คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ✚ SH0T 6 :: UNMASK...
Author : MR.SNOWMAN
Pairing : D.O. x Kyungsoo
Rate : NC - 18
THE TWINS*
-------------------------------------------
ll SH0T 6 ll
“นี่ถ้าพวกมึงจะจ้องกันขนาดนี้กูว่าลุกขึ้นต่อยกันไปเลยดีกว่ามั้ยวะ?”
เสียงของ ปาร์ค ชานยอล พูดขึ้นมาในขณะที่เขาก็กอดอกและกลอกตาไปมาอย่างน่าเบื่อหน่าย
ในห้องสมุดของมหาลัยในตอนนี้ผู้คนบางตาเพราะกำลังย่ำค่ำแล้ว
พวกผม ซึ่งประกอบไปด้วย จงอิน ชานยอล ดีโอ แบคฮยอน และผม กำลังนั่งค้นข้อมูลทำรายงานกันอย่างใจจดใจจ่อ
แต่เห็นจะมีก็แค่จงอินกับดีโอเท่านั้นแหละที่กำลังจ้องหน้ากันอย่างเอาเป็นเอาตายอยู่ตอนนี้
เพราะจงอินก็กวนประสาท ดีโอก็ไม่ยอมใคร...มันเลยน่าปวดหัวสิ้นดี
“ก็บอกให้ไอ้จงอินเลิกจ้องกูสิ...เดี๋ยวกูก็เลิกจ้องมันเองอ่ะ” ดีโอกอดอกและตอบชานยอลไปอย่างหน่ายๆ
“อ้าว...มึงพูดอย่างนี้หมายความว่ากูไปหาเรื่องมึงก่อนว่างั้น?” จงอินถามกลับมาอย่างไม่ค่อยจะพอใจเท่าไหร่นัก
ผมมองหน้าดีโอกับจงอินออกมาก่อนจะพรูลมหายใจออกมายาวเหยียด
ยกมือขึ้นไปบีบที่บ่าดีโอเบาๆเพื่อปรามเขาไม่ให้ทำให้บรรยากาศบนโต๊ะมันแย่ไปมากกว่านี้
“อะไร? ฉันไม่ผิดซักหน่อย”
ดีโอพูดออกมาด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
เขามองหน้าผมราวกับคาดโทษที่ผมเข้าข้างจงอินมากกว่าเขาอะไรแบบนั้น
“ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรซักหน่อย...อย่าเพิ่งโมโหสิ
ฉันแค่บอกว่าฉันยังขาดข้อมูลทำรายงานอยู่นิดหน่อย นายไปช่วยฉันค้นตรงโน้นดีไหม?”
ผมชักชวนดีโอให้ออกไปจากบรรยากาศน่าอึดอัดที่คิดว่าผมน่าจะเกิดจากผมเป็นต้นเหตุ
ผมเพียงแค่อยากจะให้ดีโอใจเย็นลงหน่อยเท่านั้น...
เพราะความจริงผมเองก็ไม่ได้ตั้งใจเสียหน่อย และเรื่องที่เกิดมันก็มีสาเหตุเล็กน้อยแค่นิดเดียว
ไม่อยากจะบอกให้อายเลย...แต่แค่ผมรับน้ำจากจงอินมาดื่ม ดีโอก็โมโหผมจะตายอยู่แล้วล่ะครับ...
...เฮ้อ...
“ฉันขี้เกียจ”
เขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดซึ่งเป็นอันบอกให้ผมเข้าใจว่าเขายังคงงอนผมอยู่
ผมยกยิ้มออกมาบางๆอย่างเหนื่อยใจ ก่อนจะไปกระซิบที่ข้างหูดีโอทีหนึ่ง
“ถ้ายอมไปด้วยคืนนี้จะยอมให้ยกนึง แต่ถ้าไม่ไปก็ --- อดนะ”
ผมกระซิบเสร็จแล้วก็ลุกขึ้นจากโต๊ะทันที
โดยไม่ต้องรอว่าดีโอจะให้คำตอบผมแบบไหน...
แต่ผมมั่นใจว่ายังไงเขาก็ต้องมาแน่ๆ...
ผมปรี่เดินเข้าไปในโซนชั้นหนังสือด้านในของห้องสมุด...
ซึ่งบัดนี้ถูกปิดไฟไปแล้วบางส่วนเพราะใกล้จะปิดทำการแล้ว
ผมรู้สึกกลัวหากแต่รายงานจำเป็นต้องใช้หนังสืออย่างเร่งด่วนเพราะกำหนดส่งคือวันพรุ่งนี้ตอนเที่ยง
ผมเดินเข้าในด้านในสุดของชั้นหนังสือ...มือเรียวก็ไล้ตามสันหนังสือเพื่อมองหาชื่อหนังสือที่ดูเข้าตา
ใจผมชื้นขึ้นมาเมื่อเห็นดีโอเดินดุ่มๆตามเข้ามา แม้ว่าจะทำใจไว้ล่วงหน้าว่าจะต้องโดนเขาฉวยโอกาส
แต่แน่นอนว่าสถานการณ์ในตอนนี้ผมไม่มีสิทธิจะอิดออดหรือทักท้วงอะไรได้อยู่แล้ว...
“อ๊ะ! ไม่เอาน่า...เดี๋ยวพวกนั้นก็เห็นเอาหรอก”
ผมกระซิบเมื่อดีโอคล้องเอวผมมาจากทางด้านหลัง เขาดึงผมเข้าไปกอดเสียแนบชิด
โดยที่ไม่กี่อึดใจต่อมา เขาก็ก้มลงมาหอมฟอดที่ท้ายทอยของผมเสียทีหนึ่ง
“ฉันไม่สน...”
ดีโอตอบกลับมาอย่างไม่ใส่ใจอะไร...ริมฝีปากของเขากำลังลามไล้มาที่ใบหูของผมจนทำให้ผมรู้สึกขนลุก
ผมแสร้งทำเป็นไม่สนใจเขา โดยการยกมือขึ้นควานหาหนังสือบนชั้น...
แต่แน่นอนว่ามันดึงดูดความสนใจจากลมหายใจอุ่นๆที่เป่ารดมาที่ต้นคอไม่ได้
ไม่ได้การ...ขืนเป็นอย่างนี้ทุกคนได้รู้ความลับๆของเรากันหมด
“อื้ออ...ไม่เอาน่าดีโอ นายไม่สนแต่ฉันสนนะ”
ผมเบี่ยงตัวหนีก่อนจะหันหน้าไปตีเขาที่บ่าเบาๆเสียทีหนึ่ง
ดีโอคว้าผมเขาไปกอดไว้อีกหนจนจมูกเราอยู่ห่างกันแค่คืบ
“ทำไมต้องสน...ก็บอกเขาไปเลยสิ”
“บ้าหรือไง...ห้ามบอกเด็ดขาดนะ”
“งั้นก็ยอมสิ...แล้วสัญญาว่าจะไม่บอก”
ผมเบ้ปากเมื่อได้รับรู้ว่าสุดท้ายแล้วก็แพ้ดีโออีกจนได้
ถอนหายใจออกมาเมื่อรู้สึกว่าจนตรอก เมื่อดีโอดันผมมาติดขอบชั้นหนังสือเบื้องหลัง
ใบหน้าของเขาเคลื่อนคล้อยเข้ามาใกล้...หัวใจผมเต้นตึกตักทั้งๆที่รู้จักกับริมฝีปากนุ่มนี้มานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว
“ก็ได้... งั้น -- แค่จูบเท่านั้นนะ”
ผมกระซิบ...เมื่อริมฝีปากของดีโอถูกโน้มเข้ามาใกล้
ดีโอยกยิ้มในขณะที่สายตาก็เอาแต่จ้องที่ริมฝีปากของผมไม่วางตา
“แค่จูบก็ได้...ติดไว้ก่อนนะ คืนนี้โดนจัดหนักแน่ๆ อย่าคิดหนีเชียว...”
ดีโอก้มลงมาประชิดติดริมฝีปากของผม...ลมหายใจของเราเริ่มขาดห้วงเพราะเสียงกระซิบที่แผ่วเบาจนเกินไป
ผมยกยิ้มออกมาเมื่อรู้สึกว่าคำพูดของดีโอช่างเป็นเรื่องน่าขัน...
“กลัวที่ไหน...” ผมกระซิบตอบ ก่อนที่ดีโอจะก้มลงมาบดริมฝีปากนุ่มลงมาหนักหน่วง
ลิ้นเล็กๆของเราถูกตวัดเปลี่ยนแลกเปลี่ยนลมหายใจกันราวกับปรารถนาสิ่งที่มากกว่า
หากแต่สัญญาต้องเป็นสัญญา...
สิ่งที่ผมกับดีโอทำได้ในตอนนี้ก็คือดื่มด่ำกับจูบร้อนแรงจนแทบละลายตอนนี้ก็เท่านั้น
โอเค...ผมสัญญาว่าคืนนี้ผมจะให้เขามากกว่าจูบ
.
.
.
.
จริงๆนะ...สัญญาต้องเป็นสัญญา
************
“มึงจะตายไหมถ้าไม่ได้กัดกับไอ้ดีโอมันซักวินาทีหนึ่งน่ะ!”
ชานยอลพูดขึ้นอย่างหงุดหงิดก่อนที่จะโยนชีทเอกสารในมือลงไปกับโต๊ะอย่างเบื่อหน่าย
"ก็มันหาเรื่องกูก่อนพวกมึงก็เห็น
กูไม่ได้ทำอะไรเลยด้วยซ้ำ แค่ยื่นให้คยองซูกินน้ำขวดเดียวกันแม่.งก็กวนตีนใส่กูแล้ว แล้วสรุปกูผิดเหรอ?"
จงอินกอดอกพลางขมวดคิ้วอย่างขัดใจ เพราะดูเหมือนเพื่อนๆจะเข้า ข้างดีโอกันหมด
จงอินยกประเด็นขึ้นมาถกเถียง แต่ก็ไม่ได้ทำให้ชานยอลกับแบคฮยอนคลายหัวคิ้วที่กำลังขมวดลงได้เลยซักนิด...
"ก็รู้ว่ามันไม่ชอบให้ไปยุ่งกับคยองซูแล้วมึงจะทำไปทำไมล่ะ? นี่แหละที่เค้าเรียกว่ากวนตีน
ถ้ามึงอยากให้รายงานกลุ่มเรารอดก็ช่วยๆหุบปากหน่อยเถอะ
เราจะแปลเปเปอร์ภาษาอังกฤษเล่มหนานั้นได้ยังไงถ้าไม่มีไอ้ดีโอคอยช่วย"
แบคฮยอนเป็นฝ่ายที่ตอบคำถาม
ในขณะที่นิ้วเรียวสวยก็ถูกยื่นออกมาจิ้มบนหน้าปกกระดาษกองหนาที่วางอยู่บนโต๊ะ
"ยังไงๆคยองซูก็เป็นแฟนเก่ากู...
สมมติถ้ากูจะจิ๊จ๊ะกับคยองซู แล้วกูผิดตรงไหน?"
"มึงมันก็แค่แฟนเก่า...แต่นั่นมันฝาแฝด!
และถ้ามึงแหกตาดูซักหน่อยก็จะรู้ว่าไอ้ดีโอแม่.งหวงคยองซูอย่างกับอะไรดี"
"ทำไมแม่.งต้องหวงขนาดนั้น...นี่มันแฝดหรือพ่อ"
"กูว่าความจริงแล้วเรื่องเดียวที่ไอ้ดีโอมันงี่เง่า ก็มีแค่เรื่องคยองซูนี่แหละ...
ถ้าเป็นเรื่องอื่นกูว่ามันก็เป็นเพื่อนที่ดีนะ" ชาลยอลพูดในขณะที่ยกมือขึ้นมากอดอกไว้แน่น
"เหอะ...ดีตายล่ะ" จงอินเบ้ปากอย่างหมั่นไส้เมื่อได้ยินอย่างนั้น...
"มึงมันก็ตั้งแง่กับไอ้ดีโอมากไป...
ไม่สิ ต้องบอกว่าไอ้ดีโอตั้งแง่กับมึงมากกว่า
และนั่นก็เพราะว่ามึงเป็นแฟนเก่าของคยองซู"
แบคฮยอนเอียงคอแล้วให้เหตุผล...
เขาถอนหายใจออกมาหนักๆเมื่อเห็นว่าจงอินยังคงยักไหล่ราวกับอยากจะปัดเหตุผลนั้นให้ตกไป
และดูเหมือนว่าเขาไม่ได้คิดอยากจะทำความเข้าใจในเหตุผลที่แบคฮยอนหยิบยกมาพูดเลยซักนิด
"เหอะ...แล้วทำไมมันต้องเกลียดกูเพราะเหตุผลนี้ล่ะ
ไม่สมเหตุสมผลกันเลยว่าไหม?" จงอินถามในขณะที่ก็หรี่ตาลงอย่างสงสัย
"อาจจะเพราะว่ามึงไปทำให้คยองซูเสียใจล่ะมั้ง
ถ้ามึงมีพี่มีน้องแล้วมีคนมาทำร้ายพี่น้องของมึง
มึงก็ต้องเกลียดเขาเป็นธรรมดา"
แบคฮยอนตอบพลางยักไหล่ จงอินกลืนน้ำลายเมื่อได้ยินอย่างนั้น
อันความจริงเขาไม่เคยทำร้ายคยองซูซักหน่อย...ก็แค่นอกใจ...
โอเค...เรียกว่าทำร้ายก็ได้ถ้าคุณอยากจะเรียกอย่างนั้น
แต่อย่ามองผมในแง่ร้ายนักเลยนะครับ แต่ในเมื่อเราเข้ากันไม่ได้ เราเลิกกันไปมันก็ถูกแล้วนี่...
"แต่กูรู้สึกว่ามันแปลกๆนะ...เหมือนมีบางอย่างที่กูรู้สึกว่ามันไม่ใช่"
ชานยอลเอ่ยขึ้นมาเบาๆด้วยน้ำเสียงคลุมเครือ...
ทำให้ทั้งจงอินและแบคฮยอนต้องหันไปมองเขาอย่างสงสัย
"มึงหมายความว่าไง?" จงอินถาม
ชานยอลยักไหล่หากแต่ยังคงทำหน้าครุ่นคิดราวกับจะไตร่ตรองว่าควรพูดหรือเปล่า
หากแต่เงียบไปในอึดใจหนึ่งเขาก็เริ่มพูดต่อ...แต่ด้วยเสียงที่แผ่วเบาจนจงอินต้องเงี่ยหูฟัง
"บางทีกูก็รู้สึก...ก็แค่ความคิดบ้าๆน่ะ ...
กูรู้สึกว่า สองคนนี้รักกันมากกว่าฝาแฝดคู่อื่นๆที่กูเคยเจอมา"
"มึงหมายความว่าอะไร?" แบคฺยอนถาม
"กูกำลังคิดว่า สองคนนี้มีซัมติงรอง"
"เฮ้ย!!" แบคฮยอนร้อง
"มึงบ้าแล้ว!!!" จงอินตวาดออกมาอย่างไม่เชื่อหู...
"โอเค...กูก็รู้ว่ามันเป็นแค่ความคิดบ้าๆ
แต่มันมีหลายอย่างที่ทำให้กูคิดอย่างนั้น" ชานยอลยกมือห้ามเพื่อนทั้งสองคนให้หยุดฟังที่เขาพูด
"หลายอย่างของมึงนี่อย่างเช่นอะไรบ้าง"
"ก็อย่างเช่น...อาการหึงหวงคยองซูจนออกนอกหน้าของไอ้ดีโอ
แล้วมึงคิดดูเถอะ...ว่าทุกครั้งที่ไอ้ดีโอมันหึงจนเลือดขึ้นหน้า
คยองซูแม่.งก็ต้องลากไอ้ดีโอออกไปสองต่อสองตลอด แล้วกลับมาก็ดีกัน...
มันทำให้กูคิดนะ ว่าสองคนนี้แม่.งต้องมีอะไร...
กูเคยเห็นคยองซูมีรอยแดงๆที่คอ...แต่ก็แค่แว่บเดียวเท่านั้น...
มึงสังเกตเอาเถอะว่าช่วงนี้มันใส่เสื้อคอปกตลอดจนผิดสังเกตุ
แถมอีกอย่างนะ...ช่วงนี้คยองซูก็ติดไอ้ดีโอแจเลย พักหลังนี้ก็ดูมีน้ำมีนวลมากขึ้นด้วย...
ไม่รู้อ่ะ กูรู้สึกว่าช่วงมัน...น่ารักขึ้นนะว่าป่ะ"
แบคฮยอนได้ฟังแล้วก็กลืนน้ำลาย อดยอมรับไม่ได้ว่าเริ่มคล้อยตามไปกับข้อสันนิษฐานของเพื่อน
หากแต่ก็ยังส่ายหน้าแล้วแก้ตัวออกไปแทนคนทั้งคู่เพราะรู้สึกว่าเรื่องนี้มันบ้าเกินกว่าจะเอามาพูดกันเล่นๆ
"มึงบ้าล่ะ พวกมันเป็นพี่น้องกันนะ มันแค่อาจจะรักกันมากไปหน่อย
กูมั่นใจว่าคยองซูไม่ทำงั้นหรอก แต่ถ้าเป็นไอ้ดีโอก็ไม่แน่ มันไม่ค่อยแคร์อะไรด้วยนิ
แต่ไม่หรอกน่า..ไอ้ดีโอมันเป็นคนฉลาดนะ มันต้องรู้สิว่าอะไรควรทำไม่ควรทำ"
"ไม่รู้...กูก็แค่สันนิษฐาน
มันมีหลายอย่างที่ทำให้กูคิดนี่นา" ชานยอลพูดขึ้นมาพลางยักไหล่...
"ว่าแต่ทำไมไอ้พวกนั้นไปหาหนังสือกันนานจัง"
จงอินเอ่ยขึ้นอย่างร้อนรนเมื่อยกนาฬิกาขึ้นดูและพบว่ามันเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้วที่พวกเขาหายไป
ไม่ชอบใจเลยที่ได้ยินอย่างนั้น...ถึงแม้ว่าตอนนี้เขาจะไม่ได้รักคยองซูแล้วก็เถอะ
แต่ในฐานะเพื่อนก็อดเป็นห่วงไม่ได้ถ้าหากว่ามันจะเป็นอย่างที่ชานยอลพูดจริงๆ...
"มันง๊องแง๊งงอแงง้องอนกันอยู่ไง
เมื่อกี้ไอ้ดีโอหึงหนัก...กูว่าคยองซูไม่น่ารอด"
ชานยอลเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงกึ่งเล่นกึ่งจริงจัง
ทำเอาแบคฮยอนต้องคว้าเอาสมุดตัวเองที่วางอยู่ตรงหน้า ไปฟาดเข้าที่ไหล่ของชานยอลเบาๆทีหนึ่ง
"มึงนี่มันโรคจิต!! หุบปากไปเลยกูขนลุก
จงอิน...มึงช่วยไปตามสองคนนั้นที
นี่จะสามทุ่มแล้ว ห้องสมุดกำลังจะปิดแล้วด้วย กูว่าเราควรจะกลับกันได้แล้วนะ"
แบคฮยอนยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูเวลา แล้วเริ่มถอนหายใจออกมาเบาๆ
เมื่อเขาพบว่าห้องสมุดกำลังจะปิดและงานของพวกเขาก็ยังไปไม่ถึงไหน...
"เออๆ...เดี๋ยวกูไปตามให้เอง รออยู่นี่ก่อนนะ"
จงอินว่าแล้วก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินไปตามชั้นหนังสือในห้องสมุด
ที่บัดนี้บรรณารักษ์เริ่มจะปิดไฟเพื่อไล่นักศึกษาในห้องสมุดให้กลับบ้าน
แสงไฟในห้องสมุดจึงค่อนข้างมืดสลัว และชั้นหนังสือบางชั้นก็ปิดไฟเสียสนิท
จงอินสอดส่ายสายตาไปทั่วชั้นหนังสือ แต่ก็ไม่พบคยองซูและดีโอเลย
ห้องสมุดนี้ไม่ได้กว้าง...แต่ด้วยชั้นหนังสือที่ถูกจัดวางกันสลับซับซ้อนก็ไม่ได้ทำให้ห้องสมุดเล็กๆแห่งนี้คับแคบลงไป
จงอินเลือกที่จะเดินไปตามทางเดินเงียบๆ
จนกระทั่งเดินมาจนสุดทางเดินจงอินจึงต้องกระตุกหัวคิ้วด้วยความประหลาดใจ
เสียงหัวเราะคิกคักของคยองซู...
จงอินเดินตามเสียงเล็กๆที่ดังแว่วมาในความมืดแล้วก็ต้องแปลกใจ
จนกระทั่งมาหยุดอยู่ที่หน้าชั้นหนังสือหมวดวิทยาศาสตร์ที่มืดสนิทแต่ไม่ได้เดินเข้าไปในนั้น
จงอินมองเห็นเงาตะคุ่มๆของคนสองคนภายในนั้นแต่จับไม่ได้ว่าพวกเขากำลังทำอะไรกันอยู่
หัวใจของจงอินดิ่งวูบเมื่อได้ยินเสียงจ๊วบจ๊าบแปลกประหลาด ดังมาจากข้างใน
ไม่นะ...มันไม่จริงใช่ไหม
หัวใจกระตุกเมื่อได้นึกถึงคำพูดของชานยอลก่อนหน้านี้
ดวงตาเริ่มปรับตัวเข้ากับความมืดได้ทีละนิด...เมื่อนั้นจงอินก็พบว่าคนสองคนกำลังยืนใกล้กันจนเรียกได้ว่าเบียด
จงอินกลืนน้ำลายในขณะที่ยกมือถือของตัวเองขึ้นไปเบื้องหน้า
ก่อนจะกดที่ปุ่มๆหนึ่งเพื่อให้หน้าจอมือถือฉายไฟสว่าง....
พระเจ้า....
.
.
.
.
.
"พวกนายกำลังทำบ้าอะไรกัน?!"
✚ TALK
Writer's back…..
ขยายเวลาดราม่าออกไปเป็นตอนหน้า
อา...เห็นเมฆครึ้มๆมาโน่นไหมคะ?
ฝนต้องตกหนักแน่เลย
......เราขอโทษนะคยองซู
ป.ล. ตอนนี้ทั้งตอนถูกแต่งขึ้นในโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ Blackberry
ขออภัยถ้าอ่านแล้วไม่เข้าใจหรือมีคำผิด...
ถ้าพบเห็นกรุณาเม้นท์บอกไว้นะคะ แล้วไรเตอร์จะรีบมาแก้ให้ทันทีค่ะ :)
ความคิดเห็น