ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] ✚ :: THE BIGGEST FANBOYs :: ✚ [KAI&DO]*

    ลำดับตอนที่ #2 : BIGGEST FANBOYs :: 02

    • อัปเดตล่าสุด 31 พ.ค. 56


    Author: MR.SNOWMAN
    Starring : Kim Jongin & Do Kyungsoo
    Rate :  PG - 13






     

    THE BIGGEST FANBOYs






    - 02 -


     


     

    “เป็นไรของมึงวะแบคฮยอน? ทำไมวันนี้ถึงดูอารมณ์ดีแปลกๆ?” 


     

    ผมถามขึ้นในขณะที่แบคฮยอนกำลังบิดตัวม้วนต้วนและในมือก็ถือโทรศัพท์

    ยิ้มกรุ้มกริ่มและดูเขินอาย...เอาเข้าไป ผมเพิ่งรู้สึกว่านมของผมหวานจนเลี่ยนไปเลย

    ตั้งแต่เห็นว่าแบคฮยอนทำท่าทางแบบนั้น...

     

     

    “คยองซู... พี่ชานเพิ่งขอกูเป็นแฟนว่ะ เมื่อวานนี้เอง”

     

     

    แบคฮยอนพูดพลางยิ้มเขินส่งมาให้ผม....ซึ่งเป็นอันถึงบางอ้อทันทีที่เขาพูดแบบนั้น

    แบคฮยอนเล่นบอทครับ -- เขาเล่นเป็นตัวศิลปินที่ชื่อ คิม จุนมยอน ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกในวงเอซ

    ที่พวกเราเหล่าแฟนคลับทุกคนต่างลงความเห็นแล้ว ว่าสมควรจะเป็นเมียของทุกคนในวง เพราะความน่ารักมุ้งมิ้งของพี่แก

     

     

    “โอ้โห กูว่าแล้วเชียว! เห็นพี่ชานบอทนั้นมันเต๊าะมึงมาตั้งหลายเดือน

    กูนึกว่าเพื่อนกูจะไม่หวั่นไหวซะแล้วนะเนี่ย ที่ไหนได้...ซุ่มนี่หว่า

    อยู่หน้าทล.ทำเป็นกวนตีนใส่เขา ที่แท้ก็ซุ่มง๊องแง๊งอยู่ในดีเอ็ม!

     

     

    คยองซูวางแก้วลงกับโต๊ะไม้อย่างแรง ก่อนจะหรี่ตาลงแล้วชี้นิ้วไปที่อีกคนอย่างจับผิด

    หากแต่ก็ไม่ได้ทำให้แบคฮยอนหยุดเขินอายเลย แต่กลับยิ่งทำให้บิดตัวเขินอายยิ่งขึ้นไปอีก

     


     

    “ก็...พี่เขาละมุนดีอ่ะ กูชอบ!

    มึงก็รู้กูชอบคนละมุนกวนตีน อย่างพี่ชานยอลบอทนี้อ่ะ ฮืออออ สเป็คกูเลย!

     
     

    แบคฮยอนกัดริมฝีปากก่อนจะยกแก้วชานมของตัวเองขึ้นดูดเพื่อแก้เขิน

    คยองซูกลอกตาเล็กน้อยเมื่อได้ยินแบบนั้น ก่อนจะพูดออกมาเมื่อเห็นว่าเพื่อนกำลังทำตาลอยด้วยความเคลิบเคลิ้ม

     
     

    “กูรู้ว่ามึงชอบพี่ชานบอทนี้ เพราะนิสัยเขากวนตีนเหมือนพี่ชานยอลตัวจริงของมึง...

    แต่อย่าลืมนะ ว่าเขาไม่ใช่ตัวจริง... รักใครในบอทก็ระวังหน่อยแบคฮยอน

    กูพูดงี้ไม่ได้หมายความจะให้มึงเลิกกับพี่ชานบอทนะ! ...แค่อยากให้มึงไม่งมงายน่ะ”




    คยองซูพูดพลางยักไหล่...

    จู่ๆก็เริ่มรู้สึกผิดขึ้นมาเมื่อได้เห็นว่ารอยยิ้มของเพื่อนนั้นเจื่อนไปเล็กน้อย

    แต่จะให้ทำไงได้ นี่เป็นเรื่องที่เขาต้องย้ำให้แบคฮยอนเข้าใจนี่นา...

     
     

    “อื้อ...ก็เข้าใจอยู่หรอกนะ

    แต่ทั้งๆ ที่เข้าใจแต่ก็ยังอดคิดฝันเฟื่องไม่ได้อยู่ดี

    คยองซูอ่า...มึงว่าอย่างเรากับศิลปินจะมีสิทธิรักกันได้รึเปล่าวะ

    ใครๆก็หาว่างมงาย -- แต่กูแค่อยากฝันว่าเราจะได้รู้จักกันบ้างก็แค่นั้น”

     

     

    แบคฮยอนทำปากยื่นและไหล่ตกเมื่อได้พูดอย่างนั้น

    คยองซูเงียบไปในอึดใจ เพื่อฟังที่เพื่อนพูดตัดพ้อออกมา แต่ในใจก็คิดตามในสิ่งที่แบคฮยอนกำลังพูดอยู่เช่นกัน

    นั่นสินะ...รักกับศิลปินเหรอ คงเป็นไปได้แค่ฝัน เท่านั้นล่ะมั้ง...

     

     

    “คิดมากน่ะแบคฮยอนอ่า...

    มึงอย่าลืมดิวะ หน้าที่ของแฟนคลับอย่างเราๆ คือการให้ความรักกับศิลปิน

    และสิ่งเดียวที่เราควรจะเรียกร้องจากเขาคือเสียงเพลง...เราทำได้แค่นั้นนะเพื่อน”

     
     

    คยองซูเอื้อมมือไปบีบที่บ่าของแบคฮยอนเบาๆ ก่อนจะมองแบคฮยอนถอนหายใจออกมายาวเหยียด

    หากแต่ไม่นานเท่าไหร่นักเพื่อนรักตัวเล็กของเขาก็ยิ้มออกมาบางๆ

    เป็นอันรู้กันดีว่าเขาเข้าใจในสิ่งที่คยองซูพูด...

     

    “อืม...กูเข้าใจแล้ว เฮ้ย! มึงว่าเรารีบไปกันดีกว่าไหมคยองซูอ่า

    กูลืมไปว่าวันนี้มีคนอวดผี ไอสาส...ไม่ได้เลยนะ กูเป็นติ่งพี่ริวจิตสัมผัส!

     

    “อ้าวเฮ้ย ใจเย็น...ชามุกกู”

     

    แบคฮยอนว่าพลางดึงแขนผมให้ลุกขึ้นจากโต๊ะ

    ผมรีบคว้าแก้วชาที่วางอยู่บนโต๊ะก่อนจะเดินตามแบคฮยอนไปติดๆ

    หากแต่ยังไม่ทิ้งความคิดที่ติดอยู่ในหัวได้หรอกนะ...เรื่องที่แบคฮยอนพูดกับเขาน่ะ

     

    ใช่เลย...คยองซูเคยถามตัวเองแบบนี้มาหลายหน ตั้งแต่เริ่มเป็นติ่งใหม่ๆ

    ถ้าตอนนี้ไม่ได้เป็นติ่ง ป่านนี้เขาจะทำอะไรอยู่ที่ไหนนะ?

    เขาอาจจะมีแฟนเป็นรุ่นน้องหรือรุ่นพี่ซักคนที่มหาลัยฯ...

    หรือไม่ก็กำลังโพสต์คอมเม้นท์ลงในอินเตอร์เน็ตด่าพวกติ่งเกาหลีว่าเป็นพวกไร้สาระอยู่ก็ได้ล่ะมั้ง

     

    แต่ที่แน่ๆ ก็คือ...ไม่ใช่ว่าคยองซูไม่เคยคิดหรอกนะ เรื่องที่แบคฮยอนพูด

    เรื่องรักๆ ใคร่ๆ กับศิลปินน่ะ... ใครฟังก็คงจะรู้ว่ามันดูไกลตัวมากเกินไป

    แค่ได้รักได้ชอบ ได้เห็นเขายิ้ม แค่นี้ก็คงพอแล้ว

    คยองซูน่ะไม่อยากจะปฏิเสธให้ดูว่าตัวเองเป็นคนโลกสวยหรอกนะ...

     

    .

    .

    .

     

    แต่มันก็คงจะเจ๋งมากเลย...ถ้าจงอินจะกลายมาเป็นคนรักของเขาจริงๆ

     

     

     
     

    *********

     

     
     

     

    คยองซูเปิดประตูเข้ามาในห้องพัก เขาอาศัยอยู่ในหอพักแห่งหนึ่งไม่ห่างไกลจากมหาวิทยาลัยซักเท่าไหร่

    แบคฮยอนอยู่อีกหอพักหนึ่งซึ่งห่างออกไปจากที่นี่ไม่ไกลนัก

    เหตุผลด้วยเพราะว่า หอพักนั้นสะดวกสบาย หรูหรากว่า และแน่นอนว่าราคาแพงหูฉี่มากกว่าที่นี่เยอะเลย

    คยองซูไม่ได้มาจากครอบครัวที่ร่ำรวยนัก แค่มาจากครอบครัวฐานะปานกลางที่ไม่ได้มีหนี้สิน และไม่ได้เดือดร้อน

    ที่เขาเป็นติ่งได้ไม่ลำบาก เพราะเงินเดือนที่พ่อแม่ให้ก็มากพอจะเจียดมาเป็นเงินเก็บ

    เพื่อซื้ออัลบั้มและสินค้าแฟนคลับได้อย่างไม่มีปัญหา

     
     

    อันความจริงก็มีปัญหาอยู่...แค่ต้องยอมรับความจริงว่าถ้าจะติ่ง ก็ต้องยอมจำนนต่อสถานะการเงิน

    เงินเดือนครึ่งนึงคือค่าติ่ง คงเหลือไว้อีกครึ่งนึงถึงจะเรียกได้ว่าเป็นเงินสุทธิที่จะใช้ได้ในชีวิตประจำวัน

    แต่ถึงจะต้องเป็นอย่างนั้น ผมก็ไม่มีทางเลือกนี่นา...

    เพราะเรื่องแบบนี้ อย่างผมจะไปตัดพ้อให้ศิลปินลดค่าอัลบั้มลงหน่อย มันก็ไม่ใช่เรื่องอะไรเสียหน่อยนี่จริงไหม

    เพราะงั้นมีหน้าที่เสียเงินก็เสียไป... อย่าได้คิดบ่นเชียว...

     

     

    “อ่า...อะไรกันวะ นี่ห้าทุ่มแล้วเหรอเนี่ย?”

     

     

    คยองซูบ่นพึมพำออกมาเบาๆ เมื่อถอดเสื้อโค้ทแล้ววางไว้ตรงพนักเก้าอี้หน้าโต๊ะเขียนหนังสือ

    ปรายตาไปมองนาฬิกาดิจิตอล ก่อนจะนั่งลงแล้วเปิดเครื่องคอมพ์พิวเตอร์โน๊ตบุ๊คตามปกติ

     
     

    ช่ายครับ...ชีวิตติ่งมันจะไปมีอะไรมากมายล่ะ

    นอกจากโน๊ตบุ๊ค โทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนดีๆ ซักเครื่อง

    อ้อ! และปัจจัยที่ 5 ที่ขาดไม่ได้ในชีวิตเลยก็คือ...แบตเตอร์รี่สำรอง

    ขอให้มีแค่ของพวกนี้ ผมก็อยู่ได้ทั้งวันแล้วล่ะครับ!

     

     

    “เฮ้ย! นี่อะไรน่ะ ป...ปลอกหมอนจงอิน!!

    งื้อออออออๆๆๆๆๆๆ ทำไมแพงจังเลยอ่ะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

    แค่ปลอกหมอนเองนะ ทำไมราคาเป็นพันเลยฟระ บ้าจริง!

    ร...รอต้นเดือนก่อนนะจงอินจ๋า ตังค์เดือนนี้จะหมดแล้วง่า T^T

     
     

    ผมเบะปากออกมา

    เมื่อเปิดทวิตเตอร์ขึ้นมาเห็นแอคเคาท์แฟนเบสแอคหนึ่ง กำลังเปิดขายปลอกหมอนข้างรูปศิลปินหราเต็มทวิต

    และหมอนข้างจงอินจ๋าของผมหล่อลากกระชากติ่ง น่าซื้อมานอนกกนอนกอดมากครับฮือ!

    แต่คงจะต้องรอไปก่อนล่ะนะ...เพราะเดือนนี้ผมใช้จ่ายไปเยอะเลยทีเดียว

     
     

     

    ผมตัดใจกดปิดรายละเอียดพรีออร์เดอร์สินค้าตัวนั้น

    ก่อนที่จะเช็คข่าวสารในหน้าไทม์ไลน์อยู่ครู่หนึ่ง...โดยไม่ได้สนใจที่จะมองกล่องเมนชั่นเลยซักนิด

    อาจจะเพราะว่ายอดฟอลโลวเวอร์ของผมมีไม่มากนัก ผมเลยไม่ได้สนใจเรื่องเมนชั่นซักเท่าไหร่

    เพราะส่วนมากคนที่จะเมนชั่นหาคนก็มีไม่กี่คนนัก คือแบคฮยอนเพื่อนของผม

    และเพื่อนๆ ที่รู้จักกันผ่านทางทวิตเตอร์อยู่ประมาณ 4-5 คน ซึ่งก็ไม่ได้เยอะมากมายนัก

     
     

    อย่างตอนนี้จะว่าไปแล้วก็อนาจจิต...

    เพราะจำนวนของคนที่ติดตามผมนั้นมีอยู่แค่ ร้อยกว่...ค..คน

    แต่เฮ้ย... ด.. เดี๋ยวนะ -- จ...จู่ๆ มาจากไหนตั้ง 60 กว่าคนวะครับ!!!!!!!

     

     

    “เฮ้ย...มาจากไหนกันวะ??”

     
     

    ผมเบิกตากว้างเมื่อสังเกตเลขฟอลโลวเวอร์ที่จู่ๆก็เพิ่มขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยด้วยความแปลกใจ

    นิ่งอึ้งไปพักหนึ่ง ก่อนที่จะสังเกตได้ว่าที่กล่องเมนชั่นมีจุดสีฟ้าขึ้น เป็นเครื่องหมายว่ามีคนเมนชั่นเข้ามาหา...

    มันน่าจะบอกอะไรผมได้บ้าง...ผมเลยเลื่อนมือเข้าไปกดที่เครื่องหมาย ‘@’ แล้วก็พบว่า...

     

     

    .

    .

    .

     

     

    อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

    ม่ายเจงงงงงงงงงงงงช่ายม๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

    อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

     

     

    คยองซูกระโดดลุกขึ้นจากเก้าอี้!

    เบิกตากว้างจนแทบถลนพลางแหกปากร้องตะโกนออกมาอย่างหักห้ามตัวเองไม่ได้!!!

    ลุกลี้ลุกลน...เห็นได้ชัดว่าอยู่ไม่เป็นสุขนัก หัวใจงี้เต้นตึกตักอย่างกับเจอผี!

    แต่นี่แน่ๆ ถ้าเป็นผีแบบนี้ คยองซูคนนี้ขอโดนหลอกด้วยความยินดีเลยครับ!!!!

    เมื่อผมอ่านทวนถึงสามรอบ และผมรู้ดีว่าไม่ได้ตาฝาด...กับข้อความเมนชั่นที่ว่า...

     

    @ParkDoBii:

    @Dokyung1292 กรี๊ดดดดดดดดดดดดด พี่คะ พี่ทำบุญด้วยอะไร! ทำไมจงอินโอปป้าถึงตอบเมนชั่นพี่ล่ะ!! T^T

     

    @Acethefather:

    @Dokyung1292 นายเป็นคนที่โชคดีที่สุดในโลก!! ยินดีด้วยครับ...ผมล่ะอิจฉาคุณจริงๆ

     

    @4J1CF0RCE :

    @Dokyung1292 เสียดายจังเลยค่ะที่จงอินลบเมนชั่น...แต่ก็โชคดีมากๆเลยนะคะ อิจฉาจังเลย ทำไมจงอินถึงตอบเมนชั่นคุณคนเดียวอ่า ฮือออออออ TTTT____TTTT

     

     

    และ...บลาๆๆๆๆๆๆๆ ในทำนองเดียวกันเกือบๆ ร้อยกว่าข้อความ และทั้งหมดทั้งมวลนั้นสรุปความได้ว่า...

    คิมจงอินตอบเมนชั่นผม!!!!!!

     

     

    “ฮืออออออออออออ

    ไอบ้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ไอบ้าแปลว่ารัก!

    ไม่จริงใช่ม๊ายยยยยย กูไม่เชื่ออออออออออออออออออ!!! อ๊ากกกกกกกกกกกกก!!!!

     

     

    ผมวิ่งพล่านไปทั่วห้อง ก่อนจะไปหยุดที่หน้าโทรศัพท์เครื่องหรู

    หยิบขึ้นมากำลังจะกดต่อสายถึงแบคฮยอน...หากแต่โทรศัพท์นั้นกลับดังขึ้นมาตัดหน้าผมซะก่อน

    และก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเลย หากแต่เป็นแบคฮยอนนั่นเอง ผมเลยรีบกดรับแล้วยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหู ก่อนที่จะพบว่า...

     

     

    “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

    ไอ่เ.หี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

    มึงโชคดีฉิบหายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย”

     

     

     

    โอ่ว ช่ายครับ...พลังเสียงสะท้านโลกันต์ ของดีกรีนักร้องเสียงโซปราโน่

    ในวงประสานเสียงของมหาวิทยาลัย ทำเอาขี้หูของผมเต้นระบำอยู่ในหู...

    ดูจากเสียงกรีดร้องของมันแล้ว(เน้นย้ำว่ากรีดร้อง) ดูจะฟินมากกว่าผมหลายร้อยเท่าเลยทีเดียวเชียว...

    อ่า...นี่แหละหนาความรู้สึกของติ่งที่สื่อถึงกัน จะผมฟินหรือใครฟินปลายทางมันก็ฟินเหมือนกันหมดนั่นแหละ

     

    “ฮืออออออออออ แบคฮยอนนนน บอกกูทีว่ากูไม่ได้ฝันไป

    กูจะบ้าตายยยยย แต่ทำไมจงอินถึงลบเมนชั่นนนนน

    ก...กูจะเป็นลมมม!!!

     

    “ฮืออออออออออ ม...มึงใจเย็นก่อนเพื่อน

    ก...กูว่าผู้จัดการอาจจะสั่งให้ลบ!

    แต่ -- อ๊ากกกกกกกกกกกกกก กูฟินนนนนนนนนนนนน!!!!

     

     

    โอเคครับ...นี่คือคำพูดจากปากของคนที่บอกให้ผมใจเย็น

    ให้ตายเหอะ ผมว่าถ้าตอนนี้โลกจะแตกผมก็พร้อมพลีกายแล้วครับ

    แต่เฮ้ยไม่ได้! นี่เสียไปเป็นแสน แขนไม่เคยได้จับ...เพราะแค่นี้ยังฟินไม่พอ พี่ขอได้ทัชก่อนค่อยเสียชีวิต!!

     

    “แบคฮยอนอ่า กูตายตาหลับแล้วเพื่อน

    นี่ขอแค่ได้จับ ได้สัมผัสจงอินกูก็พร้อมตายแล้วมึง!

    มึงว่านี่เป็นพรหมลิขิตเปล่าวะ...ทำไมเขาถึงตอบกูแค่คนเดียว

    โคตรโชคดี นี่ติ่งกูพล่านมาก! ใจเต้นตึกตักยิ่งกว่าสารภาพรักกับรุ่นพี่ชางมินตอนอายุ 14!!!!

     

    ผมตะโกนใส่โทรศัพท์ก่อนจะกระโดดโหยงเหยงอยู่ภายในห้องอย่าง...บ้าคลั่ง

    เอ่อ...ไม่สิ บ้าคลั่งเหมือนว่าจะยังน้อยไปนิดกับที่ผมเป็นอยู่ตอนนี้...

    แต่เอาน่ะ! ช่างหัวกับกิริยาของผมตอนนี้เถอะ!

    เอาเป็นว่ามันออกมาจากมวลกายและพลังเร้นลับภายในที่พลุ่งพล่านก็แล้วกันนะครับ ฮี่ๆ

     

     

    “เออออออออออ กูเข้าใจมึงเพื่อน...
    กูเพิ่งเห็นว่ามีคนแคปภาพตอนที่เขาเมนชั่นตอบมึงมาด้วย

    มึงรีบไปเซฟแล้วเอาขึ้นเฮดทวิตเตอร์ด่วน!

    เชื่อกูดิคยองซู...ฟินคราวนี้ กูขอรับรองว่าอีกสิบห้าปีก็ยังไม่หยุดฟิน T T

     

     

    คยองซูพยักหน้ารัวเร็ว หากแต่ไม่สามารถตอบรับอะไรได้เพราะความปริ่มมันจุกอก

    อยากจะพูดจะตอบออกไป หากแต่ก็ต้องโดนขัดจังหวะด้วยเสียงเคาะประตูที่หน้าห้องเสียก่อน

     

     

    ตึ้งๆๆๆๆ!!!

     

     

    “ห...เหย ใครวะมาขัดจังหวะเวลาฟิน

    แบคฮยอน มีคนมาเคาะห้องกูอ่ะ เดี๋ยวแค่นี้ก่อนนะ ไว้คุยกันในทวิตเตอร์”

     

     

    ผมกรอกเสียงลงไปในโทรศัพท์อย่างหงุดหงิดเล็กน้อย ก่อนที่จะกดวางสายเมื่อเสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกหน

    ผมรีบเดินไปเปิดประตูออก ก่อนจะพบว่า...รุ่นพี่หน้าโหดคนหนึ่งกำลังยืนทำหน้าถมึงทึงอยู่ตรงนั้น

     

     

    “อ...อะไรครับพี่ มีธุระอะไรกับผมเหรอ??”

     

     

    ผมถามตะกุกตะกัก

    ความปริ่มเปรมหยุดชะงักเมื่อเจอรังสีอำมหิตที่แผ่ซ่านออกมาจากสายตาของพี่เขา

    ผ...ผมจะตายไหมครับทุกคน ข...เขาอาจเป็นพวกค้ามนุษย์

    เขาอาจจะมาลักพาตัวผมไปขายพวงมาลัยตามสี่แยก  

    ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!! #ดูมันคิด

     

     

    “ไอ้น้อง! ตะโกนห่าไรของมึงวะ หอจะแตกอยู่แล้ว

    แล้วก็หยุดกระโดดซักที! กูดูคนอวดผีอยู่ แม่งตกใจเพราะเสียงมึงเนี่ย!

    เพราะงั้นหุบปากซะ! ทำไรเกรงใจชาวบ้านบ้าง... เข้าใจ๊?!

    อย่าให้มีครั้งที่สองอีกไม่งั้นกูขึ้นมาจับมึงทำเมียแน่!

    อย่าคิดว่าหน้าตาน่ารักน่าปล้ำแล้วจะยอมยกโทษให้นะว้อย”

     

     

    ปึ้ง!!

     

     

    อ่า...ผมเงิบไปเลยครับ

    ก็พี่แกมาตวาดด่าผมแว๊ดๆ ชมว่าผมน่ารัก...แล้วยังเสือกดึงประตูปิดใส่ผมเองอีกด้วย

    ฟัค...มึงบาปมากครับไอ้พี่โหด

    การทำลายความฟินของผู้อื่นควรถูกบัญญัติไว้ในศีลข้อที่หกแม่งให้รู้แล้วรู้รอด!!

    ดีนะมึงบอกว่ากูน่ารักน่าปล้ำ...เพราะงั้นไม่อารมณ์เสียก็ได้ #อ้าว

     

    แต่...ก็นั่นแหละครับ ถึงผมจะอารมณ์เสีย แต่ผมจะไปกล้ามีปากเสียงอะไรกับพี่เขาได้ยังไง

    เพราะงั้นทางที่ดีที่สุดแล้วควรจะกลับมาฟินเงียบๆ กับตัวเองคงจะดีกว่า...

     

     

    “ฮึ่ย...ไรวะ ไมพี่โหดไม่เข้าใจติ่งฟินเลย ใจร้ายว่ะ”

     

    ผมบ่นกระปอดกระแปดกับตัวเองอย่างหงุดหงิด

    ก่อนที่จะสงบสติอารมณ์แล้วเดินกลับไปจ่อมตัวเองอยู่ที่เก้าอี้หน้าจอคอมพ์เหมือนเดิม

    ฮือ...แต่เมื่อกลับมาที่ทวิตเตอร์แล้วความขุ่นข้องหมองใจใดๆ ในโลกนี้ล้วนมลายหายไปหมดเลยครับ!

    จงอินนา...คิมจงอินตอบทวิตผม TT__TT

     

     

    @BAEK_ONLYCHAN:

    @DOKYUNG1992 อ่ะมึง...มีคนแคปรูปตอนที่จงอินเมนชั่นมาหามึงไว้ได้ เอาขึ้นเฮดทวิตเตอร์ประจานความฟินด้วยนะ อย่าพลาดที่จะประกาศให้โลกนี้ได้รู้!!

     

     

    ผมยกยิ้มออกมาจนตาแทบปิด เมื่อเห็นข้อความที่จงอินตอบกลับผมมาอยู่ในรูปภาพนั้น

    น่ารักครับ...เมนผมแม่งน่ารักเหี้ยๆ ฮือออออออ  แต่บ้าจริง...ทำไมเขาต้องลบเมนชั่นออกไปด้วยนะ

    ช่างเถอะ...อาจด้วยเพราะเหตุผลอะไรซักอย่าง แต่แค่เขาเมนชั่นตอบกลับมาก็เพียงพอแล้วล่ะ T T

     

     

    ผมรีบกดเซฟรูปแล้วอัพโหลดขึ้นประดับไว้บนเฮดทวิตเตอร์ตามคำแนะนำของแบคฮยอน...

    และตั้งใจว่าจะเอาไว้บนนั้นตลอดไป เผื่อจะเป็นเกียรติให้แก่วงศ์ตระกูลในภายภาคนี้และภาคหน้า

    ก็แหม...ศิลปินที่ดังที่สุดในตอนนี้มาพูดคุยกับผมนี่ครับ แล้วจะไม่ให้ผมเครซี่แบบนี้ได้ยังไง

     

    ผมหันไปมองที่โปสเตอร์ของจงอิน

    ที่ผมอุตส่าห์อีเมล์ไปขอจากบ้านแฟนไซต์นูน่าเพื่อขอรูปภาพแบบ High Defination

    เพื่อเอามาประดับไว้ฝาห้องโดยเฉพาะ นี่ผมยอมจ่ายเงินที่หอพักจะปรับที่เอาโปสเตอร์มาติดเลยนะให้ตาย!

    และถึงแม้จะเสียมากกว่านี้ก็ยอมด้วยนะ ขอแค่ผมได้แลกกับการที่จะมีโปสเตอร์ของจงอินอยู่ในห้องก็พอแล้ว

     

    ผมยิ้มกว้างออกมาเมื่อเห็นว่าจงอินจ้องมองผมมาจากโปสเตอร์นั้น

    อ่า...แล้วสุดท้ายก็อดใจไม่ไหว ต้องลุกขึ้นไปจูบโปสเตอร์อีกแล้วสิน่า

     

    “ฮือ...จงอินนา เค้ารักตัวเองที่สุดเลยยยยยยยย”

     

    พูดก่อนจะก้มลงไปจูบ แล้ววาดมือปัดป่ายไปทั่วโปสเตอร์กับผนังเย็นๆ ดูแล้วโรคจิตพิกล

    แต่ก็อย่างว่าแหละครับ... ผมรู้ว่าคุณก็เป็นเหมือนกันใช่ไหมล่ะ!

     

    อย่ามาโกหกผมหน่อยเลยว่าคุณไม่เคยจูบหรือคุยกับโปสเตอร์ ผมรู้ดีน่าว่าพวกคุณเคยทำมาหมดแล้ว

    เรื่องแบบนี้น่ะมันปกปิดกันไม่มิดหรอกครับ ความรู้สึกเหมือนผีเห็นผี

     

    และช่าย... สำหรับคนทั่วไปก็อาจจะด่าว่าไร้สาระ แต่เอาเถอะนะผมไม่สนใจหรอก!

    นั่นก็เพราะว่า เรื่องแบบนี้น่ะ...

     


    .

    .

    .

    .

    .

     

    ใครไม่ใช่ติ่ง...ไม่มีวันเข้าใจหรอก   ฮิ  J












    TBC.










    ป.ล. ว่าจะต่อให้ถึงพาร์ทเฉินโฮ แบคฮยอนกับบอทพี่ชานไรงี้...
    แต่ไม่ไหวแล้วค่ะหมดแรงมโนฯ OTL
    ทำไมเขียนๆไปความมุ้งมิ้งที่ตั้งใจจะเขียน ดันเหลือไว้แค่ความกวนตีน T T
    คำหยาบเยอะหน่อย ทุกคนยังไหวกันใช่ไหมคะ ฮือออออ

     แล้วจะรีบมาต่อให้นะคะ...แฮ่ๆ


    ป.ล.2 เม้าท์มอยอย่าลืมติดแท็ก #สุดยอดแฟนบอย ฮี่ๆ




     

    Amanita. theme
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×