ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] ✚ :: CURSE :: ✚ [ KAI & D.O. ]*

    ลำดับตอนที่ #5 : :::: CURSE ' 04

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.23K
      11
      4 ม.ค. 56

    Author : `MR.$N0WMAN * 
    Pairing : Kim Jongin
    Xiao Luhan/Oh Sehun/Zhang Yi xing
    Kim Junmyun
    Rate : PG-15




     

     

    ✚ CURSE ' 04













    “เพราะว่าผม...รักท่าน

     

     

    !!!!!

     

     

    ไคขมวดคิ้วฉับอย่างโมโห

    ตอนนี้ต่อให้ใครหน้าไหนก็ไม่สามารถที่จะทำให้เขาใจเย็นลงได้ทั้งนั้น

    เขาลุกขึ้นเหวี่ยงลู่หานลงไปบนโซฟาอย่างแรงด้วยความเดือดดาลและอารมณ์โกรธที่พลุ่งพล่านอยู่ในอก

     

     

    ปึก!

     

     

    “โอ๊ย!

     

     

    ลู่หานร้องออกมาเสียงหลง เพราะไหล่บางที่ไปชนกับขอบโซฟานั้นอย่างจัง

    หากแต่ไม่ทันได้คิดหรือพูดอะไรต่อ เมื่อคนเป็นเจ้านายโถมตัวเข้ามากดจูบอย่างรวดเร็ว

     

     

    นี่มันช่างรุนแรงเหลือเกิน...ลู่หานคิด

     

     

     

     

    ทำไม??? ฉันไม่เข้าใจ

    ทำไมพวกนายถึงได้พูดแต่คำว่ารักออกมาง่ายๆ!!

    โกหก! โกหกทั้งนั้น! ฉันไม่เชื่อ ฉันไม่ต้องการมัน!!!

     

     

     

     

    พูดก่อนจะฉีกทึ้งเสื้อผ้าของลู่หานออกไปด้วยอารมณ์ที่คุกรุ่น

    ก้มลงกดจูบอย่างรุนแรง ซุกไซร้ลงไปที่คอขาวๆของลู่หานก่อนจะฝากฝังรอยคิสมาร์คลงไป

    แถมยังเผลองับเนื้อขาวๆนั้นไปเสียทีหนึ่งด้วยอารมณ์โมโห

    ทุกอย่างช่างรุนแรงราวกับสัตว์ป่า...ลู่หานน้ำตาไหลรินลงมาจากหางตาด้วยความหวาดกลัว

     

     

     

    อ๊ะ! ท่านครับ!

     

     

     

     

    หุบปาก!! ฉันไม่อยากได้ยิน!!!!

    ฉันเกลียดมัน! เกลียดคำว่ารักของนาย ของแทมิน! ของทุกคนบนโลกใบนี้!

    ฉันเกลียด! ฉันเกลียดที่สุด ได้ยินมั้ย?????”

     

     

     

     

    พูดจบก็โถมตัวเข้าหาลู่หาน

    ก่อนที่จะเริ่มต้นกิจกรรมทางร่างกายที่แสนจะเร่าร้อนและรุนแรง

    โดยที่แม้แต่เสียงร่ำไห้ของลู่หานก็ไม่อาจจะหยุดยั้งไคได้...

     

     

     

     

    *********

     

     
     

    เสียงสะอึกสะอื้นประกอบกับร่างอันสั่นเทาของลู่หานไม่ได้ทำให้ไครู้สึกสงสารหรือเห็นใจ

    เขาปรายตามองไหล่บางที่กำลังสั่นไหวอย่างเหยียดหยาม และโกรธเคืองยิ่งกว่าเก่า

     

     

    สมควรแล้ว...

    สมควรแล้วกับการที่พูดคำว่ารักออกมาได้ง่ายๆ

     

     

    นี่ไม่ใช่เหรอสิ่งที่เขาต้องการ...ที่คนทุกคนบนโลกนี้ต้องการ...

    แค่เซ็กส์เท่านั้นเองที่คนบนโลกนี้สนใจจะไขว่คว้าที่จะหาความรักจากใครซักคน

    ถึงจะเริ่มจากคำว่ารัก...แต่ทุกคนต้องการจะจบด้วยคำว่าเซ็กส์กันทั้งนั้นแหละน่า

    ก็เห็นมาเยอะแล้วไม่ใช่หรือไง พวกได้แล้วก็ทิ้งไป..เสพสมแล้วก็ตีจาก

    วันไนท์แสตนด์ก็มีให้เห็นกันถมไป หากความรักมีพลังมากพอจริงแล้วสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ยังไงกันล่ะ

     

    เพราะงั้นแท้จริงแล้วมันไม่เคยมีหรอก

    มันไม่มีหรอกคำว่ารักที่แท้จริง...ไม่มี

     

     

     

     

    ไคจรดกระดุมเสื้อเชิ้ตเม็ดสุดท้าย ก่อนจะกัดฟันกรอดอย่างเหลืออด

    เขาจ้ำอ้าวไปที่โต๊ะทำงาน หยิบสมุดเช็คขึ้นมาเซ็นต์อย่างเร่งรีบ

    ก่อนจะขว้างใส่คนที่นอนอยู่บนโซฟาเต็มแรง

     

     

     

     

    หยุดทำตัวน่ารำคาญเสียที!!!

    เอาเงินนี่ไป...แล้วฉันขอไล่นายออก!!

    และต่อไปนี้อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก

     

     

     

     

    ม...ไม่! ไม่นะครับท่าน ได้โปรดให้อภัยผม ย...อย่าไล่ผมออกเลยนะครับ

    น้องสาวของผมเพิ่งจะโดนให้ออกจากงาน ไหนจะพ่อที่กำลังป่วยอีก

    ถ้าท่านไล่ผมออกตอนนี้ พ...พ่อกับน้องสาวผมต้องแย่แน่ๆ

     

     

    ลู่หานยันตัวขึ้นมาร่ำไห้...หากแต่ไคกลับขมวดคิ้วอย่างขัดใจ

    ก่อนจะตวาดกลับไปเสียงดังลั่นเพราะโกรธจนเลือดขึ้นหน้า

    เขาไม่อยากแม้แต่จะมองหน้า หรือได้ยินเสียงของลู่หานอีกต่อไปแล้ว

     

     

     

     

     

    ไม่!! ฉันไม่อยากเจอนาย! ไม่อยากเห็นนาย!!

    เอาเช็คนั้นไป แล้วออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้!!!

     

     

     

     

    ไคชี้นิ้วไปที่ประตูหน้าห้อง

    ทั้งๆที่ร่างบางตรงหน้ายังไม่ทันได้ใส่เสื้อผ้าเสียด้วยซ้ำ

    และถึงแม้ว่าจะไม่แน่ใจนักว่าเสื้อผ้านั้นยังเหลือชิ้นดีให้คนตรงหน้าได้ใส่หรือเปล่า

    ที่แต่แน่ๆ ความโกรธที่มีกำลังพลุ่งพล่าน จนแม้แต่ซักเหตุผลดีๆ ก็ไม่อาจจะทำให้ไคเปลี่ยนใจได้

     

     

     

     

    ลู่หานส่ายหน้า น้ำตาไหลอาบแก้ม

    คลานเข้ามากอดขาคนเป็นเจ้านายอย่างร้อนใจ

    เขากำลังเสียใจเหลือเกินที่ทำอะไรไปโดยไม่คิด...ทั้งๆ ที่รู้ดีว่าเจ้านายเกลียดคำว่ารักขนาดไหน

    แต่ทำไมนะทำไม...ทำไมปากเขาถึงถลันไปพูดคำๆนั้นเสียได้

     

     

     

     

    ท่านครับ...ได้โปรดเถอะ ให้ผมได้ทำงานต่อเถอะนะครับ

    ที่ผมเคยพูดคำนั้นออกไป ได้โปรดยกโทษให้ผมเถอะ

    คิดเสียว่าผมไม่เคยพูดอะไรทั้งนั้นก็ได้ นะครับท่าน...

    ท่านครับ...ได้โปรด...

     

     

     

     

    หากแต่ไคไม่ยอมฟัง...เขากำลังโมโหจนเลือดขึ้นหน้า

    พร้อมจะอาละวาดและขว้างปาทุกอย่างได้อย่างไม่คิด

    หากแต่เขาจะทำเช่นนั้นไปเพื่ออะไร ในเมื่อคนที่ทำให้เขาโมโหมากองอยู่แทบเท้าแบบนี้

     

     

     

     

    ปล่อย-ฉัน!!!ไคตวาด ก่อนจะสะบัดขาออกจากการเกาะกุม

     

     

     

     

     

    ลู่หานร่ำไห้หนักกว่าเก่า...เขาลงไปกองกับพื้น เฝ้าขอร้องให้เจ้านายฟังคำเขาบ้าง

    หากแต่ในใจรับรู้แล้วว่ามันสายเกินไปที่จะร้องขอ ถึงแม้จะร้องไห้ไปก็ไม่มีประโยชน์

    ไคตอนนี้เป็นราวกับปีศาจ...ปีศาจที่มีความมืดมิดบดบังอยู่ในดวงตา

     

     

     

     

    ดี! ถ้านายไม่ออกไป ฉันจะไปเอง!

    แต่เมื่อฉันกลับมา ฉันต้องไม่เจอนายที่นี่

    ไม่งั้นนายเจอดีแน่...เสี่ยว ลู่หาน

     

     

     

    น้ำเสียงเยือกเย็นนั้นบอกให้ลู่หานรับรู้ว่าคนเป็นเจ้านายพูดจริง

    ไคสบถออกมาก่อนจะหันไปเสื้อโค๊ทขึ้นมาสวม แล้วเดินออกจากห้องไปทันที

    โดยไม่สนใจว่าลู่หานจะตะโกนร้องเรียกและร่ำไห้หนักแค่ไหน...

     

     

     

     

    *********

     

     

     

    ฟู่วว...

     

     

     

    ไคถอนหายใจออกมาหลังจากที่จิบไวน์แดงไปเล็กน้อย

    ยกนิ้วมือขึ้นนวดที่ระหว่างคิ้วเบาๆอย่างผ่อนคลาย

     

    วิวนอกหน้าต่างบานใหญ่ตลอดแนวเป็นแสงไฟของกรุงโซลยามค่ำคืน

    มองแล้วดูเหมือนโลกใบนี้ช่างกว้างใหญ่ไพศาลเสียเหลือเกิน

    กว้างใหญ่เกินไปจนทำให้เขารู้สึกว่าเปล่าเปลี่ยว...

     

    หากแต่เขายอมรับว่าไวน์รสเยี่ยมที่เขากำลังจิบนั้นช่วยผ่อนคลายอารมณ์ขุ่นมัวในใจเขาได้เป็นอย่างดี

    ประกอบกับเสียงดนตรีบรรเลงในร้านก็ช่วยทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้นเยอะ

     

     

    หรืออาจจะเป็นเพราะเขาระบายอารมณ์ไปกับบทรักที่เพิ่งผ่านมาเมื่อหลายชั่วโมงก็ได้

    เขาไม่อาจรู้ได้แน่ชัด ว่าเพราะอะไรที่ทำให้เขารู้สึกดีขึ้น

    เพียงแต่รู้สึกว่าอารมณ์หม่นหมองในใจทั้งหมดได้ถูกมลายหายไปแล้ว

     

     

     

    ไคยกแก้วไวน์ทรงสูงขึ้นจิบอีกครั้ง...

    ก่อนจะระบายยิ้มออกมาเมื่อรสชาตินุ่มละมุนนั้นไหลผ่านลงคอไป

     

     

     

    ท่านรออยู่ทางด้านนี้ครับ

     

     

     

    เสียงบริกรหนุ่มดังขึ้นไม่ไกลนัก ทำให้ไคลืมตาขึ้นมองไปทางเสียงนั้น

    บริกรผายมือให้ใครบางคนได้เดินเข้ามา

     

     

    เผยให้เห็นชายหนุ่มผิวขาวสว่างและรอยยิ้มที่เจือเสน่ห์ร้ายกาจได้เดินย่างกรายเข้ามาอย่างสง่าผ่าเผย

    ไคยกยิ้มบางๆเ มื่อได้มองจุนมยอนตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า...

     

     

     

     

    ไม่มีที่ติ... ไคคิด

     

     

     

     

    อยากจะรู้นักเชียวว่าภายใต้เสื้อผ้าหรูหราราคาแพงแบบนั้น

    จะซ่อนอะไรเอาไว้ภายในนะ หากได้เปิดมันออกดู ไคคงจะตอบได้ว่าผิวเขาขาวอย่างที่เห็นทั้งตัวหรือเปล่า

    คิดในใจก่อนจะกลืนน้ำลายลงไปในคอเสียอึกใหญ่ ยืนขึ้นแล้วยกยิ้มให้จุนมยอนอย่างสุภาพ...

     

     

     

    เชิญนั่งครับ คุณจุนมยอน”

     

     

    ขอบคุณครับ คุณไค”

     

     

     

    จุนมยอนยิ้มให้ไคเสียหวานหยด ก่อนจะเอ่ยคำขอบคุณแล้วนั่งลงตรงข้ามกับเขา

    คนหน้าคมส่งยิ้มตอบกลับไปอย่างหวานหยด ก่อนที่ทรุดตัวนั่งลงที่ตรงข้ามกับคนหน้าหวานนั้น

     

     

    คุณจุนมยอนอยากได้ไวน์ไหมครับ?” ไคถามด้วยรอยยิ้ม

     

     

    ก็ดีนะครับ...แต่ผมเองไม่ค่อยสันทัดเรื่องนี้เท่าไหร่

    คุณไคช่วยแนะนำผมหน่อยได้ไหม?”

     

     

    จุนมยอนพูดพลางยิ้มบางๆ

    หากแต่ไคกลับเป็นฝ่ายยิ้มอย่างมีชัย ถ้าเรื่องไวน์ล่ะก็ขอให้บอก เขาน่ะระดับโปรอยู่แล้ว

     

     

    ดีดนิ้วดังเปาะเรียกบริกรหนุ่มให้เดินเข้ามา

    ก่อนจะจ้องเข้าไปในตาชายหนุ่มสุดเซ็กซี่ตรงหน้า

    แล้วเอ่ยออกมาว่า...

     

     

     

    ถ้าอย่างงั้น...ผู้ชายที่หน้าตาดูดีอย่างคุณจุนมยอนคงเหมาะกับ

    ไวท์ไวน์ กาเวิร์ตซ์ ทรามีเนอร์ ปี 1986 รสนุ่มละมุน...ต่างจากกลิ่นที่ร้อนแรงของกลิ่นกุหลาบและพีช

    คุณคงคาดไม่ถึงแน่ๆ ว่าไวน์ขาวกลิ่นหอมแรงขนาดนั้น จะมีรสชาติอ่อนหวานอย่างที่ไวน์ขาวชนิดอื่นให้ไม่ได้

    เป็นรสชาติที่มีสเน่ห์...รัญจวนใจให้อยากลิ้มลอง

     

     

     

    อ้อยอิ่งกับคำพูดสุดท้ายไว้ให้คนฟังได้คิด

    จุนมยอนยกยิ้มออกมาบางๆ ก่อนจะเปรยตาไปยังบริกรหนุ่ม

     

     

     

    งั้นรบกวนช่วยจัดอาหารที่เหมาะกับไวน์นี้ด้วยนะครับ ขอบคุณมาก

     

     

     

    บริกรหนุ่มพยักหน้ารับคำ

    หากแต่ผายมือกลับมาที่ไคก่อนจะเริ่มพูดกับจุนมยอนว่า

     

     

     

    ถ้าอย่างนั้นคุณน่าจะลองถามคุณไคดูก่อนนะครับ...

    คุณไคเป็นนักดื่มไวน์และนักชิมไวน์ที่เคยได้ใบรับรองจากสถาบันไวน์ของประเทศฝรั่งเศส

    มีรสนิยมในการเลือกอาหารที่เข้ากับไวน์แต่ละชนิดได้อย่างดีเลยล่ะครับ

    ผมขอรับรองกับคุณผู้ชายได้เลยว่า

    คุณไคจะสามารถเลือกอาหารที่เข้ากับไวน์ของคุณได้ดียิ่งกว่าเชฟในร้านนี้เสียอีก

    ท่านมีอะไรจะแนะนำคุณผู้ชายหรือเปล่าครับคุณไค?”

     

     

    บริกรหนุ่มก้มลงมาถาม ไคยกยิ้มออกมาเมื่อเห็นจุนมยอนกำลังอึ้งกับกิตติคุณของเขาที่บริกรหนุ่มเยินยอ

    หึหึ...เขาหัวเราะในลำคอเล็กน้อย ก่อนจะส่งสายตามองไปยังจุนมยอนตรงหน้าอย่างอ้อยอิ่ง

     

     

     

    อืม...ดูจากรูปร่างของคุณจุนมยอนแล้ว แปลว่าคุณเป็นคงจะรักษาเชฟและดูแลสุขภาพพอตัวเลยสินะครับ

    เพราะฉะนั้น...ผมขอแนะนำให้คุณจุนมยอนสั่งปลาแซลมอนกับเลม่อนซอสครีมเป็น main course

    คู่กับรอคเก็ตสลัดราดซอสบัลซัมมิไขมันต่ำ มันอร่อยมากครับคุณจุนมยอนแล้วก็เหมาะกับไวน์เป็นอย่างดี

    คุณจุนมยอนตกลงมั้ยครับ?”

     

     

    ไคถาม ซึ่งแน่นอนว่าจุนมยอนตอบตกลง

    เพราะนอกจากจะรู้อุปนิสัยการกินของเขาแล้ว

    ยังรู้อีกด้วยว่าเขาเคร่งเครียดกับการดูแลสุขภาพและรูปร่างขนาดไหน

     

     

    โอ...ตกลงสิครับ จัดมาอย่างที่คุณไคแนะนำเลยก็เลยกันครับ ขอบคุณมาก

     

     

    จุนมยอนส่งยิ้มมาให้ไคจนตาปิด ก่อนที่ไคจะหันไปพยักหน้าให้บริกรหนุ่ม

    หลังจากนั้นไม่นาน มื้ออาหารก็เต็มไปด้วยเสียงพูดคุยและเสียงหัวเราะอย่างสนุกสนาน

     

     

     

    *********

     

     

    คุณจุนมยอนจะมาอยู่ที่เกาหลีนานเท่าไหร่หรือครับ?” ไคยิ้มถาม เริ่มกรึ่มๆ เมื่อไวน์ที่ดื่มเข้าไปจนนับแก้วไม่ถ้วน

     

     

    วันมะรืนครับ ผมหลบจากงานที่ทำมาได้ไม่เท่าไหร่หรอกครับ

    ถ้าอยู่นานงานอาจจะมีปัญหา อดเป็นห่วงไม่ได้เหมือนกัน”

     

     

    โธ่...น่าเสียดายจังเลยนะครับ

    แล้วอย่างนี้ผมจะได้เจอคุณอีกเมื่อไหร่กันล่ะ?”

     

     
    ไคถาม พร้อมๆกับที่ยื่นมือเข้าไปกุมมือคนตรงหน้าอย่างไม่คิดปิดบัง

    โธ่...เขาเองไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะที่จะคอยเอาแต่กล้าๆ กลัวเวลาถูกใจใครสักคน

    แล้วปริมาณแอลกอฮอล์ที่เขาดื่มเข้าไปก่อนหน้านี้

    มันก็มากพอที่จะทำให้เขามือไวใจเร็วอย่างเช่นตอนนี้ได้ไม่ยากเท่าไหร่นักหรอก...

     

    ไคยิ้มกริ่มเมื่อคิดว่ายังไงวันนี้เขาต้องไม่พลาดแน่

    ในเมื่อคารมของเขาเป็นต่อ และหน้าตาก็ไม่ได้เป็นรอง

    เขาเองกล้าพูดตรงได้นี้เลย ว่าถ้าเขาเริ่มลงมือ...เขาไม่เคยพลาดเลยซักครั้ง

     

    หากแต่รอยยิ้มที่อาบใบหน้าก็ต้องเจื่อนลงไปเล็กน้อย...เมื่อชายหนุ่มตรงหน้าดึงมือกลับไปทันทีที่ไคสัมผัส

    รอยยิ้มนั้นเจื่อนลงไปเล็กน้อยหากแต่ก็ยังคงมีรอยยิ้มบางๆ ที่เปิดเผยออกมาอย่างกระอักกระอ่วนใจ

     

     
     

    ฮ...เฮ้!! ส...สาบานได้จริงๆนะให้ตาย ว่าผมไม่เคยพลาดมาก่อนเลย!!

     

     
     

    ไครีบดึงมือกลับมา

    แล้วแสร้งยกมือขึ้นมาจัดทรงผมสั้นสีดำสนิทที่แทบจะไม่ต้องจัดทรงใดๆเลยซักนิด

    ก่อนจะโล่งอกที่เสียงโทรศัพท์ของจุนมยอนดังขึ้นมาขัดจังหวะบรรยากาศอันน่าอึดอัดในตอนนี้

     

     

     

    สวัสดีครับ...อ้าว แจคยองเองเหรอครับ

    อืม ผมออกมาทานข้าวข้างนอกกับน่ะ

    เห็นกำลังหลับสบายเลยไม่ได้ปลุก ตอนออกมาก็ไม่ได้ทิ้งโน้ตไว้เพราะว่ารีบไปหน่อย ขอโทษนะครับ

     

     

     

     

    หือ...  


    ไคยกคิ้วเมื่อแอบได้ยินเสียงของชายหนุ่มที่กำลังคุยโทรศัพท์อย่างเปิดเผย

    ยกไวน์ขึ้นมาจิบก่อนจะแอบฟังชายหนุ่มตรงหน้าคุยโทรศัพท์เงียบๆ

    ถึงได้รู้ว่าจุนมยอนดันมีเด็กในสังกัดเป็นนักร้องเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดังเสียด้วยนี่

     

     

    โอเค...สายตาผมพลาดไปนิด

    ไอ้หน้าหล่อนี่ไม่ได้เกย์

     
     

    ไคถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะก้มหน้าก้มตากินอาหารตรงหน้าอย่างรวดเร็ว

    ไม่จำเป็นต้องกรีดกรายกินทีละน้อยๆเพื่อรักษาหน้าอีกแล้วล่ะมั้ง

    เพราะจุนมยอนน่ะชอบผู้หญิง!!!

     

     

    โอ...หมดอารมณ์ นี่มันเสียเวลาชะมัด....ไคคิดในใจ

     

     

    เพราะงั้นเขาต้องรีบสลัดหลุดไอ้หนุ่มหน้าตาจิ้มลิ้มแต่แมนสรึดนี่ให้ได้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

    แต่ปัญหาคือจะทำยังไงล่ะ?

     
     

    โอ้...ขอโทษด้วยที่เสียมารยาทนะครับคุณไค

    พอดีว่าสายนี้สายสำคัญน่ะ

     

     

    จุนมยอนที่วางโทรศัพท์เสร็จกลับมายิ้มแก้มแทบปริ ก่อนจะเอ่ยขอโทษกับไคเล็กน้อย

    ไคพยักหน้าให้พลางยิ้ม เอาน่ะ..อย่างน้อยนี่ก็เป็นลูกค้าคนสำคัญ

    อย่างน้อยที่ดินราคางามของจุนมยอนก็สำคัญน่า ท่องไว้ซะไอ้ไค

     

     

    ไม่เป็นไรหรอกครับ

     

     

    ไคยิ้มตอบ หากแต่ในใจกำลังวิ่งวุ่นคิดหาวิธีการจะสลัดจุนมยอนเพื่อไปที่อื่นเสียที

    เพราะเขาไม่อยากจะทนเสียเวลาที่นี่อีกต่อไปแล้ว

     

    ไคก้มหน้าก้มตากินอาหารอย่างเงียบๆ

    ก่อนจะยิ้มกว้างเมื่อคิดอะไรบางอย่างออกมาได้

     

     

    อืม...นี่แหละ วิธีที่ดีที่สุด

     

     

    เป็นอะไรไปครับคุณไค ยิ้มกว้างเชียวจุนมยอนถาม

     

     

    ไม่มีอะไรหรอกครับ...แต่ถ้ากินอาหารเสร็จแล้ว

    คุณจุนมยอนมีแพลนจะไปที่ไหนต่อหรือเปล่า?

     

     

    ไม่มีหรอกครับ...ก็คงจะกลับไปโรงแรมเลย ว่าแต่คุณมีอะไรหรือเปล่า?”

     

     

    อ้อ...พอดีผมกำลังคิดอยากจะชวนคุณไปเที่ยวที่ผับของผมน่ะครับ

    พอดีวันนี้มีดีเจที่ออดิชั่นเข้ามาใหม่...หุ้นส่วนของผมที่ญี่ปุ่นแล้วก็คุณโอเธอก็จะมาด้วย

    เราไปสนุกด้วยกันดีกว่านะครับ ดีเจคนนี้เก่งมากเลยนะครับ มีแต่คนแย่งกันซื้อตัวเขาทั้งนั้น

     

     

     

    โอ้...น่าสนุกดีนะครับ แต่ว่า...

     

     

    จุนมยอนยิ้ม พยักหน้าเบาๆอย่างเห็นด้วย หากแต่ก็ยังคงคิดหนัก

    ก็จะไม่ให้เขาคิดหนักได้ไงล่ะ ก็ในเมื่อเขายังมีแม่นักร้องสาวยั่วสวาทกำลังรอเขาอยู่ที่โรงแรมแบบนั้น

     

     

    ไคยิ้มกริ่มเมื่อเห็นว่าจุนมยอนเริ่มจะลังเลใจ

    เขาหัวเราะในลำคอก่อนจะพูดต่อไป

     

     

    ผมไม่รู้ว่าคุณจุนมยอนจะเคยรู้จักหุ้นส่วนของผมที่ญี่ปุ่นหรือเปล่า? เธอชื่อ ลี ซันนี่ครับ

    น่าจะรู้จักกันไว้นะครับ ถ้าเกิดคุณจุนมยอนกลับไปญี่ปุ่นแล้วมีปัญหาอะไร จะได้ให้ซันนี่จัดการดูแลคุณได้ไงล่ะครับ

    เพราะฉะนั้นแล้ว วันนี้คุณน่าจะไปกับเรา”

     

     

     

    อ...อะไรนะครับ! ลี ซันนี่ เหรอครับ????

    ช..ใช่คนที่เป็นลูกสาวคนเดียวของเจ้าของกิจการส่งออกของญี่ปุ่นนั่นหรือเปล่า?

    ผมไม่เคยรู้เลยว่าเธอเป็นหุ้นส่วนของคุณ!”

     

     

    หึหึ...งั้นคุณก็ควรจะไปนะครับ เผื่อจะได้ทำความรู้จักกันเอาไว้

     

     

     

    ผมตกลงครับคุณไค...งั้นเรามาดื่มฉลองกันเถอะ

     

     

     

    จุนมยอนยกยิ้มแป้นแร้น

    ก่อนจะจับที่ก้านของแก้วไวน์แล้วยกขึ้นมาส่งแก้วไวน์นั้นขึ้นชนกับแก้วของไคอย่างอารมณ์ดี

    ดูท่าทางแล้วจุนมยอนจะรู้จักกิตติศัพท์และชื่อเสียงของซันนี่ลูกพี่ลูกน้องของเขาเป็นอย่างดี

    ไคยกยิ้มที่มุมปากอย่างกระหยิ่มยิ้มย่องในใจที่อย่างน้อยเขาก็มีไม้ตายสุดท้าย

    ที่จะทำให้ที่ดินของจุนมยอนกลายมาเป็นกรรมสิทธิ์ของเขาโดยที่ไม่ต้องเหนื่อยเปล่า

    ยิ่งคะเนเอาจากหน้าตาท่าทางของจุนมยอนด้วยแล้วซันนี่ก็คงไม่อิดออดอย่างแน่นอน

     

     

     

    หึหึ....

     

     

     

     

    ไคหัวเราะในลำคออย่างมีชัย









    ✚ TALK 


    อะไรนะคะ...อะไรนะ? อ๋อ...โดนแบนเหรอ
    โธ่...ใครแคร์เหรอคะ? 55555555555555555
    ก็จะเรทอ่ะค่ะ ก็จะเอ็นซีอ่ะ อยากให้พวกมันซั่มกัน แล้วทำไมคะ? มีปัญหาไรป่าว?
    มีไรมาเคลียร์ได้นะ รออยู่ค่ะ ;)


    และถึงรีดเดอร์ของนมน. ตอนนี้มาต่อให้แล้วนะคะ
    ช่วยเม้นท์ให้นมน.นิดนึงนะ ตอนที่แล้วมาเม้นท์กันแค่ 28 เม้นท์เอง น้อยที่สุดในประวัติการณ์เลย
    ถึงเรื่องนี้มันอาจจะไม่สนุก แต่นมน.ก็ตั้งใจเขียนนะคะ
    เพราะงั้นรบกวนค่ะ ช่วยเม้นท์หน่อยนะ ถือว่านมน.ขอร้องก็ได้



     

    © Tenpoints!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×