ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Love has no end date. {Kyuhyun x Seohyun} [SJ&SNSD]

    ลำดับตอนที่ #4 : stage-03

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 643
      0
      13 มี.ค. 53

    Yesung & Taeyeon /Part/


    “ซอฮยอน !!!” เสียงเรียกจากนอกห้องทำให้เพื่อนในห้องหันมาดูเด็กสาวที่กำลังอ่านหนังสือนิยายของแจ่มใสเล่มโต เจ้าของชื่อได้ยินเสียงเรียกก็เงยหน้าจากหนังสือและมองหาต้นตอของเสียง เมื่อเห็นว่าเป็นเพื่อนที่เธอเคยไปหาที่ห้องก็ลุกเดินไปหาที่นอกห้องทันที ด้วยความรีบร้อนทำให้ร่างบสะดุดพื้นต่างระดับที่อยู่บริเวณประตูห้อง

    “โอ๊ะ...ระวังด้วยสิ ซอฮยอน...” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นร่างบางที่เดินมากำลังสะดุดล้ม ยังดีที่เขาจับตัวไว้ทัน คยูฮยอนที่เหงื่อชุ่มเพราะวิ่งมาไกลรู้สึกตกใจจึงเอามือทาบที่หน้าอกเบาๆ

    “คือ...ซอขอโทษนะ คยู...ที่ซอไม่ระวัง...” เด็กสาวเอ่ยอย่างรู้สึกผิด

    “อะไรกัน...แค่นี้ไม่เป็นไรหรอก” เด็กหนุ่มยิ้มให้พร้อมทั้งหยิบข้าวผัดกิมจิที่ทำไว้ในชั่วโมงคหกรรมทำอาหารออกมา
    “ฉันทำข้าวผัดกิมจิมาให้ เผื่อว่าช่วงบ่ายนี้เธอจะหิวน่ะ” คยูฮยอนยื่นกล่องข้าวให้แล้วแอบขยำกระดาษอะไรบางอย่างอยู่ด้านหลัง

    “ขอบคุณนะ คยู...” ซอฮยอนรับมาพร้อมกับส่งยิ้มหวานให้
    “แล้วนั่นอะไรน่ะ ?” คนตัวเล็กกว่าชะโงกหน้าไปดูที่ด้านหลังของร่างสูงที่กำกระดาษไว้

    “ไม่มีอะไรหรอก...ก็แค่กระดาษน่ะ” คยูฮยอนพูดแล้วโยนใส่ถังขยะที่อยู่ใกล้ๆ
    “อ้อ... ฉันต้องไปก่อนนะ ป่านนี้อาจารย์วิชาไฟฟ้าคงฆ่าฉันแน่เลย” ร่างสูงเอ่ยพลางมองนาฬิกาที่ข้อมือข้างซ้าย
    “ไปนะ...บาย...” คยูฮยอนโบกมือให้แล้วค่อยๆเดินถอยหลังออกไปแล้วหันไปวิ่งตรงไปทางอาคารไฟฟ้าทันที

    “บายจ้ะ...คยู...” ซอฮยอนโบกมือให้ เมื่อลับสายตาคยูฮยอนแล้วจึงเดินไปดูที่ถังขยะที่คยูฮยอนโยนกระดาษที่ขยำไว้ทิ้ง

    ‘ตารางเรียนห้อง 7’

    ซอฮยอนยิ้มบางๆเมื่อเห็นข้อความในส่วนบนของกระดาษที่ขยำอย่างลวกๆทำให้ยังเห็นส่วนที่ยังไม่ยับ ร่างบางเดินเข้าห้องไปและรอเรียนวิชาต่อไป ที่คยูฮยอนต้องวิ่งเหนื่อยเพราะว่ามัวแต่ไปเอาตารางเรียนที่ห้องประชาสัมพันธ์ เนื่องจากเขาไม่รู้ชั่วโมงเรียนของห้องที่ซอฮยอนอยู่ และเขาก็ต้องตามหาห้องอยู่นานสองนานเพราะว่าเขากับซอฮยอนเรียนคนละโปรแกรม

    ...

    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .

    ...

    แก๊ก...

    เสียงกิ่งไม้กระทบกับพื้นช่วงปลุกให้ร่างสูงที่กำลังนิทราอยู่สะดุ้งตื่นขึ้น ทันทีที่ตื่นขึ้นมาก็รีบรุดคว้าสร้อยนาฬิกาที่ห้อยคออยู่มาดูเวลาทันที นาฬิกาบอกเวลาที่ 2:40 น. แน่นอนว่าเขาเข้าเรียนช้ามาสี่สิบนาทีแล้ว

    “ซวยแล้ว ~!!!” ร่างสูงกระวีกระวาดคว้ากระเป๋าเรียนแล้วลุกขึ้นวิ่งไปที่อาคารไฟฟ้าทันที

    ปึ้ก !

    ด้วยความรีบร้อนและไม่ทันระวังทำให้เขาวิ่งชนกับใครคนหนึ่ง และด้วยว่าไม่ได้ตั้งหลักทำให้เขาล้มลง

    “นี่นายวิ่งภาษาอะไรห๊ะ!!!” เสียงแหลมแว้ดขึ้นทันทีหลังจากที่ถูกจน เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมามองก็เห็นผู้หญิงตัวสูงยืนมองหน้าเขาแล้วบ่นแว้ดๆใส่
    “เยซอง ! แย่จริงๆเลย... ทำไมต้องเจอนายในตอนนี้ด้วยนะ อย่างนายจะช่วยฉันได้รึเปล่าก็ไม่รู้” เยซองลุกขึ้นและมองหน้าคนที่กำลังด่าเขาอยู่
    “นายน่ะวิ่งไม่ดูตาม้าตาเรือ รู้มั้ยว่าฉันกำลังรีบอยู่ ถ้าเกิดพวกนั้นตามมาทันฉันจะทำยังไงห๊ะ!!!” แม้ว่าร่างสูงจะยังไม่รู้เรื่องอะไรมากนัก ก็พอเดาๆได้ว่าผู้หญิงคนนี้กำลังหนีอะไรบางอย่างมา

    “ก็ไม่ต้องหนีไงจ๊ะ...ที่รัก...” เสียงหื่นกามดังขึ้นด้านหลังของหญิงสาว และเป็นสัญชาตญาณที่เธอจะต้องวิ่งมาหลบด้านหลังของผู้ชายที่อยู่ใกล้เธอที่สุด เจ้าของเสียงนั้นคือหัวหน้ากลุ่มอันธพาลโรงเรียนที่เยซองจำได้ว่าคือ ‘Never Die’ จากสัญลักษณ์รูปนกฟินิกซ์ที่สักไว้ตรงหลังมือของสมาชิก หัวหน้ากลุ่มคือ จางซึงฮวาน

    “อะไรของเธอเนี่ย !!!” เยซองมองตามอย่างงงๆปนโมโห แต่เมื่อเขารู้สึกถึงร่างอันสั่นเทาที่ส่งผ่านจากมือเล็กๆที่เกาะไหล่เขาอยู่นั้นทำให้อารมณ์ที่สูงปรี๊ดกลับเย็นลงและคิดที่จะปกป้องเธอในฐานะหน้าที่ของผู้ชายทันที เยซองค่อยๆหันมามองเจ้าของเสียงหื่นกามเมื่อสักครู่นั้นอย่างเย็นชา
    “นายจะทำอะไรเธอ...” เสียงเย็นชาเล็ดรอดออกมาจากริมฝีปากของร่างสูงที่ตัวเล็กกว่ากลุ่มอันธพาลโรงเรียน

    “แล้วเกี่ยวอะไรกับนาย...ไอ้รุ่นน้อง...” เสียงทุ้มของอีกคนหนึ่งดังขึ้นทำให้เยซองรู้ว่าพวกนี้คือรุ่นพี่ม.ปลายปีสาม
    “นายเป็นแฟนกับแทยอนเหรอ ?” เสียงของคนหนึ่งดังขึ้นพร้อมกับกลิ่นบุหรี่ซึ่งโรงเรียนห้ามสูบ

    “ฉันไม่ใช่แฟนของแทยอน...แต่เป็นเพื่อนของเธอ...” เยซองตอบเสียงเรียบและสะกิดแทยอนให้เป็นเชิงว่ารีบหนีไป แต่แทยอนส่ายหน้า

    “เพื่อนเหรอ...?” หัวหน้ากลุ่มคนเดิมกล่าว
    “แต่ที่นายทำมันเกินเพื่อนไปหน่อยล่ะมั้ง...ไอ้รุ่นน้อง !!!” สิ้นเสียงของหัวหน้ากลุ่มเขาก็ปล่อยหมัดเข้าที่หน้าที่ประดับไปด้วยแก้มป่องๆทั้งสองข้างของเยซอง

    ผลัวะ !

    เสียงหมัดกระทบกับใบหน้าดังขึ้นพร้อมทั้งเสียงกรีดร้องของแทยอน ร่างสูงกระเด็นลอยแล้วร่วงลงสู่พื้นแล้วแน่นิ่งไป

    “นายนี่มัน...ไร้ประโยชน์จริงๆ...” แทยอนเอ่ยพร้อมทั้งร้องไห้ออกมาเพราะคิดว่าคงไม่มีใครมาช่วยเธอได้แล้ว แทยอนมองหน้าหัวหน้ากลุ่มอย่างหมดหวัง

    “ถ้าขืนเธอพูดแบบนั้นอีกนะ...ฉันซัดเธอสามเปรี้ยงแน่ๆ” เสียงที่ดังขึ้นจากด้านหลังของแทยอนทำให้เธอต้องรีบหันไปดูและพบกับร่างสูงที่ลุกขึ้นยืนและเดินมาขวางเธอไว้ มือหนาเช็ดเลือดที่มุมปากเล็กน้อย

    “อะไรกัน...โดนหมัดของลูกพี่ไปก็น่าจะสลบแล้วนี่นา” เสียงของคนหนึ่งในกลุ่มดังขึ้น
    “ชิส์...” หัวหน้ากลุ่มทำเสียงในปากเบาๆพร้อมทั้งเดินออกมาด้านหน้าซึ่งห่างจากที่เดิมประมาณสองเมตร
    “มาสู้กันเลยดีกว่า ใครชนะได้ยัยนี่ไป” กติกาเรียบๆง่ายๆถูกสร้างขึ้นโดยหัวหน้ากลุ่มอันธพาลเนเวอร์ได

    เยซองหันไปมองหน้าแทยอนแล้วหันกลับมาพยักหน้าช้าๆเป็นเชิงตกลง ไม่รอช้าฝ่ายตรงข้ามปล่อยหมัดใส่เยซองอย่างเร็วและรัวมากทำเอาเยซองแทบตั้งรับไม่ทัน เยซองได้แต่ตั้งการ์ดไว้ทำให้ไม่มีโอกาสโต้ตอบเลย เมื่อซึงฮวานที่ปล่อยหมัดตลอดเวลาเริ่มเหนื่อย เยซองจึงผลักออกแล้วเอาหัวโขกใส่หน้าของซึงฮวานทันที เมื่อซึงฮวานเงยหน้าขึ้นมาก็พบว่าหัวของตัวเองมีเลือดออก เยซองถอยกลับไปยืนข้างๆแทยอนเมื่อเห็นว่าซึงฮวานไม่ตอบโต้

    “แก...แกทำให้ฉันเลือดออก !!!!” ซึงฮวานตะโกนลั่นและชักมีดที่ซ่อนไว้ออกมา
    “แกตายยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!!!!!!!!!!!” เสียงของหัวหน้ากลุ่มอันธพาลดังขึ้นราวกับเสียงของมัจจุราชคร่าชีวิตทำเอาเยซองสะดุ้ง เจ้าของร่างที่มีเลือดออกที่หน้าผากกำลังวิ่งมาเพื่อใช้มีดแทงคนที่ทำให้เขาต้องเลือดออก

    “เฮ้ย !!!!!!!!” เยซองตกใจมากแต่ก้าวขาไม่ออก ส่วนแทยอนก็ได้แต่ปิดตาและร้องไห้เงียบๆท่ามกลางเหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวายนี้

    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .

    “หยุดนะ !!!!!!” เสียงของเด็กสาวคนหนึ่งดังขึ้น แต่มันไม่ใช่เสียงของแทยอน ซึ่งทำให้ทุกอย่างหยุดลงทันที เยซองทิ้งตัวนั่งลงกับพื้นด้วยความโล่งอก แทยอนเปิดออกมาดูเจ้าของเสียงช่วยชีวิต

    “ซอฮยอน...” แทยอนเอ่ยขึ้นเบาๆและวิ่งไปหาเพื่อนสนิทของเธอทันทีแล้วโผเข้ากอดด้วยความดีใจ

    “ฉันไม่เห็นเธอเข้าเรียนตั้งแต่เธอลงไปหากระเป๋าเรียนแล้วล่ะ” ซอฮยอนกอดเพื่อนสาวเบาๆ

    “เกือบมีคนตายสิเนี่ย...” เจ้าของภาษาเกาหลีสำเนียงแปลกๆเอ่ยขึ้นพลางเดินไปหาเยซองและยื่นมาให้เยซองจับเพื่อลุกขึ้น
    “ฉันบอกนายแล้วไง... ว่าอย่าทำแบบนี้ !” ฮันกยองเอ่ยกับซึงฮวาน

    “ครับ...” ซึงฮวานก้มหน้ารับผิดและรับคำอย่างเชื่อฟังฮันกยอง

    ฮันกยองเป็นหัวหน้ามาเฟียคุมโรงเรียนกลุ่มใหญ่ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อกำราบกลุ่มอันธพาลโรงเรียนที่มักจะก่อเรื่องไม่เว้นแต่ละวัน และเนื่องจากฮันกยองเป็นรองประธานนักเรียนจึงไม่มีใครมากล้าแหยมกับเขา พวกกลุ่มอันธพาลมักจะนับฮันกยองเป็นส่วนใหญ่ เพราะพวกเขาคิดว่าฮันกยองคงจะมีอำนาจช่ยให้พวกเขาพ้นผิดได้

    “ดี...” ฮันกยองเดินกลับมาหากลุ่มคนที่มากับพวกเขา
    “ต่อจากนี้ก็หน้าที่นายแล้วนะ...ชีวอน...” คนพูดเกาหลีแปร่งเอ่ยกับเพื่อนสนิทและตบบ่าเบาๆ

    “อืม...ขอบใจนะ เกิง” ชีวอนเดินมาหากลุ่มของซึงฮวานและบรรยายกฎของโรงเรียนและบทลงโทษเมื่อกระทำผิดให้ทั้งกลุ่มฟัง

    “เยซอง...” เสียงคุ้นหูของเยซองดังขึ้น เขามองซ้ายมองขวาก็ไม่ยักกะเห็น

    “ใคร...” เยซองเอ่ยถาม

    “ฉันเอง รยออุก” เมื่อได้รับคำตอบแล้วเยซองก็มองต่ำลงมาเล็กน้อยจึงเห็นร่างของรยออุกที่ยืนก้มหน้าอยู่ตรงหน้าเขา
    “ฉันขอโทษนะที่ปล่อยนายให้อยู่คนเดียว” รยออุกเอ่ยพลางกอดเยซองไว้หลวมๆ

    “เยซอง...” อีกเสียงหนึ่งดังขึ้น
    “ฉันก็...ขอโทษนะ...ที่ไม่ให้นายไปที่อังกฤษน่ะ...นายก็เลยหนีมาใช่มะ... แต่ว่า...ตอนนี้ฉันให้นายไปได้แล้วนะ จากใจจริงเลยนะ” คำพูดที่ไม่ได้เรียบเรียงให้ดีซะก่อนดังมาจากปากของเด็กหนุ่มร่างสูงตำแหน่งประธานนักเรียนม.ปลายปีหนึ่ง

    “ฉันไม่ได้โกรธนายเรื่องนั้นซะหน่อย” เยซองเอ่ยเสียงเรียบ

    “เหรอ... งั้น...วันเสาร์นี้เจอกันที่สนามบินนะ...” คยูฮยอนเอ่ยพลางดูที่รอยฟกช้ำตามตัวของเยซองที่เกิดจากการปะทะกันเมื่อครู่

    “เฮ้อ...มีนายที่ไหน มีเรื่องที่นั่นตลอดเลย...” เสียงไม่คุ้นหูดังขึ้นทำเอาคยูฮยอนหันมามองจนหัวแทบหลุด เมื่อเห็นว่าคนที่พูดเป็นใครคยูฮยอนก็แปลกใจขึ้นมาทันที

    “หมายความว่ายังไง ซองมิน” คยูฮยอนแกล้งถาม แต่ในใจนั้นรู้อยู่แล้ว ซองมินนั้นหมายถึงเยซองซึ่งมักจะไม่ค่อยมีคนคบ

    “ก็หมายความอย่างที่พูดนั่นแหละ” ซองมินเดินผ่านหน้าคยูฮยอนมาดูเยซองที่ไม่ได้ฟังบทสนทนาเมื่อครู่ คยูฮยอนนึกขอบคุณพระเจ้าที่เขาไม่ได้พูดกับซองมินตั้งแต่แรก

    “หมอนี่เย็นชาชะมัด” คยูฮยอนเอ่ยเบาๆแต่มันก็ทำให้ซองมินได้ยินอย่างชัดเจน

    “หวังว่านายคงไม่ได้พูดนะ” ซองมินหันมาพูดกับคยูฮยอนก่อนที่จะมองไปที่เยซองที่มีรอยฟกช้ำตามใบหน้า ทำเอาคยูฮยอนอารมณ์เสียกับความเฉยชาของซองมิน


    “เธอไม่เป็นอะไรนะ แทยอน” เด็กสาวผมสั้นคนหนึ่งเอ่ยขึ้นพลางมองไปรอบๆตัวของคนที่อยู่ในเหตุการณ์วุ่นวายเมื่อสักครู่

    “ฉันไม่เป็นอะไรหรอก ทิฟฟานี่” แทยอนยิ้มให้เพื่อนสาว

    “เรื่องนี้เธอต้องขอบคุณเยซองเค้าเลยนะ” เด็กสาวผมยาวสีบลอนด์บอกพลางมองไปยังเด็กหนุ่มคนที่กำลังยืนคุยกับเพื่อนสนิทด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม

    “ห๊ะ ! ว่าไงนะ ! ทำไมฉันต้องไปขอบคุณเจ้าไร้ประโยชน์นั่น ?!” แทยอนพูดเสียงดัง

    “ก็เขาช่วยเธอนะ แทยอน” ซอฮยอนกล่าว

    “ไม่เห็นจะช่วยอะไรเลยนี่” แทยอนยังคงดื้อดึง

    “เฮ้อ...ทำไมเธอดื้ออย่างนี้นะ” เจสสิก้าเอ่ยอย่างปลงๆกับความดื้อด้านของเพื่อน

    “ก็เพราะเค้าช่วยเธอ” ทิฟฟานี่เสริมและคิดว่าคงจะกล่อมแทยอนได้

    “เธอน่าจะขอบคุณเค้าบ้างนะ เค้าไม่ได้ทำให้เธอเจ็บตัวเลยนี่นา” ซอฮยอนเสริมอีก

    “และเขาก็เป็นฝ่ายเจ็บตัวแทนด้วยนะ ดูสิ ฟกช้ำไปทั้งตัวเลย” เจสสิก้าพูดและชี้นิ้วไปยังเยซองที่กำลังเอาผ้าเช็ดหน้ามาประคบรอยช้ำ

    “เขาช่วยเธอขนาดนั้นแล้วเธอไม่คิดจะขอบคุณเขาเลยเหรอ ?” ซอฮยอนเอ่ยพลางแสร้งหน้าหมอง

    “เธอใจร้าย” ทิฟฟานี่พูดและคอยมองดูกิริยาของแทยอน

    “เออ ! ก็ได้ๆๆๆ ฉันจะไปขอบคุณเค้า” แทยอนเริ่มทนไม่ไหวเพราะถูกเพื่อนๆรุมและเดินไปหาเยซองอย่างเงียบๆ
    “นี่นาย...” แทยอนสะกิดไหล่เยซองที่กำลังคุยอยู่กับเพื่อนของเขา

    “มีอะไรเหรอแทยอน ? เธอไม่เป็นอะไรใช่มั้ย ?” เยซองถามด้วยความเป็นห่วง เนื่องจากเธอเป็นผู้หญิงย่อมบอบบางกว่าผู้ชาย

    “คนอย่างฉันน่ะเหรอจะเป็นอะไรได้” แทยอนพูดเสียงเรียบ

    “ไม่รู้สิ แต่เห็นหนีหน้าตั้งมาอย่างนั้น” เยซองแซวเล่นๆ

    “ไม่ใช่ซะหน่อยนะ !!” แทยอนพูดเสียงดัง

    “ฮ่าๆๆๆ แล้วเธอมีอะไรเหรอถึงได้เรียกฉัน ?” เยซองถาม

    “ก็...ขอบคุณนะ...” แทยอนเอ่ยเบาๆและเดินหนีไป เยซองมองตามพลางยิ้มเลื่อนลอย

    “แปลกคน...” เยซองแค่นยิ้มพลางนึกถึงเมื่อก่อนที่เขาและแทยอนทะเลาะกันบ่อยๆ ทั้งสองคนเป็นพี่น้องที่ไม่ถูกกันตั้งแต่เด็กๆแล้ว

    ...

    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .

    ...

    วันเสาร์ ณ สนามบินอินชอน

    “ให้ตายเถอะ ! ...ที่เธอโทรไปบอกฉันตั้งแต่เมื่อวานว่าเพื่อนๆของเธอจะไปด้วย ฉันก็นึกว่าจะมีคนเดียว” ร่างสูงมองกลุ่มหญิงสาวชั้นม.ปลายปีหนึ่งสี่คนที่ยืนยิ้มเกาะกลุ่มกันอยู่

    “แล้วมันไม่ดีเหรอ ?” ซอฮยอนถามร่างสูงที่กำลังมองกลุ่มของพวกเธออยู่
    “ไปหลายๆคนดูอบอุ่นดีออกนะ” เด็กสาวยิ้มให้

    “ก็ได้...ถ้างั้นฉันก็ต้องฝากพวกเธอดูแลซอฮยอนด้วยนะ” คยูฮยอนเอ่ยกับแทยอน ทิฟฟานี่ และเจสสิก้าที่ขอตามซอฮยอนไปอังกฤษด้วย


    “แล้วเราจะได้ไปตอนไหน ?” เด็กหนุ่มตัวเล็กเอ่ยถามเพื่อนสนิทเมื่อเขาและเพื่อนๆนั่งรอมาเกือบชั่วโมงครึ่งแล้ว

    “ต้องรอไกด์ก่อนน่ะ เราไปเครื่องบินส่วนตัวที่ลงจอดที่โรงเรียนเลยจึงต้องมีไกด์ไปด้วย” คยูฮยอนพูดพลางมองไปรอบๆเพื่อหาไกด์ที่แต่งชุดสีแดงอ่อนซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของโรงเรียน‘Gilford Essence School’ แล้วเขาก็พบหญิงสาวคุ้นหน้าคุ้นตาของเขาในชุดกระโปรงสีแดงอ่อนและมีสัญลักษณ์รูปมังกรแดงและอักษร ‘GES’ อยู่บนชุดที่กำลังโบกมือเรียกเขาและเดินมาหาอย่างเร่งรีบ
    “พี่ฉัน...” คยูฮยอนแทบเอามือตีหน้าผากเมื่อเห็นไกด์ที่เขารอ

    “ไงจ๊ะ...คยูฮยอน รอนานมั้ย ?” อาราถามน้องชายทันทีที่เดินมาถึง

    “ก็...ไม่นานหรอกครับ” คยูฮยอนยิ้มแหยๆ
    ‘แค่สองชั่วโมงเอง’ คยูฮยอนต่อท้ายประโยคในใจ

    “พวกเธอคือเพื่อนของคยูฮยอนสินะ” อารายิ้มให้กับนักเรียนม.ปลายปีหนึ่ง
    “พี่ชื่อโจอารา พี่สาวของคยูฮยอน พวกเธอแนะนำตัวให้พี่รู้จักหน่อยสิจ๊ะ” อาราเดินมาหาคนที่อยู่ใกล้ที่สุด และนักเรียนทั้งเจ็ดคนก็ยืนเรียงหน้ากระดานอย่างอัตโนมัติ

    “คิมจงอุน หรือ เยซองครับ อยู่ห้อง 17 ห้องเดียวกับคยูฮยอน” เยซองแนะนำตัวอย่างเรียบง่ายเพราะว่าเขากับอารารู้จักกันมาก่อน อาราจับมือทำความรู้จักและเดินถัดไป

    “ผมชื่อคิมรยออุกครับ ห้อง 17” รยออุกเกร็งเล็กน้อยเพราะเขาไม่ค่อยได้เจอกับพี่สาวของคยูฮยอน อารายิ้มให้และลูบศีรษะอย่างเอ็นดูแล้วเดินถัดไป

    “อีซองมิน ห้อง 7 ครับ” ซองมินโค้งศีรษะให้อย่างนอบน้อม อาราพยักหน้าและเดินผ่านไป

    “คิมแทยอน ห้อง 7 ค่ะ” แทยอนแนะนำตัวอย่างสบายๆเพราะว่าเธอรู้จักกับอาราตั้งแต่เด็กๆ เพราะพี่ชายของเธอและเธอมักจะไปหาพี่สาวคนนี้ที่บ้านประจำ

    “ทิฟฟานี่ สเตฟานี่ ฮวังมิยองค่ะ ห้อง 7 เช่นกันค่ะ” ทิฟฟานี่โค้งศีรษะและยิ้มสดใสให้อารา

    “เจสสิก้า จองซูยอน ห้อง 7 ค่ะ” เธอยิ้มให้และโค้งศีรษะเล็กน้อย

    “ซอจูฮยอน หรือ ซอฮยอนค่ะ” ซอฮยอนยิ้มให้ อารายิ้มตอบและลูบศีรษะอย่างเอ็นดู

    “ครบแล้วใช่มั้ยจ๊ะ ? งั้นพี่จะพาขึ้นเครื่องเลยนะจ๊ะ” อาราเดินนำไปในห้องๆหนึ่งซึ่งอยู่ภายในเครื่องบิน
    “พวกเธอสามารถนอนพักอยู่ในห้องพวกนี้ได้เลยนะจ๊ะ” อาราชี้ห้องต่างๆให้ดูซึ่งดูหรูหราราวกับอยู่ในโรงแรม
    “ตามสบายเลยนะจ๊ะ” อารายิ้มให้และเดินไปยังห้องควบคุมของนักบิน

    “โว้ว~ววว ห้องหรูเป็นบ้า...” แทยอนมองอย่างตื่นตาตื่นใจ

    “นั่นสิ” ทิฟฟานี่เสริม

    “เครื่องบินอะไรยังกับโรงแรม” เจสสิก้าพูดพลางมองไปรอบๆ

    “ห้องสวยจริงๆ” ซอฮยอนเอ่ยชมบ้าง

    “ดีกว่าบ้านเจ้าคยูอีก” เยซองเอ่ยพลางเดินไปลูบผนัง
    “เป็นวอลเปเปอร์ซะด้วย”

    “สวยว่ะ ฉันว่ามันต้องแพงแน่ๆเลย” รยออุกกล่าว

    “ให้ตายเถอะ เจ้าพวกนี้” คยูฮยอนระอาใจกับเพื่อนๆของเขาแต่ละคนที่กำลังลูบๆคลำๆเครื่องบินส่วนตัวของตระกูลเขา

    “พวกบ้านนอก...” เสียงเรียบและเย็นชาเอ่ยมาจากคนคนหนึ่งที่กำลังนั่งบนโซฟาและฟังmp3อยู่ แต่ก็ไม่ได้เสียงดังจนทำให้คนอื่นได้ยินนอกจากคยูฮยอน

    “ถ้าฉันรู้ว่านายเป็นแบบนี้ ฉันไม่ให้มาด้วยหรอก” คยูฮยอนพึมพำและเดินไปนั่งกับซอฮยอนที่นั่งอยู่โซฟาอีกตัว
    “นั่งด้วยนะ”

    “อืม...” ซอฮยอนตอบยิ้มๆและขยับให้คยูฮยอนนั่ง

    “วู้ว~ววว สวีทกันจริงๆเลยนะ” แทยอนแซวเมื่อเห็นคยูฮยอนกับซอฮยอนนั่งด้วยกัน

    “ถ้าเธอไม่อยากถูกเตะตกเครื่องบินก็หยุดพูดเลยนะ” คยูฮยอนว่าใส่ด้วยสีหน้าอมชมพูอันเกิดจากอาการอาย

    “ฮ่าๆๆๆๆ ครับผม กระผมจะไม่พูดอีกแล้ว” แทยอนล้อเลียนและหนีไปนั่งกับทิฟฟานี่และเจสสิก้าเพื่อหลบนิตยสารที่คยูฮยอนกำลังจะขว้างมาใส่

    ทุกคนบนเครื่องบินกำลังมีความสุขและเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ แต่ไม่ใช่กับคนที่กำลังนั่งโซฟาเดี่ยวและกำลังฟังmp3อยู่ มือเรียวเปิดเสียงเพลงให้ดังขึ้นและมองจ้องไปยังชายหนุ่มที่นั่งคู่กับเด็กสาว ดวงตาสวยบนใบหน้าหวานกำลังส่งสายตาไปยังเด็กสาวที่นั่งข้างๆชายหนุ่มอย่างโกรธแค้น มือที่ถือmp3อยู่เกิดรอยร้าวขึ้นเมื่อมือเรียวกำแน่น ฟันขบกันแน่นดังกรอดๆ

    ‘มีความสุขไปเถอะ...อีกเดี๋ยวก็จะไม่มีมันแล้ว โจคยูฮยอน !!!’


    --------------------------------------------------------------------------------------

    ในที่สุดก็อัพได้ซะที ^0^

    เมื่อคืนนี้นั่งแต่งทั้งคืนเลย

    โอ๊ะ! ซองมินจะทำอะไรคยูฮยอนกันแน่หนอ

    ถ้าอยากรู้โปรดติดตามตอนต่อไป ~

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×