ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Son of God !! บุตรแห่งพระเจ้า

    ลำดับตอนที่ #1 : The story I :บทนำ(แก้คำผิด เตรียมตัวอ่านบทต่อไปจ้า)

    • อัปเดตล่าสุด 29 ส.ค. 57






    บทที่ 00 

     

     

     

    กาลครั้งหนึ่งเมื่อหลายล้านล้านปีก่อน...

     

           ในจักรวาลที่กว้างไกลและลึกลับได้บังเกิดดาวเคราะห์ดวงหนึ่ง ซึ่งมีชื่อเรียก

    ขานว่า เพนริลเนีย โลกแห่งนี้มีเพียงความว่างเปล่า ต่อมาได้โลกใบนี้ได้ให้กำเนิด

    ตัวแทนของแสงสว่างและความมืดผู้เป็นตัวแทนของโลกทั้งสองด้าน ซึ่งนั่นคือ

    พระเจ้าและจอมมาร

     

     

          พระเจ้าและจอมมารได้สร้างสิ่งมีชีวิตขึ้นไม่ว่าจะเป็นเหล่าสรรพสัตว์ พืช

    พรรณต้นไม้ เทพเจ้า ปีศาจ และเผ่าพันธุ์ต่างๆนับไม่ถ้วน

     

          จนกระทั่งพระเจ้าและจอมมารได้สร้างสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า'มนุษย์'ขึ้น ทั้ง

    พระเจ้าและจอมมารต่างสร้างสรรค์มนุษย์จนเกิดเป็นความรักเอ็นดู

     

          ทุกเผ่าพันธุ์อยู่ร่วมกันบนโลกใบเดียวกัน แม้ว่าจะมีสงครามความขัดแย้งกัน

    แต่โลกก็ยังสงบสุข

     

         

         มนุษย์นั้นนับถือเทพเจ้าหากมีเรื่องเดือดร้อนยากเกินที่จะแก้ไขก็จะขอให้เทพ

    ที่ตนนับถือเคารพช่วยเหลือเสมอ จนกระทั่ง..

     

        

     

     

    ..ลา....ลา...หือ..ลา...ลา..

     

     

           เสียงขับกล่อมดังก้องกังวานไปทั่วผืนป่า บทเพลงที่ไม่มีคำร้องหากแต่กลับ

    ฟังดูไพเราะหาใครเทียบ แม้นเทพีแห่งเสียงเพลงยังเทียบมิได้ เสียงนั้นดังแว่วตาม

    สามลมไป ตอนนี้เป็นเวลาวิกาลแล้ว คงไม่มีคนคนใดมาร้องเพลงนอกจากเทพที่

    ทุกคนทุกแผ่นดินต่างเคารพนับถือ ท่านมิใช่เทพแห่งสงคราม ชัยชนะ หรือปัญญา

    มิใช่เทพแห่งป่าไม้ ฤดูกาลหรือเทพแห่งธาตุ

     

     

         ...หากแต่เป็นเทพแห่งความอุดมสมบูรณ์และการปกปักษ์รักษา...

     

     



       ณ บนต้นไม้ใหญ่ริมลำธาร ที่กิ่งไม้ใหญ่มีร่างของบุรุษรูปงามนั่งพิงอยู่ในระหว่าง

    ที่บทเพลงไร้คำร้องนั้นยังบรรเลงต่อไป
       
       สายลมแผ่วๆพัดพาเส้นผมสีทองสว่างนั้นไป ใบหน้านวลเรียวนั้นประดับด้วยรอย

    ยิ้มบางเบาที่ขยับเอื้อนเอ่ยขับร้องเรื่อยๆ คิ้วโค้งดั่งคันธนูเข้ากับนัยน์ตาสีครามเข้ม

    ได้ดี


       ใบหน้างดงามหาใครเปรียบหลับตาพริ้มรับสัมผัสอันอ่อนโยนของสายลมเย็น

     ผิวพรรณขาวเปล่งประกายท่ามกลางความมืดมิด ก่อนที่คิ้วงามนั้นจะเลิกขึ้น เมื่อ

    รับรู้ถึงสิ่งมีชีวิตอื่นนอกจากตน


    แซก แซ่ก แซก


        เสียงแหวกพุ่มไม้ดังแว่วมาแต่ไกล เทพหนุ่มหันไปทางขวามือตนทันทีรอรีให้

    สิ่งนั้นเผยตัวตน พลางได้ยินเสียงร้องสะอื้นของเด็กน้อย

          เสียงแหวกพุ่มไม้นั้นหยุดลงพร้อมกับเผยให้เห็นเด็กมนุษย์เพศชายคนหนึ่ง

    เนื้อตัวมอมแมมยืนร้องไห้โฮอยู่และเงียบเสียงลงเมื่อเทพรูปงามเดินเข้าไปหา


    "เหตุใดเจ้าถึงร้องไห้เล่าเด็กน้อย?"เทพหนุ่มย่อตัวลงในระดับสายตาของเด็กน้อย

    พลางลูบหัวปลอบโยน เด็กชายปาดน้ำตา ดวงตาใสแจ๋วมองพี่ชายแสนสวยใน

    ความคิดของตนแล้วตอบด้วยเสียงปนสะอื้น


    "..อึก..ฮือ..ข้า..ข้าหลงทาง..ข้ากลับบ้านไม่ได้..ฮือ"

       เทพหนุ่มมองเด็กน้อยด้วยความสงสารจึงอุ้มตัวเด็กชายพลางเอ่ยถาม


    "แล้วบ้านของเจ้าอยู่ที่ใด เดี๋ยวข้าจะไปส่งเจ้าเอง"จบคำเด็กน้อยยิ้มร่าแล้วรีบบอก

    ที่อยู่ของตนด้วยความดีใจ






        เทพหนุ่มพาเด็กน้อยเดินข้ามป่าไปยังหมู่บ้านไม่ใกล้ไปไกลนี้ ตามคำบอกเล่า

    เด็กชายได้ขอครอบครัวมาเที่ยวเล่นแถวๆชายป่า แล้วเกิดหลงทางจึงเดินไปมา

    เรื่อยๆจนกระทั่งหลงเข้ามาเจอกับตัวเทพเอง


    "นี่ใช่หรือไม่หมู่บ้านของเจ้าน่ะ?เด็กน้อย"เทพหนุ่มเอ่ยถามพลางเดินมาหยุดอยู่

    แถวๆหน้าทางเข้าหมู่บ้าน


    "ใช่แล้วล่ะท่าน นี่หมู่บ้านข้าเอง สวยหรือไม่ขอรับ?"เด็กน้อยถามเสียงใส จนเทพ

    หนุ่มอดเอ็นดูในความช่างพูดมิได้จึงพยักหน้าช้าๆตอบ


    "ถ้าเช่นนั้นเจ้าจงกลับบ้านไปเสีย..เดี๋ยวพ่อแม่ของเจ้าก็เป็นห่วงเอา"เด็กชายทำ

    หน้าแปลกใจปนสงสัย


    "แล้วท่านไม่ไปกับข้าหรือขอรับ?เดี๋ยวข้าจะพาท่านเที่ยวเอง"เด็กชายตัวน้อยยิ้ม

    แป้นจนเทพหนุ่มอดดีใจไม่ได้แต่ก็ต้องตอบไปว่า


    "ข้าคงไปกับเจ้ามิได้หรอก เด็กเอ๋ยข้าเองก็ต้องกลับไปที่ที่ของข้า"เด็กชายทำ

    หน้าเศร้าก่อนจะได้ยินเสียงของชายหญิงคู่หนึ่งมาจากด้านหลังจนต้องหันไปมอง


    "ท่านพ่อท่านแม่!!"เด็กน้อยร้องออกมาอย่างดีใจ ก่อนจะหันไปหาคนที่พาตนกลับ

    มา แต่ทว่า...



    ..ก็ไม่มีวี่แว่วของพี่ชายใจดีคนนั้นเลย..









    ++++++++++++++++++++**++++++++++++++++++++++






         ในป่าใหญ่อันอุดมสมบูรณ์ที่บัดนี้เหมันต์ได้เข้ามาเยือน ร่างงดงามของเทพ

    องค์หนึ่งยังคงนั่งอยู่ที่ใต้ต้นไม่ใหญ่ นัยน์ตาสีน้ำเงินสวยเงยมองไปยังท้องฟ้าที่เริ่ม

    มีก้อนหิมะขาวโปรยลงมาพลางนึกถึงเรื่องราวที่เพิ่งผ่านมาไม่กี่ฤดูกาล



       '...ตอนนี้เด็กน้อยคนนั้นจะเป็นเช่นไรหนอ?...'



    เทพหนุ่มระบายยิ้มงามพลางปัดปุยหิมะบนเส้นผมสีทองคำ ก่อนที่จะได้ยินเสียง

    สวดอ้อนวอนดังแว่วมาจากที่นอกชายป่า ด้วยความแปลกใจจึงใช้เวทย์สอดส่องดู




        ชาวบ้านจากหมู่บ้านแถวชายป่าต่างมาคุกเข่าสวดภวานา บ้างก็กอดกันด้วย

    ความสั่นเทา บ้างก็ร้องห่มร้องไห้ปานจะขาดใจ ชายหญิงคู่หนึ่งตะโกนพูดด้วยน้ำ

    เสียงที่แสนโศกเศร้า



    "ท่านเทพแห่งความอุดมสมบูรณ์ ได้โปรดช่วยเหลือพวกเราด้วยเถิด"


    "ได้โปรดตามหาลูกชายตัวน้อยที่ท่านได้เคยช่วยเหลือเมื่อยามหลงทางด้วย"



    "ได้โปรด"



    "ได้โปรด"



    "ได้โปรด






         ใจของเทพหนุ่มรูปงามแทบไม่สงบ ลางสังหรณ์ที่เด็กที่ชายหญิงคู่นั้นบอก

    ทำให้อดนึกเด็กชายที่เคยช่วยเมื่อไม่นานไม่ได้ เร็วกว่าที่จะคิดติตรองอะไรก่อน

    ร่างกายของเทพผู้งดงามก็สลายหายไปราวกับใช้กล


           เทพหนุ่มเคลื่อนตัวผ่านผืนป่า เป็นไปไม่ได้ที่จะมีเด็กหลงเข้ามาโดยที่ตน

    ไม่รู้ แต่ไม่ว่าจะใช้จิตส่องหาเท่าใดก็ไม่มีวี่แว่วเลย


             นัยน์ตาสีสวยสั่นไหววูบ หากเด็กคนนั้นเป็นอะไรไปละก็...

    เทพหนุ่มเม้มริมฝีปากบางแน่นจนรับรู้ถึงรสสนิมบาดลำคอ พลางเคลื่อนกายเร็วขึ้น



    .......จะไม่ยอม..ให้เด็กคนนั้นเป็นอะไรเด็ดขาด!!!........





    +++++++++++++++++++++**+++++++++++++++++++++





                                          ...มาช้าเกินไป...



        ร่างของเทพหนุ่มหยุดนิ่งแล้วทรุดตัวลงกับพื้นดิน ขยับมืออันสั่นเทาของตนไป

    แตะยังใบหน้าซีดเซียวและเย็นเชียบของร่างเล็ก


         ดวงตาสีไพลินเข้มมองไปยังเรือนร่างที่เต็มไปด้วยหยดเลือดสีแดงฉาด ร่อง

    รอยของคมเขี้ยวของสัตว์ป่านั้นเด่นชัดในสายตา


         เทพแห่งความอุดมสมบูรณ์ค่อยๆอุ้มร่างของเด็กชายตัวน้อยไว้ในอ้อมกอด ไม่

    สนว่าอาภรณ์สีขาวสะอาดนั้นจะเปรอะเปื้อนด้วยสีแดง พลันหยาดน้ำฝนก็ตกลงมา

    ราวกับกำลังร่ำไห้ไปพร้อมๆกับเทพผู้งดงามที่บัดนี้ใบหน้าเปื้อนไปด้วยสายน้ำใสที่

    ไม่รู้ว่าเป็นน้ำฝนหรือน้ำตา




        ...มันคือความผิดที่ตัวข้าไม่อาจลืมเลือน..




        ...มันคือตราบาปที่ข้าน้อมรับอย่างไร้กังขา...




        ...ข้าไม่รู้ว่าจะชดใช้เช่นไรให้แก่เจ้า?...




        ...ข้านั้นอยากรู้เหลือเกิน หากข้ามาให้เร็วกว่านี้...




        ...เจ้าน่ะ..จะตายรึเปล่า?..เด็กน้อยเอ๋ย...




        ...ถ้าข้ารู้ตัวเร็วกว่านี้...








        ...เจ้าก็จะไม่ตาย..ใช่หรือไม่?...












        ...ท่ามกลางสายฝนที่ตกกระหน่ำลงมา เหล่ามนุษย์ได้บุกเข้ามายังสวนองค์

    เทพ ที่ที่เก็บดวงจิตครึ่งหนึ่งของปวงเทพ...


        ...เหล่ามนุษย์..ที่'พวกท่าน'ต่างเอ็นดูกันนักหนา...


        ...พวกเขาได้หยิบรูปปั้นมณีแก้วสีใสขึ้นมา...

       
        ...รูปปั้นสลักของเทพองค์หนึ่งที่พวกเขาไม่ควรเเตะต้อง...


        ...เหล่ามนุษย์ทุบรูปปั้นนั้นจนแหลกละเอียดเพื่อระบายความรู้สึกที่อัดอั้น...


        ...พวกเขาคงไม่รู้ว่าทำการผิดเช่นไรลงไป...


        ...พวกเขาโกรธแค้นและสาปแช่ง'เจ้า'...


        ...พวกเขาได้ฆ่าเจ้าทั้งเป็นทางอ้อม...


        .............................


        ..................


        ........



        ...ถึงเช่นนั้น...เจ้าก็..ไม่โกรธเกลียดเลยหรือ?...



        ...เจ้าน่ะ..อ่อนโยนเกินไปแล้วนะ..




        ...แต่ก็สมเป็นเจ้านั่นแหล่ะ...




        ..เทพแห่งความอุดมสมบูรญ์ผู้ไม่เคยนึกโกรธใครเลย..




        .....................


         


        ...........





        ...สุดท้ายพวกมนุษย์ก็'โง่เขลา'เหมือนเดิม...








                    .....ไว้เจอกันนะ..เพื่อนรักของข้า..'เซฟาเอล'...








     

    I never forget itstory where I met you.. Baby.

    The sins that I have watched.., I wanted her to wake up getting.
     
    Weird., The rain came down in this time.
     
    But it good was.. Because I do not want her to see me cry.

    I wanted to send smile to.., But she could not see it.

    I will never forget her











     











     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×