ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สายลมห่มดอกไม้ (ติดเหรียญ เริ่มตอน 12)

    ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 1 ตุ๊มๆต่อมๆ

    • อัปเดตล่าสุด 2 ต.ค. 64



     

    หลังจากตากผ้าทั้งสองตะกร้าจบพิธี และเข้าไปอาบน้ำแต่งตัว ปะแป้งหอมมาเรียบร้อยแล้ว จึงคว้าหยิบรองเท้าผ้าใบจากชั้นวางรองเท้า เพื่อเตรียมจะใส่ออกไปข้างนอก

    “ผมมีงานบ่าย ท่านฟรอสเชิญตามสบายครับ” 

    อาจเป็นรูปภาพของ แมว

    ก้มลงผูกเชือกร้องเท้า พลางตรวจตราปมอีกที ว่าแน่นดีหรือไม่

    “พี่อนิล” เสียงเข้มเน้นกำชับให้เรียกตนว่าอนิล ทั้งยังเดินจากห้องรับแขกเข้ามาหา 

    อนิล นามนี้ได้มาจากทางฝั่งชาวเวทย์ ด้วยความที่คุณชายเขา เข้าเมืองมาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย กลุ่มชนส่วนใหญ่เขารู้กันทั่ว ทุกหน่วยงานหรือสังกัดของแต่ละเผ่าพันธุ์จึงต้องมีการจัดการต้อนรับให้สมฐานะ และพี่หนึ่งก็เป็นทีมงานกลุ่มหนึ่งที่ทำตัวเป็นเจ้าบ้านคอยต้อนรับแขกผู้มาเยือน 

    อาจเป็นภาพระยะใกล้ของ แมวเปอร์เซีย และ สถานที่ในร่ม

    ไม่รู้คุยกันท่าไหน จึงได้ชื่อใหม่ในแนวทางของโลกสีขาวขึ้นมาหนึ่งชื่อ แถมท่านชายเองก็ถูกใจในนามนี้ จึงเปลี่ยนชื่อตัวเองจากฟรอสเป็นอนิล อีกทั้งยังกำชับให้รูมเมทร่วมห้องเรียกให้ชินด้วย

    “อยู่กันสองคน ผมขอเรียกท่านอนิลได้ไหม” 

    เรียกพี่แล้วมันแสลงปากยังไงไม่รู้ ดูจากกำลังกาย หากวัดจากตัวละครในเกมส์ก็บอกเลยว่า มาดแบบนี้คือลาสบอส

    “พี่อนิล” อสูรหนุ่มมองนิ่งๆ

    “ครับ พี่อนิล” 

    พอเห็นดวงตาสีเทาหรี่ลงนิดๆและมองแน่นิ่ง ทางเด็กมนุษย์ไร้กำลังจะทำอะไรได้เล่า นอกจากตามใจเขาไป

    “อยู่ร้านดอกไม้ ผมกลับดึก” 

    แฟนหรือเพื่อนสนิทก็ไม่ใช้ ไม่รู้ทำไมต้องคอยบอกว่าไปไหนด้วย ขนาดกับแม่ ยังไม่ต้องคอยรายงานหนักขนาดนี้

    “สี่ทุ่ม ห้ามช้า” 

    ออกคำสั่งจบ ท่านชายจึงเดินแยกไปทางห้องรับแขก เพื่อไปนั่งดูทีวี และรายการที่ชอบก็คือหนังแนวจักรๆวงษ์ๆ ไม่ก็แนวไซไฟและแฟนตาซี บางทียังนั่งร่ายเวทย์ออกมาและบอกอีกคนว่า ข้าก็ทำได้แบบในหนัง เล่นเอาอีกคนตาเป็นประกายวิ้งๆเพราะชอบนักอะไรแฟนตาซีๆ

    อาจเป็นรูปภาพของ แมว และ สถานที่ในร่ม

    “เจ้าของร้านไม่สบายครับ ผมต้องอยู่เก็บร้านคนเดียว จะพยายามให้ทันสี่ทุ่ม” 

    ว่าจบจึงคว้ากระเป๋าสะพายหลังขึ้นบ่า และหยิบร่มกันฝนติดมือไปด้วย

    สถานที่ทำงานอยู่ใต้คอนโด ทำให้ไม่เสียเวลาในการเดินทาง หน้าที่ของเด็กหนุ่มคือคอยขนของ คอยดูแลเจ้าดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์ไม่ให้เหี่ยวไม่ให้เฉาซึ่งเป็นเคล็ดลับที่เจ้าของร้านเขาสอนกันเอาไว้

    อีกทั้งคอยดูแลลูกค้าและแนะนำสินค้า จะเรียกได้ว่าเป็นตำแหน่งผู้จัดการก็ว่าได้ ต่างแค่ว่าไม่มีลูกน้องใต้อาณัติสักคน เพราะตามปกติ จะมีเจ้าของร้านกับพนักงานคนนี้อยู่เฝ้าร้านดอกไม้เพียงแค่สองคน นานๆทีคุณลูกชายของเจ้าของร้านถึงจะมาอยู่โยงเฝ้าด้วย 

    “ไปดูหนังกัน สัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่ พี่ได้ตั๋วมา เหมาไว้ทั้งโรง” 

    อาจเป็นรูปภาพของ แมว และ กลางแจ้ง

    วันนี้ดูท่าฝนจะตกห่าใหญ่ เพราะลูกชายของเจ้าของร้านมาโผล่หน้าให้เห็นที่ร้านก่อนเที่ยงคืน

    “รอบกี่ทุ่มครับ”

    ไม่แน่ใจว่าจะไปได้ไหม เพราะอสูรร่วมห้องเคอร์ฟิวเวลาไว้ แล้วรู้ไหมทำไมเด็กหนุ่มถึงกลัว ก็เพราะเคยรู้รสตอนฝืนคำสั่งมาก่อนแล้วว่า หากขัดขืนจะเป็นยังไง

    “สี่ทุ่มครึ่ง ไปเถอะนนท์ พี่เลี้ยง” 

    น้ำเสียงเชิญชวน ทั้งยังเร่งเร้าให้ตอบรับคำชวน เพราะตั๋วสองใบนี้ ได้มาแบบฟรีๆ จึงอยากจะแบ่งความโชคดีให้รุ่นน้อง

    “แปปนะครับ พี่กิจ นนท์ขอไปเข้าห้องน้ำก่อน”

    ‘พี่อนิล’ 

    ปิดประตูเข้าห้องน้ำและนั่งนิ่งๆบนชักโครก เพื่อส่งโทรจิตผ่านต่างหูรูปทรงหยดน้ำที่ถูกบังคับให้ใส่ไปทางปลายสาย ต่างหูสีไพลินที่ถูกเจาะโดยไม่รู้ตัว เอาเป็นว่าพอตื่นขึ้นมาวันหนึ่งก็มีมันอยู่บนหูแล้ว แถมถอดไม่ออกอีกต่างหาก 

    ‘ข้าไม่ว่าง’ ติ๊ด...เสียงสัญญาณขาดหายไปยาว และตอบกลับเพียงเท่านั้น

    “ไม่ว่างเอง ถือว่าบอกแล้ว” หากขัดคำสั่ง ก็แค่ต้องนอกตากอากาศหนึ่งคืน เอาก็เอา

    คิดจบ ตัดสินใจจบ จึงเดินเปิดยิ้มไปหาเพื่อนรุ่นพี่ที่หน้าร้าน 

    “ไปครับ พี่กิจ รอนนท์เก็บร้านแปปเดียวครับ” 

    เด็กหนุ่มไม่ได้ทิ้งงานทิ้งการ เพราะหมดเวลางานมายี่สิบนาทีแล้ว

    “จัดไปน้อง เดี๋ยวพี่ช่วย” 

    สองมือช่วยกันเก็บร้านแข็งขัน ในไม่ช้าจึงได้เสียงประตูเหล็กเลื่อนลงล๊อก และเสียงรถยนตร์ที่แล่นไป Major Cineplex

    กว่าจะดูหนังจบ กว่าจะถึงคอนโดก็ตีหนึ่งเข้าไปแล้ว เด็กหนุ่มใจตุ๊มๆต่อมๆกลัวเปิดเข้าไปแล้ว จะต้องไปอยู่อีกทีเหมือนที่เคยเจอมาก่อน

    อาจเป็นภาพระยะใกล้ของ แมว และ หิมะ

    รอบที่แล้วกลับผิดเวลาจึงถูกส่งไปนอนหนาวในทะเลทรายซาฮาร่า รอบนี้ไม่รู้ว่าประตูนรกจะพาไปที่ไหน แต่ทำไงได้ ก็พี่เขาเหมาโรงให้เลยนะครับ แถมหนังก็น่าดู อีกทั้งอยากดูมาก จึงยอมเสี่ยงหมดหน้าตัก

    แกร๊ก!!!

    ‘พ่อแก้วแม่แก้วช่วยลูกช้างด้วย’ เสียงลูกบิดประตู พาใจคนหมุนลูกบิดเต้นตึกๆ

    “…” 

    พยายามเบิกตากว้างเตรียมรับชะตากรรม พลางนึกถึงเสื้อโค้ดในกระเป๋าที่ขอยืมรุ่นพี่มาแล้ว รอบนี้ไปแบบเตรียมตัวพร้อม จะไม่มีทางหนาวสั่นเข้าโรงพยาบาลหนักอีกเป็นอันขาด 

    “อย่าดื้อน่า ฟรอส คิกคิก” 

    แต่ทว่ายามเปิดประตูเข้าไปแล้วนั้น กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ได้ยินเพียงเสียงผู้หญิงหัวเราะคิกๆอยู่ในห้องของคนร่วมห้องเพียงเท่านั้น

    “ข้าอยู่ได้ รจไม่ต้องห่วง” 

    ประตูของคนร่วมห้อง เปิดออกมาพร้อมกับใครบางคน ใครบางคนที่ทำให้เจ้าของห้องมองตาปรอย

    อาจเป็นรูปภาพสไตล์อนิเมะของ 1 คน

    “สวัสดีจ้ะ ข้ารจนา” อสูรสาวเปิดยิ้มทักทาย คนที่กำลังกอดกระเป๋าแนบอกเอาไว้แน่น

    “ครับ ผมนนท์ครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ” มองสาวตาไม่กระพริบ เพราะกำลังตะลึงในความงามของนาง

    “สดใส น่าเอ็นดู” 

    อสูรสาวมองสำรวจพลางว่าชมออกแนวหยอกเย้า ทั้งยังจับแก้มนิ่มบีบเล่นเบาๆจนเจ้าตัวเขินหน้าแดงสุก

    ‘น่ากอด น่าแกล้ง’

    “รจนา” เสียงเข้มเรียกชื่อเน้นหนัก

    “คิกคิก” 

    มองดูก็รู้ว่าอีกฝ่ายหวงของ ถึงส่งเสียงหนักมาเป็นการเตือนว่าห้ามแตะห้ามยุ่ง

           ‘โอ๊ย มือนิ่มมาก แถมยังอุ่น นางฟ้าชัดๆ  หรือนี่จะเป็นแฟนของเขา’ 

    อสูรสาวมีเรือนผมสีดำสนิทยาวเป็นลอนคลื่นจรดกลางหลัง ดวงตาของนางเป็นสีดำเช่นกัน ส่วนเสื้อผ้าอาภรณ์อยู่ในแนวทางของโลกสีขาวซึ่งเป็นกระโปรงยาวคลุมเข่าสีเขียวอ่อนๆและมีลวดลายดูหรูมีระดับ ซึ่งขัดกันได้ดีกับเจ้าของห้องอีกตนที่วันนี้ใส่เสื้อผ้าออกแนวสบาย เป็นเสื้อยืดสีเทาและกางเกงเลย์สีดำล้วนที่แอบไปฉกของอีกคนเขามาใส่ เพราะอสูรหนุ่มค่อยข้างชอบเนื้อผ้า และบอกว่ามันใส่สบาย   

    “เสื้อผ้าดูไม่ได้ เงินพอใช้ไหมฟรอส” กวาดตามองจากบนลงร่าง และส่ายหน้าเบา

    “เก็บไว้รูด” 

    จับมือของอีกฝ่ายขึ้นมาแบมือรับของ จากนั้นจึงยัดบัตรเครดิตยี่ห้อดังใส่มือให้

     ‘โอ้โห มีสาวเลี้ยง โห ไม่ธรรมดา’ 

    อีกคนได้แต่มองด้วยความอิจฉา เม้มปากกัดฟันกรอดๆออกแนวอยากมีอย่างงี้บ้าง

    ‘ยอมให้จับมือด้วย สงสัยจะเป็นแฟน แล้วมาอยู่กับเราทำไม ทำไมไม่อยู่กับแฟน’ 

    ยิ่งคิด คิ้วชักจะเริ่มขมวด ใบหน้าเริ่มยุ่งๆ

    “รจนา ข้ามีเงิน” 

    พยายามจะยื่นบัตรส่งคืนให้ แต่อีกฝ่ายส่ายหน้าไม่รับ และร่างนางค่อยๆจางหายและหายวับไปต่อหน้าต่อตาของเด็กมนุษย์

    ‘เก็บไว้ เดี๋ยวเคนอสหาว่าข้า ไม่ดูแลเจ้า’

    ‘คู่เจ้าน่าเอ็นดู ขอข้ายืมมาดูสักคืน’ ถึงร่างจะหายลับ แต่ยังฝากข้อความทางโทรจิตมาเย้าเป็นการส่งท้าย

    ‘รจนา ข้าจะฟ้องเคนอส’ อสูรหนุ่มเริ่มขู่

    ‘คิกคิก’ นางเพียงหัวเราะเสียงใจ และไม่ต่อปากต่อคำอะไรมาเพิ่ม

    “สกิลของพวกมรนาการแต่ละคน ไม่ธรรมดาจริงๆ” 

    แม้เด็กหนุ่มจะเคยเห็นการใช้เวทย์มาหลายแบบ แต่พอเห็นจะๆต่อหน้าอีกที ก็อดจะทึ้งไมได้

    “ออกไป กลับผิดเวลา” หลังส่งแขกจบ จีงหันมาไล่บี้กับใครบางคนต่อ

    แรงลมไร้ที่มากระหวัดรัดทั้งสองแขนเข้าหากัน ดุจดังเงื่อนไร้รูปร่าง และลากพาเหยื่อไปทางหน้าประตูห้อง

    “เดี๋ยว! ผมจะบอกคุณแล้ว แต่คุณไม่ว่าง ผมไม่ผิด!” ร้องลั่นเพราะตกใจ ร้องลั่นพยายามหาทางรอด

    อาจเป็นรูปภาพของ แมว และ กลางแจ้ง

    “พี่อนิล” อีกฝ่ายเรียกชื่อตนไม่ถูก จึงกำชับให้เรียกใหม่

    “ครับๆ ได้ๆ พี่อนิล” 

    ยามเรียกจบแรงลากจึงหยุดลง เพราะเจ้าของอาคมกำลังคอยฟังคำแก้ตัว

    “ผมไปดูหนังกับพี่กิจมา ไม่ได้แวะไหนเลย” 

    เรียกได้ว่าพอหนังจบ ก็รีบกลับบ้านอย่างเดียว ทำไมนะหรือก็เพราะต่างหูที่ถูกบังคับให้ใส่เป็นทั้งเครื่องติดตาม และกล้องวงจรปิด แถมยังดูย้อนหลังได้อีกต่างหาก ออฟชั่นเพียบจริงๆ หากแอบแวะที่ไหน ย่อมไม่รอด

    “ติ๊ด” 

    ยามปลายนิ้วสัมผัสบนต่างหูเพื่อตรวจสอบความประพฤติ มันทำให้เด็กหนุ่มสะดุ้งและย่นคอหนี เพราะนิ้วโป้งที่อยู่บนหลังหูของตนค่อนข้างเย็น สัมผัสคลอเคลียไปมาเบาๆบนใบหู พาใจเต้นตึกๆ

    อาจเป็นรูปภาพของ แมว

    “ไปอาบน้ำ เดี๋ยวข้าไปเก็บผ้า” 

    ว่าจบจึงเดินแยกไปทางระเบียงเพื่อไปเตรียมเก็บผ้าที่ตากค้างมาทั้งวัน

    “Yes” ‘รอดแล้วครับ น้ำตาจะไหล ไม่ต้องไปนอนหนาวในทะเลทรายแล้ว เย้ๆ’ 

    อาจเป็นรูปภาพของ แมว

    กำหมัดชูขึ้นมาทั้งสองมือ และกระทุ้งเข้าหาเอวหนึ่งที ทั้งร้องออกมาว่า Yes  

    “ไปอาบน้ำ” เสียงเร่งดังมาจากทางหน้าระเบียง

    “ครับๆ อาบน้ำครับ” ไมรู้นี่อยู่ค่ายทหารหรืออยู่บ้าน เด็กหนุ่มได้แต่พยายามอดทน

    หลังจากอาบน้ำฟอกสบู่หอมๆ จึงก้าวขาสั่นๆเพราะหนาวจากลมแอร์ที่อีกฝ่ายชอบเปิดเบอร์ต่ำๆ 

    สองขาเดินมาอีกฝั่งของเตียงเพื่อล้มตัวลงนอนในพื้นที่ของตัวเอง และยามล้มตัวนอกลงปั๊ป อุณหภูมิของแอร์จึงถูกเปลี่ยนกลับมาเป็นยี่สิบห้าองศา ซึ่งเป็นความเย็นในระดับที่เด็กหนุ่มค่อนข้างชอบ เรียกได้ว่าคนที่นอนหันหลังให้อยู่ มักจะชอบทำอะไรแบบเงียบๆและไม่ค่อยพูด แต่ทุกการกระทำมันทำให้คนที่กำลังมองตามแผ่นหลังของเขารู้สึกอุ่นในใจ   

    ทุกๆคืนตั้งแต่มีรูมเมทคนใหม่ ทั้งๆที่มีสองห้องนอนแท้ๆ แต่เขาไม่เคยนอนห้องตัวเองสักคืน กลับมาเบียดแย่งเตียงกับเจ้าของห้องอีกอยู่ร่ำไป แรกๆก็ยังกลัวจะถูกล่อลวงตีประตูเหมือนเช่นคืนนั้น แต่พอหลายคืนเข้า ก็ชักจะเลิกสนใจ เพราะอีกฝ่ายทำเพียงแค่นอนอยู่ในที่ของตัวเอง อาจจะมีกู๊ดไนท์คิสบ้างนิดหน่อย หรือลากตนเข้าอกเพื่อกอดก่ายก็มีบางนิดๆ แต่ทั้งหมดก็มีเพียงเท่านี้ ไม่เคยมีอะไรเกินเลยมากกว่านั้น

    “เร็วนนท์ จูบเดียว” หลับตาพริ้มรอให้มาจูบ

    ‘จูบเดียวอะไร จูบทีนานจะตาย แต่ก็ชักจะเริ่มชินแล้วครับ’ 

    ถึงจะแอบบ่นในใจแจ่ก็ยอมยื่นหน้าเข้าไปจูบเขา เพราะรสสัมผัสยามได้แตะต้องกัน มันทำให้รู้สึกดี

    อาจเป็นรูปภาพของ แมว

    หยุดครับหยุด รู้สึกดีก็จริงแต่อย่าคิดไกล ไม่มีอะไรมากกว่านั้น เราสองคนยังเป็นแค่รูมเมจที่บางเวลาช่วยคลายเหงาให้กันเท่านั้นเอง จริงนะครับ เชื่อน้องนนท์เถอะ

    อาจเป็นรูปภาพของ แมว

    --------------------------------------------------------------------------

    กิจ :  สวัสดีครับ กิจครับทำหน้าที่เป็นโฆษกของสายลม

    วันนี้จะมาแนะนำคำศัพท์ครับผม ช่วงนี้พี่ลายสดตลอด

    รูปหายไม่ต้องตกใจนะครับ ใครอ่านช่วงแรกๆ เจอรูปแน่นอน ที่หายไปรูปหมดอายุครับ

    ขอบคุณทุกคนมากครับ บ๊ายบาย

    โลกสีขาว = โลกมนุษย์

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×