ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF EXO] ✚ :: THE APPLES :: ✚ [CHANYEOL x BAEKHYUN]*

    ลำดับตอนที่ #7 : ✚ SH0T 7 :: THE APPLE SEVEN [THE REAL END]

    • อัปเดตล่าสุด 16 ก.ย. 55


    Author : MidnightSunny
    Pairing : Chanyeol x Baekhyun
    Story by : Zenumist
    Rate : PG-15

     




     
    THE APPLES *

     

    ll CHAPTER  7 ll








    “นี่...ขอถามอะไรหน่อยสิ”

     

     

    ผมเอ่ยขึ้นในขณะที่เราสองคนกำลังเดินจูงมือกันอยู่ที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่ง

    ข้างๆผมคือชานยอลที่ตอนนี้เขามีกระเป๋ากีต้าร์สะพายอยู่ข้างหลัง

    เขายกยิ้มบางๆก่อนจะหันมามองหน้าผมแล้วยกคิ้วถาม...

     

     

    “หืม? อะไรเหรอ?” เขาถามพร้อมทั้งยิ้ม

     

     

    “ทำไมตอนนั้นนายถึงบอกแบบนั้นล่ะ?”

     
     

    “ตอนไหน?”

     
     

    “ตอนที่บอกให้ฉันจูบนายให้ฟื้น ถ้าแอปเปิ้ลนั่นมียาพิษจริงๆ”




    ผมเอียงคอ...พูดพลางยักไหล่อย่างสงสัย

    ชานยอลกระพริบตาสองทีแล้วครุ่นคิด...ก่อนจะร้องอ๋อออกมาเมื่อเขาคิดออก

     
     

    “อ๋อ...ฉันก็แค่พูดตามที่ฉันรู้สึกน่ะ ทำไมล่ะมีอะไรเหรอ?”

     
     

    “เปล่าหรอก...มันฟังดูเหมือนนายจะรู้ว่าฉันชอบนาย

    นายก็เลยแกล้งพูดอย่างนั้นใช่ไหม?”

     

     

    “อืม...อาจจะเป็นอย่างนั้นก็ได้มั้ง

    เอาตามจริงเลยนะ ก่อนหน้านั้นอ่ะฉันไม่รู้มาก่อนเลยว่านายชอบฉัน

    จนกระทั่งนายมาบอกว่าแอปเปิ้ลนั่นมียาพิษนั่นแหละ...ฉันถึงเข้าใจว่า

    อ้อ...คนนี้เองสินะที่เอามันมาทิ้งไว้ที่หน้าบ้านฉัน   แล้วก็คิดว่า --  อ่า...นายตัวเล็กคนนั้นชอบฉันชัวร์”

     
     

    “แล้วไหงนายถึงตอบแบบนั้นล่ะ?

    นายไม่น่าตอบแบบนั้นทั้งๆที่เจอหน้าฉันครั้งแรกนะ”

     
     

    “ก็ตอนนั้นฉันหมั่นไส้นายนี่...

    คิดดูเอาสิ...นายเอาแอปเปิ้ลพวกนั้นมาวางไว้ กดกริ่งเรียกฉันลงมาแล้วก็หนีไปซะเฉยๆ

    แต่พอมาถึงตอนนั้นนายกลับพูดโพล่งออกมาดื้อๆแบบนั้น

    มันทำให้ฉันรู้สึกว่ามันน่าตลกน่ะ...และฉันก็หมั่นไส้นายด้วย”

     
     

    อ่า...นี่เขาก็คิดเหมือนผมเหมือนกันหรอกเหรอ...

    แปลว่าตอนนั้นเราคุยกันด้วยอารมณ์หมั่นไส้ล้วนๆเลยสินะ...บ้าจัง

     
     

    ผมล่ะนึกว่าเขาเองก็ชอบผมเหมือนกันซะอีก

    ที่ไหนได้...เขากลับเพิ่งมารู้มันตอนที่ผมบอกเขาตอนนั้นเนี่ยนะ

    อ่า...ปาร์คชานยอล นายเป็นผู้ชายที่งี่เง่าจริงๆ...

     

     

    “แต่นายก็ไม่น่าพูดขอให้ใครจูบทั้งๆที่รู้ว่าเขาชอบนายนะ

    ถ้านายทำอย่างนี้กับคนอื่นล่ะฉันโกรธจริงๆด้วย”

     
     

    ผมเบะปากก่อนจะทำเสียงกระงอดกระเง้าใส่เขา...

    ชานยอลยกยิ้มขึ้นมาพร้อมทั้งเสียงหัวเราะ ก่อนที่เขาจะวาดแขนขึ้นโอบที่บ่าผมแล้วบีบมันเบาๆแต่อ่อนโยน

     
     

    “นายรู้ไหมว่าทำไมฉันถึงทำแบบนั้น...

    ถ้าเป็นคนอื่นฉันอาจจะไม่พูดแบบนั้นหรอกนะ...ฉันอาจจะทำเป็นจำไม่ได้แล้วก็ปล่อยมันไป

    แต่ฉันก็ดันโพล่งบอกออกไปอย่างนั้น...”

     
     

    “หืม? นั่นสินะ...แล้วมันหมายความว่าไงล่ะ?

    ทำไมพอเป็นฉันแล้วนายต้องพูดแบบนั้นด้วย?”

     
     

    ผมเอียงคอมองเขา หรี่ตาถามอย่างไม่เข้าใจในประโยคที่เขาพูด

    ผมเห็นชานยอลหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อเขามองหน้าผม

    และประโยคนั้นมันเล่นทำเอาผมเขินจริงๆ...

     

     

    “ก็เพราะว่านายน่ารักไง...”

     

     

    “...............................”

     

     

    “นายรู้ไหมว่าพอวันนั้นที่ฉันรู้ว่านายชอบฉันนะ ฉันเก็บเอามันมาคิดทั้งคืนจนนอนไม่หลับเลย

    ฉันแปลกใจมากเลยที่นั่นเป็นนายน่ะ...

    นายไม่แปลกใจเลยหรือไงที่พอนายบอกชอบฉันไม่ถึงห้านาทีฉันก็ขอนายเป็นแฟนเลยน่ะหืม?”

     
     

    ผมเงียบไปในอึดใจเมื่อเขาพูดมันออกมา...

    ผมก้มหน้างุดลงกับพื้นด้วยความเขินอายและรู้สึกว่าใบหน้าร้อนผ่าว

    รู้ตัวว่าตอนนี้ใบหน้าต้องแดงมากแน่ๆ เพราะว่าชานยอลกำลังมองลงมาแล้วหัวเราะเสียยกใหญ่

     
     

    “หัวเราะอะไรของนายเล่า...”  


    ผมถามเขาทั้งๆที่ยังหลบสายตาอยู่ ผมลอบยิ้มออกมาน้อยๆเมื่อรู้สึกว่าเขินอายมากจริงๆ

     
     

    “มองคนน่ารักกำลังเขินไง...น่ารักจัง...น่ารักจัง”

     
     

    “พอเลยนะหยุดพูดได้แล้ว...ฉันเหนื่อยจัง เรานั่งพักกันเถอะ”

     
     

    ผมพยายามแก้เขินด้วยการชักชวนเขาให้เดินไปนั่งที่ม้านั่งตัวหนึ่งเบื้องหน้า

    ชานยอลพยักหน้ารับก่อนจะเดินจูงมือผมไปนั่งที่เก้าอี้ตัวนั้น

     
     

    “นายอยากกินน้ำอะไรไหม? เดี๋ยวฉันไปซื้อมาให้”

     
     

    เขายกยิ้มออกมาในขณะที่ปลดกระเป๋าออกจากบ่า

    ผมส่ายหน้าแล้วตอบเขา

     
     

    “ไม่เอาหรอก...นายหิวน้ำเหรอ?”

     
     

    “ไม่หรอก...แต่ฉันกลัวนายหิวน่ะ”

     
     

    “ไม่หิวหรอก...แค่นายอยู่ข้างๆก็รู้สึกอิ่มไปหมดแล้วล่ะ”

     
     

    ผมตอบเขาไปซื่อๆ...รู้สึกอายแต่ก็อยากจะอ้อนเขาบ้าง

    ผมเห็นชานยอลเม้มปากก่อนจะพยายามเสตามองไปทางอื่นแล้วลอบยิ้ม

     
     

    “นี่ชานยอล นายชอบฉันจริงๆใช่ไหม?”

     
     

    ผมถามเขาเสียงแผ่วในขณะที่เอนตัวลงไปซบกับบ่าแข็งแรงของเขาแล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ

     

     

    “ทำไมถามอย่างนั้นล่ะ?” เขาถาม

     

     

    “ฉันก็แค่อยากให้นายยืนยันกับฉัน...เผื่อว่านี่อาจจะเป็นแค่ฝันไป”

     

     

    “มันจะเป็นฝันได้ยังไง...งี่เง่าจัง

    ฉันอยู่ตรงนี้นะ สัมผัสดูสิ...นี่เป็นเรื่องจริง”

     

     

    ชานยอลกระซิบตอบกลับมา...เขาไม่พูดเปล่าหากแต่ยังคว้ามือของผมขึ้นไปทาบบนหัวใจของเขา

    มันทำให้ผมต้องยกยิ้มออกมาอย่างดีใจเหลือเกิน...

    เมื่อผมสัมผัสได้ว่าหัวใจของเขากำลังเต้นแรงไม่ต่างกันกับผมเลย...

     

     

    “อื้ม...มันเป็นเรื่องจริง” ผมกระซิบตอบพลางยกยิ้มอย่างรู้สึกเขิน

     

     
     

    “แต่ถ้าอยากพิสูจน์จริงๆว่าไม่ได้ฝันไป ฉันว่าฉันมีวิธีที่ดีกว่านี้นะ” ชานยอลพูดออกมาเสียงแผ่ว

     

     

    “หืม? ยังไง?”

     

     

    “ก็แบบนี้ไง...”

     

     

    เขาเชยคางของผมให้แหงนขึ้นไปมองหน้าเขา

    ดวงตาของเราสบกันเนิ่นนานก่อนที่เขาจะเคลื่อนใบหน้าของเขาโน้มเข้ามาใกล้ผมเรื่อยๆ

    หัวใจผมเต้นไม่เป็นจังหวะ...เมื่อลมหายใจของเขากำลังรวยรินอยู่ที่ปลายจมูกของผม

     

     

    “ขอจูบ...ได้ไหม?”

     

     

    เสียงกระซิบของชานยอลดังแผ่วและแสดงออกถึงความไม่ค่อยแน่ใจนัก

    ผมลอบหัวเราะออกมาเบาๆก่อนที่จะมองเข้าไปในตาเขาแล้วกระซิบตอบกลับ

     

     

    “ถามอะไร...ไม่แมนเลย”

     

     

    กระซิบบอกไปในขณะที่หน้าผากของเราสองคนแนบชิดกันสนิท

    ผมรู้สึกว่าดวงตาพร่ามัวไปหมดเมื่อดวงตาของชานยอลอยู่ห่างจากผมเพียงไม่กี่นิ้วแบบนี้

     

     

    “งั้นจูบนะ”

     

     

    เขากระซิบเสียงแผ่วก่อนที่จะประทับริมฝีปากของเขาลงมาที่ริมฝีปากของผม

    สัมผัสนุ่มหยุ่นและอบอุ่นทำให้ผมต้องหลับตาพริ้ม...

     

     

    ผมเอียงคอเมื่อริมฝีปากอุ่นของเราทั้งคู่สัมผัสกัน...

    ชานยอลขบเม้มทิ่ริมฝีปากของผมแผ่วเบาแต่ไม่ได้มีการรุกล้ำ

    หัวใจผมเต้นตึกตัก...เมื่อผมปรือตาขึ้นมามองหน้าเขาในขณะที่เขาผละริมฝีปากออกไป

     

     

    รสจูบหวานยังคงติดอยู่ที่ริมฝีปาก...ผมก้มหน้างุดลงกับพื้นด้วยความเขินอาย

    แต่ก็ไม่วายเห็นว่าชานยอลกำลังแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากของเขาครั้งหนึ่งแล้วยกยิ้ม

     

     

    ผมก้มหน้าลงและกัดริมฝีปาก...

    อ่า...รู้สึกเขินจังเพราะเราเพิ่งจะมีจูบแรกกันไปหลังจากที่เริ่มคบหากันมาได้สองอาทิตย์

     
     

     

    “แบคฮยอน จูบของนาย...มีกลิ่นแอปเปิ้ล” 

     
     

     

    เขากระซิบออกมาในขณะที่ก้มลงมองหน้าผม

    ผมเงยหน้าขึ้นมองเขาก่อนที่จะตอบกลับไป

    รู้สึกเขินอายแต่จะหนีไปไหนได้ล่ะ เพราะยังไงเราก็จูบกันไปแล้วนี่นา...

     

     

    “อ...อืม....ฉันเพิ่งกินมันก่อนจะมาเจอนายน่ะ”

     

     

    “หวานดีนะ...อยากชิมอีก” 

     

     

    ชานยอลไม่พูดเปล่า เขายังยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนทำให้ผมต้องถดหน้าหนี

    ผมยกมือขึ้นตีเขาก่อนจะเอ่ยปากว่าไปอย่างไม่ได้จริงจังนัก

     
     

     

    “พอเลยนะ! ได้คืบจะเอาศอก!

     

     

    ผมแกล้งทำเป็นโวยวายก่อนจะหันหน้าหนี รู้สึกเขินเมื่อได้คิดถึงจูบหวานเมื่อครู่

    อยากจะสัมผัสอีก...แต่ผมคิดว่าผมควรจะเล่นตัวเสียหน่อยก็คงจะดี...

     

     

    “ก็มันหวานจริงๆนี่นา...อ่า  แต่ถ้านายไม่ชอบก็ไม่เป็นไร

    แล้วสรุปยังคิดว่าฝันไปอยู่หรือเปล่าหืม?”

     

     

    ชานยอลถามก่อนจะวาดแขนมาโอบที่รอบบ่าผมดังเดิม

    ผมเกยไหล่ของผมไปบนอกเขา ก่อนจะแสร้งทำเป็นครุ่นคิด

     

     

    “ไม่รู้สิ...นี่ยิ่งเหมือนฝันไปใหญ่เลย”

     

     

    “ที่พูดนี่อยากให้จูบอีกใช่ไหมเนี่ย?”

     

     

    ชานยอลยกยิ้มแหย่ ผมหันขึ้นไปมองหน้าเขาก่อนจะยกนิ้วขึ้นจิ้มที่แก้มของเขาทีหนึ่ง

     

     

    “พาโบยา...ชานยอลอา

    นายนี่โง่จริงๆ เรื่องอย่างนี้นายควรถามฉันหรือไง?”

     

     

    ผมยกยิ้มออกมาบางๆพลางมองลงมาริมฝีปากสีแดงของเขา

    ชานยอลยกยิ้มและหัวเราะออกมาอย่างร่าเริงเพราะคำพูดของผม

    ก่อนที่จะโน้มหน้าเข้ามา กระซิบที่ริมฝีปากแล้วบอกกับผมว่า

     

     

    “อ่า...งั้นถ้าคิดว่าฝันอยู่ก็ฝันต่อไปก็ได้นะ...

    แต่ฉันคิดว่าเดี๋ยวนายก็ตื่นแล้ว

    .

    .

    .

    .

     

     

    เพราะฉันจะปลุกนายให้ตื่นด้วยจูบแห่งรักของฉันเอง” 










     

    -   THE  REAL  END  - 









     

    อ่าฮะ...มันจบแล้วค่ะ  มันจบแบบกากๆแบบนี้แหละค่ะตามพล๊อตที่ตั้งไว้เป๊ะเลยย
    แต่ไรเตอร์จะขออธิบายเสริมเรื่องความรู้สึกของชานยอลที่มีกับน้องแบคหน่อย กลัวรีดเดอร์จะไม่เข้าใจที่ไรท์จะสื่อ
    คือ...อิหยอยมันไม่รู้  ไม่เคยรู้  และไม่มีท่าทีว่าจะรู้มาก่อนเลยค่ะว่าน้องแบคชอบมัน
    แต่ที่มันพูดออกไปพาฟินแต่ละครั้งนี่  เพราะมันเห็นว่าแบคน่ารัก...(หน้าม่อล้วนๆ)

    ใครที่ตั้งสมมติฐานมาว่าหยอยเองก็ชอบน้องแบคอยู่เหมือนกันล่ะไรท์เตอร์ต้องขอกราบอภัยด้วยจริงๆนะคะ
    แต่เรื่องนี้อิชานหยอยโง่ตั้งแต่ต้นเรื่องจนจบเรื่องเลยค่ะ 5555555555555 #โดนเมนหยอยถีบ
    แต่มันก็จบแบบน่ารักแบบที่อยากได้แล้วเนอะ หวังว่าคงชอบและเคลียร์กันนะคะ



    วันนี้ไรเตอร์มาลงช้ากว่าที่ตั้งใจนิดหน่อยเพราะว่าเกิดอุบัติเหตุค่ะ รถมอไซไปชนมาข้อมือซ้ายเดี้ยงไปแหล่วววว...
    ถ้าใครตามไรเตอร์ในทวิตก็คงรู้ข่าวเพราะว่าไรเตอร์ดราม่าไปพอสมควร 555555
    แต่ก็มาลงให้ตามสัญญาแล้วนะ อย่าโกรธกันนะคะ 
    อ่านตอนนี้ให้สนุกนะคะ เจอกันตอนหน้าค่ะ




    .

    .


    .




    แหม่ะ...งงล่ะสิตอนหน้าอะไร 

    คึคึ...อยากรู้พรุ่งนี้มาติดตามนะคะ >3

     

    ♥ 
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×