ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF-EXO] ✚ :: THE TWINS :: ✚ [ D.O. x KYUNGS00 ]*

    ลำดับตอนที่ #8 : ✚ SH0T 7 :: CH00SE...

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.06K
      5
      14 ก.ย. 55

    Author : MR.SNOWMAN
    Pairing : D.O. x Kyungsoo
    Rate : NC - 18





    THE TWINS*





     

    -------------------------------------------





     

    ll SH0T 7 ll 






     

    ความสัมพันธ์นั้นถูกกำหนดไว้ก่อนที่ผมจะเกิด

    ความสัมพันธ์นั้นถูกสร้างขึ้นแม้ว่ามันจะเป็นสิ่งที่ผมไม่ต้องการ

    เขาเป็นเพียงคนเดียวที่ผมจะยึดมั่น...เขาเป็นเพียงคนเดียวที่ผมเหลืออยู่

    ผมมีชีวิตที่ขึ้นอยู่กับเขา...ใช้ชีวิตและรอยยิ้มผ่านเขา

    ผมมีความสุขเมื่อเขาสุข ผมร้องไห้เมื่อเขาเป็นทุกข์

    ผมพึงพอใจที่เราได้ใช้เวลาอันแสนสั้นและมีความสุขร่วมกัน

     

    ...ถึงแม้ว่าตอนนี้ผมเองจะไม่รู้ว่ามันจะจบลงยังไง...

     

     -  D. O.  - 






    ความลับไม่มีในโลก...

     

     

    ผมเพิ่งรู้ว่าสำนวนประโยคนี้ใม่ใช่เรื่องโกหกหรือเรื่องหลอกเด็กก็ตอนที่ผมได้พบเจอกับมันด้วยตัวเอง...

    ตอนนี้น้ำตาของผมกำลังไหลรินลงมาทะลักทลายเมื่อมีสายตาของเพื่อนๆทั้งหมดกำลังมองมาที่ผมอย่างไม่เชื่อสายตา

    สายตาที่แสดงออกว่าผมกำลังบ้าไปแล้ว...สายตาที่บ่งบอกว่าผมกำลังทำผิดมหันต์

     

    เราอยู่กันที่หอพักของแบคฮยอน...หลังจากที่จงอินลากผมให้แยกออกจากดีโอและกระชากผมมาอยู่ที่นี่

    ในขณะที่ดีโอก็ถูกแยกออกไปกับชานยอลอีกทีหนึ่ง...

    พวกเขาไม่ยอมให้เราอยู่ด้วยกัน...หลังจากที่รู้เรื่องทั้งหมดแล้ว

    จึงทำให้ตอนนี้ผมต้องมานั่งจับเจ่าอยู่กลางห้องราวกับคนบาปต้องการจะสารภาพผิด

    น้ำตากำลังไหลลงมาไม่หยุดเมื่อได้รับรู้ถึงความจริงที่ผมกำลังจะเจอ...

     

    แบคฮยอนถอนหายใจออกมาตลอดเวลาและตวัดสายตามามองผมเป็นระยะๆ

    และจงอินก็ทำท่าทางหัวฟัดหัวเหวี่ยงตลอดเวลาที่เขาหันมามองผม.

    สายตานั้นบ่งบอกว่าไม่เข้าใจและโกรธกับการกระทำของผม...หรืออาจจะเรียกได้อีกอย่างว่ารังเกียจ

     

    “ทำไมถึงทำอย่างนี้คยองซู...นาย!!...โธ่เว้ย!!!

     


    จงอินกระชากเสียงถามผมด้วยอารมณ์โกรธ...

    หากแต่เมื่อเขาไม่สามารถพูดมันออกมาได้เขาก็หันหลังกลับไปเหวี่ยงเอากับผนังห้องด้านหลัง

    ผมรีบก้มหน้างุดเมื่อจงอินยกมือของเขาขึ้นต่อยกำแพงนั้นทีหนึ่ง...

    จงอินกำลังโกรธ...เขากำลังโกรธมาก....

     


    “พอได้แล้วจงอิน...มึงกำลังทำคยองซูร้องไห้ไปกันใหญ่”

     


    แบคฮยอนพูดออกมาพร้อมๆทั้งถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน...

    และจงอินก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีกนอกจากเดินปึงปังไปนั่งที่เก้าอี้โต๊ะกินข้าวตัวเล็กของแบคฮยอน

    ผมได้แต่นั่งเงียบกริบเพราะไม่รู้จะแก้ตัวว่าอย่างไรพวกเขา

    ผมเห็นจงอินกัดริมฝีปากเหมือนอยากจะพูดอะไรออกมาซักอย่างแต่เขาก็กล้ำกลืนมันไว้

     

    “โอเค...ฉันว่าเรื่องนี้เราต้องคุยกันหน่อย”

     


    แบคฮยอนพูดออกมาเสียงเรียบ  ใบหน้าของเขาเคร่งเครียดและดูจริงจังจนผมอดรู้สึกว่ากลัวสิ่งที่เขาจะพูดขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

    ผมไม่อยากฟัง...ไม่อยากรับรู้หรือแก้ตัวอะไรทั้งนั้น

    ผมแค่อยากให้แบคฮยอนหยุดเรื่องนี้เอาไว้...ไม่ต้องถามหรือพูดจาอะไรอีก

    แต่ในโลกของความเป็นจริงแล้วมันไม่ง่ายอย่างนั้น

    ผมไม่สามารถจะร้องขออะไรตามที่ใจต้องการได้...

    เพราะผมไม่ได้อยู่ในจุดที่จะทำอย่างนั้น...

     

    “พวกนาย...ถึงขั้นไหนกันแล้ว?”

     


    โอ....นี่แหละคำถามที่ผมไม่อยากเจอมันเลย

    น้ำตาผมกำลังจะทะลักทลายออกมาอีกครั้งเมื่อคำตอบที่ควรจะบอกเขาไปเป็นเรื่องที่ไม่ควรจะพูดออกมาเป็นที่สุด

    แบคฮยอนนิ่งงันราวกับหยุดหายใจไปแล้วเมื่อเห็นผมทำอย่างนั้น

    ในขณะที่จงอินก็ตะโกนออกมาราวกับว่าถ้าหากเขาฆ่าผมให้ตายได้เขาคงจะทำมันเสียตรงนี้

     

    “แต่พวกนายเป็นพี่น้องกันนะคยองซู!!

    มันเป็นอย่างนี้ได้ยังไง?! นี่มันผิดศีลธรรม!

    นายเกิดมาจากรูเดียวกันนะ แล้วทำไมถึงได้ทำอย่างนี้!!!

    แก้ตัวมาสิ! บอกมาว่าไอ้เลวนั่นมันบังคับนาย!

    อะไรก็ได้! พูดมันออกมาซักที!!!!!

     

    “จงอิน! มึงหยุดก่อน!!!

     


    แบคฮยอนตะโกนออกมาเมื่อเห็นว่าจงอินกำลังโมโหร้าย

    เขารีบลุกขึ้นไปจับบ่าของจงอินแล้วตรึงไว้กับที่...
    ในขณะที่เขาทั้งคู่ก็มองมาที่ผมราวกับจะขอคำตอบ...

     

    “ฉ...ฉัน...ไม่มีอะไรจะแก้ตัว”

     

    ผมกระซิบออกไปพร้อมๆทั้งร้องไห้จนตัวโยน...

    หลับตาปี๋เมื่อจงอินยกมือตบโต๊ะอาหารนั้นจนเกิดเสียงดัง

     

    “ฮึ้ย!! กูจะไปฆ่ามัน!!!!!!!จงอินตะโกน

     

    “มึงจะบ้าหรือไง?!! แบคฮยอนเริ่มตวาด เขาสติขาดผึงเพราะว่าจงอินทำให้เรื่องมันแย่ลงไปใหญ่

     

    “เป็นเพราะมันนั่นแหละถึงทำให้คยองซูเป็นแบบนี้!

    มึงดูสิว่ามันสนอะไรบอกโลกนี้บ้าง!!

    ดูเอาสิว่าตอนนี้มันทำให้คยองซูเป็นยังไง!

    เพราะมันคนเดียว! ความผิดมันทั้งหมด!!!

     

    จงอินตะโกนออกมาอย่างเดือดดาลในขณะที่ต่อล้อต่อเถียงกับแบคฮยอนที่เริ่มร้อนขึ้นมาบ้างแล้ว

     

    ไม่นะ...ไม่ผิดซักหน่อย...ดีโอไม่ได้ทำอะไร

     

    ผมคิดในใจอย่างร้อนรนหากแต่ไม่สามารถจะพูดมันออกมาได้...

    ริมฝีปากของผมถูกเม้มแน่นเพราะรู้ดีว่าไม่ควรพูดอะไรออกมาให้เรื่องมันไปกันใหญ่

    ผมควรจะแก้ตัวแทนดีโอ...ผมควรจะทำอย่างนั้น

     

    แต่แปลกเหลือเกินที่ริมฝีปากผมกลับหนักอึ้ง...

    ในส่วนลึกของจิตใจกลับอยากให้พวกเขาได้คิดกันไปอย่างนั้น

    ผมไม่อยากจะเลวไปกว่านี้....

     

     

    “พอ! มึงหยุด!! ถ้ามึงมัวแต่ใช้อารมณ์แบบนี้แล้ววันนี้จะได้เรื่องอะไรไหม?

    ถ้ามึงไม่หยุดบ้ากูจะโทรบอกพี่ลู่หานให้มารับมึงกลับเดี๋ยวนี้แหละ!

    เพราะงั้นถ้ามึงอยากจะอยู่ก็ช่วยหุบปาก!!

     

    แบคฮยอนตะโกนในขณะที่ชี้หน้าแล้วตวาดใส่จงอินอย่างไม่มีใครยอมใคร

    จงอินพยายามต่อสู้กับตัวเองอยู่ซักพักก็นั่งลงที่เก้าอี้เหมือนเดิม

    แต่ท่าทางเห็นได้ชัดว่ากำลังโมโหเพราะจนแต้มอย่างที่แบคฮยอนได้บอกไว้

     

    “เอาล่ะ...นายต้องบอกฉันมาว่าทำไม นายจำเป็นต้องพูดคยองซู

    ช่วยบอกฉันทีได้ไหมว่าอะไรดลใจให้พวกนาย...นั่นแหละ!

    นายเริ่มทำอย่างนี้กันมานานแค่ไหนแล้ว?”

     

    แบคฮยอนนั่งลงต่อหน้าผมแล้วเอื้อมมือมาบีบมือของผมไว้

    แรงที่ส่งมาไม่ได้แรงนัก แต่มันทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวด

    เพราะนั่นแสดงว่าเขากำลังบังคับให้ผมตอบ...และผมจำเป็นต้องทำเท่านั้น

     

    “ตั้งแต่...วันแรก”

     

    ผมกระซิบอยู่ในลำคอ...มันเบามากจนแบคฮยอนขมวดคิ้วก่อนจะเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ๆผม

     

    “อะไรนะ?”

     

    “ตั้งแต่วันแรก...ที่เจอกัน”

     

    “โอ...พระเจ้า”

     

    แบคฮยอนถอยหลังไปอิงที่พนักเก้าอี้อย่างอ่อนแรง...

    ผมกัดริมฝีปากเมื่อเห็นว่าเพื่อนกำลังรับไม่ได้กับสิ่งที่ผมพูดออกไป

    จงอินกัดริมฝีปากแน่นแล้วยกมือขึ้นมากุมขมับ...



    “ทำไมวะคยองซู...ทำไมถึงทำอย่างนี้ บอกพวกฉันทีได้ไหม?

    นายก็รู้ว่ามันผิด...แต่ทำไมถึงทำ?!


     

    “ฉันรู้ดีว่ามันผิด...ฉันเองก็ทรมานใจมาตลอดเลยพวกนายรู้บ้างไหม?

    ฉันรู้ว่ามันไม่ดีแต่ฉันหยุดมันไม่ได้...ฉันต้องการเขา เรารักกัน”

     


    “แต่พวกนายรักกันไม่ได้!

     


    “ร..เราไม่เหมือนแฝดคู่อื่นๆ!

    เราถูกพรากจากกันมาตลอดนะแบคฮยอน...นายเข้าใจมันไหม

    เราควรต้องอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เกิด...แต่พอเราได้มาเจอกัน...มัน...มันบ้ามาก!

    มันเหมือนมีพลังอะไรซักอย่างดึงดูดเราเข้าด้วยกัน

    ฉันไม่เคยเป็นตัวเองเท่านี้มาก่อนนะแบคฮยอน...

    มันเหมือนกับอึกครึ่งหนึ่งของฉันถูกเติมเต็ม...เขาเป็นอีกครึ่งหนึ่งของฉัน”

     

     

    “.....................................................................”

     

     

    ทั้งห้องเงียบกริบหลังจากที่ผมได้พูดออกไป

    แบคฮยอนอ้าปากค้างและจงอินก็เบิกตากว้างแล้วส่ายหน้าอย่างไม่เชื่อว่าเป็นผมที่พูดมันออกมา


    ผมทำแล้ว...ผมพยายามเปิดใจพวกเขา

    ....แต่เห็นได้ชัดว่ามันไม่ได้ช่วยอะไร....

     


    “เลิกซะคยองซู?”

     

    “แต่ฉันรักเขา...”

     

    “เลิกมันซะแล้วทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น!!!

    นายจะใช้ชีวิตอย่างนี้ไม่ได้...โลกใบนี้ไม่มีจุดยืนให้พวกนายหรอก! นายเองก็รู้ดี!!!!!

     

    แบคฮยอนตวาดออกมาเมื่อเห็นว่าผมยังเถียงคำไม่ตกฟาก

    ผมร้องไห้ออกมาเมื่อทุกถ้อยคำของแบคฮยอนพูดกำลังตอกย้ำให้ผมกลับสู่โลกของความเป็นจริงที่ผมและดีโอต้องเจอ

     


    “ฮึก...ฮืออออ”

     

    ผมร้องไห้ออกมาพลางทรุดตัวลงนั่งกับพื้นแล้วเริ่มร่ำไห้

    จงอินเบือนหน้าไปทางอื่นเพราะเขาคงทนไม่ได้ที่ผมกำลังทำตัวอย่างกับเด็กเอาแต่ใจอย่างนี้

    และถ้าเลือกได้ผมเองก็อยากจะกลับไปเป็นเด็กเอาแต่ใจก็คงจะดีมากกว่า

    ถ้าเป็นเด็กๆร้องไห้เอาของเล่นแค่แปปเดียวก็หาย...


    แต่ความเป็นจริงที่ผมต้องเจอมันโหดร้ายกว่านั้น

    ผมไม่รู้ว่าควรทำยังไงกับเรื่องที่ควรต้องเจอ...

     

     


    ก๊อก...ก๊อก....ก๊อก....

     

     

    เสียงเคาะประตูดังขึ้นที่หน้าห้อง...เรียกความสนใจของเราทั้งหมดให้หันไปมองกันเป็นตาเดียว

    แบคฮยอนถอนหายใจออกมาแล้วลุกขึ้นไปเปิดประตู....

    และเขาก็พบว่าชานยอลกับดีโอกำลังยืนอยู่ที่หน้าห้องของเขา

     

    “มึง!! ยังจะมีหน้ามาที่นี่อีกเหรอ?!

    .อ้เหี้.! ไสหัวออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้นะ!!!

     

    “เฮ้ย! ใจเย็นดิวะ!

     

    จงอินลุกขึ้นชี้หน้าด่าดีโอที่กำลังยืนอยู่ตรงนั้น

    แบคฮยอนรีบคว้าตัวจงอินไว้เพื่อตรึงเขาไม่ให้เดินเข้าไปทำร้ายดีโอได้

    และชานยอลเองก็เอาตัวของเขาบังดีโอเอาไว้อีกทีหนึ่ง...

     

    “หยุดสิไอ้จงอินกูบอกให้หยุด!!

     

    แบคฮยอนตวาด รั้งตัวจงอินไว้ในขณะที่ชานยอลก็รีบดึงให้ดีโอเข้ามาในห้องแล้วปิดประตู

    เพราะไม่งั้นคนทั้งอพาร์ทเม้นท์ได้รู้เรื่องทั้งหมดแน่ถ้าหากจงอินยังคงขาดสติแบบนั้น


    ผมร้องไห้พลางมองหน้าดีโอ...สายตาของเขานิ่งงันไม่แสดงอารมณ์อะไรออกมาทั้งนั้น

    รู้สึกเจ็บปวดที่อยากจะวิ่งเข้าไปกอดแล้วให้เขาช่วยปลอบใจ

    แต่ตอนนี้เราอยู่ในสถานะที่ไม่ควรจะทำอย่างนั้น...

     


    “มึงมากันทำไม?”

     

    แบคฮยอนถามออกมาหลังจากที่กดไหล่จงอินให้นั่งลงกับโซฟาได้แล้ว

    ดีโอเดินออกมาจากด้านหลังของชานยอลและมองตรงมาทางผม...

     

    “กูมารับคยองซูกลับบ้าน”

     

    ดีโอพูดเสียงเรียบพร้อมทั้งยักไหล่...ราวกับไม่มีอารามเดือดเนื้อร้อนใจในท่าทีของเขา

    เขาทำเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น พร้อมๆกับที่เดินมาฉุดให้ผมลุกขึ้นจากพื้น

     

    “กลับบ้านกันนะคยองซู...”

     

    ดีโอกระซิบเมื่อเขาคว้ามือผมไปจับไว้...หัวใจผมเจ็บปวดและอยากทำตามที่เขาเรียกร้อง

    แต่แน่นอนว่าชีวิตของเราสองคนมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น...

     

    “กูไม่ให้มึงเอาคยองซูไป...

    เลิกซะดีโอ มึงก็รู้ว่ามึงกำลังทำผิด”

     

    แบคฮยอนกระซิบเสียงต่ำ...สายตาของเขาดูน่ากลัวจนผมต้องบีบกระชับมือของดีโอเอาไว้

    และถึงแม้ว่ามือของดีโอจะบีบกลับมาอย่างหนักแน่น...แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกว่าปลอดภัยไปมากกว่านี้

    ผมกำลังกลัวเหลือเกิน...ผมไม่รู้ว่าควรทำยังไง

     

     

    “ผิดแล้วยังไง กูไม่สน...กูรักคยองซู

    คยองซูเป็นชีวิตของกู และกูอยากขอพวกมึงให้เลิกยุ่งเรื่องของเราสองคนซะ” ดีโอกระซิบตอบ

     

    “ไม่ยุ่งไม่ได้! พวกมึงรักกันไม่ได้ นี่มันเป็นกฎเกณฑ์ของโลกใบนี้ที่มึงต้องยอมรับ!

    คนเป็นพี่น้องออกมาจากท้องเดียวกันจะรักกันได้ยังไง!

    ยังไงกูก็ไม่ยอมให้คยองซูกลับไปเด็ดขาด!

     


    แบคฮยอนตวาดเสียงกร้าวออกมาจนดังกังวานไปทั่วห้อง

    เสียงตวาดและถ้อยคำที่ตอกย้ำนั้นทำให้ผมต้องสะอึก

    น้ำตาไหลรินลงมาจนไม่อาจจะหยุดยั้งได้...

    ...ผมกำลังจะตายเพราะความอ่อนแอ...

     

    ชานยอลและจงอินยืนเงียบเป็นเป่าสาก...

    จงอินกัดริมฝีปากแน่น...

    และสายตาที่มองตรงมายังดีโอบ่งบอกถึงความเกลียดชังที่ผมเองก็ไม่อาจทราบว่ามันมีมากน้อยขนาดไหน


    ชานยอลกำลังเป่าปากพรูลมหายใจยาวราวกับจะบอกว่าเขาเองก็ไม่รู้ว่าควรจะจัดการยังไงกับเรื่องนี้

    แต่ผมรู้สึกว่าชานยอลกำลังเข้าข้างเรา...และผมรู้สึกขอบคุณเขาจริงๆ...

    เพราะมือเรียวของชานยอลกำลังคว้าเอาไหล่ของแบคฮยอนไว้แล้วพยายามลูบมันอย่างช้าๆ...

    เขาคงปรารถนาให้แบคฮยอนได้ใจเย็นลง...ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้ผลอะไรเลยก็ตามที

     


    “กูกับคยองซูได้กันแล้ว...และเราเป็นฝาแฝดกัน

    นั่นก็เป็นความจริงที่มึงต้องยอมรับเหมือนกัน

    ในเมื่อมันเป็นอย่างนี้ไปแล้วพวกมึงจะปล่อยเลยตามเลยไม่ได้เหรอ?”

     


    “นี่มึงจะบ้าหรือไง!!!! // พอได้แล้วแบคฮยอน!!!!

     


    จู่ๆชานยอลก็โพล่งออกมาและนั่นทำให้ทั้งห้องต้องเงียบกริบ...

    แบคฮยอนหันไปมองหน้าเขาอย่างตกอกตกใจเพราะไม่บ่อยเท่าไหร่นักที่ชานยอลจะตะโกนใส่พวกเขาอย่างนี้

     


    “อะไร! นี่มึงเข้าข้างพวกมันหรือไงชานยอล!

    นี่มึงคิดว่าทุกคนในโลกจะยอมให้มันทำอะไรก็ได้ตามใจชอบเหรอ?!

    ถ้าเราไม่หยุดพวกมันตอนนี้อนาคตพวกมันจะเป็นยังไง?!

    มันจะมีชีวิตต่อไปยังไงล่ะมึงคิดบ้างไหม?

    ใครจะยอมรับ...ใครจะเข้าใจ กูบอกไว้เลยว่ากูคนนึงล่ะไม่เข้าใจ...ได้ยินไหม?!

     


    “แต่มึงต้องหยุดแล้วให้คยองซูตัดสินใจเอง!

    กูรักเพื่อนไม่แพ้กันกับมึงหรอก! แต่ถ้ามึงรักมันจริงก็ช่วยสนใจความรู้สึกของพวกมันหน่อยจะได้ไหม?!!

     


    ชานยอลตวาด ทำเอาแบคฮยอนต้องหดคอลงด้วยความกลัว

    ชานยอลไม่เคยโมโหหรือตวาดพวกเราเลยสักคน...

    และนั่นทำให้เรารู้ว่าเขาน่ากลัวมากแค่ไหน...

     


    “ตัดสินใจซะคยองซู...จะอยู่ที่นี่หรือจะกลับไปกับไอ้ดีโอ เลือกเอา...

    แต่ช่วยคิดให้ดีๆก่อนจะตัดสินใจ...โอกาสมันไม่ได้มีให้แก้ตัวหลายครั้งหรอกนะ”

     


    ชานยอลกระซิบก่อนจะดึงแบคฮยอนให้ถอยหลังห่างไปจากผมและดีโอ

    ผมร้องไห้ออกมาจนตัวโยนราวกับจะขาดอากาศหายใจตายไปตรงนี้เมื่อไหร่ก็ได้

    ดีโอหันมามองหน้าผม...สายตาของเขาเจือแววเว้าวอนอยู่ในนั้น

    และน้ำเสียงสั่นเครือของเขากำลังทำให้ผมเป็นบ้า...

     


    “เอาสิคยองซู...ตัดสินใจตรงนี้

    นายอยากจะอยู่ที่นี่ไหม? หรืออยากจะกลับบ้านกับฉัน

    กลับไปบ้านของเรา....

     


    หัวใจผมกระตุกวูบเมื่อได้ฟังน้ำเสียงอ่อนแรงของเขา...

    และมันเป็นครั้งแรกที่ผมไม่แน่ใจนักว่าผมกำลังเผชิญกับสถานการณ์แบบไหน

    เพราะถึงแม้ว่าแรงบีบจากมือที่ส่งมาจากดีโอนั้นจะหนักแน่น

    ....แต่น้ำเสียงและสายตาของเขานั้นวูบไหวจนผมใจหาย....

     

    เหมือนสายตานั้นถูกเปิดเผยออกมาเป็นครั้งแรก...

    สายตาที่บอกว่าเขาอ่อนแอและยังคงแคร์ทุกสิ่งทุกอย่างที่แบคฮยอนได้พูดกรอกหูเรา

     

    “ฮึก...ฉ...ฉันควร ท...ทำยังไง?”

     

    ผมสะอื้นแล้วกระซิบออกมาเบาๆ

    ลมหายใจขาดห้วงเมื่อได้เห็นแววตาวูบหนึ่งของดีโอราวกับจะอ้อนวอนขอให้ผมตัดสินใจให้ถูกต้อง

    แต่ผมไม่รู้ว่าควรจะทำยังไง....

     

    “นายไม่รักฉันแล้วเหรอคยองซู...บอกฉันสิ

    แค่เลือกเท่านั้น มันไม่ได้ยากอะไรเลย...ที่รัก

     

     

    ดีโอกระซิบเสียงแผ่ว...ปลายประโยคเอ่ยคำหวานที่ถ้าหากเราไม่ได้อยู่ตรงนี้ผมคงจะก้มลงไปจูบแล้วรับมันมาด้วยความรัก

    แต่จงอิงกลับเบะปากออกมาเมื่อได้ยินมัน และแบคฮยอนกำลังส่ายหน้าราวกับว่าโลกกำลังจะแตกอยู่ตรงนี้

    ชานยอลไม่พูดอะไรแต่สายตาของเขาเองก็บ่งบอกว่ารับไม่ได้เช่นกันกับสิ่งที่เราทำอยู่...

     

     

    ....โลกใบนี้ไม่มีจุดยืนให้เรา....

     

     

    ผมคว้าดีโอมากอดเอาไว้แนบแน่นแล้วร้องไห้ออกมาโฮใหญ่...

    ดีโอยืนตัวแข็งและเงียบงัน...ราวกับเขาจะรู้คำตอบแล้วว่าผมจะเลือกแบบไหน

     


    “คิดมันให้ดีก่อนได้ไหมที่รัก...คิดสิ”

     


    เขากระซิบที่ข้างหูของผมแผ่วเบา...

    เสียงของเขากำลังสั่นเครือและเว้าวอนขอร้องให้ผมได้คิดใหม่

     

    ผมสะอึกสะอื้นแทบขาดใจในขณะที่ผละอ้อมกอดจากเขา

     


    “ข...ขอโทษนะ ท...ที่รัก....

    แต่นายเองก็คงรู้ดี


    .

    .

    .

    .

     

    เราต่างก็รู้ดีว่าเรื่องนี้จะจบยังไง”
















    P.S. ไรเตอร์ขอโทษ.....





     

    © Tenpoints !
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×