คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ✚ SH0T 7 :: THE APPLE SEVEN [THE REAL END]
Author : MidnightSunny
Pairing : Chanyeol x Baekhyun
Story by : Zenumist
Rate : PG-15
ll CHAPTER 7 ll
“นี่...ขอถามอะไรหน่อยสิ”
ผมเอ่ยขึ้นในขณะที่เราสองคนกำลังเดินจูงมือกันอยู่ที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่ง
ข้างๆผมคือชานยอลที่ตอนนี้เขามีกระเป๋ากีต้าร์สะพายอยู่ข้างหลัง
เขายกยิ้มบางๆก่อนจะหันมามองหน้าผมแล้วยกคิ้วถาม...
“หืม? อะไรเหรอ?” เขาถามพร้อมทั้งยิ้ม
“ทำไมตอนนั้นนายถึงบอกแบบนั้นล่ะ?”
“ตอนไหน?”
“ตอนที่บอกให้ฉันจูบนายให้ฟื้น ถ้าแอปเปิ้ลนั่นมียาพิษจริงๆ”
ผมเอียงคอ...พูดพลางยักไหล่อย่างสงสัย
ชานยอลกระพริบตาสองทีแล้วครุ่นคิด...ก่อนจะร้องอ๋อออกมาเมื่อเขาคิดออก
“อ๋อ...ฉันก็แค่พูดตามที่ฉันรู้สึกน่ะ ทำไมล่ะมีอะไรเหรอ?”
“เปล่าหรอก...มันฟังดูเหมือนนายจะรู้ว่าฉันชอบนาย
นายก็เลยแกล้งพูดอย่างนั้นใช่ไหม?”
“อืม...อาจจะเป็นอย่างนั้นก็ได้มั้ง
เอาตามจริงเลยนะ ก่อนหน้านั้นอ่ะฉันไม่รู้มาก่อนเลยว่านายชอบฉัน
จนกระทั่งนายมาบอกว่าแอปเปิ้ลนั่นมียาพิษนั่นแหละ...ฉันถึงเข้าใจว่า
อ้อ...คนนี้เองสินะที่เอามันมาทิ้งไว้ที่หน้าบ้านฉัน แล้วก็คิดว่า -- อ่า...นายตัวเล็กคนนั้นชอบฉันชัวร์”
“แล้วไหงนายถึงตอบแบบนั้นล่ะ?
นายไม่น่าตอบแบบนั้นทั้งๆที่เจอหน้าฉันครั้งแรกนะ”
“ก็ตอนนั้นฉันหมั่นไส้นายนี่...
คิดดูเอาสิ...นายเอาแอปเปิ้ลพวกนั้นมาวางไว้ กดกริ่งเรียกฉันลงมาแล้วก็หนีไปซะเฉยๆ
แต่พอมาถึงตอนนั้นนายกลับพูดโพล่งออกมาดื้อๆแบบนั้น
มันทำให้ฉันรู้สึกว่ามันน่าตลกน่ะ...และฉันก็หมั่นไส้นายด้วย”
อ่า...นี่เขาก็คิดเหมือนผมเหมือนกันหรอกเหรอ...
แปลว่าตอนนั้นเราคุยกันด้วยอารมณ์หมั่นไส้ล้วนๆเลยสินะ...บ้าจัง
ผมล่ะนึกว่าเขาเองก็ชอบผมเหมือนกันซะอีก
ที่ไหนได้...เขากลับเพิ่งมารู้มันตอนที่ผมบอกเขาตอนนั้นเนี่ยนะ
อ่า...ปาร์คชานยอล นายเป็นผู้ชายที่งี่เง่าจริงๆ...
“แต่นายก็ไม่น่าพูดขอให้ใครจูบทั้งๆที่รู้ว่าเขาชอบนายนะ
ถ้านายทำอย่างนี้กับคนอื่นล่ะฉันโกรธจริงๆด้วย”
ผมเบะปากก่อนจะทำเสียงกระงอดกระเง้าใส่เขา...
ชานยอลยกยิ้มขึ้นมาพร้อมทั้งเสียงหัวเราะ ก่อนที่เขาจะวาดแขนขึ้นโอบที่บ่าผมแล้วบีบมันเบาๆแต่อ่อนโยน
“นายรู้ไหมว่าทำไมฉันถึงทำแบบนั้น...
ถ้าเป็นคนอื่นฉันอาจจะไม่พูดแบบนั้นหรอกนะ...ฉันอาจจะทำเป็นจำไม่ได้แล้วก็ปล่อยมันไป
แต่ฉันก็ดันโพล่งบอกออกไปอย่างนั้น...”
“หืม? นั่นสินะ...แล้วมันหมายความว่าไงล่ะ?
ทำไมพอเป็นฉันแล้วนายต้องพูดแบบนั้นด้วย?”
ผมเอียงคอมองเขา หรี่ตาถามอย่างไม่เข้าใจในประโยคที่เขาพูด
ผมเห็นชานยอลหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อเขามองหน้าผม
และประโยคนั้นมันเล่นทำเอาผมเขินจริงๆ...
“ก็เพราะว่านายน่ารักไง...”
“...............................”
“นายรู้ไหมว่าพอวันนั้นที่ฉันรู้ว่านายชอบฉันนะ ฉันเก็บเอามันมาคิดทั้งคืนจนนอนไม่หลับเลย
ฉันแปลกใจมากเลยที่นั่นเป็นนายน่ะ...
นายไม่แปลกใจเลยหรือไงที่พอนายบอกชอบฉันไม่ถึงห้านาทีฉันก็ขอนายเป็นแฟนเลยน่ะหืม?”
ผมเงียบไปในอึดใจเมื่อเขาพูดมันออกมา...
ผมก้มหน้างุดลงกับพื้นด้วยความเขินอายและรู้สึกว่าใบหน้าร้อนผ่าว
รู้ตัวว่าตอนนี้ใบหน้าต้องแดงมากแน่ๆ เพราะว่าชานยอลกำลังมองลงมาแล้วหัวเราะเสียยกใหญ่
“หัวเราะอะไรของนายเล่า...”
ผมถามเขาทั้งๆที่ยังหลบสายตาอยู่ ผมลอบยิ้มออกมาน้อยๆเมื่อรู้สึกว่าเขินอายมากจริงๆ
“มองคนน่ารักกำลังเขินไง...น่ารักจัง...น่ารักจัง”
“พอเลยนะหยุดพูดได้แล้ว...ฉันเหนื่อยจัง เรานั่งพักกันเถอะ”
ผมพยายามแก้เขินด้วยการชักชวนเขาให้เดินไปนั่งที่ม้านั่งตัวหนึ่งเบื้องหน้า
ชานยอลพยักหน้ารับก่อนจะเดินจูงมือผมไปนั่งที่เก้าอี้ตัวนั้น
“นายอยากกินน้ำอะไรไหม? เดี๋ยวฉันไปซื้อมาให้”
เขายกยิ้มออกมาในขณะที่ปลดกระเป๋าออกจากบ่า
ผมส่ายหน้าแล้วตอบเขา
“ไม่เอาหรอก...นายหิวน้ำเหรอ?”
“ไม่หรอก...แต่ฉันกลัวนายหิวน่ะ”
“ไม่หิวหรอก...แค่นายอยู่ข้างๆก็รู้สึกอิ่มไปหมดแล้วล่ะ”
ผมตอบเขาไปซื่อๆ...รู้สึกอายแต่ก็อยากจะอ้อนเขาบ้าง
ผมเห็นชานยอลเม้มปากก่อนจะพยายามเสตามองไปทางอื่นแล้วลอบยิ้ม
“นี่ชานยอล นายชอบฉันจริงๆใช่ไหม?”
ผมถามเขาเสียงแผ่วในขณะที่เอนตัวลงไปซบกับบ่าแข็งแรงของเขาแล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ
“ทำไมถามอย่างนั้นล่ะ?” เขาถาม
“ฉันก็แค่อยากให้นายยืนยันกับฉัน...เผื่อว่านี่อาจจะเป็นแค่ฝันไป”
“มันจะเป็นฝันได้ยังไง...งี่เง่าจัง
ฉันอยู่ตรงนี้นะ สัมผัสดูสิ...นี่เป็นเรื่องจริง”
ชานยอลกระซิบตอบกลับมา...เขาไม่พูดเปล่าหากแต่ยังคว้ามือของผมขึ้นไปทาบบนหัวใจของเขา
มันทำให้ผมต้องยกยิ้มออกมาอย่างดีใจเหลือเกิน...
เมื่อผมสัมผัสได้ว่าหัวใจของเขากำลังเต้นแรงไม่ต่างกันกับผมเลย...
“อื้ม...มันเป็นเรื่องจริง” ผมกระซิบตอบพลางยกยิ้มอย่างรู้สึกเขิน
“แต่ถ้าอยากพิสูจน์จริงๆว่าไม่ได้ฝันไป ฉันว่าฉันมีวิธีที่ดีกว่านี้นะ” ชานยอลพูดออกมาเสียงแผ่ว
“หืม? ยังไง?”
“ก็แบบนี้ไง...”
เขาเชยคางของผมให้แหงนขึ้นไปมองหน้าเขา
ดวงตาของเราสบกันเนิ่นนานก่อนที่เขาจะเคลื่อนใบหน้าของเขาโน้มเข้ามาใกล้ผมเรื่อยๆ
หัวใจผมเต้นไม่เป็นจังหวะ...เมื่อลมหายใจของเขากำลังรวยรินอยู่ที่ปลายจมูกของผม
“ขอจูบ...ได้ไหม?”
เสียงกระซิบของชานยอลดังแผ่วและแสดงออกถึงความไม่ค่อยแน่ใจนัก
ผมลอบหัวเราะออกมาเบาๆก่อนที่จะมองเข้าไปในตาเขาแล้วกระซิบตอบกลับ
“ถามอะไร...ไม่แมนเลย”
กระซิบบอกไปในขณะที่หน้าผากของเราสองคนแนบชิดกันสนิท
ผมรู้สึกว่าดวงตาพร่ามัวไปหมดเมื่อดวงตาของชานยอลอยู่ห่างจากผมเพียงไม่กี่นิ้วแบบนี้
“งั้นจูบนะ”
เขากระซิบเสียงแผ่วก่อนที่จะประทับริมฝีปากของเขาลงมาที่ริมฝีปากของผม
สัมผัสนุ่มหยุ่นและอบอุ่นทำให้ผมต้องหลับตาพริ้ม...
ผมเอียงคอเมื่อริมฝีปากอุ่นของเราทั้งคู่สัมผัสกัน...
ชานยอลขบเม้มทิ่ริมฝีปากของผมแผ่วเบาแต่ไม่ได้มีการรุกล้ำ
หัวใจผมเต้นตึกตัก...เมื่อผมปรือตาขึ้นมามองหน้าเขาในขณะที่เขาผละริมฝีปากออกไป
รสจูบหวานยังคงติดอยู่ที่ริมฝีปาก...ผมก้มหน้างุดลงกับพื้นด้วยความเขินอาย
แต่ก็ไม่วายเห็นว่าชานยอลกำลังแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากของเขาครั้งหนึ่งแล้วยกยิ้ม
ผมก้มหน้าลงและกัดริมฝีปาก...
อ่า...รู้สึกเขินจังเพราะเราเพิ่งจะมีจูบแรกกันไปหลังจากที่เริ่มคบหากันมาได้สองอาทิตย์
“แบคฮยอน จูบของนาย...มีกลิ่นแอปเปิ้ล”
เขากระซิบออกมาในขณะที่ก้มลงมองหน้าผม
ผมเงยหน้าขึ้นมองเขาก่อนที่จะตอบกลับไป
รู้สึกเขินอายแต่จะหนีไปไหนได้ล่ะ เพราะยังไงเราก็จูบกันไปแล้วนี่นา...
“อ...อืม....ฉันเพิ่งกินมันก่อนจะมาเจอนายน่ะ”
“หวานดีนะ...อยากชิมอีก”
ชานยอลไม่พูดเปล่า เขายังยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนทำให้ผมต้องถดหน้าหนี
ผมยกมือขึ้นตีเขาก่อนจะเอ่ยปากว่าไปอย่างไม่ได้จริงจังนัก
“พอเลยนะ! ได้คืบจะเอาศอก!”
ผมแกล้งทำเป็นโวยวายก่อนจะหันหน้าหนี รู้สึกเขินเมื่อได้คิดถึงจูบหวานเมื่อครู่
อยากจะสัมผัสอีก...แต่ผมคิดว่าผมควรจะเล่นตัวเสียหน่อยก็คงจะดี...
“ก็มันหวานจริงๆนี่นา...อ่า แต่ถ้านายไม่ชอบก็ไม่เป็นไร
แล้วสรุปยังคิดว่าฝันไปอยู่หรือเปล่าหืม?”
ชานยอลถามก่อนจะวาดแขนมาโอบที่รอบบ่าผมดังเดิม
ผมเกยไหล่ของผมไปบนอกเขา ก่อนจะแสร้งทำเป็นครุ่นคิด
“ไม่รู้สิ...นี่ยิ่งเหมือนฝันไปใหญ่เลย”
“ที่พูดนี่อยากให้จูบอีกใช่ไหมเนี่ย?”
ชานยอลยกยิ้มแหย่ ผมหันขึ้นไปมองหน้าเขาก่อนจะยกนิ้วขึ้นจิ้มที่แก้มของเขาทีหนึ่ง
“พาโบยา...ชานยอลอา
นายนี่โง่จริงๆ เรื่องอย่างนี้นายควรถามฉันหรือไง?”
ผมยกยิ้มออกมาบางๆพลางมองลงมาริมฝีปากสีแดงของเขา
ชานยอลยกยิ้มและหัวเราะออกมาอย่างร่าเริงเพราะคำพูดของผม
ก่อนที่จะโน้มหน้าเข้ามา กระซิบที่ริมฝีปากแล้วบอกกับผมว่า
“อ่า...งั้นถ้าคิดว่าฝันอยู่ก็ฝันต่อไปก็ได้นะ...
แต่ฉันคิดว่าเดี๋ยวนายก็ตื่นแล้ว
.
.
.
.
เพราะฉันจะปลุกนายให้ตื่นด้วยจูบแห่งรักของฉันเอง”
- THE REAL END -
อ่าฮะ...มันจบแล้วค่ะ มันจบแบบกากๆแบบนี้แหละค่ะตามพล๊อตที่ตั้งไว้เป๊ะเลยย
แต่ไรเตอร์จะขออธิบายเสริมเรื่องความรู้สึกของชานยอลที่มีกับน้องแบคหน่อย กลัวรีดเดอร์จะไม่เข้าใจที่ไรท์จะสื่อ
คือ...อิหยอยมันไม่รู้ ไม่เคยรู้ และไม่มีท่าทีว่าจะรู้มาก่อนเลยค่ะว่าน้องแบคชอบมัน
แต่ที่มันพูดออกไปพาฟินแต่ละครั้งนี่ เพราะมันเห็นว่าแบคน่ารัก...(หน้าม่อล้วนๆ)
ใครที่ตั้งสมมติฐานมาว่าหยอยเองก็ชอบน้องแบคอยู่เหมือนกันล่ะไรท์เตอร์ต้องขอกราบอภัยด้วยจริงๆนะคะ
แต่เรื่องนี้อิชานหยอยโง่ตั้งแต่ต้นเรื่องจนจบเรื่องเลยค่ะ 5555555555555 #โดนเมนหยอยถีบ
แต่มันก็จบแบบน่ารักแบบที่อยากได้แล้วเนอะ หวังว่าคงชอบและเคลียร์กันนะคะ
วันนี้ไรเตอร์มาลงช้ากว่าที่ตั้งใจนิดหน่อยเพราะว่าเกิดอุบัติเหตุค่ะ รถมอไซไปชนมาข้อมือซ้ายเดี้ยงไปแหล่วววว...
ถ้าใครตามไรเตอร์ในทวิตก็คงรู้ข่าวเพราะว่าไรเตอร์ดราม่าไปพอสมควร 555555
แต่ก็มาลงให้ตามสัญญาแล้วนะ อย่าโกรธกันนะคะ
อ่านตอนนี้ให้สนุกนะคะ เจอกันตอนหน้าค่ะ
.
.
.
แหม่ะ...งงล่ะสิตอนหน้าอะไร
คึคึ...อยากรู้พรุ่งนี้มาติดตามนะคะ >3
ความคิดเห็น