ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF EXO] ✚ :: THE APPLES :: ✚ [CHANYEOL x BAEKHYUN]*

    ลำดับตอนที่ #10 : ✚ SH0T 1 :: THE P0IS0N APPLES 0NE

    • อัปเดตล่าสุด 28 ก.ย. 55


     Author : MR.$N0WMAN*

    Pairing : Chanyeol x Baekhyun
    Story by : Zenumist
    Rate : PG-15

     

     

     

    REVERSE;

    THE   POISON  APPLES

     

     

     


    ---------------------------------

     

     

     

     

    ‘1.00’

     

     

     

     

    ความใกล้ชิด ความสนิทสนม เป็นบ่อเกิดของความรักหรือแค่ความหวั่นไหว

    เราอาจจะตอบได้ก็ต่อเมื่อมีตัวแปรของสิ่งที่เรียกว่า เวลาเข้ามาเกี่ยวข้อง

     

    เวลาจะบอกได้ว่าสิ่งที่ทำให้หัวใจของเราสั่นคลอนนั้นเป็นเพราะอะไร

    เพราะความหวั่นไหวที่เกิดขึ้นแค่ชั่วครู่ หรือเป็นความรักที่มันฝังแน่นตลอดไป

     

     

     

     

    ผมมันก็แค่คนขี้ขลาด...

     

    ผมขี้ขลาด...และไม่กล้าแม้แต่จะเปิดเผยความสัมพันธ์ของผมและแบคฮยอนกับเพื่อนๆ

    ถึงแม้ว่าเราจะคบกันมาแบบเงียบๆได้กว่าสามอาทิตย์แล้ว

     
     

    เหตุผลแรกคือผมไม่เคยมีแฟนมาก่อน

    และเพื่อนๆทุกคนก็มักจะพากันล้อเลียนผมทุกครั้งเวลาที่ผมมองหรือคิดอยากจะจีบใคร

    และด้วยความปากหมาของพวกมันนั่นแหละ ที่มักจะทำให้ผมผิดหวังในความรักมาตลอด

     

     

    อย่างเช่นกรณีที่ไอ้เซฮุนที่เอาความลับเรื่องเกรดเฉลี่ยต่ำเตี้ยเรี่ยดินของผมไปแฉให้น้องทิฟฟานี่

    ดาวบัญชีที่ผมตามจีบช่วงก่อนจนน้องเขามองผมเปนไอ้โง่บ้างล่ะ

    กับตอนที่ไอ้จงแดไปบอกกับน้องแทยอนดาวคณะบัญชี

    ว่าความจริงแล้วตอนแรกผมเป็นเด็กเอ๋อที่ถูกรักษาจนพัฒนาการเติบโตตามวัยไรงี้บ้างล่ะ

     

     

    โอ้...เวรกรรมของปาร์คชานยอลจริงๆที่ดันเกิดมามีเพื่อนปากหมาแบบนี้

    และนั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมไม่ยอมบอกเรื่องแบคฮยอนกับใครซักคน

    เหตุผลแรกก็อย่างที่บอกมา และเหตุผลที่สองของผมก็คือ

    ผมยังไม่แน่ใจนักว่าเราจะเข้ากันได้จริงๆและจะคบกันได้ยืดยาวหรือเปล่า

     

     

    ผมไม่อยากใช้คำว่าแฟนมาผูกมัดตัวเองและเขาไว้ ในขณะที่ยังเรียนรู้กันและกันอย่างนี้

    ผมยอมรับว่าผมเองใจร้อนไปหน่อยที่จู่ๆก็ขอเขาเปนแฟนทั้งๆที่เรายังไม่รู้จักกันมาก่อน

    ก็ปากของผมมันดันโพล่งออกไปตามใจซะนี่ เห็นเขาน่ารักก็เลยอยากได้ใจเขามาเป็นของตัวเอง...

    ทั้งๆที่ยังไม่แน่ใจเลยว่าผมรักเขาหรือเปล่า...

     

     

    สิ่งเดียวที่ผมรู้เกี่ยวกับแบคฮยอนคือเขาเป็นคนคลั่งหรืออาจจะเรียกได้ว่าเสพติดแอปเปิ้ลมาก

    เขาชอบกินแอปเปิ้ล น้ำแอปเปิ้ล หมากฝรั่งรสแอปเปิ้ล

    (และถ้าผมไม่ได้คิดไปเอง เขายังใส่น้ำหอมที่มีกลิ่นแอปเปิ้ลด้วย...

    แต่ผมเองก็ไม่แน่ใจว่าเป็นน้ำหอมหรือกลิ่นที่มาจากตัวของเขากันแน่)

     

     

    จูบของเขามีรสหวานอมเปรี้ยวของแอปเปิ้ลปนอยู่ตลอดเวลา

    ....และนั่นมันทำให้ผมรักรสชาติจูบของเขาจนเรียกได้ว่าเสพติด....

     

     
     

    อ่า...อยากจะจูบอีกแล้วสิ

     
     

     

    ผมหันไปมองเขาในขณะที่จงแดกำลังสอนเขาเกี่ยวกับวิธีการหายใจในเพลงที่แบคฮยอนจะเลือกไปร้องออดิชั่น

    ผมรู้ว่าเขาจะผ่านเพราะเสียงของเขาเพราะมากจริงๆ จงแดรู้ดีแต่เขาก็อยากทำให้การออดิชั่นเปนไปอย่างโปร่งใส

    และเขาต้องการจะทำให้ทุกคนมั่นใจว่าแบคฮยอนเหมาะกับตำแหน่งนี้จริงๆ

    และไม่ได้ใช้เส้นใครเข้ามาเป็นนักร้องหลักในชมรมของเรา

     

     

    โชคดีที่แบคฮยอนอยู่ชมรมร้องเพลงประสานเสียงมาก่อน

    และนั่นทำให้เขาได้เปรียบมากกว่าคนอื่นเรื่องการจับคีย์ร้องและไลน์ประสานคู่กับจงแดได้สุดยอดมากจริงๆ

    แต่บางทีแบบนี้มันก็ทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิดเหมือนกันนะ...

     

     

    ก็ดูเอาเถอะ ไอ้บ้าจงแดกำลังแต๊ะอั๋งแบคฮยอนอีกแล้ว

    เอามือออกไปจากหัวแฟนฉันนะโว้ยยยยยยยยยย....

     

     
     

    ได้แค่ตะโกนในใจเท่านั้นแหละครับ...เพราะเอาเข้าจริงผมคงไม่กล้าหรอก

    ขืนบอกไปต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ เพราะงั้นผมคิดว่าผมควรจะหงุดหงิดกับตัวเองอย่างนี้ต่อไปดีกว่า...


     

    "อืม...ใช้ได้แล้วล่ะ ถ้าปรับคีย์สูงกว่านี้นายจะโชว์พลังเสียงได้มากกว่านะ เสียงนายมีพลังมากนะ เก่งมากเลย"

     

     

    จงแดยกยิ้มพร้อมทั้งส่งมือขึ้นของเขาลูบศีรษะเล็กของแบคฮยอนอย่างอ่อนโยน

    แบคฮยอนยกยิ้มร่าเมื่อได้ยินคำชมจากปากของจงแด

    จนไม่ได้สนใจเลยว่าชานยอลกำลังมองอยู่จากตรงมุมห้อง

     

     

    "ขอบใจนะจงแด" ผมบอกออกไปก่อนจะยกยิ้มให้เขา

     

     
     

    "ไม่เปนไรหรอก...แบคฮยอนรีบกลับบ้านเถอะ

    แต่นี่ก็ดึกมากแล้ว อยากให้ฉันไปส่งนายที่บ้านไหม?"

     

     

    จงแดเอ่ยถามผมพร้อมทั้งอาสาไปส่งที่บ้านอย่างเคยทุกวัน

    บางทีก็มีบ้างที่ผมกลับพร้อมเขา...แต่วันนี้ผมและชานยอลมีนัดเดทสั้นๆกัน ผมเลยเลือกที่จะปฏิเสธจงแดไปอย่างสุภาพ

     

     
     

    "ไม่เป็นไรหรอกจงแด ขอบคุณมากนะ...

    แต่วันนี้ฉันมีนัดน่ะ คงกลับด้วยไม่ได้"

     
     

     

    "เอ๋? นัดเหรอ? หรือว่าเดท? กับใคร?" จงแดถาม

     

     

    "อ๋อเปล่าๆ มีนัดกับคยองซูน่ะ

    วันนี้มีทำรายงานที่บ้านคยองซู"

     

     

    ผมตอบเขาพลางเหลือบสายตาไปมองที่มุมห้องตรงที่ชานยอลนั่งอยู่

    และแอบเห็นชานยอลแอบพยักหน้าส่งมาให้เล็กน้อยเป็นอันว่าเขาพอใจที่ผมพูดแบบนั้น

     

     

    จงแดยกยิ้มกว้างก่อนจะพูดขึ้นอีกครั้ง

     
     

    "อ๋อ...งั้นเหรอ

    แต่ถ้านายอยากให้ฉันไปส่งบ้านคยองซูก็ได้นะ ให้ฉันไปส่งไหม?"

     

     

    "ไม่ๆๆๆๆ ไม่เป็นไรหรอกจงแด...พอดีฉันมีที่ๆอยากจะแวะไปพอดีด้วย

    และคงไม่ดีหรอกที่จะให้นายแวะนั่นแวะนี่ให้ฉันน่ะ ฉันไปเองได้...ขอบใจมากนะ

    อา...งั้นฉันขอไปก่อนแล้วกัน เจอกันพรุ่งนี้ล่ะ"

     
     

    ผมรีบปฏิเสธก่อนจะขอตัวลา

    เพราะถ้าขืนยังยืนอยู่ตรงนี้ต่อไปล่ะก็จงแดต้องขอไปส่งอีกแน่ๆ

     
     

    "อ่า...งั้นก็แล้วแต่

    วันนี้ก็อย่าหักโหมล่ะ นอนเช้าๆหน่อยพรุ่งนี้เสียงจะได้ใส ฉันเป็นกำลังใจให้นะ"

     
     

    เขาพูดพร้อมทั้งยกยิ้ม...ผมพยักหน้าก่อนจะเอ่ยลาเขาอีกครั้งแล้วออกจากห้องไป

    แต่ก่อนที่จะเดินผ่านประตูห้องออกไป  ผมก็ไม่วายหันไปมองชานยอลที่นั่นอยู่ตรงนั้นอีกครั้ง

    เพื่อเป็นการเตือนเขาให้รู้ว่าผมจะรออยู่ที่นั่น

     

     

    ...และผมหวังว่าเขาจะไม่ผิดนัดของเราในวันนี้...

     

     

     

    **********




     

     

    ทันทีที่แบคฮยอนเดินออกจากห้องไป...

    ผมก็ถอนหายใจออกมาเมื่อเห็นสายตาที่เขาส่งมาแบบนั้น

    ผมรีบปลดสายกีต้าร์ที่แขวนอยู่บนบ่าแล้วเริ่มเก็บของลงกระเป๋า

    เพราะไม่อยากให้แบคฮยอนรอนานนัก เพราะว่าวันนี้เรามีเวลาจำกัดจริงๆที่จะได้เดทกันตอนกลับบ้าน

     

     

    “ยิ้มอะไรของมึงนักหนาล่ะเนี่ย?”  

     

     

    ผมถามออกไปเพื่อหาเรื่องชวนคุยให้แนบเนียนที่จะขอกลับบ้านก่อน ในขณะที่อี้ชิงและเซฮุนมันยังเก็บของไม่เสร็จดีนัก

    ผมคงต้องรีบปลีกตัวออกไปให้เร็วที่สุด แต่ต้องไม่น่าสงสัย ไม่งั้นไอ้พวกนี้ต้องชวนผมไปกินบะหมี่เจ้าประจำอีกแน่ๆ

     
     

     

    “น่ารักดีนะ...มึงว่าไหม?” จงแดพูดออกมายิ้มๆ ผมยกคิ้วอย่างแปลกใจ

     

     

    “อะไรน่ารัก? กูเหรอ?”

     

     

    ผมถามเขาอย่างไม่เข้าใจ...

    แต่ความรู้สึกบางอย่างในใจกำลังทำให้รู้สึกร้อนรนขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

    ลางสังหรณ์กำลังบอกผมว่าเรื่องนี้ไม่ดีนักที่ผมจะฟังต่อไป

     
     

    “อย่าพูดให้กูขนลุก...กูหมายถึงแบคฮยอนต่างหากที่น่ารัก”

     
     

    “อะไรนะ?” ผมถามเขาออกไปเสียงดัง ก่อนที่จงแดจะหันมามองหน้าผมแล้วพูดซ้ำอีกครั้ง

     
     

    “น่ารักไง...กูบอกว่าแบคฮยอนน่ารัก”

     
     

    “มึงชอบแบคฮยอนเหรอ?”

     
     

    ผมถามเขาออกไป

    หัวใจกำลังบีบตัวอย่างเจ็บปวดจนรู้สึกว่ามันกำลังจะหยุดทำงานอยู่มะรอมมะร่อ

     
     

    “เปล่า...กูแค่รู้สึกว่าเขาน่ารักดี

    ทำไม มึงชอบแบคฮยอนหรือไง?”

     
     

    จงแดหันขวับมาถามผมด้วยสายตาที่ทำเอาผมต้องลนลานขึ้นมาจนตัวสั่น

    ผมรีบยกไม้ยกมือมาโบกไปมาเพื่อปฏิเสธ เพราะว่าสายตาของจงแดตอนนี้มันทำให้รู้สึกอึดอัดจริงๆ

     
     

    “บ..บ้า! ไม่ใช่ซักหน่อยนะ...กูไม่ได้ชอบเขา!

    ต..แต่กูเห็นว่ามึงคุยกับพี่มินซอกอยู่ กูนึกว่ามึงกำลังจีบพี่เขาซะอีก”

     

     

    ผมแก้ตัวออกไปข้างๆคูๆ แต่ข้างในใจรู้สึกหงุดหงิดจริงๆ

    ถึงแม้ว่าจงแดจะไม่ได้ชอบก็เถอะ แต่การที่มันมาชมแบคฮยอนว่าน่ารักนี่มัน...

    ...น่าโมโหจริงๆให้ตาย...

     
     

     

    “กูเปล่า...พี่เขาอยู่หอเดียวกับกูเฉยๆ  ไม่ได้คุยกันซักหน่อย มึงมั่วละ

    กูไม่รู้ว่าเขามีแฟนหรือยัง ไม่แน่อาจจะมีแล้วก็ได้

    เฮ้อ...แล้วเมื่อไหร่จะมีโอกาสอย่างวันนั้นอีกวะ ให้ตายเหอะ”

     
     

    จงแดพูดออกมาด้วยน้ำเสียงดูล่องลอย...ผมกระตุกหัวคิ้วขมวดแล้วเริ่มซักถามเขาทันที

    โอกาส...โอกาสอะไร.....

     
     

     

    “โอกาสอะไร?”  ผมถาม...

     

     

    “ก็วันนั้นไง...ที่เราไปเจอแบคฮยอนที่ห้างน่ะ

    กูเข้าไปดูหนังกับเขาเพราะว่าคยองซูไม่มา”

     
     

     

    จงแดตอบก่อนจะยิ้มกว้าง

    หัวใจผมจู่ๆก็หยุดเต้นไปเฉยๆ เมื่อคำตอบที่ผมได้รับจากจงแดและจากปากของแบคฮยอนนั้นมันไม่ตรงกันเลย

     

     
     

    ...ฉันไม่ได้เข้าไปดูหรอก พอนายไม่อยู่ฉันก็กลับบ้าน...

     
     

     

    พระเจ้า...แบคฮยอนโกหก...

    เขาโกหกผม...

     
     

     

    “ว่าแต่มึงกำลังจะไปไหน ไม่ไปกินข้าวด้วยกันเหรอวะวันนี้?”

     

     

    จงแดถามขึ้นเมื่อเห็นผมบีบมือกำรอบสายสะพายกระเป๋าแน่น

    ผมสะดุ้งก่อนจะหันกลับไปสนใจเขา...ไม่ ตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะมาโมโห

    แบคฮยอนกำลังรออยู่ และผมไม่อยากจะผิดนัดเขาอีกเป็นครั้งที่สามของอาทิตย์นี้อีกแล้วล่ะ...

     
     

     

    “เอ่อ...พวกมึงไปกันเลยเหอะ วันนี้กูมีธุระนิดหน่อย

    กูกลับก่อนนะ บ๊ายบาย!

     
     

     

    “อ้าวเฮ้ย! เดี๋ยวดิไอ้ยอล!

    อ้าว...ไอ้เวรนี่จะรีบไปไหนของมันล่ะเนี่ย?”

     
     

     

    ผมรีบบอกเขาแล้วรีบเดินออกมา ผมได้ยินจงแดเรียกผมแต่ผมไม่ได้มีอารมณ์จะหันกลับไปสนใจเขา

    ผมกำลังกัดริมฝีปากอย่างชั่งใจในข้อความที่เพิ่งได้ยินจากปากเพื่อนรัก

    รู้สึกหวั่นใจในเรื่องที่กำลังเผชิญอยู่...

     
     

    .

    .

    .

     

     

    และผมหวังว่ามันจะไม่ใช่อย่างที่ผมคิด...











    TALK


    ชอกช้ำระกำทรวง...กดอัพเดทรอบแรกแล้วข้อมูลหายหมดได้ลงใหม่รอบที่สอง T T
    อาจจะมีคนสงสัยว่า อิไรเตอร์มันเพิ่งบอกว่าจะไม่อัพฟิคอาทิตย์นึงแล้วนี่อะไร?
    คืออยากจะบอกว่าวันนี้เครียดมากค่ะ...
    สอบแล้วแบบมัน @$@*$&#@$&)*@&#^&%#@*_)&)#!% มากๆ!!
    อารมณ์แบบไม่สามารถจะบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้
    เลยต้องระบายมันออกมาทางนี้ #ประชดชีวิต

    แต่ก็เอาเถอะค่ะ...ตอนนี้มันมาแล้วนะ
    มันยังไม่ดราม่าเท่าไหร่ และคิดว่าก็ตอนหน้าก็ยังไม่น่าจะดราม่านะ 
    เพราะงั้นฝากติดตามผลงานของไรเตอร์กันต่อไปนะคะ
    รักทุกคน เอฟเวอรี่บอดี้เลย ชุ๊บๆ >3

    ป.ล. อย่าลืมนะคะ...รักกันแล้วอย่าลืมบอกต่อ ^^





     

    G Minor!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×