ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO - 3SH0T] ✚ :: T O U C H :: ✚ [ CHEN&SUHO ]*

    ลำดับตอนที่ #1 : 01 - ✚ :: C U R S E :: ✚

    • อัปเดตล่าสุด 19 มิ.ย. 56


    Translator : MR.$N0WMAN*

    Pairing : Kim Jongdae & Kim Junmyun

    Original Story by : albireon - binary - Never Let Me Go

    Photo Credit: Tumblr     

    Rate : PG - 17  

     

    Touch *



     

     

    มันก็แค่เรื่องที่ไม่สามารถจะค้นหาคำตอบได้ ไม่จำเป็นต้องมีหลักวิทยาศาตร์หรือตรรกะใดๆ

    มันก็แค่เกิดขึ้นมาอย่างง่ายดาย -- เกิดขึ้นมาแล้ว...ก็เพียงแค่เท่านั้น

     

    ซูโฮไม่เคยรู้สึกชอบการสัมผัสทางผิวหนังกับคนอื่นเลยซักครั้ง...เขาก็แค่เป็นคนจำพวกนั้นนั่นแหละ

    เขาไม่เคยจะแข็งขืนได้เลยซักครั้งเวลาที่แม่เขามอบกอดให้ หรือสัมผัสที่ศีรษะจากมือของผู้เป็นพ่อเลยซักครั้ง

    แต่เมื่อเขาได้บอกกับเด็กชายคนหนึ่ง(ว่าเขาไม่ชอบให้ใครมาแตะตัว)ที่อยู่ด้วยกันในโรงเรียนเตรียมอนุบาล

    เป็นเด็กชายที่ผลักซูโฮและแย่งน้ำผลไม้ของเขาไป...ตั้งแต่วันนั้นเด็กคนนั้นก็ไม่กลับมาอีกเลย

    ซึ่งซูโฮเองก็ไม่เข้าใจเท่าไหร่นักหรอก...

     

    อาทิตย์ต่อมา มีเด็กหญิงคนหนึ่งพยายามจะวางช่อดอกเดซี่ที่ถูกถักเป็นเปียมาไว้บนศีรษะของเขา

    ซูโฮสะดุ้งสุดตัว ตอนที่นิ้วมือเย็นๆ ของเธอมาสัมผัสโดนที่ใบหูของเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ

    เขาขมวดคิ้ว โยนเอาช่อดอกเดซี่ที่เธอเป็นคนร้อยเองขว้างคืนไปให้เธอ

    ก่อนที่เขาจะกระทืบเท้า และเดินหนีเธอออกมาจากกระบะทรายที่นั่งเล่นอยู่ตามลำพัง

    มาคิดได้ว่าเด็กหญิงอาจจะเล่นด้วย อยากจะขอโทษเธอก็ตอนที่สายไปแล้ว

    เพราะในวันต่อมา...เด็กหญิงคนนั้นก็ไม่กลับมาอีก -- และซูโฮก็ไม่เคยพบเห็นเธออีกเลย

     

    แต่ซูโฮเองก็ไม่ได้คิดจริงจังเกี่ยวกับมันนักหรอก

    บางทีเธอก็อาจจะทำเถาจากดอกเดซี่ไว้เยอะแล้วไปเล่นกับคนอื่นแล้วล่ะมั้ง

     
    ซูโฮเสียใจมากตอนที่เด็กผู้หญิงอีกคนหนึ่ง...ซอฮยอนน่าจะเป็นชื่อของเธอ  

    ออกจากชั้นเรียนไปหลังจากที่เธอแบ่งคุกกี้ช็อคโกแล๊ตชิปให้เขาเมื่อวาน

    ซูโฮกลับบ้านไปถามแม่เพื่อขอช๊อคโกแลตบาร์อันใหญ่บึ้ม ขอเพื่อที่จะเอามาแบ่งให้กับเธอ...แต่เธอก็ดันไม่อยู่ซะแล้ว

     

    มีเด็กชายอีกสองคนหายไป...

    พ่อแม่ของเขาตัดสินใจได้ว่าที่บริเวณนี้คงไม่ใช่ที่ๆ ดีซักเท่าไหร่นักที่ซูโฮจะใช้ชีวิตและเติบโต

    ดังนั้นพวกเขาเลยย้ายออกมาตั้งแต่วันนั้น...

     

    ช่วงชั้นประถมของเขาก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนัก ซูโฮค้นพบว่าแท้จริงแล้วเขาเองก็ชอบวิ่งเล่นไปทั่วบ้างเป็นครั้งคราวนะ

    แต่เขาไม่ค่อยชอบที่จะเข้าไปเล่นวิ่งไล่จับกับเด็กผู้ชายคนอื่นๆ ซักเท่าไหร่...

    เขาค่อนข้างที่จะชอบอยู่แต่ในห้องเรียน และใช้เวลาอยู่กับการวาดรูปและดินสอในมือของเขามากกว่า

    คุณครูประจำชั้นของซูโฮพยายามจะลากเข้าให้ออกมาเล่นข้างนอก

    ซูโฮคิดว่ารอยยิ้มของเธอช่างสวยงามจริงๆ ตอนที่เธอกุมมือของซูโฮไปจับเอาไว้ และเดินนำเขาไปที่หน้าประตู

     .
    .
    .

    พวกเขามีคุณครูประจำชั้นคนใหม่เข้ามาดูแลในวันรุ่งขึ้น...

    ซูโฮพบว่ารอยยิ้มของคุณครูคนใหม่ไม่ได้สวยงามเท่ากับรอยยิ้มของคุณครูคนเก่าเลย...

     

     

     *******

     

    เขาเริ่มรู้สึกถึงความไม่ปกติในตอนที่เขาอยู่ไฮสคูล

    เพื่อนของเขาตัดสินใจลงสมัครประธานนักเรียน

    และซูโฮเองก็ยินดีและให้กำลังใจเขาในระหว่างที่เขาขึ้นปราศรัยขอคะแนนเสียงเลือกตั้งสภานักเรียน

    ตอนที่จบการปราศรัย เพื่อนของเขาเดินลงมาจากแท่นและขอแท็กมือกับทุกคน

    ซูโฮยิ้มกว้าง...ก่อนที่จะส่งมือไปให้เพื่อนคนนั้นที่ยื่นมือมาขอไฮไฟว์กับเขา

     

    ซูโฮหยุดร้องไห้ไม่ได้เลยตอนที่อาจารย์ใหญ่ได้ประกาศต่อหน้านักเรียนทั้งหมด

    ว่าเพื่อนของเขาคนนั้น...ถูกชนโดยรถแท็กซี่ในระหว่างทางกลับบ้านของเขา

     

    เขามีอนาคตที่สดใสรออยู่ข้างหน้า...ซูโฮบอกกับอาจารย์ใหญ่ที่ทำหน้าตาเคร่งขรึมแบบนั้น

    ก่อนที่จะใช้ฝ่ามือที่ด้านชาเช็ดน้ำตาออกจากข้างแก้มอย่างช้าๆ

     

    ไม่มีใครในชั้นเรียนของเขาที่ไฮไฟว์กับเขาอีก...ช่างเป็นความทรงจำที่แสนเจ็บปวด

     

     

    *********

     

    สองปีให้หลัง...มีเด็กชายคนหนึ่งย้ายเข้ามาใหม่

    ริมฝีปากของเด็กชายที่ชื่อ คยองซู พรายกว้างเป็นรูปหัวใจเวลาที่เขายิ้ม

    เสียงหัวเราะและเสียงของเขาช่างหวานจับใจ...

    ซูโฮรู้สึกสงสัยว่าริมฝีปากของคยองซูจะอ่อนนุ่มเหมือนกับที่เขาเห็นมันไหมนะ

     

    บทสนทนาและรอยยิ้มมากมายที่คยองซูมีให้ซูโฮ ทำให้เขาค้นพบในที่สุด

    ว่าแท้จริงแล้วริมฝีปากของคยองซูน่ะ อ่อนนุ่มเหมือนกับที่เขาจินตนาการไว้ไม่มีผิดเลย...

    ซูโฮยิ้มกว้างในขณะที่กำลังจะเคลิ้มหลับ...คาดหวังว่าเขาจะได้นัดคยองซูเพื่อเดทกันหลังจากเลิกเรียนในวันรุ่งขึ้น


    แต่คยองซูก็ไม่กลับมาให้เขาเห็นหน้าอีกเลย...

     

     

    ซูโฮรู้สึกหดหูเหลือเกิน...เขาถามเพื่อนของคยองซูว่ามีใครพบเห็นคยองซูบ้างไหม

    แต่ไม่มีใครเห็นคยองซูมาที่โรงเรียนเลยนับตั้งแต่วันนั้น

    ซูโฮขมวดคิ้ว เมื่อเขาส่งข้อความหลายต่อหลายข้อความไปให้คยองซู

    แต่ก็ไม่เคยมีข้อความไหนเลยที่ตอบกลับ...

     

    ช่องข่าวท้องถิ่นช่องหนึ่งได้ให้รายงานว่ามีเด็กผู้ชายคนหนึ่งถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในคืนนั้นด้วยอาการหัวใจวาย

    สร้างความประหลาดใจให้กับหมอและพยาบาลเป็นอย่างมาก...

    เพราะเด็กคนนั้นไม่เคยมีประวัติหรืออาการที่บ่งบอกว่าเขาเป็นโรคหัวใจมาก่อน

     

    ช่างเป็นโศกนาฏกรรมที่น่าเศร้า...ซูโฮหยิบรีโมทขึ้นมาเตรียมจะกดเปลี่ยนช่อง

    หากแต่นิ้วของเขาก็หยุดชะงัก เมื่อพวกเขาโชวร์รูปภาพของเด็กนักเรียนของคนหนึ่งที่มีรอยยิ้มกว้าง

     

    เป็นรอยยิ้มที่ซูโฮจำได้ดี...

     

    ซูโฮวิ่งสะดุดโต๊ะเมื่อเขาถลันลุกจากโซฟาเพื่อไปที่ห้องน้ำ

    เกาะขอบชักโครกเอาไว้แล้วอาเจียนออกมาหลายต่อหลายครั้ง

    จนกระทั่งเขารู้สึกว่าเขาอาเจียนอย่างหนักและร้องไห้ออกมาจนเขาไม่สามารถหายใจได้

     

    ความมืดมิดเริ่มย่างกรายเข้ามาเกาะกินหัวใจของซูโฮอย่างช้าๆ...

    และมันก็ทำให้เขาอาเจียนออกมาอีกครั้งหนึ่ง

    *********


     

    โชคดีหรือโชคร้ายก็ไม่อาจจะแน่ใจนัก ที่บทความหนังสือพิมพ์เก่าๆ ง่ายต่อการค้นหาในโลกออนไลน์

    ซูโฮค้นหาเกี่ยวกับบ้านเก่าของเขาในบทความข่าวเหล่านั้น และพบว่า

    ไปภายในเดือนเดียวมีเด็กเตรียมอนุบาลห้าคนได้เสียชีวิตลง...

    รวมถึงข่าวโศกนาฏกรรมอันน่าเศร้าของสามนักเรียนและอาจารย์สาวชั้นในโรงเรียนประถม

    เพื่อน, คนแปลกหน้า, และใบหน้าของคนที่ซูโฮตระหนักดีว่าเขาเคยพบถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ใส่ชื่อลงไป

    มือของซูโฮสั่นระริกอย่างน่าประหลาด...

     

    แต่ก็อาจจะเป็นแค่เหตุบังเอิญก็ได้นี่จริงไหม?

    พวกคนเหล่านั้นอาจจะแค่บังเอิญโชคร้ายมาก มาก มาก ถึงขั้นมากที่สุด

    แต่แล้วทำไมซูโฮต้องรู้สึกหวาดหวั่นได้ถึงขนาดนี้?

     

    ซูโฮร้องไห้ออกมา...เมื่อพ่อของเขาพยายามจะกระทืบแมงมุมตัวหนึ่งที่มุมห้อง

    หลังจากที่เขาพยายามไล่ต้อนและจับมันเพื่อให้มันออกไปจากบ้าน

     

    ซูโฮไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตนเองคิด

    เขาน่ะ...เขาคนที่เกลียดเกมส์ที่มีเนื้อหารุนแรง หรือแม้แต่ความตาย

    เรื่องราวแบบนั้น -- มันเป็นไปไม่ได้เลย...

     

    เช้าวันอาทิตย์ในสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง...

    สายลมช่างแผ่วเบา และไม่มากพอที่จะต้านทานเหงื่อของซูโฮที่ไหลรินลงมาใต้เสื้อเชิ้ตแขนยาวของเขา

    เขาแค่ต้องการจะทดสอบ...ซูโฮคิดขึ้นมาในขณะที่เขามองผู้คนแปลกหน้าที่เดินผ่านสายตาเขา

    หญิงชราหลังงองุ้มคนหนึ่งพร้อมด้วยไม้เท้า เดินผ่านมายังเก้าอี้ที่ซูโฮกำลังนั่งอยู่

     

    เขาลุกขึ้นและเดินเข้าไปช่วยเธอ...

    ร่องรอยแห่งความชราโผล่ขึ้นมาบนใบหน้าจากรอยยิ้มกว้างที่เธอส่งยิ้มมาให้เขา

    ซูโฮส่งยิ้มกลับไป หากแต่เขารู้สึกถึงหัวใจที่เต้นโครมครามหลังจากที่เธอส่งมือเข้ามาเกี่ยวที่แขนของเขา...

     

    ซูโฮเดินมาส่งหญิงชราจนถึงบ้าน...

    รู้สึกเจ็บปวดเหลือเกินเมื่อเธอส่งมือที่แสนอ่อนนุ่มมาลูบที่หลังมือของเขาเบาๆ อย่างอ่อนหวาน

    และเขย่ามันเพื่อเป็นการขอบคุณ...

     

    เธอเป็นเด็กดีเหลือเกินพ่อหนุ่ม

     

    ซูโฮไม่รู้ว่าเขาสมควรจะหัวเราะหรือร้องไห้...หลังจากที่เธอพูดกับเขาอย่างนั้น

     

     

    ทั้งๆ ที่ในวันนั้นเขาตัดสินใจที่จะไม่ค้นหาคำตอบใดๆ

    แต่สุดท้ายแล้วสองเท้าก็นำพาเขาเดินไปที่บ้านของหญิงชราคนนั้นในวันต่อมา...

    ซูโฮเคาะที่ประตูหน้า...หากแต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับมา หรือแม้กระทั่งเปิดออก

    เขาเคาะอีกครั้งหนึ่ง อีกครั้ง...และอีกครั้ง เพิ่มจังหวะเคาะรุนแรงขึ้น...แต่ประตูก็ยังปิดสนิท

    ซูโฮรู้สึกถึงความพะอืดพะอมที่หมุนวนอยู่ในช่องท้อง และเขาอยากจะวิ่งหนี

     

    เขาพยายามจะอธิบายกับเพื่อนบ้านของหญิงชราที่เดินออกมาบอกให้เขาเงียบเสียงลงหน่อย

    เขาพยายามเดินเข้ามาช่วยซูโฮเรียกหาหญิงชราที่อยู่ในบ้าน...

    แต่แล้วก็ปราศจากเสียงสั่นเครือของหญิงชราที่ซูโฮช่วยเหลือเมื่อวานตอบกลับมาจากหลังประตูนั้นเลยซักหนเดียว...

     

    เสียงรถฉุกเฉินดังอยู่ไม่ไกลนัก...

    แต่ซูโฮกลับไม่ได้ยินแม้แต่สรรพเสียงใดๆ นอกจากความคิดบ้าบอที่วนเวียนอยู่ในหัว

    เจ้าหน้าที่ตำรวจมาพร้อมด้วยคำถามสองสามข้อ

    และพวกเขาพยายามจะปลอบให้ซูโฮที่กำลังร้องไห้อย่างหนักหน่วงให้ใจเย็นลง

    แต่เขาไม่เข้าใจคำปลอบใจนั้นเลย...และไม่อยากจะเข้าใจอะไรทั้งนั้นเลยด้วย

     
    .

    .

    .

    เขาแค่อยากจะตัดมือที่เปื้อนเลือดอันแสนสกปรกของเขาออกไปให้พ้น...ก็เท่านั้นเอง



     















    TBC.




    ฟิคเรื่องนี้เป็นฟิคแปลมาจากภาษาอังกฤษนะคะ
    นมน.ส่งข้อความไปขอเจ้าของเรื่องแล้ว แล้วก็เลยเอามาแชร์ให้รีดเดอร์ได้อ่านกัน
    ฟิคเรื่องนี้นมน.เปลี่ยนชื่อเรื่องจากต้นฉบับ
    Never let me go เป็น TOUCH เพราะดูมันเข้ากันมากกว่า แฮ่ๆ
    ความจริงมันไม่ยาว แต่นมน.แบ่งเป็นสามตอนเพื่อที่จะได้แบ่งอารมณ์ได้ถูก
     
    เพราะในฟิคต้นฉบับมันเขียนต่อกัน บางทีก็เร็วไปหน่อยที่จะเปลี่ยนฉากน่ะค่ะ
    ยังไงลองอ่านกันดูนะ... ไม่รู้ว่าแปลออกมาแล้วรู้เรื่องรึเปล่าอ่ะ
     5555555
    ฝากคอมเม้นท์ให้เรื่องนี้ด้วยนะคะ
    ^^

    Car nival
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×