ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เกิดเป็นต้นไม้ทั้งที จะขอลุยให้เต็มที่่ครับ ( yaoi )

    ลำดับตอนที่ #35 : ตอนที่ 29 : คำเชิญจากผู้วิเศษ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 540
      54
      12 ก.พ. 64

    ตอนที่ 29 : คำเชิญจากผู้วิเศษ



         ทวีปแกรด์ฮูป  วิหารเทพพฤกษาในตอนนี้ได้มีสมาชิกเพิ่มขึ้นอีก 2 คน ทำให้ตอนนี้มีผู้อาศัยอยู่ในวิหารนี้ทั้งสิ้น 12 คนได้แก่

              เทพแห่งพฤกษา และ การเยียวยา ริเก็นริว ซาโรไวท์

              เทวฑูติ ว่าที่เทพแห่งโชคซะตา อดามัส

              มารชั้นสูงสุด อดีตผู้นำของเหล่าเทวา นัวร์

              เฟลม ผู้พิทักษ์ธาตุไฟ เผ่ามังกรอัคคี 

              เฟียร์  ผู้พิทักษ์ธาตุลม เผ่าแฟรี่มรกต 

              จินเรย์ ผู้พิทักษ์ธาตุน้ำ เผ่าเงือกไร้ลักษณ์ 

              เกอารอน ผู้พิทักษ์ธาตุดิน เผ่าคนแคระ 

              โซทเตอร์ ผู้พิทักษณ์ธาตุวิญญาณ 

              โอแกรน  ผู้พิทักษณ์ธาตุความมืด 

              ชินจา ผู้พิทักษ์ธาตุแสง 

              เอไลจาห์  ผู้มีฉายาในสงครามชิงทรัพยากรว่า เจ้าชายรัตติกาล เผ่าแวมไพร์ บุตรชายคนโตของ กุหลาบเลือด ผู้นำเผ่าแวมไพร์ในทวีปแคสเซนมูน ทวีปของเหล่าปีศาจที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 จาก 14 ทวีปของโลกใบนี้

              ( ไม่ได้นับ ดินแดนของเหล่าเทวา ที่อยู่เหนือ 2 ทวีปของมนุษย์ ดินแดนของเหล่าเซียนที่อยู่ในทวีปเฮยหลง และ หอรัตติกาลของเหล่านักฆ่า )

              ไรเซอร์   ผู้มีฉายา สายฟ้าคลั่ง เผ่ามนุษย์หมาป่าเพียงคนเดียวที่มีธาตุไฟฟ้าในรอบหลาย 1,000 ปี  บุตรของจอมพลเผ่าแวร์วูฟ ของทวีปแคสเซน มูน

              ในตอนนี้ ผู้มาใหม่ทั้งสองคนกำลังโดนหนึ่งมาร หนึ่งเทวฑูต มองเขม่งอยู่อย่างไม่สบอารมณ์ เพราะอ้อนริเก็นริวเกินขอบเขตที่ทั้งคู่จะรับได้ โดยมีสองเทพนั่งมองไปหัวเราะไปอยู่อย่างไม่สามารถหยุดได้เมื่อมองสิ่งที่หนึ่งมาร หนึ่งเทวฑูตจับมือกันทำ

              ภาพของสองแวมไพร์และแวร์วูฟถูกมัดรวมกันแล้วมัดติดกับเสาวิหารอีกที หากคิดตามหลักความเป็นจริงของเผ่าพันธุ์ทั้งสองแล้วย่อมไม่สามารถพบเห็นได้ง่ายๆ แต่ ทั้งแวมไพร์และแวร์วูฟที่ถูกมัดรวมกันอยู่นั้นต่างมีพื้นฐานของดวงวิญญาณดวงเดียวกัน ทำให้ไม่เกิดการทะเลาะอย่างหนักหน่วงเท่าที่ควร อีกทั้งเพราะอยู่ในวิหารของคนรักด้วย เอไลจาห์ และ ไรเซอร์ จึงทำได้แต่นั่งนิ่งๆจนกว่าน้องเขย และ พี่ใหญ่ของตนจะพอใจ

              ( หากนักตามการแบ่งดวงวิญญาณของเทพต่างมิติ นัวร์ เป็น พี่คนโต  เอไลจาห์ เป็นคนที่ 3 ไรเซอร์ เป็นคนที่ 4 )

              "  นี่  . . . "   ริเก็นริวที่ถูกนัวร์ และ อดามัส แย่งชิงตักไปจาก หนึ่งแวมไพร์ หนึ่งหมาป่า มองท่าทางนอนหลับของทั้งคู่อย่างอ่อนใจปนพูดไม่ออก สลับกับท่าทางราวกับพยายามฉีกเชือกที่มัดเอาไว้อย่างเบามือเพื่อไม่ให้เสาวิหารหักตามของผู้ที่โดนมัดอยู่ ก็เปลี่ยนเป็นถอนหายใจออกมาแทน เรียกเสียงหัวเราะจากสองเทพได้ยิ่งกว่าเดิม

              " น้องชายข้ากลายเป็นมีคนรักก่อนพวกข้าไปเสียแล้ว เนอะ ท่านพี่ " คาซาฮา พยายามหยุดหัวเราะอย่างอยากลำบากเมื่อมองสภาพของ 2 ปีศาจ ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น 1 ในผู้ที่มีพลังทำลายล้างสูงสุดของเผ่าปีศาจ หันไปพูดกับโฮคาเชียร์ที่เลิกขำไปก่อนตน

              "   ใครว่า สายน้ำก็ใกล้จะแต่งงานกับเทวฑูติแห่งกาลเวลาไม่ใช่รึไง ? "  โฮคาเชียร์บอกพลางนึกไปถึงเทวฑูติบางตนที่ทำหน้ามึนเดินเข้าไปในแต่ล่ะวิหารของเทพทั้ง 7 เพื่อจะบอกว่ากำลังจีบน้องสาวเพียงคนเดียวของพวกตน โดยไม่ได้สนใจเลยว่าวิหารแต่ล่ะวิหารเดินทางเข้าไปได้อยากขนาดไหน  เช่นวิหารของพี่คนโตทั้งสามที่อยู่คนล่ะภพที่ทางเข้าไปก็แสนจะอันตรายระดับที่ แม้แต่จอมเวทย์หรือผู้วิเศษที่ถูกเล่าขานกันว่าเก่งที่สุดยังคงคิดหนักว่าจะคุ้มกันหรือไม่กับการเดินเข้าไป แต่เจ้าเทวฑูติที่ว่ากลับผ่านเข้าไปอย่างหน้าตาเฉย เป็นที่ถูกอกถูกใจของพี่ๆทั้งสามเป็นอย่างมาก

              " สายน้ำ . . . พี่เรราเทล กำลังจะแต่งงานเหรอขอรับ ? ท่านพี่โฮคาเชียร์ "  ริเก็นริวที่ได้รับความทรงจำของวิญญาณคืนได้ค่อยๆยกศีรษะของน้องชาย กับ ผู้เป็นที่รักลงวางบนก้อนนุ่นที่งอกออกมารอ ก่อนจะเดินเข้าไปกอดพี่ชายทั้งสองด้วยความคิดถึง

              "  อืม . . . พวกเจ้าไม่ต้องตัดการรับรู้หรอก เรื่องพวกนี้หากจะฟังก็ฟังได้ ถ้าเป็นเมืองของเหล่านางเงือกนายเงือกล่ะก็ ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีเลยล่ะนะ "  โฮคาเชียร์ลูบหัวริเก็นริวที่หลับตาอยู่ บอก 2 ปีศาจที่พยายามตัดประสาทหูของตนเพราะคิดว่าเป็นเรื่องที่ไม่สมควรรับรู้ด้วยแววตาเหนื่อยใจกับนิสัยของสองปีศาจที่ดูจะแปลกไปจากเดิมราวกับค้นพบแสงของชีวิตเป็นที่เรียบร้อย

              " เรราเทล กำลังจะแต่งงานกับ โคนอส เทวฑูติแห่งการเวลา หลังจากที่ทั้งคู่คบกันมาเกือบร้อยกว่าปีแล้วล่ะ "  โฮคาเชียร์ตอบคำถามของริเก็นริวแทนการสนใจสองหน่อที่เริ่มแสดงนิสัยแปลกๆออกมาทีล่ะนิด  โดยมีคาซาฮาทำท่าทางเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่

              " อ๋อ ! เจ้าหนุ่มหน้ามึนที่บินฝ่าวังวนสายสมที่ข้ากับเฟียร์สร้างนั้นเอง ! "  เทพแห่งสายลมที่นึกหน้าตาของโคนอสออกอุทานขึ้นอย่างดีใจ เพราะน้อยคนนักที่จะสามารถบินผ่านวังวนสายลมที่เกิดจากการนำพายุหมุนลูกเล็กใหญ่มาวางไว้รอบๆวิหาร ทั้งยังใส่กระแสลมที่แตกต่างกันไปเพื่อสร้างความยากลำบากในการบิน ลูกแก้วสายลมที่จะดูดร่างของผู้ที่แตะโดนแล้วส่งออกมาด้วยความเร็วมากกว่าเดิม ถือเป็นผลงานชิ้นเอกของตนกับเฟียร์เลยทีเดียว และยังคลายคลึงกับแบบทดสอบที่ริเก็นริวได้เจออีกด้วย

              " โครนอส เทวฑูติแห่งการเวลาอันดับ 1 ในสิบเทวฑูติที่แข็งแกร่งที่สุด ผู้ที่ใกล้จะกลายเป็นเทพในอีก 5 วันขอรับ "  อดามัสที่ยังคงนอนอยู่บนนุ่นที่พี่ชายเป็นคนสร้างอธิบายเมื่อเห็นท่าทางงวยงงของริเก็นริว เพราะตนเป็นผู้รวบรวมข้อมูลของเหล่าผู้แข็งแกร่งของโลกใบนี้ตั้งแต่ตอนที่ท่านอาฮาชารับตนไปสอนงานใหม่ๆ เพื่อป้องกันไม่ใครมีใครอยากลองดีโดยไม่มองว่ากำลังของตนเองมีเพียงพอที่จะสู้ด้วยหรือไม่

              " ถ้างั้นท่านพี่เรราเทลจะแต่งงานวันไหนขอรับ ? ท่านพี่โฮคาเชียร์ "  ริเก็นริวถามด้วยความสนใจ ก่อนจะถูกเทพแห่งไฟผลักหน้าออกไปเบาๆเพราะยื้นหน้ามาใกล้ตนมากเกินไป และขัดใจอะไรบางอย่าง

              "  แสงสว่าง ที่ 9 แห่งพฤกษา ( เดือนแสงสว่าง วันที่ 9 ปีพฤกษา ) แล้วก็ช่วยพูดเหมือนกับตอนที่ยังไม่ได้ความทรงจำของเยียวยาได้หรือไม่ เพราะพวกข้าชินกับการพูดของเจ้าตอนที่ยังคงเป็น ซาโตรุ ริเก็นริวเสียมากกว่า และอีกอย่าง ไม่ใช่ว่าเหล่าผู้คนของโลกนี้จะไม่ใช่ ครับ ค่ะ ผม ฉัน เลยเสียเมื่อไร เหล่าผู้หลงทางก็มีมาอยู่เรื่อยๆ เข้าใจไหม ? น้องชายของข้า "  ว่าแล้วโฮคาเชียร์ก็จัดการยี่หัวของน้องเล็กไปทีหนึ่ง

              " เข้าใจครับ พี่โฮคาเชียร์ อุ เจ็บเหมือนเดิมอะ "  ริเก็นริวตอบรับเสียงอ่อยพลางลูบหัวตัวเองไปมาเพื่อหวังว่าจะคลายความปวดลงเล็กน้อยก็ยังดี

              "  พวกเจ้าจะไปด้วยก็ได้นะ ถือว่า ข้า เทพแห่งไฟเป็นคนเชิญเอง " โฮคาเชียร์หันไปบอกสองปีศาจ หนึ่งมาร ที่ทำท่าทางราวกับจะพุ่งเข้ามาปลอบน้องชายของตนทันที ถ้าไม่มีสายลมของคาชาฮาค่อยบังเอาไว้

              "  ขอข้ากอดน้องชายก่อนสิ ท่านพี่ ข้ายังกอดได้ไม่หนำใจเลยนะ อุสสาห์ได้พบกันแล้วแท้ๆ " ว่าแล้วคาชาฮาก็คว้าตัวริเก็นริวไปกอดโดยเมินสายตาที่ส่งมาทั้ง 3 คู่อย่างสิ้นเชิง

              ' เวทมนตร์  ร่างกาย  โลหิต  ทั้งสามใกล้จะกลับมาครบดังเดิมแล้ว จึงไม่ได้เกร่งกลัวเทพดังเช่นพวกท่านโฮคาเชียร์เหมือนดังสมัยก่อน เหลือเพียงความทรงจำ กับ อารมณ์  ที่ หนึ่งกลับคืนมาเต็มตั้งแต่กำเนิด และอีกหนึ่งถูกผนึกเพื่อผลประโยชน์ของเหล่าผู้โลภมาก '   อดามัสลุกขึ้นมองความวุ่นวายตรงหน้าด้วยสายตาว่างเปล่า แม้จะมีความรู้สึกน้อยใจอยู่เพียงเล็กน้อย แต่พอคิดว่าตนเป็นน้องชายของท่านพี่เพียงคนเดียว ต่างจากเหล่าคนรักของท่านพี่ที่มีกัน 5 คน แม้ตอนนี้ปรากฏเพียง 3 ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกยินดีกับการเป็นน้องชายเพียงคนเดียวของริเก็นริว ทำให้เทวฑูติหนุ่มสามารถล้มตัวลงไปนอนต่อด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า

              " ท่านริเก็นริว ! "  เงาสีน้ำตาลพุ่งเข้ามาในวิหารอย่างรวดเร็วก่อนจะหยุดลงตรงหน้าของริเก็นริวที่หลุดจากแขนของคาชาฮาได้เป็นที่เรียบร้อย

              "  ฟีเมอร์ ? มีอะไรเหรอครับ ? "  ริเก็นริวมองเอลฟ์โบราณที่ได้รับตำแหน่งหัวหน้าหน่วยลาดตะเวนมาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าก็ถามอย่างสงสัย เพราะส่วนใหญ่หากไม่มีเรื่องเกินรับมือเหล่าผู้อยู่ในหน่วยลาดตะเวนก็จะไม่ค่อยออกมาให้เห็น

              " มีสารมาถึงท่านขอรับ เป็นจดหมายเวทย์ "  ว่าแล้วฟีเมอร์ก็ยื่นจดหมายเวทย์ที่ไม่มีไอหรือจิตสังหาร รวมทั้งมนตราจำพวกคำสาป ให้แก่ริเก็นริว

              " ขอบคุณครับ ฟีเมอร์ "

              " เป็นเกียรติของข้าที่ได้รับใช้ท่านขอรับ ! " ฟีเมอร์รับคำชมจากริเก็นริวด้วยรอยยิ้มดีใจ ก่อนจะกระโดดออกไปจากวิหารเพื่อทำหน้าที่ของตนต่อ

              ริเก็นริวมองจดหมายที่อยู่ในมือด้วยความสงสัย ปนความรู้สึกคุ้นเคยไปมา  จัดการคลายเวทย์มนตร์ส่งสารที่ประทับอยู่ออก  ทำให้จดหมายในมือเริ่มเปลี่ยนแปลงไปกลายเป็นดอกกุหลาบจากไอเวทย์ของผู้สร้างแทน

              [ ขอเชิญเทพแห่งพฤกษา  ริเก็นริว ซาโรไวท์มางานเลี้ยงของเหล่าพ่อมดแม่มด กับ ผู้วิเศษ                      ]
                                                                            จาก ผู้วิเศษ อแมนนอส  กริม  เดอะซีกราวด์ ]

              " คำเชิญจากผู้วิเศษ ? " ริเก็นริวนิ่วหน้าเล็กน้อยเมื่อรับรู้ว่าใครเป็นคนส่งมา เพราะเหล่าผู้วิเศษ หากไม่ขาดก็เกิน มีน้อยคนนักที่จะมีนิสัยน่าคบหา จากประสบการณ์การฟื้นฟูแต่ล่ะดินแดนผ่านรากของตน

              " โอ้  ดูท่าจะมีเรื่อยวุ่นวายน่าดู "  โฮคาเชียร์ลูบคางของตนอย่างสนใจกับคำเชิญนี้ โดยมีคาชาฮาพยักหน้าอย่างเห็นด้วย

              " ถึงจะเป็นอย่างนั้นก็เถอะครับ "

              " ในเมื่อได้รับเชิญทั้งที ก็ต้องไปอยู่แล้วครับ "


    *******************************************************************************************************

              ยามที่ข้าลืมตาขึ้นเป็นครั้งแรก ก็รับรู้ได้ว่าตนนั้นคือใคร เคยเป็นใครมาก่อน พร้อมๆกับความทรงจำมหาศาลภายในหัว

              เฝ้ารอมาเป็นเวลาหลายร้อยปีเพื่อท่านเพียงผู้เดียว ไม่ยุ่งเกี่ยวกับใคร ไม่ให้ความหวังใคร อยู่แต่ในปราสาทหลังนี้ เฝ้าฝึกฝนตัวเองให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปอีก เพื่อให้เหมาะสมกับท่าน

              ในที่สุดเราก็จะได้พบกันแล้ว

              ในที่สุดข้าก็จะได้ยื่นอยู่ตรงหน้าท่าน

              ไม่ใช่ทำได้เพียงมองผ่านกระจกวารี

              ไม่ใช่ทำเพียงคิดถึงท่านอยู่ในความฝัน

              ดวงใจของข้า

              ข้ารอท่านมาเนินนานเหลือเกิน

              นานเสียจนเวลาของข้าใกล้จะหมดลงเสียแล้ว




    ******************************************************************************

    มาแล้วววว
    ขอโทษที่หายไปนานจ้า
    ขอบคุณที่ยังรออ่านกันอยู่เด้อ
    ขอบคุณสำหรับคอมเมนต์และกำลังใจของทุกตอนจ้า
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×