คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ✚ BE MY BABY :: SEVEN
Author : MR.$N0WMAN*
Pairing : Kim Jongin & Do Kyungsoo
Story : Jackboiz
Rate : PG - 15
Be my Baby*
‘0.07’
เฮ้อ....
เสียงถอนหายใจของคยองซูดังขึ้นมาบ่อยซะจนทำให้เพื่อนสนิทที่นั่งเรียนข้างๆกันอย่างจงฮยอนต้องหันมามองอย่างเป็นห่วง
วันนี้คยองซูดูจะถอนหายใจออกมาบ่อยเป็นพิเศษจนจงฮยอนเองก็พลอยเซ็งไปด้วยอย่างช่วยไม่ได้
เป็นเพราะเจ้าตัวบอกว่าไม่เป็นไรเขาเลยไม่อยากจะเซ้าซี้ถามอะไรให้มากเรื่อง
แต่สุดท้ายจงฮยอนเองก็ชักจะเริ่มทนไม่ไหว จึงต้องตัดสินใจต้องถามออกไปซะให้รู้เรื่องรู้ราวซักที
“นี่...เป็นอะไรไปน่ะคยองซู วันนี้ถอนหายใจทั้งวันเลยนะ”
จงฮยอนถามในขณะที่ยกมือของเขาขึ้นมาจับที่บ่าของผมเบาๆทีหนึ่ง
ผมหันไปมองหน้าเขาก่อนที่จะถอนหายใจออกมาอีกครั้งหนึ่งโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ
“ทะเลาะกับพี่จงอินเหรอ?” เขาถามต่อ...
“เปล่า...ไม่ได้ทะเลาะ”
ผมตอบจงฮยอนก่อนจะส่ายหน้าปฏิเสธ
จะเรียกว่าทะเลาะมันก็ไม่ใช่ซักหน่อย แค่เขาไม่ยอมคุยกับผมเลยตลอดเช้านี้ก็เท่านั้น
เหตุผลเพียงแค่เพราะว่าจื่อเทาโทรนัดผมให้ไปเจอเขาที่หน้าโรงเรียน เพื่อที่เราจะได้เดินไปซื้อขนมที่มินิมาร์ทด้วยกันเท่านั้นเอง
ตัวผมเองก็พอจะรู้ว่าจงอินไม่ค่อยชอบจื่อเทาเพราะว่าเขาเป็นลูกคุณหนู
แต่จงอินไม่เคยมาคลุกคลีกับจื่อเทาซักหน่อย เขาจะมาตัดสินใจว่าชอบไม่ได้ชอบไม่ได้หรอกนะ
เพราะจื่อเทาเองก็เป็นเพื่อนที่ดีกับผม...และที่แน่ๆเราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่วันแรกที่เข้าโรงเรียนแล้วด้วย
“แล้วเป็นอะไร ทำไมต้องถอนหายใจแบบนี้ด้วย?” จงฮยอนยังคงถามผมต่อ
“ไม่รู้สิ...ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเป็นอะไร” คยองซูตอบพลางถอนหายใจอีกหน
“เอ้า... แล้วตอนนี้คิดถึงเรื่องอะไรอยู่อ่ะ?”
“อ่า....ก็เรื่องจงอินน่ะ”
ผมตอบจงฮยอนอย่างนั้น...เพราะในใจก็กำลังคิดเรื่องจงอินจริงๆอย่างที่พูดไป
ผมเบะปากออกมาเมื่อเห็นจงฮยอนถอนหายใจแล้วหรี่ตามองผม...ก่อนที่จะกระซิบออกมาเบาๆอีกครั้ง
“นั่นไง...ว่าแล้วเชียว” เขาพูดแบบนั้น
“หืม? แล้วจงฮยอนรู้ได้ยังไงว่าฉันคิดเรื่องจงอินอยู่?”
ผมถามเขาอย่างแปลกใจที่เขาพูดออกมาอย่างนั้น
รู้สึกไม่ค่อยชอบใจนักที่เขาทำเหมือนกับว่ารู้เรื่องของผมทุกเรื่อง
แต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทีไม่พอใจอะไรออกไปหรอกนะ...
“ก็แหงสิ...อย่างคยองซูจะเครียดเรื่องอะไรถ้าไม่ใช่เรื่องพี่จงอิน” เขาบอกกับผมพลางยักไหล่
“เฮ้...ฉันก็เครียดเรื่องอื่นเป็นนะ” ผมแหวใส่เขา...
“ไม่จริงหรอก...ทุกทีที่เครียดก็เรื่องพี่จงอินทั้งนั้น” จงฮยอนกลอกตาที่เห็นว่าผมเถียงเขา
ผมหันกลับมามองหน้าสมุดวิชาเลขที่ว่างเปล่าทั้งๆที่ควรจะมีแบบฝึกหัดตรีโกณมิติ 5 ข้อประดับอยู่ในนั้น
แต่เอากันตามจริงแล้วแม้แต่ข้อหนึ่งผมก็ยังไม่ได้มีความคิดจะเริ่มจรดปากกาลงไปเลย
เพราะตอนนี้ในหัวของผมมันคิดแต่เรื่องจงอินเท่านั้น...แค่นั้นจริงๆ
...จริงของจงฮยอน...ผมมักจะเครียดกับเรื่องจงอินทุกทีๆ...
“ฉัน...ควรทำยังไงดีจงฮยอน?”
ผมทิ้งปากกาลงกับโต๊ะแล้วหันไปพูดคุยกับจงฮยอนอย่างเปิดเผย
จะคณิตหรือจะตรีโกณอะไรก็ไม่คิดสนใจมันแล้ว...
“ควรทำอะไรเรื่องอะไรล่ะ?” จงฮยอนถามผมในขณะที่ก้มหน้าลงเขียนสมการลงไปในหน้ากระดาษสมุด
“ฉันก็ไม่รู้ว่าฉันเป็นอะไร...แต่ฉันไม่ชอบเลยเวลาที่จงอินไม่พูดกับฉัน
ฉันก็ไม่รู้ว่าฉันทำผิดอะไร แต่พี่เขาชอบทำเป็นเย็นชากับฉันอย่างนี้ตลอดเลย”
ผมกระซิบอย่างร้อนรน...ไม่รู้ว่าจงฮยอนจะช่วยได้หรือเปล่า
แต่ที่แน่ๆคือผมอยากระบายมันออกมาจริงๆ
ผมอึดอัด...ไม่ชอบเลย...
แล้วทำไมถึงต้องรู้สึกอย่างนี้ด้วย...ไม่เข้าใจ...
“อ่า...ก็....เดี๋ยวก่อนนะ...ตรงนี้ต้องทำยังไง?”
จงฮยอนยื่นสมุดมาหาผมแล้วถามถึงวิธีแก้โจทย์ ผมกลอกตาอย่างเอือมระอาก่อนจะตอบไปอย่างเสียไม่ได้
“ก็แทนค่า x ลงไปแล้วย้ายข้าง เฮ้! นายต้องหาคำตอบในวงเล็บก่อนสิ!
แต่เดี๋ยวนะ...นายช่วยตอบฉันก่อนได้ไหมว่าฉันควรจะทำยังไง ฉันไม่ชอบสถานการณ์แบบนี้เลย”
ผมกระซิบกับจงฮยอนอย่างร้อนรน เพราะว่าคุณครูที่ยืนอยู่หน้าห้องเริ่มมองมาที่พวกเราแล้ว
แต่จะให้ผมหยุดเรื่องนี้ไว้ก่อนน่ะไม่ได้หรอกนะ...เรื่องนี้มันเป็นปัญหาระดับชาติ!
“นายเคยมีความรักไหมคยองซู?”
จงฮยอนหันขึ้นมาถามผมหลังจากที่เขาเขียนคำตอบลงไปในสมุดแล้ว
ดวงตาของเขาจริงจังจนผมรู้สึกถึงความสำคัญของคำถามที่เขาถามขึ้นมาตงิด...
แต่ก็ไม่เข้าใจนักว่ามันจะเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ตรงไหน...
“ทำไมล่ะ...ความรักเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้?” ผมถามเขา
“ฉันเคยได้ยินมาว่าความรักทำให้คนเป็นบ้า
เวลาที่พี่ชายฉันไม่กินข้าวกินปลา หรือกลับบ้านมาแล้วเป็นแบบนายอ่ะ
แม่มักจะบอกเสมอว่าพี่เขาโดนความรักเล่นงานเอาซะแล้ว” จงฮยอนพูดพลางยักไหล่
“แล้วจงฮยอนนี่รู้จักความรักไหมอ่ะ? นายเคยมีความรักหรือเปล่า?”
ผมเท้าคางมองหน้าจงฮยอนแล้วถามเขา
เห็นจงฮยอนทำหน้าครุ่นคิดนิดหนึ่งแล้วจึงตอบรับ
“อืม...จะว่าไปแล้วฉันไม่รู้จักความรักหรอกนะ
แต่ฉันคิดว่าฉันรู้จักคำว่าแอบรักนะ”
“หืม? แอบรักเหรอ?
แหน่ะๆๆๆๆๆ ใครอ่ะ...นายแอบรักใคร?
เล่าให้ฟังบ้างดิ...ฉันรู้จักเขาหรือเปล่า? แล้วเขารู้ไหมว่านายชอบเขาอ้ะ?”
ผมยกยิ้มถามเขาอย่างหมายจะล้อเลียน
ก่อนจะเลื่อนนิ้วเข้าไปจิ้มที่แขนของเขาเบาๆเพราะต้องการจะแหย่เขาเล่น
“ถ้ารู้จะเรียกว่าแอบรักเหรออ่ะ?
เขาซื่อบื้อจะตาย เขาไม่รู้หรอกว่าฉันแอบชอบอยู่อ่ะ
ก็ไม่เชิงซื่อบื้อหรอก แต่ใสซื่อจนไม่รู้เรื่องรู้ราวเลยมากกว่า
จะว่าไปคยองซูก็รู้จักเขานะ...เผลอจะรู้จักดีด้วยล่ะ”
จงฮยอนตอบผมอย่างนั้นในขณะที่หันไปมองที่นอกหน้าต่างห้องเรียนแล้วถอนหายใจ
จู่ๆเขาก็ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาเมื่อพูดถึงความรัก...มันทำให้ผมชักแปลกใจว่าความรักทำได้ขนาดนี้เชียวหรือ
“เฮ้...ใครเหรอ? บอกฉันได้หรือเปล่า?”
ผมยิ้มบางๆแล้วกระซิบถามเขาเสียงแผ่ว
จงฮยอนเอียงคอแล้วทำหน้าครุ่นคิดไปครู่หนึ่ง...
เกิดความเงียบอยู่ในห้วงเวลาซักวิหรือสองวิที่เขานิ่งไปสนิทจนผมนึกว่าเขาไม่หายใจ
เขาเม้มริมฝีปากลงไปแน่นก่อนจะหันหน้ามาหาผม
จนกระทั่งริมฝีปากที่เม้มแน่นของเขาถูกคลายออกมาและมันกลายเป็นสีแดงจัด
ดวงตาของจงฮยอนที่มองตรงมานั้นทำให้ผมต้องเจื่อนยิ้ม เมื่อผมรู้สึกถึงอะไรแปลกๆจากสายตาเขา
และโอ้...คำตอบนั้นมันทำให้โลกของผมแทบจะหยุดหมุนไปเลย
.
.
.
“คนซื่อบื้อคนนั้น...ชื่อคยองซูไงล่ะ”
************
“จงอิน...ความรักคืออะไรเหรอ?”
เสียงเจื้อยแจ้วของคยองซูถามผมขึ้นมาในขณะที่เรากำลังดูทีวีอยู่หลังอาหารมื้อค่ำ
เป็นอันเฉลยว่าผมไม่ได้คิดไปเองจริงๆว่าวันนี้คยองซูดูเหม่อลอยผิดปกติ
เขาแทบจะไม่พูดไม่จาเลยหลังจากที่กลับจากโรงเรียนวันนี้ และไม่ได้เรียกร้องให้ผมเติมข้าวอีกเป็นถ้วยที่สองหรือสามเหมือนทุกที
...และนั่นทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิดจริงๆ...
“ถ้าจะมีเวลามาถามเรื่องไร้สาระพวกนี้ เอาเวลาไปทำการบ้านดีกว่าไหม?” ผมพูดกับเขาเสียงเข้ม
“มันไร้สาระตรงไหน? คยองแค่อยากรู้นี่นา
จงอินก็คิดซะว่าทำเพื่อการศึกษาสิ...ก็คยองไม่รู้จริงๆ”
คยองซูหันมามองผมตาใส...
ดวงตานั้นไม่ได้เจือแววร้อนรนหรืออยากรู้แบบรักวัยรุ่นทั่วไป แต่เขาถามมันออกมาพร้อมกับความไร้เดียงสา
ผมถอนหายใจออกมาก่อนจะเริ่มอธิบาย แม้ว่าใจจริงจะไม่ค่อยอยากอธิบายนักก็เถอะ...
“ก็...เป็นความรู้สึกเวลาที่เราคิดถึงใครมากๆ เป็นห่วงเขามากๆเวลาที่ไม่ได้เจอหรือเห็นหน้าล่ะมั้ง”
ผมตอบแบบขอไปที เพราะใช่ว่าผมเองจะเคยมีความรักกับเขาซะเมื่อไหร่
เมื่อก่อนก็หาเสพแค่ความสวยงามในรูปร่างหน้าตาและเรื่องของเซ็กส์ไปวันๆก็เท่านั้น
ผมสนใจแต่เรื่องหน้าตาของคนที่ควงด้วย และจำนวนของคนที่เข้ามาคุยด้วย
อ่า...ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมล่ะเปลี่ยนแฟนไม่ซ้ำหน้าเลย สองอาทิตย์ก็เปลี่ยนหรืออาจจะนานกว่านั้นแล้วแต่ผมพึงพอใจ
เพราะชีวิตมันน่าเบื่อเกินกว่าจะผูกติดอยู่ที่ใครคนเดียวนี่นา...และผมก็ไม่ใช่คนดีอะไรขนาดนัน้
และนั่นทำให้ผมคิดว่าผมคงอธิบายไปได้ไม่ดีเท่าไหร่นักหรอก
เพราะผมเองเคยได้ยินมาว่าความรักที่แท้จริงมันสวยงามกว่านั้นมาก...
“งั้นเหรอ...อืม....” คยองซูหันกลับไปแล้วทำสีหน้าครุ่นคิด...และนั่นทำให้ผมรู้สึกไม่พอใจจริงๆนะครับให้ตายเหอะ!
“ทำไม? ทำไมจู่ๆถึงถาม?”
ผมถามน้องเขาในขณะที่เขกหัวเล็กๆนั้นไปเบาๆทีหนึ่งอย่างหมั่นไส้
คยองซูร้องออกมาเบาๆแล้วลูบหัวตัวเองป้อยๆ หลังจากนั้นก็เบะปากใส่ผม
แต่เขาทำได้ไม่เท่าไหร่ก็กลับมาทำหน้าเครียดเหมือนเดิมอีก...
“งั้นถ้าเป็นอย่างที่จงอินพูดจริง...แปลว่าคยองก็มีความรักน่ะสิ”
"ว่าไงนะ!!! ใคร?!!
นี่ยังเรียนอยู่ม.ต้น เป็นเด็กเป็นเล็กอยู่เลยจะมีความรักเหรอ? นี่นายจะบ้าหรือไง?!”
ผมตวาดใส่เขาออกมาด้วยความโมโหจนคยองซูต้องหดคอมองผมอย่างกลัวๆ
เขาคว้าเอาหมอนอิงขึ้นมาปิดหน้าเอาไว้ก่อนจะตวาดกลับใส่ผม
“ย๊า! ทำไมต้องตะคอกคยองด้วยล่ะ!
คยองรักพี่โปโรโระมันเสียการเรียนตรงไหน?!”
เด็กน้อยอายุสิบสี่ถามผมอย่างเคืองๆที่ผมตวาดใส่เขาเสียงดัง
แต่ทันทีที่ผมได้ฟังเหตุผลผมก็ต้องชะงักไปเล็กน้อย...
อ่า...ไอ้เด็กนี่เข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า?
“อ้าวเหรอ...แต่ความรักมันไม่ใช่เรื่องเด็กๆอย่างนั้นซักหน่อย
ความรักของจริงมันยิ่งใหญ่กว่านั้นมากนะ...นายไม่ได้รักโปโรโระขนาดนั้นหรอกน่า”
“จงอินก็อธิบายให้คยองเข้าใจสิ...คยองไม่ได้รักพี่โปโรโระตรงไหน”
คยองซูมุ่ยหน้าก่อนจะหันมานั่งขัดสมาธิแล้วมองหน้าผม
ผมเองที่รู้สึกว่าอารมณ์ดีขึ้นเล็กน้อยก็หัวเราะออกมาเมื่อเขาทำหน้าขึงขังจริงจังอย่างนั้น
ผมมองที่นาฬิกาแขวนบนผนังแล้วก็พบว่ามันดึกมากแล้วที่เราจะมานั่งเสวนากันอยู่ตรงนี้
พรุ่งนี้คยองซูมีเรียน และแน่นอนว่าผมก็มีงานแต่เช้า และผมคิดว่าเราควรจะขึ้นไปนอนซักที...
“น้องคยองอาจจะรักพี่โปโรโระ
แต่วันนึงน้องคยองก็จะรู้เองนะว่าความรักมันมีอะไรที่มากกว่านั้น
ฉันก็อธิบายไม่ได้หรอกนะว่าความรักคืออะไร ไม่รู้สิ...ฉันก็ไม่เข้าใจมันดีนักหรอกนะ
แต่ถ้าเป็นความรักจริงๆ....อืม....
มันอาจจะเป็นการที่เราต้องเลือกโดดลงไปช่วยใครซักคนในบรรดาคนมากมายที่กำลังจะจมน้ำอยู่ล่ะมั้ง
อ่า...น่าปวดหัวนะว่าไหม
เอาไว้น้องคยองโตขึ้นก็คงจะรู้เองว่ามันหมายความว่ายังไงนะ...
แต่ตอนนี้ต้องขึ้นไปนอนได้แล้วและเลิกคิดเรื่องนี้ซะ เพราะความรักตอนมอต้นน่ะมันก็แค่เรื่องโง่ๆเท่านั้นแหละน่า...”
ผมบอกคยองซูไปก่อนจะดึงน้องเขาให้ลุกขึ้นมาจากพื้น
คยองซูไม่ได้พูดอะไรอีก แต่ขอให้ผมเดินไปส่งเขาที่ห้องนอนเหมือนทุกที
และผมเองก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไรเพราะผมก็ทำอย่างนี้เป็นปกติอยู่แล้ว
ถึงแม้ว่าคยองซูจะโตขึ้นแค่ไหน แต่ยังไงผมก็ยังอยากจะทำหน้าที่ผู้ปกครองให้เป็นปกติ
.....ทำเหมือนกับทุกๆวันที่เคยทำมา.......
“เอ้า...นอนได้แล้วนะ เดี๋ยวฉันจะปิดไฟให้”
ผมบอกเขาในขณะที่ยืนพิงกรอบประตูเอาไว้แล้วส่งยิ้มให้เด็กตัวเล็กที่กำลังปีนขึ้นเตียงแล้วห่มผ้า
คยองซูมองมาที่ผมตาแป๋วก่อนที่จะหันมายิ้มแล้วบอกให้ผมนอนฝันดีก่อนนอนเหมือนทุกคืน
ผมยกยิ้มออกมาบางๆแล้วปิดไฟห้องนอนของเขา...ก่อนที่จะคว้าลูกบิดประตูเพื่อจะหมุนปิด
แต่ก่อนที่จะได้ทำอย่างนั้น ผมก็ต้องชะงักไปเสียก่อน...
“จงอิน..."
เสียงใสนั้นกระซิบผ่านความเงียบขึ้นมาและทำให้ผมต้องมองผ่านความมืดเข้าไปในห้องนั้น
แต่ผมเองก็ไม่เห็นอยู่ดีว่าตอนนี้คยองซูกำลังทำหน้าแบบไหน...
“หืม? อะไร...” ผมถามเขาออกไป...
อา...คิดดูแล้วมันน่าตลกดีนะ
เพราะไม่ว่ากี่ปีผ่านไป ผมก็ยังต้องตอบคำถามเขาอย่างนี้อยู่ดี
....มันไม่เคยเปลี่ยนไปเลยจริงๆ...
ผมคิดในใจก่อนจะยกยิ้มกริ่ม..
โดยที่ไม่รู้เลยว่าแท้จริงแล้ว ถึงแม้ว่าจะผ่านมาเนิ่นนานหลายปี
ถึงประโยคนี้จะถูกเอ่ยขึ้นมาซ้ำแล้วซ้ำอีกกี่หน...
...แต่ความรู้สึกนั้นมันค่อยๆเปลี่ยนไปทีละนิด...
...เปลี่ยนแปลงไปโดยที่ผมไม่เคยแม้แต่จะรู้ตัว...
ผมกัดริมฝีปากแน่นเมื่อเสียงกระซิบแผ่วเบาของคยองซูลอยเข้ามาในโสตประสาทราวกับว่าเขามากระซิบมันข้างหู
ผมไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าตัวเองกำลังเป็นอะไร ทำไมหัวใจต้องเต้นเพียงเพราะประโยคธรรมดานั้นด้วยล่ะ
มันจะมีความหมายอะไรที่แฝงไว้มากกว่านั้นไหม?...
“ถ้าโปโรโระหรือทุกๆคนบนโลกนี้จมน้ำไปหมด
.
.
.
คนแรกที่คยองจะโดดลงไปช่วย...คือจงอินนะ”
✚ TALK
ตอนนี้กากมากถึงมากที่สุด...
รู้สึกว่าตัวเองเวิ่นเว้อจริงจัง สัญญาว่าตอนหน้าจะแก้ไขให้นะคะ T^T
ไรเตอร์กำลังคิดมากอยู่เบาๆ คือหัวฟิคมันจั่วไว้ว่ามันเป็น SF
แต่ไรเตอร์กำลังจะทำให้มันเป็นฟิคยาว...แต่ว่าจะดีเหรอ?
ตอนนี้จิตใจไรเตอร์มันหงุมหงิมผิดปกติ
อาจจะเพราะว่าป่วยด้วยก็เลยรู้สึกว่าเวิ่นเว้อ 555555555
แต่เอาเถอะค่ะ สุดท้ายไรเตอร์ก็มาต่อให้จนได้แล้วน้าา
รักรีดเดอร์เหมือนเดิม ♥
- ไรเตอร์นมน -
ความคิดเห็น