ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    No reason ไม่มีเหตุผล...ที่ฉันรักเธอ [Draco x Hermione]

    ลำดับตอนที่ #14 : Chapter 12: ประธานนักเรียน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.79K
      94
      20 มี.ค. 66


     

    Chapter 12: ประธานนักเรียน



     

              เดรโกไม่รู้เลยว่าเขาควรทำอย่างไร แต่สิ่งที่เขาทำได้มากที่สุดตอนนี้ คือการมองหยาดน้ำตาของเธอที่หลั่งรินออกมาช้าๆด้วยใบหน้านิ่งเฉย นี่เขาทำให้เธอเสียใจมากนักหรือ เด็กหนุ่มตั้งคำถามกับตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยไม่ได้หยุดคิดเลยว่าเขากำลังสนใจเธอมากกว่าครั้งไหน ๆ

      เฮอร์ไมโอนี่ที่ยืนมองเขาทั้งน้ำตา ไม่มีเสียงสะอื้นออกมา แม้ว่าร่างของเธอจะสั่นเพราะความเจ็บใจสักแค่ไหน ทั้งสองจ้องตากัน และเฮอร์ไมโอนี่เองที่เป็นฝ่ายเบือนหน้าหนี พร้อมกับยกฝ่ามือบางปาดน้ำตาที่หลั่งริน

              “เกรนเจอร์ คือ - ”

              “ปล่อยฉันมัลฟอย อย่ามายุ่งกับฉัน!” 

              เฮอร์ไมโอนี่กล่าวอย่างเย็นชาและหนักแน่น พลางพยายามจะแกะมือหนาๆออกจากไหล่ทั้งสองข้าง เมื่อเธอคิดว่าเขาคงจะหาคำแก้ตัวหรือข้ออ้างอะไรมาบอกเธออีก การแกล้งเธอครั้งนี้สำหรับเขา มันช่างทำให้เธอรู้สึกอับอายและแย่พอๆกัน เธอคิดว่าเด็กหนุ่มคงจะสะใจมากที่ได้แกล้งเธอแบบนี้ ได้เห็นน้ำตาของเธอ แต่เฮอร์ไมโอนี่ไม่รู้เลยว่าที่จริงแล้วเขาเองก็รู้สึกผิดไม่น้อย ซึ่งเธอไม่ได้เห็นความรู้สึกนั้น เพราะเธอทั้งหันหน้าหนี  แล้วยังออกแรงสะบัดร่างเพื่อให้หลุดพ้นจากเขา

              “อยู่นิ่ง ๆ ก่อนได้มั้ยเกรนเจอร์ เธอจะไม่ฟังฉันบ้างรึไง”

              “อย่ามาแก้ตัว ปล่อยฉันนะ มัลฟอย”

              “ก็ได้ ถ้าเธอเสียใจมาก ฉันยอมให้เธอจูบฉันคืนก็ได้” เดรโกพูด ขณะพยายามที่จะรวบข้อมือของเธอที่ปัดป่ายสะเปะสะปะทุบตีเขา

              “ไอ้บ้า!” เธอว่าและพยายามผลักเขาออกดังเดิม

              “นี่ ถ้าเธอยังไม่หยุด คราวนี้ฉันจะจูบเธอไปทั้งตัวเลย!”

              “ทุเรศ” ร่างบางชะงักและพ่นคำด่านั้นออกไป

              เฮอร์ไมโอนี่หยุดเคลื่อนไหวทุกส่วนของร่างกาย เมื่อเดรโกรวบข้อมือของเธอไว้ได้สำเร็จ พร้อมกับดึงร่างของเธอให้เข้ามาประชิดกับร่างของเขา เด็กหนุ่มมองใบหน้าของเธอ ในที่สุดเขาก็สามารถหาวิธีที่จะทำให้เธอเลิกขัดขืนได้สักที แต่ก็ยังไม่วายที่เขาจะแกล้งเธออีก โดยการยื่นใบหน้าเข้ามาใกล้จนเธอต้องเอนตัวไปข้างหลัง และรีบเบือนหน้าหนี

              “ฉันก็หยุดแล้วนี่ไง ทำบ้าอะไรของนายอีกเนี่ย” เฮอร์ไมโอนี่โวย ทั้งที่หน้าหันไปด้านหลังจนคอแทบหัก

              เดรโกเลิกแกล้งเธอ แต่ใบหน้าของเขาที่ยื่นมาใกล้เธอหยุดค้างไว้ ส่วนเธอก็เอนหลังงอเพื่อไม่ให้ใบหน้าของเขาเข้ามาใกล้เธอมากกว่านี้ ทั้งสองหยุดนิ่งในท่านั้น ไม่มีใครพูดอะไร และกลายเป็นความเงียบที่น่าอึดอัด จนเมื่อเสียงของใครบางคนดังขึ้น ซึ่งสร้างความตกใจให้เธอและเขาไม่น้อย

              “นี่พวกคุณทำอะไรกันอยู่น่ะ” ศาสตราจารย์มักกอนนากัลเอ่ยด้วยเสียงหอบและแหบแห้ง ทันทีที่เดินมาถึงตัวพวกเขาทั้งคู่

               เฮอร์ไมโอนี่และเดรโกหันกลับมามองหน้ากัน ก่อนที่ทั้งสองจะรีบผละออกจากกัน เมื่อเห็นสายตาของศาสตราจารย์ที่มองพวกเขาอย่างตำหนิ

              “คุณเกรนเจอร์ คุณมัลฟอย พวกเธอสองคนทะเลาะกันหรือ” มักกอนนากัลถาม เมื่อเห็นท่าทีของทั้งสองคน

              เขาและเธอก้มหน้างุด จนเมื่อเดรโกเองที่เป็นคนเอ่ยประโยคหนึ่งขึ้นมาอย่างไม่มีใครคาดคิด

              “เปล่าครับ เกรนเจอร์สะดุดขาตัวเอง แล้วก็เกือบจะล้ม แต่ผมรับเธอไว้ได้ทัน”

              เฮอร์ไมโอนี่หันขวับ เธอตวัดสายตามองร่างสูงทันที แต่เขาไม่แม้แต่จะหันมามองเธอเลย แถมยังจะยืดอกอย่างมุ่งมั่นว่าจะได้รับความดีความชอบจากศาสตราจารย์ตรงหน้า

              “โอ...นั่นจะทำให้เธอดูเป็นสุภาพบุรุษมากเลย ถ้ามันเป็นเรื่องจริง แต่เท่าที่ฉันเห็นเมื่อกี้น่ะ...” มักกอนนากัลเอ่ยประชด “ฉันไม่ได้ตาบอดนะ คุณมัลฟอย”

              เฮอร์ไมโอนี่หันกลับมาและแอบยิ้มอย่างสะใจ ส่วนเดรโกไม่ได้มีสีหน้าผิดหวังแต่อย่างใด เขากลับยิ้มออกมานิดหนึ่ง เมื่อเห็นรอยยิ้มของเธอ แม้นั่นจะเป็นรอยยิ้มที่เธอต้องการสมน้ำหน้าเขาก็ตาม

              “ฉันมีเรื่องจะต้องพูดกับเธอทั้งสองคน แต่ฉันไม่สะดวกตอนนี้ ดังนั้นให้พวกเธอมาเจอฉันที่ห้องทำงานก่อนมื้อค่ำ” มักกอนนากัลมองหน้าทั้งสองคน ก่อนจะพูดขึ้นมาอีกครั้ง “เธอควรจะแยกย้ายกันไปได้แล้วนะ ตอนนี้ หรือถ้าเธอว่างกันมากถึงขนาดจะมีเวลามาทะเลาะกัน ฉันก็พอจะมีงานให้พวกเธอช่วยที่ห้องทำงาน พวกเธอจะเอาอย่างนั้นมั้ย”

               มักกอนนากัลส่ายหัว พร้อมกับถอนหายใจให้กับนักเรียนทั้งสองคนนี้ ก่อนจะเดินผ่ากลางระหว่างเขาและเธอที่ยืนอยู่ข้างกันไป เฮอร์ไมโอนี่หันมามองหน้าเดรโกทันที เขาเองก็หันมาจ้องเธอเหมือนกัน

              “คิดจะเอาความดีเข้าตัวรึไง มัลฟอย” เฮอร์ไมโอนี่ว่า

              “ก็เธอไม่ยอมพูดอะไรเลย ฉันก็เลยพูดแทน ไม่ดีรึไง” เดรโกเอ่ย ทำหน้ายียวน

              “ไม่ดี” เธอพูดอย่างฉุนเฉียว เมื่อเขาทำหน้าตาไม่รู้ไม่ชี้ใส่เธอ

              “เธอจะคิดยังไงก็เรื่องของเธอ ฉันไม่สนด้วยแล้ว และถ้าเธออยากจะไปหาความดีใส่ตัวเธอที่ไหนก็ไปเถอะ ฉันไปก่อนดีกว่า”

              เดรโกร่ายยาว ก่อนจะเดินไปทางทะเลสาบ ปล่อยให้เธอยืนข่มอารมณ์โมโหของตัวเองไว้ ซึ่งเธอก็พยายามปลอบใจตัวเองให้เย็นลง ตั้งแต่เธอเกิดมา เธอยังไม่เคยเจอใครที่กวนประสาทเธอได้มากขนาดนี้ แถมยังเป็นพวกชอบฉวยโอกาส เฮอร์ไมโอนี่นึกเจ็บใจและแค้นใจเป็นที่สุด เธอไม่น่าไว้ใจให้คนอย่างเขามาช่วยเธอเลยจริงๆ เฮอร์ไมโอนี่ล้วงมือไปตามกระเป๋าเสื้อคลุม เพื่อจะหาผ้าเช็ดหน้า แต่เมื่อไม่เจอมัน เธอจึงไม่สนใจ ก่อนจะยกฝ่ามือมาถูริมฝีปากตัวเอง และรีบก้าวเท้าไปทางหอกริฟฟินดอร์

               เดรโกที่แอบอยู่ตรงมุมเสา ยืนยิ้มน้อยๆกับการกระทำของเธอ เขายกฝ่ามือลูบริมฝีปากตัวเองอย่างครุ่นคิด พลางล้วงมือไปในกระเป๋าเสื้อคลุม หยิบผ้าเช็ดหน้าสีชมพูอ่อนออกมา มันพับเป็นสี่เหลี่ยมธรรมดา และตรงมุมหนึ่งของผ้าเช็ดหน้าผืนนี้ก็ปักชื่อเจ้าของเอาไว้ว่า

              ‘HERMIONE  GRANGER’

    ...........

              ท้องฟ้าเริ่มมืดลงแล้ว พอๆกับแสงในห้องนั่งเล่นรวมเริ่มสลัว เฮอร์ไมโอนี่ที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ที่โซฟา จึงต้องอาศััยไฟจากเตาผิงช่วยให้เธอได้เห็นตัวอักษรบนกระดาษ ขณะรอเวลาที่จะไปพบศาสตราจารย์มักกอนนากัล ดวงตาสีน้ำตาลคอยเหลือบมองนาฬิกาแขวน ซึ่งอีกสักเดี๋ยวก็จะถึงเวลาแล้ว เธออยากรู้ว่าศาสตราจารย์ประจำบ้านจะพูดเรื่องอะไรกับเธอและเดรโก ดูเหมือนว่ามันจะเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ศาสตราจารย์มักกอนนากัลจึงต้องมาบอกด้วยตัวเองอย่างนี้

              เสียงประตูทางเข้าหอกริฟฟินดอร์เปิดออก พร้อมกับเสียงของผู้มาเยือน เด็กสาวถอนสายตาจากหนังสือในมือ แล้วหันไปมองเจ้าของเสียงที่ไม่ต้องเห็นหน้าเธอก็รู้แล้วว่าใคร

      รอนและแฮร์รี่เดินเข้ามาภายในห้องนั่งเล่น พวกเขากำลังคุยเรื่องอะไรกันบางอย่าง พลางเดินมาที่โซฟาหน้าเตาผิงที่เฮอร์ไมโอนี่ก็กำลังนั่งอยู่

              “ฉันไม่คิดว่าฉันจะทำได้หรอกนะ” เด็กหนุ่มผมแดงพูดด้วยท่าทีกังวล

              “ไม่เอาน่า นายต้องทำได้สิ ถึงยังไงนายก็เคยทำมันมาแล้วครั้งนึง” แฮร์รี่เอ่ยให้กำลังใจเพื่อนตัวเอง

              “แต่ตอนนั้นนายมีน้ำยานำโชคนี่ แต่ตอนนี้ไม่”

              เฮอร์ไมโอนี่ฟังทั้งสองคนคุยกันตั้งแต่เดินเข้ามาในห้องนั่งเล่น เธอไม่ค่อยจะเข้าใจนักว่าพวกเขากำลังพูดถึงเรื่องอะไรกันอยู่ และพวกเขาก็ยังคุยกันต่อไป แฮร์รี่และรอนหย่อนตัวลงนั่งข้างเธอคนละฝั่ง

              “เดี๋ยวนะ! เธอกำลังพูดถึงเรื่องอะไรกันอยู่” เฮอร์ไมโอนี่เอ่ยถาม เธอหันหน้ามองพวกเขาสลับกัน “แล้วเกี่ยวอะไรกับน้ำยานำโชคล่ะ”

              “แฮร์รี่อยากให้ฉันลงแข่งควิดดิชด้วย แต่ฉันไม่คิดว่าฉันจะทำได้” รอนบอก

              “แต่เมื่อกลางวันนายยังพูดกับฉันอยู่เลยว่ากริฟฟินดอร์จะต้องชนะ เพราะมีคีปเปอร์อย่างนาย” แฮร์รี่เอ่ย

              “แต่พอฉันคิดดูอีกที...” รอนทำท่าคิดหนัก เมื่อเขานึกย้อนไปตอนปีหก และก่อนที่เขาจะลงสนามแข่ง ”ก็ตอนนั้นฉันดื่มน้ำยานำโชค นายกับเฮอร์ไมโอนี่ก็เห็น ลูน่าก็บอก”

              “ไม่มีน้ำยานำโชคอยู่ในน้ำฟักทองของนายหรอก” เฮอร์ไมโอนี่เอ่ยอย่างอ่อนโยน

              “เธอจะพูดว่าที่กริฟฟินดอร์ชนะได้ในครั้งนั้นเนี่ย เพราะฉันทำได้เอง... อย่างงั้นสิ?”

              เฮอร์ไมโอนี่และแฮร์รี่หันมามองหน้ากัน ดูเหมือนรอนจะไม่เชื่อสักนิดในสิ่งที่พวกเขาพูด แต่ความพยายามที่จะทำให้รอนได้เข้าใจและรู้ความจริงก็ยังไม่หมดลง

              “ทำไมเธอถึงไม่เชื่อเราล่ะ” เฮอร์ไมโอนี่เอ่ย

              “ก็... มันจะเป็นไปได้ยังไงล่ะ” รอนพูดอย่างไม่เชื่อ

              “แต่มันเป็นไปแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้น เพราะความพยายามของนาย ไม่มีน้ำยานำโชค” แฮร์รี่เอ่ย “เพราะโชคน่ะ...ขึ้นอยู่กับตัวนายเอง”

              “เอ่อ...จริงเหรอ เฮอร์ไมโอนี่”

              เฮอร์ไมโอนี่มองหน้ารอน และพยักหน้าเป็นคำตอบ ก่อนที่เธอและแฮร์รี่จะหันมาจ้องหน้าเขา รอนมองแฮร์รี่และเฮอร์ไมโอนี่สลับกัน ก่อนที่เขาจะตัดสินใจพูดอย่างไม่มั่นใจนัก

              “ก็ได้ ฉันจะลองดู” รอนพูดอย่างครุ่นคิด

              เฮอร์ไมโอนี่ตบไหล่รอนเบาๆ เธอเชื่อว่าเขาจะต้องทำได้ แม้ว่าที่ผ่านมารอนที่เธอรู้จักจะเป็นคนไม่เอาไหน กลัวแมงมุม แต่เขาก็เป็นคนที่มีความพยายามมากพอดู เฮอร์ไมโอนี่ปิดหนังสือฉับ ก่อนจะลุกขึ้นจากโซฟา แล้วหันไปมองนาฬิกาฝาผนังเป็นครั้งสุดท้าย

              “เอ่อ...ฉันต้องไปแล้ว” เธอเอ่ยขึ้น

              “ไปไหน” แฮร์รี่เงยหน้าถามเธอ

              “ไปหาศาสตราจารย์มักกอนนากัลน่ะ”

              “มีอะไรเหรอ” รอนถาม

              “ไม่รู้สิ มักกอนนากันเรียกฉันกับมัลฟอยให้ไปพบที่ห้องทำงาน”

              “เธอกับมัลฟอย…” แฮร์รี่เอ่ยอย่างแปลกใจ “เรื่องอะไร”

              “ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าเรื่องอะไร ฉันต้องไปก่อนมื้อค่ำนี้” เฮอร์ไมโอนี่พูด “แล้วเจอกัน”

              “แล้วเจอกัน” แฮร์รี่เอ่ย ส่วนรอนก็โบกมือลา

    ......

              เฮอร์ไมโอนี่มุ่งหน้าสู่ห้องทำงานของศาสตราจารย์มักกอนนากัล ในใจของเธอตื่นเต้นเพราะความอยากรู้ แต่สวรรค์หรือแม้แต่นรกก็รับรองได้เลยว่าสิ่งที่เธอจะได้รู้อีกไม่กี่นาทีข้างหน้า จะทำให้เธอเหมือนต้องเจอกับฝันร้ายอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ร่างบางก้าวฉับๆจนมาหยุดยืนอยู่หน้าประตูห้องทำงานของศาสตราจารย์มักกอนนากัล เธอพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ เพื่อความผ่อนคลาย

              เฮอร์ไมโอนี่เคาะประตูห้องทำงานของศาสตราจารย์มักกอนนากัล และเปิดประตูช้าๆ แทรกร่างบางเข้ามาผ่านทางช่องประตู เธอเห็นศาสตราจารย์ประจำบ้านกำลังก้มเขียนบางอย่างอยู่ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเฮอร์ไมโอนี่ผ่านแว่นตาที่ยืนเก้ๆกังๆอยู่ตรงประตู

              “คุณเกรนเจอร์ มาตรงเวลาดีมาก”

              “ค่ะ” เฮอร์ไมโอนี่เอ่ยสั้นๆ แล้วเดินไปที่โต๊ะอาจารย์

              เป็นเวลาเดียวกับที่เด็กหนุ่มผู้มาเยือนอีกคนเดินเข้ามาพอดี เฮอร์ไมโอนี่หันไปมองเขานิดหนึ่ง เขาก็หันมาจ้องเธอกลับเช่นกัน เด็กสาวไม่ได้ใส่ใจอยู่แล้ว และหันไปทางมักกอนากัลตามเดิม เดรโกจึงเดินมายืนข้างเธอ และมองไปทางศาสตราจารย์

              “เอาล่ะ ทีนี้พวกเธอก็มากันครบแล้ว” มักกอนนากัลเอ่ย และจ้องมองแววตาของนักเรียนทั้งสองที่มาจากต่างบ้าน “ฉันและศาสตราจารย์คนอื่นๆ ได้ประชุมกันแล้วว่าจะให้เธอทั้งสองคน...”

              เฮอร์ไมโอนี่ยืนด้วยใจที่ลุ้นระทึก เมื่อเธอต้องรอฟังสิ่งที่ศาสตราจารย์ตรงหน้าเธอกำลังจะพูดออกมา เดรโกจ้องหน้าศาสตราจารย์อย่างครุ่นคิด เขาอยากรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของเขาและเธอต่อจากนี้

              “...เป็นประธานนักเรียนร่วมกัน”

     

    .........

              “ล้อเล่นน่า เฮอร์ไมโอนี่” แฮร์รี่เอ่ยอย่างตกใจ

              ถึงเวลามื้อค่ำแล้ว ทุกคนในห้องโถงกำลังนั่งทานอาหารกันอย่างมีความสุขแต่คงไม่ใช่กับเด็กสาว เฮอร์ไมโอนี่นั่งตรงข้ามกับพวกเขา แล้วเล่าเรื่องที่เธอได้เป็นประธานนักเรียนกับเดรโกให้ทั้งคู่ฟัง แฮร์รี่ตกใจราวกับว่านี่เป็นเพียงฝัน เขาไม่อยากเชื่อว่าเด็กหนุ่มคนนั้นจะได้เป็นประธานนักเรียน รอนเองที่กินอย่างไม่ลืมหูลืมตาก็แทบสำลักทันที เขาเชื่อว่าเฮอร์ไมโอนี่ได้เป็น แต่เขาไม่เชื่อว่าคนอย่างเขาจะเป็นด้วย เดรโกและเธอต้องทำงานร่วมกันอีกนาน เฮอร์ไมโอนี่ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเธอต้องทำงานร่วมกับเดรโก มัลฟอย การที่ได้เป็นประธานนักเรียนมันก็ดีในระดับหนึ่ง แต่เป็นประธานร่วมกับมัลฟอยนี่มันแย่ในระดับหนึ่งเช่นกัน เธออยากจะรู้จริงๆว่าใครเสนอชื่อเธอกับมัลฟอยให้เป็นประธานนักเรียนร่วมกัน เขา...เขาไม่สมควร เธออยากรู้ว่าการแต่งตั้งประธานนักเรียนเอาอะไรเป็นมาตรฐาน สายเลือด นิสัย หน้าตา ฐานะ สมอง เกรดการเรียนอย่างนั้นหรอ

              ทั้งสามหันไปมองทางโต๊ะสลิธีริน พวกเขาหันไปมองเดรโก มัลฟอยที่นั่งทานอาหารตรงหน้าอย่างไม่สนใจสภาพแวดล้อมรอบข้าง ท่าทางเรียบนิ่งราวกับว่าเขาไม่ได้มีเรื่องต้องทุกข์ใจเหมือนกับเฮอร์ไมโอนี่ แต่เธอไม่รู้เลยว่า ในความเป็นจริงแล้วเขารู้สึกอย่างไรบ้าง

              เดรโกนั่งทานอาหารอย่างเฉื่อยชา เขาเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเขาถึงได้เป็นประธาน ความแปลกใจอัดแน่นอยู่ในอก มันเป็นเรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้น เขารู้ดีว่าคืนนี้ ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์จะพูดอะไร เขารู้ว่าวันนี้ ทุกคนจะได้รู้ว่าเขาเป็นประธานนักเรียน และคงจะไม่พอใจเท่าไหร่ต่อการตัดสินใของศาสตราจารย์แต่ละท่าน ที่ยอมให้เขามาเป็นประธาน…หรือพูดให้ถูกคือบังคับมาให้เป็นต่างหาก

              “สวัสดียามเย็น ฉันมีเรื่องที่จะบอกให้กับพวกเธอได้รับรู้กันสักหน่อย” ดัมเบิลดอร์เว้นจังหวะการพูด นักเรียนทุกคนเงียบกริบ หยุดการกระทำต่าง ๆ และฟังอย่างตั้งใจ “ฉันและศาสตราจารย์ทุกท่านได้พิจารณากันแล้วว่าจะแต่งตั้งประธานนักเรียนคนใหม่ และฉันขอให้ประธานนักเรียนทั้งสองออกมาข้างหน้า เดี๋ยวนี้เลย”

              นักเรียนแต่ละบ้าน ต่างพากันหันซ้ายหันขวา เพื่อจะหาว่าใครคือประธานนักเรียน สักพักเฮอร์ไมโอนี่ก็ลุกขึ้น ซึ่งสร้างเสียงปรบมือให้เธอยกใหญ่ เฮอร์ไมโอนี่ลุกออกจากโต๊ะอย่างกล้าๆกลัวๆและเดินออกไปข้างหน้า ท่ามกลางสายตาของผู้คนที่มองมาด้วยความยินดี ยกเว้นแต่เสียงปรบมือจากบ้านสลิธีรินเท่านั้นที่ไม่ส่งเสียงใดๆ เด็กหนุ่มผมบลอนด์เหลือบมองเธอนิดหนึ่ง มองร่างบางที่เดินไปพร้อมกับรับเอาความปีติยินดีจากคนรอบข้าง เดรโกนึกสงสัยเหมือนกันว่าเขาจะได้รับเสียงปรบมือแบบนี้มั้ย จะมีคนยินดีกับตำแหน่งที่เขาไม่ต้องการหรือเปล่า

              เฮอร์ไมโอนี่ยืนอยู่ด้านหน้าอย่างตื่นเต้น เสียงปรบมือเงียบลงแล้ว แต่ทุกคนก็ยังคงหันซ้ายหันขวาดูว่าใครคือประธานนักเรียนชาย เด็กหนุ่มไม่ลุก เขาไม่อยากคิดเลยว่าจะเป็นอย่างไรถ้าเขาลุกขึ้น แล้วเดินไปข้างหน้า เดรโกเงยหน้าขึ้นแล้วหันไปมองข้างหน้า สิ่งที่เขาเห็นคือเฮอร์ไมโอนี่ เขาจ้องมองเธอและเธอก็มองเขาเช่นกัน ร่างบางไม่เข้าใจว่าเขาคิดจะทำอะไรกันแน่ เดรโกหันไปมองศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ที่ส่งยิ้มเป็นมิตรมาให้เขา ก่อนที่เขาจะมองไปทางศาสตราจารย์มักกอนนากัลที่พยักหน้าให้เขาทีหนึ่งและส่งยิ้มให้ และเบนสายตาไปที่ศาสตราจารย์ประจำบ้านของตัวเอง สเนปจ้องเขา พลางนั่งลูบคางของตัวเองอย่างพิจารณา เขากำลังรอดูความกล้าหาญของนักเรียนในบ้าน เดรโกหันกลับมา และในไม่กี่นาทีนั้นเองที่เขาตัดสินใจลุกขึ้น!

              ราวกับเดรโก มัลฟอยเป็นแม่เหล็กที่ดึงดูดทุกสายตาของนักเรียนทุกคนหันมามองเขา เด็กหนุ่มกวาดสายตามองทุกคนในห้องโถง ก่อนที่เขาจะออกจากที่นั่ง การกระทำของนักเรียนทุกคนหยุดนิ่ง เมื่อไม่มีอะไรน่าสนใจมากไปกว่าเด็กหนุ่มที่กำลังก้าวเท้าไปข้างหน้าอย่างหวั่นวิตก แต่เดรโกก็สามารถกลบเกลื่อนความรู้สึกเหล่านั้นได้เป็นอย่างดี ในขณะที่ขายาวๆก้าวไปข้างหน้า เด็กนักเรียนปีสอง บ้านฮัฟเฟิลพัพคนหนึ่งก็อ้าปากค้าง ช้อนที่ถืออยู่หล่นจากมือและกระทบกับจาน ทุกการก้าวเท้าของเขาราวกับต้องบังคับให้เดินไปข้างหน้าอย่างยากลำบาก ทุกคนยังคงจ้องมองเขา บางคนหันไปกระซิบกระซาบบางอย่างกับคนที่นั่งข้างๆ ไม่มีเสียงปรบมือ หรือแสดงความยินดี เพราะสิ่งที่เขาได้รับมีเพียงแต่สายตาแห่งความไม่ชอบใจ ระคนสงสัย

              เดรโกเดินไปยืนข้างเฮอร์ไมโอนี่ เธอยิ้มเล็กน้อย และพยายามทำตัวให้ปกติ เด็กหนุ่มเห็นเธอเอาแต่มองไปข้างหน้า แต่เขาหรือ...จะให้เขามองไปข้างหน้า...มองความไม่พอใจของคนพวกนั้นอย่างนั้นหรอ เขาทำไม่ได้หรอก ดวงตาสีฟ้าซีดหลุบลงต่ำ เขาไม่สนใจว่าใครจะมองเขาอย่างไร ถึงอย่างไรมันก็ไม่ได้สำคัญ...เฮอร์ไมโอนี่แอบมองเขานิดหนึ่ง เธอไม่เห็นรอยยิ้มของเขาเลย มีแต่ความเรียบนิ่งตามปกติ เธอเดาไม่ออกเลยว่าเขารู้สึกอย่างไร ...แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องของเธอนี่

             “และฉันของแจ้งให้ทราบอีกครั้งว่าคุณเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ และคุณเดรโก มัลฟอย จะเป็นประธานนักเรียนของโรงเรียนฮอกวอตส์” ดัมเบิลดอร์ป่าวประกาศกับทุกคน แล้วหันมากระซิบกับเขาและเธอ “ขอให้พวกเธอโชคดี”

             มีเสียงปรบมือเปาะแปะๆ และเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ ทั้งเต็มใจและไม่เต็มใจ แต่สลิธีรินก็เช่นเดิม ไม่ส่งเสียงปรบมือเหมือนกับบ้านอื่นๆ มีเพียงบางคนหรือเด็กปีหนึ่งเท่านั้น ที่ปรบมือเบาๆ บางคนทำหน้าเบื่อหน่ายราวกับมีการบ้านมาตั้งกองอยู่ตรงหน้า เสียงปรบมือเงียบลงไปแล้ว ก่อนที่ศาสตราจารย์จะพูดขึ้นอีก

              “เอาล่ะ ขอให้พวกเธอทุกคน... มีความสุขกับมื้อค่ำนี้ต่อ”

              ทุกอย่างเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงเหมือนกับว่าเมื่อครู่นี้ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น เสียงของเหล่านักเรียนที่พูดคุยกันอย่างโน้นอย่างนี้กลับเริ่มดังอีกครั้ง โดยไม่สนใจแล้วว่าใครจะทำอะไร ไม่สนใจว่าจะมีประธานนักเรียนทั้งสองคนยืนอยู่ด้านหน้า นักเรียนบางคนที่ยังไม่อิ่มจากการดื่มด่ำรสชาติของอาหารชั้นเลิศ ต่างพากันกอบโกยอาหารตรงหน้าเข้าปากให้ได้มากที่สุดก่อนที่จะหมดเวลาของมื้อค่ำนี้ โดยเฉพาะนักเรียนบางคนจากบ้านกริฟฟินดอร์

              “เขาหิวมากเหรอ” จินนี่กระซิบเบา ๆ ถามแฮร์รี่ แต่สายตาของเธอจับจ้องอยู่ที่พี่ชายที่กำลังกินอย่างไม่ลืมหูลืมตา

              “ก็คงงั้น” แฮร์รี่กระซิบตอบจินนี่ที่นั่งอยู่ข้างกัน สายตาของเขาก็จ้องมองอยู่ที่เพื่อนของเขา ก่อนที่เขาและจินนี่จะหันมามองหน้ากัน

    ............

              “พวกเธอสองคนกลับไปที่โต๊ะกันก่อน และค่อยมาเจอฉันที่ห้องทำงานหลังมื้อค่ำนี้” มักกอนนากัลบอกทั้งสองคน เฮอร์ไมโอนี่และเดรโกตอบรับ ก่อนจะกลับไปที่โต๊ะประจำบ้านของตัวเอง

    ............

              หลังจากอาหารมื้อค่ำผ่านพ้นไป เฮอร์ไมโอนี่ปลีกตัวจากเพื่อนของเธอ แล้วเดินไปทางห้องศาสตราจารย์มักกอนนากัล ระหว่างทางเดินที่พลุกพล่าน เธอก็พบกับเดรโกโดยบังเอิญ ทั้งสองหยุดยืนตรงหน้ากันและกัน เฮอร์ไมโอนี่มองเขาสักพัก แล้วรีบเดินเลี่ยงไปอีกทาง เดรโกที่รู้ว่าเธอกำลังจะเดินหนีเขา จึงเอ่ยขึ้น

              “เธอคงดีใจมากงั้นสิ”

              เฮอร์ไมโอนี่ชะงัก เมื่อได้ยินคำพูดถากถาง เธอเดินออกห่างจากเขามาได้ไม่ถึงสามก้าว และก็ไม่เข้าใจว่าเขากำลังพูดถึงอะไร

              “นายหมายถึงอะไร มัลฟอย” เธอหันมาถาม

              “เธอฉลาดนี่นา ก็น่าจะรู้”

              เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจ เธอกลอกตาไปมาอย่างรำคาญ

              ทำไมฉันต้องมาคุยกับคนบ้าๆอย่างนายด้วยเนี่ย

              เฮอร์ไมโอนี่มองหน้าเขา และตอบปัดๆ เพื่อที่จะเลี่ยงคุยกับเขา

              “ฉันไม่รู้”

              เด็กสาวตัดจบง่ายๆ และหันหลังตั้งท่าจะเดินหนีเขา ทว่าเดรโกก็ยังเดินมาขวางหน้าเธอด้วยท่าทางกวนประสาท

              “ก็เธอได้เป็นประธานนักเรียนหนิ คงดีใจมากงั้นสิ” เดรโกเฉลย  

              “นายก็ได้เป็น แต่จะบอกว่าฉันไม่ได้ดีใจอะไรนักหรอก ถ้าต้องเป็นประธานคู่กับนาย”

              เฮอร์ไมโอนี่เอ่ยและรีบเดินไปทางห้องทำงานของศาสตราจารย์มักกอนนากัล เธอไม่หันกลับมามองเขาเลย เดรโกยืนมองเธออย่างไม่เข้าใจ เขานึกว่าเธอจะดีใจกับตำแหน่งนี้ซะอีก และนอกจากจะไม่ได้พอใจกับหน้าที่ประธานแล้ว แววตาของเธอที่มองเขา และน้ำเสียงของเธอที่พูดกับเขา มันชัดเจนว่าเธอทั้งรำคาญ เบื่อหน่าย และอยากจะออกไปให้ห่างๆจากตัวเขาเอามากๆ เดรโกมองเธอที่เดินไปไกลแล้ว ก่อนที่เขาจะเดินไปที่ห้องทำงานศาสตราจารย์มักกอนนากัลตามหลังเธอ

              เฮอร์ไมโอนี่เปิดประตูห้องทำงานและเดินเข้าไปด้วยใบหน้าที่ปกติที่สุด เธอยืนหยุดอยู่ตรงประตู เดรโกที่เดินตามหลังเธอมาและกำลังจะบอกว่าให้เธอเดินเข้าไป แต่เพราะเฮอร์ไมโอนี่ที่รู้ว่าเขาอยู่ข้างหลัง และไม่ต้องให้เขาพูดอะไร เฮอร์ไมโอนี่ก็รีบเดินเข้าไปในห้องทำงาน หรือจะเรียกว่าเธอเดินหนีเขามากกว่า เพราะเธอเดินจากจุดนั้นไปหลายก้าว เธอไม่ต้องการจะอยู่ใกล้เขาให้มากเกินไป เด็กหนุ่มมองตามอย่างหมั่นไส้ แล้วถอนหายใจ

              ชิ ฉันไม่ใช่ตัวประหลาดนะเกรนเจอร์

              เขาเดินตามหลังเธอไป เป็นเวลาเดียวกับที่ศาสตราจารย์มักกอนนากัล เดินออกมาจากห้องเก็บของของเธอพอดี เธอมองทั้งสองคนอย่างพิจารณา แล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงตำหนิ

              “พวกเธอมาสายนะ”

              “หนูมีปัญหานิดหน่อยค่ะ” เฮอร์ไมโอนี่ตอบ เด็กหนุ่มหันไปมองหน้าเธอนิดหนึ่ง เขาคิดว่าเธอจะฟ้องอะไรกับมักกอนนากัลหรือเปล่า ซึ่งเธอก็ไม่ได่ว่าอะไรต่อ

              มักกอนนากัลมองหน้าทั้งเฮอร์ไมโอนี่และเดรโกพลางถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย เธอรู้ว่าทั้งสองคนคงจะทะเลาะกันอีกแล้ว ตั้งแต่ปีแรกจนปีสุดท้ายทั้งสองคนก็ไม่ดีกันเลย และหากทั้งสองยิ่งต้องมาเป็นประธานนักเรียนร่วมกัน เธอคิดว่าทั้งสองคนคงทะเลาะกันมากกว่าเดิมและบ่อยขึ้นแน่นอน

              “ฉันแค่อยากจะชี้แจงอะไรหน่อย” มักกอนนากัลเอ่ย “พวกเธอคงพอจะรู้ว่าประธานนักเรียนต้องทำงานร่วมกันใช่มั้ย”

              “ค่ะ” เฮอร์ไมโอนี่เอ่ยสั้นๆ ส่วนเดรโกแค่พยักหน้ารับเท่านั้น

              “หน้าที่ของประธาน จะไม่เหมือนกับหน้าที่ของพรีเฟ็ค ที่พวกเธอเคยทำกันมาก่อนหน้านี้” มักกอนนากัลมองหน้าทั้งสองคนที่หันไปคนละทิศคนละทาง มันคงยากมากถ้าจะบอกให้ทั้งสองคนดีต่อกัน

              “พวกเธอชอบทะเลาะกันอยู่เรื่อย ดังนั้นเธอควรจะลดๆกันลงบ้าง” มักกอนนากัลพูดด้วยความรู้สึกที่เหนื่อยใจ และว่าต่อจนทั้งคู่ต้องหันไปมองด้านหน้าอย่างพร้อมเพรียง “พวกเธอต้องมาอยู่ที่หอประธานกันตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป”

              เฮอร์ไมโอนี่และเดรโกหันมามองศาสตราจารย์มักกอนนากัลอย่างใจหายกับคำพูดนั้น ที่จริงทั้งคู่รู้ดีว่าต้องไปอยู่ที่หอประธาน แต่พวกเขาแค่ไม่อยากไปอยู่ที่นั่น พวกเขาคิดว่าการไปอยู่ด้วยกันคงทำให้ทะเลาะกันทุกวัน แต่พวกเขาไม่มีสิทธิ์ออกความคิดเห็นใดๆนอกจากรับฟัง

              “พวกเธอคงไม่มีปัญหานะ ดังนั้น กลับไปที่หอนอนกันก่อน แล้วพรุ่งนี้ค่อยย้ายข้าวของของเธอไปที่หอประธาน ราตรีสวัสดิ์”

              มักกอนนากัลจบประโยคนั้น ก่อนจะหายกลับเข้าไปในห้องที่เธอออกมา เฮอร์ไมโอนี่หันมามองเดรโกเต็มตา เด็กหนุ่มเองก็หันมามองเธอ เฮอร์ไมโอนี่พ่นลมหายใจ ก่อนจะเดินออกไปจากห้องทำงาน แล้วเขาก็สาวเท้าตามหลังเธอไป

               “เกรนเจอร์”

               ร่างสูงตะโกนเรียกเธอ เมื่อเขาเดินออกมาจากห้องทำงานของอาจารย์ เฮอร์ไมโอนี่หยุดเดิน แล้วหันมามองเขาอย่างมีคำถามเป็นเชิงว่ามีอะไร

               “ขอถามอะไรหน่อยได้มั้ย”

    .......................

             

             

    ----To be continues----

     

    Next chapter: --- --- ---

    >>>> >>>> >>>>

     

    ไรท์กลับมาแล้ว ไชโย555555

    ดูเหมือนไรท์จะหายไปนานมากกกกกกเลยใช่มั้ยคะ

    แต่ไรท์ยังมีชีวิตอยู่เพื่ออัพนิยายอยู่น้าๆๆๆ

    อ่าๆๆๆถ้าอยากรู้ว่าเดรโกจะถามอะไรเฮอร์ไมโอนี่ละก็ ต้องติดตามตอนต่อไปน้า

    คอมเม้น ติ-ชม เป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยน้าๆๆๆ

    ปล.อันนี้เป็นเพจใหม่น้าาาาค้าาาา ฝากติดตาม กดlikeกันให้ทั่วหน้าเลยเน้ออออ

     

     

       

     


     

     

    See you again next time

     


     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×