คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : BIGGEST FANBOYs ::: 03
Starring : Kim Jongin & Do Kyungsoo
Rate : PG - 13
* THE BIGGEST FANBOYs
- 03 -
แบคฮยอนหัวเราะคิกคักกับตัวเอง ในขณะที่นอนแผ่หลาอยู่บนเตียงนอน
สองมือถือโทรศัพท์ เขาสัมผัสแป้นพิมพ์บนหน้าจอรัวเร็ว
ยิ้มกว้างตามบทสนทนาที่ได้คุยผ่านทางหน้าจอโทรศัพท์
Direct Massage
To @REALACE_CHANYEOL
23.12: ทำไมพี่ชานยังไม่นอนอีกครับ?
23.12: เห็นบอกวันนี้งานเยอะ ไม่เหนื่อยเหรอ?
23.13: พักผ่อนเยอะๆ หน่อยสิครับ ผมเป็นห่วงนะ
To @Junmyeon_botkr
23.15: ช่ายครับ วันนี้งานเยอะมากๆ
23.15: ง่วงนะ แต่ยังไม่อยากนอนเลย
To @REALACE_CHANYEOL
23.16: อ้าว ทำไมอ่ะครับ?
To @Junmyeon_botkr
23.16: ก็ตอนนอน พี่ไม่ได้คุยกับจุนมยอนนี่นา...
ถ้าให้อดนอนเพื่อคุยกับจุนนี่ พี่ก็ยอมนะครับ ^^
อะหือ เพลงเนื้อคู่คลอมาเลย...
หล่อๆ หล่อๆ อย่างผม แล้วใครจะทนไหวเล่า!! T////T
แบคฮยอนกัดริมฝีปากอย่างเขินอาย กรีดร้องอยู่ในใจก่อนจะกลิ้งตัวไปมาบนเตียงกว้าง
รู้สึกเขินขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก โฮววววว ทำไมพี่ชานบอทนี้ถึงปากหวานกระชากใจ
เจอแบบนี้แล้วใครจะทนวะครับ!!
To @REALACE_CHANYEOL
23.16: ง่า แต่ผมเป็นห่วงพี่นะครับ เรายังมีเวลาอีกนาน
พี่น่าจะไปพักผ่อน พรุ่งนี้ต้องทำงานอีกไม่ใช่เหรอ
To @Junmyeon_botkr
23.17: อ่า...จะว่าไปแล้วก็ถึงเวลาต้องนอนแล้วจริงๆ ครับ
พี่ไปก่อนครับ ไว้พรุ่งนี้ค่อยคุยกันนะครับจุนนี่อ่า
ฝันดีนะครับ ^^
To @REALACE_CHANYEOL
23.16: คร้าบผม... ฝันดีนะครับชานยอลของจุนนี่
แบคฮยอนพิมพ์ข้อความด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่จะทิ้งมือถือลงที่ข้างตัว
กลิ้งไปมาใต้ผ้าห่ม รู้สึกอบอุ่นไปทั้งหัวใจ ริมฝีปากเหยียดพรายออกมาเองอย่างช่วยไม่ได้...
นี่สินะเขาถึงได้ว่ากันว่า...เวลาคนเรามีความรัก ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ก็มักจะดูสวยงามไปหมด
แบคฮยอนเป็นติ่งมาได้หลายปีแล้ว
เริ่มแรกก็ในสมัยที่ยังเป็นผู้ชายกะโหลกกะลาก็ชอบมองผู้หญิงขาวๆ สวยๆ
แบคฮยอนเลยเริ่มทำการเบิกเนตรเข้าสู่วงการติ่งด้วยการเป็นแฟนคลับวง Girls’ Generation
มีเมนเป็นแทยอนนูน่า แม่สาวหลอดไฟที่เป็นลีดเดอร์ของเก้าสาวเกิร์ลกรุ๊ปนั่นไง
และเพราะตอนนั้นความแมนยังล้นเปี่ยม ไฟแห่งแฟนบอยของแทยอนนูน่าก็เลยแรงมาก
มองเห็นแต่ความขาว จนไม่สามารถมองใครได้เลย...
จนดวงตาเห็นธรรม และไม่รู้ว่าฟ้ากลั่นแกล้งหรือเปล่าล่ะน่า
บางทีแบคฮยอนกับแทยอนนูน่าอาจจะไม่ใช่เนื้อคู่กันก็ได้ #มโนฯ
ฟ้าเลยประทานไอ้หูกางหน้าหล่อคนนี้ผ่านเข้ามาในสายตา ในวันที่แบคฮยอนดันไปติ่งแทยอนนูน่าที่หน้าบริษัท
บ้าเอ๊ย...แบคฮยอนล่ะจำได้ดีเลยว่าเขาแทบจะหุบปากไม่ลง
ตอนที่ได้เห็นไอ้คนตัวสูงคนนั้น สะพายกีต้าร์หลังใหญ่ที่กลางหลังแล้วเดินเข้าไปในตึกวันนั้นพอดิบพอดี
ตอนแรกคิดว่าเป็นทีมงานในบริษัทซักคน...
แต่แบคฮยอนก็พบว่าตัวเองคงบ้าไปแล้ว
ที่ดันไปจ้องเขาตาแทบถลนตอนที่เห็นเขาโซโล่กีต้าร์ในงานรวมศิลปินของค่าย SM Ent.
เป็นอันชัดเจนว่าเขาเป็นเด็กฝึกของทางค่าย...
และตั้งแต่วันนั้นมา...แบคฮยอนก็ตามติ่งตามกรีดร้อง ปาร์ค ชานยอล มาโดยตลอดแหละนะ
อ่า...บ้าจริง นี่ทำเป็นตำนานได้เลยนะเนี่ย เขียนเป็นฟิคได้ป่ะครับ
แบบมนต์รักหน้าเอสเอ็ม ไรประมาณนี้น่ะ...เออ แต่ว่าใครจะอ่านวะเนี่ย - -
แบคฮยอนนอนคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ก่อนที่เริ่มรู้ตัวแล้วว่าตัวเองกำลังนอนไม่หลับ
คิดอะไรไม่ออก เลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาเพื่อนรักเพียงคนเดียวของเขา
ที่บอกว่าเพื่อนรักเพียงคนเดียวน่ะ ไม่ได้หมายความว่าไม่มีใครคบน่ะครับ
แต่ก็อย่างว่า เพื่อนที่เป็นติ่งด้วยกันน่ะ มันก็คุยกันรู้เรื่องและสนิทใจกว่าเพื่อนที่ไม่ชอบดารานักร้องเห็นๆ
จะว่าไปเมื่อก่อนคยองซูก็ไม่ได้บ้านักร้องเกาหลีหรอกนะ แต่สุดท้ายดวงตาก็เห็นธรรมจนได้ล่ะน่า...
“ฮัลโหลคยองซูอ่า...มึงนอนยังวะเนี่ย?” กรอกเสียงถามไปในโทรศัพท์
“อ๋อ...ยังอ่ะ แต่กูอาบน้ำแล้วนะ
ตอนแรกว่าจะนอนแล้ว แต่หาข้อมูลเรื่องหมอนข้างจงอินนาอยู่
มึงว่าพันสองแพงไปป่ะวะ กูยิ่งไม่ค่อยมีตังค์อยู่...แต่ก็อยากได้อ้ะ”
คยองซูส่งเสียงร้อนรนมาจากปลายสาย
ฟังจากเสียงแล้วแบคฮยอนล่ะคิดออกเลยว่าเจ้าตัวคงจะเบะปากอยู่แน่ๆ
แบคฮยอนเลยหัวเราะในลำคออย่างขำๆ ก่อนจะแนะนำคยองซูถึงสิ่งที่ดีกว่า
“ร้านไหนของมึงวะ...แพงไปป่ะเนี่ย
มึงลองเมนชั่นไปหา @w1807 ดิวะ...ร้านของสเตลล่านูน่า
กูเคยสั่งมาช่วงก่อนหน้านี้ประมาณสองอาทิตย์ เห็นช่วงนี้เพิ่งเปิดล๊อตใหม่
สเตลล่านูน่าใจดีครับมึง ลองเมนชั่นไปถามเขาดิ...”
แบคฮยอนหยิบโฟโต้บุ๊คที่หัวเตียงออกมาเปิดเล่น ดูรูปชานยอลไปด้วยในขณะที่คุยกับคยองซู
ค่อยๆ เปิดไปทีละหน้าอย่างทนุถนอม เพราะราคาที่ซื้อมาไม่ใช่ถูกๆ...
และพูดกันตามความจริง แบคฮยอนควรซื้อมาเก็บไว้บนหิ้งเสียด้วยซ้ำ
แต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้กับหน้าปกอันยั่วยวน จำเป็นต้องเอามาวางข้างๆ หมอน
เวลาที่คิดถึงก็เปิดออกดูสนองนี๊ดตัวเอง แง...เขานี่มันติ่งสุดๆ
โปสเตอร์ที่ติดอยู่ในห้อง
แบคฮยอนก็จำเป็นต้องซื้อมาสองชุดเพื่อที่จะเอามาติดห้องชุดนึงและเก็บไว้อีกชุดนึง
ดูเอาเถอะว่าเขาบ้าแค่ไหน...ถ้าหม่าม๊ารู้ว่าแต่ละวันเอาเงินมาล้างผลาญไปกับเรื่องแบบนี้ทุกวันล่ะก็
แบคฮยอนต้องโดนหักตังค์ออกครึ่งนึงแน่นอนไม่ต้องถามเลย...
“อ่อเหรอ...เออๆ งั้นจะลองไปถามดู
นี่มึงทำไมยังไม่นอนวะ คุยกับบอทพี่ชานเหรอ?”
คยองซูถามมาหลังจากที่เพิ่งสังเกตว่า
ขณะนี้เลยเวลาปกติที่แบคฮยอนจะเข้านอนมาได้เกือบๆ สิบห้านาทีแล้ว
“อือ...วันนี้พี่ชานงานยุ่ง เลยต้องคุยกันตอนดึก
แต่ก็ได้คุยแปปเดียวเองอ่ะ เพราะพรุ่งนี้เขาทำงานแต่เช้า
แย่จังเลยว่ะ อยากคุยนานๆ แต่พี่เขาไม่ค่อยว่างเลย
ดีนะยังมีส่งข้อความมาทักบ้าง...ไม่งั้นต้องคิดถึงตายห่าแน่เลย” แบคฮยอนตอบกลับพลางถอนหายใจ
“อู้หูยยยย มึงนี่นะ...เป็นแฟนเขาไม่กี่วันก็มีอารมณ์นอยด์แล้วเหรอ
จะไปรอดไหมเนี่ย แต่อย่าเลิกเพราะเขางานเยอะนะมึง น่าสงสาร”
“เฮ้ย บ้า...กูไม่เลิกกับพี่เขาเพราะเรื่องแค่นี้หรอกน่า” แบคฮยอนเสริมกลับ
“เออ งั้นก็ดีแล้ว...ความรักมันไม่ใช่เล่นขายของนะมึง
จะคบใครอย่าคบเล่นๆ ถึงจะเป็นรักในบอทก็เถอะ
แต่ถ้าถึงขนาดว่าพูด คำว่ารักกับคำว่าแฟน ออกมาแล้ว
มันไม่ใช่เรื่องที่มึงจะทำตัวเป็นเด็กๆ ทำตัวเล่นๆไปวันๆ ไม่ได้อีกแล้วนะรู้เปล่า...”
คยองซูพูดตอบกลับมาจากปลายสาย
ทำเอาแบคฮยอนต้องเบ้ปากออกมาเมื่อรู้ว่าเพื่อนกำลังตำหนิตนเองเหมือนเป็นเด็กๆ
“รู้แล้วหน่า...มึงทำอย่างกับกูเป็นเด็กๆ เลยนะคยองซูอ่า”
“ยังไม่รู้ตัวอีกว่ามึงอ่ะเด็ก... ทุกวันนี้อย่างกับเลี้ยงลูก” คยองซูหัวเราะในลำคอเบาๆ
“ห๊ะ จริงดิ แล้วใครเป็นพ่อกูวะ?” แบคฮยอนแกล้งถามแหย่
“อ๋อ...พ่อมึงเหรอ? ก็จงอินนาของกูไง
คราวหลังห้ามเรียกจงอินนาของกูว่าไอ้ดำอีกนะมึงเดี๋ยวเจอกูเตะปาก
ไปติ่งคราวหน้าต้องเรียกว่าป่ะป๊า...ตกลงป่ะครับน้องแบคฮยอน”
“ป่ะป๊าพ่อง...อยากได้อย่างมึงว่ากูแนะนำให้มึงไปนอนครับโดคยองซู”
“ฮ่าๆ...เออ กูไปก็ได้
ดึกแล้วครับลูกกู ไปนอนเดี๋ยวนี้...ฝันดีครับมึง จู๊บุ”
“เออครับหม่าม๊า...ฝันดี”
แบคฮยอนเอ่ยลา ก่อนจะกดวางสายคยองซูในที่สุด
แบคฮยอนหัวเราะกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะกดปิดไฟหัวเตียงของตัวเองเพื่อเตรียมจะเข้านอน
หากแต่ก่อนที่จะได้หลับตา...แบคฮยอนก็หยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
ก่อนจะเปิดโปรแกรมทวิตเตอร์ เข้าไปในกล่องข้อความอีกครั้ง
To @REALACE_CHANYEOL
00.12: ฝันดีนะครับชานยอลของผม...รักมากกว่าเมื่อวานนะครับ <3
กดพิมพ์ข้อความส่งไปก่อนจะยกยิ้มกว้าง...
แบคฮยอนวางโทรศัพท์ลงที่โต๊ะข้างเตียงก่อนจะดึงผ้าห่มขึ้นคลุมตัวเองอย่างช้าๆ
เฝ้าคิดถึงความรักที่ตัวแบคฮยอนเองไม่เคยรู้จักมาก่อน...
ความรักน่ะเหรอ แบคฮยอนไม่เคยสัมผัสมาก่อนเลยซักครั้ง
เคยแต่รักกับศิลปินในโปสเตอร์...อย่างชานยอลตัวจริงนั่นไง
แต่ถ้าการที่แบคฮยอนมีความสุขกับข้อความทุกตัวอักษรที่อีกคนส่งตรงมาให้...
แบคฮยอนก็เพียงแค่หวังว่ามันจะเป็นความรักอย่างที่เขาอยากให้เป็นจริงๆ...
*********
ชานยอลยกยิ้มเมื่อโทรศัพท์มือถือของเขาขึ้นแจ้งเตือนข้อความในกล่องดีเอ็ม
คนตัวสูงยิ้มกว้างซะจนปากจะฉีกถึงหู เมื่อกดเปิดอ่านข้อความที่บอทจุนมยอนที่น่ารักที่สุดบนโลกนี้(เว่อร์)ส่งข้อความมาหาเขา
ใช่ครับ...คุณอาจจะเดากันได้แล้วว่าพี่ชานยอลบอทคนนั้นคือใคร
และช่าย...โปรยจูบหนึ่งทีสำหรับคนที่เดาถูก ผมเองครับ ปาร์ค ชานยอลแห่งวงเอซ!
ผมติดโซเชียลเน็ตเวิร์คมาตั้งแต่ก่อนเดบิวต์...ว่ากันตามจริงแล้วผมก็ดังมาจากมันนั่นแหละ
สมัยก่อนผมชอบที่จะถ่ายรูปตัวเองแล้วอัพลงบล็อกไซค์เวิลด์อยู่เรื่อย
และคนติดตามก็มีมากขึ้นตามความหล่อของผม(ไม่ได้โม้นะครับ)
ช่วงที่ยังเป็นเด็กฝึกผมมีทั้งแอคเคาท์ทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ค ไซค์เวิลด์และยูเอฟโอ
แต่แน่นอนว่าผมต้องปิดมันทั้งหมดเมื่อผมกลายมาเป็นไอดอลอย่างตอนนี้
อ่า...ความจริงผมเองก็ไม่ได้ปิดมันทั้งหมดหรอก ผมมีทวิตเตอร์ส่วนตัวที่ผู้จัดการเป็นคนควบคุมดูแลอยู่
แต่ก็อย่างว่าแหละครับ...จะพิมพ์จะตอบใครก็ต้องอนุญาติกันไปทุกอย่างแบบนั้น ใครจะอยากเล่นล่ะจริงไหม?
และช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา...ผมรู้สึกนึกสนุกขึ้นมา
มันคงจะดีเหมือนกันนะถ้าหากว่าผมจะติดตามข่าวของตัวเองในแบบของคนอื่นที่ไม่ใช่ปาร์คชานยอลดูบ้าง
และผมก็ได้รู้ว่ามันเจ๋งดีเหมือนกันนะที่ได้ตามอ่านเรื่องของตัวเองในทามไลน์
ผมขำแทบตายตอนที่ได้อ่านข่าวลือของผมกับเยจิน...
อ่า...ความจริงผมเองก็เคยจีบเธอนะ แต่เราไม่ได้ถึงขั้นเป็นแฟนกันหรอกครับ ก็เธอไม่เอาผมอ้ะ!!
แต่เรื่องนี้ผมเองก็ไม่อยากจะแก้ข่าวให้ยุ่งยากหรอกนะ
ก็ใครจะอยากป่าวประกาศล่ะครับว่าผู้หญิงไม่สนใจ การปล่อยให้คิดกันแบบนั้นก็ดีแล้วล่ะสำหรับผม
ผมตัดสินใจเปลี่ยนแอคเคาท์ทวิตเตอร์ของคนธรรมดา(ที่ไม่ใช่ชานยอล) มาเป็นบอทพี่ชาน เพราะผมว่ามันน่าสนุกดี
และ...ใช่ครับ ตอนนี้ผมกำลังอินเลิฟและติดทวิตเตอร์เอามากๆ
เพราะน้องจุนมยอนนี่ (แหวะ...พี่จุนมยอนเนี่ยนะ จะให้รักกันได้ไง ไม่จริงอ่ะ) ของผมน่ะ
น่ารักมุ้งมิ้งอย่างถึงที่สุด...และผมใช้เวลาจีบตั้งสามเดือนเลยนะครับกว่าจะติด!!!
โอ้มายก๊อด...ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะมีวันนี้ อารมณ์แบบ รักคนที่ไม่เคยหน้ากันน่ะ
ในแง่หนึ่งมันอาจจะดีนะ ดีที่ว่าผมเป็นศิลปินแล้วมามีความรักแบบนี้มันก็ไม่มีข่าวอะไรเสียหาย
แต่มาตอนนี้ผมว่ามันชักจะเริ่มไม่โอเคแล้วล่ะครับ
เมื่อผมรู้สึกว่าผมอยากจะจริงจังกับเขามากกว่าที่จะคบกันเล่นๆ นี่นา
โง้ย...คนห่าไรวะน่ารักมุ้งมิ้งฉิบหาย!!
ผมตะโกนในใจและยิ้มกว้าง...ก่อนจะรีบหย่อนโทรศัพท์เข้าไปในกระเป๋ากางเกง
เมื่อจู่ๆ น้องจุนมยอนนี่(ตัวจริงเสียงจริงที่แค่มองหน้าก็คิดอะไรด้วยไม่ลง)
เสือกเดินมาสะกิดหลังเรียกกันซะงั้น...
“เฮ้ย ชาน... พี่ผู้จัดการเรียกนายไปคุยด้วยอ่ะ
แหน่ะ...รีบเก็บมือถืออย่างไว มีความลับอะไรนักหนาฮึ?”
น้องจุนมยอนนี่(โอย...จัดได้ว่าขนลุก) ถามผมขึ้นมาทันที
ตาใสๆ ของจุนมยอนหรี่มองผมอย่างจับพิรุธ
“อืม...ไม่มีอะไรหรอกน่า” และที่ผมทำได้ก็คือแค่บอกปัดๆ เขาไปอย่างนั้น
“ช่วงนี้ติดไอแพดกับโทรศัพท์มากไปนะชานยอล
นายคุยกับใครนักหนา...รู้ใช่ไหมว่าถ้านายมีแฟนมันจะยุ่งขนาดไหน”
จุนมยอนบอกผมเป็นเชิงปราม... ผมกลอกตาเพราะใช่ว่าเรื่องนี้ผมจะไม่รู้
ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือ เรื่องนี้น่ะผมโดนฝังหัวเอาไว้ในกะโหลกมาตั้งแต่เริ่มเป็นเด็กฝึกแล้ว
และจำได้ขึ้นใจแม้ว่าจุนมยอนจะไม่ต้องบอกหรือเตือนด้วยซ้ำ
“ผมรู้แล้วน่า...ช่วงนี้ผมคุยๆ กับพี่ยูราไง
พี่ก็รู้นี่นาว่าตั้งแต่เราคัมแบ๊คอัลบั้มนี้
เรายังไม่ได้มีวันหยุดกลับไปหาครอบครัวกันเลยซักวัน”
ผมโบ้ยความผิด(?) ไปให้พี่สาวแท้ๆ ของผม...โดยไม่ได้คิดอะไรให้มันซับซ้อนมากไปกว่านี้
ไม่ได้ยากเย็นอะไรนักหรอก เพราะพี่กับผมก็ไม่แตกต่างกันมากนัก
ที่มีแอคเคาท์จำพวกโซเชียลเน็ตเวิร์กต่างๆ มากมาย
เพราะฉะนั้นมันก็ไม่น่าจะมีปัญหะ...
“พี่ยูราไม่เล่นทวิตเตอร์ไม่ใช่หรือไง?
เขาเคยบอกฉัน...ว่าเขาเล่นแค่เฟซบุ๊ค”
ปัญหามาเลยมึง...พูดยังไม่ทันขาดคำ
“ก...ก็พี่ยูราเพิ่งสมัครไง
แล้วผมก็คุยกับเพื่อนๆ ที่เรียนด้วยกัน ผิดหรือไงวะครับ?”
ผมรีบแก้ตัวอย่างรวดเร็ว รีบหลบสายตาที่จุนมยอนหรี่มองอย่างจับผิด
และสุดท้ายผมเลยปัดเรื่องนี้ให้หลุดออกจากประเด็นไปซะเฉยๆ
แต่ดูเหมือนว่าจุนมยอนจะไม่ยอมให้ผมเปลี่ยนเรื่องไปได้ง่ายๆ
“นายอยากเล่นอะไรฉันน่ะไม่ว่าหรอก แต่ขอให้ระวังหน่อยนะชานยอล
โปรดรู้ตัวด้วยเถอะว่านายเป็นใคร...อย่าไปทำให้คนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ต้องเดือดร้อน
และอย่าไปทำร้ายจิตใจเพียงแค่ความสนุกของนายด้วย...
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง...คนที่เป็นแฟนคลับของเรา”
จุนมยอนพูดไว้แค่นั้นก่อนจะเดินออกไป
ทิ้งชานยอลไว้เพียงลำพัง ให้เอาแต่ครุ่นคิดถึงความหมายในข้อความนั้น
ชานยอลถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่าย...หากแต่สุดท้ายแล้วก็คว้ากระเป๋าขึ้นไปสะพายบนบ่า
แล้วเดินออกไปพร้อมด้วยความหงุดหงิดในหัวใจ
.
.
.
อย่ามาตอกย้ำเรื่องที่ฉันกำลังคิดมากอยู่ได้ไหมล่ะจุนมยอน...
*********
เป็นไอดอลไม่สมควรมีความรัก...
จุนมยอนถอนหายใจออกมาเบาๆ เมื่อได้ครุ่นคิดถึงเรื่องที่พูดคุยกับชานยอลเมื่อก่อนหน้า
ใครดูก็รู้ว่าตอนนี้ชานยอลกำลังอินเลิฟ...แต่กับใครนั้นจุนมยอนเองก็ไม่อาจจะรู้ได้หรอก
แต่ไอ้การที่ยิ้มและหัวเราะคิกคักกับหน้าจอมือถือคนเดียวอย่างนั้นน่ะ
ถ้าไม่ได้ตกอยู่ในห้วงแห่งรักก็คงจะเป็นไอ้บ้าไปแล้วแหงๆ
ก็แค่หวังว่าจะไม่ใช่ไอดอลสาวๆ คนไหนเลย...ไม่อย่างนั้นล่ะก็มันคงจะวุ่นวายมากแน่ๆ
“คิดอะไรของพี่อยู่น่ะ คิ้วจะผูกเป็นโบว์ได้อยู่แล้ว”
เสียงของใครคนหนึ่งดังขึ้นมาขัดจังหวะทำเอาจุนมยอนเกือบจะสะดุ้ง
ก่อนจะรีบหันไปมองแล้วก็พบว่าไม่ใช่ที่ไหนเลย นอกจากรูมเมทเพียงคนเดียวของเขา คิม จงแด
“เปล่าหรอก ก็คิดอะไรนิดหน่อย ไม่มีอะไร” จุนมยอนบอกปัด
“อืม งั้นก็ดีแล้วล่ะ ผมอาบน้ำเสร็จแล้วล่ะ
เรารีบเข้านอนกันเถอะ พรุ่งนี้ต้องเข้าบริษัทแต่เช้า” จงแดบอก
“หืม? ทำไมล่ะ
ไหนว่าพรุ่งนี้เราไม่มีตารางซ้อมช่วงเช้า” จุนมยอนถามอย่างแปลกใจ
“คำสั่งจากเบื้องบนอะดิ...ซวยหน่อยนะจุนมยอน
คนอื่นเขาไม่ได้โดนเรียกเข้าบริษัทหรอก มีแค่พี่คนเดียวที่โดน”
จงแดยักไหล่ในขณะที่สอดตัวเข้าไปใต้ผ้าห่มหนาที่อยู่บนตัวของผมและเขา
เด็กนั่นถือวิสาสะหยิบเอาหนังสือที่ผมถืออยู่ในมือออกไปวางไว้ที่ใต้หมอน
ก่อนจะหันมายิ้มให้ผมอย่างไม่ได้คิดว่าผมจะติดใจอะไร
แต่ก็นั่นแหละ...ไม่ได้คิดจะติดใจอะไรอยู่แล้ว
“แล้วทำไม?” ผมถามพลางยกคิ้วขึ้น และจงแดตอบกลับผมมาว่า
“ก็ไอ้คุณคริสอะไรนั่นเรียกพี่เข้าประชุมอีกแล้ว
ไอ้ผู้บริหารคนใหม่นี่ไฟแรงดีนะ”
จงแดตอบกลับก่อนจะเอี้ยวตัวไปคว้าสายชาร์ตโทรศัพท์ที่ข้างเตียงมาเสียบต่อกับโทรศัพท์ของเขา
และผมรู้สึกโชคดีจริงๆ ที่เขาทำอย่างนั้น...เพราะถ้าหากเขามองหน้าผมตอนนี้
ก็คงจะเห็นใบริมฝีปากที่เบะออกและอาจจะทำให้มีคำถามมากมาย
“อ๋องั้นเหรอ...แล้วถ้าเป็นอย่างนั้นนายจะเข้าไปทำไมล่ะ
อุตส่าห์มีเวลาพักผ่อน นายน่าจะตื่นสายๆ” ผมถามคนเป็นน้องอย่างเป็นห่วง
“ไม่เป็นไร ผมจะไปส่ง” จงแดพูดอย่างดื้อรั้น
“ไม่เป็นไรหรอกน่า เดี๋ยวฉันเข้าไปแป๊ปเดียวก็กลับเข้ามาแล้ว นายคงยังไม่ตื่นหรอก”
“ผมจะปล่อยให้พี่ไปไหนมาไหนคนเดียวได้ไงเล่า
เดี๋ยวพวกแฟนๆ ก็ด่าผมตายแหง ที่ปล่อยให้พี่เหงา
เอาเถอะน่า อย่าดื้อเลย...ดีออก
พวกแฟนไซต์นูน่าที่ถ่ายรูปคู่เราสองคนจะได้มีงานทำ”
จงแดหัวเราะคิกคักก่อนจะเอื้อมมือมาขยี้ผมอย่างถือวิสาสะ(ก็ไม่เคยเห็นจะมีมารยาทกับผมซักที)
ก่อนจะบังคับให้ผมรีบเข้านอนแล้วเอี้ยวตัวไปปิดโคมไฟที่หัวเตียงให้เสร็จสรรพ
ผมรู้ดีว่าคงจะไปบังคับอะไรเขาไม่ได้มากกว่า เลยเลือกที่จะตามใจคนเป็นน้องไปอย่างนั้น
ก็แบบนั้นแหละ...ว่ากันตามจริงผมก็ไม่เคยจะเถียงใครได้เลยซักที โดยเฉพาะไอ้เด็กดื้ออย่างจงแดคนนี้
“อืม...งั้นก็รีบนอนเถอะ
เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่จะปลุกเอง ฝันดีนะจงแด”
ผมบอกฝันดีกับเขาและนอนตะแคงหันหลังให้...
แน่นอนว่าสิ่งที่ตามมาคือความเคยชิน จงแดเอาแขนของเขามาพาดบนเอวของผม
เขานอนกอดผมทุกคืน...จนผมเคยชินมากกว่าจะเขินอาย
แต่พูดกันตามจริงคือผมไม่รู้จะปฏิเสธเขายังไงมากกว่า
“ฝันดีครับ จุนมายอน” จงแดบอกผมอย่างนั้นก่อนที่จะวางศีรษะลงบนท้ายทอยของผมแล้วหลับไปเหมือนทุกคืน
อาจจะเหมือนเดิม...แต่ในคืนนี้คงมีเพียงผมที่รู้สึกไม่ปรกติ
ผมลอบถอนหายใจกับตัวเองเบาๆ
เมื่อแขนแข็งแรงของจงแดโอบรัดแน่นขึ้นราวกับว่าเขากำลังกอดหมอนข้างชั้นดี
ผมไม่ได้มีปัญหาอะไรกับนโยบายคู่จิ้นที่บริษัทจัดให้ผมกับจงแดแสดงออกบ้างเพื่อเรียกเสียงกรี๊ดจากพวกแฟนคลับ
ว่ากันตามจริงผมโอเคมากๆกับมันเลยด้วยซ้ำ เพราะจงแดเองก็เป็นคนดี...และเขาดูแลผมได้ดีเสมอ
ทุกวันนี้ก็ไม่รู้ว่าหน้าที่หรือเปล่า แต่ผมก็รู้สึกดีนะที่จงแดเอาใจใส่ผมและคอยเป็นห่วงผมเป็นพิเศษ
เราสองคนเคยชินที่ทำมาอย่างนี้ และผมก็คงจะมีความสุขอย่างนั้นไปเรื่อยๆ...ถ้าเขาไม่โผล่เข้ามา
จุนมยอนขมวดคิ้ว จ้องมองผ่านความมืดไปยังที่ใดก็ไม่อาจจะรู้ได้
เขาห่อไหล่...เพราะรู้สึกว่าการคิดถึงเขาก่อให้เกิดความรู้สึกเจ็บปวดไปทั่วร่างกาย
“อืม...พี่หนาวเหรอ?” จงแดถามขึ้นมาอย่างงัวเงีย เพราะเขาคงจะขยับตัวเร็วไปเลยทำให้จงแดตื่น
“เปล่าหรอก แค่นี้ก็อุ่นดีแล้ว”
จุนมยอนตอบไปแผ่วเบา เมื่อคนเป็นน้องดึงเขาเข้าไปใกล้มากขึ้น
จุนมยอนลอบขำ เมื่อหลังจากที่คนเป็นน้องทำอย่างนั้น เขาก็กรนขึ้นมาเบาๆอย่างรวดเร็ว
ไอ้ที่ถามเมื่อกี้ก็คงจะละเมอล่ะมั้ง...น่ารักดี
จุนมยอนดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวเขาและจงแดเอาไว้จนถึงหัวไหล่
ก่อนจะหลับตาลงแม้ว่าจะมีคำถามมากมายในหัวใจก็ตามที...
ฉันมีความสุขดีอยู่แล้วกับทุกวันนี้...
.
.
.
.
แล้วนายจะกลับมาทำไมกันนะอู๋ฟาน...
ป.ล.ตอนหน้าไคโด้จะมา ><
ป.ล.1 เฉินโฮทำไมฟินจยูง #ติ่ง T/////T
ป.ล.2 หายไปนานเพราะงานยุ่งมาก
แต่นมน.จริงจังจริงใจไม่ทอดทิ้งนะคะเบบี๋
ใกล้จะกลับมาแต่งฟิค ลุยฟิค กลับไปโลดแล่นบนทล.แล้ว เด็กๆรอเค้าก่อนนะ :D
สุดท้าย...เม้าท์มอยอย่าลืมติดแท็ก #สุดยอดแฟนบอย ฮี่ๆ
ความคิดเห็น