คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : ✚ SH0T 1 :: THE P0IS0N APPLES 0NE
Author : MR.$N0WMAN*
Story by : Zenumist
Rate : PG-15
REVERSE;
THE POISON APPLES
---------------------------------
‘1.00’
ความใกล้ชิด ความสนิทสนม เป็นบ่อเกิดของความรักหรือแค่ความหวั่นไหว
เราอาจจะตอบได้ก็ต่อเมื่อมีตัวแปรของสิ่งที่เรียกว่า ‘เวลา’ เข้ามาเกี่ยวข้อง
เวลาจะบอกได้ว่าสิ่งที่ทำให้หัวใจของเราสั่นคลอนนั้นเป็นเพราะอะไร
เพราะความหวั่นไหวที่เกิดขึ้นแค่ชั่วครู่ หรือเป็นความรักที่มันฝังแน่นตลอดไป
ผมมันก็แค่คนขี้ขลาด...
ผมขี้ขลาด...และไม่กล้าแม้แต่จะเปิดเผยความสัมพันธ์ของผมและแบคฮยอนกับเพื่อนๆ
ถึงแม้ว่าเราจะคบกันมาแบบเงียบๆได้กว่าสามอาทิตย์แล้ว
เหตุผลแรกคือผมไม่เคยมีแฟนมาก่อน
และเพื่อนๆทุกคนก็มักจะพากันล้อเลียนผมทุกครั้งเวลาที่ผมมองหรือคิดอยากจะจีบใคร
และด้วยความปากหมาของพวกมันนั่นแหละ ที่มักจะทำให้ผมผิดหวังในความรักมาตลอด
อย่างเช่นกรณีที่ไอ้เซฮุนที่เอาความลับเรื่องเกรดเฉลี่ยต่ำเตี้ยเรี่ยดินของผมไปแฉให้น้องทิฟฟานี่
ดาวบัญชีที่ผมตามจีบช่วงก่อนจนน้องเขามองผมเปนไอ้โง่บ้างล่ะ
กับตอนที่ไอ้จงแดไปบอกกับน้องแทยอนดาวคณะบัญชี
ว่าความจริงแล้วตอนแรกผมเป็นเด็กเอ๋อที่ถูกรักษาจนพัฒนาการเติบโตตามวัยไรงี้บ้างล่ะ
โอ้...เวรกรรมของปาร์คชานยอลจริงๆที่ดันเกิดมามีเพื่อนปากหมาแบบนี้
และนั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมไม่ยอมบอกเรื่องแบคฮยอนกับใครซักคน
เหตุผลแรกก็อย่างที่บอกมา และเหตุผลที่สองของผมก็คือ
ผมยังไม่แน่ใจนักว่าเราจะเข้ากันได้จริงๆและจะคบกันได้ยืดยาวหรือเปล่า
ผมไม่อยากใช้คำว่าแฟนมาผูกมัดตัวเองและเขาไว้ ในขณะที่ยังเรียนรู้กันและกันอย่างนี้
ผมยอมรับว่าผมเองใจร้อนไปหน่อยที่จู่ๆก็ขอเขาเปนแฟนทั้งๆที่เรายังไม่รู้จักกันมาก่อน
ก็ปากของผมมันดันโพล่งออกไปตามใจซะนี่ เห็นเขาน่ารักก็เลยอยากได้ใจเขามาเป็นของตัวเอง...
ทั้งๆที่ยังไม่แน่ใจเลยว่าผมรักเขาหรือเปล่า...
สิ่งเดียวที่ผมรู้เกี่ยวกับแบคฮยอนคือเขาเป็นคนคลั่งหรืออาจจะเรียกได้ว่าเสพติดแอปเปิ้ลมาก
เขาชอบกินแอปเปิ้ล น้ำแอปเปิ้ล หมากฝรั่งรสแอปเปิ้ล
(และถ้าผมไม่ได้คิดไปเอง เขายังใส่น้ำหอมที่มีกลิ่นแอปเปิ้ลด้วย...
แต่ผมเองก็ไม่แน่ใจว่าเป็นน้ำหอมหรือกลิ่นที่มาจากตัวของเขากันแน่)
จูบของเขามีรสหวานอมเปรี้ยวของแอปเปิ้ลปนอยู่ตลอดเวลา
....และนั่นมันทำให้ผมรักรสชาติจูบของเขาจนเรียกได้ว่าเสพติด....
อ่า...อยากจะจูบอีกแล้วสิ
ผมหันไปมองเขาในขณะที่จงแดกำลังสอนเขาเกี่ยวกับวิธีการหายใจในเพลงที่แบคฮยอนจะเลือกไปร้องออดิชั่น
ผมรู้ว่าเขาจะผ่านเพราะเสียงของเขาเพราะมากจริงๆ จงแดรู้ดีแต่เขาก็อยากทำให้การออดิชั่นเปนไปอย่างโปร่งใส
และเขาต้องการจะทำให้ทุกคนมั่นใจว่าแบคฮยอนเหมาะกับตำแหน่งนี้จริงๆ
และไม่ได้ใช้เส้นใครเข้ามาเป็นนักร้องหลักในชมรมของเรา
โชคดีที่แบคฮยอนอยู่ชมรมร้องเพลงประสานเสียงมาก่อน
และนั่นทำให้เขาได้เปรียบมากกว่าคนอื่นเรื่องการจับคีย์ร้องและไลน์ประสานคู่กับจงแดได้สุดยอดมากจริงๆ
แต่บางทีแบบนี้มันก็ทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิดเหมือนกันนะ...
ก็ดูเอาเถอะ ไอ้บ้าจงแดกำลังแต๊ะอั๋งแบคฮยอนอีกแล้ว
เอามือออกไปจากหัวแฟนฉันนะโว้ยยยยยยยยยย....
ได้แค่ตะโกนในใจเท่านั้นแหละครับ...เพราะเอาเข้าจริงผมคงไม่กล้าหรอก
ขืนบอกไปต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ เพราะงั้นผมคิดว่าผมควรจะหงุดหงิดกับตัวเองอย่างนี้ต่อไปดีกว่า...
"อืม...ใช้ได้แล้วล่ะ ถ้าปรับคีย์สูงกว่านี้นายจะโชว์พลังเสียงได้มากกว่านะ เสียงนายมีพลังมากนะ เก่งมากเลย"
จงแดยกยิ้มพร้อมทั้งส่งมือขึ้นของเขาลูบศีรษะเล็กของแบคฮยอนอย่างอ่อนโยน
แบคฮยอนยกยิ้มร่าเมื่อได้ยินคำชมจากปากของจงแด
จนไม่ได้สนใจเลยว่าชานยอลกำลังมองอยู่จากตรงมุมห้อง
"ขอบใจนะจงแด" ผมบอกออกไปก่อนจะยกยิ้มให้เขา
"ไม่เปนไรหรอก...แบคฮยอนรีบกลับบ้านเถอะ
แต่นี่ก็ดึกมากแล้ว อยากให้ฉันไปส่งนายที่บ้านไหม?"
จงแดเอ่ยถามผมพร้อมทั้งอาสาไปส่งที่บ้านอย่างเคยทุกวัน
บางทีก็มีบ้างที่ผมกลับพร้อมเขา...แต่วันนี้ผมและชานยอลมีนัดเดทสั้นๆกัน ผมเลยเลือกที่จะปฏิเสธจงแดไปอย่างสุภาพ
"ไม่เป็นไรหรอกจงแด ขอบคุณมากนะ...
แต่วันนี้ฉันมีนัดน่ะ คงกลับด้วยไม่ได้"
"เอ๋? นัดเหรอ? หรือว่าเดท? กับใคร?" จงแดถาม
"อ๋อเปล่าๆ มีนัดกับคยองซูน่ะ
วันนี้มีทำรายงานที่บ้านคยองซู"
ผมตอบเขาพลางเหลือบสายตาไปมองที่มุมห้องตรงที่ชานยอลนั่งอยู่
และแอบเห็นชานยอลแอบพยักหน้าส่งมาให้เล็กน้อยเป็นอันว่าเขาพอใจที่ผมพูดแบบนั้น
จงแดยกยิ้มกว้างก่อนจะพูดขึ้นอีกครั้ง
"อ๋อ...งั้นเหรอ
แต่ถ้านายอยากให้ฉันไปส่งบ้านคยองซูก็ได้นะ ให้ฉันไปส่งไหม?"
"ไม่ๆๆๆๆ ไม่เป็นไรหรอกจงแด...พอดีฉันมีที่ๆอยากจะแวะไปพอดีด้วย
และคงไม่ดีหรอกที่จะให้นายแวะนั่นแวะนี่ให้ฉันน่ะ ฉันไปเองได้...ขอบใจมากนะ
อา...งั้นฉันขอไปก่อนแล้วกัน เจอกันพรุ่งนี้ล่ะ"
ผมรีบปฏิเสธก่อนจะขอตัวลา
เพราะถ้าขืนยังยืนอยู่ตรงนี้ต่อไปล่ะก็จงแดต้องขอไปส่งอีกแน่ๆ
"อ่า...งั้นก็แล้วแต่
วันนี้ก็อย่าหักโหมล่ะ นอนเช้าๆหน่อยพรุ่งนี้เสียงจะได้ใส ฉันเป็นกำลังใจให้นะ"
เขาพูดพร้อมทั้งยกยิ้ม...ผมพยักหน้าก่อนจะเอ่ยลาเขาอีกครั้งแล้วออกจากห้องไป
แต่ก่อนที่จะเดินผ่านประตูห้องออกไป ผมก็ไม่วายหันไปมองชานยอลที่นั่นอยู่ตรงนั้นอีกครั้ง
เพื่อเป็นการเตือนเขาให้รู้ว่าผมจะรออยู่ที่นั่น
...และผมหวังว่าเขาจะไม่ผิดนัดของเราในวันนี้...
**********
ทันทีที่แบคฮยอนเดินออกจากห้องไป...
ผมก็ถอนหายใจออกมาเมื่อเห็นสายตาที่เขาส่งมาแบบนั้น
ผมรีบปลดสายกีต้าร์ที่แขวนอยู่บนบ่าแล้วเริ่มเก็บของลงกระเป๋า
เพราะไม่อยากให้แบคฮยอนรอนานนัก เพราะว่าวันนี้เรามีเวลาจำกัดจริงๆที่จะได้เดทกันตอนกลับบ้าน
“ยิ้มอะไรของมึงนักหนาล่ะเนี่ย?”
ผมถามออกไปเพื่อหาเรื่องชวนคุยให้แนบเนียนที่จะขอกลับบ้านก่อน ในขณะที่อี้ชิงและเซฮุนมันยังเก็บของไม่เสร็จดีนัก
ผมคงต้องรีบปลีกตัวออกไปให้เร็วที่สุด แต่ต้องไม่น่าสงสัย ไม่งั้นไอ้พวกนี้ต้องชวนผมไปกินบะหมี่เจ้าประจำอีกแน่ๆ
“น่ารักดีนะ...มึงว่าไหม?” จงแดพูดออกมายิ้มๆ ผมยกคิ้วอย่างแปลกใจ
“อะไรน่ารัก? กูเหรอ?”
ผมถามเขาอย่างไม่เข้าใจ...
แต่ความรู้สึกบางอย่างในใจกำลังทำให้รู้สึกร้อนรนขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
ลางสังหรณ์กำลังบอกผมว่าเรื่องนี้ไม่ดีนักที่ผมจะฟังต่อไป
“อย่าพูดให้กูขนลุก...กูหมายถึงแบคฮยอนต่างหากที่น่ารัก”
“อะไรนะ?” ผมถามเขาออกไปเสียงดัง ก่อนที่จงแดจะหันมามองหน้าผมแล้วพูดซ้ำอีกครั้ง
“น่ารักไง...กูบอกว่าแบคฮยอนน่ารัก”
“มึงชอบแบคฮยอนเหรอ?”
ผมถามเขาออกไป
หัวใจกำลังบีบตัวอย่างเจ็บปวดจนรู้สึกว่ามันกำลังจะหยุดทำงานอยู่มะรอมมะร่อ
“เปล่า...กูแค่รู้สึกว่าเขาน่ารักดี
ทำไม มึงชอบแบคฮยอนหรือไง?”
จงแดหันขวับมาถามผมด้วยสายตาที่ทำเอาผมต้องลนลานขึ้นมาจนตัวสั่น
ผมรีบยกไม้ยกมือมาโบกไปมาเพื่อปฏิเสธ เพราะว่าสายตาของจงแดตอนนี้มันทำให้รู้สึกอึดอัดจริงๆ
“บ..บ้า! ไม่ใช่ซักหน่อยนะ...กูไม่ได้ชอบเขา!
ต..แต่กูเห็นว่ามึงคุยกับพี่มินซอกอยู่ กูนึกว่ามึงกำลังจีบพี่เขาซะอีก”
ผมแก้ตัวออกไปข้างๆคูๆ แต่ข้างในใจรู้สึกหงุดหงิดจริงๆ
ถึงแม้ว่าจงแดจะไม่ได้ชอบก็เถอะ แต่การที่มันมาชมแบคฮยอนว่าน่ารักนี่มัน...
...น่าโมโหจริงๆให้ตาย...
“กูเปล่า...พี่เขาอยู่หอเดียวกับกูเฉยๆ ไม่ได้คุยกันซักหน่อย มึงมั่วละ
กูไม่รู้ว่าเขามีแฟนหรือยัง ไม่แน่อาจจะมีแล้วก็ได้
เฮ้อ...แล้วเมื่อไหร่จะมีโอกาสอย่างวันนั้นอีกวะ ให้ตายเหอะ”
จงแดพูดออกมาด้วยน้ำเสียงดูล่องลอย...ผมกระตุกหัวคิ้วขมวดแล้วเริ่มซักถามเขาทันที
โอกาส...โอกาสอะไร.....
“โอกาสอะไร?” ผมถาม...
“ก็วันนั้นไง...ที่เราไปเจอแบคฮยอนที่ห้างน่ะ
กูเข้าไปดูหนังกับเขาเพราะว่าคยองซูไม่มา”
จงแดตอบก่อนจะยิ้มกว้าง
หัวใจผมจู่ๆก็หยุดเต้นไปเฉยๆ เมื่อคำตอบที่ผมได้รับจากจงแดและจากปากของแบคฮยอนนั้นมันไม่ตรงกันเลย
‘...ฉันไม่ได้เข้าไปดูหรอก พอนายไม่อยู่ฉันก็กลับบ้าน...’
พระเจ้า...แบคฮยอนโกหก...
เขาโกหกผม...
“ว่าแต่มึงกำลังจะไปไหน ไม่ไปกินข้าวด้วยกันเหรอวะวันนี้?”
จงแดถามขึ้นเมื่อเห็นผมบีบมือกำรอบสายสะพายกระเป๋าแน่น
ผมสะดุ้งก่อนจะหันกลับไปสนใจเขา...ไม่ ตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะมาโมโห
แบคฮยอนกำลังรออยู่ และผมไม่อยากจะผิดนัดเขาอีกเป็นครั้งที่สามของอาทิตย์นี้อีกแล้วล่ะ...
“เอ่อ...พวกมึงไปกันเลยเหอะ วันนี้กูมีธุระนิดหน่อย
กูกลับก่อนนะ บ๊ายบาย!”
“อ้าวเฮ้ย! เดี๋ยวดิไอ้ยอล!
อ้าว...ไอ้เวรนี่จะรีบไปไหนของมันล่ะเนี่ย?”
ผมรีบบอกเขาแล้วรีบเดินออกมา ผมได้ยินจงแดเรียกผมแต่ผมไม่ได้มีอารมณ์จะหันกลับไปสนใจเขา
ผมกำลังกัดริมฝีปากอย่างชั่งใจในข้อความที่เพิ่งได้ยินจากปากเพื่อนรัก
รู้สึกหวั่นใจในเรื่องที่กำลังเผชิญอยู่...
.
.
.
และผมหวังว่ามันจะไม่ใช่อย่างที่ผมคิด...
✚TALK
ชอกช้ำระกำทรวง...กดอัพเดทรอบแรกแล้วข้อมูลหายหมดได้ลงใหม่รอบที่สอง T T
อาจจะมีคนสงสัยว่า อิไรเตอร์มันเพิ่งบอกว่าจะไม่อัพฟิคอาทิตย์นึงแล้วนี่อะไร?
คืออยากจะบอกว่าวันนี้เครียดมากค่ะ...
สอบแล้วแบบมัน @$@*$&#@$&)*@&#^&%#@*_)&)#!% มากๆ!!
อารมณ์แบบไม่สามารถจะบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้
เลยต้องระบายมันออกมาทางนี้ #ประชดชีวิต
แต่ก็เอาเถอะค่ะ...ตอนนี้มันมาแล้วนะ
มันยังไม่ดราม่าเท่าไหร่ และคิดว่าก็ตอนหน้าก็ยังไม่น่าจะดราม่านะ
เพราะงั้นฝากติดตามผลงานของไรเตอร์กันต่อไปนะคะ
รักทุกคน เอฟเวอรี่บอดี้เลย ชุ๊บๆ >3
ป.ล. อย่าลืมนะคะ...รักกันแล้วอย่าลืมบอกต่อ ^^
ความคิดเห็น