ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [C0MPLETE] ✚ :: BE MY BABY :: ✚ [KAI x D.O.]*

    ลำดับตอนที่ #25 : ✚ BE MY BABY :: TWENTY THREE

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 11.18K
      13
      14 ธ.ค. 55

     

    Author : MR.$N0WMAN*

    Pairing : Kim Jongin & Do Kyungsoo

    Story : Jackboiz

    Rate : PG-15

     


     

     

    Be my Baby*

     





     


    ‘0.23’


     








    แสงแดดอ่อนๆในตอนเช้าตรู่และอากาศที่หนาวเย็นจนติดลบนั้น

    ราวกับเป็นยานอนหลับชั้นดีให้จงอินได้ดื่มด่ำอยู่ในห้วงนิทรา

    ใต้ผ้าห่มอันอบอุ่นนั้นจงอินกำลังหลับไม่รู้เรื่องรู้ราว

    หลับสนิทด้วยความสบายใจ...ลมหายใจเข้าออกเป็นจังหวะยาวซึ่งใครฟังดูก็รู้ว่าเขากำลังหลับฝันดีอยู่แน่ๆ

    แต่ที่แน่ๆก็คือ...เขาหลับสนิทจนแทบไม่ได้ยินเสียงของใครบางคนที่วิ่งขึ้นบันไดมาเสียงปึงปังและกระชากประตูให้เปิดออก

    โดคยองซูล่ะหมั่นไส้คนหลับสบายเสียจริงๆเลยเชียว...

     

    คุณอาจจะอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับคำตอบของผมเมื่อคืนนี้

    แต่ผมว่ามันไม่สำคัญแล้วล่ะมั้งครับ ในเมื่อตอนนี้ผมมายืนอยู่ตรงนี้แล้วนี่นา

     

    ผมกัดริมฝีปากแล้วยกยิ้มออกมาเมื่อหาวิธีปลุกดีๆที่คิดว่าจงอินน่าจะชอบขึ้นมาได้

    ตัดสินใจค่อยๆย่องเข้าไปหาพี่เขาแล้วเลิกชายผ้านวมขึ้นแล้วมุดเข้าไป


    “จง! อิน! นี่!

     

    ผมมุดๆๆๆๆๆๆ มุดจากตรงปลายเท้าแล้วคลานขึ้นไปทับพี่เขาจนได้

    และสุดท้ายก็ตะโกนออกมาเมื่อเหวี่ยงตัวขึ้นไปโดดทับพี่เขาจนเต็มน้ำหนัก 


    ผมรู้ดีว่าจงอินตื่นแล้วแต่แกล้งทำเป็นหลับ

    ก็แหม...หลุดยิ้มออกมาขนาดนั้น ใครคิดว่าเขาหลับก็คงบ้าไปแล้ว

     

      


    “เอ๊...ทำไมคนขี้เซาถึงยังไม่ตื่นน้า?

    แล้วคยองควรจะปลุกยังไงดีล่ะเนี่ย? จะจุ๊บดีมั้ยน้า?

    แต่คิดไปคิดมาไม่ปลุกดีกว่า...ปล่อยให้หลับไปอย่างนี้แหละเน๊อออะ ~

     


    ผมแกล้งพูดอ้อนทั้งๆที่ยังนอนทับพี่เขาไว้

    หัวเราะออกมาเมื่อรู้สึกถึงมือใหญ่ๆของจงอินที่เลื่อนเข้ามากอดที่เอวเอาไว้

    หัวเราะคิกคักเมื่อจงอินตอบกระซิบออกมาแต่ก็ยังแกล้งทำเป็นหลับอยู่

     

     

    อืออ... ปลุกพี่ซี่...  จุ๊บนะจุ๊บ  อืม...จุ๊บๆ จุ๊บๆ

     



    แกล้งทำเป็นครางออกมาแต่ตายังคงหลับสนิท

    ริมฝีปากนั้นเผยอขึ้นราวกับรอคอยสิ่งที่เขาแสร้งทำเป็นร้องขอ

    ท่าทางน่าหมั่นไส้นั้นทำให้ผมแทบจะกลั้นหัวเราะออกมาไม่ไหว



    “ตื่นแล้วจะแกล้งหลับทำไมครับ? ไม่ได้ผลหรอกน่าพี่โง่”

     

    “อืม...เปล่าซักหน่อยยย นี่ยังฝันอยู่เลย  รอจุ๊บนะจุ๊บ...เดี๋ยวตื่นเลย งืมๆ คร่อกก...”

     


    น้ำเสียงอู้อี้ที่พี่เขาแกล้งทำเป็นร้องออกมานั้นทำให้ผมต้องยกยิ้ม

    จงอินเวลาอ้อนน่ะน่ารักจริงๆนะครับ...ผมชอบให้พี่เขาทำตัวน่ารักอย่างนี้แหละ

    เพราะมันทำให้เราดูเหมือนอายุไม่ห่างกันมากเท่าไหร่

    จะว่าก็ว่าเถอะ...แต่เวลาพี่เขาแอ๊บแบ๊วน่ะ เหมือนเรากำลังคุยภาษาเดียวกันอยู่เลยล่ะ คิกคิก~

     


    “อื้ม...งั้นจุ๊บดีกว่าเนอะ จุ๊บซักสองที คนดีของคยองจะได้ตื่นจากฝัน”

     


    ผมแกล้งเล่นตามน้ำไปเรื่อยๆ ก่อนจะตัดสินใจเลื่อนตัวขึ้นไปอยู่ในระดับเดียวกับพี่เขา

    ก่อนจะก้มหน้าลงไปจูบพี่เขาที่แก้มทีนึง...และที่ริมฝีปากหนาที่เผยอรอรับจูบของผมนั้นอีกทีนึง

    สองทีเลยนะครับ...ชดเชยที่เมื่อวานไม่ได้จุ๊บด้วย

    อ่า...จงอินชักจะกำไรมากเกินไปแล้วนะเนี่ย

     

    “งืมมมม... อ...อ้าว! คยองซูเมียเด็กของพี่นี่นา!!

    กลับมาแล้วเหรอครับที่รัก?”

     


    “อ๊ะ!!

     



    จงอินแกล้งทำเป็นงัวเงียลืมตาตื่นขึ้นมา ก่อนจะยกยิ้มร่าเมื่อเห็นผมอยู่ตรงนี้

    จู่ๆพี่เขาก็เปลี่ยนตำแหน่งขึ้นมาเป็นคนนอนทับผมเอาไว้ เล่นทำเอาผมใจหล่นตกเตียงไปเลยแหน่ะ!

     


    “เดี๋ยวสิจงอิน”

     


    ผมกระซิบแต่ก็ไม่ทันพี่เขาหรอก

    เมื่อจู่ๆพี่เขาก็โน้มหน้าลงมามอบจูบแสนหวานให้กับผม

    อืม...เพราะงั้นอะไรๆ ที่จะบอกก็เอาไว้ทีหลังก็แล้วกันนะ 

     

     

    ด้านจงอินตอนที่ลืมตาขึ้นมาน่ะหัวใจก็เต้นตึกตักจนแทบบ้า

    ก็ว่าอยากจะตื่นมาแบบหวานๆ กุ๊กกิ๊กแบบที่น้องเขาเล่นอยู่หรอกนะ

    แต่พอลืมตาขึ้นมาเจอหน้าใสๆ กับตาแป๋วๆ ที่ลอยหน้าลอยตาอยู่

    กับเสื้อโค้ทกันหนาวสีน้ำเงินเข้มที่มีเฟอร์ประดับอยู่ที่รอบฮู๊ดแบบนั้น...ผมก็ชักจะไม่อยากปล่อยไปเฉยๆซะแล้วสิ

    ก็โธ่เอ๊ย...เด็กบ้านี่มันน่ารักมากๆเลยนี่นา แล้วจะให้ผมอดใจไหวได้ยังไงล่ะครับ

     

    ก้มลงไปประกบจูบหนักๆกับน้องเขาซักทีเพื่อให้หายคิดถึง

    ไม่ได้นอนกอดมาตั้งสองคืน...ทำเอารู้สึกว่าคิดถึงแทบจะเป็นบ้าตายไปเลยให้ตายเหอะ

    ผมจับฮู๊ดประดับเฟอร์นุ่มนิ่มนั้นให้เข้ามาใกล้มากขึ้น มอบจูบแสนหวานและดูดดื่มให้น้องเขาอย่างเชื่องช้า

    ลิ้นของเราสองคนตวัดแลกเปลี่ยนซึ่งความคิดถึงของกันและกัน

    เสียงดังจ๊วบจ๊าบจากการถอนริมฝีปากและประกบเข้าไปใหม่นั้นทำเอาผมรู้สึกขนลุกได้อย่างไม่น่าเชื่อ

    เราสองคนตวัดแลกลิ้นกัน ในขณะที่มือผมก็เลื่อนควานหาอะไรบางอย่างแถวๆใต้หมอน

    อ่า...ผมเจอมันแล้วล่ะ รีโมทสเตอริโอของเรา

    และ...ช่ายครับ  ผมว่าเรื่องนี้บางทีก็ต้องมีตัวช่วย...

     


    “อื้ม... ด...เดี๋ยวก่อนนะจงอิน”

     

    “ไม่เอาไม่เดี๋ยวแล้ว...คิดถึงใจจะขาด”

     

    “แต่...อื้อออ

     

    น้องเขาผละหน้าออกมาเมื่อผมกดรีโมทเพื่อเปิดเพลง

    ผมปฏิเสธที่จะฟังทุกคำคัดค้านของเขาแล้วก้มหน้าลงจูบไล้ที่ปลายคางแล้วเลื่อนขึ้นไปปิดปากเล็กๆที่กำลังจะเอ่ยคำปฏิเสธอีกหนหนึ่ง

     


    “อะ...ฮึ่มมมมมมม”


     

    จนกระทั่งผมได้ยินเสียงนี้แหละ

    ผมเลยแทบจะกระเด้งตัวลุกขึ้นมานั่งคุกเข่าในท่าเตรียมกราบเบญจางคประดิษฐ์แทบจะไม่ทัน

    รีบยกรีโมทขึ้นไปกดปิดเพลงทันที...ให้ตายเหอะ จู่ๆ คุณโดแกก็โผล่มาอย่างกับผี

     


    “อ่ะ...อ้าววว ว่าไงครับคุณโด!

    เช้านี้อากาศสดใส๊...สดใสนะว่าไหมครับ ฮ่าๆ”




    พูดพลางกลั้วหัวเราะส่งไปก่อนจะหันออกไปมองที่หน้าต่าง

    แต่โอ้ย! ชิบหายตายห่า...หิมะเสือกตกซะงั้น T T

     


    “ถึงว่าล่ะ...นานผิดปกติ

    ความจริงผมเองก็ไม่ได้อยากจะขึ้นมาขัดจังหวะการ...เอ้อ...นั่นแหละ ของคุณหรอกนะ

    ผมมีธุระต้องคุยกับคุณก่อนจะออกไปทำธุระ

    แต่ก็เห็นได้ชัดนะว่าการส่งคยองซูมาปลุกคุณน่ะไม่ได้ผลเลยจริงๆ”

     

     

    คุณโดพูดพลางกอดอกแน่น เขากลอกตาไปมาในขณะที่พูดราวกับเอือมระอาเต็มที

    ผมรีบจัดแต่งทรงผมที่คิดว่าตอนนี้น่าจะไม่เป็นทรงของตัวเองให้เข้าที่แล้วกระเด้งออกไปยืนข้างเตียง

    หันไปมองคยองซูที่ตอนนี้เลื่อนตัวขึ้นมาเปลี่ยนเป็นนั่งขัดสมาธิ

    เขาส่งสายตามาให้ผมด้วยอารมณ์ราวกับจะบอกว่า ก็ผมพยายามบอกพี่แล้ว

    ส่งมาให้ผมพร้อมทั้งกลอกตา

     


    “อ...เอ้อ งั้นช่วยรอผมซักห้านาทีนะครับ

    เดี๋ยวผมขอจัดการธุระซักครู่แล้วผมจะตามลงไป”

     


    ผมส่งยิ้มให้เขาเจื่อนๆ และขอเวลาจัดการกับตัวเองซักห้านาที

    แต่คุณโดกลับส่ายหน้าตอบกลับมา ก่อนจะถอนหายใจแล้วบอกผมว่า

     



    “ไม่ต้องหรอก ผมแค่จะบอกคุณว่าคยองซูจะขอจัดปาร์ตี้ฉลองคริสมาสต์ที่บ้านเราคืนนี้

    คยองซูบอกว่าเขาอยากจะชวนเพื่อนๆของคุณไปด้วย

    รายละเอียดต่างๆก็คุยกันเองแล้วกัน ผมแค่เอาคยองซูมาส่ง และผมคงต้องรีบไปแล้ว

    แต่อย่ามัวแต่สนใจเรื่องอื่นจนลืมคุยกันเรื่องปาร์ตี้คืนนี้ล่ะ...”

     



    คุณโดพูดออกมาเสียงเรียบ แต่สุดท้ายแล้วก็ยกยิ้มแซวออกมาเมื่อถึงท้ายประโยค

    คยองซูหน้าแดงแจ๋ก่อนจะมุดตัวเข้าไปใต้ผ้าห่มแล้วห่อตัวอยู่บนเตียงนั้น

    ทิ้งให้ผมยืนปั้นหน้าแทบจะไม่ถูก...

    อ่า ให้ตายเหอะ เขาจะเข้าใจว่าผมเป็นคนแบบไหนล่ะเนี่ย?!!

     



    “อ...เอ้อ ขอบคุณมากครับ

    แล้วผมจะชวนเพื่อนๆไปแน่นอน ว่าแต่คุณจะไปแล้วหรือ?”

     



    “ใช่...ผมนัดเพื่อนของผมไว้เพื่อให้จัดการธุระให้นิดหน่อย

    และถ้าผมไม่รีบไปตอนนี้ผมอาจจะสายก็ได้”

     



    คุณโดยกนาฬิกาขึ้นดู
    ก่อนจะล้วงเอากุญแจรถยนต์ออกมาจากกระเป๋ากางเกง

     



    “เอ้อ...งั้นจะให้ผมลงไปส่งด้านล่างไหมครับ?” ผมถามเขา หากแต่คุณโดหันมายกยิ้มกว้าง

     


    “โอ้ ไม่จำเป็นหรอก พวกคุณอยากจะคุยอะไรกันก็คุยกันไปเถอะ

    แต่อย่าเยอะจนเกินไปล่ะ...ผมจับตาดูคุณอยู่นะ I'm watching  you! Okay?

     



    “รับทราบครับผม” ผมยิ้มเจื่อนพร้อมทั้งยกมือขึ้นเกาแก้มอย่างเขินอาย

     



    “งั้นผมไปล่ะ...และถ้าผมเป็นคุณ

    ทันทีที่ผมก้าวออกไปจากห้อง ผมจะล๊อคประตูนะ”

     


    “โธ่! ผมทราบแล้วครับ และคุณน่าจะเลิกพูดเรื่องนี้ซักที!

     


    ผมแหวใส่เขาด้วยความเขินอย่างฉุดไม่อยู่

    คุณโดหัวเราะร่าแล้วเดินออกจากห้องไปทันที

    ผมจึงรีบปรี่ไปล็อคประตูห้องแล้วหันไปมองคนเป็นน้องที่โผล่หน้ามาจากผ้าห่มนั้นอย่างคาดโทษ

     


    “ย๊า! แล้วทำไมนายไม่บอกฉันล่ะ?!” ผมแหวใส่น้องเขา

     


    “ก็คยองจะบอกแล้วจงอินไม่ฟังเองนี่นา” คยองซูดึงผ้าห่มออกจากตัวแล้วยักไหล่ส่งให้ผมทีหนึ่ง

     


    “แต่เรื่องอย่างนี้นายน่าจะบอกฉันก่อนที่เราจะปลุกกันด้วยวิธีงุ๊งงิ๊งอย่างนั้นนี่นา!

     


    “โธ่! คยองก็ตั้งใจว่าจะทำแค่ปลุกแหละน่า

    แต่จงอินนั่นแหละ...ไม่ฟังคยองแล้วยังจะมาโทษคยองอีก”

     


    น้องเขาพูดพลางเบะปากอย่างไม่ค่อยพอใจนัก

    ผมกลอกตาแล้วถอนหายใจออกมาเบาๆอีกครั้งหนึ่ง

    ถึงคยองซูจะเรียนเก่ง แต่ผมว่าบางทีเขาก็จัดลำดับความสำคัญผิดไปหน่อย

     

     (NMN: จะไม่ยอมรับว่าตัวเองผิดว่างั้้น?  KJI: ก็เรื่องอะไรจะยอมง่ายๆเล่า!) 

     

     


    “เฮ้อ...ไงก็เอาเหอะ ว่าแต่คืนนี้มีงานอะไรเหรอ?”

     


    ผมเดินเข้าไปนอนข้างๆน้องเขาเพราะรู้สึกว่าอากาศภายนอกผ้าห่มนั้นหนาวเกินไป

    คยองซูเขยิบให้ผมได้เข้าไปนอนข้างๆ โดยที่ผมไม่ลืมยกแขนไปโอบรอบบ่าน้องเขาด้วย

    ก่อนจะพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องที่คุณโดทิ้งเอาไว้

     


    “อื้ม...ก็คยองเห็นว่าเมื่อวานเราไม่ได้ฉลองกัน

    คยองเลยขอป่ะป๊าให้จัดปาร์ตี้ให้คยองน่ะครับ

    คยองส่งข้อความไปชวนพวกพี่ๆ แล้วก็ชวนจื่อเทากับเซฮุนแล้วด้วย

    ทุกคนตอบกลับมาว่าจะไป ยกเว้นพี่จงแดกับพี่มินซอก

    สงสัยจะยังไม่ตื่นกันล่ะมั้ง...ก็วันนี้วันหยุดนี่นา”

     



    คยองซูพูดพลางยักไหล่

    เขาเอนตัวมานอนทับที่บ่าของผมแล้วหยิบมือของผมไปบีบเล่นแล้วกุมเอาไว้

    ผมยกยิ้มออกมาเมื่อคยองซูกุมมือผมแล้วบีบมันเล่นอย่างกับเด็กๆ

    ริมฝีปากนั้นเม้มเข้าหากันแน่น เมื่อมืออีกข้างที่เราไม่ได้กุมมือกันของเขานั้น

    หยิบเอามือถืออีกเครื่องหนึ่งที่ผมไม่ได้เป็นคนซื้อให้เขาขึ้นมาเปิดเพื่อเช็คข้อความตอบกลับของจงแด

    ผมก้มลงไปหอมแก้มนุ่มนิ่มของเขาเบาๆก่อนจะพูดต่อ

     


    “เดี๋ยวมันก็ตื่นน่าอย่ากังวลเลย...นายก็รู้ว่าไอ้แด้มันชอบปาร์ตี้แค่ไหน

    มันไม่มีทางปฏิเสธหรอกน่า หรือถ้ามันปฏิเสธเดี๋ยวฉันจะไปจัดการกับมันเอง

    เพราะงั้นไม่ต้องห่วงนะครับน้องคยอง”

     


    ผมพูดพลางก้มลงไปฟัดแก้มนุ่มๆน่าหมั่นเขี้ยวนั้นอีกหนหนึ่ง

    ก่อนจะเริ่มลามปามไปยังใบหูและจูบเขาที่ซอกคอขาวๆนั้นด้วย

     


    “หื้มม...ทำอะไรครับเนี่ย?”

     


    คยองซูถามแล้วเบี่ยงตัวออกจากอกของผมเมื่อมือซนๆของผมเริ่มเลื่อนไปปลดกระดุมเสื้อกันหนาวของเขาออกทีละเม็ดๆ

    ผมรีบยกยิ้มแล้วบอกเขาไปทั้งๆที่มือก็ยังไม่หยุดทำงานของมัน

     

     

    “อ้าว..ก็เราคุยกันเรื่องปาร์ตี้เสร็จแล้ว

    พี่เลยคิดว่าเราน่าจะคุยกันต่อด้วยเรื่องอื่นไงครับ”

     



    ผมพูดกับน้องเขาแล้วยักคิ้ว ส่งตาเป็นประกายที่คยองซูน่าจะรู้ดีว่าหมายความว่าอะไรส่งไปให้น้องเขา

    คยองซูยกมือตีเข้าที่มือซนของผมทีหนึ่งแล้วต่อว่าผมอย่างไม่จริงจังนัก

     



    “เอะอะก็ลากเข้าเรื่องนี้อยู่เรื่อยเลยนะครับ! คนหื่นกาม!!

    ทำแบบนี้แล้วมันจะได้คุยกันตรงไหน?”

     



    “ไม่เห็นเป็นไรเลย เราคุยกันด้วยร่างกายก็ได้!

    โธ่...ไม่ได้กอดตั้งสองวันน้องคยองไม่คิดถึงพี่เลยอ่อ?

    พี่ล่ะคิดถึงน้องคยองใจจะขาดรอนๆอยู่ทุกนาที”

     



    “อื้อหือ...เสี่ยวซะไม่มีล่ะคนอะไร”

     



    “เสี่ยวแล้วไงอ่ะ...ก็เสี่ยวกับเมียเด็กคนเดียวนี่นา”

     



    “ลองไปเสี่ยวกับคนอื่นสิ แล้วเราจะได้เห็นดีกัน”

     



    “อู้ยยยยย  เมียเด็กน่ากลัวครับ  น่ากลัวจุงเบยยยยย ♥ 

     



    ผมหัวเราะออกมาเมื่อเปลี่ยนมาเป็นฝ่ายนอนทับเขา

    ดึงเสื้อโค้ทกันหนาวสีน้ำเงินเข้มตัวโคร่งของเขาออก แล้วรีบขว้างมันทิ้งไปให้พ้นทาง

    เลื่อนมือลงไปปลดเข็มขัดเส้นเล็กของเขาออกไป แล้วปลดกระดุมกางเกงยีนส์นั้นอย่างรวดเร็วด้วย

     



    “เฮ้...นี่จงอินเอาจริงเหรอครับเนี่ย?”

     


    เด็กน้อยที่อยู่ใต้ร่างของผมถลึงตาถามผมอย่างไม่เชื่อสายตา

    ก็โธ่...เครื่องผมมันติดตั้งแต่ตอนที่เขามาปลุกแล้วนี่นา

    แล้วอย่างนี้จะให้ผมปล่อยไปง่ายๆได้ยังไงกันล่ะครับ?

     



    “โธ่...แล้วทำไมพี่ต้องปล่อยโอกาสให้ผ่านไปด้วยล่ะครับตัวเล็ก?”

     

     

    หยิบรีโมทขึ้นมาอีกครั้งแล้วกดปุ่ม Play ซ้ำอีกหน

    ยกยิ้มร้ายส่งให้น้องเขาในขณะที่ถอดเสื้อยืดตัวเล็กของคยองซูออกแล้วขว้างมันทิ้งไปที่ด้านหลัง

     

    .

    .

     

    “ก็คุณพ่อตาอุตส่าห์ฝากฝังแถมยังกำชับเอาไว้ขนาดนี้แล้วนี่นา”






     

    FULL NC CHAPTER 23

     





     


      
    ผมแทบจะไม่ได้สัมผัสบรรยาการอบอุ่นที่พร้อมหน้าพร้อมตาไปด้วยครอบครัวมานานแล้ว

    คริสมาสต์ทุกๆ ปี ผมและคยองซูมักจะซื้อเค้กมากินด้วยกัน 

    หรือนัดพวกเพื่อนๆผมมาทำเนื้อย่างสังสรรค์แล้วเล่นไพ่กินเงินโต้รุ่งกันในตอนท้าย

    ตอนนี้ก็ไม่ได้แตกต่างอะไรมากนัก แต่เรามีปาร์ตี้ที่เป็นทางการกันพอสมควร 

    เพราะว่าคุณโดยังอยู่ตรงนี้และมีเด็กๆอย่างจื่อเทาและเซฮุนมาร่วมด้วย


    งานปาร์ตี้คืนนี้ของพวกเราผ่านไปด้วยดี...

    ทุกคนเอาของขวัญมาจับฉลากแลกกันและยังพากันร้องคาราโอเกะตั้งแต่หัวค่ำ

    ผมจับฉลากของขวัญได้ตุ๊กตาโตโตโร่ตัวอ้วนกลม

    ในขณะที่คยองซูมือดีหยิบได้เช็ตบ็อกเซอร์ของ PUMA ที่ไอ้แด้เป็นคนซื้อมาซะงั้น

    ผมว่าไอ้แด้นี่ไม่มีเซ้นส์เรื่องของขวัญวันคริสมาสต์เอาซะเลย

    มีอย่างที่ไหนเอาบ๊อกเซอร์มาจับฉลากของขวัญกันล่ะครับ...ไอ้บ้านี่

     


    ผมยืนย่างบาร์บีคิวอยู่ตรงมุมสวนห่างจากทุกคนที่ร้องเพลงคาราโอเกะด้วยกันอยู่ไม่มากนัก

    เพราะผมร้องเพลงไม่ค่อยจะได้เรื่องเท่าไหร่ และไม่อยากจะทำตัวรื่นเริงมากให้พ่อตาหมั่นไส้

    ผมเลยคิดว่าการมายืนเป็นฝ่ายบริการน่าจะโอเคกว่าการไปนั่งเสร่ออยู่หน้าจอคาราโอเกะแน่ๆ

     


    “ดื่มกันซักหน่อยไหมคุณจงอิน?”

     


    เสียงนุ่มที่ถามขึ้นมาทำให้จงอินต้องหันขวับกลับไปหาคนถามโดยทันที

    ก่อนจะพบว่าคุณโดแกยื่นแก้วเบียร์แก้วใหญ่มาให้ตรงหน้า ก่อนจะยกยิ้มอย่างอารมณ์ดี

     


    “โอ้...จะไม่ทำให้คะแนนความนิยมของผมลดน้อยลงไปใช่ไหมครับคุณโด?” ผมรับแก้วนั้นมาก่อนจะหัวเราะร่า

     


    “อืม...เหมือนว่าจะไม่เคยมีนะ” คุณโดยักไหล่แล้วหัวเราะ

     


    “โธ่...อย่าล้อผมเล่นอย่างนั้นสิครับ นี่ผมจริงจังนะเนี่ย”

     


    “เอาเถอะน่า...ถ้ามันจะทำให้คะแนนลดลงผมคงไม่เอามายื่นให้คุณหรอก”

     


    คุณโดตอบกลับมาและนั่นทำให้ผมโล่งใจไปได้เปราะหนึ่ง

    คุณโดในวันนี้กับเมื่อวานอย่างกับคนละคน...ผมละรู้สึกเฟลจังที่โดนเขาหลอกซะสนิทใจเลยเชียว

     


    “คุณจะเลื่อนเวลากลับออกไปใช่ไหมครับ?” ผมถามเขาในขณะที่ยกแก้วขึ้นดื่ม

     


    “ก็แค่สองสามวันน่ะ เพราะธุระอะไรยังไม่ค่อยจะเรียบร้อยซักเท่าไหร่”

     


    “ธุระอะไรเหรอครับ? ผมถามได้ไหม?” ผมถามเขาไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น

     

     

    “อ๋อ...ผมจะพาคยองซูกลับไปด้วยไง เลยต้องรีบจัดการเอกสารแล้วก็พวกวีซ่านิดหน่อย”

     


    คุณโดยิ้มแล้วยกแก้วเบียร์ขึ้นดื่ม ยักไหล่อย่างกับเป็นเรื่องปกติในสิ่งที่เขาพูดออกมา

    แต่นั่นทำเอาผมสำลักไปเลย

     

    “ห...ห๊ะ!! ไหน...ไหนคุณบอกว่าจะไม่พาเขาไปแล้วไงครับ?

    ไหนคุณบอกว่าจะให้ผมดูแลเขาต่อไปไงล่ะ

    เฮ้...ผมไม่ยอมนะครับ! คุณหลอกดาว!( NMN: ไม่ใช่ละ -___- )

     

    ผมแหวใส่คุณโดเสียงแข็ง...และรู้สึกงงงวยเหลือเกินที่คุณโดระเบิดหัวเราะออกมาเมื่อเห็นว่าผมเป็นอย่างนั้น

     

    “ฮ่าๆๆๆๆ ผมล้อเล่นหรอกน่า

    ผมจะพาเขากลับไปจริงแต่ก็แค่สองอาทิตย์เท่านั้น

    อยากให้เขาไปเจอภรรยาผมบ้าง แล้วก็ไอ้ตัวเล็กของเราที่โน่นด้วย”

     

    คุณโดมองไปทางคยองซูที่ตอนนี้กำลังปรบมือเป็นจังหวะกับเพลงที่ไอ้จงแดกำลังร้อง เขายักไหล่ก่อนจะหันมามองผม

     

    “คุณมีไอ้ตัวเล็กด้วยเหรอครับ...คยองซูรู้ไหมครับว่าเขามีน้องด้วย?”

     

    “รู้สิ...อายุแปดขวบแล้ว แต่เราไม่ค่อยได้คุยกันเรื่องนี้บ่อยเท่าไหร่

    ผมเองก็แปลกใจนะที่คยองซูไม่ได้บอกเรื่องนี้กับคุณ”

     

    “อ้อ...เขาคงจะลืมล่ะมั้งครับ”

     

    ผมหลบสายตาไปทางอื่นแล้วแสร้งทำเป็นยกเบียร์ขึ้นจิบ

    เพราะความจริงแล้วคยองซูแทบจะไม่พูดถึงพ่อของเขาให้ผมฟังเลย และผมเองก็ไม่คิดจะถามเกี่ยวกับเรื่องนี้เท่าไหร่

    มีแค่บางทีที่เขาพูดถึงบ้างเวลาที่เป็นเรื่องอะไรที่สำคัญ

    แต่นอกเหนือจากนั้นเขาก็แทบจะไม่ได้พูดอะไร ทั้งๆที่คุณโดก็โทรมาบ่อยพอสมควร...

     

     

    “จงอิน...พี่มินซอกบอกให้คยองมาเอาบาร์บีคิวเพิ่มครับ

    ป่ะป๊าไม่ไปร้องเพลงกับคยองทางโน้นเหรอ?”

     


    “ไม่เอาล่ะ ป๊าขอดื่มอยูตรงนี้ดีกว่า ไม่ค่อยสันทัดเพลงวัยรุ่น

    ให้ป๊าร้องเพลงทร๊อตได้มั้ยล่ะ แต่ถ้าได้ร้องปุ๊ปป๊าไม่ปล่อยไมค์นะ”

     


    “งั้นไม่ต้องล่ะ  ป่ะป๊าก็อยู่ตรงนี้ไปนั่นแหละดีแล้ว ฮ่าๆๆๆ

    เหนื่อยไหมครับจงอิน...อยู่แต่หน้าเตาย่างเดี๋ยวก็หน้าไหม้หมดหรอก”

     

    คยองซูถือจานมาทางผมแล้วยกยิ้มร่า

    ยกแขนเสื้อขึ้นลูบที่หน้าผมเบาๆ ผมยิ้มออกมาเมื่อเห็นเขาทำอย่างนั้น

    จมูกเขาเป็นสีแดงอีกแล้ว และผมรับรู้ได้ว่าเสียงของเขาเริ่มจะแหบเพราะตะโกนและร้องเพลง

     


    “เอาผ้าพันคอนี่ไปสวมซะคยองซูอ่า...แล้วก็อย่าตะโกนมากไปล่ะ

    เสียงนายแหบง่ายอยู่ด้วย เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ไม่มีเสียงหรอก”

     


    “อื้ม...คยองจะระวังครับ นี่เสร็จแล้วใช่ม้า งั้นคยองยกไปแล้วนะ”

     


    ผมพันผ้าพันคอสีน้ำตาลของตัวเองไปรอบคอเล็กๆของเขา

    คยองซูยิ้มหวานส่งมาให้แล้วพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง ก่อนจะหยิบเอาจานบาร์บิคิวนั้นยกกลับไปที่เดิมนั้น

    ผมมองเขาแล้วยิ้มตาม ก่อนจะหันขึ้นมาแล้วพบว่าคุณโดเองก็มองผมอยู่แล้วยิ้มเช่นเดียวกัน

     


    “อืม...ถ้าเป็นเมื่อวาน เรื่องที่คยองซูเสียงแหบง่ายนี่จะเป็นคำฝากข้อไหนล่ะ?” เขาเอ่ยแซว

     


     

    “อ๋อ...เรื่องนี้เป็นข้อที่ 89 ครับ จากทั้งหมด 165 ข้อ

    นี่ผมตัดเรื่องหยุมหยิมบางเรื่องออกไปแล้วนะ ได้ทั้งหมดก็ 165 ข้อพอดี”



    ผมหัวเราะร่วนเมื่อได้ตอบคุณโดกลับไป...อันความจริงแล้วผมโม้ต่างหาก

    มันอาจจะไม่ถึง 165 ข้อหรอก แต่ผมมั่นใจว่าผมสามารถพูดมันได้เรื่อยๆ

    เพื่อทำให้คุณโดเปลี่ยนใจและตัดสินใจรับฟังมัน...

     



    “โอ้...งั้นก็ดีแล้วล่ะที่ผมไม่เอาเขาไป เพราะสงสัยผมคงจะดูแลเองไม่ไหว

    ว่าแต่...ผมก็เพิ่งรู้เนี่ยแหละ  ว่าคุณว่ายน้ำไม่เป็น”

     


    คุณโดยิ้มกรุ้มกริ่มในขณะที่เสตามองผม

     


    “หืม? อะไรนะครับ?”

     


    ผมถามอย่างไม่เข้าใจ ผมเองว่ายน้ำเป็นและเก่งด้วย

    และผมก็ไม่แน่ใจนักว่าจู่ๆ คุณโดยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดทำไม...

     


    “เมื่อวานผมถามคยองซู...คำถามเดียวกับที่คุณบอกผม

    ผมถามว่า ถ้าคนบนโลกนี้จมน้ำไปหมด เขาจะช่วยใครขึ้นมาก่อนระหว่างคุณกับตุ๊กตาพี่คร๊องนั่น

    ผมบอกเขาว่าถ้าคำตอบที่เขาบอกนั้นตรงกัน ผมก็จะยอมปล่อยพวกคุณทั้งสองไป”

     



    “อ่า...งั้นเขาตอบว่าเขาเลือกพี่คร๊องสินะครับ”



    “เปล่า...เขาเลือกที่จะช่วยคุณก่อน เพราะว่าคุณว่ายน้ำไม่เป็น”




    อ้าว...ชิบหาย

    คำตอบไม่ตรงกัน

     


    “แล้วทำไม.........?” 

     


    ผมเอ่ยขึ้นอย่างไม่แน่ใจนัก

    เพราะเขาก็เป็นคนบอกเองว่าถ้าคตอบของเราสองคนตรงกันเขาก็จะปล่อยเราไป

    คุณโดหัวเราะออกมาก่อนจะส่ายศีรษะ ยกมือขึ้นตบบ่าผมเบาๆแล้วตอบคำถาม

     


    “ก็คุณบอกผมไว้ไม่ใช่เหรอ

    ว่าถ้าคยองซูเลือกใคร...นั่นแปลว่าเขา รัก คนๆนั้นมากจริงๆ”

     



    “...................................”

     

     

    ผมเงียบไปเมื่อเขาตอบคำถาม

    ทำได้แค่ยิ้มอย่างภูมิใจน้อยๆเท่านั้นเมื่อคุณโดยังมองมาด้วยแววตาที่หยอกล้อไม่หยุด

     




    “ผมรู้นะว่าคุณว่ายน้ำเป็น...และคำตอบมันไม่ตรงกับที่ผมคิดไว้

    แต่มันไม่ได้สลักสำคัญอะไรหรอกจริงไหม ในเมื่อยังไงเขาก็เลือกคุณอยู่ดี

    คุณบอกว่าคยองซูเห็นว่าตุ๊กตาพี่คร๊องนั้นเป็นตัวแทนของคุณ

    ถ้าเขาตอบว่าจะช่วยคร๊อง...แล้วทำไมเขาจะไม่ได้หมายถึงคุณล่ะจริงไหม”

     

     

    โอ...ตรรกะที่ผมไม่เคยนึกถึงมาก่อนนั้นทำให้ผมต้องยกยิ้มออกมาพรายเต็มแก้ม

    อยากจะวิ่งไปจูบคยองซูซักทีสองทีให้เขารู้ว่าผมล่ะบ้ารักเขาแค่ไหน

    แต่ผมก็รู้ดีว่านั่นไม่ใช่เวลาของเราในตอนนี้...

     


    ผมกัดริมฝีปากแล้วยกยิ้ม...

    บางทีการที่เขาทำตัวน่ารักแบบนี้ผมก็อาจจะต้องให้รางวัลซักหน่อย

    และเมื่อเรากลับไปที่บ้าน ผมสัญญาว่ารางวัลที่ผมจะให้นั้น

    ต้องมากพอที่จะทำให้คยองซูได้รับรู้ว่าผมรักเขาแค่ไหน

     

    “ขอบคุณนะครับคุณโด” ผมบอกกับเขา

     

    “เรียกผมว่าพ่อสิ...”



    คุณโดหันมายิ้มแล้วลงแรงบีบที่บ่าของผมเบาๆ

    มืออีกข้างยื่นแก้วเบียร์มาขอชนกับผม

    ผมเบิกตากว้างอย่างไม่เชื่อหู... โอ...นี่อย่างกับฝันไปเลย

     

    “ครับ คุณพ่อตา...ขอบคุณมากนะครับ”

     

    “ไม่เป็นไรมิได้”

     

    คุณพ่อตาขยิบตาตอบกลับมาพลางยักไหล่

    เรายกแก้วเบียร์ขึ้นดื่มโดยไม่ได้แม้แต่มองหน้ากัน

    ผมรู้สึกขวยเขินที่ได้การยอมรับ...แต่ก็ดีใจที่สุดท้ายแล้วก็ได้ทำอะไรให้มันถูกต้อง

     

     

    “เอาล่ะ...ผมต้องไปเติมเบียร์แล้วขึ้นไปโทรคุยกับคุณยุนเรื่องวันพรุ่งนี้ซักหน่อย

    ดูแลทุกคนด้วยล่ะ ตามสบายเลยนะ...เอ้อ! แต่ก่อนไปผมมีของขวัญจะให้คุณนิดหน่อย”

     


    คุณโดล้วงมือเข้าไปในเสื้อสเว็ตเตอร์ไหมพรมตัวหนาของเขาแล้วหยิบเอาอะไรบางอย่างออกมา

    ผมมองเขาเป็นเชิงถามอย่างไม่เข้าใจนัก เมื่อเห็น แผ่นซีดี ที่อยู่ในมือเขา

    โอพระเจ้า...  อย่าบอกนะว่ามันคือ...

     



    “โธ่...ก็เพลงที่คุณเล่นน่ะมันเก่าไป ลูกผมยังเป็นวัยรุ่นอยู่นะ!

    ผมคิดว่า Boyz ll Men มันเป็นเพลงอมตะก็จริงนะแต่เพลงที่ผมจัดให้มันเร้าใจกว่า

    ในนี้มีเพลงเมคเลิฟฮ๊อทๆอย่างเพลงของ Matt Nathanson - Come On Get Higher

    เพลง Bed ของ J.Holiday แต่ผมชอบเพลงของ R’Kelly - Bump ‘n Grid มากๆ!

    แถมในนี้ยังมีเพลงเซ็กซี่ๆของ Justin Timberlake อย่างเพลง Boutique in Heaven อูววว...เพลงนี้มันสุดๆ

    แถมยังมี Maroon5 - One more night ด้วยนะ!  พระเจ้า...คุณโยนอัลบั้มเก่าๆของคุณทิ้งไปเลยเถอะ

    แล้วหันมาฟังเพลงนี้ของ Lil Wayne แล้วก็ Nelly เพลงนี้ฮิปฮอปแต่กระเส่าสุด!!

    เฮ้...อย่าทำหน้าอย่างนั้นน่า ผมไม่เชี่ยวเพลงเกาหลีแต่ภรรยาผมก็ยังฟังเพลงพวกนี้อยู่นะ!

     



    คุณโดพูดพลางยักไหล่แล้วหัวเราะแซวเมื่อเห็นว่าผมหลบสายตาเขา

    จะบ้าตาย...ผมแทบอยากจะมุดหน้าแทรกแผ่นดินแล้วหายตัวไปเดี๋ยวนี้เลย!

     



    “อย่าลืมใช้มันล่ะ” คุณพ่อตากำชับก่อนจะหย่อนใส่ลงมาในกระเป๋าเสื้อโค้ทของผมแล้วตบมันเบาๆ

     



    “โธ่...คุณพ่อครับ! รักของเราเร่าร้อนมากพออยู่แล้ว และเราไม่ต้องใช้มันหรอกน่า!

     



    “เฮ้...ใช้มันหน่อยเถอะน่า ผมอุตส่าห์ไรท์มาเพื่อคุณโดยเฉพาะเลยนะ ฮ่าๆๆๆ”

     



    “อ๊ากกกก คุณพ่อ! ผมว่าเราน่าจะหยุดพูดกันเรื่องนี้นะครับ!

    หยุดแซวผมซักทีเถอะครับให้ตาย!

     




    ผมมุดหน้าหนีแล้วดันหลังคุณโดให้เริ่มเดินออกไป

    คุณโดระเบิดหัวเราะออกมาเอิ๊กอ๊ากอย่างอารมณ์ดีแล้วหลังจากนั้นก็เดินกลับเข้าไปในบ้าน

     



    อ่า...ให้ตายเหอะผมเหมือนตัวจะระเบิดเพราะความอายซะแล้ว

    การที่ผมได้ของขวัญอะไรอย่างนี้ในวันคริสมาสต์มันทำให้ผมมั่นใจว่าต่อจากนี้ผมจะไม่มีวันลืมทำอะไรอย่างหนึ่งที่เป็นสาเหตุให้ตอนนี้

    ผมต้องมาขายหน้าแบบนี้อีกแล้วล่ะให้ตาย

     

    .

    .

    .

     

     

    ผมสาบานว่าต่อจากนี้ไปผมจะล๊อคประตู!

      













    ✚ TALK 


    จบไปแบบเวิ่นเว้อ...
    ทุกอย่างผ่านไปด้วยดีแล้วนะ ผ่านไปด้วยเอ็นซีที่ถูกจัดขึ้นมาเป็นพิเศษ
    ตอนนี้ฟิคเรื่องนี้ดำเนินมาถึงตอนท้ายเรื่องแล้วนะคะ
    และนมน.ก็อยากจะบอกให้รู้ว่ามันกำลังจะจบ...

    นมน.จะต่ออีกประมาณสองตอนแล้วจะจบเรื่องน้องคยองแล้วค่ะ
    บอกให้รีดเดอร์ได้เตรียมใจกันไว้ก่อนเนอะ พอขึ้นคำว่า END จะได้ไม่นอยด์กัน
    แต่ตอนนี้มันยังไม่จบนะคะ! เพราะงั้นอย่าเพิ่งเศร้าไปล่ะ ฮี่ๆ



    รักรีดเดอร์นะคะ งุงิ



    - ไรเตอร์นมน. -




    © Tenpoints!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×