คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : ✚ SH0T 7 :: CH00SE...
Author : MR.SNOWMAN
Pairing : D.O. x Kyungsoo
Rate : NC - 18
THE TWINS*
-------------------------------------------
ll SH0T 7 ll
ความสัมพันธ์นั้นถูกกำหนดไว้ก่อนที่ผมจะเกิด
ความสัมพันธ์นั้นถูกสร้างขึ้นแม้ว่ามันจะเป็นสิ่งที่ผมไม่ต้องการ
เขาเป็นเพียงคนเดียวที่ผมจะยึดมั่น...เขาเป็นเพียงคนเดียวที่ผมเหลืออยู่
ผมมีชีวิตที่ขึ้นอยู่กับเขา...ใช้ชีวิตและรอยยิ้มผ่านเขา
ผมมีความสุขเมื่อเขาสุข ผมร้องไห้เมื่อเขาเป็นทุกข์
ผมพึงพอใจที่เราได้ใช้เวลาอันแสนสั้นและมีความสุขร่วมกัน
...ถึงแม้ว่าตอนนี้ผมเองจะไม่รู้ว่ามันจะจบลงยังไง...
ความลับไม่มีในโลก...
ผมเพิ่งรู้ว่าสำนวนประโยคนี้ใม่ใช่เรื่องโกหกหรือเรื่องหลอกเด็กก็ตอนที่ผมได้พบเจอกับมันด้วยตัวเอง...
ตอนนี้น้ำตาของผมกำลังไหลรินลงมาทะลักทลายเมื่อมีสายตาของเพื่อนๆทั้งหมดกำลังมองมาที่ผมอย่างไม่เชื่อสายตา
สายตาที่แสดงออกว่าผมกำลังบ้าไปแล้ว...สายตาที่บ่งบอกว่าผมกำลังทำผิดมหันต์
เราอยู่กันที่หอพักของแบคฮยอน...หลังจากที่จงอินลากผมให้แยกออกจากดีโอและกระชากผมมาอยู่ที่นี่
ในขณะที่ดีโอก็ถูกแยกออกไปกับชานยอลอีกทีหนึ่ง...
พวกเขาไม่ยอมให้เราอยู่ด้วยกัน...หลังจากที่รู้เรื่องทั้งหมดแล้ว
จึงทำให้ตอนนี้ผมต้องมานั่งจับเจ่าอยู่กลางห้องราวกับคนบาปต้องการจะสารภาพผิด
น้ำตากำลังไหลลงมาไม่หยุดเมื่อได้รับรู้ถึงความจริงที่ผมกำลังจะเจอ...
แบคฮยอนถอนหายใจออกมาตลอดเวลาและตวัดสายตามามองผมเป็นระยะๆ
และจงอินก็ทำท่าทางหัวฟัดหัวเหวี่ยงตลอดเวลาที่เขาหันมามองผม.
สายตานั้นบ่งบอกว่าไม่เข้าใจและโกรธกับการกระทำของผม...หรืออาจจะเรียกได้อีกอย่างว่ารังเกียจ
“ทำไมถึงทำอย่างนี้คยองซู...นาย!!...โธ่เว้ย!!!”
จงอินกระชากเสียงถามผมด้วยอารมณ์โกรธ...
หากแต่เมื่อเขาไม่สามารถพูดมันออกมาได้เขาก็หันหลังกลับไปเหวี่ยงเอากับผนังห้องด้านหลัง
ผมรีบก้มหน้างุดเมื่อจงอินยกมือของเขาขึ้นต่อยกำแพงนั้นทีหนึ่ง...
จงอินกำลังโกรธ...เขากำลังโกรธมาก....
“พอได้แล้วจงอิน...มึงกำลังทำคยองซูร้องไห้ไปกันใหญ่”
แบคฮยอนพูดออกมาพร้อมๆทั้งถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน...
และจงอินก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีกนอกจากเดินปึงปังไปนั่งที่เก้าอี้โต๊ะกินข้าวตัวเล็กของแบคฮยอน
ผมได้แต่นั่งเงียบกริบเพราะไม่รู้จะแก้ตัวว่าอย่างไรพวกเขา
ผมเห็นจงอินกัดริมฝีปากเหมือนอยากจะพูดอะไรออกมาซักอย่างแต่เขาก็กล้ำกลืนมันไว้
“โอเค...ฉันว่าเรื่องนี้เราต้องคุยกันหน่อย”
แบคฮยอนพูดออกมาเสียงเรียบ ใบหน้าของเขาเคร่งเครียดและดูจริงจังจนผมอดรู้สึกว่ากลัวสิ่งที่เขาจะพูดขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
ผมไม่อยากฟัง...ไม่อยากรับรู้หรือแก้ตัวอะไรทั้งนั้น
ผมแค่อยากให้แบคฮยอนหยุดเรื่องนี้เอาไว้...ไม่ต้องถามหรือพูดจาอะไรอีก
แต่ในโลกของความเป็นจริงแล้วมันไม่ง่ายอย่างนั้น
ผมไม่สามารถจะร้องขออะไรตามที่ใจต้องการได้...
เพราะผมไม่ได้อยู่ในจุดที่จะทำอย่างนั้น...
“พวกนาย...ถึงขั้นไหนกันแล้ว?”
โอ....นี่แหละคำถามที่ผมไม่อยากเจอมันเลย
น้ำตาผมกำลังจะทะลักทลายออกมาอีกครั้งเมื่อคำตอบที่ควรจะบอกเขาไปเป็นเรื่องที่ไม่ควรจะพูดออกมาเป็นที่สุด
แบคฮยอนนิ่งงันราวกับหยุดหายใจไปแล้วเมื่อเห็นผมทำอย่างนั้น
ในขณะที่จงอินก็ตะโกนออกมาราวกับว่าถ้าหากเขาฆ่าผมให้ตายได้เขาคงจะทำมันเสียตรงนี้…
“แต่พวกนายเป็นพี่น้องกันนะคยองซู!!
มันเป็นอย่างนี้ได้ยังไง?! นี่มันผิดศีลธรรม!
นายเกิดมาจากรูเดียวกันนะ แล้วทำไมถึงได้ทำอย่างนี้!!!
แก้ตัวมาสิ! บอกมาว่าไอ้เลวนั่นมันบังคับนาย!
อะไรก็ได้! พูดมันออกมาซักที!!!!!”
“จงอิน! มึงหยุดก่อน!!!”
แบคฮยอนตะโกนออกมาเมื่อเห็นว่าจงอินกำลังโมโหร้าย
เขารีบลุกขึ้นไปจับบ่าของจงอินแล้วตรึงไว้กับที่...
ในขณะที่เขาทั้งคู่ก็มองมาที่ผมราวกับจะขอคำตอบ...
“ฉ...ฉัน...ไม่มีอะไรจะแก้ตัว”
ผมกระซิบออกไปพร้อมๆทั้งร้องไห้จนตัวโยน...
หลับตาปี๋เมื่อจงอินยกมือตบโต๊ะอาหารนั้นจนเกิดเสียงดัง
“ฮึ้ย!! กูจะไปฆ่ามัน!!!!!!!” จงอินตะโกน
“มึงจะบ้าหรือไง?!!” แบคฮยอนเริ่มตวาด เขาสติขาดผึงเพราะว่าจงอินทำให้เรื่องมันแย่ลงไปใหญ่
“เป็นเพราะมันนั่นแหละถึงทำให้คยองซูเป็นแบบนี้!
มึงดูสิว่ามันสนอะไรบอกโลกนี้บ้าง!!
ดูเอาสิว่าตอนนี้มันทำให้คยองซูเป็นยังไง!
เพราะมันคนเดียว! ความผิดมันทั้งหมด!!!”
จงอินตะโกนออกมาอย่างเดือดดาลในขณะที่ต่อล้อต่อเถียงกับแบคฮยอนที่เริ่มร้อนขึ้นมาบ้างแล้ว
ไม่นะ...ไม่ผิดซักหน่อย...ดีโอไม่ได้ทำอะไร
ผมคิดในใจอย่างร้อนรนหากแต่ไม่สามารถจะพูดมันออกมาได้...
ริมฝีปากของผมถูกเม้มแน่นเพราะรู้ดีว่าไม่ควรพูดอะไรออกมาให้เรื่องมันไปกันใหญ่
ผมควรจะแก้ตัวแทนดีโอ...ผมควรจะทำอย่างนั้น
แต่แปลกเหลือเกินที่ริมฝีปากผมกลับหนักอึ้ง...
ในส่วนลึกของจิตใจกลับอยากให้พวกเขาได้คิดกันไปอย่างนั้น
ผมไม่อยากจะเลวไปกว่านี้....
“พอ! มึงหยุด!! ถ้ามึงมัวแต่ใช้อารมณ์แบบนี้แล้ววันนี้จะได้เรื่องอะไรไหม?
ถ้ามึงไม่หยุดบ้ากูจะโทรบอกพี่ลู่หานให้มารับมึงกลับเดี๋ยวนี้แหละ!
เพราะงั้นถ้ามึงอยากจะอยู่ก็ช่วยหุบปาก!!”
แบคฮยอนตะโกนในขณะที่ชี้หน้าแล้วตวาดใส่จงอินอย่างไม่มีใครยอมใคร
จงอินพยายามต่อสู้กับตัวเองอยู่ซักพักก็นั่งลงที่เก้าอี้เหมือนเดิม
แต่ท่าทางเห็นได้ชัดว่ากำลังโมโหเพราะจนแต้มอย่างที่แบคฮยอนได้บอกไว้
“เอาล่ะ...นายต้องบอกฉันมาว่าทำไม นายจำเป็นต้องพูดคยองซู
ช่วยบอกฉันทีได้ไหมว่าอะไรดลใจให้พวกนาย...นั่นแหละ!
นายเริ่มทำอย่างนี้กันมานานแค่ไหนแล้ว?”
แบคฮยอนนั่งลงต่อหน้าผมแล้วเอื้อมมือมาบีบมือของผมไว้
แรงที่ส่งมาไม่ได้แรงนัก แต่มันทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวด
เพราะนั่นแสดงว่าเขากำลังบังคับให้ผมตอบ...และผมจำเป็นต้องทำเท่านั้น
“ตั้งแต่...วันแรก”
ผมกระซิบอยู่ในลำคอ...มันเบามากจนแบคฮยอนขมวดคิ้วก่อนจะเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ๆผม
“อะไรนะ?”
“ตั้งแต่วันแรก...ที่เจอกัน”
“โอ...พระเจ้า”
แบคฮยอนถอยหลังไปอิงที่พนักเก้าอี้อย่างอ่อนแรง...
ผมกัดริมฝีปากเมื่อเห็นว่าเพื่อนกำลังรับไม่ได้กับสิ่งที่ผมพูดออกไป
จงอินกัดริมฝีปากแน่นแล้วยกมือขึ้นมากุมขมับ...
“ทำไมวะคยองซู...ทำไมถึงทำอย่างนี้ บอกพวกฉันทีได้ไหม?
นายก็รู้ว่ามันผิด...แต่ทำไมถึงทำ?!”
“ฉันรู้ดีว่ามันผิด...ฉันเองก็ทรมานใจมาตลอดเลยพวกนายรู้บ้างไหม?
ฉันรู้ว่ามันไม่ดีแต่ฉันหยุดมันไม่ได้...ฉันต้องการเขา – เรารักกัน”
“แต่พวกนายรักกันไม่ได้!”
“ร..เราไม่เหมือนแฝดคู่อื่นๆ!
เราถูกพรากจากกันมาตลอดนะแบคฮยอน...นายเข้าใจมันไหม
เราควรต้องอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เกิด...แต่พอเราได้มาเจอกัน...มัน...มันบ้ามาก!
มันเหมือนมีพลังอะไรซักอย่างดึงดูดเราเข้าด้วยกัน
ฉันไม่เคยเป็นตัวเองเท่านี้มาก่อนนะแบคฮยอน...
มันเหมือนกับอึกครึ่งหนึ่งของฉันถูกเติมเต็ม...เขาเป็นอีกครึ่งหนึ่งของฉัน”
“.....................................................................”
ทั้งห้องเงียบกริบหลังจากที่ผมได้พูดออกไป
แบคฮยอนอ้าปากค้างและจงอินก็เบิกตากว้างแล้วส่ายหน้าอย่างไม่เชื่อว่าเป็นผมที่พูดมันออกมา
ผมทำแล้ว...ผมพยายามเปิดใจพวกเขา
....แต่เห็นได้ชัดว่ามันไม่ได้ช่วยอะไร....
“เลิกซะคยองซู?”
“แต่ฉันรักเขา...”
“เลิกมันซะแล้วทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น!!!
นายจะใช้ชีวิตอย่างนี้ไม่ได้...โลกใบนี้ไม่มีจุดยืนให้พวกนายหรอก! นายเองก็รู้ดี!!!!!”
แบคฮยอนตวาดออกมาเมื่อเห็นว่าผมยังเถียงคำไม่ตกฟาก
ผมร้องไห้ออกมาเมื่อทุกถ้อยคำของแบคฮยอนพูดกำลังตอกย้ำให้ผมกลับสู่โลกของความเป็นจริงที่ผมและดีโอต้องเจอ…
“ฮึก...ฮืออออ”
ผมร้องไห้ออกมาพลางทรุดตัวลงนั่งกับพื้นแล้วเริ่มร่ำไห้
จงอินเบือนหน้าไปทางอื่นเพราะเขาคงทนไม่ได้ที่ผมกำลังทำตัวอย่างกับเด็กเอาแต่ใจอย่างนี้
และถ้าเลือกได้ผมเองก็อยากจะกลับไปเป็นเด็กเอาแต่ใจก็คงจะดีมากกว่า
ถ้าเป็นเด็กๆร้องไห้เอาของเล่นแค่แปปเดียวก็หาย...
แต่ความเป็นจริงที่ผมต้องเจอมันโหดร้ายกว่านั้น
ผมไม่รู้ว่าควรทำยังไงกับเรื่องที่ควรต้องเจอ...
ก๊อก...ก๊อก....ก๊อก....
เสียงเคาะประตูดังขึ้นที่หน้าห้อง...เรียกความสนใจของเราทั้งหมดให้หันไปมองกันเป็นตาเดียว
แบคฮยอนถอนหายใจออกมาแล้วลุกขึ้นไปเปิดประตู....
และเขาก็พบว่าชานยอลกับดีโอกำลังยืนอยู่ที่หน้าห้องของเขา
“มึง!! ยังจะมีหน้ามาที่นี่อีกเหรอ?!
ไ.อ้เหี้.ย! ไสหัวออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้นะ!!!”
“เฮ้ย! ใจเย็นดิวะ!”
จงอินลุกขึ้นชี้หน้าด่าดีโอที่กำลังยืนอยู่ตรงนั้น
แบคฮยอนรีบคว้าตัวจงอินไว้เพื่อตรึงเขาไม่ให้เดินเข้าไปทำร้ายดีโอได้
และชานยอลเองก็เอาตัวของเขาบังดีโอเอาไว้อีกทีหนึ่ง...
“หยุดสิไอ้จงอิน! กูบอกให้หยุด!!”
แบคฮยอนตวาด รั้งตัวจงอินไว้ในขณะที่ชานยอลก็รีบดึงให้ดีโอเข้ามาในห้องแล้วปิดประตู
เพราะไม่งั้นคนทั้งอพาร์ทเม้นท์ได้รู้เรื่องทั้งหมดแน่ถ้าหากจงอินยังคงขาดสติแบบนั้น
ผมร้องไห้พลางมองหน้าดีโอ...สายตาของเขานิ่งงันไม่แสดงอารมณ์อะไรออกมาทั้งนั้น
รู้สึกเจ็บปวดที่อยากจะวิ่งเข้าไปกอดแล้วให้เขาช่วยปลอบใจ
แต่ตอนนี้เราอยู่ในสถานะที่ไม่ควรจะทำอย่างนั้น...
“มึงมากันทำไม?”
แบคฮยอนถามออกมาหลังจากที่กดไหล่จงอินให้นั่งลงกับโซฟาได้แล้ว
ดีโอเดินออกมาจากด้านหลังของชานยอลและมองตรงมาทางผม...
“กูมารับคยองซูกลับบ้าน”
ดีโอพูดเสียงเรียบพร้อมทั้งยักไหล่...ราวกับไม่มีอารามเดือดเนื้อร้อนใจในท่าทีของเขา
เขาทำเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น พร้อมๆกับที่เดินมาฉุดให้ผมลุกขึ้นจากพื้น
“กลับบ้านกันนะคยองซู...”
ดีโอกระซิบเมื่อเขาคว้ามือผมไปจับไว้...หัวใจผมเจ็บปวดและอยากทำตามที่เขาเรียกร้อง
แต่แน่นอนว่าชีวิตของเราสองคนมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น...
“กูไม่ให้มึงเอาคยองซูไป...
เลิกซะดีโอ มึงก็รู้ว่ามึงกำลังทำผิด”
แบคฮยอนกระซิบเสียงต่ำ...สายตาของเขาดูน่ากลัวจนผมต้องบีบกระชับมือของดีโอเอาไว้
และถึงแม้ว่ามือของดีโอจะบีบกลับมาอย่างหนักแน่น...แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกว่าปลอดภัยไปมากกว่านี้
ผมกำลังกลัวเหลือเกิน...ผมไม่รู้ว่าควรทำยังไง
“ผิดแล้วยังไง กูไม่สน...กูรักคยองซู
คยองซูเป็นชีวิตของกู และกูอยากขอพวกมึงให้เลิกยุ่งเรื่องของเราสองคนซะ” ดีโอกระซิบตอบ
“ไม่ยุ่งไม่ได้! พวกมึงรักกันไม่ได้ นี่มันเป็นกฎเกณฑ์ของโลกใบนี้ที่มึงต้องยอมรับ!
คนเป็นพี่น้องออกมาจากท้องเดียวกันจะรักกันได้ยังไง!
ยังไงกูก็ไม่ยอมให้คยองซูกลับไปเด็ดขาด!”
แบคฮยอนตวาดเสียงกร้าวออกมาจนดังกังวานไปทั่วห้อง
เสียงตวาดและถ้อยคำที่ตอกย้ำนั้นทำให้ผมต้องสะอึก
น้ำตาไหลรินลงมาจนไม่อาจจะหยุดยั้งได้...
...ผมกำลังจะตายเพราะความอ่อนแอ...
ชานยอลและจงอินยืนเงียบเป็นเป่าสาก...
จงอินกัดริมฝีปากแน่น...
และสายตาที่มองตรงมายังดีโอบ่งบอกถึงความเกลียดชังที่ผมเองก็ไม่อาจทราบว่ามันมีมากน้อยขนาดไหน
ชานยอลกำลังเป่าปากพรูลมหายใจยาวราวกับจะบอกว่าเขาเองก็ไม่รู้ว่าควรจะจัดการยังไงกับเรื่องนี้
แต่ผมรู้สึกว่าชานยอลกำลังเข้าข้างเรา...และผมรู้สึกขอบคุณเขาจริงๆ...
เพราะมือเรียวของชานยอลกำลังคว้าเอาไหล่ของแบคฮยอนไว้แล้วพยายามลูบมันอย่างช้าๆ...
เขาคงปรารถนาให้แบคฮยอนได้ใจเย็นลง...ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้ผลอะไรเลยก็ตามที
“กูกับคยองซูได้กันแล้ว...และเราเป็นฝาแฝดกัน
นั่นก็เป็นความจริงที่มึงต้องยอมรับเหมือนกัน
ในเมื่อมันเป็นอย่างนี้ไปแล้วพวกมึงจะปล่อยเลยตามเลยไม่ได้เหรอ?”
“นี่มึงจะบ้าหรือไง!!!! // พอได้แล้วแบคฮยอน!!!!”
จู่ๆชานยอลก็โพล่งออกมาและนั่นทำให้ทั้งห้องต้องเงียบกริบ...
แบคฮยอนหันไปมองหน้าเขาอย่างตกอกตกใจเพราะไม่บ่อยเท่าไหร่นักที่ชานยอลจะตะโกนใส่พวกเขาอย่างนี้
“อะไร! นี่มึงเข้าข้างพวกมันหรือไงชานยอล!
นี่มึงคิดว่าทุกคนในโลกจะยอมให้มันทำอะไรก็ได้ตามใจชอบเหรอ?!
ถ้าเราไม่หยุดพวกมันตอนนี้อนาคตพวกมันจะเป็นยังไง?!
มันจะมีชีวิตต่อไปยังไงล่ะมึงคิดบ้างไหม?
ใครจะยอมรับ...ใครจะเข้าใจ กูบอกไว้เลยว่ากูคนนึงล่ะไม่เข้าใจ...ได้ยินไหม?!”
“แต่มึงต้องหยุดแล้วให้คยองซูตัดสินใจเอง!
กูรักเพื่อนไม่แพ้กันกับมึงหรอก! แต่ถ้ามึงรักมันจริงก็ช่วยสนใจความรู้สึกของพวกมันหน่อยจะได้ไหม?!!”
ชานยอลตวาด ทำเอาแบคฮยอนต้องหดคอลงด้วยความกลัว
ชานยอลไม่เคยโมโหหรือตวาดพวกเราเลยสักคน...
และนั่นทำให้เรารู้ว่าเขาน่ากลัวมากแค่ไหน...
“ตัดสินใจซะคยองซู...จะอยู่ที่นี่หรือจะกลับไปกับไอ้ดีโอ เลือกเอา...
แต่ช่วยคิดให้ดีๆก่อนจะตัดสินใจ...โอกาสมันไม่ได้มีให้แก้ตัวหลายครั้งหรอกนะ”
ชานยอลกระซิบก่อนจะดึงแบคฮยอนให้ถอยหลังห่างไปจากผมและดีโอ
ผมร้องไห้ออกมาจนตัวโยนราวกับจะขาดอากาศหายใจตายไปตรงนี้เมื่อไหร่ก็ได้
ดีโอหันมามองหน้าผม...สายตาของเขาเจือแววเว้าวอนอยู่ในนั้น
และน้ำเสียงสั่นเครือของเขากำลังทำให้ผมเป็นบ้า...
“เอาสิคยองซู...ตัดสินใจตรงนี้
นายอยากจะอยู่ที่นี่ไหม? หรืออยากจะกลับบ้านกับฉัน
กลับไปบ้านของเรา....”
หัวใจผมกระตุกวูบเมื่อได้ฟังน้ำเสียงอ่อนแรงของเขา...
และมันเป็นครั้งแรกที่ผมไม่แน่ใจนักว่าผมกำลังเผชิญกับสถานการณ์แบบไหน
เพราะถึงแม้ว่าแรงบีบจากมือที่ส่งมาจากดีโอนั้นจะหนักแน่น
....แต่น้ำเสียงและสายตาของเขานั้นวูบไหวจนผมใจหาย....
เหมือนสายตานั้นถูกเปิดเผยออกมาเป็นครั้งแรก...
สายตาที่บอกว่าเขาอ่อนแอและยังคงแคร์ทุกสิ่งทุกอย่างที่แบคฮยอนได้พูดกรอกหูเรา
“ฮึก...ฉ...ฉันควร ท...ทำยังไง?”
ผมสะอื้นแล้วกระซิบออกมาเบาๆ
ลมหายใจขาดห้วงเมื่อได้เห็นแววตาวูบหนึ่งของดีโอราวกับจะอ้อนวอนขอให้ผมตัดสินใจให้ถูกต้อง
แต่ผมไม่รู้ว่าควรจะทำยังไง....
“นายไม่รักฉันแล้วเหรอคยองซู...บอกฉันสิ
แค่เลือกเท่านั้น มันไม่ได้ยากอะไรเลย...ที่รัก”
ดีโอกระซิบเสียงแผ่ว...ปลายประโยคเอ่ยคำหวานที่ถ้าหากเราไม่ได้อยู่ตรงนี้ผมคงจะก้มลงไปจูบแล้วรับมันมาด้วยความรัก
แต่จงอิงกลับเบะปากออกมาเมื่อได้ยินมัน และแบคฮยอนกำลังส่ายหน้าราวกับว่าโลกกำลังจะแตกอยู่ตรงนี้
ชานยอลไม่พูดอะไรแต่สายตาของเขาเองก็บ่งบอกว่ารับไม่ได้เช่นกันกับสิ่งที่เราทำอยู่...
....โลกใบนี้ไม่มีจุดยืนให้เรา....
ผมคว้าดีโอมากอดเอาไว้แนบแน่นแล้วร้องไห้ออกมาโฮใหญ่...
ดีโอยืนตัวแข็งและเงียบงัน...ราวกับเขาจะรู้คำตอบแล้วว่าผมจะเลือกแบบไหน
“คิดมันให้ดีก่อนได้ไหมที่รัก...คิดสิ”
เขากระซิบที่ข้างหูของผมแผ่วเบา...
เสียงของเขากำลังสั่นเครือและเว้าวอนขอร้องให้ผมได้คิดใหม่
ผมสะอึกสะอื้นแทบขาดใจในขณะที่ผละอ้อมกอดจากเขา
“ข...ขอโทษนะ ท...ที่รัก....
แต่นายเองก็คงรู้ดี
.
.
.
.
เราต่างก็รู้ดีว่าเรื่องนี้จะจบยังไง”
P.S. ไรเตอร์ขอโทษ.....
ความคิดเห็น