ลำดับตอนที่ #30
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #30 : ตอนที่ 24 : สงครามของเหล่าเทวา ( 5 )
เมื่อแสงแรกของรุ่งอรุณมาเยือนสงครามที่จะตัดสินว่าใครจะเป็นผู้ถูกต้องก็ได้เปิดม่านขึ้นมา
เซราเอลยืนมองกองทัพของฝ่ายศัตรูทั้งสองอยู่บนก้อนเมฆที่เทวาผู้สามารถควบคุมเมฆได้เป็นคนสร้างขึ้นให้แม่ทัพได้มองเห็นทัพของศัตรู
' กลัวงั้นเหรอ ? เซราเอล ' เสียงที่ดังกังวาลในหัวเรียกดวงตาสีน้ำเงินเข้มให้หันไปมอง
" ท่านเวอร์ . . . ท่านนัวร์ ! " นัวร์ยิ้มให้กับเทวาหนุ่มผู้เปรียบดังน้องชายที่เคยอยู่ในการดูแลของตนพร้อมกับยื่นมือไปลูบศีรษะเบาๆอย่างปลอบโยน
' ไม่เป็นไรหรอก ริวเค้าบอกว่าจะช่วยพวกเจ้า ท่านโฮคาเชียร์ กับ ท่านอาฮาชาก็เช่นกัน ' ดวงตาสีแดงเลือดเปร่งแสงออกมาอย่างน่าหวาดกลัวเมื่อนึกถึงสิ่งที่ตน และ พวกผ้องถูกกระทำมา ' หนี้แค้นของพวกเจ้าที่ติดค้างเอาไว้จะใช้คืนให้หมดสิ้นในวันนี้อย่างแน่นอน '
" ขอรับ ! พวกข้าก็เช่นกัน " เซราเอลรับคำโดยมีเหล่าเทวาที่มีฝีมือด้านการต่อสู้ที่ยืนอยู่ข้างหลังตะโกนขึ้นมาเป็นการเห็นด้วย
เทวาหนุ่มผู้เป็นแม่ทัพหลับตาลงเพื่อรวบรวมสมาธิก่อนจะลืมตาขึ้นแล้วตะโกนอย่างสุดเสียงของตน " ไปกันเถอะเหล่าพี่น้องของข้า สู่สงครามแห่งการตัดสินครั้งนี้ เพื่อสวนสวรรค์ที่พวกเราปราถนา เพื่อความสงบสุข และ เพื่อนำพาสถานที่ที่เรียกว่า บ้าน ดังเดิมกลับคืนมา !!! "
" เฮ้ !!!!!! " เหล่าเทวาภายใต้การนำทางของเซราเอลกู่ร้องปลุกใจ แล้วเริ่มโจมตีตามแผนที่วางไว้ทันที ใครมีหน้าที่โปรบเมล็ดก็สู้ไปโปรยไป ใครมีหน้าที่สั่งการทำงานของกับดักก็เริ่มลงมือพร้อมกับให้ความช่วยเหลือเหล่าสหาย และ ใครที่สามารถสู้อย่างชำนาญก็จู่โจมได้โดยไม่ต้องใจสิ่งใด เพราะได้นัวร์ที่กลายเป็นมารกำลังร่ายเวทย์ป้องกันและเสริมสถานะระดับสิบให้แก่ทุกคน
" เริ่มแล้วล่ะครับ ท่านพี่ " อดามัสที่บินมองภาพรวมของสงครามบอกผู้เป็นพี่ชายของตนที่ตอนนี้มีเหล่าต้นได้ดอกไม้เกิดขึ้นมาใต้พื้นดินที่ริเก็นริวยืนอยู่
" ยังก่อนดาจัง ยังเหลืออีกมากเลยล่ะกว่าเมล็ดพืชเหล่านั้นจะกระจายไปทั่วสนามรบ " ริเก็นริวที่เชื่อมต่อกับเหล่าเมล็ดพืชที่เทวาฝ่ายเซราเอลเป็นผู้โปรยบอก พร้อมกับส่งลูกบอลลมไปซัดเทวาฝ่ายศัตรูที่ลอบเข้ามาโจมตี
เสียงการต่อสู้ของเหล่าดังกังวาลไปทั่วผืนฟ้าทำให้เหล่าผู้ที่อาศัยอยู่ด้านล่างได้ยินเช่นกันเนื่องจากดินแดนของเหล่าเทวานั้นเป็นเพียงเมฆที่รวมตัวกันไม่ได้เป็นเหมือนเกาะลอยฟ้า
เหล่าผู้ทรงอำนาจที่ได้ยินเสียงการต่อสู้นี้ต่างเงยหน้าขึ้นมองดูราวกับจะจ้องจนกว่าพวกตนจะสามารถมองเห็นเหตุการณ์บนเมฆได้
" เริ่มแล้วสินะ ตั้งแต่วันที่พวกท่านเอ่ยเตือนก็ผ่านมา 1 ปีแล้ว " ดวงตาทองสัญลักษณ์ของสายเลือดเทพผู้ปกครองทวีปอาทาเซียเหม่อมองท้องฟ้าที่เป็นที่อาศัยของเหล่าเทวาอย่างเป็นกังวล พลางยกมือขึ้นมาสวดภาวณาต่อเทพแห่งชีวิตโอชาเรีย ผู้เป็นต้นกำเนิดของสายเลือดตน โดยหวังว่าฝ่ายที่จะชนะสงครามจะเป็นเหล่าผู้ที่บินลงมาเอ่ยเตือนพวกตนทั่วทุกทวีป
กลับทางสงครามของเหล่าเทวา ตอนนี้เทวาที่โปรยเมล็ดพืชจนทั่วทั้งสนามรบเสร็จสิ้นต่างกางปีกของตนแล้วพุ่งเข้าใส่ลมหมุนที่เฟียร์เป็นคนสร้างทันที ตามด้วยเหล่าเทวาฝ่ายเซราเอลทุกตนที่ทำภาระกิจของตนเรียบร้อยแล้วสร้างความโกรธแก่เหล่าเทวาฝ่ายซาริเฟีย เดอะ แองเจเรีย และฝ่ายของริซาเดล เดอะ ฟาร์ เป็นอย่างมาก
โฮคาเชียร์ที่กระโจนเข้าไปร่วมวงด้วยแต่แรกก็สร้างมังกรไฟขึ้นมาอีก จัดการเก็บเทวาฝ่ายตรงข้ามไปได้หลายพันตน
" เอ้าๆ จะหนีไปไหนล่ะ ! เหล่าผู้โกงความตาย เหล่าผู้ที่หมายจะเป็นเทพทั้งหลาย !!!! " เปลวไฟทั่วทั้งสนามรบต่างพากันปะทุอย่างรุนแรง และ โหมกระหน่ำยิ่งกว่าเดิมตามอารมณ์ของเทพแห่งไฟ แต่กลับไม่ได้สร้างความเสียหายต่อสิ่งใดยกเว้นเหล่าศัตรู
' โลหิตที่หลั่งไหลท่ามกลางสมรภูมิแห่งนี้จงรวมตัวกันและมอบพลังให้แก่พวกพ้องของข้า อาณาเขตโลหิต ' นัวร์เห็นว่าเวทย์สนับสนุนที่ตนร่ายในตอนเริ่มสงครามได้หายไปจนหมด ขึ้นกางปีกสีดำของตนบินขึ้นไปบนฟ้าพร้อมร่ายเวยท์อาณาเขตทันที
พอดีกับที่ริเก็นริวลืมตาขึ้นแล้วยิ้มออกมาเมื่อสัมผัสได้ว่าทุกอย่างที่เตรียมเอาไว้เสร็จเรียบร้อยแล้ว
" เอาล่ะนะ ฝากจัดการต่อด้วยล่ะโซลเตอร์คุง " ดวงตาของจิตวิญญาณต้นไม้โลกเป็นประกายอย่างน่ากลัวยามได้ยินเสียงที่ตามมากลับสายลม " เพราะทางนี้ต้องไปจัดการผู้หลบซ่อนน่ะ " ว่าแล้วริเก็นริวก็หายตัวไปทันทีโดยไม่ลืมพาอดามัส กับ นัวร์ที่บินมาหาไปด้วย
" รับทราบ มาสเตอร์ " โซลเตอร์ตอบรับคำสั่งของผู้เป็นนายก่อนจะใช้เคียวสีเงินของตนกระแทกพื้นเพื่อเริ่มต้นการทำงานของวทเวทย์ที่ว่างเอาไว้
" โชคดียิ่งที่มีในยามนี้มีเครื่องสังเวยครบถ้วนทั้งสามสิ่ง เถ้าถ่าน วิญญาณ และ โลหิต " วงเวทย์สีเขียงส่องแสงขึ้นก่อนแปรเปลี่ยนเป็นสีดำทีละนิดจนกระทั้งถูกสีดำกลืนกินเต็มวง
" ในนามของผู้ที่กำเนิดจากความตาย ข้าขอเอ่ยเรียกนามของท่าน ความตายเอ๋ย วิญญาณเอ๋ย โปรดส่งเสียงของข้าไปให้ถึงผู้เป็นนาย " ควันสีดำที่เกิดจากละอองความตายแผ่ออกมาจากวงเวทย์จนปกคลุมไปทั่วทั้งสนามรบ สร้างความหวาดกลัวแลความสิ้นหวังให้แก่เทวาฝ่ายซาริเฟีย เดอะ แองเจเรีย และ ฝ่ายของริซาเดล เดอะ ฟาร์ เป็นอย่างมาก
" ข้า โซลเตอร์ เรียกหาถึงท่าน ผู้เปรียบเสมือนบิดาของข้า เทพแห่งความตาย อาฮาชา !!! " สิ้นเสียงของผู้พิทักษ์วิญญาณ ผู้ที่ถูกเอ่ยเรียกพลันปรากฏตัวขึ้นอย่างรวดเร็วแล้วจัดการกวาดเคียวสีดำมืดมิดของตนออกไปทันที
เหล่าผู้ที่โกงความตายมาเนินนานหลายหมื่นตนไม่อาจหลีกหนีความตายในคราวนี้ได้พ้น ต่างพากันล้มลงไปเหลือเพียงร่างกายที่ว่างเปล่าไร้ซึ่งดวงวิญญาณใดๆ
" หึๆๆ เพียงเท่านี้งานของข้าจะได้ราบลื่นเสียที หลังจากที่ต้องคอยจัดการแก้ปัญหามานาน " อาฮาชาปรากฏกายในรูปร่างที่คล้ายคลึงกับยมฑูตหัวเราะออกมาอย่างสะใจที่สามารถเก็บดวงวิญญาณได้ทว่า
" หือ ? ไม่ครบหรอกเหรอเนี่ย ยังขาดอีก 35 ดวงสินะ " เปลวไฟสีฟ้าในดวงตาเปร่งแสงออกมาจางๆเมื่อรับรู้ได้ว่าถุงที่เก็บดวงวิญญาณนั้น ยังเก็บได้ไม่ครบถ้วนทั้ง 25,640 ดวง ตามรายชื่อที่ตนถือครอง
" เห~ น่าแปลกเสียจริงที่ท่านพี่ทำพลาด " โฮคาเชียร์กระโดดลงมาจากหลังของมังกรไฟที่ตนเป็นผู้สร้าง ก่อนจะโยกตัวหลบอาวุธคู่กายของพี่ชาย
" ที่ไม่ครบเพราะเจ้าพวกนั้นหาได้อยู่ที่นี่น่ะสิ " อาฮาชาบอกแล้วกวาดสายตาไปรอบๆเพื่อหาว่าดวงวิญญาณที่รอดไปนั้นอยู่ที่แห่งใด
" โอ๊ะ ดูท่าข้าคงไม่ต้องออกแรกสินะ ในเมื่อน้องคนเล็กของพวกเรา กับ เทวฑูต และ มารตนนั้นมุ่งหน้าไปหาแล้ว "
" ท่านซาริเฟีย ทางนี้ขอรับ " เทวาผู้นำทางคณะหลบหนีของ ซาริเฟีย เดอะ แองเจเรีย บอกพร้อมกับใช้ดาบปักเข้าไปในก้อนหินที่บรรจุพลังเวทย์เอาไว้เพื่อเริ่มต้นการทำงาน
เทวาหญิงผมสีชมพูลอนยาวจรดพื้น ดวงตาสีฟ้าใส หน้าตางดงามจนไม่น่าเชื่อว่าเธอผู้นี้คือหนึ่งในผู้นำของเทวาทั้งสามฝ่าย
ซาริเฟียยิ้มอย่างอ่อนหวานให้แก่เทวาที่นำทางตนมาก่อนจะใช้มือที่เริ่มเหี่ยวย่นของตนแทงเข้าไปในอกของชายหนุ่ม แล้วดึงดวงวิญญาณออกมากัดกิน ทำให้มือที่เหี่ยวย่นของตนกลับมากระชับดังเดิม
" ท่านซาริเฟีย รีบไปกันเถอะเจ้าค่ะ ยามนี้พวกนั้นได้อัญเชิญเทพแห่งความตายออกมาแล้ว " เทวาหญิงผมส้มที่เป็นข้ารับใช้คนสนิทเอ่ยเตือนผู้เป็นนายของตนว่าให้รีบใช้หินเวทย์เคลื่อนย้ายออกจากสวนสวรรค์ไปตั้งหลักใหม่
" จะรีบไปไหนเหรอ ? คุณผู้หญิง คุณผู้ชายทั้งหลาย " เสียงเอ่ยถามดังออกมาจากต้นไม้หลังหินเคลื่อนย้าย ก่อนที่เจ้าของเสียงจะเดินออกมาเผชิญหน้าเมื่อหนึ่งในผู้ติดตามของซาริเฟียเล็งพลังเวทย์หมายจะเป่าตนไปพร้อมกับต้นไม้ทิ้ง
ดวงตาของซาริเฟียเป็นประกายอย่างน่ากลัวเมื่อสัมผัสได้ถึงดวงวิญญาณที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน และ อาจจะเป็นดวงวิญญาณที่สามารถทำให้ตนเยาช์วัยไปตลอดกาลก็ได้
" หรือว่าจะรีบหลบหนีล่ะ ? ซาริเฟีย เดอะ แองเจเรีย และ ผู้ติดตามทั้งหลาย " ริเก็นริวยิ้มให้อย่างน่าหวาดกลัวยามเอ่ยถามทั้ง 19 คน
" นี่ ~ เจ้าน่ะ มาเป็นผู้ติดตามของเราไหม ? " ซาริเฟียพูดชวนด้วยน้ำเสียงเย้ายวนพร้อมทั้งปลดผ้าคลุมไหล่ของตนลงเล็กน้อย
ริเก็นริวไม่สนใจสิ่งที่ซาริเฟียทำ เร่งการเติบโตของเหล่าเมล็กที่มีอยู่ในดินให้โผล่ขึ้นมาพันธณาการซาริเฟียและพักพวกอย่างรวดเร็วทำให้บางส่วนไม่ได้ตั้งตัวก็ถูกส่งไปมาอาฮาชาที่รออยู่อีกฝาก อีกส่วนที่ไม่โดนจับตัวต่างเรียกพลังเวทย์ออกมาจู่โจมริเก็นริวทันที
" แบบนี้อันตรายนะ " ชายหนุ่มมองเหล่าพลังเวทย์ที่พุ่งเข้ามาใส่ด้วยแววตาเฉยชา แล้วหยิบเศษคริสตันสีเขียวที่ตนได้แอบทำเอาไว้ตอนนั่งอยู่ในกระโจมที่ใช้ในการประชุมออกมา
' เศษคริสตันแห่งจิตวิญญาณธาตุลมเท่านี้ก็น่าจะเพียงพอต่อการเป่าพวกนี้ไปหาท่านอาฮาชาได้แล้วล่ะมั้ง ? ' ริเก็นริวกวาดสายตาไปรอบๆ ใช้พลังเร่งการเจริญเติบโตของเมล็ดพืชที่แอบโปรยทันที
เถาวัลย์นับสิบพอได้พลังเวทย์เต็มที่ก็พุ่งออกมาพันธนาการเหล่าเทวาอย่างแน่นหนาเพื่อไม่ให้มีตนไหนสามารถหลุดออกมาได้
" นี่~ สุดหล่อ ปล่อยช้าไปเถอะนะ " ซาริเฟียที่โดนมากว่าใครเพื่อนส่งเสียงเรียกความสนใจจากริเก็นริวเพราะตนรู้ว่าเถาวัลย์พวกนี้ดูดพลังเวทย์ของตนไปอย่างมหาศาล
ริเก็นริวได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยนพลางตอบว่า
" ไม่มีทางหรอกครับ ! ลาขาด " สิ้นเสียงเศษคริสตันในมือก็ถูกปาออกไปทันที แล้วแตกสลายเป็นพายุลูกใหญาพัดร่างของเทวาฝ่ายซาริเฟียทั้งหมดไปหาเทพแห่งความตายที่กำลังนั่งรออยู่ทันที พอดีกลับทางฝั่งของอดามัสและนัวร์จัดการเสร็จเรียบร้อย
ปิดสงครามของเหล่าเทวาทั้งสามฝ่ายไปภายในเวลาเพียง 5 ชั่วโมงเท่านั้น
เซราเอลยืนมองกองทัพของฝ่ายศัตรูทั้งสองอยู่บนก้อนเมฆที่เทวาผู้สามารถควบคุมเมฆได้เป็นคนสร้างขึ้นให้แม่ทัพได้มองเห็นทัพของศัตรู
' กลัวงั้นเหรอ ? เซราเอล ' เสียงที่ดังกังวาลในหัวเรียกดวงตาสีน้ำเงินเข้มให้หันไปมอง
" ท่านเวอร์ . . . ท่านนัวร์ ! " นัวร์ยิ้มให้กับเทวาหนุ่มผู้เปรียบดังน้องชายที่เคยอยู่ในการดูแลของตนพร้อมกับยื่นมือไปลูบศีรษะเบาๆอย่างปลอบโยน
' ไม่เป็นไรหรอก ริวเค้าบอกว่าจะช่วยพวกเจ้า ท่านโฮคาเชียร์ กับ ท่านอาฮาชาก็เช่นกัน ' ดวงตาสีแดงเลือดเปร่งแสงออกมาอย่างน่าหวาดกลัวเมื่อนึกถึงสิ่งที่ตน และ พวกผ้องถูกกระทำมา ' หนี้แค้นของพวกเจ้าที่ติดค้างเอาไว้จะใช้คืนให้หมดสิ้นในวันนี้อย่างแน่นอน '
" ขอรับ ! พวกข้าก็เช่นกัน " เซราเอลรับคำโดยมีเหล่าเทวาที่มีฝีมือด้านการต่อสู้ที่ยืนอยู่ข้างหลังตะโกนขึ้นมาเป็นการเห็นด้วย
เทวาหนุ่มผู้เป็นแม่ทัพหลับตาลงเพื่อรวบรวมสมาธิก่อนจะลืมตาขึ้นแล้วตะโกนอย่างสุดเสียงของตน " ไปกันเถอะเหล่าพี่น้องของข้า สู่สงครามแห่งการตัดสินครั้งนี้ เพื่อสวนสวรรค์ที่พวกเราปราถนา เพื่อความสงบสุข และ เพื่อนำพาสถานที่ที่เรียกว่า บ้าน ดังเดิมกลับคืนมา !!! "
" เฮ้ !!!!!! " เหล่าเทวาภายใต้การนำทางของเซราเอลกู่ร้องปลุกใจ แล้วเริ่มโจมตีตามแผนที่วางไว้ทันที ใครมีหน้าที่โปรบเมล็ดก็สู้ไปโปรยไป ใครมีหน้าที่สั่งการทำงานของกับดักก็เริ่มลงมือพร้อมกับให้ความช่วยเหลือเหล่าสหาย และ ใครที่สามารถสู้อย่างชำนาญก็จู่โจมได้โดยไม่ต้องใจสิ่งใด เพราะได้นัวร์ที่กลายเป็นมารกำลังร่ายเวทย์ป้องกันและเสริมสถานะระดับสิบให้แก่ทุกคน
" เริ่มแล้วล่ะครับ ท่านพี่ " อดามัสที่บินมองภาพรวมของสงครามบอกผู้เป็นพี่ชายของตนที่ตอนนี้มีเหล่าต้นได้ดอกไม้เกิดขึ้นมาใต้พื้นดินที่ริเก็นริวยืนอยู่
" ยังก่อนดาจัง ยังเหลืออีกมากเลยล่ะกว่าเมล็ดพืชเหล่านั้นจะกระจายไปทั่วสนามรบ " ริเก็นริวที่เชื่อมต่อกับเหล่าเมล็ดพืชที่เทวาฝ่ายเซราเอลเป็นผู้โปรยบอก พร้อมกับส่งลูกบอลลมไปซัดเทวาฝ่ายศัตรูที่ลอบเข้ามาโจมตี
เสียงการต่อสู้ของเหล่าดังกังวาลไปทั่วผืนฟ้าทำให้เหล่าผู้ที่อาศัยอยู่ด้านล่างได้ยินเช่นกันเนื่องจากดินแดนของเหล่าเทวานั้นเป็นเพียงเมฆที่รวมตัวกันไม่ได้เป็นเหมือนเกาะลอยฟ้า
เหล่าผู้ทรงอำนาจที่ได้ยินเสียงการต่อสู้นี้ต่างเงยหน้าขึ้นมองดูราวกับจะจ้องจนกว่าพวกตนจะสามารถมองเห็นเหตุการณ์บนเมฆได้
" เริ่มแล้วสินะ ตั้งแต่วันที่พวกท่านเอ่ยเตือนก็ผ่านมา 1 ปีแล้ว " ดวงตาทองสัญลักษณ์ของสายเลือดเทพผู้ปกครองทวีปอาทาเซียเหม่อมองท้องฟ้าที่เป็นที่อาศัยของเหล่าเทวาอย่างเป็นกังวล พลางยกมือขึ้นมาสวดภาวณาต่อเทพแห่งชีวิตโอชาเรีย ผู้เป็นต้นกำเนิดของสายเลือดตน โดยหวังว่าฝ่ายที่จะชนะสงครามจะเป็นเหล่าผู้ที่บินลงมาเอ่ยเตือนพวกตนทั่วทุกทวีป
กลับทางสงครามของเหล่าเทวา ตอนนี้เทวาที่โปรยเมล็ดพืชจนทั่วทั้งสนามรบเสร็จสิ้นต่างกางปีกของตนแล้วพุ่งเข้าใส่ลมหมุนที่เฟียร์เป็นคนสร้างทันที ตามด้วยเหล่าเทวาฝ่ายเซราเอลทุกตนที่ทำภาระกิจของตนเรียบร้อยแล้วสร้างความโกรธแก่เหล่าเทวาฝ่ายซาริเฟีย เดอะ แองเจเรีย และฝ่ายของริซาเดล เดอะ ฟาร์ เป็นอย่างมาก
โฮคาเชียร์ที่กระโจนเข้าไปร่วมวงด้วยแต่แรกก็สร้างมังกรไฟขึ้นมาอีก จัดการเก็บเทวาฝ่ายตรงข้ามไปได้หลายพันตน
" เอ้าๆ จะหนีไปไหนล่ะ ! เหล่าผู้โกงความตาย เหล่าผู้ที่หมายจะเป็นเทพทั้งหลาย !!!! " เปลวไฟทั่วทั้งสนามรบต่างพากันปะทุอย่างรุนแรง และ โหมกระหน่ำยิ่งกว่าเดิมตามอารมณ์ของเทพแห่งไฟ แต่กลับไม่ได้สร้างความเสียหายต่อสิ่งใดยกเว้นเหล่าศัตรู
' โลหิตที่หลั่งไหลท่ามกลางสมรภูมิแห่งนี้จงรวมตัวกันและมอบพลังให้แก่พวกพ้องของข้า อาณาเขตโลหิต ' นัวร์เห็นว่าเวทย์สนับสนุนที่ตนร่ายในตอนเริ่มสงครามได้หายไปจนหมด ขึ้นกางปีกสีดำของตนบินขึ้นไปบนฟ้าพร้อมร่ายเวยท์อาณาเขตทันที
พอดีกับที่ริเก็นริวลืมตาขึ้นแล้วยิ้มออกมาเมื่อสัมผัสได้ว่าทุกอย่างที่เตรียมเอาไว้เสร็จเรียบร้อยแล้ว
" เอาล่ะนะ ฝากจัดการต่อด้วยล่ะโซลเตอร์คุง " ดวงตาของจิตวิญญาณต้นไม้โลกเป็นประกายอย่างน่ากลัวยามได้ยินเสียงที่ตามมากลับสายลม " เพราะทางนี้ต้องไปจัดการผู้หลบซ่อนน่ะ " ว่าแล้วริเก็นริวก็หายตัวไปทันทีโดยไม่ลืมพาอดามัส กับ นัวร์ที่บินมาหาไปด้วย
" รับทราบ มาสเตอร์ " โซลเตอร์ตอบรับคำสั่งของผู้เป็นนายก่อนจะใช้เคียวสีเงินของตนกระแทกพื้นเพื่อเริ่มต้นการทำงานของวทเวทย์ที่ว่างเอาไว้
" โชคดียิ่งที่มีในยามนี้มีเครื่องสังเวยครบถ้วนทั้งสามสิ่ง เถ้าถ่าน วิญญาณ และ โลหิต " วงเวทย์สีเขียงส่องแสงขึ้นก่อนแปรเปลี่ยนเป็นสีดำทีละนิดจนกระทั้งถูกสีดำกลืนกินเต็มวง
" ในนามของผู้ที่กำเนิดจากความตาย ข้าขอเอ่ยเรียกนามของท่าน ความตายเอ๋ย วิญญาณเอ๋ย โปรดส่งเสียงของข้าไปให้ถึงผู้เป็นนาย " ควันสีดำที่เกิดจากละอองความตายแผ่ออกมาจากวงเวทย์จนปกคลุมไปทั่วทั้งสนามรบ สร้างความหวาดกลัวแลความสิ้นหวังให้แก่เทวาฝ่ายซาริเฟีย เดอะ แองเจเรีย และ ฝ่ายของริซาเดล เดอะ ฟาร์ เป็นอย่างมาก
" ข้า โซลเตอร์ เรียกหาถึงท่าน ผู้เปรียบเสมือนบิดาของข้า เทพแห่งความตาย อาฮาชา !!! " สิ้นเสียงของผู้พิทักษ์วิญญาณ ผู้ที่ถูกเอ่ยเรียกพลันปรากฏตัวขึ้นอย่างรวดเร็วแล้วจัดการกวาดเคียวสีดำมืดมิดของตนออกไปทันที
เหล่าผู้ที่โกงความตายมาเนินนานหลายหมื่นตนไม่อาจหลีกหนีความตายในคราวนี้ได้พ้น ต่างพากันล้มลงไปเหลือเพียงร่างกายที่ว่างเปล่าไร้ซึ่งดวงวิญญาณใดๆ
" หึๆๆ เพียงเท่านี้งานของข้าจะได้ราบลื่นเสียที หลังจากที่ต้องคอยจัดการแก้ปัญหามานาน " อาฮาชาปรากฏกายในรูปร่างที่คล้ายคลึงกับยมฑูตหัวเราะออกมาอย่างสะใจที่สามารถเก็บดวงวิญญาณได้ทว่า
" หือ ? ไม่ครบหรอกเหรอเนี่ย ยังขาดอีก 35 ดวงสินะ " เปลวไฟสีฟ้าในดวงตาเปร่งแสงออกมาจางๆเมื่อรับรู้ได้ว่าถุงที่เก็บดวงวิญญาณนั้น ยังเก็บได้ไม่ครบถ้วนทั้ง 25,640 ดวง ตามรายชื่อที่ตนถือครอง
" เห~ น่าแปลกเสียจริงที่ท่านพี่ทำพลาด " โฮคาเชียร์กระโดดลงมาจากหลังของมังกรไฟที่ตนเป็นผู้สร้าง ก่อนจะโยกตัวหลบอาวุธคู่กายของพี่ชาย
" ที่ไม่ครบเพราะเจ้าพวกนั้นหาได้อยู่ที่นี่น่ะสิ " อาฮาชาบอกแล้วกวาดสายตาไปรอบๆเพื่อหาว่าดวงวิญญาณที่รอดไปนั้นอยู่ที่แห่งใด
" โอ๊ะ ดูท่าข้าคงไม่ต้องออกแรกสินะ ในเมื่อน้องคนเล็กของพวกเรา กับ เทวฑูต และ มารตนนั้นมุ่งหน้าไปหาแล้ว "
" ท่านซาริเฟีย ทางนี้ขอรับ " เทวาผู้นำทางคณะหลบหนีของ ซาริเฟีย เดอะ แองเจเรีย บอกพร้อมกับใช้ดาบปักเข้าไปในก้อนหินที่บรรจุพลังเวทย์เอาไว้เพื่อเริ่มต้นการทำงาน
เทวาหญิงผมสีชมพูลอนยาวจรดพื้น ดวงตาสีฟ้าใส หน้าตางดงามจนไม่น่าเชื่อว่าเธอผู้นี้คือหนึ่งในผู้นำของเทวาทั้งสามฝ่าย
ซาริเฟียยิ้มอย่างอ่อนหวานให้แก่เทวาที่นำทางตนมาก่อนจะใช้มือที่เริ่มเหี่ยวย่นของตนแทงเข้าไปในอกของชายหนุ่ม แล้วดึงดวงวิญญาณออกมากัดกิน ทำให้มือที่เหี่ยวย่นของตนกลับมากระชับดังเดิม
" ท่านซาริเฟีย รีบไปกันเถอะเจ้าค่ะ ยามนี้พวกนั้นได้อัญเชิญเทพแห่งความตายออกมาแล้ว " เทวาหญิงผมส้มที่เป็นข้ารับใช้คนสนิทเอ่ยเตือนผู้เป็นนายของตนว่าให้รีบใช้หินเวทย์เคลื่อนย้ายออกจากสวนสวรรค์ไปตั้งหลักใหม่
" จะรีบไปไหนเหรอ ? คุณผู้หญิง คุณผู้ชายทั้งหลาย " เสียงเอ่ยถามดังออกมาจากต้นไม้หลังหินเคลื่อนย้าย ก่อนที่เจ้าของเสียงจะเดินออกมาเผชิญหน้าเมื่อหนึ่งในผู้ติดตามของซาริเฟียเล็งพลังเวทย์หมายจะเป่าตนไปพร้อมกับต้นไม้ทิ้ง
ดวงตาของซาริเฟียเป็นประกายอย่างน่ากลัวเมื่อสัมผัสได้ถึงดวงวิญญาณที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน และ อาจจะเป็นดวงวิญญาณที่สามารถทำให้ตนเยาช์วัยไปตลอดกาลก็ได้
" หรือว่าจะรีบหลบหนีล่ะ ? ซาริเฟีย เดอะ แองเจเรีย และ ผู้ติดตามทั้งหลาย " ริเก็นริวยิ้มให้อย่างน่าหวาดกลัวยามเอ่ยถามทั้ง 19 คน
" นี่ ~ เจ้าน่ะ มาเป็นผู้ติดตามของเราไหม ? " ซาริเฟียพูดชวนด้วยน้ำเสียงเย้ายวนพร้อมทั้งปลดผ้าคลุมไหล่ของตนลงเล็กน้อย
ริเก็นริวไม่สนใจสิ่งที่ซาริเฟียทำ เร่งการเติบโตของเหล่าเมล็กที่มีอยู่ในดินให้โผล่ขึ้นมาพันธณาการซาริเฟียและพักพวกอย่างรวดเร็วทำให้บางส่วนไม่ได้ตั้งตัวก็ถูกส่งไปมาอาฮาชาที่รออยู่อีกฝาก อีกส่วนที่ไม่โดนจับตัวต่างเรียกพลังเวทย์ออกมาจู่โจมริเก็นริวทันที
" แบบนี้อันตรายนะ " ชายหนุ่มมองเหล่าพลังเวทย์ที่พุ่งเข้ามาใส่ด้วยแววตาเฉยชา แล้วหยิบเศษคริสตันสีเขียวที่ตนได้แอบทำเอาไว้ตอนนั่งอยู่ในกระโจมที่ใช้ในการประชุมออกมา
' เศษคริสตันแห่งจิตวิญญาณธาตุลมเท่านี้ก็น่าจะเพียงพอต่อการเป่าพวกนี้ไปหาท่านอาฮาชาได้แล้วล่ะมั้ง ? ' ริเก็นริวกวาดสายตาไปรอบๆ ใช้พลังเร่งการเจริญเติบโตของเมล็ดพืชที่แอบโปรยทันที
เถาวัลย์นับสิบพอได้พลังเวทย์เต็มที่ก็พุ่งออกมาพันธนาการเหล่าเทวาอย่างแน่นหนาเพื่อไม่ให้มีตนไหนสามารถหลุดออกมาได้
" นี่~ สุดหล่อ ปล่อยช้าไปเถอะนะ " ซาริเฟียที่โดนมากว่าใครเพื่อนส่งเสียงเรียกความสนใจจากริเก็นริวเพราะตนรู้ว่าเถาวัลย์พวกนี้ดูดพลังเวทย์ของตนไปอย่างมหาศาล
ริเก็นริวได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยนพลางตอบว่า
" ไม่มีทางหรอกครับ ! ลาขาด " สิ้นเสียงเศษคริสตันในมือก็ถูกปาออกไปทันที แล้วแตกสลายเป็นพายุลูกใหญาพัดร่างของเทวาฝ่ายซาริเฟียทั้งหมดไปหาเทพแห่งความตายที่กำลังนั่งรออยู่ทันที พอดีกลับทางฝั่งของอดามัสและนัวร์จัดการเสร็จเรียบร้อย
ปิดสงครามของเหล่าเทวาทั้งสามฝ่ายไปภายในเวลาเพียง 5 ชั่วโมงเท่านั้น
สรุปผล
- เทพอาฮาชาสามารถเก็บเกี่ยวดวงวิญญาณของผู้โกงความตายได้ทั้งสิ้น 25,640 ดวง
- เทวาฝ่ายเซราเอลบาดเจ็บเพียง 254 ตน จากทั้งหมด 1500 ตนที่เข้าร่วมสงครามครั้งนี้
- ฝ่ายของเซราเอลเป็นผู้ชนะในสงคราม
- โฮคาเชียร์อารมณ์เสียเล็กน้อยที่สู้ไม่สะใจ
- นัวร์ได้รับบาดแผลปานกลาง ศีรษะแตก มีรอยแผลจากดาบ
- อดามัสปีกมีรอยไหม้เล็กน้อย พลังเวทย์เกือบหมด
*******************************************************************************
มาแล้วววววววว
ที่ช้าเพราะไรท์ขี้เกียจ + มีไอเดียใหม่+เล่นเกม
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น