ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF-EXO] ✚ :: THE FL0WERS:: ✚ [ KRIS x D.O.]*

    ลำดับตอนที่ #4 : ✚ SH0T 4 :: THE LAST CARNATION

    • อัปเดตล่าสุด 2 ก.ค. 55


    Author : MR.SN0WMAN
    Pairing : KRIS x KAI x D.O. 
    Photo by : PickaJae★PickaJi 
    Rate : PG-13
     
     


    THE FL0WERS*
     
     


    -------------------





    SH0T 4  :  THE LAST CARNATION *





    คำเตือน :: มันดราม่า...มาก




    .



    .



    .



    .










    “นายแน่ใจแล้วเหรอว่าจะทำแบบนี้...?” 




    โอ เซฮุน หันหลังกลับไปถามผู้ชายผิวสีแทนที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องพักนักกีฬาด้านหลัง
    จงอินกัดริมฝีปากอย่างเจ็บปวดเมื่อได้มองเห็นแผ่นหลังบางของคยองซูที่วิ่งห่างไปไกล
    ไหล่บางที่ตกลู่นั้นทำให้จงอินรู้ว่าคยองซูกำลังร้องไห้...




    จงอินเงยหน้าขึ้นเพื่อพยายามจะหักห้ามน้ำตาเอาไว้ไม่ให้ไหลลงมา
    ในมือข้างหนึ่งถือดอกไม้ที่เขามักจะแอบเอาไปใส่ไว้ในล็อคเกอร์ของคยองซูเสมอ...คาร์เนชั่นสีแดง
    แรกเริ่มจงอินไม่รู้หรอกว่าความหมายของมันคืออะไร หากแต่เขาหลงรักสีสดสวยของมันเท่านั้น
    สีแดงสดที่สาดสีสดใสอยู่บนกลีบดอกไม้ในมือเขา 
    เป็นเหมือนสีสันที่จงอินอยากจะมอบให้ใครซักคน...คนที่เขารัก...
    หากแต่สีแดงสดของมันในตอนนี้ กลับกลายเป็นดอกไม้ฉานฉ่ำสีเลือดที่ไหลลงมาจากบาดแผลในหัวใจของจงอิน...
    บาดแผลที่แม้แต่เขาเองก็ไม่เคยอยากจะรักษาให้มันหายขาด... 




    เขารู้ดีว่าคยองซูไม่เคยคิดกับเขามากกว่าเพื่อนคนหนึ่ง
    แต่เป็นเขาเองที่หลอกตัวเองเรื่อยมา...แอบรักแอบปรารถนาว่ามันจะเป็นจริงได้ซักวัน





    “ฉัน...ฝากดอกไม้ไปให้คยองซูได้ไหม?”




    จงอินพูดขึ้นเสียงเครือ...เขารู้สึกว่าเขาไม่มีแก่ใจจะเอามันไปไว้ที่เดิมอีกแล้ว
    เขาไม่รู้ว่าเขาทำอะไรอยู่ ไม่รู้แม้แต่ว่าทำไปเพื่ออะไร...หากแต่เขาก็ยังอยากทำ
    ถึงแม้เขากับคยองซูจะไม่ได้เจอหน้ากันเหมือนเดิม แต่เขาก็ยังอยากจะทำให้ทุกอย่างเป็นปกติ
    มันคงกลายเป็นหน้าที่ของเขาไปแล้ว – หน้าที่ๆจะทำให้คยองซูเข้าใจและมั่นใจ
    ว่าไม่ว่าคยองซูจะมีใคร หรือเวลาผ่านไปแค่ไหน...ก็ยังจะมีใครซักคนที่มองเขาจากที่ไกลๆอยู่ตรงนี้ 
    มีผู้ชายคนหนึ่งที่พร้อมจะมอบคาร์เนชั่นสีแดงให้เขา ถึงแม้ว่ามันจะไม่เคยอยู่ในสายตาของคยองซูเลยก็ตาม...





    “เลิกโกหกตัวเองซักทีจงอิน...นายต้องไปบอกเขา” 




    เซฮุนกระซิบ แววตาปวดร้าวในแววตาของจงอินทำให้เขารู้สึกว่าบรรยากาศรอบตัวหดหู่ไปหมด...
    เซฮุนรู้ดีว่าจงอินแอบรักคยองซูมานานแค่ไหน รู้ดีมานานเกินไปแล้วด้วยซ้ำ...



    “ฉันทำไม่ได้”




    “นายมันคนปอดแหก!! ทำแบบนี้มันมีความสุขหรือไง!
    โรคจิตเหรอ? หรือเป็นพวกซาดิสม์ชอบความเจ็บปวด?!!
    นายต้องไปบอกเขาจงอิน! นายต้องไปบอกเขาว่านายรักเขาแค่ไหน
    เก็บไว้แบบนี้มันมีประโยชน์อะไร...รู้ไหมนายทำอย่างนี้เขาเรียกว่าโง่”




    เซฮุนตวัดเสียงตะโกนออกมา...เขาไม่แน่ใจนักว่าทำไมถึงต้องโกรธ
    เขาแค่ไม่ชอบใจเลยที่เห็นจงอินทำหน้าตาร่ำๆราวกับจะร้องไห้อย่างนั้น




    “บอกไปมันก็ไม่มีประโยชน์หรอกเซฮุน...ฉันรู้ดีว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้
    ถึงบอกหรือไม่บอกฉันก็เจ็บเท่ากันอยู่แล้ว นายรู้ไหมว่าทำไม?
    เพราะเขาไม่เคยรักฉัน – เพราะถึงแม้เขาจะไม่มีอาจารย์นั่นเขาก็ไม่เคยคิดกับฉันเกินกว่านี้
    นายอาจจะว่าฉันโง่ก็ได้...แต่ฉันมั่นใจว่าการไปบอกคยองซูเป็นอะไรที่โง่มากกว่า”




    จงอินหัวเราะเบาๆในลำคออย่างเย็นชา...
    เขาหลับตาลงเมื่อมองเห็นกลีบดอกไม้กลีบหนึ่งหลุดร่วงลงไปบนพื้น




    “แต่ถ้าฉันเป็นนาย ฉันจะบอกเขา... ถึงแม้มันอาจจะไม่มีประโยชน์แต่ฉันก็ยืนยันที่จะบอกเขา
    อย่างน้อยการที่ฉันได้บอกเขามันก็ทำให้ความรู้สึกของฉันมีค่า
    ความรู้สึกของคนเรามันไม่ใช่ของที่จะเอามาทิ้งขว้างเข้าใจไหม?!

    ถึงแม้คำตอบมันจะเลวร้าย แต่อย่างน้อยฉันก็ได้แสดงตัวตนของฉันออกมา
    ไม่ใช่เอาแต่โทษนั่นโทษนี่รอวันเวลาให้มันผ่านไปแบบนี้...

    รู้ไหมอย่างน้อยถ้าฉันบอกเขาไปแล้วเขาไม่ตอบรับ มันก็ไม่เป็นไรเลย 
    เพราะนั่นทำให้ฉันแน่ใจแล้วกลับมาบอกตัวเองว่าฉันควรทำอะไรต่อไป
    ไม่ใช่รอเวลาแล้วก็มาคิดอะไรเอาเองแบบนี้! 

    กล้าสิจงอิน! กล้าแล้วบอกคยองซูไปซะ!
    นายอาจจะกลัวคยองซูลำบากใจ แต่การบอกความรู้สึกตรงๆออกไปมันไม่ใช่เรื่องเห็นแก่ตัวหรอกนะ 
    เพราะไม่แน่มันอาจจะทำให้เรามีตัวตนในสายตาเขาขึ้นมาบ้างก็ได้...”




    เซฮุนพูดรัวเร็วด้วยความโมโห ก่อนจะหันหลังกลับแล้วเดินออกมาจากตรงนั้น
    ทิ้งให้จงอินยืนอยู่ตรงนั้นเพียงลำพัง และไตร่ตรองคำพูดของเซฮุนอย่างเจ็บปวด...





    เพราะเขารู้ดีว่าเขาไม่มีทางจะกล้าบอกคยองซู...





    .



    .



    .



    .






    คยองซูโดดเรียนมานั่งอยู่ที่เกมส์เซ็นเตอร์แห่งหนึ่งใกล้ๆกับห้างสรรพสินค้า
    ทั้งๆที่ตอนนี้คือคาบเรียนที่คริสเป็นคนสอน แต่เขาก็ยังทำใจไปเรียนไม่ได้
    หลายเรื่องที่เจอกำลังวนเวียนอยู่ในสมองของเขาไปหมด...
    คยองซูไม่ชอบเล่นเกมส์นัก แต่ที่เขาเข้ามาภายในร้านเขาเพียงแต่หวังว่ามันจะทำให้เขาหายเศร้า 
    แต่ไม่เลย --- มันช่วยไม่ได้จริงๆ...




    โทรศัพท์เครื่องบางยังคงสั่นไม่หยุด...คยองซูเลิกสนใจมันไปแล้วโดยสิ้นเชิง
    เพราะชื่อที่ขึ้นมาบนหน้าจอไม่ใช่ใครที่ไหน หากแต่เป็นชื่อของคริส
    คยองซูเอนศีรษะอันหนักอึ้งลงไปกับเครื่องสล๊อตแมชชีนตรงหน้าเครื่องหนึ่งก่อนจะหลับตา

    เขาได้ฟังเสียงดนตรีที่ดังมาจากเครื่องเล่นต่างๆ 
    ได้ยินเสียงจากกลุ่มวัยรุ่นที่ส่งเสียงพูดคุยกันอย่างสนุกสนานแล้วก็ต้องหลับตา...
    ไม่อยากจะเชื่อจริงๆ ว่าท่ามกลางผู้คนมากมายในสถานที่ๆวุ่นวายแห่งนี้...
    ความเจ็บปวดและความเหงาของคยองซูกลับแผ่กระจายไปทั่วหัวใจดวงน้อยอย่างเหลือเชื่อ




    น้ำตาของเขาค่อยๆรินไหลลงมาอย่างเงียบๆ...
    ไหลลงมาพร้อมหลากหลายความรู้สึกที่เขากำลังเผชิญอยู่ตอนนี้


    น้อยใจ --- น้อยใจที่คริสยังคงทำเหมือนว่าเขาเป็นคนอื่นคนไกล 
    ทั้งๆที่เขาเอาทั้งหัวใจของคยองซูไปครอบครองแล้วโดยไม่มีเงื่อนไข 
    อันที่จริงเป็นเพราะเขาเองต่างหากที่ยื่นหัวใจไปให้คริส...แต่เขาเองไม่เคยมองเห็นมัน


    ไม่เข้าใจ --- ไม่เข้าใจที่จงอินหายไปจากชีวิตของเขา 
    โดยที่เขาไม่ได้มีโอกาสแม้แต่จะถามว่าเพราะอะไรเลยด้วยซ้ำ...
    จงอินเป็นอะไรกันนะ เพราะอะไร? ทำไมเขาถึงเป็นแบบนี้?


    โกรธ --- โกรธตัวเองที่ทอดทิ้งจงอินไว้นานเหลือเกิน 
    มันนานเท่าไหร่แล้วนะที่เขาไม่ได้สังเกตเลยว่าจงอินกำลังมีปัญหา 
    ถึงแม้ว่าเขาจะได้เจอจงอินแค่อาทิตย์ละชั่วโมงครึ่ง...
    แต่ทำไมเขาไม่เคยสังเกตุเลยนะว่าจงอินเปลี่ยนไป




    ทำไมแกถึงโง่อย่างนี้วะคยองซู...?





    .


    .


    .


    .


    .





    คยองซูไม่มีที่ไป...
    เขายังไม่อยากกลับบ้าน เพราะถ้าเขาไม่คิดเข้าข้างตัวเองเกินไป และเพราะโทรศัพท์ที่ยังคงสั่นอยู่เรื่อยๆในขณะนี้
    ทำให้เขาคิดว่าตอนนี้คริสอาจจะรออยู่ที่บ้าน เพื่อจะเทศน์เขา ดุเขาที่โดดเรียน ที่ทำตัวแย่ ที่ไม่รับโทรศัพท์
    หรืออะไรก็ตามที่มันอาจจะทำให้เขาเผลอตัวบอกความในใจที่แท้จริงออกไปก็ได้...






    คยองซูเดินเรื่อยเปื่อยจนมาถึงหน้าบ้านของจงอิน...
    ทั้งๆที่เขาก็รู้ดีว่าตอนนี้ไม่มีใครอยู
    หากแต่เขาเองก็ยังยืนยันที่จะกดออดหน้าประตูบ้านของจงอินอย่างตั้งใจ...
    คยองซูถือวิสาสะเปิดประตูเดินเข้าไปในบ้านแล้วหย่อนตัวนั่งลงที่หน้าบ้านอย่างเหนื่อยล้า




    คยองซูไม่ได้มาที่บ้านของจงอินบ่อยนัก...
    เพราะจงอินไม่ค่อยชอบให้ใครเข้ามายุ่มย่ามกับเรื่องส่วนตัวเท่าไหร่ ถึงแม้ว่าจะเป็นคยองซูเองก็เถอะ
    ถึงแม้ว่าคยองซูจะเข้าก้าวเท้าเข้าไปในบ้านของจงอินบ่อยๆ แต่จงอินเองก็ยังมีพื้นที่ๆเขาหวงห้ามเอาไว้
    เพราะจงอินถูกเลี้ยงมาอย่างโดดเดี่ยวเพราะพ่อแม่ของเขาทำงานอยู่ที่ต่างประเทศ
    ทำให้เขาออกจะติดนิสัยชอบทำอะไรคนเดียวอยู่บ่อยครั้งและมีโลกส่วนตัวสูง
    โลกส่วนตัวที่บางทีคยองซูก็ไม่อาจรู้ได้ว่าคืออะไร....




    คยองซูปาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มออกไปอย่างช้าๆ
    ดูเอาสิ...แม้แต่ตอนนี้ก็เพิ่งมาคิดได้ว่าความลับของจงอินมีมากมาย แต่เขาเองกลับไม่เคยคิดจะไถ่ถาม
    เขาเป็นเพื่อนที่เลวร้ายมากเลยสินะ...ไม่แปลกใจเลยที่เขาไม่เคยรู้เรื่องอะไรของจงอินเลยจนกระทั่งเดี๋ยวน
    ี้




    วูบ....





    สายลมพัดมาวูบหนึ่งจนทำให้คยองซูต้องหยุดร้องไห้
    กลิ่นหอมคุ้นเคยที่ลอยมากับสายลมนั้นทำให้คยองซูต้องสอดส่ายสายตาไปทั่วบริเวณ
    เพราะมันเป็นกลิ่นของดอกคาร์เนชั่นสีแดงที่เขามักจะพบเจอมันในตู้ล็อคเกอร์เสมอ...




    คยองซูจำกลิ่นของมันได้ดี เพราะเขาเคยชินกับกลิ่นของมันมาร่วมปีแล้ว...
    และคยองซูจำได้ดีเพราะปกติแล้วมีเพียงคาร์เนชั่นไม่กี่สายพันธ์เท่านั้นที่มีกลิ่นหอม
    แล้วมันมาจากไหนกันล่ะ...แถมยังหอมมากขนาดนี้




    คยองซูลุกขึ้นและเดินตามหากลิ่นหอมที่ลอยโชยมาไม่ได้หยุด
    เขาเดินลัดเลาะไปเรื่อยๆทางด้านข้างของตัวบ้าน 
    จนไปหยุดอยู่ที่ประตูเข้าสวนหลังบ้านของจงอินที่จงอินไม่เคยยอมให้เขาเข้าไปเลยซักหน
    เหตุผลที่จงอินบอกเขาเสมอก็คือสวนหลังบ้านมันรกและไม่มีอะไรอยู่ในนั้น...






    คยองซูเปิดประตูรั้วสีขาวที่กั้นเขาไว้กับสวนหลังบ้านของจงอินออกอย่างช้าๆ
    ก่อนที่เขาจะเบิกตากว้างอย่างไม่เชื่อสายตา...





    เมื่อเขาเห็นแปลงดอกคาร์เนชั่นสีแดงแบบที่เห็นอยู่ในล็อคเกอร์ปลูกอยู่ริมกำแพงสวนเต็มไปหมด...
    พวกมันออกดอกสะพรั่งท่ามกลางความเสื่อมโทรมของสวน
    ที่เห็นได้ชัดว่าเจ้าของไม่ค่อยได้สนใจดูแลมันเสียเท่าไหร่
    หากแต่ดอกไม้พวกนี้กลับเติบโตขึ้นอย่างดี ทั้งๆที่ดอกคาร์เนชั่นนั้นก็ปลูกยากไม่ใช่เล่น...
    คยองซูเดินเข้าไปแล้วมองมันอย่างไม่เข้าใจ...ทำไมจงอินถึงปลูกคาร์เนชั่นสีแดงนี่ไว้ที่บ้านล่ะ
    หรือว่าเป็นเขาเองที่เอามันมาใส่ในล็อคเกอร์ของคยองซูทุกวันๆ...หรือว่าจะเป็นจงอิน....
    แล้วทำไมจงอินต้องทำอย่างนั้นล่ะ? เพราะอะไร?....




    “แกเป็นใคร!! เข้ามาทำอะไรที่นี่!!!!” 





    คยองซูคิดพลางเบิกตากว้างอย่างตกใจ...ก่อนจะส่ายหน้าอย่างไม่เชื่อในความคิดบ้าๆของตัวเองในเวลานี้
    หากแต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้คิดอะไรต่อ เสียงตะโกนที่คุ้นหูก็ดังขึ้นมาจากด้านหลัง
    จงอินกลับมาแล้ว...และพบว่าเขากำลังรุกล้ำความเป็นส่วนตัวที่เขาปกปิดเอาไว้มาตลอด...





    “น...นาย...ค...คยองซู” 





    จงอินตกใจจนหน้าซีด...เมื่อได้เห็นคนตัวเล็กหันหน้ากลับมาแล้วมองเขาอย่างไม่เข้าใจ
    ความลับที่เขาปกปิดมานานร่วมปีถูกเปิดเผยแล้ว...เขาควรจะทำยังไง




    “นายต้องอธิบายกับฉันจงอิน...นี่มันอะไร?
    ดอกไม้ในล็อคเกอร์พวกนั้น มันของนายทั้งหมดใช่มั้ย?!
    ทำไมนายไม่บอกฉัน! นายทำแบบนั้นทำไม!!

    แล้วนายเป็นบ้าอะไร ทำไมนายต้องหลบหน้าฉันด้วย?!
    ฉันทำอะไรผิดทำไมนายถึงต้องย้ายคลาสเรียน!
    ฉันทำอะไรผิดนายถึงโกหกฉัน ฉันโทรหานายทั้งวันทำไมถึงไม่รับ 
    ตอบฉันจงอินสิว่าทำไม!! ทำไมๆๆๆๆๆๆๆ นายตอบฉันเซ่!!!!”





    คยองซูปรี่เข้าไปรัวทุบกำปั้นที่หน้าอกของจงอินอย่างโมโห
    จากที่เคยคิดว่าอยากจะพูดคุยทำความเข้าใจกับจงอินมันก็หายไปหมด
    เพราะเมื่อเขาได้เห็นหน้าของจงอินเท่านั้นความโกรธความน้อยใจที่มีมันก็พวยพุ่งขึ้นมาอย่างหยุดไม่อยู่!


    เขาตะโกนออกมาจนสุดเสียงในขณะที่จงอินทำหน้าเงียบนิ่งไม่แสดงท่าทางอะไรทั้งสิ้น
    มันทำให้เขายิ่งโมโห...เพราะจนกระทั่งตอนนี้แล้วจงอินก็ตัดสินใจไม่บอกอะไรกับเขาเลยซักอย่าง
    คยองซูส่งผ่านความรู้สึกโมโหผ่านทางกำปั้นเรียวเล็กที่รัวทุบไปที่จงอินอย่างไม่สนใจว่าจงอินจะเจ็บแค่ไหน
    ก่อนจะร้องไห้ออกมาเมื่อเห็นว่าจงอินนิ่งเงียบและไม่แม้แต่สนใจว่าเขากำลังร้องไห้หนักแค่ไหน




    จงอินมึนงงไปหมด...ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วเกินไปและเขาเองไม่ได้คิดมาก่อนว่ามันจะเป็นอย่างนี้
    หัวสมองของจงอินขาวโพลนเมื่อได้คิดว่าเขาจะตอบคำถามของคยองซูยังไงดี
    ที่เขานิ่งเงียบไม่ใช่ว่าไม่ร้อนรน...หากแต่เขาไม่รู้ว่าควรทำตัวยังไง
    ไม่รู้แม้แต่จะพูดอะไรเลยด้วยซ้ำ!




    มันถึงเวลาที่เขาต้องบอกคยองซูแล้วเหรอ? เขายังไม่พร้อม...
    เขาควรทำยังไงเพื่อยุติเรื่องพวกนี้ดีนะ – ควรทำยังไง?




    ‘กล้าสิจงอิน! กล้าแล้วบอกคยองซูไปซะ!
    นายอาจจะกลัวคยองซูลำบากใจ 
    แต่การบอกความรู้สึกตรงๆออกไปมันไม่ใช่เรื่องเห็นแก่ตัวหรอกนะ 
    เพราะไม่แน่มันอาจจะทำให้เรามีตัวตนในสายตาเขาขึ้นมาบ้างก็ได้!!!’




    เสียงของเซฮุนดังก้องขึ้นมาในหัวในขณะที่คยองซูยังคงรัวทุบมาที่อกเขาไม่หยุด
    คยองซูกำลังร้องไห้น้ำตาไหลอาบแก้มและเขายอมรับจนหมดหัวใจว่าเขาไม่ต้องการจะเห็นมัน

    จงอินหลับตาลงก่อนจะสูดหายใจเข้าไปลึก...
    ก่อนจะคว้าเอามือทั้งสองข้างของคยองซูมาจับไว้ไม่ให้คยองซูทุบตีเขาได้อีก
    คยองซูเงียบเสียงลงไปในอึดใจ...บรรยากาศรอบตัวทั้งสองคนเงียบสนิท 
    จนจงอินได้ยินแค่เสียงสะอึกสะอื้นของคยองซูเท่านั้น 
    จงอินตัดสินใจลืมตาขึ้นแล้วกระซิบบอกคยองซูออกไป 


    .
    .


    ทั้งๆที่เขารู้ดีอยู่แก่ใจว่ามันช่างงี่เง่า...





    “พอได้แล้วคยองซู...อย่าคาดคั้นฉัน
    นายไม่อยากฟังคำตอบของฉันหรอก 
    เพราะงั้นได้โปรดเถอะ --- ปล่อยมันผ่านไปได้ไหม?”




    จงอินจ้องเข้าไปในดวงตาคู่โตฉ่ำน้ำตาของคยองซูลึกซึ้ง
    พยายามควบคุมไม่ให้เสียงสั่น...ก่อนจะพบว่าคยองซูส่ายหน้าให้เขาอย่างไม่เข้าใจ




    “น...นายหมายความว่าไง? ทำไมฉันต้องไม่อยากฟังนายด้วยล่ะ!
    ทำไมต้องคิดไปเอง! ทำไมถึงคิดว่าฉันจะไม่ฟังคำพูดของนาย!
    ฉันเป็นเพื่อนนายนะจงอิน!!! ทำไมนายถึงทำแบบนี้!”




    คยองซูตะโกนใส่หน้าจงอินอย่างไม่ลดละ
    ท่าทางเงียบขรึมของจงอินทำให้คยองซูโมโห
    ยิ่งคำตอบงี่เง่าของจงอินที่คยองซูได้รับก็ยิ่งทำให้เขายิ่งอารมณ์ขึ้น!




    “เพราะว่าเราเป็นเพื่อนกันไงฉันถึงบอกนายไม่ได้!! นายไม่เคยรู้อะไรเลยคยองซู! นายไม่เคยสนใจคนอื่น!
    นายสนใจแต่พี่คริสของนายเท่านั้น!! นายไม่สนใจแม้กระทั่งดอกไม้ที่ฉันเอาไปใส่ล็อคเกอร์ไว้ให้
    ไม่สนใจแม้กระทั่งจะสืบเสาะมองหาคนที่เอามันมาให้นายเลยด้วยซ้ำ!! 
    นายไม่เคยสนใจเลยว่าฉันจะเป็นยังไง! ไม่เคยสนใจว่าฉันหายไปไหน! 
    และไม่เคยสนใจเลยว่าฉันรู้สึกกับนายยังไง!!! นายนั่นแหละที่ไม่เคยรู้อะไรเลยด้วยซ้ำ!!!




    จงอินตะโกนจนสุดเสียง...ความรู้สึกที่เก็บไว้มานานถูกระเบิดได้ด้วยชนวนที่ชื่อว่าโดคยองซู
    ความในใจทั้งหมดที่เขาเคยเก็บไว้ ถูกระบายออกมาหมดเมื่อถึงทางจนตรอก
    ถ้าต้องแตกหักก็ทำให้มันแตกหักกันวันนี้...ถ้าอยากจะเกลียดกันก็ทำให้มันถึงที่สุด
    หัวสมองจงอินคิดได้เพียงแค่นี้เท่านั้น





    “น...นายหมายความว่าไง?” 





    คยองซูเบิกตากว้าง มองใบหน้าจงอินอย่างไม่เชื่อสายตา
    พยายามเข้าใจความหมายที่จงอินพยายามจะสื่อ...แต่ไม่หรอก มันไม่ยากเลยที่จะเข้าใจ
    แต่ที่เขาถามอีกครั้งเพราะเขาไม่อยากจะเชื่อ – มันไม่จริงใช่ไหม?




    “ฉันรักนายคยองซู!! ฉันรักนายมาตลอด!!!
    บอกมาสิว่านายอยากรู้อะไรอีก! บอกมาสิว่านายยังต้องการอะไรจากฉัน!”






    จงอินตะโกนก้อง หลับตาปี๋เมื่อได้พูดคำๆนั้นออกไป
    เขาไม่อยากจะรับรู้ว่าคยองซูทำหน้าตายังไงเมื่อได้ฟังคำนั้น
    เขาอยากจะหยุดมันไว้ตรงนี้ หากแต่มันยากเหลือเกินที่จะหยุด...
    เขาทำได้แค่เพียงพูดมันออกมาเรื่อยๆอย่างกับเด็กที่โวยวายเมื่อทำอะไรไม่ได้ดั่งใจ




    “จ...จงอิน” 




    “ดอกไม้นั่นก็ของฉัน...ความรู้สึกพวกนั้นมันเป็นของฉันทั้งหมด!
    และรู้อะไรไหมที่ฉันหลบหน้านายเพราะอะไร? เพราะฉันทนไม่ได้! 
    ฉันทนไม่ได้ที่จะต้องเห็นนายอี๋อ๋ออินเลิฟกับผู้ชายคนนั้น
    ฉันรู้ดีว่าไม่มีทางแทรกเข้าไปอยู่ในใจนาย...
    เพราะแค่ผู้ชายคนนั้นมันก็ทำให้นายลืมทุกคนบนโลกนี้ไปจนหมดแล้ว!! 

    ฉันหนีหน้านายเพราะฉันอิจฉา! ฉันหลบหน้านายเพราะฉันรู้ว่าฉันไม่มีทางสู้เขาได้!
    พอใจหรือยังคยองซู...ตอบมาสิว่านายพอใจไหมที่ได้ยินอย่างนี้!!”






    จงอินตะโกนออกไปจนสุดเสียง...หอบหายใจเมื่อพูดจบ
    น้ำตาไหลอาบแก้มของเขาเงียบๆ หากแต่คยองซูคงไม่เห็น 
    เพราะจู่ๆสายฝนที่ตกลงมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยกำลังทำให้ทั้งเขาและคยองซูเปียกปอน


    หากเป็นเวลาปกติเขาคงจะยิ้มและหัวเราะกับคยองซู
    ชักชวนเขาให้วิ่งเข้าไปหลบฝนในบ้าน...หาอะไรในตู้เย็นทำกินกันแล้วช่วยกันทำการบ้าน
    แต่คราวนี้มันไม่ใช่...พวกเขาไม่มีวันทำแบบนั้นได้อีกแล้ว วันคืนเหล่านั้นจะไม่มีวันกลับมาได้อีกแล้ว...
    ทั้งสองยืนเงียบนิ่งและร้องไห้ในขณะที่ฝนตกพรำมาไม่หยุด




    “เอาเลยสิคยองซู...นายต้องการอะไรจากฉันอีกล่ะ
    บอกฉันสิว่าฉันควรทำยังไง! บอกอะไรก็ได้!! ปล่อยฉันให้หลุดพ้นจากเรื่องบ้าๆนี่ที! 
    บอกฉันให้หยุดพูดสิ...บอกฉันให้เลิกพูดถึงมันซักที 
    บอกฉันสิว่าฉันคิดไปเอง --- ได้โปรดบอกฉัน...พูดอะไรก็ได้”




    “ข...ขอโทษ จงอิน! ฉันขอโทษ...
    ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลย ฉัน...ฉัน...”




    คยองซูตะกุกตะกัก...น้ำตาที่ไหลรินมากับเรื่องที่ต้องเจอทำให้คยองซูหมดเรี่ยวแรง
    เขาทำอะไรไม่ได้เลย --- ทำได้เพียงแค่ขอโทษจงอินเท่านั้น
    มันเป็นเพราะเขางี่เง่า เป็นเพราะเขาที่ไม่รู้อะไรเลย
    เขาบีบบังคับจงอิน เขาทำให้เรื่องราวมันแย่ไปใหญ่
    เขาทำได้แค่เอ่ยคำขอโทษ...ขอโทษที่เขาไม่อาจรับความรักของจงอินได้




    เพราะน่าแปลกเหลือเกินที่เมื่อเขาได้ยินคำว่ารักที่ออกมาจากปากของจงอิน...เขากลับนึกถึงแต่คริสเท่านั้น...
    เขาทำได้แค่คิดว่าถ้าคริสเป็นคนที่อยู่ตรงหน้านี้เขาจะตอบกลับยังไงนะ?
    เขาจะลำบากใจเหมือนตอนนี้ไหมถ้าคริสบอกกับเขาแบบที่จงอินกำลังบอกเขาอยู่นี้...

    คยองซูกัดริมฝีปากเมื่อได้คิดว่าที่จงอินพูดมันก็จริงเสียด้วย...
    เขาไม่เคยสนใจใครเลย เขาคิดถึงแต่คริสเท่านั้น...
    คิดถึงจนไม่มองใครอื่นเลยด้วยซ้ำ แม้กระทั่งจงอินที่ยืนอยู่ต่อหน้าเขาตอนนี้ก็ยังทำให้เขาคิดถึงคริสได้
    เขามันเห็นแก่ตัวจริงๆอย่างที่จงอินบอก...เขามันแย่ที่ไม่เคยรับรู้อะไรเลย




    “ขอโทษนะจงอิน...ฮึก...ฉันขอโทษ” 




    คยองซูกระซิบคำขอโทษออกไปอีกหนเพราะไม่เห็นคำไหนที่จะตอบแทนได้ดีเท่ากับคำนี้อีกแล้ว
    จงอินหลับตาลงก่อนจะเงยหน้าเพื่อปล่อยให้ฝนตกลงมากระทบใบหน้าเขา
    พยายามรับรู้ความรู้สึกเจ็บของเม็ดฝนที่กระทบหน้าและทำให้เขารู้ว่านี่คือเรื่องจริงที่เขากำลังเจอ...



    “นี่คือคำตอบของนายใช่ไหม?” จงอินกระซิบถาม...




    “ฉันขอโทษ...แต่ฉันไม่เคยคิดกับนายเกินกว่าเพื่อนเลยจงอิน
    แต่เรายังเป็นเพื่อนกันได้นี่ เราก็แค่หยุดเรื่องนี้ซะแล้วกลับไปเป็นเหมือนเดิมไงจงอิน
    นายยังเป็นเพื่อนคนเดียวที่ฉันรัก เป็นเพื่อนคนเดียวที่ฉันให้ความสำคัญเสมอนะ”




    คยองซูกระซิบก่อนจะเอื้อมมือไปคว้ามือของจงอินมาจับเอาไว้
    บีบมันแน่นเพื่อจะบอกว่าเขาหมายความตามอย่างที่พูดจริงๆ...
    จงอินหัวเราะในลำคอเบาๆราวกับจะบอกว่าคำพูดของคยองซูช่างน่าตลกนัก




    “นายรู้ไหมว่านายขอฉันมากไปคยองซู...
    ฉันเดินมาไกลเกินกว่าจะหยุดเรื่องนี้แล้วกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้แล้ว
    นายพูดแบบนี้ก็เหมือนกับว่านายสั่งให้ฉันหยุดหายใจ...และฉันคงจะตายถ้าทำแบบนั้น
    แต่แน่นอนว่าเรื่องนี้มันต้องมีจุดจบ เพราะถ้าไม่ตายไปเอง ก็ต้องฆ่าตัวตายไปซะ




    “น...นายพูดแบบนี้หมายความว่าไง? นายกำลังจะทำอะไร??”





    คยองซูตาเหลือกเมื่อได้ฟังที่จงอินพูด แววตาวูบไหวที่คยองซูเห็นในดวงตาของจงอินมันทำให้เขาใจหาย
    จงอินยกยิ้มที่มุมปากก่อนจะกระซิบตอบคยองซูออกมาแผ่วเบา




    “หมดเทอมนี้แล้วฉันจะโอนหน่วยกิตไปเรียนที่ญี่ปุ่น 
    พ่อกับแม่ฉันบอกให้ฉันย้ายไปตั้งนานแล้ว
    แต่ที่ฉันไม่ไปเพราะว่าฉันอยากอยู่กับนายที่นี่...
    แต่ในเมื่องทุกอย่างมันเป็นอย่างนี้...ฉันก็คงต้องไป”





    “ม...ไม่นะจงอิน! 
    ฉันไม่ให้นายไปนะ!! ไม่เอานะ!”





    คยองซูตะโกนออกมาราวกับเด็กเอาแต่ใจ...เขารู้ดีว่ามันไม่ช่วยอะไร
    หากแต่ในตอนนี้เขาไม่รู้จะทำยังไงเพื่อยื้อจงอินไว้อีกแล้ว...



    จงอินยกยิ้มออกมาอย่างที่ไม่สามารถจะคาดเดาความรู้สึกได้
    คยองซูร้องไห้ออกมาหนักขึ้นไปอีกเมื่อได้เห็นเขาทำอย่างนั้น...
    รอยยิ้มแบบที่เขามักจะทำเวลาที่ต้องการจะตัดสินใจอะไรซักอย่าง





    “ฉันต้องไปคยองซู...
    ได้โปรดอย่ายื้อฉันไว้เลยเพราะมันจะทำให้ฉันยิ่งเจ็บ
    และได้โปรดเชื่อฉันเป็นครั้งสุดท้ายเถอะ....
    อย่างนี้มันดีที่สุดสำหรับเราทั้งสองคนแล้ว”


    จงอินพูดขึ้นก่อนจะเดินไปเด็ดดอกคาร์เนชั่นสีแดงที่ริมรั้วสีขาวแล้วเดินกลับมาหาคยองซู
    ยื่นไปตรงหน้าคยองซูก่อนจะกระซิบออกมาช้าๆแต่ชัดถ้อยชัดคำ
    และมันทำให้คยองซูรู้และแน่ใจแล้วว่านี่จะเป็นคำพูดสุดท้ายที่เขาได้ยินออกจากปากจงอิน




    "นี่...คือดอกไม้ของนายนะ ฉันดีใจที่ในที่สุดก็ได้ยื่นมันให้นายต่อหน้า
    ในฐานะของคิมจงอินไม่ใช่ใครก็ไม่รู้คนนั้น
    และฉันต้องขอโทษด้วยที่ต่อไปนี้ฉันคงจะไม่มีดอกไม้มาให้นายอีกแล้ว



    .

    .

    .

    .



    "เพราะนายคาร์เนชั่นสีแดงเขาฆ่าตัวตายไปแล้ว..." 











     



    +TALK




    ม...มันเส้ามากกกกกกกกกกก!! แต่งเองก็ดราม่าเอง สงสารอิกั๊มมม 
    ทำไมเราถึงใจร้ายกับมันขนาดนี้วะคะ? ฮรือออออออออออออออออออออออออ T T

    คือพอดีไรเตอร์แก้พล๊อตใหม่ เพิ่มตัวละครเข้ามาอีกคนคือเซฮุนค่ะ เรื่องมันก็เลยออกมาอีกแนวนึงไปเลย
    โปรดสังเกตุคำเตือนว่ามันจะเพิ่มขึ้นเริ่มเรื่อยๆ 
    จากดราม่า...เป็นดราม่ามาก...และดราม่ามากๆตามลำดับ!

    เพราะฉะนั้น...ได้โปรดบำรุงตับรอรับตอนหน้าด้วยนะคะรีดเดอร์ที่รัก T T 
    ไรท์เป็นห่วงจริงอะไรจริงกลัวรีดจะตับพัง!!

    อยากจะบอกว่าตอนหน้าฟิคเรื่องนี้ก็จะจบแล้วนะคะ(ถ้าไรเตอร์ไม่เปลี่ยนพล๊อดอีก)
    เพราะฉะนั้น โปรดช่วยติดตามกันต่อไปจนเรื่องนี้จั่วหัวว่า END ด้วยเถอะนะคะ -/\-

    รักรีดเดอร์หลาย...ถ้ารีดรักไรท์ ก็ช่วยคอมเม้นท์ให้หน่อยนะคะ 
    ไม่ขออะไรมากมายเพราะอยากได้แค่นี้จริงๆ!! ><


    ไปนอนก่อนนะคะ ตอนนี้ 6.35 แล้ว พระอาทิตย์ยิ้มแฉ่งแก้มแด๊งแดง #ห๊ะ
    ไรเตอร์เบลอและเวิ่นเว้อแล้วค่ะ เพราะฉะนั้นขอตัวไปนอนก่อนนะคะ

    รักรัดเดอร์ อซด และสตบดมากๆค่ะ >3 *แจกจูบรายคน* 
     
     
     
     
    © Tenpoints!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×