คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : | REVERSE; |
Author : MidnightSunny
Pairing : Chanyeol x Baekhyun
Story by : Zenumist
Rate : PG-15
THE APPLES *
สวัสดีค่ะ...ไรเตอร์มีความยินดีที่จะบอกว่า
คุณ
.
.
โดนหลอกแล้ว
หลอกเรื่องอะไรน่ะเหรอ? .... ลองเลื่อนลงไปอ่านข้างล่างดูสิคะ ;)
ll REVERSE; ll
ผมกับชานยอลกำลังเดินอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง
เรามาเดทกัน...ชานยอลพาผมมาดูหนังเรื่องที่เราวางแพลนกันว่าจะมาดูด้วยกันตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว
ผมยกยิ้มออกมาอย่างเป็นสุข...
เพราะว่าชานยอลที่ต้องวิ่งวุ่นเกี่ยวกับเรื่องประชุมเตรียมการแสดงของชมรมดนตรีสากลทำให้เราไม่มีเวลาได้ออกมาเจอกันบ่อยนัก
และเราจะแอบหาเวลามาเจอกันตลอดไม่ได้เสียด้วยสิ...
คุณคงอาจจะงงกับคำว่าแอบมาหาที่ผมหมายถึง
แต่ผมอยากจะขอยืนยันที่จะบอกว่าพวกคุณไม่ได้อ่านผิดไปหรอกครับ...
เพราะที่เราต้องแอบมาเจอกันเสมอเพราะว่าเราสองคนยังคงเก็บเรื่องที่คบกันไว้เป็นความลับ
ใช่ครับ...ความสัมพันธ์ของเราตอนนี้คือเราคบกันแบบหลบๆซ่อนๆและไม่ได้บอกใครว่าเราคบกันอยู่
โอเค...ผมก็บอกนะ แต่ผมบอกคยองซูกับจงอินไปเพียงแค่สองคนเท่านั้น
แต่ชานยอลยังขอปกปิดเรื่องของเราไว้เพราะว่าเขากลัวโดนล้อจากเพื่อนๆ
และมันออกจะเหลือเชื่อจริงๆที่เขาบอกว่าผมเป็นแฟนคนแรกของเขา...
ตอนแรกผมเองก็ไม่เชื่อหรอกครับ...
แต่ด้วยการที่ผมเองเริ่มสนิทกับจงแด เพราะว่าเขาชักชวนให้ผมเข้าไปออดิชันเป็นนักร้องหลักในงานแสดงประจำปี
มันทำให้ผมได้มีโอกาสแอบถามข้อมูลมาจากจงแดได้เยอะทีเดียวล่ะ
ด้วยการที่ผมเริ่มสนิทกับจงแด และเริ่มเข้าไปวนเวียนอยู่ในห้องชมรมดนตรีสากลอยู่บ่อยๆ
ทำให้เรามีโอกาสได้เจอและพูดคุยกันบ้าง แต่ชานยอลก็ยังไม่กล้าบอกเพื่อนๆว่าผมเป็นแฟนเขาอยู่ดี
“อาทิตย์นี้เราคงเจอกันบ่อยหน่อย...
เพราะจงแดชวนฉันไปซ้อมร้องเพลงเตรียมงานออดิชั่นที่ห้องชมรม”
ผมพูดออกมายิ้มๆในขณะที่แกว่งมือเขาเล่นไปมา
เรากำลังเดินดูของในห้างเพื่อรอเวลาดูหนัง
ชานยอลหันมายิ้มให้ผมก่อนจะพยักหน้าครั้งหนึ่ง
“อืม...ดีเหมือนกันนะ เราจะได้เจอกันบ่อยๆไง
แต่ว่าไปมันก็ไม่ดีเหมือนกัน...อย่าเข้าห้องชมรมกับจงแดสองต่อสองบ่อยนักสิ ฉันหึงนะ...”
เขาพูดพลางเบะปากออกมาอย่างน่ารัก...
แต่ไม่นานก็กลับไปยกยิ้มอีกครั้งเป็นอันรู้กันว่าเขาพูดออกมาเล่นๆ
“ถ้าหึงก็อย่าปล่อยให้ฉันอยู่กับจงแดสองต่อสองสิ
ไหนบอกว่าอยากเจอกันบ่อยๆไง”
ผมตอบกลับไปอย่างไม่จริงจังนัก
เพราะสายตากำลังจ้องมองเสื้อผ้าชุดหนึ่งที่ถูกแขวนโชว์อยู่บนราวแขวน
แต่หูก็ยังใส่ใจในคำพูดของชานยอลอยู่
“ฉันก็อยากไปดูนายร้องเพลงนะ แต่อย่างที่นายก็รู้ ฉันงานยุ่งจริงๆ
อาจารย์จุนมยอนให้งานฉันเยอะเกินไป เพราะเขาบอกว่าจงแดไม่ว่าง
อาจารย์ดูอยากจะให้นายเข้ามาเป็นนักร้องหลักในชมรมเรานะ...ถึงได้ยอมเอางานของจงแดมาโยนให้ฉันแบบนี้
ว่าแต่จงแดสอนดีไหมล่ะ? เขาเก่งหรือเปล่า?”
ชานยอลถามผมในขณะที่หยุดจังหวะที่เดิน
แล้วจึงยอมปล่อยมือให้ผมยกมือขึ้นไปหยิบเอาเสื้อที่อยู่บนราวแขวนมาดูอย่างพิจารณา
“อืม...เขาเก่งมากเลยล่ะ แต่จงแดบอกฉันว่าเขาแทบไม่ได้สอนอะไรฉันเลย”
“หืม? หมายความว่าไง?”
“พาโบยา...ฉันหมายความว่าฉันเทพอยู่แล้วไงเล่า”
แบคฮยอนหันไปส่งยิ้มให้กับชานยอลก่อนจะยักคิ้วส่งให้เขาอย่างกวนๆ
ชานยอลกลอกตาไปมาในขณะที่ก็หัวเราะออกมาในความขี้เล่นของแฟนตัวเองไปด้วย
รู้สึกหมั่นไส้แบคฮยอนขึ้นมานิดๆ แต่ก็ใช่ว่าจะเถียงเขาได้
เพราะชานยอลเองก็รู้ดีว่าเสียงแบคฮยอนเพราะมากแค่ไหน
มันเป็นเสียงที่น่าหลงใหลจริงๆ...เขากล้าพูดได้เลยว่าแบคฮยอนเกิดมาเพื่อเป็นนักร้อง
และชานยอลเองก็หลงใหลในเสียงเพลงของแบคฮยอนจนถอนตัวไม่ขึ้นเสียด้วยสิ...
“โธ่...คนอะไรขี้อวด ว่าแต่...ตอนนี้มันก็ใกล้เวลาแล้วนะ เรารีบไปกันดีไหม?
อ่า...ถ้าน้องแบคฮยอนคนน่ารักรีบตัดสินใจในตอนนี้ พี่ชานยอลสัญญาว่าจะเลี้ยงป๊อปคอร์นนะครับ
น้องแบคฮยอนสนใจป่าววววววว?”
ชานยอลไม่พูดเปล่า...เขาคว้าคอของผมเข้าไปกอดเอาไว้
ก่อนที่ผมจะเริ่มออกเดินไปตามแต่เขาพาเดินไปด้วยกัน...
“อ่า...ไปไม่ไปตอนนี้ ยังไงชานยอลก็เลี้ยงฉันอยู่ดีล่ะน่า ฉันรู้หรอก”
ผมตอบกลับไปพลางยักไหล่อย่างสนุกสนานที่ได้แกล้งเขา
“โอ้...นี่มันมัดมือชกนี่นา”
“หรือว่าจะไม่เลี้ยงล่ะคร๊าบ...พี่ชานยอลลลลล”
ผมแกล้งอ้อนเขา...ดูเขาจะชอบใจไม่น้อยเลยทีเดียวที่ผมทำอย่างนั้น
เขายกยิ้มกว้างแล้วก้มลงมากระซิบที่ข้างหู
“เลี้ยงสิ ถ้าเป็นนาย...ให้เลี้ยงทั้งชีวิตยังได้เลย”
เขากระซิบที่ข้างหูผมเบาๆ...
ผมรีบผละตัวออกจากวงแขนของเขาเพราะรู้สึกเขินขึ้นมาเมื่อได้ยินประโยคนั้น
“บ..บ้า! ฉันไม่ใช่หมานะ....”
“หมาสิ...บยอนแบคฮยอนเป็นหมาน้อยของฉัน”
“พอเลย! รีบไปกันเลยเถอะ...เดี๋ยวเราจะสายเอานะ”
“อืม...งั้นไปกันเถอะ”
ชานยอลพูดก่อนจะเริ่มออกเดิน...
ผมเดินนำเขาออกมาเพราะว่ายังไม่อยากจะมองหน้าเขาในตอนนี้
อ่า...บ้าจัง ทั้งๆที่ได้ยินคำหวานหรือแม้แต่การกระทำเลี่ยนของเขามาตั้งหลายอาทิตย์แล้ว
.
.
.
แต่ทำไมหัวใจถึงยังเต้นรัวได้ทุกที...
*************
ผมยกยิ้มออกมาบางๆเมื่อได้ยืนหยิบเอาป๊อปคอร์นขึ้นมาใส่ปากแล้วเคี้ยวมันอย่างเอร็ดอร่อยในขณะที่ยืนรอชานยอลไปเข้าห้องน้ำ
ผมมองตั๋วหนังในมือเพื่อจดจำหมายเลขโรงและหมายเลขที่นั่ง
รู้สึกตื่นเต้นเพราะว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังที่เราสองคนต่างก็อยากดูและพูดคุยเกี่ยวกับมันมาเกือบทั้งอาทิตย์
และที่สำคัญมันคือเดทในโรงหนังครั้งแรกของเรา...
“อ้าว! นั่นแบคฮยอนนี่นา”
เสียงเอ่ยทักมาจากที่ไกลๆทำให้ผมต้องเงยหน้าขึ้นไปมองเขา
ก่อนที่จะเบิกตากว้าง...เพราะรู้สึกตกใจที่คนที่ทักผมไม่น่าจะมาอยู่ที่นี่ในขณะนี้
คิมจงแด...โอเซฮุน...และจางอี้ชิง
คุณพระ...พวกเขาไม่น่ามาอยู่ที่นี่ตอนนี้นี่!!
“อ...อ้าว...พวกนายสามคนนี่เอง มาทำอะไรกันที่นี่เหรอ?”
ผมเอ่ยทักไปอย่างร้อนรน...ชานยอลจะรู้ไหมนะว่าเพื่อนๆของเขาอยู่กันที่นี่
ผมรู้สึกสั่นและลนลานไปหมด
เพราะชานยอลและผมยังไม่ได้เปิดเผยสถานะของเราสองคนกับพวกเพื่อนๆ
และนั่นทำให้ผมรู้สึกเป็นกังวลจริงๆ...
“พวกฉันมาดูตู้แอมป์ใหม่น่ะ...กับไอ้อี้ชิงมันมาหาดูเอฟเฟ็คต์ใหม่ด้วย
แต่ก็ยังไม่ได้ซื้อเลย...เพราะว่าต้องรอไอ้ยอลมัน
ว่าแต่นายมาทำอะไรเหรอ?”
เป็นจงแดที่ตอบคำถาม...ก่อนที่เขาจะมองกล่องป๊อปคอร์นในมือผมแล้วเอ่ยถาม
ผมกลืนน้ำลายลงไปในคออย่างยากลำบาก...อ่า ผมควรจะทำยังไงดีล่ะ?
“เอ่อ.....”
“เฮ้ย...นั่นมันไอ้ยอลไม่ใช่เหรอ? ไอ้ยอลทางนี้!”
เซฮุนร้องตะโกนออกมาพลางมองไปทางด้านหลังของผม ซึ่งเป็นทางออกของห้องน้ำ
ผมหันไปมองชานยอลก่อนจะส่งสายตาไปขอความช่วยเหลือ
แต่จากที่เห็นแล้ว...ชานยอลเองก็ดูจะตกตะลึงและดูกังวลไม่แพ้กันกับผม
“เฮ้ย...มึงมาทำอะไรที่นี่เนี่ย หรือว่าพวกมึงมาด้วยกัน?”
เสียงของอี้ชิงเอ่ยถามชานยอลไปอย่างเจ้าเล่ห์ ผมกลืนน้ำลายลงไปในคอในขณะที่เห็นจงแดตวัดสายตากลับมามองผม
แต่ผมเองก็ไม่ต้องพูดแก้ตัวอะไรหรอก เพราะว่าชานยอลปฏิเสธมันไปเรียบร้อยแล้ว
“ป...เปล่าาาาานะ พวกกูไม่ได้มาด้วยกัน
กูเพิ่งออกมาจากห้องน้ำนั่นไง ไม่เห็นเหรอ?”
ชานยอลยกยิ้มก่อนจะแก้ตัวออกไป ทุกคนพยักหน้าอย่างเข้าใจในสิ่งที่เขาพูด
ก่อนที่จงแดจะหันกลับมาถามผมอีกครั้ง
“แล้วนายมาดูหนังเหรอแบคฮยอน? มากับใครล่ะ?”
จงแดยกยิ้มบางๆ แล้วเอ่ยถาม
ผมเลียริมฝีปากที่แห้งผาก ก่อนจะพยายามหาข้ออ้างเพื่อแก้ตัวให้ดูดีที่สุด
“อ๋อ...มากับคยองซูน่ะ มาดูหนังกัน” ผมแก้ตัวตอบไปอย่างไม่ได้คิดหน้าคิดหลัง
อ่า....ขอโทษนะเพื่อน ฉันขอยืมชื่อนายมาแก้สถานการณ์หน่อยแล้วกัน
“อ้อเหรอ? แล้วคยองซูไปไหนซะล่ะ?” จงแดถามต่อ
“อ...เอ่อ...ก....ก็ ก็เนี่ยล่ะ! ฉันกำลังอารมณ์เสียอยู่เหมือนกัน
คยองซูยังไม่มาซักที ทั้งๆที่หนังก็จะเข้าแล้วแท้ๆ”
“อ๋อเหรอ...แย่จังเลยเนอะ”
จงแดเอ่ยขึ้นพลางส่งยิ้มปลอบโยนมาให้ผม
ก่อนที่อี้ชิงจะเริ่มต้นคุยกับชานยอลเรื่องธุระของพวกเขา
“ไอ้ยอล...เจอมึงที่นี่ก็ดีแล้ว มึงไปช่วยกูเลือกเอฟเฟ็คต์หน่อยดิ...
เมื่อกี้ไปดูของเฟนเดอร์มา แต่กูว่าไอบาเนสก็เข้าท่า ราคาก็พอๆกัน”
“เอ่อ.......”
ชานยอลตะกุกตะกัก...เขาหันมามองหน้าผมแว๊บหนึ่งแล้วรีบหันกลับไป
“อะไร? มึงไม่ว่างเหรอ? นั่นแน่....หรือว่ามึงนัดสาวไหนมา?” เซฮุนเอ่ยถามเขาอย่างสนอกสนใจ
“เฮ้ย...ป...เปล่า!
ไม่มีเลยไม่มี....ว่างดิว่าง! กูว่างมากๆ”
ชานยอลเผลอตะโกนโพล่งออกไปจนดูเหมือนมีพิรุธ
ผมลอบถอนหายใจออกมาเบาๆเมื่อได้ยินคำตอบของเขา
โอเค...ใช่....นายว่าง
“เออ....งั้นไปกันเหอะ ไอ้จงแดมันต้องรีบกลับบ้านพอดีด้วย
มึงก็ไปช่วยกูเลือกก่อนแล้วพวกเราค่อยไปกินรามยอนร้านประจำของเรากันดีกว่า
งั้นพวกฉันไปก่อนนะไอ้จงแด...ไปนะแบคฮยอน”
อี้ชิงกับเซฮุนหันมาลาผม...ในขณะที่ก็เริ่มลากชานยอลให้เริ่มออกเดินไปพร้อมกับพวกเขาทันที
ผมเห็นชานยอลหันมามองผมอย่างรู้สึกผิดเล็กน้อยก่อนที่จะรีบหันหลังกลับไปเพราะว่าอี้ชิงพูดคุยกับเขา
ผมมองสายตาของเขาก่อนจะเบะปากออกมาน้อยๆอย่างรู้สึกน้อยใจ
แต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกไปมากนัก เพราะว่าจงแดก็ยังยืนอยู่ตรงนี้
ผมถอนหายใจออกมาหนักๆครั้งหนึ่งก่อนจะหันหลังกลับเมื่อผมเห็นว่าพวกเขาสามคนลับสายตาไปแล้ว
มองตั๋วหนังในมืออย่างรู้สึกขัดอกขัดใจก่อนจะหย่อนมันลงไปในกระเป๋าเสื้อให้พ้นตาไปซะ
“อ้าว...ทำไมเก็บซะล่ะ?”
จงแดถามผมอย่างสงสัย เขายกคิ้วขึ้นเมื่อเห็นผมกำลังทำหน้าบึ้ง
ผมรีบยิ้มกลบเกลื่อนทันทีแต่เห็นได้ชัดว่ามันสายเกินไป
ผมจึงรีบแก้ตัวกับเขาไป เพื่อที่เขาจะได้ไม่สงสัยไปมากกว่านี้
“อ๋อ...ฉันคิดว่าคยองซูคงไม่มาแล้วล่ะ
คงจะไม่ได้ดูแล้ว...ฉันว่าฉันกลับดีกว่า”
“อ...เอ๋ ไม่เอาน่าแบคฮยอน นี่มันน่าเสียดายออก
เข้าไปเถอะ...เราเข้าไปดูด้วยกันเถอะนะ
ไหนดูสิ...ฉันอยากดูหนังเรื่องนี้พอดีเลยล่ะ
ถ้านายไม่รังเกียจล่ะก็...ฉันขอเข้าไปดูเป็นเพื่อนได้ไหม?”
จงแดหัวเราะออกมาหลังจากได้ยินที่ผมพูด...
เขาเดินมาหยิบเอาตั๋วหนังที่ผมเพิ่งยัดมันลงไปในกระเป๋าเสื้อขึ้นมาดูชื่อเรื่องอย่างวิสาสะ
ผมไม่ได้โกรธหรือถือที่เขาทำอย่างนั้น แต่กลับแปลกเสียมากกว่าที่เขาชักชวนให้ผมเข้าไปดูกับเขา
“อ้าว...จงแดไม่ได้มีธุระกับที่บ้านหรอกเหรอ?”
“ไม่ล่ะ...มันน่าเบื่อออก ฉันอยากดูหนังกับนายมากกว่า
น่านะ...มันน่าเสียดายออกถ้านายจะทิ้งมันไปนะ
ฉันคิดว่ามันคงจะดีกว่าถ้าเราเข้าไปดูด้วยกัน นายอยากดูหนังเรื่องนี้ไม่ใช่เหรอ?
ในเมื่อคยองซูมาไม่ได้ ทำไมนายไม่หาเพื่อนซักคนเข้าไปดูแทนเขาล่ะ
แล้วก็เฮ้! นี่ไง...ฉันว่างพอดีเลย ว๊างว่างงงงงงงง”
จงแดยิ้มกว้างจนตาปิด เขาพูดติดตลกและนั่นทำให้ผมหัวเราะออกมาอย่างร่าเริง
อันความจริงผมเองก็อยากดูเรื่องนี้มากๆเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
และผมเองก็ไม่ได้รังเกียจที่จะให้จงแดเข้าไปดูเป็นเพื่อนอยู่แล้วนี่นา...
แล้วมันจะมีเหตุผลอะไรให้ผมต้องปฏิเสธล่ะจริงไหม?
อ่า...ถึงชานยอลจะไม่ได้ดูก็เถอะ แต่ทั้งหมดแล้วมันเป็นความผิดของนายนะชานยอล...
ดูเอาเถอะว่าเดทที่โรงหนังของเราพังไม่เป็นท่าเพราะว่านายนั่นแหละที่ทำมันพังทั้งหมด
เฮ้อ...ผมล่ะรู้สึกเหนื่อยใจชะมัด
แต่จะทำไงได้ล่ะ ในเมื่อผมกับเขาเลือกจะปิดบังความสัมพันธ์ไว้อย่างนี้เองนี่นา...
“ดีใจจังที่นายเองอยากดูมัน...
งั้นมาสิ...เราเข้าไปดูด้วยกันนะจงแด
เราคงต้องรีบแล้วล่ะ เพราะตอนนี้หนังน่าจะเริ่มไปได้ซักพักแล้วนะ”
“อื้ม....เอาสิ งั้นให้ฉันถือไอ้พวกนั้นให้นะ”
จงแดพยักหน้าพลางยื่นมือมาแย่งแก้วน้ำและกล่องป๊อปคอร์นในมือของผมไปถือเอาไว้เสียเอง
ผมพยายามจะบอกว่าไม่เป็นไร แต่จงแดกลับส่ายหน้าส่งมาให้ผมเสียก่อน
เขาหอบป๊อปคอร์นและแก้วน้ำพวกนั้นไว้ด้วยมือเพียงข้างเดียว
ก่อนที่มืออีกข้างจะถูกยื่นมาคว้ามือผมไปจับเอาไว้
“เรารีบไปกันเหอะแบคฮยอน”
เขาหันมายิ้มให้ผมเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะเริ่มออกเดินนำ
และเขาก็ไม่ลืมจูงมือผมให้เดินตามหลังเขาไปด้วย
ผมทำหน้าเหรอหราไปเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้สะบัดมือนั้นออกเพราะกลัวว่าจะทำให้จงแดเสียน้ำใจ
ผมเดินตามเขาไปเงียบๆทั้งๆที่มือของผมกับจงแดยังถูกจับกันไว้
รู้ตัวว่ามันไม่ถูกที่จะเดินจูงมือกับจงแดแบบนี้ แต่ผมเองก็ไม่กล้าปฏิเสธเขา
รู้สึกว่าทำผิดต่อชานยอลเหมือนกัน แต่เมื่อได้คิดถึงท่าทีของเขาเมื่อครู่ก็ทำให้ผมต้องเบะปากออกมาอย่างขัดใจนิดหนึ่ง
ทำไมต้องรู้สึกผิดล่ะในเมื่อเราไม่ได้เป็นอะไรกันซักหน่อย...
สำหรับผมแล้วต่อหน้าคนอื่นๆเราก็แค่เป็นคนรู้จักกันเท่านั้นแหละ
ไม่มีอะไรให้ผมต้องรู้สึกผิดซักหน่อยนี่...
ใช่สิ...เราไม่ได้มาด้วยกันนี่ ฮึ...
ปาร์คชานยอล...คนบ้า
.
.
.
วันนี้นายทำทุกอย่างพังหมดเลย...
- END IN CHAPTER -
AND NOW….. LET'S BEGIN TO
REVERSE;
THE POISON APPLES * SEASON ll
"ความรักเปนเรื่องง่ายขนาดนั้นเลยหรือ?
จะมีใครซักกี่คนกันนะที่สมหวังในความรักบนโลกใบนี้...
ผมเคยเห็นใครหลายคนจบความรักลงด้วยการเลิกรา
เห็นใครหลายคนที่ความรักจบลงแม้จะยังไม่ได้เริ่มต้น
เรื่องราวต่อจากนี้ไปอาจจะไม่สมหวัง...
คุณจะรับมันได้รึเปล่าล่ะ ถ้าหากว่าผมจะบอกคุณว่าผมไม่รู้อะไรเลยซักนิดเดียว...
ผมบอกไม่ได้ว่าต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร
และเรื่องราวต่อไปจากนี้จะเป็นแบบไหน
ต่อจากนี้มันอาจจะสุขที่สุดหรือเศร้าที่สุดก็ได้...
ผมเองก็ได้แต่หวังว่ามันจะไม่เลวร้ายกับหัวใจผมเกินไปนัก...
แล้วเมื่อรู้อย่างนี้...คุณพร้อมที่จะรับมันหรือยัง?"
- Byun Beakhyun -
Coming Soon……
มัน...ยังไม่จบ
มัน...กำลังจะกลายเป็นฟิคยาว
และ....ซีซั่นสองมันดราม่า
ใครไม่ชอบเรื่องราวดราม่าไรเตอร์ขอแนะนำให้คุณเลิกอ่านมันซะตอนนี้
แต่ถ้าคุณรับได้....เจอกันตอนหน้าค่ะ
- ไรเตอร์นมน. -
ความคิดเห็น