คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : 01 - ✚ :: C U R S E :: ✚
Translator : MR.$N0WMAN*
Pairing : Kim Jongdae & Kim Junmyun
Original Story by : albireon - binary - Never Let Me Go
Photo Credit: Tumblr
Rate : PG - 17
Touch *
มันก็แค่เรื่องที่ไม่สามารถจะค้นหาคำตอบได้ ไม่จำเป็นต้องมีหลักวิทยาศาตร์หรือตรรกะใดๆ
มันก็แค่เกิดขึ้นมาอย่างง่ายดาย -- เกิดขึ้นมาแล้ว...ก็เพียงแค่เท่านั้น
ซูโฮไม่เคยรู้สึกชอบการสัมผัสทางผิวหนังกับคนอื่นเลยซักครั้ง...เขาก็แค่เป็นคนจำพวกนั้นนั่นแหละ
เขาไม่เคยจะแข็งขืนได้เลยซักครั้งเวลาที่แม่เขามอบกอดให้ หรือสัมผัสที่ศีรษะจากมือของผู้เป็นพ่อเลยซักครั้ง
แต่เมื่อเขาได้บอกกับเด็กชายคนหนึ่ง(ว่าเขาไม่ชอบให้ใครมาแตะตัว)ที่อยู่ด้วยกันในโรงเรียนเตรียมอนุบาล
เป็นเด็กชายที่ผลักซูโฮและแย่งน้ำผลไม้ของเขาไป...ตั้งแต่วันนั้นเด็กคนนั้นก็ไม่กลับมาอีกเลย
ซึ่งซูโฮเองก็ไม่เข้าใจเท่าไหร่นักหรอก...
อาทิตย์ต่อมา มีเด็กหญิงคนหนึ่งพยายามจะวางช่อดอกเดซี่ที่ถูกถักเป็นเปียมาไว้บนศีรษะของเขา
ซูโฮสะดุ้งสุดตัว ตอนที่นิ้วมือเย็นๆ ของเธอมาสัมผัสโดนที่ใบหูของเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ
เขาขมวดคิ้ว โยนเอาช่อดอกเดซี่ที่เธอเป็นคนร้อยเองขว้างคืนไปให้เธอ
ก่อนที่เขาจะกระทืบเท้า และเดินหนีเธอออกมาจากกระบะทรายที่นั่งเล่นอยู่ตามลำพัง
มาคิดได้ว่าเด็กหญิงอาจจะเล่นด้วย อยากจะขอโทษเธอก็ตอนที่สายไปแล้ว
เพราะในวันต่อมา...เด็กหญิงคนนั้นก็ไม่กลับมาอีก -- และซูโฮก็ไม่เคยพบเห็นเธออีกเลย
แต่ซูโฮเองก็ไม่ได้คิดจริงจังเกี่ยวกับมันนักหรอก
บางทีเธอก็อาจจะทำเถาจากดอกเดซี่ไว้เยอะแล้วไปเล่นกับคนอื่นแล้วล่ะมั้ง
ซูโฮเสียใจมากตอนที่เด็กผู้หญิงอีกคนหนึ่ง...ซอฮยอนน่าจะเป็นชื่อของเธอ
ออกจากชั้นเรียนไปหลังจากที่เธอแบ่งคุกกี้ช็อคโกแล๊ตชิปให้เขาเมื่อวาน
ซูโฮกลับบ้านไปถามแม่เพื่อขอช๊อคโกแลตบาร์อันใหญ่บึ้ม ขอเพื่อที่จะเอามาแบ่งให้กับเธอ...แต่เธอก็ดันไม่อยู่ซะแล้ว
มีเด็กชายอีกสองคนหายไป...
พ่อแม่ของเขาตัดสินใจได้ว่าที่บริเวณนี้คงไม่ใช่ที่ๆ ดีซักเท่าไหร่นักที่ซูโฮจะใช้ชีวิตและเติบโต
ดังนั้นพวกเขาเลยย้ายออกมาตั้งแต่วันนั้น...
ช่วงชั้นประถมของเขาก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนัก ซูโฮค้นพบว่าแท้จริงแล้วเขาเองก็ชอบวิ่งเล่นไปทั่วบ้างเป็นครั้งคราวนะ
แต่เขาไม่ค่อยชอบที่จะเข้าไปเล่นวิ่งไล่จับกับเด็กผู้ชายคนอื่นๆ ซักเท่าไหร่...
เขาค่อนข้างที่จะชอบอยู่แต่ในห้องเรียน และใช้เวลาอยู่กับการวาดรูปและดินสอในมือของเขามากกว่า
คุณครูประจำชั้นของซูโฮพยายามจะลากเข้าให้ออกมาเล่นข้างนอก
ซูโฮคิดว่ารอยยิ้มของเธอช่างสวยงามจริงๆ ตอนที่เธอกุมมือของซูโฮไปจับเอาไว้ และเดินนำเขาไปที่หน้าประตู
.
.
.
พวกเขามีคุณครูประจำชั้นคนใหม่เข้ามาดูแลในวันรุ่งขึ้น...
ซูโฮพบว่ารอยยิ้มของคุณครูคนใหม่ไม่ได้สวยงามเท่ากับรอยยิ้มของคุณครูคนเก่าเลย...
*******
เขาเริ่มรู้สึกถึงความไม่ปกติในตอนที่เขาอยู่ไฮสคูล
เพื่อนของเขาตัดสินใจลงสมัครประธานนักเรียน
และซูโฮเองก็ยินดีและให้กำลังใจเขาในระหว่างที่เขาขึ้นปราศรัยขอคะแนนเสียงเลือกตั้งสภานักเรียน
ตอนที่จบการปราศรัย เพื่อนของเขาเดินลงมาจากแท่นและขอแท็กมือกับทุกคน
ซูโฮยิ้มกว้าง...ก่อนที่จะส่งมือไปให้เพื่อนคนนั้นที่ยื่นมือมาขอไฮไฟว์กับเขา
ซูโฮหยุดร้องไห้ไม่ได้เลยตอนที่อาจารย์ใหญ่ได้ประกาศต่อหน้านักเรียนทั้งหมด
ว่าเพื่อนของเขาคนนั้น...ถูกชนโดยรถแท็กซี่ในระหว่างทางกลับบ้านของเขา
เขามีอนาคตที่สดใสรออยู่ข้างหน้า...ซูโฮบอกกับอาจารย์ใหญ่ที่ทำหน้าตาเคร่งขรึมแบบนั้น
ก่อนที่จะใช้ฝ่ามือที่ด้านชาเช็ดน้ำตาออกจากข้างแก้มอย่างช้าๆ
ไม่มีใครในชั้นเรียนของเขาที่ไฮไฟว์กับเขาอีก...ช่างเป็นความทรงจำที่แสนเจ็บปวด
*********
สองปีให้หลัง...มีเด็กชายคนหนึ่งย้ายเข้ามาใหม่
ริมฝีปากของเด็กชายที่ชื่อ คยองซู พรายกว้างเป็นรูปหัวใจเวลาที่เขายิ้ม
เสียงหัวเราะและเสียงของเขาช่างหวานจับใจ...
ซูโฮรู้สึกสงสัยว่าริมฝีปากของคยองซูจะอ่อนนุ่มเหมือนกับที่เขาเห็นมันไหมนะ
บทสนทนาและรอยยิ้มมากมายที่คยองซูมีให้ซูโฮ ทำให้เขาค้นพบในที่สุด
ว่าแท้จริงแล้วริมฝีปากของคยองซูน่ะ อ่อนนุ่มเหมือนกับที่เขาจินตนาการไว้ไม่มีผิดเลย...
ซูโฮยิ้มกว้างในขณะที่กำลังจะเคลิ้มหลับ...คาดหวังว่าเขาจะได้นัดคยองซูเพื่อเดทกันหลังจากเลิกเรียนในวันรุ่งขึ้น
แต่คยองซูก็ไม่กลับมาให้เขาเห็นหน้าอีกเลย...
ซูโฮรู้สึกหดหูเหลือเกิน...เขาถามเพื่อนของคยองซูว่ามีใครพบเห็นคยองซูบ้างไหม
แต่ไม่มีใครเห็นคยองซูมาที่โรงเรียนเลยนับตั้งแต่วันนั้น
ซูโฮขมวดคิ้ว เมื่อเขาส่งข้อความหลายต่อหลายข้อความไปให้คยองซู
แต่ก็ไม่เคยมีข้อความไหนเลยที่ตอบกลับ...
ช่องข่าวท้องถิ่นช่องหนึ่งได้ให้รายงานว่ามีเด็กผู้ชายคนหนึ่งถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในคืนนั้นด้วยอาการหัวใจวาย
สร้างความประหลาดใจให้กับหมอและพยาบาลเป็นอย่างมาก...
เพราะเด็กคนนั้นไม่เคยมีประวัติหรืออาการที่บ่งบอกว่าเขาเป็นโรคหัวใจมาก่อน
ช่างเป็นโศกนาฏกรรมที่น่าเศร้า...ซูโฮหยิบรีโมทขึ้นมาเตรียมจะกดเปลี่ยนช่อง
หากแต่นิ้วของเขาก็หยุดชะงัก เมื่อพวกเขาโชวร์รูปภาพของเด็กนักเรียนของคนหนึ่งที่มีรอยยิ้มกว้าง
เป็นรอยยิ้มที่ซูโฮจำได้ดี...
ซูโฮวิ่งสะดุดโต๊ะเมื่อเขาถลันลุกจากโซฟาเพื่อไปที่ห้องน้ำ
เกาะขอบชักโครกเอาไว้แล้วอาเจียนออกมาหลายต่อหลายครั้ง
จนกระทั่งเขารู้สึกว่าเขาอาเจียนอย่างหนักและร้องไห้ออกมาจนเขาไม่สามารถหายใจได้
ความมืดมิดเริ่มย่างกรายเข้ามาเกาะกินหัวใจของซูโฮอย่างช้าๆ...
และมันก็ทำให้เขาอาเจียนออกมาอีกครั้งหนึ่ง
*********
โชคดีหรือโชคร้ายก็ไม่อาจจะแน่ใจนัก ที่บทความหนังสือพิมพ์เก่าๆ ง่ายต่อการค้นหาในโลกออนไลน์
ซูโฮค้นหาเกี่ยวกับบ้านเก่าของเขาในบทความข่าวเหล่านั้น และพบว่า
ไปภายในเดือนเดียวมีเด็กเตรียมอนุบาลห้าคนได้เสียชีวิตลง...
รวมถึงข่าวโศกนาฏกรรมอันน่าเศร้าของสามนักเรียนและอาจารย์สาวชั้นในโรงเรียนประถม
เพื่อน, คนแปลกหน้า, และใบหน้าของคนที่ซูโฮตระหนักดีว่าเขาเคยพบถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ใส่ชื่อลงไป
มือของซูโฮสั่นระริกอย่างน่าประหลาด...
แต่ก็อาจจะเป็นแค่เหตุบังเอิญก็ได้นี่จริงไหม?
พวกคนเหล่านั้นอาจจะแค่บังเอิญโชคร้ายมาก มาก มาก ถึงขั้นมากที่สุด
แต่แล้วทำไมซูโฮต้องรู้สึกหวาดหวั่นได้ถึงขนาดนี้?
ซูโฮร้องไห้ออกมา...เมื่อพ่อของเขาพยายามจะกระทืบแมงมุมตัวหนึ่งที่มุมห้อง
หลังจากที่เขาพยายามไล่ต้อนและจับมันเพื่อให้มันออกไปจากบ้าน
ซูโฮไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตนเองคิด
เขาน่ะ...เขาคนที่เกลียดเกมส์ที่มีเนื้อหารุนแรง หรือแม้แต่ความตาย
เรื่องราวแบบนั้น -- มันเป็นไปไม่ได้เลย...
เช้าวันอาทิตย์ในสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง...
สายลมช่างแผ่วเบา และไม่มากพอที่จะต้านทานเหงื่อของซูโฮที่ไหลรินลงมาใต้เสื้อเชิ้ตแขนยาวของเขา
เขาแค่ต้องการจะทดสอบ...ซูโฮคิดขึ้นมาในขณะที่เขามองผู้คนแปลกหน้าที่เดินผ่านสายตาเขา
หญิงชราหลังงองุ้มคนหนึ่งพร้อมด้วยไม้เท้า เดินผ่านมายังเก้าอี้ที่ซูโฮกำลังนั่งอยู่
เขาลุกขึ้นและเดินเข้าไปช่วยเธอ...
ร่องรอยแห่งความชราโผล่ขึ้นมาบนใบหน้าจากรอยยิ้มกว้างที่เธอส่งยิ้มมาให้เขา
ซูโฮส่งยิ้มกลับไป หากแต่เขารู้สึกถึงหัวใจที่เต้นโครมครามหลังจากที่เธอส่งมือเข้ามาเกี่ยวที่แขนของเขา...
ซูโฮเดินมาส่งหญิงชราจนถึงบ้าน...
รู้สึกเจ็บปวดเหลือเกินเมื่อเธอส่งมือที่แสนอ่อนนุ่มมาลูบที่หลังมือของเขาเบาๆ อย่างอ่อนหวาน
และเขย่ามันเพื่อเป็นการขอบคุณ...
“เธอเป็นเด็กดีเหลือเกินพ่อหนุ่ม”
ซูโฮไม่รู้ว่าเขาสมควรจะหัวเราะหรือร้องไห้...หลังจากที่เธอพูดกับเขาอย่างนั้น
ทั้งๆ ที่ในวันนั้นเขาตัดสินใจที่จะไม่ค้นหาคำตอบใดๆ
แต่สุดท้ายแล้วสองเท้าก็นำพาเขาเดินไปที่บ้านของหญิงชราคนนั้นในวันต่อมา...
ซูโฮเคาะที่ประตูหน้า...หากแต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับมา หรือแม้กระทั่งเปิดออก
เขาเคาะอีกครั้งหนึ่ง อีกครั้ง...และอีกครั้ง เพิ่มจังหวะเคาะรุนแรงขึ้น...แต่ประตูก็ยังปิดสนิท
ซูโฮรู้สึกถึงความพะอืดพะอมที่หมุนวนอยู่ในช่องท้อง และเขาอยากจะวิ่งหนี
เขาพยายามจะอธิบายกับเพื่อนบ้านของหญิงชราที่เดินออกมาบอกให้เขาเงียบเสียงลงหน่อย
เขาพยายามเดินเข้ามาช่วยซูโฮเรียกหาหญิงชราที่อยู่ในบ้าน...
แต่แล้วก็ปราศจากเสียงสั่นเครือของหญิงชราที่ซูโฮช่วยเหลือเมื่อวานตอบกลับมาจากหลังประตูนั้นเลยซักหนเดียว...
เสียงรถฉุกเฉินดังอยู่ไม่ไกลนัก...
แต่ซูโฮกลับไม่ได้ยินแม้แต่สรรพเสียงใดๆ นอกจากความคิดบ้าบอที่วนเวียนอยู่ในหัว
เจ้าหน้าที่ตำรวจมาพร้อมด้วยคำถามสองสามข้อ
และพวกเขาพยายามจะปลอบให้ซูโฮที่กำลังร้องไห้อย่างหนักหน่วงให้ใจเย็นลง
แต่เขาไม่เข้าใจคำปลอบใจนั้นเลย...และไม่อยากจะเข้าใจอะไรทั้งนั้นเลยด้วย
.
.
.
เขาแค่อยากจะตัดมือที่เปื้อนเลือดอันแสนสกปรกของเขาออกไปให้พ้น...ก็เท่านั้นเอง
TBC.
ฟิคเรื่องนี้เป็นฟิคแปลมาจากภาษาอังกฤษนะคะ
นมน.ส่งข้อความไปขอเจ้าของเรื่องแล้ว แล้วก็เลยเอามาแชร์ให้รีดเดอร์ได้อ่านกัน
ฟิคเรื่องนี้นมน.เปลี่ยนชื่อเรื่องจากต้นฉบับ Never let me go เป็น TOUCH เพราะดูมันเข้ากันมากกว่า แฮ่ๆ
ความจริงมันไม่ยาว แต่นมน.แบ่งเป็นสามตอนเพื่อที่จะได้แบ่งอารมณ์ได้ถูก
เพราะในฟิคต้นฉบับมันเขียนต่อกัน บางทีก็เร็วไปหน่อยที่จะเปลี่ยนฉากน่ะค่ะ
ยังไงลองอ่านกันดูนะ... ไม่รู้ว่าแปลออกมาแล้วรู้เรื่องรึเปล่าอ่ะ 5555555
ฝากคอมเม้นท์ให้เรื่องนี้ด้วยนะคะ ^^
ความคิดเห็น