ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Love has no end date. {Kyuhyun x Seohyun} [SJ&SNSD]

    ลำดับตอนที่ #5 : stage-04

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 557
      0
      15 มี.ค. 53





    เครื่องบินส่วนตัวลำหรูลงจอดที่ลานกว้างของ Gilford Essence School สมาชิกทั้งสิบคนเดินลงมาอย่างช้าๆ คนแรกคือนักบินที่ขับเครื่องบินนี้มา เป็นเด็กหนุ่มร่างสูงอายุประมาณ 16 ปี เด็กอัจฉริยะจาก Gilford Essence School ‘Shani Essence’ หลานของผู้ก่อตั้งโรงเรียนแห่งนี้ คนถัดมาคือหญิงสาวผู้ร่าเริงสดใสในชุดประโปรงสีแดงอ่อนที่มีสัญลักษณ์รูปมังกรแดงและอักษร ‘GES’ ปักอยู่บนชุดซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของโรงเรียนนี้ ถัดมาเป็นกลุ่มเด็กสาวเอเชียผมสีดำสนิมสามคนและผมสีบลอนด์หนึ่งคน ทั้งสี่คนดูจะตื่นตาตื่นใจกับสถานที่ที่ไม่เคยมา กลุ่มต่อมาเป็นเด็กหนุ่มสี่คน คนที่ตัวสูงที่สุดเดินมายืนข้างๆกับหญิงสาวชุดสีแดงอ่อน อีกสามคนยืนเกาะกลุ่มกันแล้วมองไปรอบๆลานกว้างที่มีต้นไม้อยู่ห่างไปอีกหลายสิบเมตร รอบๆตัวพวกเขามีกลุ่มนักเรียนยุโรปหลายร้อยคนที่มาต้อนรับการมาของพวกเขา หลายคนถ่ายรูปแขกผู้มาเยือนราวกับว่าไม่เคยเห็นมนุษย์มาก่อน

    “พี่บอกพวกเขาเหรอว่าเราจะมา” คยูฮยอนก้มลงกระซิบถามพี่สาวแล้วหยิบแว่นตาดำมาใส่ เพราะเขาเริ่มแสบตากับบรรดาแสงแฟลชที่มีไม่หยุดหย่อนตั้งแต่เขาลงมาจากเครื่องบินแล้ว

    “ก็พวกน้องเป็นคนสำคัญนี่จ๊ะ” อาราตอบยิ้มๆและโบกมือทักทายเหล่านักเรียนอย่างร่าเริง

    “ให้ตายสิ พี่ฉัน...” คยูฮยอนสบถเบาๆและถามพี่สาว
    “แล้วเราต้องอยู่นานแค่ไหน ?”

    “คงประมาณปีครึ่งน่ะ”

    “ตั้งปีครึ่งเลย...” มือหนากุมขมับแล้วเดินกลับมาที่กลุ่มของตัวเอง

    “นี่ๆๆๆซอฮยอน เธอว่าเด็กคนนั้นแปลกๆมั้ย ?” เจสสิก้ากระซิบถามเพื่อนสาวและชี้ให้ดู

    “คนไหนเหรอ ?” ซอฮยอนถามเมื่อเธอไม่รู้ว่าคนไหน

    “คนผมเขียวๆที่เป็นนักบินไง” เจสสิก้าพยายามชี้ให้ดู ซอฮยอนก็มองตาม

    “อ๋อ...ทำไมเหรอ” ซอฮยอนที่รู้ว่าเป็นใครแล้วถามกลับ

    “ก็ดูสิ อยู่บนเครื่องบินตั้งหลายชั่วโมง เรายังไม่เห็นหน้าเขาเลยนะ” เจสสิก้าอธิบาย

    “เออ ใช่... ซอก็ว่าแปลกๆนะ ทำไมเราไม่เห็นเขาเลย” ซอฮยอนเออออตามที่เจสสิก้าพูด

    “ก็ไม่เห็นแปลกนี่” แทยอนแทรกขึ้นมา

    “ทำไมล่ะ ?” เจสสิก้าและซอฮยอนพูดขึ้นแทบจะพร้อมกัน

    “ก็เขาเป็นนักบินนี่ จะทิ้งคันบังคับแล้วมาคุยกับเราได้ยังไง” แทยอนออกความเห็น

    “นั่นสินะ ฉันว่าที่แทยอนพูดมันก็ถูก” ทิฟฟานี่ที่ฟังอยู่โพล่งขึ้นมา

    “ฉันว่าพวกเธอเลิกสงสัยดีกว่า พี่อาราเดินไปโน่นแล้ว” แทยอนชี้ให้เพื่อนๆดูเมื่อเห็นว่าผู้เป็นไกด์เดินลิ่วๆไปไกลแล้ว
    “เห็นว่าพี่อาราจะพาไปดูห้องพักน่ะ”

    ...

    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .

    ...

    ทั้งสิบคนเดินมาที่อาคารสีเขียวอ่อนสองอาคารซึ่งเป็นห้องพักของพวกนักเรียนพิเศษทั้งแปดคน รอบๆตกแต่งด้วยต้นไม้หลายขนาด ตั้งแต่ต้นใหญ่ๆอย่างเช่นต้นสน ต้นหลิว ต้นวิลโลว์ ต้นแอปเปิ้ล และต้นเมเปิ้ล จนไปถึงต้นเล็กๆอย่างต้นฟิโล หรือต้นเฟิร์น นอกจากนั้นยังมีไม้ดอกนานาชนิดที่นำมาตกแต่งจากหลายประเทศอีกด้วย ทั้งดอกทิวลิป ดอกกุหลาบ ดอกไฮเดรนเยีย และอีกมากมาย

    “ด้านซ้ายมือเป็นหอหญิงนะจ๊ะ ส่วนด้านขวามือเป็นหอชาย ห้องของพวกเธออยู่ชั้นบนสุดนะจ๊ะ” หญิงสาวในชุดกระโปรงสีแดงอ่อนเอ่ยและผายมือบอกตำแหน่ง
    “ชานี่...เธอพาผู้ชายขึ้นไปดูด้านบนนะจ๊ะ” หญิงสาวยิ้มและเดินนำพวกผู้หญิงขึ้นไปบนอาคารฝั่งทางซ้ายมือ ชานี่โค้งให้เล็กน้อยและเดินนำไปทางอาคารฝั่งทางขวามือ


    “อาคารนี่ดูวังเวงจังเลย” ทิฟฟานี่เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นภายในอาคารค่อนข้างมืดและชื้น

    “อ้อ...พอดีว่าแม่บ้านประจำเค้าลาป่วยน่ะจ๊ะ ก็เลยร้างมาสองอาทิตย์แล้ว” อารายิ้มซึ่งทำให้เด็กสาวหายกลัวได้

    “รู้สึกว่าที่นี่จะไม่มีคนอยู่เลย” ซอฮยอนพูดเมื่อไม่รับรู้ว่ามีคนอยู่

    “ที่นี่เป็นหอพักพิเศษน่ะจ๊ะ คนธรรมดาเข้ามาอยู่ไม่ได้หรอก” หญิงสาวเดินขึ้นบันไดไปอย่างช้าๆจนถึงชั้นบนสุด
    “นี่คือชั้นที่พวกเธอจะอาศัยจ๊ะ” อาราชี้ให้ดูห้องที่มีประตูสีชมพูซึ่งมีกุญแจล็อกไว้อยู่

    สภาพของชั้นบนสุดและชั้นอื่นๆที่ผ่านมาแตกต่างราวฟ้ากับเหว ภายในชั้นบนทาสีด้วยสีชมพูอ่อน ทางเดินพื้นปูกระเบื้องสีขาว ภายในห้องกว้างขวางมาก ตรงผนังติดวอลเปเปอร์สีชมพูอ่อน มีห้องนอนสองห้องและห้องน้ำสองห้อง ห้องน้ำตกแต่งด้วยสีขาวทั้งห้อง ทำให้ดูสะอาดตาและน่าใช้ ห้องข้างๆห้องน้ำเป็นห้องที่มตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ซึ่งเป็นห้องสำหรับแต่งตัว ประตูห้องนอนติดหมายเลข 1 และ 2 ไว้เพื่อให้จำง่าย ภายในห้องนอนเป็นห้องเตียงคู่ หมายถึงให้อยู่กันสองคน ผนังติดวอลเปเปอร์รูปดาวและปูพื้นด้วยพรมสีดำสนิท เตียงสลักลายวิจิตรสวยงามแตกต่างกันไป ผ้าปูเตียงเป็นสีขาว ตรงข้างๆหัวเตียงเป็นโต๊ะที่มีโคมไฟวางไว้อยู่

    “ห้องสวยจังเลยค่ะ...” ซอฮยอนโพล่งขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ

    “นั่นสิ...ดูโซฟานี่สิ” แทยอนเอ่ยพร้อมกับโยนกระเป๋าทิ้งแล้วไปนั่งที่โซฟาทันที
    “ขนสัตว์ซะด้วย” มือเรียวลูบโซฟาสีขาวลายจุดสีชมพู

    “ดูห้องนอนซะก่อน สุดยอดจริงๆ” เจสสิก้าตาโตเมื่อเห็นห้องนอน

    “สวยสุดๆเลย” ทิฟฟานี่เอ่ยพลางนั่งลงบนเตียง
    “นุ่มจัง”

    “ห้องนี้เคยเป็นห้องของพี่มาก่อนจ๊ะ ก็เลยดูสะอาดกว่าห้องอื่น” อารานั่งลงที่โซฟาข้างๆแทยอน

    “แล้วพี่อยู่คนเดียวเหรอคะ ?” ทิฟฟานี่เดินมานั่งด้วยโดยที่มีอาราคั่นกลาง

    “จ๊ะ...ห้องนี้มีไว้สำหรับชาวเอเชียน่ะ แล้วก็มีพี่คนเดียวที่เป็นชาวเอเชียที่เป็นผู้หญิง” อาราเล่าอย่างอารมณ์ดี
    “เอาล่ะ...พี่ต้องไปก่อนนะจ๊ะ มีงานที่สภานักเรียนน่ะ” อาราโบกมือลาและเดินออกจาห้องไป

    เด็กสาวทั้งสี่คนพร้อมใจกันนั่งลงกับพื้นและมองหน้ากัน

    “แล้วเราจะทำยังไงต่อ” เจสสิก้าเปิดประเด็นขึ้นมา เนื่องจากว่าเพิ่งมาถึงจึงยังไม่ได้เรียนและตอนนี้พวกเธอก็ว่างกันสุดๆ

    “ฉันว่า...เราก็จัดห้องสิ” ซอฮยอนเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นกระเป๋าของตัวเองยังคงปิดอยู่

    “นั่นสิ...” ทิฟฟานี่เห็นด้วยกับซอฮยอน

    “แล้วห้องนอนล่ะ จะเอายังไง” แทยอนถามขึ้น
    “ใครจะนอนกับใคร ?”

    “ก็ให้แทยอนนอนกับทิฟสิ” เจสสิก้าเสนอขึ้นมา แต่ทิฟฟานี่ปฏิเสธแทบไม่ทัน
    “นี่เป็นโอกาสแล้วนะ...” เจสสิก้ากระซิบเบาๆกับทิฟฟานี่
    “เธอไม่อยากอยู่ใกล้แทยอนเหรอ ?”

    “ก็อยาก...แต่ไม่เอาแบบนี้ได้มั้ย...” ทิฟฟานี่ครวญ

    “แบบนี้แหละดี...” เจสสิก้ากระซิบตอบ
    “ที่ฉันเสนอเมื่อกี้ทุกคนว่ายังไงบ้าง ?” เจสสิก้าหันมาพูดกับทุกคน

    “ก็ดีนะ” แทยอนตอบอย่างไม่คิดมาก เพราะเธอยังไงก็ได้อยู่แล้ว จากนั้นก็หยิบนิตยสารมาอ่านเล่น

    “ฉันก็ว่าดี” ซอฮยอนเห็นด้วยและยิ้มให้ทิฟฟานี่ เจสสิก้าและซอฮยอนรู้ว่าทิฟฟานี่แอบชอบแทยอนอยู่ก็เลยไม่ขัดขวางอะไร

    “พวกเธอ...แกล้งฉัน...” เด็กสาวผมสั้นทุบไหล่เจสสิก้าเบาๆเป็นเชิงงอน ซอฮยอนหัวเราะเบาๆ ส่วนแทยอนไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ก้มหน้าก้มตาอ่านนิตยสารสุดโปรดต่อไป

    “งั้นฉันจะอยู่ห้องนี้นะ” ซอฮยอนลุกขึ้นหยิบกระเป๋าและเปิดประตูห้องหมายเลข 2 และเดินเข้าห้องไป จากนั้นเจสสิก้าจึงเดินตามมา ทิฟฟานี่มองตามอย่างงุนงงแล้วหันกลับมามองแทยอน

    “มีอะไรเหรอ ?” แทยอนหันมามองทิฟฟานี่ที่มองอยู่ก่อน

    “เอ่อ...คือ...” ทิฟฟานี่สะดุ้งเมื่อแทยอนถาม
    “ฉะ...ฉัน...จะไปจัดห้องก่อนนะ...” ทิฟฟานี่ตอบและเดินลิ่วๆเข้าห้องไป

    “ฮึ...อะไรของเขา” แทยอนมองตามอย่างสงสัยแต่ก็ได้เก็บความสงสัยไว้ในใจและเดินเข้าห้องไปจัดห้องบ้าง

    ...

    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .

    ...

    “นี่คือห้องของพวกนาย” เสียงเรียบและเย็นชาเอ่ยมาจากเจ้าของเรือนผมสีเขียวมรกตซึ่งผ่านการย้อมมาหมาดๆ
    “ฉันต้องไปก่อนนะ...บาย~” สิ้นคำพูดของเจ้าของเสียงก็หายตัวไปอย่างรวดเร็วจนคนอื่นแทบไม่ทันมอง

    “อะไรของเจ้าหมอนี่กัน ตอนเดินขึ้นบันไดก็เงียบไม่แนะนำไม่ตอบคำถามอะไรเราเลย” เยซองบ่นขึ้นเมื่อเห็นท่าทางแปลกๆของชานี่

    “นั่นคงเป็นเอกลักษณ์ของเขาล่ะมั้ง” คยูฮยอนเอ่ยพลางลากกระเป๋าเข้าห้องพัก

    ห้องพักของพวกเขาไม่ต่างอะไรกันห้องของฝ่ายหญิงมากนัก จะแตกต่างตรงที่วอลเปเปอร์เป็นสีฟ้าอ่อนเท่านั้นเอง ซองมินเดินเข้าห้องหมายเลข 1 อย่างไม่รีรอและลงมือจัดห้องอย่างรวดเร็ว

    “นี่นาย เราควรจะเลือกห้องกันโดยลงมติกันก่อนนะ ไม่ใช่ว่าจู่ๆจะเลือกห้องเลย” รยออุกปรามซองมินที่กำลังจัดห้องและอธิบายเหตุผล

    “นายก็ลงมติของพวกนายไปสิ ฉันเลือกห้องแล้ว ไม่ว่าจะเลือกห้องไหนๆมันก็เหมือนๆกันนั่นแหละ” ซองมินพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา จากนั้นจึงเดินไปผลักรยออุกออกจากห้องจนล้มและปิดห้องพร้อมลั่นกลอนอย่างแน่นหนา

    “ไอ้นี่นิ...” รยออุกสบถเบาๆพลางยันตัวลุกขึ้น เยซองเดินมาช่วยพยุงให้รยออุกลุกขึ้น

    “เป็นอะไรรึเปล่า รยออุก” เยซองถามด้วยความเป็นห่วง เนื่องจากเขาเห็นรยออุกถูกผลักอย่างแรง

    “มะ...ไม่หรอก...” รยออุกแทบจะดีดตัวออกจากเยซองด้วยความเขินแล้วหนีไปนั่งกับคยูฮยอนที่กำลังอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ เยซองมองตามด้วยสายตาว่างเปล่า

    “อะไรเหรอ รยออุก”  คยูฮยอนถามขึ้นเมื่อเห็นรยออุกเข้ามานั่งติดหนึบกับเขาเป็นพิเศษ

    “ก็เยซองน่ะสิ...เขาแตะตัวฉันน่ะ” รยออุกกอดแขนคยูฮยอนไว้และซุกหน้าเข้าที่แขน

    “แค่นี้เอง...” คยูฮยอนพูดราวกับเป็นเรื่องปกติ แต่มันไม่ปกติสำหรับรยออุก

    “ก็...”

    “ฮ่าๆๆๆ ฉันรู้น่า... เอางี้มั้ย นายก็ไปนอนกับเยซองเลยสิ จะได้หายเขินไง” คยูฮยอนกระซิบ เยซองมองทั้งคู่ด้วยสายตาที่ว่างเปล่า

    ‘สองคนนั้นชอบกันงั้นเหรอ...’

    ...

    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .

    ...

    “เฮ้อ...ฉันนึกว่าจะง่ายกว่านี่ซะอีก” ซอฮยอนเดินหน้ามุ่ยถือถาดที่มีจานอาหารมานั่งที่โต๊ะที่เพื่อนๆของเธอนั่งอยู่แล้ว

    “เป็นอะไรไปล่ะซอฮยอน” แทยอนถามเพื่อนสนิทด้วยความเป็นห่วง

    “ฉันปวดประสาทกับวิชาภาษาละตินน่ะสิ” ซอฮยอนบ่นกระปอดกระแปด
    “ไม่รู้จะสอนไปทำไม”

    “ฮ่าๆๆๆ ภาษาละตินมันเป็นพื้นฐานของภาษาอังกฤษนี่นา” เจสสิก้าอธิบายให้เพื่อนสาวฟัง

    “เราเรียนอยู่ห้องเอเชียนะ ทำไมต้องเรียนด้วยล่ะ” ซอฮยอนบ่นอีก

    “เราอยู่ห้องเอเชียก็จริงนะ แต่เราอาศัยอยู่ในประเทศของเขา เขาอยากให้เรารู้วัฒนธรรมของเขา เราก็ควรรับมัน” เจสสิก้าเอ่ยเสียงเรียบพลางตักข้าวเข้าปาก

    “งั้นเหรอ” ซอฮยอนมองหน้าเจสสิก้า

    “อื้ม... ว่าแต่ต่อไปเรียนวิชาอะไร” เจสสิก้ารับคำและถามถึงคาบเรียนต่อไป

    “ภูมิศาสตร์” เสียงเรียบและทุ้มดังออกมาจากปากของใครคนหนึ่งซึ่งไม่ใช่เสียงของหญิงสาวทั้งสี่
    “แย่จังเลยนะที่เราแยกกันน่ะ” ร่างสูงนั่งลงข้างๆซอฮยอนซึ่งเป็นการแทรกเจสสิก้าที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว เธอเชิดใส่แล้วลุกไปนั่งกับทิฟฟานี่ที่นั่งอยู่ตรงข้าม ทิฟฟานี่แค่นหัวเราะกับท่าทางของเพื่อน

    “นั่นสินะ...” ซอฮยอนพูดเบาๆแล้วลงมือทานอาหารโดยไม่มองหน้าใคร แล้วทั้งโต๊ะก็เข้าสู่ความเงียบ

    “แล้วห้องเรากับห้องนายเรียนเหมือนกันเหรอ ?” แทยอนเอ่ยทำลายความเงียบขึ้นมา

    “ก็เหมือนกันนะ คาบแรกเรียนคณิตศาสตร์ ประวัติศาสตร์ แล้วก็ละตินใช่มั้ย ?” คยูฮยอนแกะขนมปังที่ซื้อมา บิเป็นชิ้นเล็กๆแล้วเอาเข้าปากพร้อมกับถามแทยอน

    “อืม... เป๊ะ...” แทยอนทำหน้าเซ็งๆกับวิชาคาบเช้าที่เรียนมา เพราะมันยากกว่าที่เรียนโปรแกรมภาษาอังกฤษของโรงเรียนเอริออสซะอีก

    “แต่ประวัติศาสตร์สนุกดีนะ” ซอฮยอนเอ่ยเมื่อทานข้าวหมดแล้ว

    “เดี๋ยวฉันเอาไปเก็บให้” คยูฮยอนอาสาและคว้าเอาจานและถาดของซอฮยอนไป

    “เฮ้ยๆๆๆ เดี๋ยวๆๆๆ ฝากของฉันด้วยดิ” แทยอนตะโกนและโยนถาดและจานให้คยูฮยอนอย่างรวดเร็วจนคยูฮยอนแทบรับไม่ทัน

    “ให้ตายเถอะ ใครจะเอาเธอเป็นเมียเนี่ย” คยูฮยอนเอ่ยติดตลกเมื่อเห็นกิริยาที่ไม่สมหญิงของแทยอน

    “ไม่มีก็ไม่เอาสิวะ” คำตอบแสบจะเรียบง่ายออกมาจากปากของแทยอน คยูฮยอนหน้าเบ้ใส่

    “งั้นเดี๋ยวฉันเอาไปเก็บให้หมดทุกคนเลยก็ได้” คยูฮยอนอาสาและรวบรวมจานและถาดไปเก็บ

    “หมอนี่กวนชะมัด” แทยอนเอ่ยพลางเหล่ตาไปทางคนที่เอาจานไปเก็บ

    “ก็เธอกวนเค้าก่อนนี่นา” ซอฮยอนบอก

    “เชอะ!” แทยอนเชิดใส่ ซอฮยอนยู่หน้าและเชิดใส่บ้าง

    “พวกเธอจะทำสงครามเย็นไปถึงไหนห๊ะ” เจสสิก้าเอ่ยเมื่อเพื่อนๆเชิดใส่กัน

    “นั่นสิ” ทิฟฟานี่เห็นด้วยกับเจสสิก้า

    “อ้าว สองคนนั้นเป็นอะไรกัน” คยูฮยอนที่เดินกลับมาเห็นอาการแบบนั้นก็แปลกใจ
    “แทยอน เธอกล้างอนว่าที่ภรรยามนอนาคตของฉันเหรอ” คยูฮยอนโพล่งขึ้นมา

    “หา ?! นี่นายวางแผนจะแต่งงานแล้วเหรอ ???” แทยอนหันมาถาม คยูฮยอนพยักหน้าหงึกๆ ทำเอาว่าที่เจ้าสาวของเขาถึงกับอายม้วนไปเลย
    “ฉันไม่ยอมยกเพื่อนให้คนอย่างนายหรอก” แทยอนเชิดใส่และโอบไหล่ซอฮยอนอย่างหวงของ

    “อะไรกันเนี่ย” คยูฮยอนเป่าลมจนแก้มพอง
    “ซอฮยอนเป็นแม่ของลูกฉันนะ” คยูฮยอนพยายามปัดมือของแทยอนออกจากไหล่ของซอฮยอน แต่มือของแทยอนก็กลับมาโอบไหล่ซอฮยอนไว้เหมือนเดิม คยูฮยอนก็เลยเอาแขนไปโอบเอวซอฮยอนและเดินหนีไปเลย

    “อ้าว...ไอ้บ้า !” แทยอนตะโกนไล่หลัง ตอนที่คยูฮยอนโอบเอวซอฮยอนเธอก็ตกใจเผลอปล่อยมือจากซอฮยอน

    “ปล่อยให้เค้าไปกันสองคนดีกว่าเนอะ” ทิฟฟานี่เอ่ยกันแทยอนโดยไม่มองหน้า

    ทั้งสามสาวได้แต่มองคยูฮยอนโอบเอวซอฮยอนและซอฮยอนที่ซบไหล่คยูฮยอนอย่างอิจฉาและหวังให้ตนเองมีแฟนเร็วๆ


    --------------------------------------------------------------------------------

    อัพแล้วๆๆๆๆๆ

    ดีใจจัง ><'

    แต่งไปแต่งมารู้สึกว่าทิฟฟานี่บทน้อยจัง = =;

    แต่บุคคลิกที่แต่งให้ เธอเป็นคนเงียบๆเรียบร้อยนี่นา

    T^T

    แต่ช่างเถอะ = ='

    ติดตามตอนต่อไปกันนะ ^0^
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×