ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [C0MPLETE] ✚ :: BE MY BABY :: ✚ [KAI x D.O.]*

    ลำดับตอนที่ #26 : ✚ BE MY BABY :: TWENTY F0UR

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 9.05K
      12
      14 ธ.ค. 55

     

     

    Author : MR.$N0WMAN*

    Pairing : Kim Jongin & Do Kyungsoo

    Story : Jackboiz

    Rate : PG-15

     


     

     

    Be my Baby*

     





     


    ‘0.24’


     









    “กูให้มึงทายว่ากูกำลังรู้สึกยังไงตอนนี้”

     

     “อืม...ทึ่ง”

     

    “ผิด”

     

    “นับถือ”

     

    “ไม่ใช่อ่ะ”

     

    “อับอาย?”

     

    “เออสิวะ! กูอายมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”





    จงแดร้องโอดโอยออกมาเมื่อผม มินซอก และจงแด 

    กำลังนั่งอยู่ที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งในห้างสรรพสินค้าชื่อดังที่เราชอบมาด้วยกันบ่อยๆ

    พวกเราสามคนได้หยุดชดเชยเนื่องในวันคริสมาสต์

    ซึ่งนั่นก็หมายความว่าผมมีเวลาชาร์ตแบตอีกสองวันกว่าจะได้กลับไปทำงานตามปรกติ...

     

    วันนี้ชานยอลกับแบคฮยอนไม่ได้มาด้วย

    เพราะแบคฮยอนต้องกลับไปฉลองกับที่บ้านของเขา

    ครั้นไอ้ชานยอลจะทิ้งให้เมียไปคนเดียวก็ใช่เรื่อง

    เลยต้องจำยอมเป็นสารถีขับรถไปฝากเนื้อฝากตัวกับพ่อตาสุดโหดของไอ้แบคฮยอนแทนที่จะได้มานั่งอยู่ด้วยกันตรงนี้...

     


    “แล้วมึงคิดว่ากูไม่อายหรือไง?!

    มึงเอาเพลงไรมากูนี่ไม่ได้ดูอายุเลยนะไอ้แด้!!

     



    ผมชกไปที่บ่าไอ้จงแดที่ยกมือขึ้นกุมขมับเหนือแก้วกาแฟอเมริกาโน่ของมันทีหนึ่งอย่างเคืองๆ แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่านี้

    เพราะเอาจริงๆ แล้วจะไปว่าไอ้จงแดอย่างเดียวมันก็ไม่ถูกหรอกครับ

    ต้องโทษผมด้วยที่ดันบ้าจี้ไปทำตามที่มันแนะนำซะนี่...

    แถมผมยังชอบมันด้วยเหมือนกันเนี่ยสิให้ตายเหอะ!!

     

    ไอ้จงแดกัดริมฝีปากทีหนึ่งอย่างแล้วทำท่าเหมือนกับว่าอยากจะตายไปจากโลกนี้

    แต่ไม่นานนักก็ส่ายหน้าออกมาอย่างอ่อนแรง...

     

     

    “เอาจริงๆ กูก็ได้มาจากเขาอีกต่อหนึ่ง...ตายห่าละ จะไปโทษใครก็ไม่ได้เพราะว่านั่นน่ะรุ่นพี่ก็ให้มาอีกที

    ฮือออออ ตอนนี้เขาอายุสี่สิบกว่าแล้วด้วยไงไอ้จงอิน!!  ...แต่ใครจะไปรู้ล่ะ! กูไม่ได้ไปติดตามนี่ว่าเพลงไหนออกมาปีอะไร

    เพลงเมคเลิฟนะมึงไม่ใช่เพลงประกวดชุมทางเสียงทอง!  ถ้าอย่างนั้นกูอาจจะสนใจมากกว่านี้!!!!

     

    จงแดบ่นพึมพำอย่างเคืองๆ โดยที่มีมินซอกนั่งหัวเราะอยู่ข้างๆ พลางส่ายหน้า

    ผมไม่ได้พูดอะไรอีกนอกจากยกกาแฟขึ้นมาดื่มเงียบๆ



    มินซอกเปิดหน้านิตยสารที่อยู่ในมือเบาๆ 

    และทำราวกับว่าไม่ได้สนใจสิ่งที่จงแดบ่นออกมา หากแต่ใบหน้านั้นก็มีรอยยิ้มบางๆเปื้อนอยู่

    ผมไม่ค่อยเห็นคู่นี้แสดงความหวานเท่าไหร่นัก ออกจะเหมือนเพื่อนกันเสียมากกว่า

    ไม่เหมือนคู่แบคฮยอนกับชานยอลที่มักจะโชว์ความสวีทหวานเรี่ยราดไม่เกรงใจใคร

    แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เคยเห็นซะทีเดียวหรอกครับ...แต่แค่นานๆทีจะมาให้เห็นก็เท่านั้น

     

     

    “แต่เพลงที่พ่อตามึงให้มานี่เอ๊กซ์แตกจริงๆนะไอ้จงอิน

    มึงดูอย่างเพลงนี้ ความหมายแม่งโดนกูสุดๆ เนี่ยมึงดู...”

     


    จงแดยื่นไอแพดในมือให้ผมได้ดูเนื้อเพลงที่เขาเพิ่งเปิดมันขึ้นมาเมื่อครู่

    ก่อนที่จะเริ่มยกประโยคที่มันชื่นชอบที่สุดแล้วชี้ให้ผมได้ดู

     



     

     

     

    If you're ready daddy come tonight

    ถ้าคุณพร้อมแล้วในคืนนี้

    let me see your body shine

    ไหนลองโชว์ให้ฉันได้เห็นเรือนร่างที่เปล่งประกาย

    Cause you're hot enough to do me right

    เพราะคุณร้อนแรงเพียงพอแล้วล่ะที่จะทำให้มันใช่!
    Baby, ain't no doubt

    ที่รัก, ไม่มีข้อสงสัยอีกต่อไป

    - take me to the top - don't stop

    พาฉันไปให้ถึงจุดสูงสุดสิ - อย่าหยุด

    (COCO LEE - NO DOUBT)




     

    โอ...เดี๋ยวนะ



    โอ้...มาย...ก๊อด!!!!

     


    ผมอ้าปากค้างกับเนื้อหาเพลงที่ออกแนววาบหวามสุดๆ ที่ไอ้แด้มันยื่นมาให้ตรงหน้า

    เนื้อเพลงบ้าอะไรจะแรงได้ขนาดนี้  ด...เดี๋ยวนะ เทคมีทูท๊อป - ด๊อนท์สต๊อป!!!!

    โอยย ผมอาจจะเป็นลมตายเพราะเพลงนี้ก็ได้ อยากจะบ้า!

     


    “เป็นไงล่ะ? อึ้งเลยสิมึง... กูว่าพ่อตามึงนี่เจ๋งนะกูชอบว่ะ

    อ่า...เห็นแล้วอยากจะยืมไปทดลองงานก่อนซักคืนสองคืน

    เนออออะ มินซอกอ่า”

     


    จงแดไม่พูดเปล่าหากแต่ยังหันไปเล่นปูไต่ที่ต้นแขนของมินซอกด้วย

    มินซอกปิดนิตยสารที่เขาถืออยู่แล้วกลอกตาอย่างเอือมระอา

    ก่อนจะหันไปมองไอ้จงแดด้วยสายตาดุๆ

     


    “สวรรค์โปรดเถอะคิมจงแด!

    ฉันบอกนายกี่ครั้งแล้วว่าอย่าเอาเรื่องแบบนี้มาพูดเล่น!!

    ไอ้จงอินมันก็อยู่ตรงนี้ หัดเกรงใจฉันบ้างสิโว้ย!!

     


    ไม่ได้มาแค่น้ำเสียงดุดันเท่านั้นแต่มินซอกกลับยกนิตยสารเล่มหนาในมือมาฟาดไอ้จงแดที่บ่าเสียสองที

    แต่ดูท่าแล้วไอ้จงแดก็ไม่ได้จริงจังตามคนรักเสียเท่าไหร่

    เพราะว่ามันยังหัวเราะอย่างชอบอกชอบใจที่ได้แกล้งมินซอกอย่างนั้น


    โธ่...ไอ้จงแด ไอ้คนซาดิสม์

    ถ้าเป็นผมโดนคยองซูฟาดอย่างนั้นล่ะคงไม่มีแรงจะหัวเราะแล้วครับ

    โอย พูดแล้วขนลุก...ก็คยองซูน่ะมือเบาซะที่ไหน ถ้าผมโดนฟาดแบบไอ้แด้ ผมคงกระดูกหักแหงๆ

     


    “โอเคๆ...ถ้าอ้วนน้อยของฉันไม่ชอบฉันไม่พูดแล้วก็ได้

    แต่ไอ้จงอินมันไม่ถือสาหรอกน่า เรื่องแบบนี้น่ะมันเชี่ยวชาญจะตาย

    ใช่มะไอ้จงอิน...ไอ้คนมีเมียเด็ก”

     


    “พ่อง! คนยัดเยียดให้กูทำอย่างนี้ก็มึงนั่นแหละไอ้แด้!

    มึงอยากเอาไปทำไรก็เอาไปเลย กูไม่เอาหรอก...กูไม่ต้องใช้”

     

     

    ผมพูดพลางดันแผ่นซีดีไปตรงหน้าไอ้จงแดกับมินซอก

    มินซอกถลึงตาใส่ผมนิดหนึ่ง หากแต่ไอ้จงแดกลับหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ

     

    “โธ่! นี่มันของขวัญที่มึงได้จากพ่อตามึงนะ!

    ใช้ๆ ไปเหอะน่า...กูรู้อยู่ว่าตอนมึงถึงจุดพีคน่ะมึงไม่ได้สนใจหรอก

    แต่เปิดๆ ไว้มันก็ช่วยสร้างความเร้าใจได้เหมือนกันน่ะเพื่อน!

     


    จงแดตบบ่าผมอย่างอารมณ์ดี

    ก่อนที่เขาจะหันไปงุ๊งงิ๊งกับมินซอกและปรึกษากันว่าจะเอาแผ่นซีดีผมไปไรท์ต่อดีไหม

    มินซอกหน้าแดงแปร๊ดเชียวแต่ดูเหมือนว่าเขาก็ไม่ได้จะปฏิเสธอะไร

    ผมแสร้งกระแอมออกมาเมื่อมินซอกปรายตามามองว่าผมกำลังทำหน้ายังไง

    ผมจึงรีบยกแก้วกาแฟขึ้นจิบแล้วหยิบมือถือในกระเป๋าขึ้นมากดต่อสายหาคยองซูเพื่อแก้เก้อ

     


    วันนี้ที่เรามานั่งทานกาแฟที่นี่กันก็เพราะว่าเรามีเหตุผลนะครับ

    วันนี้คุณโดมาหาซื้อของเข้าบ้านกันเพราะคุณโดตัดสินใจจะอยู่ต่อจนกว่าวันเกิดของคยองซูจะผ่านไป

    ช่วงนี้คยองซูเลยต้องไปๆ มาๆ ระหว่างบ้านของผมกับบ้านของเขาบ่อยๆ เพราะว่าคุณโดยังอยู่ที่นี่

    โชคยังดีหน่อยที่คุณโดจัดห้องนอนสำหรับผมไว้ที่บ้านของเขาด้วย

    ผมเลยไม่ต้องนอนเปลี่ยวอยู่ที่บ้านคนเดียวโดยไม่มีคยองซู

     


    สถานการณ์ระหว่างผมกับคุณโดตอนนี้มันเวิร์คสุดๆ

    คุณโดดีกับผมมากๆ จนอาจจะเรียกได้ว่าเขาเห็นผมเป็นลูกชายคนหนึ่ง

    และแน่นอนว่าเขาไม่ได้กีดกันความรักของเราสองคนเลยซักนิด

    ผมรู้สึกโชคดีที่คุณโดกับคยองซูนิสัยคล้ายกันราวกับถอดแบบกันมา

    ผมเลยไม่มีความรู้สึกอึดอัดนักเมื่อผมต้องอยู่กับคุณพ่อตาแค่สองต่อสอง

    หรือออกไปไหนมาไหนด้วยกัน แม้แต่นั่งดื่มเบียร์ด้วยกันก็เหอะ

     


    แต่เพราะว่าจงแดและมินซอกที่มาด้วย

    คยองซูเลยบอกให้ผมมานั่งอยู่ตรงนี้แทนที่จะไปเดินช็อปปิ้งกับเขาและคุณพ่อตา

    เพราะอันที่จริงแล้วผมก็เหมือนผู้ชายทั่วไปล่ะครับ...

    ผมไม่ค่อยชอบเดินช็อปปิ้งเท่าไหร่ มันเมื่อยน่ะ...

     

    “อื้ม...ว่าไงครับจงอิน”

     

    เสียงของคยองซูดังมาจากปลายสาย ผมยกยิ้มทันทีที่ได้ยินเสียงของเขา

     

     

    “ช๊อปปิ้งกันเสร็จหรือยัง? อยากให้ฉันไปช่วยถือของไหม?”

     


    ผมถามอย่างห่วงใย

    และคิดออกเลยว่าคยองซูกำลังทำหน้าตายังไงเมื่อตอบกลับมา

     

     

    “อื้ม...กำลังอยู่ที่เคาท์เตอร์คิดเงินพอดีเลยครับ

    จงอินขึ้นมาหาคยองที่นี่เลยก็ได้นะ...เราจะได้กลับบ้านกันเลยงายยย ดีมั้ยเอ่ย?”

     

     

    “อื้ม...เอาสิ งั้นเดี๋ยวฉันไปช่วยขนของแล้วกัน

    รออยู่ตรงนั้นก่อนนะอย่าเพิ่งไปไหนล่ะ

    เดี๋ยวฉันลาไอ้จงแดกับมินซอกแป๊ปเดียว เดี๋ยวจะตามขึ้นไป”

     


    “ครับ...คยองฝากลาพี่จงแดกับพี่มินซอกด้วยน้า

    แล้วคยองจะรออยู่ตรงนี้นะครับ มาเร็วๆ น้าที่ร๊ากกกกกกกกก”

     


    คยองซูลากเสียงยาวตอบกลับมาอย่างน่ารัก

    ก่อนที่จะวางไปเขาก็ส่งจูบมาจากปลายสายเรียกรอยยิ้มให้ผมด้วย

    ผมกดวางสายโทรศัพท์ก่อนจะหย่อนมันลงไปในกระเป๋าเสื้อ

    ...แล้วก็พบว่ามินซอกและไอ้จงแดกำลังมองมาทางผมด้วยสายตากรุ้มกริ่ม...

     


    “อะไรของพวกมึงเนี้ย??” ผมถามพลางขมวดคิ้ว

     


    “เปล๊า...กูแค่เห็นออร่าสีชมพูกระจายมาจากผิวสีดำของมึงน่ะ

    ฮ้าาาาาาาาา  อยากมีเมียเด็กมั่งจังเลยโว้ยยย น่าอิจฉาสุดๆ!!

     


    จงแดตอบผมกลับมาด้วยท่าทางเย้าหยอก

    ( “ว่าไงนะ!”  เสียงมินซอกดังขึ้นมาอย่างคาดโทษ

    ตามมาด้วยเสียงโอดครวญเบาๆของไอ้แด้ “อั๊ก! ฉันแค่พูดเล่นเฉยๆน่า”)

    ก่อนที่ผมจะกลอกตาส่งให้พวกเขาไป

     

     

    “พอล่ะ...อยากล้อเลียนอะไรก็ล้อกันไปเลย

    กูต้องไปล่ะ คุณโดกับคยองซูซื้อของกันเสร็จแล้ว

    พวกมึงก็กลับกันได้แล้ว และกูให้ยืมซีดีอาทิตย์นึง!

    อยากเอาไปทดลองงานกันกี่รอบก็ได้ตามใจพวกมึงเลย”

     

    ผมพูดก่อนจะยกกาแฟในแก้วขึ้นดื่มเป็นครั้งสุดท้าย

    ก่อนจะลุกขึ้นแล้วจัดเสื้อโค้ทให้เข้าที่

     


    “แหม่ะ...น่ารักสมเป็นเพื่อนกูจริงๆ

    ไว้กูจะโทรไปบอกแล้วกันนะว่ามินซอกชอบเพลงไหน

    ( “ย๊า!คิมจงแด!!” มินซอกตะโกน)

    โอ๊ย! ฉันรู้แล้วน่า...งั้นแยกกันตรงนี้นะเพื่อน ไว้เจอกัน”

     



    “โชคดีนะไอ้จงอิน...

    บอกคยองซูด้วยว่าไว้ฉันจะซื้อเค้กไปฝากเขาวันหลัง”

     



    จงแดบอกลาพลางยกมือขึ้นโบก และมินซอกก็ฝากฝังข้อความไปให้คยองซูด้วย

    ผมพยักหน้ารับแล้วยิ้มลาเป็นครั้งสุดท้าย

    ก่อนที่จะได้ยินเสียงของไอ้จงแดร้องโอดโอยตามมาข้างหลัง

    เมื่อไอ้จงแดโดนบิดหูซะจนหน้าเขียว...ผมหัวเราะในลำคออย่างอนาถก่อนจะเดินละออกมา

     

     



     

    *********




     

    “จงอินนี่! ...ทางนี้ครับบบ ทางนี้”

     

    คยองซูกระโดดโบกมือไปมาเมื่อผมเดินมาถึงโซนเคาท์เตอร์คิดเงินแล้วมองหาเขา

    ดูแล้วน่ารักน่าชังเสียจริง และถึงอยากจะปฏิเสธก็ปฏิเสธไม่ได้หรอกนะครับ

    ว่าถึงแม้เขาจะอายุสิปแปดย่างสิบเก้าแล้วก็จริงแต่ท่าทางและรูปลักษณ์โดยรวมของเขาก็ยังเหมือนกับเป็นเด็กๆ

    โดยเฉพาะความเตี้ยและไหล่บางๆ นั้นล่ะ..ที่ถึงแม้จะโตขึ้นมากี่ปีๆ ก็ไม่เปลี่ยนไปเลยจริงๆ

     

     

    “เป็นไงครับตัวเล็ก...ซื้อของกับคุณพ่อสนุกไหม?”  ผมถามคยองซูเมื่อสาวเท้าเดินมาถึงตัวเขาและคุณโดที่ยืนรออยู่

     


    “อื้ม...สนุกครับ ป่ะป๊าซื้อที่ห้อยมือถือโปโรโระให้คยองด้วยนะ

    มีพี่คร๊องด้วยยย....ป่ะป๊าซื้อมาให้เป็นคู่กันล่ะ

    จงอินเอาโปโรโระไปนะ แล้วคยองจะห้อยพี่คร๊องไว้”

     


    คยองซูยื่นตุ๊กตาโปโรโระตัวเล็กส่งมาให้ผม

    ในขณะที่คุณโดกลับถามลูกชายตัวเองอย่างไม่เข้าใจ

     

    “อ้าว...ก็ไหนคยองบอกป๊าว่าชอบโปโรโระมากกว่าไม่ใช่เหรอ?

    แล้วเอาโปโรโระไปให้พี่เขาทำไมล่ะลูก?” คุณโดถาม

     


    “โธ่...ป่ะป๊าไม่เมคเซ้นส์เลยอ้ะ

    ก็เอาโปโรโระให้จงอินสิครับถึงจะถูก

    เวลาที่จงอินเห็นโปโรโระ จะได้คิดถึงคยองไงล่ะ”

     


    คยองซูพองแก้มแล้วตอบคุณโดไปด้วยท่าทางน่ารักน่าชังในแบบของเขา

    คุณโดร้องอ๋อก่อนที่จะบอกว่าเข้าใจและเริ่มชักชวนให้เรากลับบ้านกันเสียที

     

    “คุณพ่อเดินไปก่อนเลยก็ได้ครับ..เดี๋ยวของพวกนี้ผมจะขนไปเอง อ๊ะ!!




    ผมร้องออกมาอย่างตกใจ เพราะในขณะที่ก้มลงหยิบถุงข้าวของที่วางอยู่บนพื้น

    โทรศัพท์เครื่องเล็กที่ผมใช้คู่กับคยองซูกลับตกกระแทกพื้นเข้าอย่างจังจนแบตหล่นกระจายเกลื่อนกลาด

    ผมเบิกตากว้างอย่างตกใจ ไม่แพ้คยองซูและคุณโดที่ร้องออกมาด้วยเช่นกัน

     

    “โอยตาย...ฉันลืมไปเลยว่าเอามันใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อ”

     


    ผมร้องโอดครวญออกมาในขณะที่เก็บมันขึ้นมาแล้วเริ่มประกอบมันใหม่

    หากแต่โทรศัพท์เครื่องเล็กที่เราใช้คู่กันมาเป็นสิบปีกลับไม่มีวี่แววว่าจะติดเลยซักนิด

    ผมเห็นอย่างนั้นเลยได้แต่กัดปากด้วยความกังวล

     

    “ทำไมมันไม่ติดเลยล่ะ...มันเสียแล้วเหรอคุณลูกเขย? “

     

    เสียงของคุณโดถามด้วยความตื่นเต้น และคยองซูเองก็มองมาที่มันโดยไม่ได้พูดอะไร

     


    “มันเปิดไม่ติดครับ...ผมกดเปิดเครื่องแล้วแต่ไม่ติดเลย”

     


    ผมตอบคุณโดไปอย่างกังวลใจ

    คยองซูกัดริมฝีปากแล้วยื่นมือเข้ามาเช็คมันด้วยอีกแรงหนึ่ง

     


    “โอ...มันคงจะเสียแล้วจริงๆ ล่ะจงอิน”

     


    คยองซูบอกออกมาเมื่อกดเปิดเครื่องหรือถอดแบตก็แล้ว

    แต่มันก็ไม่มีวี่แววว่าจะกลับมามีชีวิตเลย

     


    “โชคดีนะที่ไม่ใช่ไอ้โทรศัพท์ไอโฟนของคุณที่ตก

    ผมว่าเครื่องนี้มันเก่ามากแล้วด้วยนะจงอิน

    จะเอาไปซ่อมผมก็ว่ามันไม่น่าจะมีอะไหล่แล้วล่ะมั้ง”

     


    คุณโดบอกผมพลางยักไหล่

    เขาหยิบเอามือถือเครื่องนั้นพลิกไปพลิกมาอย่างพิจารณาด้วย

     


    “ผมไม่ได้เอาไอโฟนมาด้วยวันนี้ครับ...

    ไม่น่าเลย ผมน่าจะระวังกว่านี้” ผมบ่นอุบอิบ

     

     

    “ไม่เป็นไรหรอกครับจงอิน...คยองว่ามันก็เก่ามากแล้วด้วยล่ะ

    อย่าเครียดไปเลยนะครับ คยองว่าเรารีบกลับบ้านกันดีกว่านะ”

     


    คยองซูกอดแขนของผมเอาไว้แล้วบีบมือของผมอย่างอ่อนโยน

    ผมรู้ดีว่าเขาเองก็เสียดาย...แต่น้องเขาพยายามทำเป็นไม่คิดอะไรให้ผมต้องกังวล

     

     

    “นั่นสิ...ตอนนี้ผมเริ่มหิวแล้วด้วยครับคุณลูกเขย

    เรารีบกลับบ้านกันเหอะ...ป้าจีซุกแกคงทำกับข้าวรอไว้แล้วล่ะมั้งป่านนี้”

     


     คุณโดพูดพลางยกนาฬิกาขึ้นดู

    เขาเริ่มออกเดินไปก่อนในขณะที่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออกไปด้วย

    ผมคาดว่าเขาคงโทรหาป้าจีซุกแม่บ้านเกี่ยวกับอาหารเย็นนั่นแหละ

     


    “ไปกันเถอะครับจงอิน...ไม่เป็นไรหรอกน่า ดีแล้วนะที่ไม่ใช่ไอโฟนน่ะ”

     


    ผมก้มลงหยิบถุงข้าวของอีกครั้งและจัดการถือมันด้วยมือเพียงข้างเดียว

    มันหนักพอสมควร...แต่ผมกลับอยากใช้มืออีกข้างเพื่อเดินกุมมือน้องเขาในตอนนี้

     

     

    “พี่ขอโทษนะครับ...พี่ขอโทษที่ไม่ระวัง” ผมบอกคยองซูไปอย่างรู้สึกผิด

     

     

    “เลิกขอโทษเถอะครับ...ไม่เห็นเป็นไรซักหน่อย

    จงอินก็ยังมีโทรศัพท์อีกเครื่องนี่นา คยองโทรเข้าเบอร์นั้นเอาก็ได้” คยองซูปลอบผม

     

     

    “แต่มันเป็นโทรศัพท์ที่เราใช้คู่กัน”

     


    “คยองไม่ยึดติดกับมันหรอกครับ...

    ตอนนั้นคยองพูดเพราะอยากจะมีอะไรที่คู่กับจงอินบ้างก็เท่านั้นเอง

    แต่ตอนนี้คยองได้ทั้งตัวมาแล้วนี่นา...แค่นี้ก็พอแล้วล่ะ”

     


    น้องเขาพูดพลางยกยิ้มก่อนจะเอนหัวเล็กๆนั้นมาซบที่ไหล่ของผมอย่างน่ารัก

     


    “ไม่ได้แค่ตัวนะ...ได้หัวใจไปด้วย” ผมบอกเขาเสียงหวาน

     


    คยองซูหันมายิ้มให้ผมจนตาปิด...

    ดูก็รู้ว่าชอบใจมากแต่ก็ยังแอบต่อว่าผมอย่างไม่จริงจัง

     

     

    “เสี่ยวจริงๆ เลยแฟนใครเนี่ย”

     


    “แฟนใครล่ะ...ไม่ใช่น้องคยองหรอกเหรอ

    หรือว่าอยากให้ฉันเป็นแฟนคนอื่นล่ะหืม?”

     


    ผมแสร้งถามเขาเล่นๆ

    และหัวเราะออกมาอย่างชอบใจที่เห็นว่าน้องเขาทำหน้าบูดบึ้งอย่างที่คิดจริงๆ

     

    “หยุดคิดเลยนะ...ถ้านอกใจคยองล่ะก็  จงอินตายแน่!

     


    “ทำไมล่ะ? ถ้านอกใจแล้วจะทำไม?” ผมยังคงแกล้งเขาต่อ

     

     

    “ก็ไม่อะไรมากหรอกครับ...แค่นอนแยกห้องกันหกเดือน” น้องเขายักไหล่

     

     

    “ย๊า! หยุดตั้งกฎโหดร้ายแบบนั้นเดี๋ยวนี้นะ!” ผมโวยวายทันทีที่เขายกยิ้มออกมาที่มุมปาก

     




    “โธ่! คยองก็แค่พูดเล่นเฉยๆ หรอกน่า

    แต่ไอ้ที่เป็นเดือดเป็นร้อนนี่แปลว่าคิดจะนอกใจคยองจริงๆ สินะพี่บ้า!!

     


    น้องเขาแหวใส่ผมเล็กน้อยก่อนจะเหวี่ยงมือเข้ามาตีที่ต้นแขน

    ผมกลอกตาเล็กน้อยที่น้องเขาทำอย่างนั้น

    โธ่...มันก็แค่เรื่องล้อเล่นนี่ครับ แต่เขาทำท่าเหมือนคิดจริงๆอย่างนี้ผมก็เลยนอยด์จริง

     

     

    “เฮ้...ฉันจะนอกใจนายได้ไงเล่าเด็กบ้า

    วันๆ ฉันก็คิดถึงแต่นาย เห็นฉันไปยุ่งกับใครที่ไหนหรือเปล่าล่ะ?

    โธ่...หึงไม่เข้าเรื่องเลยเด็กโง่เอ๊ย”

     

     

    ผมบอกกับเขาแล้วผลักหัวทุยนั้นเบาๆ ทีหนึ่ง

    แต่หลังจากนั้นก็เปลี่ยนไปลูบหัวแล้วโอบรอบบ่า

    ก่อนที่เราจะเริ่มออกเดินไปพร้อมกันอีกครั้ง...

     


    “หึงสิครับ...ก็คยองรักจงอินนี่นา

    นี่ๆ...สัญญากับคยองได้ม้า ว่าจงอินจะมีแค่คยองคนเดียว”

     


    เด็กน้อยเลื่อนมือมาโอบรอบเอวผมทันทีที่ผมยกแขนโอบรอบบ่าเขา

    มือเล็กนั้นขยำชายเสื้อของผมแล้วกระตุกมันเบาๆ เพื่อทวงขอคำสัญญา

    ริมฝีปากสีชมพูที่เบะออกมาอย่างงอนงอดนั้นทำให้ผมต้องยกยิ้ม

    อ่า...ก็อย่างที่พวกคุณก็รู้กันอยู่  ผมแพ้หน้าตาของเขาอย่างนี้เสมอล่ะ

     

     

    “สัญญาสิ...พี่สัญญาว่าจะมีแค่คยองซูคนเดียว”

     

     

    ผมกระซิบก่อนจะโน้มหน้าลงไปจูบกับน้องเขา

    จังหวะการเดินของเราหยุดไปชั่วครู่เมื่อริมฝีปากของเราสัมผัสกันเนิบนานยาวนาน

    มันเป็นจูบหวานๆ แบบเด็กๆ ที่ทำให้หัวใจพองโตขึ้นมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ

    ผมกดริมฝีปากลงไปอีกสองทีแล้วจากนั้นจึงถอนมันออกมาแล้วเริ่มเดินต่อไป

    เห็นคยองซูยกยิ้มเขินแล้วก็พลันรู้สึกว่าอารมณ์ดีไปด้วย

     


    “รักนะครับ...คยองซูอ่า”  ผมกระซิบที่ข้างหู

     

     

    คยองซูยิ้มหน้าบานก่อนจะเขย่งตัวขึ้นมาจูบที่แก้มของผมเบาๆ อย่างน่ารัก

    กระซิบตอบแล้วกระชับอ้อมแขนที่โอบรอบเอวของผมให้แน่นขึ้นไปอีก

     

     

    “คยองก็รักจงอินเหมือนกันนะครับ”

     

     

    เด็กน้อยกระซิบคำรักออกมาที่ฟังแล้วชื่นหัวใจ

    ผมโอบบ่าน้องเขาให้แน่นขึ้น แล้วหลังจากนั้นเราก็เดินไปพร้อมกันอีกครั้ง

     

    ตลอดแนวทางเดินไปที่ลานจอดรถนั้นหิมะกองพะเนินเป็นภูเขาและอากาศก็หนาวเย็นจนเรียกได้ว่าติดลบ

    แต่สิ่งที่ทำให้ผมอบอุ่นก็คืออ้อมกอดของเราที่มีให้แก่กันและกันในตอนนี้

     


    และความอบอุ่นที่เราถ่ายทอดให้แก่กัน

     

    .

    .

    .

     

    ผมว่ามันหลอมละลายหิมะพวกนี้ได้สบายๆ เลยล่ะ 















    ✚ TALK 

    อุ๊ตายแล้ววววววววววววววว
    มันหวานมากกกกก หวานเกินไปปปปป หวานไม่ไหวแล้วววว
    อิพวกบร้าาาาาาาาาาาาา พหวีดดดดดดดดดด

    แต่งไปก็กัดหมอนไป อิจฉาโว้ยยย
    จุดๆนี้ลำปางหนาวมากนะคะ แต่ลำพังหนาวกว่า T^T


    ตอนนี้สารภาพเลยว่าไม่มีพล๊อตวางไว้ก่อน มันเลยออกจะเวิ่นๆ
    (เหมือนว่าจะออกมาเวิ่นทุกตอนป่ะคะอินมน. OTZ)
    ตอนแรกตันมากไม่รู้จะแต่งมายังไง แต่ก็อย่างว่าแหละ ไอเดียมันมักจะมาตอนตีสามเสมอ = =
    แล้วมันก็ออกมาเป็นตอนนี้ล่ะค่ะ มันอาจจะไม่ดีมากนะ
    แต่ก็พยายามจะโปรยเรื่องไปสู่ตอนจบที่ดี  รีดเดอร์จะได้ชื่นใจเนอะๆ 
    ^^


    นมน.จะขอเคลียร์เรื่องที่รีดเดอร์พูดๆ กันไว้จากตอนที่แล้วหน่อยค่ะ
    คือ
    เรื่องที่น้องคยองไม่พูดถึงพ่อมันไม่ได้เป็นปมอะไรนะคะ
    ก็แค่ไม่พูดถึงเฉยๆ อย่างเวลาที่เราคุยกับพ่อแล้ววางหู  เพื่อนก็ไม่ได้ถามและเราก็ไม่ได้บอกก็แค่นั้น
    (หรือคนอื่นเขาถามกันหว่า แต่นมน.กับเพื่อนไม่ค่อยถามกันอ่ะ = =)


    คือจงอินก็ไม่ใช่คนถาม และเวลาคุณโดโทรมาจงอินก็จะอยู่ด้วยตลอด
    น้องคยองเลยคิดว่าเวลาที่ตัวเองพูดกับพ่อ จงอินก็จะรับรู้ไปด้วยเหมือนกัน
    ว่าเรื่องที่น้องคยองคุยกับคุณโดนั้นมีอะไรบ้าง เลยไม่ต้องอัพเดทให้กันฟังน่ะค่ะ  


    ที่นมน.วางพล๊อตไว้อีกประมาณสองตอนก็น่าจะจบแล้วนะคะ
    เพราะฉะนั้นแล้ว...ใครยังไม่ได้สั่งจองก็รีบๆ ไปสั่งกันซะดีๆ เลยยยย
    เพราะว่านมน.กำลังจะเล่นเกมส์แจกฟิคฟรีสำหรับคนที่สังฟิคกันเข้ามา
    โดยกติกาและรายละเอียดต่างๆ นมน.จะบอกในแฟนเพจอีกทีนะคะ อย่าลืมติดตามกันด้วยล่ะ ^^


    สำหรับคนที่ถามกันเข้ามาเกี่ยวกับฟิค...
    นมน.ขอแจ้งไว้ก่อนนะคะว่าจะขอเคลียร์น้องคยองให้จบก่อนแล้วถึงจะตามไปต่อเรื่องเก่าๆที่นมน.ค้างเอาไว้
    อยากจะทุ่มไปทีละเรื่อง รีดเดอร์จะได้ไม่ค้างไม่ขัดใจกันเนอะ
    เพราะงั้นแล้วเรามาตกลงกันอย่างนี้นะคะ ^^


    ส่วนคนที่ขอให้แต่งช็อตฟิคหรือวันช็อตคู่แปลกๆ ที่ขอเข้ามาใน ASK
    นมน.รับทราบแล้วนะคะ และจะพยายามแต่งออกมาแน่นอนค่ะ
    นมน.จำได้เสมอน้า เพราะงั้นถ้ามีเวลานมน.สัญญาว่าจะแต่งมาลงแน่นอนค่ะ
    สัญญานะคะ สัญญาาา ><



    โอววว วันนี้เราคึกอัลไลล่ะเนี่ยถึงได้ทอล์คยาวมากๆเลย
    เอาล่ะ...ตอนนี้ถึงเวลาที่นมน.จะต้องไปนอนแล้วค่ะ
    ใครที่ตื่นไปเรียนตื่นไปทำงานก็สู้ๆนะคะ
    ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดีของทุกคนน้าาา 


    บ๊ายบายยยยยยยยย 



    รักรีดเดอร์นะคะ งุงิ




    - ไรเตอร์นมน. -


     

    © Tenpoints!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×