คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ✚ BE MY BABY :: 0NE
Author : MR.$N0WMAN*
Pairing : Kim Jongin & Do Kyungsoo
Story : Jackboiz
Rate : PG - 15
Be my Baby*
‘0.01’
อา...ปวดหัวชะมัด...
นี่เป็นความรู้สึกแรกที่แล่นเข้ามาภายในความคิดของ คิม จงอิน
ทั้งๆที่เขายังไม่ได้ลืมตาขึ้นมาปรับสภาพจากแสงสว่างที่ส่องลอดหน้าต่างเข้ามาเลยด้วยซ้ำ
แอร์เย็นฉ่ำจนทำให้เขาไม่อยากจะลุกตื่นจากที่นอน
แต่เพราะเสียงออดที่หน้าบ้านกำลังทำลายความสุขของจงอินที่เพิ่งกลับมาตอนตี4กว่าๆ
ทำให้เขาจำเป็นต้องตื่นขึ้นมาแม้ว่าจะไม่อยากนัก
จนสุดท้ายก็ต้องลุกขึ้นมาอย่างกระฟัดกระเฟียด พ่นลมหายใจออกมาแรงๆครั้งหนึ่ง
แล้วยกมือขึ้นขยี้หัวตัวเองอย่างขัดใจ
สภาพตอนนี้ยังไม่ค่อยพร้อมที่จะออกไปพบใคร...ทั้งสภาพร่างกายและสติด้วย
เพราะตอนนี้จงอินกำลังนอนเปลือยเปล่าอยู่บนเตียงกว้าง
ข้างๆมีใครซักคนหนึ่งที่เขาหิ้วมาจากผับเมื่อคืน กำลังนอนหายใจเข้าออกเป็นจังหวะดูสบายอกสบายใจอยู่ข้างๆ
จงอินเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งเมื่อมองหน้าคนที่กำลังนอนคว่ำอยู่ข้างๆแล้วก็ต้องตกใจ
อื้อหืม...เมื่อคืนอย่างดูดี แล้วไหงตอนนี้มัน...
โอเค...แสงสีทำให้ผีกลายเป็นคน
จงอินคิดก่อนจะส่ายศีรษะเพื่อเรียกสติให้เข้าที่
เมื่อคืนเขาอาจจะพึงพอใจก็จริง แต่มันก็ไม่มากพอจะทำให้เขาต้องการมากไปกว่านี้
และมันถึงเวลาที่ต้องไล่ตะเพิดให้ไปแล้ว...
“นี่นายอ่ะ...กลับไปได้แล้ว”
ผมสะกิดเขาแรงๆสองสามทีก่อนที่จะลุกขึ้นใส่กางเกงอย่างลวกๆ
ได้ยินเสียงงัวเงียของคนที่นอนอยู่แล้วก็ต้องถอนหายใจ ก่อนจะตัดสินใจพูดกับเขาอีกครั้ง
“ลุกได้แล้ว...นายต้องไปได้แล้ว” ผมบอก
“อะไรกัน พอเช้ามาก็ไล่อย่างกับหมูกับหมาเลยนะ ทีเมื่อคืนล่ะไม่เห็นจะบ่น”
คนตัวเล็กนั้นลุกขึ้นมาบิดขี้เกียจแล้วเอ่ยออกมา แต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทางไม่พอใจอะไร
เขายิ้มน้อยๆเสียด้วยซ้ำและนั่นทำให้ผมรู้สึกดีมากกว่าที่เขาจะโวยวายอย่างที่คิดไว้ว่าน่าจะเป็นอย่างนั้น
“ก็เรื่องปกติ...ความจริงฉันจะให้นายกลับตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว
แต่เห็นว่าเหนื่อยก็เลยปล่อยเลยตามเลย แถมฉันยังใช้งานนายไปหลายรอบ”
ผมตอบพลางยักไหล่ ก่อนจะโยนเสื้อผ้าไปให้เขา
เสียงออดยังคงดังขึ้นอีกครั้ง ทำให้ผมต้องเดินไปที่ประตูแล้วเปิดมันออก
ก่อนจะตะโกนลงไปที่ชั้นล่างเพื่อตัดรำคาน
“รอแป๊ปนึง! ผมขอแต่งตัวก่อน!
.
.
และนายน่ะ...ลุกขึ้นแต่งตัวได้แล้ว”
“อืม...แล้วนายจะให้ฉันกลับไปเฉยๆงี้เลยใช่ไหม?”
คนตัวเล็กถามก่อนจะลุกขึ้นแต่งตัวอย่างที่ผมบอก
ผมยักไหล่อีกครั้งก่อนจะหันไปตอบเขา
“แล้วนายอยากให้ฉันทำอะไรล่ะ?” ผมถาม
“เปล๊า...ก็แค่ถามดู นายชื่ออะไร? ฉันชื่อ ลี แทมิน”
เขาบอกผมในขณะที่เขากำลังจรดกระดุมเสื้อ
“โอเค...เอาเป็นว่านายชื่อแทมิน
แต่รีบๆแต่งตัวแล้วก็ออกไปได้แล้ว...ฉันมีธุระ อย่างที่นายก็เห็น”
ผมไม่ตอบเขา และรีบๆตัดบทในขณะที่ใส่เสื้อยืดลงไปอย่างเร่งรีบ
แทมินยักไหล่ทีหนึ่งแล้วตอบกับผม
“ก็โอเค...งั้นฉันขอใช้ห้องน้ำแปปหนึ่งสิ แล้วจะรีบออกไป”
เขาพูดก่อนจะขออนุญาตผม ผมพยักหน้าส่งให้เขาก่อนจะขยี้หัวอีกทีหนึ่งแล้วเดินออกจากห้องไป
แม้ว่าสติยังไม่ค่อยจะคงที่นัก แต่ก็ยังประคองตัวเองให้เดินลงบันไดไปอย่างช้าๆ
สภาพภายในบ้านมันรกสุดๆเพราะว่านี่มันบ้านหนุ่มโสด
และเมื่อมองผ่านกระจกออกไปเขาก็พบว่าคนที่อยู่ข้างนอกนั้นใส่สูท
จงอินจึ๊ปากอย่างขัดใจ ก่อนจะพยายามใช้เท้าเขี่ยอะไรที่วางเกะกะอยู่กลางบ้านให้พ้นไปจากสายตา
แม้ว่ามันจะไม่ค่อยช่วยให้อะไรดีขึ้นนักก็เถอะ...
“อะไรครับ?”
ผมชะโงกหน้าออกไปก่อนจะเอ่ยถาม มองไปที่คนหน้าบ้านอย่างงุนงง
ชายใส่ชุดสูทยกยิ้มแล้วยื่นจดหมายมาให้ผมตรงหน้า
ผมหยิบมันมาก่อนที่สายตาจะตวัดไปเห็นเด็กผู้ชายตัวเล็กๆคนหนึ่งยืนข้างๆเขาด้วย
เด็กนั่นมองมาที่ผมตาแป๋วเลย...
“คุณเป็นใคร...แล้วนี่มันอะไรกันครับ?” ผมถามชายใส่สูท
“ผมชื่อ ซอ อินกุก เป็นลูกน้องของพี่สาวคุณ
และผมเองก็ไม่ทราบครับ...รู้แต่ว่าคุณซูจองฝากมันมาให้คุณ
คุณซูจองเธอไม่ได้บอกอะไรผม ฝากแค่จดหมายนี้มาให้
เธอให้ผมรับคุณหนูคยองซูมาส่ง...นอกนั้นผมก็ไม่รู้รายละเอียดอะไร
จะให้ผมขนกระเป๋าเข้าไปในบ้านเลยไหมครับ?”
คุณซอถามผมก่อนที่จะเดินเอากระเป๋าเข้ามาในบ้าน
ผมมองเขาอย่างงุนงงเพราะว่ายังไม่ทันได้ตอบอะไรเลยแต่เขาก็ดันเอากระเป๋าเข้ามาวางในบ้านซะแล้ว
เอ่อ...แล้วจะถามทำไมวะครับ?
อินกุกไม่พูดอะไรอีกนอกจากก้มหัวให้ผมแล้วเดินออกไป ผมรู้สึกมึนงงและมีคำถามแต่มันก็ไม่ทันซะแล้ว
เพราะชายคนนั้นเดินไปขึ้นรถแล้วขับออกไปทันที ทิ้งแต่ไอ้เด็กตาแป๋วคนนี้เอาไว้ตรงหน้าผมซะงั้น....
“อะไรกันวะเนี่ย?”
ผมบ่นออกมาเบาๆในขณะที่ชะโงกหน้าออกไปมองรถเขาแล่นจากไป
แล้วหันมามองเด็กน้อยที่อยู่ตรงหน้าผมอีกครั้ง
“มองอะไรของนาย?” ผมถามไปเมื่อเห็นเด็กตัวเล็กมองมาตาใส
“ค...คยองซูหนาวครับ”
เด็กชายตัวน้อยบอกผมเบาๆ พร้อมทั้งจ้องหน้า ผมมองอย่างเลิกลั่ก เออใช่สิ ก็นี่มันต้นเดือนมกรา
ต้นปี...มันหนาวแล้ว และไม่แปลกที่เด็กนี่จะหนาวก็ดูสิใส่ชุดเอี๊ยมยีนส์มาแค่ตัวเดียว...ไม่หนาวก็แปลกแล้ว
ผมหัวเราะในลำคอเบาๆแล้วคุกเข่านั่งลงให้อยู่ในระดับเดียวกันกับเด็กน้อยตรงหน้า
“หนาวแล้วจะให้ฉันทำยังไงล่ะหืม?”
“คยองซูหนาว...ทำไมไม่ให้คยองซูเข้าบ้านล่ะครับ”
เด็กน้อยถามพลางกอดอก ตัวสั่นงกๆเงิ่นนั่นดูน่ารัก
และนั่นทำให้ผมหัวเราะออกมาเบาๆอีกครั้ง
“ฮ่าๆ...เดินเข้ามาสิ ทีลุงคนนั้นยังเดินเข้ามาเองได้เลยไม่ได้ขอฉันด้วย”
ผมตอบไปอย่างกวนประสาท ในขณะที่เด็กน้อยคนนั้นสั่นเหมือนว่าจะขนลุก
ลมหนาวพัดมาเบาๆ มากระทบที่ผิวขาว ใบหน้าของเด็กน้อยขึ้นสีแดงเป็นปื้นใหญ่
จมูกสีแดงเพราะความหนาว...เขากอดวงแขนกระชับกอดตุ๊กตาแน่นขึ้นอีก
จมูกของคยองซูเริ่มแดง และตัวก็สั่นเล็กน้อยแต่ก็ยังยืนนิ่ง
จงอินเป่าปากเมื่อคิดออกว่าเขาต้องทำอะไร ก่อนจะอ้าแขนออกกว้างแล้วพูดกับเด็กน้อยตรงหน้า
"อ่ะ...จะให้ฉันอุ้มเข้าไปใช่ไหม?"
จงอินถามก่อนจะถอนหายใจ...เด็กชายพยักหน้าแรงๆสองสามครั้งก่อนจะยกยิ้มกว้าง
ก้าวเท้าเข้าไปหาอ้อมแขนของคนแปลกหน้าที่เขาต้องมาอยู่ด้วยแล้วกอดคอจงอินไว้
จงอินอุ้มเด็กน้อยขึ้นมาไว้ในอ้อมกอดก่อนจะพาเดินเข้ามาในบ้าน
วางคยองซูเอาไว้บนโซฟาก่อนจะทรุดตัวลงนั่งข้างๆเด็กน้อยที่มองไปรอบๆอย่างสนอกสนใจ
“ฉันยังงงๆอยู่...ทำไมนายถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะหืม?”
ผมพูดออกมาเบาๆก่อนจะเปิดซองจดหมาย
คยองซูส่ายหน้าเบาๆก่อนจะหันมามองผม
“คยองไม่รู้ครับ...” เขาตอบ
“เฮ้อ...ช่างเถอะ” ผมตอบก่อนจะคลี่จดหมายในมือออกอ่าน
ถึง จงอินน้องรัก...
ช่วงนี้พี่ต้องไปต่างประเทศหลายเดือน ขอฝากเด็กคนนี้ไว้ให้นายดูแลด้วย
พ่อเขาโดนฟ้องล้มละลายแล้วหนีไปต่างประเทศ ตอนนี้พี่กำลังตามเรื่องให้อยู่
เพราะฉะนั้น ทำตัวดีๆแล้วดูแลคุณหนูคยองซูด้วยเข้าใจไหม?
พี่จะส่งเงินค่าดูแลให้นาย...เพราะงั้นดูแลน้องเขาดีๆล่ะ
ป.ล.กว่าพี่จะกลับคงอีกสองสามเดือน เพราะงั้น...อย่าทำให้พี่ผิดหวังเข้าใจไหม?
“โอละพ่อ...เวรแล้วไง”
ผมบ่นออกมาก่อนจะทิ้งจดหมายลงกับพื้นแล้วเอามือกุมขมับ
หยิบมือถือที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงขึ้นกดเบอร์โทรออกไปหาพี่สาวคนละแม่อย่างร้อนรน
สองสามเดือนนี่มันไม่ใช่ธรรมดาแล้วนะ!
ไม่นะ...อย่าเอาเด็กคนนี้มาทำลายชีวิตหนุ่มโสดของผมนะ!
“โอ้ยย ชิบหาย...เสือกปิดเครื่องซะงั้น!”
ผมบ่นออกมาเมื่อได้ยินเสียงฝากข้อความจากปลายสาย พูดถึงพี่สาวต่างแม่ที่สร้างความวุ่นวายให้อย่างเคืองๆ
ซูจองเป็นทนายความที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งในเกาหลี...และงานที่ฝากมาให้ผมก็คงจะเป็นปัญหาของลูกความของหล่อนอีกตามเคย
ซูจองไม่ค่อยจะมายุ่งวุ่นวายกับเขาเท่าไหร่นักหรอก
นอกจากวันไหนที่ผมทำตัวสำมะเลเทเมาหรือเสเพลมากเกินไปนั่นแหละหล่อนถึงจะลงมายุ่งซักครั้งหนึ่ง...
อย่างเช่นตัดเงินผมหรืออะไรพวกนั้น
ผมสบถออกมา ก่อนที่เด็กน้อยจะหันมามองผมตาแป๋วแล้วเอื้อมมือเล็กนั้นมาลูบที่ต้นขาข้างขวาของผมเบาๆ
“ไม่เอาครับไม่เอา...พูดไม่เพราะระวังจะโดนตีเหมือนคยองนะครับ”
“ใครจะตีนาย?”
“คุณพ่อคยองตีคยองตลอดเลย...เวลาที่คยองพูดไม่เพราะ” คยองซูตอบผมมาอย่างเนิบนาบ
“แล้วนี่คุณพ่อนายไปไหน?”
“คยองไม่รู้...
พ่อบอกคยองว่าจะไปทำงานเมืองนอกหลายเดือน
ให้คยองมาอยู่กับคนอื่นไปก่อน”
เด็กน้อยตอบพลางกอดตุ๊กตาโปโรโระในอ้อมอกแน่นแล้วเอนตัวมาอิงผมไว้
ขาสองข้างนั้นแกว่งไกวอย่างเห็นได้ชัดว่าอารมณ์ดีและไม่ได้คิดอะไรกับที่พูดออกมาเลยซักนิด
สายตายังคงมองไปรอบๆอย่างสำรวจตรวจตรา...ตาโตๆกลอกไปกลอกมาไม่ได้หยุด
“นี่ไม่คิดถึงพ่อหรือไง...แล้วต้องมาอยู่กับใครก็ไม่รู้นี่ไม่กลัวเหรอ?”
ผมถามเด็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ผลักเขาออกไป เพราะจะทำอย่างนั้นมันก็ดูจะใจร้ายไปหน่อย
แม้ว่าผมจะยังเป็นวัยรุ่น แต่ผมก็ไม่ได้เกลียดเด็กหรอกนะครับ
“คิดถึงครับ...แต่พ่อทำงานยุ่งอย่างนี้ตลอดคยองชินแล้ว
และคุณก็ดูไม่น่ากลัวซักหน่อย คยองไม่กลัวหรอก”
“ไม่ต้องเรียกว่าคุณหรอก...มันแปลกๆ
ฉันชื่อจงอิน นายเรียกฉันว่าจงอินก็พอ...
ฉันอายุ 19 นายอายุเท่าไหร่?” ผมถามคยองซู
“คยองอายุ 9 ขวบ
19 ลบ 9 ได้...ได้...ได้เก้า...”
เด็กน้อยตอบกลับมาอย่างนั้น และเขาก็ยกเอานิ้วเล็กๆนั้นขึ้นมานับด้วย
แต่เมื่อเขาตอบผิด มันก็ทำเอาผมต้องหัวเราะออกมาอย่างช่วยไม่ได้
“ได้สิบต่างหากล่ะเด็กโง่...
นั่งดูทีวีไปก่อนแล้วกัน ฉันขอไปจัดการอะไรหน่อย”
ผมพูดขึ้นเมื่อเห็นแทมินเดินลงมาจากบันได รีบคว้ารีโมทเปิดทีวีแล้วลุกขึ้นยืน
แต่คยองซูกลับคว้าชายเสื้อผมไว้...
“จัดการอะไร?” เขาถามผมเสียงใสและดูอยากรู้อยากเห็น
“เรื่องของผู้ใหญ่น่า...”
ผมขยี้หัวคยองซูก่อนจะเดินออกไปหาแทมินที่ยืนรออยู่ตรงหัวบันได
รอยยิ้มกรุ้มกริ่มนั้นทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิด แต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกไปเพราะคยองซูนั่งอยู่ตรงนั้น
“เอาล่ะ...นายเสร็จแล้วใช่ไหม?
ทีงี้ก็กลับได้แล้ว...วันนี้ฉันยุ่งๆ”
ผมบอกก่อนจะถอนหายใจ แทมินยกยิ้มออกมาบางๆก่อนจะหัวเราะ
“อ่าฮะ...ฉันเข้าใจล่ะ งั้นฉันไปก่อนแล้วกัน
ถ้าคิดถึงฉันก็โทรมาล่ะ”
แทมินยักไหล่ก่อนจะเดินเข้ามาจูบที่แก้มของผมแผ่วเบา
พร้อมๆกับที่ยัดกระดาษแผ่นเล็กลงไปในกระเป๋ากางเกงของผม
ผมรีบผลักเขาออกก่อนจะเสตามองไปที่เด็กน้อยที่นั่งปิดตาอยู่ที่โซฟา
“ทำบ้าอะไรน่ะ ไม่เห็นเหรอว่ามีเด็กอยู่”
“ฮ่าๆๆๆๆ...ขอโทษที งั้นฉันไปล่ะ ตั้งใจเลี้ยงลูกนะ”
แทมินยกยิ้ม เอ่ยแซวผมก่อนจะเดินออกไปจากประตูบ้านไป...
ผมถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนจะคว้าแผ่นกระดาษขึ้นมาอ่าน
เมื่อคืนนายสุดยอดมากๆ...
08x-xxxxxxx แล้วโทรหาฉันนะ..
ลี แทมิน...
ผมหัวเราะออกมาเมื่อได้อ่านแผ่นกระดาษในมือ ก่อนจะขยำมันทิ้งไปกับพื้น
หันหลังไปก็เห็นว่าคยองซูยังคงยกมือปิดตาอยู่ไม่เอาออกเสียที
“นี่...เอามือออกได้แล้ว” ผมบอก
“ค...คยองไม่ได้ตั้งใจดูนะครับ...คยองปิดตาแล้ว”
เด็กน้อยก้มหน้ามองพื้นก่อนจะกอดตุ๊กตาโปโรโระของเขาเอาไว้แน่น
ผมหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะเดินไปหาเขาและนั่งลงข้างๆ
“ถึงดูก็ไม่ว่าซักหน่อย...จะกลัวทำไม
นี่คยองซู...”
“ครับ...” เขาหันมามองผมตาแป๋ว
“นายดูทีวีไปก่อนได้ไหม?
คือตอนนี้ฉันง่วงมากเลย...ขอฉันนอนก่อนได้รึเปล่า?”
ผมกระซิบเขาไปแผ่วเบาก่อนจะเอนตัวลงกับโซฟาอย่างช้าๆ
คยองซูกระโดดลงจากโซฟาเมื่อผมกำลังจะเอนตัวไปทับเขา
“ครับ...คยองดูทีวีก็ได้
จงอินนอนเถอะ คยองสัญญาว่าจะอยู่เงียบๆ”
คยองซูพูดออกมาก่อนจะเดินมาหยิบรีโมทไปกดลดเสียงลงจนแทบไม่ได้ยิน
ผมพยักหน้าส่งให้เขาก่อนจะกดศีรษะลงกับหมอนนุ่ม
“อืม...งั้นก็ดี ฉันนอนล่ะ...”
ผมพูดก่อนจะหลับตา...
หรี่ตาดูก็เห็นว่าคยองซูกำลังทรุดตัวลงนั่งขัดสมาธิอยู่ข้างๆแล้วมองหน้าจอทีวีอย่างตั้งอกตั้งใจ
ดูๆไปก็ไม่ดื้อไม่ซนอย่างที่คิดเท่าไหร่ ออกจะเรียบร้อยน่ารักด้วยซ้ำ
เพราะงั้นจงอินเลยไม่คิดเดือดเนื้อร้อนใจอะไรนัก เขาเลยจมดิ่งเข้าสู่ห้วงนิทราอย่างง่ายดาย
************
จึก! จึก! จึก!
แรงจิ้มที่บ่าเบาๆทำให้ผมต้องพลิกตัวขึ้นมา ก่อนจะพบว่าคยองซูกำลังยืนจ้องมาที่ผมตาใสอีกแล้ว
ผมยันตัวลุกขึ้นนั่งขัดสมาธิ คอพับอย่างไร้เรี่ยวแรง ก่อนจะมองเด็กน้อยอย่างเหนื่อยใจ
ผมไม่ชอบให้ใครมาปลุกให้ตื่นนัก มันทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิดน่ะ...
“อะไรของนาย....”
"คยอง...ปวดฉี่"
ไม่ได้มาแค่เสียงหรือหน้าตาบิดเบี้ยว
แต่เท้าเล็กๆกำลังย่ำอยู่กับที่เพื่อบอกให้รู้ว่า ควรจะรีบบอกสถานที่ๆเด็กน้อยต้องการไปซะ
"oh shit…"
ผมสบถออกมาเบาๆ แล้วยกมือขึ้นชี้ไปทางประตูสีขาวอีกด้านหนึ่งของห้อง
เด็กน้อยรีบวางตุ๊กตาโปโรโระลงที่โซฟาแล้ววิ่งไปตามทิศทางที่นิ้วเรียวของผมระบุ
ผมเองตัวลงกับโซฟาอีกหนเพราะรู้สึกว่ายังไม่ตื่นดีนัก...
"จงอิน...จงอิน”
“อะไรอีกล่ะ?” ผมลืมตามองเขา
“ค...คยองเปิดไฟไม่ถึง"
เสียงเล็กๆพูดออกมาอย่างขัดใจ เท้าเล็กๆยังคงย่ำถี่ๆอยู่ที่พรมหน้าห้องน้ำ
ผมหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนสาวเท้าไปที่หน้าห้องน้ำแล้วกดสวิตช์เปิดไฟให้
มองคยองซูรีบวิ่งเข้าไปปิดประตูดังปังแล้วก็หัวเราะร่วนออกมาอย่างเปิดเผย
ก็น่าตลกดีเหมือนกัน...ทั้งๆที่ผมควรจะเหวี่ยงและหงุดหงิด
แต่ท่าทางน่ารักแบบเด็กๆของเขากลับทำให้ผมต้องหัวเราะออกมาง่ายๆ
ผมหันหลังกลับ ตั้งใจจะเดินไปนอนต่อที่โซฟาแต่ก็ต้องชะงัก
เมื่อข้าวของภายในบ้านถูกจัดอย่างเป็นระเบียบ และเป็นที่เป็นทางแบบที่ไม่เห็นมานานมากแล้ว
พวกนิตยสารที่วางเกลื่อนกลาดอยู่บนพื้นถูกจัดเก็บไปไว้ที่ไหนก็ไม่อาจรู้ได้
ถึงแม้ว่ามันจะยังไม่สะอาดมากนัก และจานชามที่กองเอาไว้ในซิงค์ล้างก็ยังคงเต็มเปี่ยม
แต่โดยรวมแล้วมันก็ทำให้บ้านดูปลอดโปร่งและสะอาดมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ผมหันไปมองที่หน้าประตูห้องน้ำก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ
หันกลับมามองบ้านที่เริ่มเป็นบ้านแล้วก็ยกยิ้มออกมาคนเดียว...
.
.
.
บางที...มีเด็กซักคนในบ้านมันก็ไม่เสียหายนี่นาจริงไหม?
✚ TALK
แว๊บมาเปิดเรื่องใหม่...หนังสงหนังสือไม่อ่านแล้วไม่มีอารมณ์ 5555
เรื่องนี้ใสกิ๊งนะคะ ไรเตอร์แต่งเอ็นซีไม่เป็น #อุ๊บส์
ไม่รู้จะทอล์คอะไรอ่ะ...ยังไงก็อย่าลืมคอมเม้นท์ให้กันด้วยนะคะ
เป็นกำลังใจให้ไรเตอร์ต่อไปนะ ชุ๊บๆ
รักรีดเดอร์ค่ะ....
- ไรเตอร์นมน -
ความคิดเห็น