ม้าวววว”
-นายทำอะไรกับคอฉันน่ะเจ้าบ้า-
แมวน้อยร้องประท้วงออกมาด้วยความไม่พอใจ ความอึดอัดบริเวณลำคอทำนัยน์ตาสีฟ้าคู่สวยคลอไปด้วยน้ำใส หากแต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะแค่มองผ่านความเปลี่ยนแปลงนั้น
ก๊อก ๆๆ
“เข้ามา”
“ท่านราชันย์ปีกนิลครับ รองหัวหน้ากิลด์... ท่านสะบั้นเมฆา มาขอพบ แจ้งว่าจะมารายงานเรื่องการบุกเบิกดันเจี้ยนใหม่ในป่ามายาครับ”
“อืม... รู้แล้ว เดี๋ยวตามไป”
บุคคลแปลกหน้าในชุดคลุมดำยาวทั้งตัวโค้งทำความเคารพเล็กน้อยก่อนที่จะออกไป
“ถึงนายจะมีเจ้าของแล้วก็เถอะ แต่ดูเหมือนว่า ฉันมีเรื่องจะต้องถามนายอีกเยอะ... และอาจจะรวมไปถึงเจ้านายของนายด้วย ระหว่างนี้ก็เป็นเด็กดีรออยู่ที่นี่ล่ะ... อัศวินสามสี”
ปึง!!
พูดจบ ชายร่างสูงในชุดคลุมสีม่วงเข้มก็เดินนำหน้าพาร่างสูงของตนเองและผู้ติดตามจำนวนหนึ่งหายลับประตูไป ทิ้งไว้เพียงร่างในชุดคลุมดำอีกสองนาย ที่เหมือนจะคอยเฝ้าแมวตัวน้อยไว้ไม่ให้หนีไปไหน
ฮึ! คิดว่าแค่นี้จะขังผมได้งั้นเหรอ คอยดูเถอะกลับมาคราวหน้าจะเอาคืนให้เข็ด
โดยไม่มีใครเห็น แมวขนฟูตัวน้อยแสยะยิ้มชั่วร้ายแล้ววิ่งหลบหลังโซฟาตัวใหญ่ ก่อนจะสลายร่างกลายเป็นแสงไปอย่างไม่มีใครรู้
แล้วอีกหลายวันต่อจากนั้น ทุกคนในที่ทำการกิลด์อินทรีดำประจำเมืองเริ่มต้น ก็ต้องรับคลื่นความหนาวเย็นเหมือนจะแช่แข็งทุกชีวิตที่แผ่ออกมาจากร่างหัวหน้ากิลด์หน้าหวาน สาเหตุคร่าว ๆ ของการปล่อยรังสีเยือกแข็งที่รุนแรงขึ้นมากกว่าเดิม จากที่ปกติก็แทบจะไม่มีใครต้านทานได้อยู่แล้วคาดว่าคือ... แมวหาย!? ว่ากันว่าหัวหน้ากิลด์หน้าสวยสนใจแมวตัวน้อยตัวนึ่งเป็นพิเศษ จนรีบเดินทางทั้งวันทั้งคืนพาเจ้าเหมียวกลับมาไว้ที่กิลด์ แต่เมื่อเจ้าตัวเล็กตื่นมาได้ไม่ถึงวัน ยังไม่ทันได้ผูกพันเป็นสัตว์เลี้ยง เจ้าขนฟูตัวนั้นก็หายตัวไปในตึกกิลด์ที่ขึ้นชื่อว่ามีความปลอดภัยระดับสูงที่สุดแห่งหนึ่งโดยไร้ร่องรอย ไม่มีแม้แต่ผู้เดียวที่พบเห็น
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ปล.รอไรท์ที่ท่าน้ำแป้ป