ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] ✚ :: THE BIGGEST FANBOYs :: ✚ [KAI&DO]*

    ลำดับตอนที่ #1 : BIGGEST FANBOYs : 01

    • อัปเดตล่าสุด 28 พ.ค. 56


     Author: MR.SNOWMAN
    Starring : Kim Jongin & Do Kyungsoo
    Rate :  PG - 13


     

     
     

    THE BIGGEST FANBOYs


     

    - 01 -



     

    เข็มนาฬิกากำลังตีบอกเวลาเป็นจังหวะต่อเนื่อง บ่งบอกให้รู้ว่าบัดนี้ใกล้จะถึงสองทุ่มเต็มที

    โด คยองซู กัดริมฝีปากแน่น และสั่นขาระริกด้วยความกังวลที่กัดกินอยู่เต็มหัวใจ

    จะเรียกว่าตื่นเต้นก็ได้ เพราะท่าทางหลุกหลิกพวกนี้ และเหงื่อที่เริ่มซึมอยู่ทั่วใบหน้าอย่างนั้นก็บ่งบอกได้เป็นอย่างดี

    ว่าแม่ง...ตื่นเต้นชิบหาย...

     

    19.57 น.

     

    คยองซูเปิดหน้าเว็ปไซต์ INTERNET EXPLORER แล้วเช็คข้อมูลที่ตนเองพิมพ์ทิ้งไว้ในหน้า NOTEPAD เป็นครั้งสุดท้าย

    เลื่อนมือไปคลิกเม้าส์ที่ด้านขวามือของเครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค ก่อนจะกดปุ่มรีเฟรชหน้าจอเพื่อเช็คความเคลื่อนไหว

    และพบว่าสิ่งที่ทำให้เขาตื่นเต้นนั้นยังไม่เกิดขึ้น...

     

    ใจเย็นน่าคยองซู...ยังเหลืออีกตั้งสามนาที มึงจะรีบทำห่าไรวะ

    ต้องทันอยู่แล้ว มึงเกิดมาเพื่อสิ่งนี้เลยนะว้อย!

     

    คยองซูคิดในใจเมื่อเขายกมือขึ้นปาดเหงื่อที่หน้าผาก ริมฝีปากถูกเม้มแน่น

    เมื่อหน้าปัดนาฬิกาที่ตั้งอยู่ข้างๆ คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คบอกว่าเวลาที่เขารอคอยใกล้เข้ามาอีกนาทีหนึ่งแล้ว

    แต่ทั้งๆ ที่เพิ่งบอกตัวเองไปเมื่อก่อนหน้า แต่คยองซูกลับรีบกดเครื่องหมายรีเฟรชบนหน้าจออีกครั้ง

    รู้ว่างี่เง่าที่ตัวเองจดจ่อมากไป...แต่ใช่ครับ คนตื่นเต้นมันก็เป็นธรรมดาที่...

     

     

    ฮ...เฮ้ย....ว๊อท เดอะ ฟรัคคคคคคคคคคคคคคค

    ทำไมหน้า REGISTER ขึ้นแล้ววววววววววววววววววววววะ!!!!!!!

     

     

    “เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!

    ด่วนเลยมึง ด่วนเลยมึง ด่วนเลยมึงงงงงง!!!!

     

    คยองซูเบิกตากว้าง ก่อนที่จะสลับหน้า NOTEPAD ขึ้นมาก๊อปข้อมูลที่ตนเองพิมพ์ค้างเอาไว้

    ก่อนจะสลับไปที่หน้าเบราเซอร์อินเตอร์เน็ท เพื่อกรอกข้อมูลที่เขาต้องการลงในช่องว่างตรงหน้า

    หน้าเว็ปที่เขียนอยู่ด้านบนของเพจ ตัวเบ้อเร่อว่า

     

     

    “ลงทะเบียนเพื่อลุ้นรับสิทธิเข้างานแฟนมีตติ้ง วง ACE-J

     

     

    ช่ายครับ...คุณคงพอจะเดาออกได้แล้วนะว่าผมทำอะไรอยู่

    ผมเป็นติ่งวงเอซเจ...และช่ายครับ ผมกำลังต่อสู้แย่งชิงเพื่อได้เป็นหนึ่งใน 300 คนที่จะมีสิทธิลุ้นเข้างานแฟนมีตติ้ง!

     

    ในวงเอซเจมีสมาชิกด้วยกัน 5 คนคือ จงอิน จงแด จุนมยอน ชานยอล และ จื่อเทา...

    เนื่องด้วยสมาชิกเกือบทุกคนมีคำนำหน้าชื่อด้วยตัว ยกเว้นชานยอล ชื่อวงจึงถูกตั้งขึ้นมาด้วยตัวอักษรเจนั่นเอง

     

    คยองซูชื่นชอบวงนี้อย่างกับอะไรดี

    เขาติดตามมาตั้งแต่วันเดบิวต์ จนกระทั่งวันนี้พวกเขาได้ออกซิงเกิ้ลที่สองมาแล้วก็ตามเถอะ

    แต่คยองซูก็ยังทำใจให้ตัวเองเลิกติ่งพี่จงอินไม่ได้เลยซักที...

     

    งานนี้เป็นที่โจษจันกันในหมู่แฟนคลับเอซแฟมิลี่(ชื่อแฟนคลับของวงเอซเจ)เอามากๆ

    เพราะในบรรดาแฟนคลับที่มีนับหมื่นร้อยพันหมื่นแสนล้านในกาแลคซี่นี้...

    จะมีคนที่ได้สิทธิเข้างานแฟนมีตติ้งแค่เพียง 300 คนเท่านั้น!!!!!

     

    แงงงงง...และตอนนี้ผมกำลังลนมากเลยครับทุกคน มือสั่นอย่างกับอะไรดี

    กับอีแค่กด Ctrl+C เพื่อลงชื่อและเบอร์โทรของตัวเอง...ผมยังมือสั่นเลยให้ตายเหอะ!!!

     

    “ชื่อ โด คยองซู  อายุ 21 ปี  วันเกิด 12 มกราคม 1992 เบอร์โทร...

    ที่อยู่...โอ๊ยยย จะถามไปทำชุดไอร่อนแมนหรือไงวะ ให้กรอกไรนักหนาเนี่ยยยย!

     

    คยองซูบ่นพึมพำด้วยความหงุดหงิด แต่มือก็ยังกดแป้นคีย์บอร์ดคอมพ์พิวเตอร์เป็นระวิงเพื่อกรอกข้อมูลลงไปในช่องว่าง

    หัวใจเต้นตึกตัก...เหงื่อที่เมื่อกี้ซึมอยู่ประปรายตามหน้าผาก บัดนี้ไหลลงมาที่ข้างแก้มเพราะความเคร่งเครียด

    หากแต่ไม่กี่อึดใจต่อมา...

    คยองซูก็รีบเลื่อนมือไปจับเม้าส์แล้วกดไปที่ปุ่ม “ส่งข้อมูลลงทะเบียน”

     

    “เสร็จแล้วโว้ย!!

     

    คยองซูตะโกนร้องลั่น

    ก่อนจะหันไปมองที่หน้าปัดนาฬิกาดิจิตอลของตนแล้วพบว่า ณ เวลาที่เขากดเป็นเวลาสองทุ่มพอดิบพอดี

    คิดในใจว่าทันแหงๆ แต่ที่แน่ๆ.............................................ทำไมหน้าเว็ปมันหมุนค้างอย่างนั้นวะ!

     

    คยองซูใจเต้นตึกตัก ยกมือขึ้นทาบที่หัวใจก่อนจะมองหน้าจอโน๊ตบุ๊คของตัวเองอย่างวิตกกังวล

    ทั้งๆ ที่คิดว่าน่าจะทัน....แต่ในหัวใจกลับรู้สึกได้อย่างชัดเจน -- ว่าเขาคงจะพลาดไปเสียแล้ว

     

    “ฮือออ ต้องไม่ใช่งี้ดิ ไม่ใช่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”

     

    คยองซูเบะปากราวกับจะร้องไห้ ก่อนจะรีบกดเปิดหน้าจอเบราเซอร์ที่ตัวเองซ่อนไว้ด้านล่างหน้าจอ

    เพื่อกดเปิดดูทวิตเตอร์เพื่อเช็คดูว่า...เขาพลาดไปแล้วจริงๆหรือว่ายังมีหวังอยู่...

     

    @ACEJ_JD :

    กรี๊ดดดดดดดด เราได้สิทธิคนที่ 92!!!
    ฮืออออ จงแดโอปป้า ฉันจะได้เจอโอปป้าแล้ววววววววววว #ขอทิชชู่หน่อยปริ่มไม่ไหว

     

    @PILLOW_J :

    ทำไมหน้าเว็ปของกูมันยังหมุนติ้วๆ อยู่เลยวะ ฮือออออ TT_____TT

     

    @CHANBLUV :

    ไอ่เชี่ยยยยยยย หน้าเว็ปกูยังค้างอยู่แต่กูได้อีเมล์!!

    กูได้สิทธิคนที่ 17 อ่ะ กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด 
    !@#$%&^*+)@$@+*@)@*$*)#%#@!$+*&%#}*)@#&%

     

    @KISSJUN :

    หมดหวังแล้ว....หมดแล้ว.... หมด  ;____;

     

    @BAEK_ONLYCHAN:

    อ๊ากกกกกกกกกกกกกกก กูได้สิทธิโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

    อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ชานยอลจ๋า รอผมก่อนนนนนนนน

     

     

    คยองซูอ่านหน้าทามไลน์ทวิตเตอร์ด้วยหัวใจอันแสนปวดร้าว

    หากแต่เมื่อรับรู้ว่าพอมีหวังอยู่ คยองซูจึงรีบเปิดอีเมล์ออกดูด้วยหัวใจเต้นระทึก

    ยังมีหวังน่า...บางทีเราอาจจะเป็นเหมือนชานบีเลิฟก็ได้!

    แบบ...แบบที่ได้เมล์แล้วแต่หน้าเว็ปยังค้างอยู่น่ะ T___T

     

     

    กล่องขาเข้า (1)

     

    “เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย”

     

    คยองซูตะโกนร้องออกมา เมื่อหน้าแรกของอีเมล์บอกได้ชัดเจนว่าเขาได้รับอีเมล์เข้ามาหนึ่งฉบับ

    คนตัวเล็กมีรอยยิ้มพรายเต็มแก้ม เมื่อเลื่อนเม้าส์ไปกดเปิดที่กล่องข้อความนั้น

    ก่อนที่จะเจื่อนยิ้มลงทันทีเมื่อพบว่า....

     

     

    (Unread)  WOLF   KISS   :  สร้างรายได้ง่ายๆ ด้วยอินเตอร์เน็ต เพียงแค่คุณมีเวลา 1-2 ชม.ต่อวัน คลิ๊ก!

     

     

    ฟัค...อยากส่งเมล์กลับไปบอกว่าฟัคยูฉิบหาย...

     

     

    คยองซูหลับตาลงอย่างอ่อนแรงเมื่อพบว่าความหวังที่มีอันน้อยนิดของเขาได้ถูกทำลายย่อยยับดับสิ้นไปหมดแล้ว

    ยกมือขึ้นลูบหน้าตัวเองเบาๆ อย่างหมายจะควบคุมอารมณ์ไม่ได้เสียใจ

    แต่แหงล่ะ...หวังมากก็เลยต้องมาเฟลอย่างนี้

     

     

    “โหย...ขนาดเน็ตที่บ้านตั้งสิบสามเม็กแม่งยังกดไม่ได้เลย

    พวกที่ติดแม่งใช้กี่เม็กวะ? อยากเมนชั่นไปถามจริงๆ บ้านมึงเปิดร้านเกมส์เหรอ”

     

    บ่นพึมพำอย่างหัวเสีย ก่อนจะเดินไปทิ้งตัวลงกับเตียงแล้วนอนขดอยู่อย่างนั้น

    อยากจะถือโอกาสนี้ทำตัวเป็นพระเอกเอ็มวีอกหักเสียหน่อย...

    ชาตินี้เราเกิดเป็นคู่กรรม แล้วชาติไหนจะได้เกิดเป็นคู่กัน

    ทั้งที่พยายามแล้วแท้ๆ แต่โชคชะตากลับไม่เป็นใจให้เขาได้ไปเจอกับจงอินเอาเสียเลย...

     

    “นายทำฉันเสียใจรู้เปล่าจงอินนา...

    ถ้านายไม่ทำให้ฉันชอบนายมากขนาดนี้ ฉันก็คงไม่ต้องมาเสียใจแบบนี้หรอกไอ้บ้า

    ไม่รักแล้วว้อยยย หึยยยยยยยยยยย”

     

    คยองซูมองไปที่โปสเตอร์ของ คิม จงอิน ซึ่งเป็นสมาชิกตำแหน่งนักเต้นหลักของวงเอซ

    แล้วบ่นเปรยออกมากับตัวเองด้วยความเสียใจ...

    ได้ยินเสียงแจ้งเตือนในทวิตเตอร์ดังขึ้นมาแล้ว หากแต่ก็ไม่ได้สนใจจะเดินไปดูหรอก

    ก็คงจะเป็นพวกเพื่อนๆ แฟนคลับของเขาที่เป็นติ่งด้วยกันเมนชั่นเข้ามาถามว่าได้สิทธิหรือไม่นั่นแหละน่า...

    เพราะงั้นเลยไม่ได้ใส่ใจที่จะตอบเมนชั่นหรือพูดคุยกับใครในตอนนี้...

     

    แต่ไม่ร้องไห้หรอกนะคิมจงอิน ฉันไม่ได้เครซี่นายขนาดนั้นหรอก

    ไม่ได้ไปเจอที่งานมีตติ้งไม่เห็นเสียใจซักหน่อย!

    ไม่ได้อยากร้องไห้หรอกนะ ไม่ร้องหรอก...

     

    .

    .

    .

     

    แต่มันเป็นฟิลลิ่งน่ะ เข้าใจใช่ป่ะ T T

     

     

     

    ‘Let  me take you to my world.

    Almost there, Almost Jay world.

    Don’t be afraid to lose your control’

     

     

    เสียงริงโทนมือถือเพลง ACE-J: Almost J ดังขึ้นมาท่ามกลางความเงียบที่ฟิลลิ่งของผมบังคับให้ดราม่าอยู่ในห้องสี่เหลี่ยม

    ความจริงแล้วผมไม่ได้มีอารมณ์อยากคุยกับใครนักหรอก

    แต่โทรศัพท์ที่กำลังแผดเสียงของของจงแด เมนโวคอลของวงเอซเจในตอนนี้มันกลับทำให้ผมรู้สึกว่ายิ่งนอยด์เข้าไปใหญ่...

    เพิ่งจะมารู้สึกว่าเสียงเพราะๆ ของจงแดนั้นบาดแหลมเชือดใจก็ตอนนี้...

    เลยจำเป็นต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดปิดเสียง หากแต่เปลี่ยนเป็นกดรับทันทีที่ได้เห็นชื่อที่ขึ้นอยู่บนหน้าจอ

     

    เพราะถ้าขืนไม่รับสายของ บยอน แบคฮยอน หรือเพิกเฉยไม่สนใจมันล่ะก็

    คยองซูอาจจะโดนบุกมาถล่มถึงบ้านเมื่อไหร่ก็ได้...

     

     

    “เออ มีอะไร?”

     

    กดรับแล้วถามปลายสายอย่างไม่ค่อยจะสบอารมณ์นัก

    ยิ่งรู้สึกหงุดหงิดกันไปใหญ่เมื่อบยอนแบคฮยอนหัวเราะคิกคักดังมาจากปลายสายอย่างเปิดเผย

     

    “ทำเสียงอย่างกับคนจะตายอย่างนี้...

    มึงไม่ได้สิทธิแหงเลยใช่ป่ะ?”

     

    “รู้แล้วยังเสือกจะถาม...วางไปเลยมึงอ่ะ

    ถ้าจะโทรมาอวดที่มึงได้สิทธิก็วางไปเลยนะ

    กูขอใช้เวลานอยด์ให้เป็นประโยชน์โดยที่ไม่ได้รับการรบกวนจากมึง”

     

    คยองซูกรอกเสียงเซ็งลงไปในโทรศัพท์

    เขารู้สึกไม่สบอารมณ์จริงๆ เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักดังขึ้นอยู่อย่างต่อเนื่องจากแบคฮยอน

     

     

    “งั้นถ้ามึงอยากวางก็แล้วแต่...แต่กูแค่อยากจะบอกว่า

    กูใช้คอมพ์เพื่อนกูกดอีกสิทธิกันไว้เผื่อมึงด้วย และ...เพื่อนกูกดได้สิทธิที่ 299 พอดิบพอดี

    ก็แล้วแต่อ่ะน้า คือกูคิดไว้แล้วว่ามึงอาจจะกดไม่ติดเลยให้มันช่วยกด

    แต่...ถ้ามึงไม่อยากได้ก็ไม่เป็นไรอ้ะ สิทธิคงจะขายได้ราคาดี -- คงมีใครซักคนที่พร้อมจะซื้อ”

     

    “อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

    กูรักมึงที่สุดเลยแบคฮยอนนนนนนนนนนนนนนนนน

    กูรักมึง กูรักมึง กูรักมึง กูรักมึง กูรักมึง!

    กูขอให้พี่ชานรักมึงด้วย! จงรักแต่มึง จงหลงแต่มึง

    เสพสมกายมึง อะไรอีกไม่รู้จำไม่ได้ อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”

     

    ผมกระโดดลุกจากเตียงด้วยความเร็วสูง...ก่อนที่จะวิ่งไปรอบห้อง

    ตะโกนอย่างดีอกดีใจและสรรเสริญเยินยอเพื่อนรัก(?) อย่างเอาเป็นเอาตาย

     

    “แหม่...ทีงี้ละรักกูเชียวนะ เมื่อกี้ยังไล่กูวางสายอยู่เลย

    เออช่างแม่งเหอะ เอาเป็นว่ามึงได้สิทธิแล้วโอเค๊

    ทีงี้ก็เลิกนอยด์แล้วออกไปฉลองกันเหอะคยองซู...กูอยากกินชานมไข่มุก”

     

     

    แบคฮยอนพูดอ้อนผ่านมาจากปลายสาย

    ซึ่งแน่นอนว่าผมเองก็ไม่ได้มีความรู้สึกอยากขัดใจอะไรเพื่อนรักของผมในตอนนี้

    ไม่สิ...พูดให้ถูกคือเพื่อนรักที่สุดในโลกต่างหาก ฮิ!

     

     

    “ได้เลยเพื่อนร๊ากกกกก เดี๋ยวคยองจะขับไปรับถึงหอเลยนะคร้าบเพื่อนแบค

    โปรดแต่งตัวรอแล้วอีกสิบห้านาทีลงมารอราชรถที่ไปเกยถึงที่ได้เล้ย!

     

     

    “ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ประจบกูจังนะมึงเนี่ย

    งั้นวันนี้ต้องเลี้ยงชานมกูด้วยนะ โอเคป้ะ?”

     

    อะหือ...ได้ทีเอาใหญ่เลยนะมึง

     

    คิดในใจกับตัวเองอยู่เล็กน้อย หากแต่วินาทีต่อมาคยองซูก็ยิ้มกว้าง

    ไม่ได้เว้ยคยองซู กับผู้มีบุญคุณเราต้องรักและชาบู

     

     

    “เออ ได้คร้าบบบบบบบบ

    เดี๋ยววันนี้คยองจะเลี้ยงชานมน้องแบคเองโอเคเปล่า

    งั้นก็รีบวางสายแล้วไปแต่งตัวได้แล้ว...อีกสิบห้านาทีเจอกันที่ใต้หอมึงนะ”

     

    หลังจากนัดแนะกันเรียบร้อยแล้วคยองซูก็รีบวางสาย

    ยิ้มดีใจกับตัวเองอยู่ซักครู่หนึ่งก็วิ่งไปอยู่ที่หน้าโปสเตอร์ที่ปลายเตียง

     

     

    “งื้ออออ จงอินนา เมื่อกี้เราพูดอะไรออกไปนายไม่ได้ยินใช่ม้า

    ใครจะไม่รักนายได้ลงคอล่ะเนอะ ก็ทั้งหล่อทั้งเท่ขนาดนี้

    ยกโทษให้คยองน้า เมื่อกี้คยองไม่ได้พูดอะไรเลยนะ ฮี่ๆ”

     

    คยองซูแนบหน้าลงกับโปสเตอร์แล้วหลับตาพริ้ม

    เอ่ยพูดกับโปสเตอร์เบาๆ...ก็อย่างที่มโนนึกไปเองว่าคนในโปสเตอร์จะได้ยิน

    และคยองซูสถาปนาตัวเองเป็นแฟนกับคิมจงอิน นับตั้งแต่วันที่ติดโปสเตอร์กับฝาผนังแล้วนั่นล่ะ!!

     

    “เราขอโทษนะจงอินนา หายโกรธเราน้า จ๊วบบบ”

     

    ก้มลงไปจูบที่โปสเตอร์เบาๆ หนหนึ่งแล้วยกยิ้มปริ่มเปรมใจ

    อารมณ์จากไม่กี่นาทีก่อน เปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละโลก

    คยองซูมองคนในโปสเตอร์อย่างสุขใจ ก่อนจะเดินไปนั่งที่หน้าคอมพ์พิวเตอร์โน๊ตบุ๊คอีกหนหนึ่ง

    เปิดหน้าต่างโปรแกรมทวิตเตอร์ขึ้นมา

    ยกยิ้มอย่างเป็นสุขเมื่อได้พิมพ์ข้อความลงไปว่า

     

     

    @DOKYUNG1292 :

    @ACE_Jongin1492 จงอินนา เรากำลังจะได้พบกันแล้วนะครับ
    ผมได้สิทธิคนที่ 
    299 ล่ะ...ไม่รู้ว่าคุณจะเห็นทวิตนี้หรือเปล่า

    แต่ถ้าเห็นก็อย่าลืมล่ะผมคนที่ 299 และผมเป็นสุดยอดแฟนบอยของคุณ!! *ฮาร์ท*

     

     

    คยองซูกด TWEET ด้วยรอยยิ้ม

    ก่อนจะลุกขึ้นจากหน้าคอมพ์พิวเตอร์เพื่อไปแต่งตัว

     

    .

    .

    .

     

    โดยที่ไม่รู้เลยว่า...หลังจากนั้นเพียงแค่ไม่กี่นาที ข้อความของคยองซูก็ได้รับคำตอบ...

    และถูกลบออกไปเพียงไม่กี่วินาทีหลังจากนั้น...

     

    @ACE_Jongin1492 :

    @DOKYUNG1292 ยินดีด้วยครับคุณหมายเลข 299 แล้วเจอกันวันงานนะ...แล้วผมจะรอนะครับสุดยอดแฟนบอย ^^

     

     

     

    *********

     

     

    “เฮ้ย จงอิน มึงตอบทวิตเตอร์แฟนคลับเหรอวะ?”

     

    ปาร์ค ชานยอล โพล่งถามขึ้นมาอย่างตกใจ

    ในขณะที่พวกเขาทั้งห้าคนกำลังอยู่บนรถตู้ส่วนตัวซึ่งกำลังมุ่งหน้ากลับไปยังหอพัก

    คิม จงอิน เงยหน้าขึ้นจากจอโทรศัพท์ ก่อนจะพบว่าชานยอลเองก็ถือไอแพดของเขาเอาไว้ในมืออยู่เช่นกัน

     

     

    “เออ...กูตอบทวิต แล้วไงวะ?”

     

    จงอินถามอย่างไม่เข้าใจ

    ในขณะที่จุนมยอนและจงแดที่นั่งอยู่เบาะหน้าก็หันกลับมามองพวกเขาด้วย

     

    “มึงลืมไปแล้วเหรอว่าพี่ผู้จัดการสั่งให้เราตอบเมนชั่นเท่าที่จำเป็น

    แล้วนี่มึงตอบแค่คนเดียวแบบนี้มันไม่ยุติธรรมป่ะวะ...กูว่ามึงน่าจะรีบลบมันซะตอนนี้นะ ก่อนที่จะมีปัญหา”

     

     

    ชานยอลเอ่ยแนะอย่างระมัดระวัง หากแต่จงอินกลับเถียงขึ้นมาทันที

     

    “ทำไมต้องลบด้วยวะ

    กูก็แค่แสดงความยินดีคนที่ได้สิทธิมาเจอเราที่งานมีตติ้งวันอาทิตย์หน้าเองนะ”

     

    จงอินพูดอย่างไม่เห็นด้วย

    ซึ่งนั่นก็ทำให้ชานยอลต้องยกเหตุผลขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง

     

    “ผู้จัดการบอกเราไม่ใช่เหรอว่าถ้าอยากติดต่อกับแฟนคลับให้เปิดตอบเป็นช่วงแฟนทอล์ค

    เอะอะมึงจะตอบใครก็ได้อย่างนี้ไม่ได้นะว้อย เอาจริงๆ คือมันน่าเกลียดตรงที่มึงตอบเขาแค่คนเดียวนี่แหละ”

     

    ชานยอลอธิบายอีกหนหนึ่งอย่างใจเย็น

    ซึ่งเมื่อจุนมยอนได้ฟังก็พยักหน้าเห็นด้วยกับเขาในทันที

     

    “อื้ม จริงอย่างที่ชานยอลว่านะจงอิน

    พี่ว่านายรีบลบเหอะ เพิ่งตอบข้อความไปใช่ไหม ตอนนี้เขาน่าจะยังไม่เห็นนะ”

     

    จุนมยอนถาม และหลังจากนั้นจงแดก็พูดขึ้นมาทันที

     

    “แต่มันก็มีอีกทางถ้ามึงไม่อยากลบ

    นั่นคือมึงต้องตอบข้อความแฟนๆ ทุกคนที่เมนชั่นมา...จะได้ยุติธรรมไง”

     

    จงแดพูดพลางยักไหล่

    เขายกแก้วกาแฟเย็นร้านโปรดที่ผู้จัดการเป็นคนซื้อมาให้หลังจากเลิกงานแสดงขึ้นดูดอย่างสบายใจเฉิบ

    จื่อเทายังคงหลับสนิทอยู่ข้างๆ ของจงอิน...ซึ่งถึงแม้ว่าจะตื่นจงอินก็ไม่เห็นว่าจื่อเทาจะช่วยคัดค้านหรือเข้าข้างเขา

     

    “เออๆ...กูลบก็ได้ รอแป๊ปนึง”

     

    เลยต้องจำยอมกับความเห็นที่เพื่อนๆ บอกกับเขา

    จงอินถอนหายใจอย่างเอือมระอาในขณะที่เปิดโปรแกรมทวิตเตอร์ในโทรศัพท์

    ก่อนจะกด Delete ทวิตล่าสุดที่เขาตอบสุดยอดแฟนบอยหมายเลข 299 ให้หายไปจากหน้าทามไลน์ของเขา...

     

    “เรียบร้อย...โอเคยังครับพวก”

     

    จงอินชูโทรศัพท์สมาร์ทโฟนของตนแกว่งไปมาอย่างช้าๆ

    ก่อนที่จะพบว่าจุนมยอนยกยิ้มอย่างพึงพอใจแล้วหันกลับไปพูดคุยงุ๊งงิ๊งกับจงแดอย่างสนุกสนาน

    ชานยอลเองเมื่อได้รับรู้ว่าจงอินทำสิ่งที่ถูกต้องแล้ว เขาจึงกลับไปสนใจที่หน้าไอแพดของเขาตามเดิม

    ปล่อยจงอินให้กลอกตาไปมาอย่างเอือมระอาเล็กน้อย หากแต่ก็ไม่ได้หนักหนาจนทำให้ถึงขั้นว่ารำคาญใจ...

     

    จงอินตัดสินใจหยิบหูฟังขึ้นมาเสียบต่อโทรศัพท์เครื่องหรู

    กดไปที่โปรแกรมเครื่องเล่นเพลงแล้วหลับตาเพื่อฟังเพลงและอยู่กับตัวเองเงียบๆ

     

    ขอโทษด้วยแล้วกันนะ สุดยอดแฟนบอยหมายเลข 299

    ไม่ได้อยากลบหรอกนะแต่มันเป็นกฎ

     

    จงอินคิดในใจก่อนที่จะปล่อยตัวเองให้ลืมๆ มันไปซะ

    พยายามคิดว่าไม่ได้ลบข้อความให้หายไป...หรือไม่ก็ไม่ได้ตอบข้อความอะไรทั้งนั้นด้วยซ้ำ

     

     

    จงอินหลับไปโดยไม่ได้รู้เลยว่า ...

    ถึงแม้ว่าเขาจะลบมัน แต่แท้จริงแล้วมันไม่ได้หายไปหรอกนะ

     

    .

    .

    .

     

    เพราะนั่นต่างหาก...ที่เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด 










    TBC.







    ป.ล. ฟิคนี้ถูกสร้างมาเพื่อติ่ง...มีคำหยาบนะคะ
    ไรเตอร์ห่างไกลฟิคมุ้งมิ้งมานาน
    ถ้าภาษามันกากๆต้องขออภัยด้วยค่ะ แฮ่ๆ


    ป.ล. เม้าท์มอยอย่าลืมติดแท็ก #สุดยอดแฟนบอย ฮี่ๆ



     
    Amanita. theme
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×