ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สายลมห่มดอกไม้ (ติดเหรียญ เริ่มตอน 12)

    ลำดับตอนที่ #8 : ตอนที่ 4 มีผัวไม่รุ่ง

    • อัปเดตล่าสุด 5 พ.ย. 64


     

    สามวันต่อมาพี่ชายคนเดิมมาหาเด็กหนุ่มที่ร้านขายดอกไม้อีกรอบ ซึ่งวันนี้เป็นวันธรรมดา และกะทำงานมีแค่ช่วงเย็นอย่างเดียว เด็กหนุ่มจึงใช่เวลาว่างหลังเลิกเรียนจากมหาลัย A มารับจ๊อบ

    “นนท์พี่ลืมบอก ขอทะเบียนบ้านกับบัตรประชาชนด้วยน้อง” 

    สองมือเกาะรอน้องอยู่ตรงเคาน์เตอร์คิดเงิน และกำลังนั่งบนเก้าอี้มีพนักพิงและหมุนได้ 

    “พี่หนึ่ง รอนนท์สักครู่นะครับ” 

    ที่ต้องรอก่อน เพราะน้องกำลังง่วนกับการบำรุงดอกไม้หลายหลายสายพันธุ์ ทั้ง จำปี จำปา กะดังงา และ กุหลาบหลายสี เยบีร่าก็มี ถัดไปอีกหน่อยยังมี มะลิ บุหงา และ สร้อยทอง และที่ต้องใส่ปุ๋ยบำรุงต้นไม้ ก็เพราะร้านขายดอกไม้ที่เด็กหนุ่มทำงานอยู่ไม่ใช่ร้านจัดดอกไม้ แต่เป็นร้านขายดอกไม้ทั้งต้นพร้อมรากและใบ เรียกได้ว่าภายในร้านเหมือนกับสวนย่อมๆเลยทีเดียว

    “ได้ครับ” รุ่นน้องมักสุภาพกลับมาเสมอ จึงไม่แปลกที่คนพี่จะสุภาพตาม

    ความจริงแล้ว แค่จะมาขอเอกสารเพิ่มเพื่อใช้ลงทะเบียนเข้าสำนักเวทย์ จะให้น้องส่งไปรษณีย์มาก็ได้ แต่ที่ดั้นด้นมาหา ก็เพราะมันมีเรื่อง 

    มือขวาล้วงกระเป๋ากางเกง และกำธูปข่าวสารเอาไว้แน่น คิดอยู่นานพอดูว่าจะมาฟ้องน้องดีหรือไม่ ใช่ ต้องใช้คำว่าฟ้อง เพราะพฤติกรรมของอีกฝ่าย มันหยามน้ำหน้ากันเกินไป

    “มาครับพี่หนึ่ง ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง” 

    เดินมาหน้าเคาน์เตอร์ พร้อมปากกาสีน้ำเงินและกระดาษขาวหนึ่งแผ่น เพื่อเตรียมจดรายละเอียด

    “สำเนาทะเบียนบ้านกับบัตรประชาชน” 

    “เอาน่า ช่างมันก่อน นนท์ พี่เชื่อแล้วว่าน้องกับฟรอส ไม่มีอะไรในก่อไผ่” 

    ว่าพลางร่ายเวทย์ใส่ธูปส่งสาร เพื่อถอดรหัสข่าวสารที่ซ่อนเร้นในธูป

    ริ้วควันลอยเอื่อยจนหยุดนิ่งอยู่เหนือพื้นและศีรษะอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงปรากฏเป็นภาพของคนคุ้นหน้ากับสาวสวยใบหน้างดงามโฉบเฉี่ยว ทั้งคู่จับมือและกำลังส่งยิ้มให้กันอยู่ 

    ฝ่ายหญิงยิ้มแย้มเปิดปากกว้าง ส่วนฝ่ายชายเพียงเปิดยิ้มเล็กน้อย บรรยากาศรอบๆดูเหมือนกับจะอยู่ในงานเลี้ยง เพราะมีผู้คนมากมายทั้งรูปร่างแบบคนธรรมดาและไม่ใช่แบบคนธรรมดา มองดูจากเสื้อผ้าหน้าผมไม่ต่างอะไรกับงานเลี้ยงในสังคมชั้นสูง

    “ท่านหญิงสิตา สายเลือดแท้” 

    ไม่แปลกที่ทางผู้ใหญ่ฝั่งฝ่ายชายจะจับคู่กับสตรีท่านนี้ เพราะอสูรหนุ่มไม่ใช่สายเลือดแท้ ทางผู้อาวุโสจึงคิดจับคู่ให้ลูกหลานของตนเข้าคู่กับมรนาการแท้ เพื่อหวังสายเลือดรุ่นใหม่ชั้นดี ซึ่งลางทีอาจจะเผลอได้ออกมาเป็นมรนาการแท้ก็เป็นได้

    “ครับ” 

    สองร่างเดินเคียงดูเหมาะสมกัน ทั้งหน้าตา ฐานะ และลำดับชั้น จนเด็กหนุ่มมองเพลิน อีกทั้งยังแอบอิจฉาเล็กๆ เพราะสาวข้างกายแต่ละคนของรูมเมทท่านนี้ งานดีไม่มีที่ติทุกคน

    “ในเมื่อนนท์ไม่มีพันธะกับใคร” 

    เด็กหนุ่มรีบยกมือปิดปากรุ่นพี่ และลองตรวจสอบการเชื่อมต่อกับอีกฝั่งสักหน่อย

    “พี่อนิล พี่อนิล” 

    เงียบงันไร้การตอบกลับ ทำให้เด็กหนุ่มเปิดยิ้มโล่งใจ โชคดีเหลือเกินที่อีกฝั่งยังไม่ได้ยิน

    ถือวิสาสะผลักเบาๆให้คนพี่หันหลังไป จากนั้นใช้นิ้วชี้ค่อยๆเขียนแต่ละตัวอักษรลงไปบนแผ่นหลัง ความว่า “ต่างหูแอบฟังเสียงได้ ถอดให้น้องที”

    “…” คนพี่พยักหน้ารับ และเริ่มใช้อาคมตรวจตราบนหูของน้อง 

    อาคมที่ตราไว้เป็นบทง่ายๆ เรียกได้ว่าถ้าใครมีพลังชีวิต และใช้อาคมได้ละก็ แก้ได้ทุกคน

    กริ๊ก! “เรียบร้อยครับน้อง” 

    เสียงปลดอาคมดังออกมาเบาๆเป็นการยืนยันการปลดผนึก ตอนนี้ต่างหูของเด็กหนุ่มเป็นเพียงแค่ต่างหูใส่เล่นธรรมดาเท่านั้น

    “ไม่มีใครแอบฟังแล้ว มา มาว่าเรื่องของเราต่อ” 

    คนพี่เปิดยิ้มร้าย ทั้งสายตายังไหวระริก ก็ในเมื่อกล้าผิดสัญญาที่เคยให้กันไว้ ว่าจะรับผิดชอบน้องอย่างดี จึงไม่ผิดที่ทางนี้คิดจะดัดหลังเอาคืน น้องรักไม่ใช่ของตาย จะโฉบไปโฉบมา และคิดทิ้งขว้างกันไม่ได้

    “พี่ มีสาวมาแนะนำ เชื้อสายมรนาการแท้ ชาติตระกูลดี พ่อเป็นมรนาการแท้ส่วนแม่เป็นมังกร ไม่รู้เจอกันท่าไหน” 

    คนพี่แนะนำสาวไป กลั้วหัวเราะไป

    “น้องเขาชื่อมีนา กำลังเรียกเภสัชอยู่ ม. A” 

    “มอเดียวกับนนท์เลย เห็นไหมน้อง พรหมลิขิตชัดๆ” ทางนี้ยังอวยไม่มีหยุด

    “ครับ พี่หนึ่ง” ทางนี้ก็ยิ้มรับคำเขา

    “สายเลือดไม่ทิ้งพ่อ เพราะพ่อน้องมีชื่อเสียงด้านหมอยาอยู่ในฝั่งของมรนาการ” 

    เปิดโทรศัพท์ในมือ และเลือกรูปเด็กสาวให้รุ่นน้องดู 

    “พ่อเขามีสมญานามด้วยนะ ท่านหมอยาแห่งความหวัง นนท์อาจจะไม่รู้จัก แต่ครอบครัวนี้ งานดีไม่มีที่ติ ลองคุยดูก่อน” 

    รุ่นน้องคนนี้สนิทกับแฟนสาว และมักไปมาหาสู่กันอยู่เนืองๆ นิสัยดีถอดแบบพ่อมา จึงคิดจับคู่ให้น้องรักได้เป็นฝั่งเป็นฝา ในเมื่อมีผัวแล้วไม่รุ่ง มีเมียแทนดีกว่า

    “โห พี่ นางฟ้าชัดๆ” 

    เด็กสาวภายในรูปกำลังชูสองนิ้ว และส่งยิ้มให้กล้อง ใบหน้าใสสะอาดและจัดว่าน่ารักสุดๆ 

    “ชอบไหม” หากน้องไม่ชอบ พี่ยังมีอีกหลายคนที่จะนำเสนออีกรอบ

    “โหพี่ เขาจะชอบผมเหรอครับ”

    เห็นหน้าสาว และย้อนมามองตัวเอง นี่มันหมามองเครื่องบินชัดๆ

    “ลองคุยดู ถ้าไปกันรอด ตกถังข้าวสารเลยนะครับ” 

    ทางนี้ก็เชียร์เหลือเกิน พลางมองสำรวจน้องในสังกัด ว่าตัวน้องก็หน้าตาดีพอไปไหว แล้วทำไมสาวเขาจะไม่สน

    “ครับ” 

    ในเมื่ออีกฝ่ายมีสาวได้ ก็แสดงว่าเขาไม่ได้คิดจะจริงจังอะไร 

    ‘ฮึ วันก่อนสาวก็มาหาถึงห้อง อีกคนก็ควงออกงานด้วยกัน น่าอิจฉาสุดๆ'

    ที่แท้หลายๆวันที่อยู่ด้วยกัน การคลอเคลียสัมผัสกันก็แค่คลายเหงา ฉะนั้นไม่ผิดที่ตนคิดจะหาความสุขให้ตัวเองบ้าง

    รุ่นพี่กลับไปแล้วพร้อมย้ำหนักหนาว่า เดี๋ยวจะไปนัดอีกฝ่ายมาให้ น้องเตรียมตัวให้ดี แต่งหล่อๆ รอไปเดทได้เลย

    ก่อนจะเลิกงาน รุ่นพี่อีกคนก็มาพอดี จึงไปสอยข้าวเย็นที่ร้านเหล้า เด็กหนุ่มยังไม่เมา แต่ความรู้สึกแปลกๆทำให้ยังไม่อยากจะกลับเข้าห้องตัวเองตอนนี้ จึงมาตั้งวงกันต่อที่ห้องของแฟนพี่รหัสอีกรอบ

    “สาวเพียบ น่าอิจฉาสุดๆ” 

    น้องกำลังๆกรึม จึงเริ่มระบายความรู้สึกออกมา ให้เจ้าของห้องฟังเบาๆ

    “สาวไหนนนท์” คนฟังยังจับต้นชนปลายไม่ถูก ไม่รู้ว่าน้องบ่นอะไร

    “มากอดมาหอมคนอื่นเขา คนนิสัยไม่ดี” 

    มองจ้องแก้วเหล้าด้วยความเคือง เปรียบเสมือนเป็นตัวแทนของใครบางคน

    “หือ ใครหอมน้อง” ตาโตหายเมาแล้วตอนนี้

    “เอาคืนไปเลย คนเจ้าชู้” 

    สองมือพยายามแกะต่างหูออกจากหูตัวเองด้วยความไม่ถนัด เพราะสติตอนนี้กำลังเบลออยู่ และไม่นานจึงฟุบหลับคาโต๊ะเหล้า พร้อมกำต่างหูในมือเอาไว้หลวมๆ ส่วนแป้นหายลับไปไหนแล้วไม่รู้

    ตีหนึ่งสิบห้า ชักจะเริ่มสร่าง และตื่นเต็มตาเมื่อได้ยินเสียงออดหน้าประตู

    ติ๊งหน่อง!!!  ติ๊งหน่อง!!! ติ๊งหน่อง!!! ติ๊งหน่อง!!!  ติ๊งหน่อง!!!ติ๊งหน่อง!!!

    "กดหาพระบิดามึงเหรอครับ ใครวะ" 

    เสียงออดรัวๆทำให้เจ้าของห้องรีบวิ่งออกมาเปิดประตูด้วยความตกใจ

    "กิจ ข้านอนด้วย" 

    กลิ่นแอลกอฮอร์จากปากเพื่อนทำให้ชายหนุ่มพอเดาได้ว่ามันคงไปซัดมาหลายแก้วอยู่ ถึงมีสภาพหลุดออกจากลุคคุณชายที่มันชอบสร้างภาพอยู่ทุกวัน

    "วันนี้วันอะไรหนอ กูฮอตจริง ใครๆมาหากูทั้งนั้น" 

    เพราะตอนนี้ภายในห้อง ตรงบริเวณของโต๊ะญี่ปุ่นกำลังมีแขกนั่งหน้าบูดอยู่อีกหนึ่งคน

    "มึงมีแขก เดี๋ยวนี้กกเด็กผู้ชาย เอิ๊กๆ" 

    เลิกคิ้วเป็นเชิงถามพร้อมเรอกลิ่นเหล้าออกมาจากปากเป็นพักๆ จนเพื่อนส่ายหน้าหนี

    "บ้านมึงเถอะ นนท์ครับนี่ต้น ต้นครับนี่นนท์" 

    ชายหนุ่มทั้งสองก้มหัวให้กันเป็นเชิงทักทาย แม้คนเมากำลังจะใกล้ล้มกับพื้นแล้วก็ตามที แต่มารยาทที่ถูกเคี่ยวกล้ำมาแต่เด็กมันดันติดอยู่ในนิสัย

    "พี่กิจมีแขก ผมกลับก่อนนะครับ" 

    มองแขกของรุ่นพี่ตาปรือๆ ส่วนอาการเมาเมื่อหลายชั่วโมงก่อนยังไม่หายดี แต่สติก็ยังพอมี ที่จะเดินกลับห้องไหว

    "ฝากเอาต่างหูบนโต๊ะไปทิ้งลงชักโครกให้ด้วยครับ" 

    สายตาเบนไปทางต่างหูของคนหลายใจ ด้วยสีหน้าเคืองๆ

    "ทิ้งเองไม่ลงล่ะซี้" 

    แม้จะยังรู้เรื่องราวแค่ผิวเผิน แต่ท่าทางออกแนวเหงาๆ ทั้งยังงอนๆและโกรธกรุ่น ก็พอเดาได้ว่าเจ้าของต่างหูต้องมีเกี่ยว อีกทั้งเจ้าของห้องยังจำคืนก่อนได้ดี คืนที่อยู่ดีๆมีจดหมายแปลกๆสอดอยู่หน้าประตู

    “อย่าพานนท์เที่ยวดึก ถ้าไม่อยากเปลี่ยนรถคันใหม่” 

    นี่มันคำขู่กันชัดๆ และลูกรักที่ถูกเล็งเป็นตัวประกัน ทำให้เจ้าของรถไม่กล้าพานนท์กลับดึกอีกเลย ยกเว้นคืนนี้เท่านั้น 

    ห่วงรถก็ห่วง แต่อาการน้องก็น่าห่วงพอกัน รุ่นพี่จึงตัดสินใจยอมเสี่ยงดูสักตั้งเพื่อน้อง ‘รถจ๋า พี่ลาก่อน’

    ดูจากน้ำคำในจดหมาย ค่อนข้างมีความหมายออกแนวประกาศความเป็นเจ้า ที่ยิ่งแน่ชัดก็ตรงข้อความลงท้ายว่าผู้ปกครอง และดูท่าผู้ปกครองของน้อง น่าจะโหดพอตัว

    ภายในห้องมืดสนิทเพราะยังไม่มีใครกลับมาเปิดไฟสักคน สองเท้าเดินไปนั่งคลึงหัวเบาๆบนโซฟา เพราะกำลังมึนอยู่ จึงยังเดินไปห้องนอนของตัวเองไม่ไหว ไม่รู้กี่วันแล้วที่ใครอีกคนหายออกไปจากห้อง เด็กหนุ่มไม่คิดจะนับ อีกทั้งยังไม่อยากจะเจอหน้าเขาในตอนนี้ 

    บางที…เขาอาจจะไม่กลับมาอีกแล้วก็เป็นได้ อยู่ด้วยกันก็แค่คลายเหงา สายสัมพันธ์ของเรา…มีเพียงเท่านี้

    ……………………………………………

    ขอขอบคุณเพลง : อุทยานดอกไม้ - พุ่มพวง ดวงจันทร์

    กิจ : ลงเท่านี้ก่อน มากกว่านั้น เดี๋ยวค้างครับ แล้วเจอกันครับ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×