คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : :::: CURSE ' 04
Xiao Luhan/Oh Sehun/Zhang Yi xing
Kim Junmyun
Rate : PG-15
✚ CURSE ' 04
“เพราะว่าผม...รักท่าน”
!!!!!
ไคขมวดคิ้วฉับอย่างโมโห
ตอนนี้ต่อให้ใครหน้าไหนก็ไม่สามารถที่จะทำให้เขาใจเย็นลงได้ทั้งนั้น
เขาลุกขึ้นเหวี่ยงลู่หานลงไปบนโซฟาอย่างแรงด้วยความเดือดดาลและอารมณ์โกรธที่พลุ่งพล่านอยู่ในอก
ปึก!
“โอ๊ย!”
ลู่หานร้องออกมาเสียงหลง เพราะไหล่บางที่ไปชนกับขอบโซฟานั้นอย่างจัง
หากแต่ไม่ทันได้คิดหรือพูดอะไรต่อ เมื่อคนเป็นเจ้านายโถมตัวเข้ามากดจูบอย่างรวดเร็ว
นี่มันช่างรุนแรงเหลือเกิน...ลู่หานคิด
“ทำไม??? ฉันไม่เข้าใจ
ทำไมพวกนายถึงได้พูดแต่คำว่ารักออกมาง่ายๆ!!
โกหก! โกหกทั้งนั้น! ฉันไม่เชื่อ ฉันไม่ต้องการมัน!!!”
พูดก่อนจะฉีกทึ้งเสื้อผ้าของลู่หานออกไปด้วยอารมณ์ที่คุกรุ่น
ก้มลงกดจูบอย่างรุนแรง ซุกไซร้ลงไปที่คอขาวๆของลู่หานก่อนจะฝากฝังรอยคิสมาร์คลงไป
แถมยังเผลองับเนื้อขาวๆนั้นไปเสียทีหนึ่งด้วยอารมณ์โมโห
ทุกอย่างช่างรุนแรงราวกับสัตว์ป่า...ลู่หานน้ำตาไหลรินลงมาจากหางตาด้วยความหวาดกลัว
“อ๊ะ! ท่านครับ!”
“หุบปาก!! ฉันไม่อยากได้ยิน!!!!
ฉันเกลียดมัน! เกลียดคำว่ารักของนาย ของแทมิน! ของทุกคนบนโลกใบนี้!
ฉันเกลียด! ฉันเกลียดที่สุด ได้ยินมั้ย?????”
พูดจบก็โถมตัวเข้าหาลู่หาน
ก่อนที่จะเริ่มต้นกิจกรรมทางร่างกายที่แสนจะเร่าร้อนและรุนแรง
โดยที่แม้แต่เสียงร่ำไห้ของลู่หานก็ไม่อาจจะหยุดยั้งไคได้...
*********
เสียงสะอึกสะอื้นประกอบกับร่างอันสั่นเทาของลู่หานไม่ได้ทำให้ไครู้สึกสงสารหรือเห็นใจ
เขาปรายตามองไหล่บางที่กำลังสั่นไหวอย่างเหยียดหยาม และโกรธเคืองยิ่งกว่าเก่า
สมควรแล้ว...
สมควรแล้วกับการที่พูดคำว่ารักออกมาได้ง่ายๆ
นี่ไม่ใช่เหรอสิ่งที่เขาต้องการ...ที่คนทุกคนบนโลกนี้ต้องการ...
แค่เซ็กส์เท่านั้นเองที่คนบนโลกนี้สนใจจะไขว่คว้าที่จะหาความรักจากใครซักคน
ถึงจะเริ่มจากคำว่ารัก...แต่ทุกคนต้องการจะจบด้วยคำว่าเซ็กส์กันทั้งนั้นแหละน่า
ก็เห็นมาเยอะแล้วไม่ใช่หรือไง พวกได้แล้วก็ทิ้งไป..เสพสมแล้วก็ตีจาก
วันไนท์แสตนด์ก็มีให้เห็นกันถมไป หากความรักมีพลังมากพอจริงแล้วสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ยังไงกันล่ะ
เพราะงั้นแท้จริงแล้วมันไม่เคยมีหรอก
มันไม่มีหรอกคำว่ารักที่แท้จริง...ไม่มี
ไคจรดกระดุมเสื้อเชิ้ตเม็ดสุดท้าย ก่อนจะกัดฟันกรอดอย่างเหลืออด
เขาจ้ำอ้าวไปที่โต๊ะทำงาน หยิบสมุดเช็คขึ้นมาเซ็นต์อย่างเร่งรีบ
ก่อนจะขว้างใส่คนที่นอนอยู่บนโซฟาเต็มแรง
“หยุดทำตัวน่ารำคาญเสียที!!!
เอาเงินนี่ไป...แล้วฉันขอไล่นายออก!!
และต่อไปนี้อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก”
“ม...ไม่! ไม่นะครับท่าน ได้โปรดให้อภัยผม ย...อย่าไล่ผมออกเลยนะครับ
น้องสาวของผมเพิ่งจะโดนให้ออกจากงาน ไหนจะพ่อที่กำลังป่วยอีก
ถ้าท่านไล่ผมออกตอนนี้ พ...พ่อกับน้องสาวผมต้องแย่แน่ๆ”
ลู่หานยันตัวขึ้นมาร่ำไห้...หากแต่ไคกลับขมวดคิ้วอย่างขัดใจ
ก่อนจะตวาดกลับไปเสียงดังลั่นเพราะโกรธจนเลือดขึ้นหน้า
เขาไม่อยากแม้แต่จะมองหน้า หรือได้ยินเสียงของลู่หานอีกต่อไปแล้ว
“ไม่!! ฉันไม่อยากเจอนาย! ไม่อยากเห็นนาย!!
เอาเช็คนั้นไป แล้วออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้!!!”
ไคชี้นิ้วไปที่ประตูหน้าห้อง
ทั้งๆที่ร่างบางตรงหน้ายังไม่ทันได้ใส่เสื้อผ้าเสียด้วยซ้ำ
และถึงแม้ว่าจะไม่แน่ใจนักว่าเสื้อผ้านั้นยังเหลือชิ้นดีให้คนตรงหน้าได้ใส่หรือเปล่า
ที่แต่แน่ๆ ความโกรธที่มีกำลังพลุ่งพล่าน จนแม้แต่ซักเหตุผลดีๆ ก็ไม่อาจจะทำให้ไคเปลี่ยนใจได้
ลู่หานส่ายหน้า น้ำตาไหลอาบแก้ม
คลานเข้ามากอดขาคนเป็นเจ้านายอย่างร้อนใจ
เขากำลังเสียใจเหลือเกินที่ทำอะไรไปโดยไม่คิด...ทั้งๆ ที่รู้ดีว่าเจ้านายเกลียดคำว่ารักขนาดไหน
แต่ทำไมนะทำไม...ทำไมปากเขาถึงถลันไปพูดคำๆนั้นเสียได้
“ท่านครับ...ได้โปรดเถอะ ให้ผมได้ทำงานต่อเถอะนะครับ
ที่ผมเคยพูดคำนั้นออกไป ได้โปรดยกโทษให้ผมเถอะ
คิดเสียว่าผมไม่เคยพูดอะไรทั้งนั้นก็ได้ นะครับท่าน...
ท่านครับ...ได้โปรด...”
หากแต่ไคไม่ยอมฟัง...เขากำลังโมโหจนเลือดขึ้นหน้า
พร้อมจะอาละวาดและขว้างปาทุกอย่างได้อย่างไม่คิด
หากแต่เขาจะทำเช่นนั้นไปเพื่ออะไร ในเมื่อคนที่ทำให้เขาโมโหมากองอยู่แทบเท้าแบบนี้
“ปล่อย-ฉัน!!!” ไคตวาด ก่อนจะสะบัดขาออกจากการเกาะกุม
ลู่หานร่ำไห้หนักกว่าเก่า...เขาลงไปกองกับพื้น เฝ้าขอร้องให้เจ้านายฟังคำเขาบ้าง
หากแต่ในใจรับรู้แล้วว่ามันสายเกินไปที่จะร้องขอ ถึงแม้จะร้องไห้ไปก็ไม่มีประโยชน์
ไคตอนนี้เป็นราวกับปีศาจ...ปีศาจที่มีความมืดมิดบดบังอยู่ในดวงตา
“ดี! ถ้านายไม่ออกไป ฉันจะไปเอง!
แต่เมื่อฉันกลับมา ฉันต้องไม่เจอนายที่นี่
ไม่งั้นนายเจอดีแน่...เสี่ยว ลู่หาน”
น้ำเสียงเยือกเย็นนั้นบอกให้ลู่หานรับรู้ว่าคนเป็นเจ้านายพูดจริง
ไคสบถออกมาก่อนจะหันไปเสื้อโค๊ทขึ้นมาสวม แล้วเดินออกจากห้องไปทันที
โดยไม่สนใจว่าลู่หานจะตะโกนร้องเรียกและร่ำไห้หนักแค่ไหน...
*********
ฟู่วว...
ไคถอนหายใจออกมาหลังจากที่จิบไวน์แดงไปเล็กน้อย
ยกนิ้วมือขึ้นนวดที่ระหว่างคิ้วเบาๆอย่างผ่อนคลาย
วิวนอกหน้าต่างบานใหญ่ตลอดแนวเป็นแสงไฟของกรุงโซลยามค่ำคืน
มองแล้วดูเหมือนโลกใบนี้ช่างกว้างใหญ่ไพศาลเสียเหลือเกิน
กว้างใหญ่เกินไปจนทำให้เขารู้สึกว่าเปล่าเปลี่ยว...
หากแต่เขายอมรับว่าไวน์รสเยี่ยมที่เขากำลังจิบนั้นช่วยผ่อนคลายอารมณ์ขุ่นมัวในใจเขาได้เป็นอย่างดี
ประกอบกับเสียงดนตรีบรรเลงในร้านก็ช่วยทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้นเยอะ
หรืออาจจะเป็นเพราะเขาระบายอารมณ์ไปกับบทรักที่เพิ่งผ่านมาเมื่อหลายชั่วโมงก็ได้
เขาไม่อาจรู้ได้แน่ชัด ว่าเพราะอะไรที่ทำให้เขารู้สึกดีขึ้น
เพียงแต่รู้สึกว่าอารมณ์หม่นหมองในใจทั้งหมดได้ถูกมลายหายไปแล้ว
ไคยกแก้วไวน์ทรงสูงขึ้นจิบอีกครั้ง...
ก่อนจะระบายยิ้มออกมาเมื่อรสชาตินุ่มละมุนนั้นไหลผ่านลงคอไป
“ท่านรออยู่ทางด้านนี้ครับ”
เสียงบริกรหนุ่มดังขึ้นไม่ไกลนัก ทำให้ไคลืมตาขึ้นมองไปทางเสียงนั้น
บริกรผายมือให้ใครบางคนได้เดินเข้ามา
เผยให้เห็นชายหนุ่มผิวขาวสว่างและรอยยิ้มที่เจือเสน่ห์ร้ายกาจได้เดินย่างกรายเข้ามาอย่างสง่าผ่าเผย
ไคยกยิ้มบางๆเ มื่อได้มองจุนมยอนตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า...
ไม่มีที่ติ... ไคคิด
อยากจะรู้นักเชียวว่าภายใต้เสื้อผ้าหรูหราราคาแพงแบบนั้น
จะซ่อนอะไรเอาไว้ภายในนะ หากได้เปิดมันออกดู ไคคงจะตอบได้ว่าผิวเขาขาวอย่างที่เห็นทั้งตัวหรือเปล่า
คิดในใจก่อนจะกลืนน้ำลายลงไปในคอเสียอึกใหญ่ ยืนขึ้นแล้วยกยิ้มให้จุนมยอนอย่างสุภาพ...
“เชิญนั่งครับ คุณจุนมยอน”
“ขอบคุณครับ คุณไค”
จุนมยอนยิ้มให้ไคเสียหวานหยด ก่อนจะเอ่ยคำขอบคุณแล้วนั่งลงตรงข้ามกับเขา
คนหน้าคมส่งยิ้มตอบกลับไปอย่างหวานหยด ก่อนที่ทรุดตัวนั่งลงที่ตรงข้ามกับคนหน้าหวานนั้น
“คุณจุนมยอนอยากได้ไวน์ไหมครับ?” ไคถามด้วยรอยยิ้ม
“ก็ดีนะครับ...แต่ผมเองไม่ค่อยสันทัดเรื่องนี้เท่าไหร่
คุณไคช่วยแนะนำผมหน่อยได้ไหม?”
จุนมยอนพูดพลางยิ้มบางๆ
หากแต่ไคกลับเป็นฝ่ายยิ้มอย่างมีชัย ถ้าเรื่องไวน์ล่ะก็ขอให้บอก เขาน่ะระดับโปรอยู่แล้ว
ดีดนิ้วดังเปาะเรียกบริกรหนุ่มให้เดินเข้ามา
ก่อนจะจ้องเข้าไปในตาชายหนุ่มสุดเซ็กซี่ตรงหน้า
แล้วเอ่ยออกมาว่า...
“ถ้าอย่างงั้น...ผู้ชายที่หน้าตาดูดีอย่างคุณจุนมยอนคงเหมาะกับ
ไวท์ไวน์ กาเวิร์ตซ์ ทรามีเนอร์ ปี 1986 รสนุ่มละมุน...ต่างจากกลิ่นที่ร้อนแรงของกลิ่นกุหลาบและพีช
คุณคงคาดไม่ถึงแน่ๆ ว่าไวน์ขาวกลิ่นหอมแรงขนาดนั้น จะมีรสชาติอ่อนหวานอย่างที่ไวน์ขาวชนิดอื่นให้ไม่ได้
เป็นรสชาติที่มีสเน่ห์...รัญจวนใจให้อยากลิ้มลอง”
อ้อยอิ่งกับคำพูดสุดท้ายไว้ให้คนฟังได้คิด
จุนมยอนยกยิ้มออกมาบางๆ ก่อนจะเปรยตาไปยังบริกรหนุ่ม
“งั้นรบกวนช่วยจัดอาหารที่เหมาะกับไวน์นี้ด้วยนะครับ ขอบคุณมาก”
บริกรหนุ่มพยักหน้ารับคำ
หากแต่ผายมือกลับมาที่ไคก่อนจะเริ่มพูดกับจุนมยอนว่า
“ถ้าอย่างนั้นคุณน่าจะลองถามคุณไคดูก่อนนะครับ...
คุณไคเป็นนักดื่มไวน์และนักชิมไวน์ที่เคยได้ใบรับรองจากสถาบันไวน์ของประเทศฝรั่งเศส
มีรสนิยมในการเลือกอาหารที่เข้ากับไวน์แต่ละชนิดได้อย่างดีเลยล่ะครับ
ผมขอรับรองกับคุณผู้ชายได้เลยว่า
คุณไคจะสามารถเลือกอาหารที่เข้ากับไวน์ของคุณได้ดียิ่งกว่าเชฟในร้านนี้เสียอีก
ท่านมีอะไรจะแนะนำคุณผู้ชายหรือเปล่าครับคุณไค?”
บริกรหนุ่มก้มลงมาถาม ไคยกยิ้มออกมาเมื่อเห็นจุนมยอนกำลังอึ้งกับกิตติคุณของเขาที่บริกรหนุ่มเยินยอ
หึหึ...เขาหัวเราะในลำคอเล็กน้อย ก่อนจะส่งสายตามองไปยังจุนมยอนตรงหน้าอย่างอ้อยอิ่ง
“อืม...ดูจากรูปร่างของคุณจุนมยอนแล้ว แปลว่าคุณเป็นคงจะรักษาเชฟและดูแลสุขภาพพอตัวเลยสินะครับ
เพราะฉะนั้น...ผมขอแนะนำให้คุณจุนมยอนสั่งปลาแซลมอนกับเลม่อนซอสครีมเป็น main course
คู่กับรอคเก็ตสลัดราดซอสบัลซัมมิไขมันต่ำ มันอร่อยมากครับคุณจุนมยอนแล้วก็เหมาะกับไวน์เป็นอย่างดี
คุณจุนมยอนตกลงมั้ยครับ?”
ไคถาม ซึ่งแน่นอนว่าจุนมยอนตอบตกลง
เพราะนอกจากจะรู้อุปนิสัยการกินของเขาแล้ว
ยังรู้อีกด้วยว่าเขาเคร่งเครียดกับการดูแลสุขภาพและรูปร่างขนาดไหน
“โอ...ตกลงสิครับ จัดมาอย่างที่คุณไคแนะนำเลยก็เลยกันครับ ขอบคุณมาก”
จุนมยอนส่งยิ้มมาให้ไคจนตาปิด ก่อนที่ไคจะหันไปพยักหน้าให้บริกรหนุ่ม
หลังจากนั้นไม่นาน มื้ออาหารก็เต็มไปด้วยเสียงพูดคุยและเสียงหัวเราะอย่างสนุกสนาน
*********
“คุณจุนมยอนจะมาอยู่ที่เกาหลีนานเท่าไหร่หรือครับ?” ไคยิ้มถาม เริ่มกรึ่มๆ เมื่อไวน์ที่ดื่มเข้าไปจนนับแก้วไม่ถ้วน
“วันมะรืนครับ ผมหลบจากงานที่ทำมาได้ไม่เท่าไหร่หรอกครับ
ถ้าอยู่นานงานอาจจะมีปัญหา อดเป็นห่วงไม่ได้เหมือนกัน”
“โธ่...น่าเสียดายจังเลยนะครับ
แล้วอย่างนี้ผมจะได้เจอคุณอีกเมื่อไหร่กันล่ะ?”
ไคถาม พร้อมๆกับที่ยื่นมือเข้าไปกุมมือคนตรงหน้าอย่างไม่คิดปิดบัง
โธ่...เขาเองไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะที่จะคอยเอาแต่กล้าๆ กลัวเวลาถูกใจใครสักคน
แล้วปริมาณแอลกอฮอล์ที่เขาดื่มเข้าไปก่อนหน้านี้
มันก็มากพอที่จะทำให้เขามือไวใจเร็วอย่างเช่นตอนนี้ได้ไม่ยากเท่าไหร่นักหรอก...
ไคยิ้มกริ่มเมื่อคิดว่ายังไงวันนี้เขาต้องไม่พลาดแน่
ในเมื่อคารมของเขาเป็นต่อ และหน้าตาก็ไม่ได้เป็นรอง
เขาเองกล้าพูดตรงได้นี้เลย ว่าถ้าเขาเริ่มลงมือ...เขาไม่เคยพลาดเลยซักครั้ง
หากแต่รอยยิ้มที่อาบใบหน้าก็ต้องเจื่อนลงไปเล็กน้อย...เมื่อชายหนุ่มตรงหน้าดึงมือกลับไปทันทีที่ไคสัมผัส
รอยยิ้มนั้นเจื่อนลงไปเล็กน้อยหากแต่ก็ยังคงมีรอยยิ้มบางๆ ที่เปิดเผยออกมาอย่างกระอักกระอ่วนใจ
ฮ...เฮ้!! ส...สาบานได้จริงๆนะให้ตาย ว่าผมไม่เคยพลาดมาก่อนเลย!!
ไครีบดึงมือกลับมา
แล้วแสร้งยกมือขึ้นมาจัดทรงผมสั้นสีดำสนิทที่แทบจะไม่ต้องจัดทรงใดๆเลยซักนิด
ก่อนจะโล่งอกที่เสียงโทรศัพท์ของจุนมยอนดังขึ้นมาขัดจังหวะบรรยากาศอันน่าอึดอัดในตอนนี้
“สวัสดีครับ...อ้าว แจคยองเองเหรอครับ
อืม ผมออกมาทานข้าวข้างนอกกับน่ะ
เห็นกำลังหลับสบายเลยไม่ได้ปลุก ตอนออกมาก็ไม่ได้ทิ้งโน้ตไว้เพราะว่ารีบไปหน่อย ขอโทษนะครับ”
หือ...
ไคยกคิ้วเมื่อแอบได้ยินเสียงของชายหนุ่มที่กำลังคุยโทรศัพท์อย่างเปิดเผย
ยกไวน์ขึ้นมาจิบก่อนจะแอบฟังชายหนุ่มตรงหน้าคุยโทรศัพท์เงียบๆ
ถึงได้รู้ว่าจุนมยอนดันมีเด็กในสังกัดเป็นนักร้องเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดังเสียด้วยนี่
โอเค...สายตาผมพลาดไปนิด
ไอ้หน้าหล่อนี่ไม่ได้เกย์
ไคถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะก้มหน้าก้มตากินอาหารตรงหน้าอย่างรวดเร็ว
ไม่จำเป็นต้องกรีดกรายกินทีละน้อยๆเพื่อรักษาหน้าอีกแล้วล่ะมั้ง
เพราะจุนมยอนน่ะชอบผู้หญิง!!!
โอ...หมดอารมณ์ นี่มันเสียเวลาชะมัด....ไคคิดในใจ
เพราะงั้นเขาต้องรีบสลัดหลุดไอ้หนุ่มหน้าตาจิ้มลิ้มแต่แมนสรึดนี่ให้ได้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
แต่ปัญหาคือจะทำยังไงล่ะ?
“โอ้...ขอโทษด้วยที่เสียมารยาทนะครับคุณไค
พอดีว่าสายนี้สายสำคัญน่ะ”
จุนมยอนที่วางโทรศัพท์เสร็จกลับมายิ้มแก้มแทบปริ ก่อนจะเอ่ยขอโทษกับไคเล็กน้อย
ไคพยักหน้าให้พลางยิ้ม เอาน่ะ..อย่างน้อยนี่ก็เป็นลูกค้าคนสำคัญ
อย่างน้อยที่ดินราคางามของจุนมยอนก็สำคัญน่า ท่องไว้ซะไอ้ไค
“ไม่เป็นไรหรอกครับ”
ไคยิ้มตอบ หากแต่ในใจกำลังวิ่งวุ่นคิดหาวิธีการจะสลัดจุนมยอนเพื่อไปที่อื่นเสียที
เพราะเขาไม่อยากจะทนเสียเวลาที่นี่อีกต่อไปแล้ว
ไคก้มหน้าก้มตากินอาหารอย่างเงียบๆ
ก่อนจะยิ้มกว้างเมื่อคิดอะไรบางอย่างออกมาได้
อืม...นี่แหละ วิธีที่ดีที่สุด
“เป็นอะไรไปครับคุณไค ยิ้มกว้างเชียว” จุนมยอนถาม
“ไม่มีอะไรหรอกครับ...แต่ถ้ากินอาหารเสร็จแล้ว
คุณจุนมยอนมีแพลนจะไปที่ไหนต่อหรือเปล่า?”
“ไม่มีหรอกครับ...ก็คงจะกลับไปโรงแรมเลย ว่าแต่คุณมีอะไรหรือเปล่า?”
“อ้อ...พอดีผมกำลังคิดอยากจะชวนคุณไปเที่ยวที่ผับของผมน่ะครับ
พอดีวันนี้มีดีเจที่ออดิชั่นเข้ามาใหม่...หุ้นส่วนของผมที่ญี่ปุ่นแล้วก็คุณโอเธอก็จะมาด้วย
เราไปสนุกด้วยกันดีกว่านะครับ ดีเจคนนี้เก่งมากเลยนะครับ มีแต่คนแย่งกันซื้อตัวเขาทั้งนั้น”
“โอ้...น่าสนุกดีนะครับ แต่ว่า...”
จุนมยอนยิ้ม พยักหน้าเบาๆอย่างเห็นด้วย หากแต่ก็ยังคงคิดหนัก
ก็จะไม่ให้เขาคิดหนักได้ไงล่ะ ก็ในเมื่อเขายังมีแม่นักร้องสาวยั่วสวาทกำลังรอเขาอยู่ที่โรงแรมแบบนั้น
ไคยิ้มกริ่มเมื่อเห็นว่าจุนมยอนเริ่มจะลังเลใจ
เขาหัวเราะในลำคอก่อนจะพูดต่อไป
“ผมไม่รู้ว่าคุณจุนมยอนจะเคยรู้จักหุ้นส่วนของผมที่ญี่ปุ่นหรือเปล่า? เธอชื่อ ลี ซันนี่ครับ
น่าจะรู้จักกันไว้นะครับ ถ้าเกิดคุณจุนมยอนกลับไปญี่ปุ่นแล้วมีปัญหาอะไร จะได้ให้ซันนี่จัดการดูแลคุณได้ไงล่ะครับ
เพราะฉะนั้นแล้ว วันนี้คุณน่าจะไปกับเรา”
“อ...อะไรนะครับ! ลี ซันนี่ เหรอครับ????
ช..ใช่คนที่เป็นลูกสาวคนเดียวของเจ้าของกิจการส่งออกของญี่ปุ่นนั่นหรือเปล่า?
ผมไม่เคยรู้เลยว่าเธอเป็นหุ้นส่วนของคุณ!”
“หึหึ...งั้นคุณก็ควรจะไปนะครับ เผื่อจะได้ทำความรู้จักกันเอาไว้”
“ผมตกลงครับคุณไค...งั้นเรามาดื่มฉลองกันเถอะ”
จุนมยอนยกยิ้มแป้นแร้น
ก่อนจะจับที่ก้านของแก้วไวน์แล้วยกขึ้นมาส่งแก้วไวน์นั้นขึ้นชนกับแก้วของไคอย่างอารมณ์ดี
ดูท่าทางแล้วจุนมยอนจะรู้จักกิตติศัพท์และชื่อเสียงของซันนี่ลูกพี่ลูกน้องของเขาเป็นอย่างดี
ไคยกยิ้มที่มุมปากอย่างกระหยิ่มยิ้มย่องในใจที่อย่างน้อยเขาก็มีไม้ตายสุดท้าย
ที่จะทำให้ที่ดินของจุนมยอนกลายมาเป็นกรรมสิทธิ์ของเขาโดยที่ไม่ต้องเหนื่อยเปล่า
ยิ่งคะเนเอาจากหน้าตาท่าทางของจุนมยอนด้วยแล้วซันนี่ก็คงไม่อิดออดอย่างแน่นอน
หึหึ....
ไคหัวเราะในลำคออย่างมีชัย
✚ TALK
อะไรนะคะ...อะไรนะ? อ๋อ...โดนแบนเหรอ
โธ่...ใครแคร์เหรอคะ? 55555555555555555
ก็จะเรทอ่ะค่ะ ก็จะเอ็นซีอ่ะ อยากให้พวกมันซั่มกัน แล้วทำไมคะ? มีปัญหาไรป่าว?
มีไรมาเคลียร์ได้นะ รออยู่ค่ะ ;)
และถึงรีดเดอร์ของนมน. ตอนนี้มาต่อให้แล้วนะคะ
ช่วยเม้นท์ให้นมน.นิดนึงนะ ตอนที่แล้วมาเม้นท์กันแค่ 28 เม้นท์เอง น้อยที่สุดในประวัติการณ์เลย
ถึงเรื่องนี้มันอาจจะไม่สนุก แต่นมน.ก็ตั้งใจเขียนนะคะ
เพราะงั้นรบกวนค่ะ ช่วยเม้นท์หน่อยนะ ถือว่านมน.ขอร้องก็ได้
ความคิดเห็น