คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #25 : ✚ BE MY BABY :: TWENTY THREE
Author : MR.$N0WMAN*
Pairing : Kim Jongin & Do Kyungsoo
Story : Jackboiz
Rate : PG-15
Be my Baby*
‘0.23’
แสงแดดอ่อนๆในตอนเช้าตรู่และอากาศที่หนาวเย็นจนติดลบนั้น
ราวกับเป็นยานอนหลับชั้นดีให้จงอินได้ดื่มด่ำอยู่ในห้วงนิทรา
ใต้ผ้าห่มอันอบอุ่นนั้นจงอินกำลังหลับไม่รู้เรื่องรู้ราว
หลับสนิทด้วยความสบายใจ...ลมหายใจเข้าออกเป็นจังหวะยาวซึ่งใครฟังดูก็รู้ว่าเขากำลังหลับฝันดีอยู่แน่ๆ
แต่ที่แน่ๆก็คือ...เขาหลับสนิทจนแทบไม่ได้ยินเสียงของใครบางคนที่วิ่งขึ้นบันไดมาเสียงปึงปังและกระชากประตูให้เปิดออก
โดคยองซูล่ะหมั่นไส้คนหลับสบายเสียจริงๆเลยเชียว...
คุณอาจจะอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับคำตอบของผมเมื่อคืนนี้
แต่ผมว่ามันไม่สำคัญแล้วล่ะมั้งครับ ในเมื่อตอนนี้ผมมายืนอยู่ตรงนี้แล้วนี่นา ♥
ผมกัดริมฝีปากแล้วยกยิ้มออกมาเมื่อหาวิธีปลุกดีๆที่คิดว่าจงอินน่าจะชอบขึ้นมาได้
ตัดสินใจค่อยๆย่องเข้าไปหาพี่เขาแล้วเลิกชายผ้านวมขึ้นแล้วมุดเข้าไป
“จง! อิน! นี่!”
ผมมุดๆๆๆๆๆๆ มุดจากตรงปลายเท้าแล้วคลานขึ้นไปทับพี่เขาจนได้
และสุดท้ายก็ตะโกนออกมาเมื่อเหวี่ยงตัวขึ้นไปโดดทับพี่เขาจนเต็มน้ำหนัก
ผมรู้ดีว่าจงอินตื่นแล้วแต่แกล้งทำเป็นหลับ
ก็แหม...หลุดยิ้มออกมาขนาดนั้น ใครคิดว่าเขาหลับก็คงบ้าไปแล้ว
“เอ๊...ทำไมคนขี้เซาถึงยังไม่ตื่นน้า?
แล้วคยองควรจะปลุกยังไงดีล่ะเนี่ย? จะจุ๊บดีมั้ยน้า?
แต่คิดไปคิดมาไม่ปลุกดีกว่า...ปล่อยให้หลับไปอย่างนี้แหละเน๊อออะ ~”
ผมแกล้งพูดอ้อนทั้งๆที่ยังนอนทับพี่เขาไว้
หัวเราะออกมาเมื่อรู้สึกถึงมือใหญ่ๆของจงอินที่เลื่อนเข้ามากอดที่เอวเอาไว้
หัวเราะคิกคักเมื่อจงอินตอบกระซิบออกมาแต่ก็ยังแกล้งทำเป็นหลับอยู่
“อืออ... ปลุกพี่ซี่... จุ๊บนะจุ๊บ อืม...จุ๊บๆ จุ๊บๆ”
แกล้งทำเป็นครางออกมาแต่ตายังคงหลับสนิท
ริมฝีปากนั้นเผยอขึ้นราวกับรอคอยสิ่งที่เขาแสร้งทำเป็นร้องขอ
ท่าทางน่าหมั่นไส้นั้นทำให้ผมแทบจะกลั้นหัวเราะออกมาไม่ไหว
“ตื่นแล้วจะแกล้งหลับทำไมครับ? ไม่ได้ผลหรอกน่าพี่โง่”
“อืม...เปล่าซักหน่อยยย นี่ยังฝันอยู่เลย รอจุ๊บนะจุ๊บ...เดี๋ยวตื่นเลย งืมๆ คร่อกก...”
น้ำเสียงอู้อี้ที่พี่เขาแกล้งทำเป็นร้องออกมานั้นทำให้ผมต้องยกยิ้ม
จงอินเวลาอ้อนน่ะน่ารักจริงๆนะครับ...ผมชอบให้พี่เขาทำตัวน่ารักอย่างนี้แหละ
เพราะมันทำให้เราดูเหมือนอายุไม่ห่างกันมากเท่าไหร่
จะว่าก็ว่าเถอะ...แต่เวลาพี่เขาแอ๊บแบ๊วน่ะ เหมือนเรากำลังคุยภาษาเดียวกันอยู่เลยล่ะ คิกคิก~ ♥
“อื้ม...งั้นจุ๊บดีกว่าเนอะ จุ๊บซักสองที คนดีของคยองจะได้ตื่นจากฝัน”
ผมแกล้งเล่นตามน้ำไปเรื่อยๆ ก่อนจะตัดสินใจเลื่อนตัวขึ้นไปอยู่ในระดับเดียวกับพี่เขา
ก่อนจะก้มหน้าลงไปจูบพี่เขาที่แก้มทีนึง...และที่ริมฝีปากหนาที่เผยอรอรับจูบของผมนั้นอีกทีนึง
สองทีเลยนะครับ...ชดเชยที่เมื่อวานไม่ได้จุ๊บด้วย
อ่า...จงอินชักจะกำไรมากเกินไปแล้วนะเนี่ย
“งืมมมม... อ...อ้าว! คยองซูเมียเด็กของพี่นี่นา!!
กลับมาแล้วเหรอครับที่รัก?”
“อ๊ะ!!”
จงอินแกล้งทำเป็นงัวเงียลืมตาตื่นขึ้นมา ก่อนจะยกยิ้มร่าเมื่อเห็นผมอยู่ตรงนี้
จู่ๆพี่เขาก็เปลี่ยนตำแหน่งขึ้นมาเป็นคนนอนทับผมเอาไว้ เล่นทำเอาผมใจหล่นตกเตียงไปเลยแหน่ะ!
“เดี๋ยวสิจงอิน”
ผมกระซิบแต่ก็ไม่ทันพี่เขาหรอก
เมื่อจู่ๆพี่เขาก็โน้มหน้าลงมามอบจูบแสนหวานให้กับผม
อืม...เพราะงั้นอะไรๆ ที่จะบอกก็เอาไว้ทีหลังก็แล้วกันนะ
ด้านจงอินตอนที่ลืมตาขึ้นมาน่ะหัวใจก็เต้นตึกตักจนแทบบ้า
ก็ว่าอยากจะตื่นมาแบบหวานๆ กุ๊กกิ๊กแบบที่น้องเขาเล่นอยู่หรอกนะ
แต่พอลืมตาขึ้นมาเจอหน้าใสๆ กับตาแป๋วๆ ที่ลอยหน้าลอยตาอยู่
กับเสื้อโค้ทกันหนาวสีน้ำเงินเข้มที่มีเฟอร์ประดับอยู่ที่รอบฮู๊ดแบบนั้น...ผมก็ชักจะไม่อยากปล่อยไปเฉยๆซะแล้วสิ
ก็โธ่เอ๊ย...เด็กบ้านี่มันน่ารักมากๆเลยนี่นา แล้วจะให้ผมอดใจไหวได้ยังไงล่ะครับ
ก้มลงไปประกบจูบหนักๆกับน้องเขาซักทีเพื่อให้หายคิดถึง
ไม่ได้นอนกอดมาตั้งสองคืน...ทำเอารู้สึกว่าคิดถึงแทบจะเป็นบ้าตายไปเลยให้ตายเหอะ
ผมจับฮู๊ดประดับเฟอร์นุ่มนิ่มนั้นให้เข้ามาใกล้มากขึ้น มอบจูบแสนหวานและดูดดื่มให้น้องเขาอย่างเชื่องช้า
ลิ้นของเราสองคนตวัดแลกเปลี่ยนซึ่งความคิดถึงของกันและกัน
เสียงดังจ๊วบจ๊าบจากการถอนริมฝีปากและประกบเข้าไปใหม่นั้นทำเอาผมรู้สึกขนลุกได้อย่างไม่น่าเชื่อ
เราสองคนตวัดแลกลิ้นกัน ในขณะที่มือผมก็เลื่อนควานหาอะไรบางอย่างแถวๆใต้หมอน
อ่า...ผมเจอมันแล้วล่ะ รีโมทสเตอริโอของเรา
และ...ช่ายครับ ผมว่าเรื่องนี้บางทีก็ต้องมีตัวช่วย...
“อื้ม... ด...เดี๋ยวก่อนนะจงอิน”
“ไม่เอาไม่เดี๋ยวแล้ว...คิดถึงใจจะขาด”
“แต่...อื้อออ”
น้องเขาผละหน้าออกมาเมื่อผมกดรีโมทเพื่อเปิดเพลง
ผมปฏิเสธที่จะฟังทุกคำคัดค้านของเขาแล้วก้มหน้าลงจูบไล้ที่ปลายคางแล้วเลื่อนขึ้นไปปิดปากเล็กๆที่กำลังจะเอ่ยคำปฏิเสธอีกหนหนึ่ง
“อะ...ฮึ่มมมมมมม”
จนกระทั่งผมได้ยินเสียงนี้แหละ
ผมเลยแทบจะกระเด้งตัวลุกขึ้นมานั่งคุกเข่าในท่าเตรียมกราบเบญจางคประดิษฐ์แทบจะไม่ทัน
รีบยกรีโมทขึ้นไปกดปิดเพลงทันที...ให้ตายเหอะ จู่ๆ คุณโดแกก็โผล่มาอย่างกับผี
“อ่ะ...อ้าววว ว่าไงครับคุณโด!
เช้านี้อากาศสดใส๊...สดใสนะว่าไหมครับ ฮ่าๆ”
พูดพลางกลั้วหัวเราะส่งไปก่อนจะหันออกไปมองที่หน้าต่าง
แต่โอ้ย! ชิบหายตายห่า...หิมะเสือกตกซะงั้น T T
“ถึงว่าล่ะ...นานผิดปกติ
ความจริงผมเองก็ไม่ได้อยากจะขึ้นมาขัดจังหวะการ...เอ้อ...นั่นแหละ ของคุณหรอกนะ
ผมมีธุระต้องคุยกับคุณก่อนจะออกไปทำธุระ
แต่ก็เห็นได้ชัดนะว่าการส่งคยองซูมาปลุกคุณน่ะไม่ได้ผลเลยจริงๆ”
คุณโดพูดพลางกอดอกแน่น เขากลอกตาไปมาในขณะที่พูดราวกับเอือมระอาเต็มที
ผมรีบจัดแต่งทรงผมที่คิดว่าตอนนี้น่าจะไม่เป็นทรงของตัวเองให้เข้าที่แล้วกระเด้งออกไปยืนข้างเตียง
หันไปมองคยองซูที่ตอนนี้เลื่อนตัวขึ้นมาเปลี่ยนเป็นนั่งขัดสมาธิ
เขาส่งสายตามาให้ผมด้วยอารมณ์ราวกับจะบอกว่า ‘ก็ผมพยายามบอกพี่แล้ว’
ส่งมาให้ผมพร้อมทั้งกลอกตา
“อ...เอ้อ งั้นช่วยรอผมซักห้านาทีนะครับ
เดี๋ยวผมขอจัดการธุระซักครู่แล้วผมจะตามลงไป”
ผมส่งยิ้มให้เขาเจื่อนๆ และขอเวลาจัดการกับตัวเองซักห้านาที
แต่คุณโดกลับส่ายหน้าตอบกลับมา ก่อนจะถอนหายใจแล้วบอกผมว่า
“ไม่ต้องหรอก ผมแค่จะบอกคุณว่าคยองซูจะขอจัดปาร์ตี้ฉลองคริสมาสต์ที่บ้านเราคืนนี้
คยองซูบอกว่าเขาอยากจะชวนเพื่อนๆของคุณไปด้วย
รายละเอียดต่างๆก็คุยกันเองแล้วกัน ผมแค่เอาคยองซูมาส่ง และผมคงต้องรีบไปแล้ว
แต่อย่ามัวแต่สนใจเรื่องอื่นจนลืมคุยกันเรื่องปาร์ตี้คืนนี้ล่ะ...”
คุณโดพูดออกมาเสียงเรียบ แต่สุดท้ายแล้วก็ยกยิ้มแซวออกมาเมื่อถึงท้ายประโยค
คยองซูหน้าแดงแจ๋ก่อนจะมุดตัวเข้าไปใต้ผ้าห่มแล้วห่อตัวอยู่บนเตียงนั้น
ทิ้งให้ผมยืนปั้นหน้าแทบจะไม่ถูก...
อ่า ให้ตายเหอะ เขาจะเข้าใจว่าผมเป็นคนแบบไหนล่ะเนี่ย?!!
“อ...เอ้อ ขอบคุณมากครับ
แล้วผมจะชวนเพื่อนๆไปแน่นอน ว่าแต่คุณจะไปแล้วหรือ?”
“ใช่...ผมนัดเพื่อนของผมไว้เพื่อให้จัดการธุระให้นิดหน่อย
และถ้าผมไม่รีบไปตอนนี้ผมอาจจะสายก็ได้”
คุณโดยกนาฬิกาขึ้นดู
ก่อนจะล้วงเอากุญแจรถยนต์ออกมาจากกระเป๋ากางเกง
“เอ้อ...งั้นจะให้ผมลงไปส่งด้านล่างไหมครับ?” ผมถามเขา หากแต่คุณโดหันมายกยิ้มกว้าง
“โอ้ ไม่จำเป็นหรอก พวกคุณอยากจะคุยอะไรกันก็คุยกันไปเถอะ
แต่อย่าเยอะจนเกินไปล่ะ...ผมจับตาดูคุณอยู่นะ I'm watching you! Okay?”
“รับทราบครับผม” ผมยิ้มเจื่อนพร้อมทั้งยกมือขึ้นเกาแก้มอย่างเขินอาย
“งั้นผมไปล่ะ...และถ้าผมเป็นคุณ
ทันทีที่ผมก้าวออกไปจากห้อง ผมจะล๊อคประตูนะ”
“โธ่! ผมทราบแล้วครับ และคุณน่าจะเลิกพูดเรื่องนี้ซักที!”
ผมแหวใส่เขาด้วยความเขินอย่างฉุดไม่อยู่
คุณโดหัวเราะร่าแล้วเดินออกจากห้องไปทันที
ผมจึงรีบปรี่ไปล็อคประตูห้องแล้วหันไปมองคนเป็นน้องที่โผล่หน้ามาจากผ้าห่มนั้นอย่างคาดโทษ
“ย๊า! แล้วทำไมนายไม่บอกฉันล่ะ?!” ผมแหวใส่น้องเขา
“ก็คยองจะบอกแล้วจงอินไม่ฟังเองนี่นา” คยองซูดึงผ้าห่มออกจากตัวแล้วยักไหล่ส่งให้ผมทีหนึ่ง
“แต่เรื่องอย่างนี้นายน่าจะบอกฉันก่อนที่เราจะปลุกกันด้วยวิธีงุ๊งงิ๊งอย่างนั้นนี่นา!”
“โธ่! คยองก็ตั้งใจว่าจะทำแค่ปลุกแหละน่า
แต่จงอินนั่นแหละ...ไม่ฟังคยองแล้วยังจะมาโทษคยองอีก”
น้องเขาพูดพลางเบะปากอย่างไม่ค่อยพอใจนัก
ผมกลอกตาแล้วถอนหายใจออกมาเบาๆอีกครั้งหนึ่ง
ถึงคยองซูจะเรียนเก่ง แต่ผมว่าบางทีเขาก็จัดลำดับความสำคัญผิดไปหน่อย
(NMN: จะไม่ยอมรับว่าตัวเองผิดว่างั้้น? KJI: ก็เรื่องอะไรจะยอมง่ายๆเล่า!)
“เฮ้อ...ไงก็เอาเหอะ ว่าแต่คืนนี้มีงานอะไรเหรอ?”
ผมเดินเข้าไปนอนข้างๆน้องเขาเพราะรู้สึกว่าอากาศภายนอกผ้าห่มนั้นหนาวเกินไป
คยองซูเขยิบให้ผมได้เข้าไปนอนข้างๆ โดยที่ผมไม่ลืมยกแขนไปโอบรอบบ่าน้องเขาด้วย
ก่อนจะพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องที่คุณโดทิ้งเอาไว้
“อื้ม...ก็คยองเห็นว่าเมื่อวานเราไม่ได้ฉลองกัน
คยองเลยขอป่ะป๊าให้จัดปาร์ตี้ให้คยองน่ะครับ
คยองส่งข้อความไปชวนพวกพี่ๆ แล้วก็ชวนจื่อเทากับเซฮุนแล้วด้วย
ทุกคนตอบกลับมาว่าจะไป ยกเว้นพี่จงแดกับพี่มินซอก
สงสัยจะยังไม่ตื่นกันล่ะมั้ง...ก็วันนี้วันหยุดนี่นา”
คยองซูพูดพลางยักไหล่
เขาเอนตัวมานอนทับที่บ่าของผมแล้วหยิบมือของผมไปบีบเล่นแล้วกุมเอาไว้
ผมยกยิ้มออกมาเมื่อคยองซูกุมมือผมแล้วบีบมันเล่นอย่างกับเด็กๆ
ริมฝีปากนั้นเม้มเข้าหากันแน่น เมื่อมืออีกข้างที่เราไม่ได้กุมมือกันของเขานั้น
หยิบเอามือถืออีกเครื่องหนึ่งที่ผมไม่ได้เป็นคนซื้อให้เขาขึ้นมาเปิดเพื่อเช็คข้อความตอบกลับของจงแด
ผมก้มลงไปหอมแก้มนุ่มนิ่มของเขาเบาๆก่อนจะพูดต่อ
“เดี๋ยวมันก็ตื่นน่าอย่ากังวลเลย...นายก็รู้ว่าไอ้แด้มันชอบปาร์ตี้แค่ไหน
มันไม่มีทางปฏิเสธหรอกน่า หรือถ้ามันปฏิเสธเดี๋ยวฉันจะไปจัดการกับมันเอง
เพราะงั้นไม่ต้องห่วงนะครับน้องคยอง”
ผมพูดพลางก้มลงไปฟัดแก้มนุ่มๆน่าหมั่นเขี้ยวนั้นอีกหนหนึ่ง
ก่อนจะเริ่มลามปามไปยังใบหูและจูบเขาที่ซอกคอขาวๆนั้นด้วย
“หื้มม...ทำอะไรครับเนี่ย?”
คยองซูถามแล้วเบี่ยงตัวออกจากอกของผมเมื่อมือซนๆของผมเริ่มเลื่อนไปปลดกระดุมเสื้อกันหนาวของเขาออกทีละเม็ดๆ
ผมรีบยกยิ้มแล้วบอกเขาไปทั้งๆที่มือก็ยังไม่หยุดทำงานของมัน
“อ้าว..ก็เราคุยกันเรื่องปาร์ตี้เสร็จแล้ว
พี่เลยคิดว่าเราน่าจะคุยกันต่อด้วยเรื่องอื่นไงครับ”
ผมพูดกับน้องเขาแล้วยักคิ้ว ส่งตาเป็นประกายที่คยองซูน่าจะรู้ดีว่าหมายความว่าอะไรส่งไปให้น้องเขา
คยองซูยกมือตีเข้าที่มือซนของผมทีหนึ่งแล้วต่อว่าผมอย่างไม่จริงจังนัก
“เอะอะก็ลากเข้าเรื่องนี้อยู่เรื่อยเลยนะครับ! คนหื่นกาม!!
ทำแบบนี้แล้วมันจะได้คุยกันตรงไหน?”
“ไม่เห็นเป็นไรเลย เราคุยกันด้วยร่างกายก็ได้!
โธ่...ไม่ได้กอดตั้งสองวันน้องคยองไม่คิดถึงพี่เลยอ่อ?
พี่ล่ะคิดถึงน้องคยองใจจะขาดรอนๆอยู่ทุกนาที”
“อื้อหือ...เสี่ยวซะไม่มีล่ะคนอะไร”
“เสี่ยวแล้วไงอ่ะ...ก็เสี่ยวกับเมียเด็กคนเดียวนี่นา”
“ลองไปเสี่ยวกับคนอื่นสิ แล้วเราจะได้เห็นดีกัน”
“อู้ยยยยย เมียเด็กน่ากลัวครับ น่ากลัวจุงเบยยยยย~ ♥ ”
ผมหัวเราะออกมาเมื่อเปลี่ยนมาเป็นฝ่ายนอนทับเขา
ดึงเสื้อโค้ทกันหนาวสีน้ำเงินเข้มตัวโคร่งของเขาออก แล้วรีบขว้างมันทิ้งไปให้พ้นทาง
เลื่อนมือลงไปปลดเข็มขัดเส้นเล็กของเขาออกไป แล้วปลดกระดุมกางเกงยีนส์นั้นอย่างรวดเร็วด้วย
“เฮ้...นี่จงอินเอาจริงเหรอครับเนี่ย?”
เด็กน้อยที่อยู่ใต้ร่างของผมถลึงตาถามผมอย่างไม่เชื่อสายตา
ก็โธ่...เครื่องผมมันติดตั้งแต่ตอนที่เขามาปลุกแล้วนี่นา
แล้วอย่างนี้จะให้ผมปล่อยไปง่ายๆได้ยังไงกันล่ะครับ?
“โธ่...แล้วทำไมพี่ต้องปล่อยโอกาสให้ผ่านไปด้วยล่ะครับตัวเล็ก?”
หยิบรีโมทขึ้นมาอีกครั้งแล้วกดปุ่ม Play ซ้ำอีกหน
ยกยิ้มร้ายส่งให้น้องเขาในขณะที่ถอดเสื้อยืดตัวเล็กของคยองซูออกแล้วขว้างมันทิ้งไปที่ด้านหลัง
.
.
“ก็คุณพ่อตาอุตส่าห์ฝากฝังแถมยังกำชับเอาไว้ขนาดนี้แล้วนี่นา”
ผมแทบจะไม่ได้สัมผัสบรรยาการอบอุ่นที่พร้อมหน้าพร้อมตาไปด้วยครอบครัวมานานแล้ว
คริสมาสต์ทุกๆ ปี ผมและคยองซูมักจะซื้อเค้กมากินด้วยกัน
หรือนัดพวกเพื่อนๆผมมาทำเนื้อย่างสังสรรค์แล้วเล่นไพ่กินเงินโต้รุ่งกันในตอนท้าย
ตอนนี้ก็ไม่ได้แตกต่างอะไรมากนัก แต่เรามีปาร์ตี้ที่เป็นทางการกันพอสมควร
เพราะว่าคุณโดยังอยู่ตรงนี้และมีเด็กๆอย่างจื่อเทาและเซฮุนมาร่วมด้วย
งานปาร์ตี้คืนนี้ของพวกเราผ่านไปด้วยดี...
ทุกคนเอาของขวัญมาจับฉลากแลกกันและยังพากันร้องคาราโอเกะตั้งแต่หัวค่ำ
ผมจับฉลากของขวัญได้ตุ๊กตาโตโตโร่ตัวอ้วนกลม
ในขณะที่คยองซูมือดีหยิบได้เช็ตบ็อกเซอร์ของ PUMA ที่ไอ้แด้เป็นคนซื้อมาซะงั้น
ผมว่าไอ้แด้นี่ไม่มีเซ้นส์เรื่องของขวัญวันคริสมาสต์เอาซะเลย
มีอย่างที่ไหนเอาบ๊อกเซอร์มาจับฉลากของขวัญกันล่ะครับ...ไอ้บ้านี่
ผมยืนย่างบาร์บีคิวอยู่ตรงมุมสวนห่างจากทุกคนที่ร้องเพลงคาราโอเกะด้วยกันอยู่ไม่มากนัก
เพราะผมร้องเพลงไม่ค่อยจะได้เรื่องเท่าไหร่ และไม่อยากจะทำตัวรื่นเริงมากให้พ่อตาหมั่นไส้
ผมเลยคิดว่าการมายืนเป็นฝ่ายบริการน่าจะโอเคกว่าการไปนั่งเสร่ออยู่หน้าจอคาราโอเกะแน่ๆ
“ดื่มกันซักหน่อยไหมคุณจงอิน?”
เสียงนุ่มที่ถามขึ้นมาทำให้จงอินต้องหันขวับกลับไปหาคนถามโดยทันที
ก่อนจะพบว่าคุณโดแกยื่นแก้วเบียร์แก้วใหญ่มาให้ตรงหน้า ก่อนจะยกยิ้มอย่างอารมณ์ดี
“โอ้...จะไม่ทำให้คะแนนความนิยมของผมลดน้อยลงไปใช่ไหมครับคุณโด?” ผมรับแก้วนั้นมาก่อนจะหัวเราะร่า
“อืม...เหมือนว่าจะไม่เคยมีนะ” คุณโดยักไหล่แล้วหัวเราะ
“โธ่...อย่าล้อผมเล่นอย่างนั้นสิครับ นี่ผมจริงจังนะเนี่ย”
“เอาเถอะน่า...ถ้ามันจะทำให้คะแนนลดลงผมคงไม่เอามายื่นให้คุณหรอก”
คุณโดตอบกลับมาและนั่นทำให้ผมโล่งใจไปได้เปราะหนึ่ง
คุณโดในวันนี้กับเมื่อวานอย่างกับคนละคน...ผมละรู้สึกเฟลจังที่โดนเขาหลอกซะสนิทใจเลยเชียว
“คุณจะเลื่อนเวลากลับออกไปใช่ไหมครับ?” ผมถามเขาในขณะที่ยกแก้วขึ้นดื่ม
“ก็แค่สองสามวันน่ะ เพราะธุระอะไรยังไม่ค่อยจะเรียบร้อยซักเท่าไหร่”
“ธุระอะไรเหรอครับ? ผมถามได้ไหม?” ผมถามเขาไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“อ๋อ...ผมจะพาคยองซูกลับไปด้วยไง เลยต้องรีบจัดการเอกสารแล้วก็พวกวีซ่านิดหน่อย”
คุณโดยิ้มแล้วยกแก้วเบียร์ขึ้นดื่ม ยักไหล่อย่างกับเป็นเรื่องปกติในสิ่งที่เขาพูดออกมา
แต่นั่นทำเอาผมสำลักไปเลย
“ห...ห๊ะ!! ไหน...ไหนคุณบอกว่าจะไม่พาเขาไปแล้วไงครับ?
ไหนคุณบอกว่าจะให้ผมดูแลเขาต่อไปไงล่ะ
เฮ้...ผมไม่ยอมนะครับ! คุณหลอกดาว!” ( NMN: ไม่ใช่ละ -___- )
ผมแหวใส่คุณโดเสียงแข็ง...และรู้สึกงงงวยเหลือเกินที่คุณโดระเบิดหัวเราะออกมาเมื่อเห็นว่าผมเป็นอย่างนั้น
“ฮ่าๆๆๆๆ ผมล้อเล่นหรอกน่า
ผมจะพาเขากลับไปจริงแต่ก็แค่สองอาทิตย์เท่านั้น
อยากให้เขาไปเจอภรรยาผมบ้าง แล้วก็ไอ้ตัวเล็กของเราที่โน่นด้วย”
คุณโดมองไปทางคยองซูที่ตอนนี้กำลังปรบมือเป็นจังหวะกับเพลงที่ไอ้จงแดกำลังร้อง เขายักไหล่ก่อนจะหันมามองผม
“คุณมีไอ้ตัวเล็กด้วยเหรอครับ...คยองซูรู้ไหมครับว่าเขามีน้องด้วย?”
“รู้สิ...อายุแปดขวบแล้ว แต่เราไม่ค่อยได้คุยกันเรื่องนี้บ่อยเท่าไหร่
ผมเองก็แปลกใจนะที่คยองซูไม่ได้บอกเรื่องนี้กับคุณ”
“อ้อ...เขาคงจะลืมล่ะมั้งครับ”
ผมหลบสายตาไปทางอื่นแล้วแสร้งทำเป็นยกเบียร์ขึ้นจิบ
เพราะความจริงแล้วคยองซูแทบจะไม่พูดถึงพ่อของเขาให้ผมฟังเลย และผมเองก็ไม่คิดจะถามเกี่ยวกับเรื่องนี้เท่าไหร่
มีแค่บางทีที่เขาพูดถึงบ้างเวลาที่เป็นเรื่องอะไรที่สำคัญ
แต่นอกเหนือจากนั้นเขาก็แทบจะไม่ได้พูดอะไร ทั้งๆที่คุณโดก็โทรมาบ่อยพอสมควร...
“จงอิน...พี่มินซอกบอกให้คยองมาเอาบาร์บีคิวเพิ่มครับ
ป่ะป๊าไม่ไปร้องเพลงกับคยองทางโน้นเหรอ?”
“ไม่เอาล่ะ ป๊าขอดื่มอยูตรงนี้ดีกว่า ไม่ค่อยสันทัดเพลงวัยรุ่น
ให้ป๊าร้องเพลงทร๊อตได้มั้ยล่ะ แต่ถ้าได้ร้องปุ๊ปป๊าไม่ปล่อยไมค์นะ”
“งั้นไม่ต้องล่ะ ป่ะป๊าก็อยู่ตรงนี้ไปนั่นแหละดีแล้ว ฮ่าๆๆๆ
เหนื่อยไหมครับจงอิน...อยู่แต่หน้าเตาย่างเดี๋ยวก็หน้าไหม้หมดหรอก”
คยองซูถือจานมาทางผมแล้วยกยิ้มร่า
ยกแขนเสื้อขึ้นลูบที่หน้าผมเบาๆ ผมยิ้มออกมาเมื่อเห็นเขาทำอย่างนั้น
จมูกเขาเป็นสีแดงอีกแล้ว และผมรับรู้ได้ว่าเสียงของเขาเริ่มจะแหบเพราะตะโกนและร้องเพลง
“เอาผ้าพันคอนี่ไปสวมซะคยองซูอ่า...แล้วก็อย่าตะโกนมากไปล่ะ
เสียงนายแหบง่ายอยู่ด้วย เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ไม่มีเสียงหรอก”
“อื้ม...คยองจะระวังครับ นี่เสร็จแล้วใช่ม้า งั้นคยองยกไปแล้วนะ”
ผมพันผ้าพันคอสีน้ำตาลของตัวเองไปรอบคอเล็กๆของเขา
คยองซูยิ้มหวานส่งมาให้แล้วพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง ก่อนจะหยิบเอาจานบาร์บิคิวนั้นยกกลับไปที่เดิมนั้น
ผมมองเขาแล้วยิ้มตาม ก่อนจะหันขึ้นมาแล้วพบว่าคุณโดเองก็มองผมอยู่แล้วยิ้มเช่นเดียวกัน
“อืม...ถ้าเป็นเมื่อวาน เรื่องที่คยองซูเสียงแหบง่ายนี่จะเป็นคำฝากข้อไหนล่ะ?” เขาเอ่ยแซว
“อ๋อ...เรื่องนี้เป็นข้อที่ 89 ครับ จากทั้งหมด 165 ข้อ
นี่ผมตัดเรื่องหยุมหยิมบางเรื่องออกไปแล้วนะ ได้ทั้งหมดก็ 165 ข้อพอดี”
ผมหัวเราะร่วนเมื่อได้ตอบคุณโดกลับไป...อันความจริงแล้วผมโม้ต่างหาก
มันอาจจะไม่ถึง 165 ข้อหรอก แต่ผมมั่นใจว่าผมสามารถพูดมันได้เรื่อยๆ
เพื่อทำให้คุณโดเปลี่ยนใจและตัดสินใจรับฟังมัน...
“โอ้...งั้นก็ดีแล้วล่ะที่ผมไม่เอาเขาไป เพราะสงสัยผมคงจะดูแลเองไม่ไหว
ว่าแต่...ผมก็เพิ่งรู้เนี่ยแหละ ว่าคุณว่ายน้ำไม่เป็น”
คุณโดยิ้มกรุ้มกริ่มในขณะที่เสตามองผม
“หืม? อะไรนะครับ?”
ผมถามอย่างไม่เข้าใจ ผมเองว่ายน้ำเป็นและเก่งด้วย
และผมก็ไม่แน่ใจนักว่าจู่ๆ คุณโดยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดทำไม...
“เมื่อวานผมถามคยองซู...คำถามเดียวกับที่คุณบอกผม
ผมถามว่า ถ้าคนบนโลกนี้จมน้ำไปหมด เขาจะช่วยใครขึ้นมาก่อนระหว่างคุณกับตุ๊กตาพี่คร๊องนั่น
ผมบอกเขาว่าถ้าคำตอบที่เขาบอกนั้นตรงกัน ผมก็จะยอมปล่อยพวกคุณทั้งสองไป”
“อ่า...งั้นเขาตอบว่าเขาเลือกพี่คร๊องสินะครับ”
“เปล่า...เขาเลือกที่จะช่วยคุณก่อน เพราะว่าคุณว่ายน้ำไม่เป็น”
อ้าว...ชิบหาย
คำตอบไม่ตรงกัน
“แล้วทำไม.........?”
ผมเอ่ยขึ้นอย่างไม่แน่ใจนัก
เพราะเขาก็เป็นคนบอกเองว่าถ้าคตอบของเราสองคนตรงกันเขาก็จะปล่อยเราไป
คุณโดหัวเราะออกมาก่อนจะส่ายศีรษะ ยกมือขึ้นตบบ่าผมเบาๆแล้วตอบคำถาม
“ก็คุณบอกผมไว้ไม่ใช่เหรอ
ว่าถ้าคยองซูเลือกใคร...นั่นแปลว่าเขา รัก คนๆนั้นมากจริงๆ”
“...................................”
ผมเงียบไปเมื่อเขาตอบคำถาม
ทำได้แค่ยิ้มอย่างภูมิใจน้อยๆเท่านั้นเมื่อคุณโดยังมองมาด้วยแววตาที่หยอกล้อไม่หยุด
“ผมรู้นะว่าคุณว่ายน้ำเป็น...และคำตอบมันไม่ตรงกับที่ผมคิดไว้
แต่มันไม่ได้สลักสำคัญอะไรหรอกจริงไหม ในเมื่อยังไงเขาก็เลือกคุณอยู่ดี
คุณบอกว่าคยองซูเห็นว่าตุ๊กตาพี่คร๊องนั้นเป็นตัวแทนของคุณ
ถ้าเขาตอบว่าจะช่วยคร๊อง...แล้วทำไมเขาจะไม่ได้หมายถึงคุณล่ะจริงไหม”
โอ...ตรรกะที่ผมไม่เคยนึกถึงมาก่อนนั้นทำให้ผมต้องยกยิ้มออกมาพรายเต็มแก้ม
อยากจะวิ่งไปจูบคยองซูซักทีสองทีให้เขารู้ว่าผมล่ะบ้ารักเขาแค่ไหน
แต่ผมก็รู้ดีว่านั่นไม่ใช่เวลาของเราในตอนนี้...
ผมกัดริมฝีปากแล้วยกยิ้ม...
บางทีการที่เขาทำตัวน่ารักแบบนี้ผมก็อาจจะต้องให้รางวัลซักหน่อย
และเมื่อเรากลับไปที่บ้าน ผมสัญญาว่ารางวัลที่ผมจะให้นั้น
ต้องมากพอที่จะทำให้คยองซูได้รับรู้ว่าผมรักเขาแค่ไหน
“ขอบคุณนะครับคุณโด” ผมบอกกับเขา
“เรียกผมว่าพ่อสิ...”
คุณโดหันมายิ้มแล้วลงแรงบีบที่บ่าของผมเบาๆ
มืออีกข้างยื่นแก้วเบียร์มาขอชนกับผม
ผมเบิกตากว้างอย่างไม่เชื่อหู... โอ...นี่อย่างกับฝันไปเลย
“ครับ คุณพ่อตา...ขอบคุณมากนะครับ”
“ไม่เป็นไรมิได้”
คุณพ่อตาขยิบตาตอบกลับมาพลางยักไหล่
เรายกแก้วเบียร์ขึ้นดื่มโดยไม่ได้แม้แต่มองหน้ากัน
ผมรู้สึกขวยเขินที่ได้การยอมรับ...แต่ก็ดีใจที่สุดท้ายแล้วก็ได้ทำอะไรให้มันถูกต้อง
“เอาล่ะ...ผมต้องไปเติมเบียร์แล้วขึ้นไปโทรคุยกับคุณยุนเรื่องวันพรุ่งนี้ซักหน่อย
ดูแลทุกคนด้วยล่ะ ตามสบายเลยนะ...เอ้อ! แต่ก่อนไปผมมีของขวัญจะให้คุณนิดหน่อย”
คุณโดล้วงมือเข้าไปในเสื้อสเว็ตเตอร์ไหมพรมตัวหนาของเขาแล้วหยิบเอาอะไรบางอย่างออกมา
ผมมองเขาเป็นเชิงถามอย่างไม่เข้าใจนัก เมื่อเห็น แผ่นซีดี ที่อยู่ในมือเขา
โอพระเจ้า... อย่าบอกนะว่ามันคือ...
“โธ่...ก็เพลงที่คุณเล่นน่ะมันเก่าไป ลูกผมยังเป็นวัยรุ่นอยู่นะ!
ผมคิดว่า Boyz ll Men มันเป็นเพลงอมตะก็จริงนะแต่เพลงที่ผมจัดให้มันเร้าใจกว่า
ในนี้มีเพลงเมคเลิฟฮ๊อทๆอย่างเพลงของ Matt Nathanson - Come On Get Higher
เพลง Bed ของ J.Holiday แต่ผมชอบเพลงของ R’Kelly - Bump ‘n Grid มากๆ!
แถมในนี้ยังมีเพลงเซ็กซี่ๆของ Justin Timberlake อย่างเพลง Boutique in Heaven อูววว...เพลงนี้มันสุดๆ
แถมยังมี Maroon5 - One more night ด้วยนะ! พระเจ้า...คุณโยนอัลบั้มเก่าๆของคุณทิ้งไปเลยเถอะ
แล้วหันมาฟังเพลงนี้ของ Lil Wayne แล้วก็ Nelly เพลงนี้ฮิปฮอปแต่กระเส่าสุด!!
เฮ้...อย่าทำหน้าอย่างนั้นน่า ผมไม่เชี่ยวเพลงเกาหลีแต่ภรรยาผมก็ยังฟังเพลงพวกนี้อยู่นะ!”
คุณโดพูดพลางยักไหล่แล้วหัวเราะแซวเมื่อเห็นว่าผมหลบสายตาเขา
จะบ้าตาย...ผมแทบอยากจะมุดหน้าแทรกแผ่นดินแล้วหายตัวไปเดี๋ยวนี้เลย!
“อย่าลืมใช้มันล่ะ” คุณพ่อตากำชับก่อนจะหย่อนใส่ลงมาในกระเป๋าเสื้อโค้ทของผมแล้วตบมันเบาๆ
“โธ่...คุณพ่อครับ! รักของเราเร่าร้อนมากพออยู่แล้ว และเราไม่ต้องใช้มันหรอกน่า!”
“เฮ้...ใช้มันหน่อยเถอะน่า ผมอุตส่าห์ไรท์มาเพื่อคุณโดยเฉพาะเลยนะ ฮ่าๆๆๆ”
“อ๊ากกกก คุณพ่อ! ผมว่าเราน่าจะหยุดพูดกันเรื่องนี้นะครับ!
หยุดแซวผมซักทีเถอะครับให้ตาย!”
ผมมุดหน้าหนีแล้วดันหลังคุณโดให้เริ่มเดินออกไป
คุณโดระเบิดหัวเราะออกมาเอิ๊กอ๊ากอย่างอารมณ์ดีแล้วหลังจากนั้นก็เดินกลับเข้าไปในบ้าน
อ่า...ให้ตายเหอะผมเหมือนตัวจะระเบิดเพราะความอายซะแล้ว
การที่ผมได้ของขวัญอะไรอย่างนี้ในวันคริสมาสต์มันทำให้ผมมั่นใจว่าต่อจากนี้ผมจะไม่มีวันลืมทำอะไรอย่างหนึ่งที่เป็นสาเหตุให้ตอนนี้
ผมต้องมาขายหน้าแบบนี้อีกแล้วล่ะให้ตาย
.
.
.
ผมสาบานว่าต่อจากนี้ไปผมจะล๊อคประตู!
✚ TALK
จบไปแบบเวิ่นเว้อ...
ทุกอย่างผ่านไปด้วยดีแล้วนะ ผ่านไปด้วยเอ็นซีที่ถูกจัดขึ้นมาเป็นพิเศษ
ตอนนี้ฟิคเรื่องนี้ดำเนินมาถึงตอนท้ายเรื่องแล้วนะคะ
และนมน.ก็อยากจะบอกให้รู้ว่ามันกำลังจะจบ...
นมน.จะต่ออีกประมาณสองตอนแล้วจะจบเรื่องน้องคยองแล้วค่ะ
บอกให้รีดเดอร์ได้เตรียมใจกันไว้ก่อนเนอะ พอขึ้นคำว่า END จะได้ไม่นอยด์กัน
แต่ตอนนี้มันยังไม่จบนะคะ! เพราะงั้นอย่าเพิ่งเศร้าไปล่ะ ฮี่ๆ
รักรีดเดอร์นะคะ งุงิ~
- ไรเตอร์นมน. -
ความคิดเห็น