คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #18 : ✚ BE MY BABY :: EIGHTEEN +
Author : MR.$N0WMAN*
Pairing : Kim Jongin & Do Kyungsoo
Story : Jackboiz
Rate : NC - 18
Be my Baby*
‘0.18’
คำเตือน: ตอนนี้ยาวมาก...
และ รักกันอย่ากดแบน ไม่ชอบก็กดปิดไปเลยค่ะ
- ขอบคุณ Gossip Girl 1-5 และ MM3 -
ผมนอนไม่หลับ...
ซึ่งมันเป็นอะไรที่ผิดวิสัยเอามากๆ
เพราะพวกคุณก็คงรู้กันอยู่ใช่ไหมว่าผมเป็นคนที่หัวถึงหมอนปุ๊ปก็อาจจะไหลตายได้ง่ายๆ
แต่ตอนนี้ผมกำลังจะบ้าตายเพราะว่าคยองซูกำลังซุกหน้าเข้ามาซบที่หน้าอกของผมแล้วหลับสนิทเลย
อันความจริงผมกับเขาก็นอนแบบนี้มาตลอดอยู่แล้วล่ะ และมันก็ไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเลยซักครั้งเดียว
จนกระทั่งเราผ่านเหตุการณ์เมื่อวานไปนั่นแหละ....
คยองซูจะรู้ไหมนะว่าเขาแทบจะทำให้ผมเป็นบ้าตายได้ทุกทีเวลาที่เขาทำแบบนี้
ผมเองก็ไม่ใช่พระอิฐพระปูนนะครับที่แบบว่าเวลาโดนสัมผัสหรือสายตาที่มันมากเกินกว่าสถานะปกติแล้วจะอดทนได้
ผมล่ะอยากจะจูบเขาตลอดเวลาเลยให้ตาย ยิ่งเวลาที่เขากัดริมฝีปากเวลามองหน้าผมนะ มันยิ่ง...
แม่งเอ๊ย! อย่าจะเข้าไปฟัดให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย!!
โอเค...ก่อนหน้านี้ผมยังมีจิตสำนึกที่พอจะเตือนสติตัวเองไม่ให้กระทำชำเราน้องเขา
แต่ก็เห็นได้ชัดว่าตอนนี้จิตสำนึกนั้นเริ่มจะหมดไปทีละนิดๆ ด้วยโปรแกรมล้างสมองของไอ้จงแด
และที่มันเลวร้ายไปกว่านั้นก็คือ บ้าเอ๊ย...เพลงที่เขาเอามาให้ผมน่ะ ผมชอบมันทุกเพลงเลย!!!
คือ...มันคือสิบเพลงรักที่ดีที่สุด แต่แน่นอนว่าความหมายโคตรจะวาบหวาม
มันไม่ใช่เพลงที่มีจังหวะหนักๆเหมือนในผับ แต่กลับเป็นเพลงนุ่มๆที่ทำเอาผมคิดเตลิดเปิดเปิงไปไกล
แล้วสุดท้ายก็จบลงด้วยการเข้าห้องน้ำทุกที...
โอเค...คุณคงไม่ไร้เดียงสาขนาดว่าจะถามผมหรอกใช่ไหมว่าเข้าไปทำอะไรในห้องน้ำ
คือทุกครั้งที่ผมคิดไปไกล เท้าก็พาเดินมาทางห้องน้ำตลอดล่ะ
เพราะถ้าเห็นหน้าคยองซูผมคงต้องเป็นบ้าไปแน่ๆ...
ผมข่มตานอนแม้ว่าจะรู้สึกว่าผิวมันไวต่อการสัมผัสไปหมด
ปกติแล้วลมหายใจของคยองซูนั้นเป่ารดที่หน้าอกผมอยู่ทุกคืนอยู่แล้ว
แต่คืนนี้มันกลับทำให้ผมรู้สึกว่าขนลุกไปหมดเลยเวลาที่เขาผ่อนลมหายใจมาตรงอกผม
และท่อนแขนที่พาดตรงเอวของผมเองก็เช่นกัน...บ้าไปแล้ว ปกติเขากอดผมแน่นกว่านี้อีกผมยังทนได้เลย
แล้ววันนี้เป็นบ้าอะไรวะ...ทำไมต้องคิดนั่นคิดนี่ด้วย
ย่างเข้าตีสามแล้ว...ผมยังคงนอนนิ่งและขืนตัวให้น้องเขากอดได้ตามชอบใจ
แต่เอาจริงๆนะครับ...
ผมชักจะเริ่มไม่ไหวแล้วล่ะ...
อา...ผมคิดว่า ผมอาจจะต้องไปห้องน้ำ...
ใช่แล้ว...ตอนนี้เลย....
และทิชชู่จ๋า...นายอยู่ไหนเอ่ยยย ♥
“ท่าทางเหมือนคนจะตาย...เป็นอะไรของนายล่ะเนี่ย”
ลีแทมินเดินเข้ามาแล้วถามผมอย่างไม่ยี่หระ...
นี่ถ้างานอีเว้นท์ในวันอาทิตย์นี้หมดลงเมื่อไหร่ล่ะผมสัญญาเลยว่าจะไม่ติดต่อไอ้คนหน้าเหมือนผมคนนี้อีกแน่นอน
เพราะถ้าขืนผมยังคุยกับมันต่อ ผมคงต้องประสาทกินเพราะท่าทางกวนประสาทของแทมินแหงๆ
“เมื่อคืนฉันไม่ได้นอน”
ผมตอบเขาไปก่อนจะรีบหยิบแก้วกาแฟตรงหน้าตัวเองขึ้นมาถือไว้แล้วยกจิบ
เพราะขืนช้ากว่านี้...กาแฟของผมต้องตกเป็นของแทมินแหงๆ
“อู้วววว นายจัดหนักน้องเขาแล้วเรอะ?”
แทมินถามผมตาใส ในดวงตามีวาวประหลาดลุกวาบจนผมรู้สึกไม่ค่อยไว้ใจ
แต่มันก็ดีกว่าวันก่อนๆมากล่ะ...เพราะตอนนี้ผมแน่ใจแล้วว่าเขาไม่ได้หวังจะแอ้มผมเหมือนที่ผมเข้าใจ
เพราะงั้น...ตอนนี้ผมกลับรู้สึกดีที่จะพูดคุยกับเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้
“ยัง...แต่นั่นแหละที่ทำให้ฉันจะเป็นใกล้เหมือนคนตายไปทุกที”
“โธ่ น่าสงสาร...ชักจะเริ่มทนไม่ไหวแล้วอ่ะดิ”
แทมินยกยิ้มกรุ้มกริ่มก่อนจะถือวิสาสะขึ้นมานั่งบนโต๊ะของผมแล้วแย่งกาแฟไปจากมือผม
อ่า...บ้าเอ๊ย ผมโดนแย่งกาแฟอีกแล้ว...แถมคราวนี้แย่งไปจากมือเลยด้วย!
“เป็นบ้าอะไรทำไมต้องแย่งฉันกินกาแฟทุกทีเลย” ผมถามเขา
“ก็ของที่แย่งมามันมักจะอร่อยกว่าของที่เป็นของเรานี่นา” แทมินพูดพลางยักไหล่
ผมกลอกตาไปมาก่อนจะลุกขึ้นไปเปิดประตูหน้าห้อง
สั่งกาแฟแทยอนใหม่อีกหน...แล้วเดินกลับเข้ามา
“กินแก้วนั้นให้หมดซะ...แล้วถ้านายแย่งแก้วนี้ฉันอีกล่ะก็นะ ฉันเหวี่ยงนายออกจากห้องแน่”
“โธ่... ใจร้ายจัง ฉันก็แค่แหย่นายเล่นแค่นิดเดียวเองน่า
ตอนเช้าๆอย่างนี้งานยังไม่เยอะ เลยแวะมาทักทายเพื่อนร่วมงานบ้างจะผิดตรงไหนกันหืม”
แทมินยิ้มร่าก่อนจะยกแก้วกาแฟนั้นขึ้นดื่มอีกหน เลื่อนตัวลงมาจากโต๊ะแล้ววางแก้วกาแฟที่ว่างเปล่านั้นลงไปที่เดิม
ก่อนจะเดินมาหาจงอินอย่างช้าๆ สองมือล้วงกระเป๋าเอาไว้แล้วย่างสามขุมตรงมา
“ฉันเป็นเจ้านายต่างหาก...เจ้านายไม่ใช่เพื่อนร่วมงาน” จงอินตอกกลับไปส่งๆ
“โอเค...เป็นเจ้านาย ไม่ใช่เพื่อนร่วมงามแต่เป็นเพื่อนนอนได้ไหม?”
แทมินเดินมาประชิดตัวเมื่อไหร่ก็ไม่อาจรู้ได้
จงอินหันสายตากลับมาจากวิวที่อยู่นอกหน้าต่างเพื่อหันมาหาแทมิน
และนั่นแหละที่ทำให้เขาพลาดไป...
แทมินปรี่เข้ามาจูบเขาเบาๆทีหนึ่งอย่างถือวิสาสะ...
เป็นเป็นสัมผัสเพียงแค่เสี้ยววินาทีเดียวเท่านั้นแล้วก็ถอนออกไป
มันคงจะไม่ลำบากใจอะไรมากมายถ้ามันเป็นแค่จูบที่แทมินช่วงชิงไปเพียงคนเดียว
แต่จงอินรับรู้ว่ามันจะเป็นปัญหาใหญ่โต...
เพราะว่าแทยอนเปิดประตูมาเห็นพอดี...
“เอ้อ...ฉันขอโทษค่ะท่าน ฉ..ฉันวางกาแฟไว้ตรงนี้นะคะ ล...ลาล่ะค่ะ”
แทยอนรีบเอ่ยเสียงตะกุกตะกักในขณะที่วางแก้วกาแฟลงที่โต๊ะรับแขกหน้าห้อง
ผมหลับตาราวกับว่าไม่อยากจะรับรู้อะไรอีกต่อไปในโลกนี้แล้ว
เมื่อเห็นว่าแทยอนนั้นหลบสายตาแล้วรีบปรี่ออกจากห้องไป...
เรื่องใหญ่....เรื่องใหญ่แน่ๆ...
“นายทำบ้าอะไรของนายวะแทมิน!!”
ผมกระชากเสียงถามเขาอย่างไม่ค่อยพอใจนัก รู้สึกโมโหที่แทมินเอาแต่ยกยิ้มอีกแล้วสิให้ตาย...
เขายกมือขึ้นจัดปกเสื้อสูทของผมแล้วพรายยิ้มจนเต็มแก้ม...
ก่อนที่เขาจะเงยหน้าขึ้นมามองผมแล้วกระซิบด้วยน้ำเสียงมั่นออกมั่นใจ
“นายอยากโกรธก็แล้วแต่นะ...
.
.
แต่สุดท้ายแล้วนายจะขอบใจฉัน คิมจงอิน”
*********
มันเป็นเรื่องใหญ่...มันต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ
นี่คือความคิดของผมในขณะที่ขับรถกลับไปที่บ้าน
คยองซูกลับมาที่บ้านก่อนแล้ว และนั่นทำให้ผมรู้ว่านี่แหละที่จะทำให้ผมซี้แหงแก๋
ผมเคยบอกคุณว่าแทยอนน่ะเป็นเลขาที่ดี...แต่ผมอาจจะไม่เคยบอกคุณสินะครับว่าแทยอนน่ะเอ็นดูคยองซูมาก...
แล้วคุณคงคิดออกใช่ไหมว่าถ้าเกิดคยองซูจะต้องการใครซักคนคอยเป็นสายสืบให้เขาล่ะก็
เป็นคิมแทยอนล่ะเหมาะเหม็งเลย...
แทยอนกับคยองซูสนิทกันมาก...หล่อนรักคยองซูเหมือนน้องแท้ๆและผมก็เคยยินดีที่เป็นเช่นนั้นมาเสมอ
แต่ที่แน่ๆไม่ใช่วันนี้...เพราะนอกจากแทยอนจะไม่ยอมคุยกับผมเลยทั้งวันและเธอก็มีท่าทางบึ้งตึงใส่ผมเอามากๆ
และคุณลองคิดดูสิครับ...ว่าขนาดแทยอนยังเป็นอย่างนี้
แล้วคยองซูจะเป็นขนาดไหน...
ให้ตายเหอะ...ผมไม่เคยกลัวการเปิดประตูห้องนอนเท่าวันนี้มาก่อนเลย
คือคุณลองคิดภาพตามผมนะครับ เมื่อคุณขับรถเข้ามาแล้วไฟในบ้านมืดสนิท
เปิดไฟห้องครัวแล้วก็พบว่าไม่มีอาหารตั้งอยู่บนนั้น
และนั่นทำให้ผม...โอเค ผมชักจะพูดไม่ออกแล้วล่ะ มัน...มันมากเกินกว่าที่ผมจะบรรยายน่ะเข้าใจไหม
แกร๊ก....
ผมเปิดประตูห้องนอนอย่างแผ่วเบา
แล้วก็พบว่าภาพที่คิดไว้ว่าจะเจอนั้นมันดูเลวร้ายน้อยกว่าสถานการณ์จริงที่ต้องเจอหลายขุมนัก
เพราะทันทีที่เปิดประตู...ตุ๊กตาโปโรโระก็พุ่งเข้ามาที่หน้าผมเลย
โอ้ย...เจ็บชิบหายเลยให้ตายเหอะ
“คนบ้า!! ไอ้พี่บ้า!!!! ยังมีหน้ากลับมาที่บ้านอีกเหรอ!
ออกไปเลยนะ อยากไปกกใครก็เชิญเลย!!
อยากไปจูบใครที่ไหนก็ไปเลย!
คยองเกลียดพี่! เกลียด! เกลียดดดดดดดดดดดด!!!!!”
“โอ้ย!! คยองซูฉันเจ็บนะ! ฟังฉันก่อนซี่!!!”
“หุบปากนะ!!! คยองไม่ฟัง!!!!! ไอ้พี่บ้า! คนโกหก!!!!
ไหนสัญญาว่าจะจูบคยองคนเดียวไง!!!! พี่โกหก!!!!!”
คยองซูขว้างตุ๊กตาและหมอนนับสิบใบใส่ผมพลางตะโกนโหวกเหวก
ก่อนจะหยิบหมอนขึ้นมาฟาดผมอย่างแรงจนผมมึนไปหมด
น้องเขาร้องไห้จนหน้าแดงก่ำไปหมดแล้ว...
โอ...นี่มันกำลังจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ไปจริงๆแล้วสินะ!
“หยุด! แล้วฟังที่พี่พูดเดี๋ยวนี้นะโดคยองซู!!!”
ผมตะโกนใส่เขาบ้างเพราะตอนนี้อารมณ์ที่เราสาดใส่กันนั้นทำให้ผมไม่อาจจะอ่อนโยนกับเขาได้
แต่โอเค...ผมรู้สึกว่ามันแย่ไปกว่าเดิมเยอะเลย
เพราะถึงแม้คยองซูจะหยุดจริง แต่ตอนนี้เขากลับพยายามจะเดินออกไปจากห้อง
เขากำลังจะหนีไปจากผมอีกแล้ว...เหมือนที่เขาเคยทำ
ชอบวิ่งหนีปัญหา...นี่ล่ะคยองซูล่ะ
“ปล่อยคยองนะ! คยองไม่ฟังอะไรทั้งนั้นล่ะ!
ที่จงอินบอกว่ารักคยองเพราะแค่พูดให้คยองดีใจเล่นไปแค่นั้นใช่ไหม?!
จงอินไม่ได้รักคยองแล้วมาโกหกกันทำไม! เจ็บนะ...ปล่อยคยองสิ ปล่อยคยอง!!”
“ไม่ปล่อยจนกว่านายจะฟังที่ฉันพูด!
ทำไมชอบคิดเองเออเองไปคนเดียว! ไหนบอกว่าจะเชื่อใจกันไงล่ะ?!
แล้วทำไมถึงฟังแต่คำพูดคนอื่นแต่ไม่ฟังคำพูดของฉัน!!”
“พี่แทยอนไม่ใช่คนอื่น! พี่แทยอนไม่โกหกคยอง!
จงอินมีคนอื่น! จงอินรักพี่คนนั้นมากใช่มั้ย????
จะให้คยองเชื่อใจได้ยังไงในเมื่อหลักฐานก็เห็นอยู่คาตา!
พี่จะแก้ตัวอะไรอีกในเมื่อทุกอย่างมันก็ฟ้องชัดเจนอย่างนั้นอยู่แล้ว!!!”
คยองซูตวาดใส่หน้าผมในขณะที่พยายามจะขืนตัวออกจากอ้อมกอดที่ผมยื้อไว้
ปล่อยให้โง่สิ...ขืนปล่อยไปคราวนี้จะหนีไปที่ไหนก็ไม่รู้ คงไม่ใช่บ้านแบคฮยอนแน่นอน
เผลอๆจะประชดผมด้วยการไปอยู่ที่บ้านไอ้เด็กเวรตะไลอย่างไอ้จงฮยอนนั่นแน่ๆ
“แต่หลักฐานที่แทยอนเห็นคือเรื่องเข้าใจผิด!
เพราะงั้นนายต้องฟังฉันก่อน...คยองซู นี่ไม่ใช่คำแก้ตัวนะ...ได้โปรด”
ผมกอดเขาไว้แน่นแล้วเริ่มร้องไห้...
โอเค ผมไม่ใช่คนเจ้าน้ำตาหรอกนะ แต่ทุกครั้งที่ผมร้องไห้มักจะเป็นเรื่องของคยองซูเสมอ
ผมแค่รู้สึกโมโหตัวเองที่ทำอะไรไม่ได้เลย...น้องเขาไม่ฟังผม และผมรู้สึกโมโหจริงๆที่เรื่องทุกอย่างมันเลวร้ายอย่างนี้...
คยองซูหยุดดิ้นรนเมื่อน้ำตาของผมไหลลงมาจากดวงตาและเขาก็ตกใจมาก
เขาหอบหายใจเพราะแรงยื้อของเราเมื่อครู่นั้นทำให้เหนื่อยหอบ
แต่เมื่อเขาหยุดนิ่ง ผมก็รีบคว้าเขาเข้าไปกอดเอาไว้ ไม่หรอก...ผมจะไม่ยอมให้เขาไปไหนหรอก ฝันไปเถอะ
“แค่ฟัง...ฟังพี่ก่อนจะได้ไหม? นะ....”
ผมกระซิบขอร้องเขา...ตัวสั่นเทาเพราะร้องไห้
คยองซูเองก็ร้องไห้เหมือนกัน...เพราะเสียงกระซิกของเขาดังขึ้นที่ข้างหูผม
ผมรีบใช้โอกาสนี้อธิบาย...เพราะขืนช้ากว่านี้คงไม่มีโอกาสแน่ๆ
“ฉันจูบกับแทมินจริงๆ”
ผมเริ่มพูด...แต่โอ้ ประโยคที่ผมเริ่มอธิบายมันคงจะดูอันตรายมากไปหน่อย
“คนเลว!!!! แล้วยังจะมีหน้ามาพูดอีกเหรอ!!!! /// แต่ฉันไม่ได้เต็มใจนี่! แทมินขโมยจูบฉันนะ!!!!”
“โกหก!!”
ไม่ได้โกหก!! โดนขโมยจูบจริงๆ!
ฉันหันหลังให้เขา แล้วพอหันกลับมาเขาก็จูบฉันเลย!”
“..................................”
ผมหอบหายใจหลังจากที่พูดจบ...มองหน้าคยองซูแล้วจ้องตาเขาแน่วแน่
ดวงตาเริ่มแสบขัดเพราะน้ำตาที่ไหลลงมา แต่ผมไม่กล้าจะกระพริบตาเพราะอยากให้เขาเชื่อใจผมจริงๆ
“ฉ...ฉันไม่จูบกับใครหรอกนะคยองซู ฉันอยากจูบแค่นายคนเดียวเท่านั้น
เพราะฉันสัญญาแล้ว...ฉันไม่ได้โกหกนะ
พ...พี่รักษาสัญญานะครับ เรื่องนี้พี่ไม่ได้ตั้งใจ...”
“..................................................”
ผมกระซิบกับน้องเขา และกอดเขาเอาไว้แน่นเพื่อทำให้เขามั่นใจ
คยองซูเงียบไปเสียสนิทและร้องไห้เงียบๆในขณะที่มองหน้าของผม
คิ้วของเขาขมวดจนดูไม่น่ารัก...ถ้าเป็นปกติล่ะผมคงยกนิ้วไปเคาะที่หัวคิ้วนั้นซักทีสองที
แต่ตอนนี้ไม่ใช่สถานการณ์ที่เหมาะที่จะทำแบบนั้น...เพราะผมไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
“ไหนบอกว่ารักฉันไง...เชื่อใจฉันไม่ได้เหรอ?
ฉันไม่เสียน้ำตาให้คนที่ไม่รักหรอกนะคยองซู
มันก็แค่เรื่องเข้าใจผิดกัน...ฉันไม่ได้นอกใจนายนะ
มันไม่ยุติธรรมเลยอ่ะถ้าฉันจะต้องมาเป็นบ้าตายแบบนี้เพราะเรื่องที่ฉันไม่ได้ผิด
เชื่อฉันไม่ได้เหรอ? ฉันเคยโกหกนายเหรอตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันมาน่ะ”
ผมพูดย้ำกับเขาอีกครั้ง และนั่นก็ยังเป็นอีกหนที่เขาเงียบสนิท
ใจผมเริ่มเสีย...แต่ก็ยังพูดย้ำๆซ้ำๆอย่างนั้นไปเรื่อยๆ
แม้ว่าคยองซูจะเสตามองไปทางอื่นและรับฟังผมอย่างเงียบๆ
แต่ผมก็ยังพยายามจะกระซิบบอกเขา...ผมกำลังพยายามอย่างมากจริงๆ
“.............................................คนโง่! พี่มันโง่ที่สุด!!”
จนกระทั่งคยองซูที่เงียบไปนานเริ่มผละตัวออกแล้วมาทุบที่อกผมเบาๆสองสามครั้ง
แต่นั่นกลับทำให้ผมยิ้มออกมาทั้งน้ำตาเลยครับ...ให้ตายสิ
“บ้า! บ้า! คยองบอกแล้วใช่ไหมให้อยู่ห่างๆจากพี่คนนั้น!
ทำไมไม่ระวังบ้างเลย แล้วอย่างนี้เขาจะขโมยจูบพี่ได้อีกกี่ครั้งล่ะคนโง่!!!”
“ช...เชื่อพี่แล้วใช่ไหม?”
“ก็คยองมันโง่นี่...จงอินพูดอะไรมาก็เชื่อหมดล่ะ”
“อย่าประชดกันซี...ทำอย่างนี้ฉันเสียใจนะ”
“งั้นก็อย่าให้เขาจูบสิ! ริมฝีปากนี้เป็นของคยองนะ!”
คยองซูพูดพลางทุบอกผมแล้วปาดน้ำตาออกไปจากแก้ม
ผมหัวเราะออกมาเพราะชอบใจในสิ่งที่เขาเพิ่งพูดออกมา...
อ่า...ริมฝีปากผมเป็นของเขาคนเดียวเท่านั้น
“งั้นฉันจะลบรอยนี้ล่ะ...มันจะได้เป็นรอยของนายแค่คนเดียวไง”
“รู้ตัวก็ดีแล้ว”
คยองซูพูดพลางยกมือขึ้นปาดน้ำตาออกให้ผมบ้าง ผมยกยิ้มออกมาที่ในที่สุดผมก็ทำให้น้องเขาเข้าใจได้
คยองซูหยุดร้องไห้ไปแล้ว...แต่เขาหันกลับมาตั้งอกตั้งใจเช็ดน้ำตาออกให้ผมแทน
ดวงตาโตๆที่กลอกไปมาทั่วใบหน้าของผมอย่างเป็นห่วงเป็นใยนั้นทำให้ผมต้องยกยิ้ม
อา...แม้ว่าเขาจะตาแดงก่ำเพราะว่าร้องไห้และจมูกก็เป็นสีแดงแจ๋
แต่เขาก็ยังน่ารักมากจริงๆ....
“พี่รักคยองนะ”
ผมพูดก่อนจะก้มลงไปจูบที่ตาเขา...หน้าผาก แก้ม และจมูกสีแดงนั้น
กดปากไปแผ่วเบาในขณะที่พร่ำคำบอกรักออกมาจากใจจริงๆ
มันไม่ใช่คำบอกรักพร่ำเพรื่อนะครับ...แต่เพราะว่าผมรักคยองซูมากจริงๆ....
“จงอินอย่าโกหกคยองนะครับ” เด็กน้อยปรายตาขึ้นมามองหน้าผมแล้วสูดน้ำมูกเบาๆทีหนึ่ง
“ไม่โกหกหรอก...รักนะรักมาก”
“พอได้แล้ว...คยองกลัวว่าจงอินจะเบื่อที่จะพูดมันกับคยองอีก”
คนตัวเล็กในอ้อมกอดของผมพูดขึ้น ผมรีบส่ายหน้าก่อนจะบอกเขาไป
“ไม่หรอก...ฉันไม่เบื่อมัน ฉันพูดเพราะว่าอยากพูด
และก็จะพูดอะไรก็ตามที่ฉันคิด...
และตอนนี้ฉันอยากจูบนายมากเลยคยองซูอ่า”
“จูบกับพี่คนนั้นยังไม่พออีกเหรอครับ?” คยองซูแสร้งประชดผม
“ไม่เอาหรอก...ฉันอยากจูบแค่นายนะ
ฉันอยากลบรอยจูบบ้าๆนี่ออกไปจัง
และฉันจะไม่ขอล่ะ...ฉันจะจูบนาย”
“เอาแต่ใจ”
“นายก็ดื้อ...เราเข้ากันดีออก ไม่สนล่ะ”
✚ TALK
ตามไปอ่านที่เหลือได้ที่แฟนเพจนะคะ
ที่ลิงค์นี้ค่ะ MR.$N0WMAN FANPAGE *
- ไรเตอร์นมน. -
ความคิดเห็น